ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่านสุดจิตใจสุดวิญญาณสุดสติปัญญาและสุดกำลังของท่าน (มธ. 12:30)
+ความไม่เหมือนที่แตกต่าง ทูตสวรรค์ในคริสตศาสนาและเทวดาในศาสนาอื่น++
ความมีอยู่จริงของจิตบริสุทธิ์ที่ไม่มีร่างกายซึ่งพระคัมภีร์เรียกเป็นประจำว่าทูตสวรรค์ เป็นข้อความจริงของความเชื่อ
เราก็ได้กลิ่นกุหลาบอย่างแรงและกำยานจากต้นไม้ข้างป่า
มีชายคนหนึ่งที่ร่ำรวยมากเขามีที่ดินกว้างใหญ่ไพศาลแต่เขาอยู่คนเดียว และเป็นคนที่เต็มไปด้วยความเศร้า ปราศจากเพื่อนฝูง ที่ดินของเขาก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรเพราะว่าเขาไม่ต้องการให้ใครเข้ามายุ่งเกี่ยวในชีวิตของเขา อยู่มาวันหนึ่งเขาเกิดล้มป่วยลงและคิดว่า คงต้องตายแน่ถ้าหากว่าไม่มีใครมาช่วยเขา เขาจึงได้เชิญให้คุณหมอมาดูอาการป่วยของเขา ซึ่งคุณหมอก็มาและได้ช่วยรักษาเขาจนหาย ในที่สุดทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนกัน จนถึงกับได้เชิญให้คุณหมอมาอยู่กับเขาที่บ้าน คุณหมอก็ยินดีรับคำเชิญและได้ย้ายเข้ามาอยู่กับเขาพร้อมกับครอบครัว บ้านใหญ่หลังนั้นก็เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้น มีคนอยู่ก็มีชีวิต มีเสียงร้องและเสียงหัวเราะของพวกเด็กๆ และเศรษฐีคนนี้ก็เริ่มรักและเล่นกับพวกเด็กๆ
ดิฉันได้เห็นเทวดาอยู่ใกล้ตัวดิฉันเป็นรูปร่างมนุษย์ซึ่งดิฉันมองดูด้วยความอัศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่ง … ตัวก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรนัก เป็นร่างเล็กๆสวยงามมาก ใบหน้าสุกใสและคงมาจากชั้นสูงมากพอสมควรชั้นที่ห่อหุ้มด้วยไฟ ชั้นที่เรียกกันว่าเครูบิม … ดิฉันเห็นพวกท่านถือศรทองในมือตรงปลายแหลมเป็นโลหะซึ่งดูเหมือนว่าจะมีไฟติดอยู่ด้วย และดิฉันมีความรู้สึกว่าไฟนั้นจะถูกตัวดิฉันและตัวดิฉันจะถูกดึงไปทั้งหมดจนทำให้ตัวดิฉันลุกเป็นไฟด้วยความรักต่อพระเป็นเจ้าอย่างสิ้นเชิง ” ( ชีวิต 29,13 )
ชาวเราเจริญชีวิตอยู่ในโลกที่ “ ถูกบุกรุก ” จากศัตรูที่มองไม่เห็นจำนวนล้านๆที่จ้องจะทำลายเราทั้งในโลกนี้และในนิรันดรกาลนั่นคือพวกปีศาจ ลองหลับตานึกดูถ้าสมมุติว่าโลกของเราถูกบุกรุกจากโลกภายนอกที่มีความเฉลียวฉลาดกว่าเรา
อารักขเทวดาจะอยู่เคียงข้างเราและฟังเราทุกครั้งที่เราประสบกับความเดือดร้อน ท่านเป็นได้ในหลายรูปแบบ เป็นได้ทั้งทารก ชายหรือหญิง ผู้ใหญ่หรือคนชรา มีปีกหรือไม่มีปีก สวมใส่เสื้อผ้าแบบเราทั่วไปหรือในชุดยาวที่ส่องประกาย มีมงกุฏดอกไม้หรือไม่มีมงกุฏ อะไรก็ได้เพราะรูปแบบไม่ได้เกี่ยวข้องกับหน้าที่ให้ความช่วยเหลือของท่าน