ดูจบแล้ว...ตั้งชื่อหัวข้อตามใจเลยค่ะ...
True Story ...
เรื่องจริง ...
A son says to his father: 'Dad, would you be willingly to run a marathon with me?'
วันนึงลูกชายได้พูดกับพ่อของเขาว่า 'พ่อครับ พ่อจะไปวิ่งมาราธอนกับผมได้ไหม'
The father, despite his age and a heart disease, says 'YES'.
ถึงแม้ว่าตัวคุณพ่อเองจะอายุมากแล้ว แถมยังเป็นโรคหัวใจ เขาเลือกที่จะตอบลูกของเขากลับไปว่า 'ได้ซิลูก'
And they run that marathon, together.
หลังจากนั้นทั้งสองก็วิ่งมาราธอนด้วยกัน
The son asks: 'Dad, can you run anot her marathon with me?' Again father says 'YES'.
อีกวันนึง ลูกชายได้ถามพ่อของเขาอีกครั้งว่า 'พ่อครับ พ่อจะวิ่งมาราธอนกับผมอีกครั้งได้ไหม' แน่นอนว่า พ่อตอบกลับไปว่า 'ได้ซิลูก'
They run another m arathon, together.
เขาทั้งสองก็ได้วิ่งมาราธอนรายการอื่นอีกครั้งด้วยกัน
One day the son asks his father: 'Dad, would please do the Iron Man with me?'
และอีกวันนึง ลูกชายก็ถามพ่อของเขาอีกครั้งว่า 'พ่อครับพ่อจะลงแข่ง Iron Man กับผมได้ไหม'
Now just in case you wouldn't know, 'The Iron Man' is the toughest triatlon in existance; 4km swimming, then 180 km by bike, and finaly another 42 km runnin g, in one stroke.
(สำหรับคนที่ไม่รู้ว่า Iron Man คืออะไร มันก็คือไตรกีฬานั่นเองในภาษาไทย รายการนี้จะรวมมนุษย์เหล็กจากทั่วโลกมาแข่งขันกันโดยแบ่งออกเป็น ว่ายน้ำ 4 กิโล ปั่นจักรยาน 180 กิโล และ วิ่ง 42 กิโล โดยไม่มีการหยุดพัก ใครเข้าเส้นชัยก่อนเป็นผู้ชนะ)
Again father says 'YES'
และก็อีกครั้งหนึ่งที่ผู้เป็นพ่อไม่ได้ตอบปฏิเสธ 'ได้ซิลูก'
Maybe this doesn't 'touch' you yet by heart ... until you see this movie (put on sound!):
บางทีบทสนทนานี้คุณอาจจะยังไม่เข้าใจ และยังไม่เกิดความประทับใจกับมัน...จนกระทั่งคุณได้ดูคลิปต่อไปนี้
http://www.youtube.com/watch?v=VJMbk9dtpdY
(ที่มา : Forward Mail)
ป.ล. ได้แง่คิดอะไร ก็มาแบ่งปันกันบ้างนะคะ
เรื่องจริง ...
A son says to his father: 'Dad, would you be willingly to run a marathon with me?'
วันนึงลูกชายได้พูดกับพ่อของเขาว่า 'พ่อครับ พ่อจะไปวิ่งมาราธอนกับผมได้ไหม'
The father, despite his age and a heart disease, says 'YES'.
ถึงแม้ว่าตัวคุณพ่อเองจะอายุมากแล้ว แถมยังเป็นโรคหัวใจ เขาเลือกที่จะตอบลูกของเขากลับไปว่า 'ได้ซิลูก'
And they run that marathon, together.
หลังจากนั้นทั้งสองก็วิ่งมาราธอนด้วยกัน
The son asks: 'Dad, can you run anot her marathon with me?' Again father says 'YES'.
อีกวันนึง ลูกชายได้ถามพ่อของเขาอีกครั้งว่า 'พ่อครับ พ่อจะวิ่งมาราธอนกับผมอีกครั้งได้ไหม' แน่นอนว่า พ่อตอบกลับไปว่า 'ได้ซิลูก'
They run another m arathon, together.
เขาทั้งสองก็ได้วิ่งมาราธอนรายการอื่นอีกครั้งด้วยกัน
One day the son asks his father: 'Dad, would please do the Iron Man with me?'
และอีกวันนึง ลูกชายก็ถามพ่อของเขาอีกครั้งว่า 'พ่อครับพ่อจะลงแข่ง Iron Man กับผมได้ไหม'
Now just in case you wouldn't know, 'The Iron Man' is the toughest triatlon in existance; 4km swimming, then 180 km by bike, and finaly another 42 km runnin g, in one stroke.
(สำหรับคนที่ไม่รู้ว่า Iron Man คืออะไร มันก็คือไตรกีฬานั่นเองในภาษาไทย รายการนี้จะรวมมนุษย์เหล็กจากทั่วโลกมาแข่งขันกันโดยแบ่งออกเป็น ว่ายน้ำ 4 กิโล ปั่นจักรยาน 180 กิโล และ วิ่ง 42 กิโล โดยไม่มีการหยุดพัก ใครเข้าเส้นชัยก่อนเป็นผู้ชนะ)
Again father says 'YES'
และก็อีกครั้งหนึ่งที่ผู้เป็นพ่อไม่ได้ตอบปฏิเสธ 'ได้ซิลูก'
Maybe this doesn't 'touch' you yet by heart ... until you see this movie (put on sound!):
บางทีบทสนทนานี้คุณอาจจะยังไม่เข้าใจ และยังไม่เกิดความประทับใจกับมัน...จนกระทั่งคุณได้ดูคลิปต่อไปนี้
http://www.youtube.com/watch?v=VJMbk9dtpdY
(ที่มา : Forward Mail)
ป.ล. ได้แง่คิดอะไร ก็มาแบ่งปันกันบ้างนะคะ
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
ความพิการของลูกชายคนนี้ มีใว้เพื่อแสดงความรักอันยิ่งใหญ่ของพ่อ ซึ่งเปรียบให้เราเห็นว่าความรักระหว่างพ่อกับลูกนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด และจะยิ่งใหญ่แค่ไหนถ้าเป็นพระเจ้ากับมนุษย์
ขอบคุณพระเจ้า และขอบคุณพ่อลูกคู่นั้นด้วยขอพระเจ้าอวยพรเพราะเค้าได้เป็นแสงสว่างส่องโลกและได้ให้กำลังใจเพื่อนมนุษย์ได้หลากหลายชีวิต
ขอบคุณพระเจ้า และขอบคุณพ่อลูกคู่นั้นด้วยขอพระเจ้าอวยพรเพราะเค้าได้เป็นแสงสว่างส่องโลกและได้ให้กำลังใจเพื่อนมนุษย์ได้หลากหลายชีวิต
ชมเกินไปแล้วขอรับท่านพี่ignatius เขียน: เท็น ได้ดูเหมือนกันเหรอ..?
พี่ชอบมากเลย ดูแล้วซึ้งใจมากๆ น่ารักๆมากเลยพ่อลูกคู่นี้..
ไม่ได้เข้ามาตั้งชื้อหรอก แต่เข้ามาบอกว่าน้องใจดีมากที่เอามาแบ่งปันนะ
จริงๆ ที่ตั้งชื่อหัวข้อแบบนั้น ไม่ได้มุ่งประเด็นจะให้คนเข้ามาตั้งชื่อหรอกค่ะ...
แต่มีความรู้สึกว่า คลิปนี้ มันให้แง่คิดคนดูได้มากกว่า 1 แง่คิด ซึ่งขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน
เลยเปิดโอกาสให้คนที่ดูนำกลับไปคิดว่าได้อะไรจากเรื่องนี้บ้าง
ถ้าเท็นตั้งชื่อหัวข้อ...บางที อาจกลายเป็นการชี้นำความคิดคนดูน่ะค่ะ...
ช่างเป็น โครินธ์ 13:4-7 อย่างเเท้จริง นับถือค่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย Dis volentibus เมื่อ พุธ ต.ค. 29, 2008 12:39 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- reccanohono
- โพสต์: 1045
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
- ที่อยู่: thailand
ขอบคุณพี่เท็นแบ่งปันมากๆเลยค่ะ
ประทับใจมาก ซึ้งมากๆเลย
อยากบอกว่า คุณพ่อชนะตั้งแต่ยังไม่แข่งแล้วค่ะ
แถมตอนจบยังกล่าวอีก ว่า
ข้าพเจ้ากระทำทุกสิ่งได้โดยพระคริสต์ ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า (ฟิลิปปี 4:13)
ขอพระอวยพรทุกๆท่าน และคุณพ่อคุณลูกทั้งคู่ด้วยค่ะ
ประทับใจมาก ซึ้งมากๆเลย
อยากบอกว่า คุณพ่อชนะตั้งแต่ยังไม่แข่งแล้วค่ะ
แถมตอนจบยังกล่าวอีก ว่า
ข้าพเจ้ากระทำทุกสิ่งได้โดยพระคริสต์ ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า (ฟิลิปปี 4:13)
ขอพระอวยพรทุกๆท่าน และคุณพ่อคุณลูกทั้งคู่ด้วยค่ะ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ผมดู http://www.youtube.com/watch?v=VJMbk9dtpdY ไม่ได้อ่ะครับ
มันขึ้นว่า We're sorry. This video is no longer available.
มันขึ้นว่า We're sorry. This video is no longer available.
เมื่อกี้หนูลองเข้าไปดู เข้าได้ปกตินะคะBatholomew เขียน: ผมดู http://www.youtube.com/watch?v=VJMbk9dtpdY ไม่ได้อ่ะครับ
มันขึ้นว่า We're sorry. This video is no longer available.
ลองอีกรอบ
บางครั้งดูยูตูปต้องทำใจค่ะ เพราะมันขึ้นเเบบนี้บ่อย (สำหรับข้าพเจ้า)Batholomew เขียน: ผมดู http://www.youtube.com/watch?v=VJMbk9dtpdY ไม่ได้อ่ะครับ
มันขึ้นว่า We're sorry. This video is no longer available.
ต้องรีเฟลช ใหม่สองสามครั้ง ถึงจะดูได้
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เข้าไปดูได้แล้วครับ
อันนี้พ่อดูแลลูกที่พิการค่ะ ไม่ใช่ลูกดูแลพ่อที่พิการJoseph เขียน:เป็นแบบอย่างที่ดีครับ ลูกกตัญญู แต่พี่ชอบทั้งเพลงแล้วก็วิวสวยสุดยอดเลยเห็นแล้วสดชื่น†Ecclēsia เขียน:ลูกเขาทั้งคนอ่าค่ะJoseph เขียน: เพลงเพราะดี ก็ดีนะคนดีช่วยคนพิการ
แก้ไขล่าสุดโดย Viridian เมื่อ พุธ ต.ค. 29, 2008 8:19 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Dick Hoyt คุณพ่อวัย 65 ปี ของ Rick Hoyt ลูกชายวัย 43 ปี สองพ่อลูกจากรัฐ Massachusetts ได้เข้าร่วมการแข่งขันกรีฑามากมายถึงเก้าร้อยกว่ารายการ รวมถึงกีฬาการแข่งขันไตรกีฬาสุดโหด ที่การแข่งขันประกอบด้วย การว่ายน้ำ ในทะเล ระยะทาง 3.86 กม.ปั่นจักรยาน ระยะทาง 180.2 กม.และการวิ่งมารธอนระยะทาง 42.195 กม. ซึ่งในคนปกติก็ยากหนักหนาอยู่แล้ว แต่พ่อลูกคู่นี้ไม่ธรรมดา!!!
Rick ลูกชายป่วยด้วยภาวะสมองพิการหรือ cerebral palsy เนื่องจากสมองขาดออกซิเจนจากสายสะดือพันคอตั้งแต่แรกเกิด หมอที่ดูแลบอกว่าเขาต้องตกอยู่ในสภาวะที่เรียกว่าเป็น
ขอบคุณนะค๊าบพี่เท็น
ซึ้งดีครับ
ซึ้งดีครับ