ปริญญาเอก
อยู่ดีๆมีคนพูดเกี่ยวกับปริญญาเอกกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ค่อยสน แต่ก็อยากฟังความเห็นของพี่น้องว่า
"ทำไมคนเราจึงเรียนปริญญาเอก" และ "มีความจำเป็นเพียงใดที่ต้องเรียน"
ข้าพเจ้ายังไม่ได้อยากเรียน แต่ขอดูความเห็นของพี่น้องเป็นความรู้รอบตัวครับ
ขอบคุณครับ
"ทำไมคนเราจึงเรียนปริญญาเอก" และ "มีความจำเป็นเพียงใดที่ต้องเรียน"
ข้าพเจ้ายังไม่ได้อยากเรียน แต่ขอดูความเห็นของพี่น้องเป็นความรู้รอบตัวครับ
ขอบคุณครับ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เพราะอยากเรียนครับ บางคนเรียนเพราะอยากรู้เฉพาะทางเจาะลึกมากกว่าที่เรียนโทครับ
เล่านิทานให้ฟังดีกว่าFlorian เขียน: อยู่ดีๆมีคนพูดเกี่ยวกับปริญญาเอกกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ค่อยสน แต่ก็อยากฟังความเห็นของพี่น้องว่า
"ทำไมคนเราจึงเรียนปริญญาเอก" และ "มีความจำเป็นเพียงใดที่ต้องเรียน"
ข้าพเจ้ายังไม่ได้อยากเรียน แต่ขอดูความเห็นของพี่น้องเป็นความรู้รอบตัวครับ
ขอบคุณครับ
วันหนึ่งมี Prof.คนหนึ่งมาจากอเมริกา มาขอให้พี่พาไปพบ
ดอกเตอร์ไทยคนหนึ่ง ขณะที่เป็นนักศึกษาที่อเมริกา
เขาเป็นนักเรียนที่ดีที่สุด ขยัน ตั้งใจเรียนของ U จนอาจารย์ต้อง
ยกเป็นตัวอย่างให้นักเรียน (ป.เอก)อื่นๆ เอาตัวอย่าง
พี่นั่งรออยู่ข้างนอก พอ Prof.คนนั้นลงมา
พี่ถามเขาว่าพบไหม เขาไม่ตอบ นิ่งไปสักพัก
แล้วส่งกระดาษบางๆให้ 3-4 แผ่น
แล้วบอกว่านี่เป็นผลงานวิจัยหลังจากจบมาแล้ว 10 ปี
เขาเสียใจมาก ที่ดอกเตอร์ไทยคนนี้ควรมีการศึกษาวิจัยที่เป็นประโชน์
ให้คุ้มกับการลงทุนไปศึกษามา ความรู้ไม่ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ใดๆ
สรุป ถ้าอยากเรียนเอก ต้องบอกตัวเองว่าจะเป็นนักวิชาการจริงๆ
เรียนและนำความรู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
มิใช่เอามาใช้เพื่อเลื่อนตำแหน่ง ให้คนเกรงใจว่าเป็น Doc
เมื่อวันก่อนไปงานรับปริญญามา
เขาตบมือให้เฉพาะคนทีได้เกียรตินิยมนะ
คนจบตรี จบโท จบเอก เขาไม่ตบมือให้นะ
อยากจะแปลว่า คุณมีความรู้ แต่ไม่ได้แปลว่าคุณเก่งนะ
ต้องมีผลงานพิสุจน์ตัวเองก่อน แล้วจะมีคนตบมือให้
ไม่จริ๊งงงงง ไม่จริง ค่ะignatius เขียน: งั้นคนที่ได้ ปริญญาโท ก็คงจะอยากเรียนต่อ เพื่อให้ได้ "ปริญญาเอก" ::011
คือ อย่างที่คุณ Phulasso ว่านั่นแหละค่ะ...
ถ้าไม่ได้จะะไปเป็นนักวิชาการ ก็ไม่จำเป็นต้องไปเรียนปริญญาเอกหรอกค่ะ
เสียเวลา+เหนื่อยเปล่าๆ...เอาเวลาไปทำมาหากินอย่างอื่นดีกว่า...
ข้าพเจ้าก็เคยมี (หลาย) คนพยายามชักชวนให้ข้าพเจ้าต่อปริญญาเอก...
แต่แค่จะจบปริญญาโท ยังแทบจะกระอักเลือด ให้ต่อเอกอีก คงจะไม่ไหว
ไม่อยากเป็นนักวิชาการด้วยสิ
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
ปัญหาคือคน "ส่วนใหญ่" คิดว่าการเรียนสูงๆจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จ แต่ผมจะแนะนำว่า
ให้ดูว่าใจเรารักอะไรครับ ถ้าเราทำอะไรในสิ่งที่รักย่อมจะมีความสุขและประสบความสำเร็จมากกว่าอยู่แล้ว
แล้วก็ขึ้นอยู่กับว่าคำว่า "ประสบความสำเร็จ" ของแต่ละคนคืออะไร คือเงิน? ชื่อเสียง อำนาจ หรือความสุข หรือทุกอย่าง?
เช่นปู่เย็นสำหรับผมชีวิตเค้าก็ประสบความสำเร็จ
หรือคนที่ชอบเอาเศษเหล็กมาต่อเป็นโมเดลก็จบแค่ ป.4 แต่มีใจรักในงานก็ประสบความสำเร็จได้
ถ้าด้านการศึกษาก็ ดร.องอาจ ที่ทำงาน nasa
หรือคนไทยระดับ world class อย่างคุณบัญฑิต อึ้งรังสี ก็ทำในสิ่งที่ตัวเองรักมาตลอดทั้งๆที่อาชีพวาทยกรในเมืองไทยดูจะไร้อนาคตมาก(ในตอนนั้นและตอนนี้ก็ด้วย)
ตัวอย่างที่ผมยกมาเค้าก็สำเร็จเพราะทำในสิ่งที่ชอบโดยที่ไม่จำเป็นต้องจบ ป.เอก แต่อย่างใด เว้นแต่ว่าถ้าความฝันคุณเป็นไปในทางวิชาการเช่นอย่างเป็นนักฟิสิกส์ระดับโลกอันนี้ก็จำเป็นต้องเรียนครับ
ถามตัวเองก่อนครับว่าอยากเป็นอะไร ^^
ให้ดูว่าใจเรารักอะไรครับ ถ้าเราทำอะไรในสิ่งที่รักย่อมจะมีความสุขและประสบความสำเร็จมากกว่าอยู่แล้ว
แล้วก็ขึ้นอยู่กับว่าคำว่า "ประสบความสำเร็จ" ของแต่ละคนคืออะไร คือเงิน? ชื่อเสียง อำนาจ หรือความสุข หรือทุกอย่าง?
เช่นปู่เย็นสำหรับผมชีวิตเค้าก็ประสบความสำเร็จ
หรือคนที่ชอบเอาเศษเหล็กมาต่อเป็นโมเดลก็จบแค่ ป.4 แต่มีใจรักในงานก็ประสบความสำเร็จได้
ถ้าด้านการศึกษาก็ ดร.องอาจ ที่ทำงาน nasa
หรือคนไทยระดับ world class อย่างคุณบัญฑิต อึ้งรังสี ก็ทำในสิ่งที่ตัวเองรักมาตลอดทั้งๆที่อาชีพวาทยกรในเมืองไทยดูจะไร้อนาคตมาก(ในตอนนั้นและตอนนี้ก็ด้วย)
ตัวอย่างที่ผมยกมาเค้าก็สำเร็จเพราะทำในสิ่งที่ชอบโดยที่ไม่จำเป็นต้องจบ ป.เอก แต่อย่างใด เว้นแต่ว่าถ้าความฝันคุณเป็นไปในทางวิชาการเช่นอย่างเป็นนักฟิสิกส์ระดับโลกอันนี้ก็จำเป็นต้องเรียนครับ
ถามตัวเองก่อนครับว่าอยากเป็นอะไร ^^
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ ศุกร์ ก.ค. 31, 2009 3:16 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ถ้ามีโอกาสเรียนได้ก็ดีคร้าบ แต่ให้แน่ใจว่าเรียนเพื่ออะไร เช่นเราต้องเป็น อาจารย์สอนสาขาวิชานั้นๆFlorian เขียน:
อยู่ดีๆมีคนพูดเกี่ยวกับปริญญาเอกกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ค่อยสน แต่ก็อยากฟังความเห็นของพี่น้องว่า
"ทำไมคนเราจึงเรียนปริญญาเอก" และ "มีความจำเป็นเพียงใดที่ต้องเรียน"
ข้าพเจ้ายังไม่ได้อยากเรียน แต่ขอดูความเห็นของพี่น้องเป็นความรู้รอบตัวครับ
หรือต้องการใช้วิชาความรู้นั้นเพื่ออะไร
บ่อยครั้ง ด็อกเตอร์ ไม่ได้เฉลียวฉลาดเท่าไหร่ เพราะไม่ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมา เพื่อทำคุณประโยชน์
ให้สมกับที่เรียนมา
แต่สรุป ถ้าเรียนได้ ก็ดีฮะ
หลายวันก่อน ได้ฟังเพื่อนคนหนึ่งบ่นให้ฟังว่า "วันนี้ได้คุยโทรศัพท์ กับ ดร.ป้ายแดง" ที่กำลังจะเดินทางกลับจากเมกา
เพื่อนว่า: มัน ถามว่า หน่วยงานมีตังค์ซื้อตั๋วเครื่องบินให้กลับไทยไหม
เพื่อน ยูเอส: เพราะเราเพิ่งจ่ายตังค์ค่าเครื่องหมดไปกับการซื้อหนังสือ และจ่ายเกินด้วย
เพื่อนว่า: แล้วทำไม ไม่ซื้อตั๋วก่อนละ จำเป็นกว่า หนังสือค่อยซื้อก็ได้
เพื่อน ยูเอส: พอดี หนังสือ on sale ถูกมากๆ เลยจ่ายเพลิน
เพื่อนว่า กับเจี๊ยบ: นี่ ขนาดมันจบ ด๊อกเตอร์ ไม่เห็นฉลาดเลย ยังแยกแยะไม่ได้ ว่าอย่างไหนจำเป็นกว่า
ถ้าลองมองในแง่ของเค้านะคะเค้าคงคิดว่ากลับเมืองไทยคงจะต้องมีทุนกลับแน่ๆเลย ก็ลยใช้เงินกับหนังสือมากไปหน่อยJeab Agape เขียน:ถ้ามีโอกาสเรียนได้ก็ดีคร้าบ แต่ให้แน่ใจว่าเรียนเพื่ออะไร เช่นเราต้องเป็น อาจารย์สอนสาขาวิชานั้นๆFlorian เขียน:
อยู่ดีๆมีคนพูดเกี่ยวกับปริญญาเอกกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ค่อยสน แต่ก็อยากฟังความเห็นของพี่น้องว่า
"ทำไมคนเราจึงเรียนปริญญาเอก" และ "มีความจำเป็นเพียงใดที่ต้องเรียน"
ข้าพเจ้ายังไม่ได้อยากเรียน แต่ขอดูความเห็นของพี่น้องเป็นความรู้รอบตัวครับ
หรือต้องการใช้วิชาความรู้นั้นเพื่ออะไร
บ่อยครั้ง ด็อกเตอร์ ไม่ได้เฉลียวฉลาดเท่าไหร่ เพราะไม่ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมา เพื่อทำคุณประโยชน์
ให้สมกับที่เรียนมา
แต่สรุป ถ้าเรียนได้ ก็ดีฮะ
หลายวันก่อน ได้ฟังเพื่อนคนหนึ่งบ่นให้ฟังว่า "วันนี้ได้คุยโทรศัพท์ กับ ดร.ป้ายแดง" ที่กำลังจะเดินทางกลับจากเมกา
เพื่อนว่า: มัน ถามว่า หน่วยงานมีตังค์ซื้อตั๋วเครื่องบินให้กลับไทยไหม
เพื่อน ยูเอส: เพราะเราเพิ่งจ่ายตังค์ค่าเครื่องหมดไปกับการซื้อหนังสือ และจ่ายเกินด้วย
เพื่อนว่า: แล้วทำไม ไม่ซื้อตั๋วก่อนละ จำเป็นกว่า หนังสือค่อยซื้อก็ได้
เพื่อน ยูเอส: พอดี หนังสือ on sale ถูกมากๆ เลยจ่ายเพลิน
เพื่อนว่า กับเจี๊ยบ: นี่ ขนาดมันจบ ด๊อกเตอร์ ไม่เห็นฉลาดเลย ยังแยกแยะไม่ได้ ว่าอย่างไหนจำเป็นกว่า
นี่ไม่ได้จะค้านนะคะแต่ขออธิบายให้อ่านนิดนึง
ส่วนตัวแล้วคิดว่า คนที่จบดร.ได้ทุกคนจะต้องมีความฉลาดอยู่มั่งแหละค่ะแต่จะเฉลียวไหมนี่ก็แล้วแต่คน เพราะบอกไม่ได้
แต่ส่วนตัวอยากค่ะ อยากเรียนต่อ ดุณไม่คิดหรือคะว่ามันน่าภูมิใจขนาดไหนที่จะจบมาแล้วได้ใช้วิชาที่เราเรียนมาทำประโยชน์ให้ประเทศ ยกตัวอย่างเช่นถ้าเราเป็นอาจารย์เราก็จะได้สามารถใช้ความรู้ความสามารถผลิตบัณฑิตที่จะมาสร้างคุณาประการให้ประเทศได้
-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
"ทำไมคนเราจึงเรียนปริญญาเอก"
- ต้องการมีความรู้เฉพาะทางจริงๆเพราะใจรัก
- ต้องการมีวุฒิ"ดร."นำหน้า และ ตำแหน่งทางวิชาการอื่นๆตามมาได้ง่ายขึ้น "อ.ดร.--ผศ.ดร.--รศ.ดร.--ศ.ดร."
- ต้องการประสบความสำเร็จบางอย่างในชีวิต เช่น จบเอกสาขานี้มามีโอกาสรวย
"มีความจำเป็นเพียงใดที่ต้องเรียน"
- ในบางสาขาจำเป็น ในบางสาขาไม่จำเป็น ในบางประเทศจำเป็น ในบางประเทศไม่จำเป็น
เช่น ประเทศไทย ดร. บางสาขาดูเหมือนไม่จำเป็นเลย แต่ที่จริงจำเป็น แต่บางสาขาดูเหมือนจำเป็น แต่ที่จริงไม่จำเป็น
- ต้องการมีความรู้เฉพาะทางจริงๆเพราะใจรัก
- ต้องการมีวุฒิ"ดร."นำหน้า และ ตำแหน่งทางวิชาการอื่นๆตามมาได้ง่ายขึ้น "อ.ดร.--ผศ.ดร.--รศ.ดร.--ศ.ดร."
- ต้องการประสบความสำเร็จบางอย่างในชีวิต เช่น จบเอกสาขานี้มามีโอกาสรวย
"มีความจำเป็นเพียงใดที่ต้องเรียน"
- ในบางสาขาจำเป็น ในบางสาขาไม่จำเป็น ในบางประเทศจำเป็น ในบางประเทศไม่จำเป็น
เช่น ประเทศไทย ดร. บางสาขาดูเหมือนไม่จำเป็นเลย แต่ที่จริงจำเป็น แต่บางสาขาดูเหมือนจำเป็น แต่ที่จริงไม่จำเป็น
จริงด้วยนะ..อืม..น่าคิดMan of Macedonia เขียน: "ทำไมคนเราจึงเรียนปริญญาเอก"
- ต้องการมีความรู้เฉพาะทางจริงๆเพราะใจรัก
- ต้องการมีวุฒิ"ดร."นำหน้า และ ตำแหน่งทางวิชาการอื่นๆตามมาได้ง่ายขึ้น "อ.ดร.--ผศ.ดร.--รศ.ดร.--ศ.ดร."
- ต้องการประสบความสำเร็จบางอย่างในชีวิต เช่น จบเอกสาขานี้มามีโอกาสรวย
"มีความจำเป็นเพียงใดที่ต้องเรียน"
- ในบางสาขาจำเป็น ในบางสาขาไม่จำเป็น ในบางประเทศจำเป็น ในบางประเทศไม่จำเป็น
เช่น ประเทศไทย ดร. บางสาขาดูเหมือนไม่จำเป็นเลย แต่ที่จริงจำเป็น แต่บางสาขาดูเหมือนจำเป็น แต่ที่จริงไม่จำเป็น
-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
กิจการบางอย่าง เราให้ความสำคัญแต่แหล่งที่มา หรือใครกำหนดให้ทำ แต่มองข้ามเหตุผลของการกระทำที่ควรจะมีignatius เขียน:จริงด้วยนะ..อืม..น่าคิดMan of Macedonia เขียน: "ทำไมคนเราจึงเรียนปริญญาเอก"
- ต้องการมีความรู้เฉพาะทางจริงๆเพราะใจรัก
- ต้องการมีวุฒิ"ดร."นำหน้า และ ตำแหน่งทางวิชาการอื่นๆตามมาได้ง่ายขึ้น "อ.ดร.--ผศ.ดร.--รศ.ดร.--ศ.ดร."
- ต้องการประสบความสำเร็จบางอย่างในชีวิต เช่น จบเอกสาขานี้มามีโอกาสรวย
"มีความจำเป็นเพียงใดที่ต้องเรียน"
- ในบางสาขาจำเป็น ในบางสาขาไม่จำเป็น ในบางประเทศจำเป็น ในบางประเทศไม่จำเป็น
เช่น ประเทศไทย ดร. บางสาขาดูเหมือนไม่จำเป็นเลย แต่ที่จริงจำเป็น แต่บางสาขาดูเหมือนจำเป็น แต่ที่จริงไม่จำเป็น
แบ่งปันอาทิตย์ที่18เทศกาลธรรมดา(2009)
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=11508.0
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ตามความคิดของ พี่ ในประเทศเรา สาขาไหน จำเป็น และสาขาไหนไม่จำเป็นบ้างคร้าบMan of Macedonia เขียน: "ทำไมคนเราจึงเรียนปริญญาเอก"
"มีความจำเป็นเพียงใดที่ต้องเรียน"
- ในบางสาขาจำเป็น ในบางสาขาไม่จำเป็น ในบางประเทศจำเป็น ในบางประเทศไม่จำเป็น
เช่น ประเทศไทย ดร. บางสาขาดูเหมือนไม่จำเป็นเลย แต่ที่จริงจำเป็น แต่บางสาขาดูเหมือนจำเป็น แต่ที่จริงไม่จำเป็น
- sea dog's wife
- โพสต์: 27
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 24, 2008 1:59 pm
- ติดต่อ:
ดิฉันเป็นคนหนึ่ง ที่เรียนจบ ปริญญาเอกค่ะ แล้วก็มีตำแหน่งทางวิชาการด้วย และกำลังปรับตำแหน่งทางวิชาการให้สูงขึ้นไปอีกด้วย
แถมตอนนี้ กำลังทำวิจัยระดับหลังปริญญาเอก (Post Doctorate) อีกต่างหาก... บางคนก็เรีบกเชิงกระแนะกระแหนว่าเป็น superdoctor ฮ่าๆๆๆ...
แต่ถามว่า "จำเป็นไหม" ตอบยากนะคะ เพราะขึ้นอยู่กับวิชาชีพที่ประกอบค่ะ บางวิชาชีพ ก็จำเป็นมากค่ะที่ต้องเป็นปริญญาเอก และมีตำแหน่งทางวิชาการ บางวิชาชีพก็ไม่จำเป็นนะคะ ของแบบนี้ ไม่มีดี ไม่มีเสียค่ะ
เพียงแต่การเรียน ป.เอก นั้น มีความแตกต่างจากระดับอื่นตรงที่ว่า คนที่มาเรียน ต้องมีวุฒิภาวะเพียงพอ หมายถึง ต้องมีหัวข้อ วัตถุประสงค์ของการวิจัยที่ชัดเจน รู้ตัวเองแล้วว่า จะมาทำวิจัยอะไร เพื่ออะไร เพราะการเรียน ป.เอกที่ไหนๆ จะเน้นที่การวิจัย และจะมีรายวิชาที่ต้องเรียนน้อยมาก ที่เหลือจะเป็นวิทยานิพนธ์ ดังนั้น หากผู้เรียนมีพื้นความรู้ไม่แน่นหนาพอ คราวนี้ต้องแสวงหาเองแล้วล่ะค่ะ นอกจากนั้นงานวิจัยระดับปริญญาเอก เน้นที่ innovation คือองค์ความรู้ใหม่
การเรียน ป.เอก จึงไม่ใช่การเรียนเพื่อฆ่าเวลา แก้ปัญหาตกงาน หรือขี้เกียจหางานทำ นะคะ เพราะส่วนมาก นิสิต ป.เอกมักเป็นผู้ที่ทำงานแล้วสักระยะหนึ่ง เมื่อประสบคำถามในการทำงาน การวิจัย จึงตั้งเป็นสมมติฐานเพื่อนำมาเรียน และทำวิจัยในระดับป.เอกค่ะ
ส่วนคนที่เรียนจบแล้ว กลับมาทำงาน แล้วจะมีคุณภาพสมคำว่า ดร. หรือไม่ อันนี้มองว่า ขึ้นกับปัจจัยแวดล้อมแยะนะคะเช่น องค์กรของเขา put the right man to the right job หรือเปล่า บางคนจบมาทางนึง หน่วยงานสั่งย้ายเขาไปอยู่อีกที่หนึ่งที่เขาไม่มีโอกาสใช้ศักยภาพของเขา มันก็เรื้อเวที สนิมขึ้น หรือจบกลับมาแทนที่จะได้ใช้ความรู้ความสามารถ กลับต้องไปนั่งโต๊ะบริหารเสียแล้ว เป็นต้น
แต่โดยประสบการณ์ส่วนตัว เชื่อว่า ทุกคนเรียนป.เอกได้หมดล่ะค่ะ ความฉลาด ไม่เกี่ยวค่ะ แต่อยู่ที่ ประสบการณ์ มากที่สุด การมองปัญหาของงานวิจัยให้ทะลุตลอดทั้งระบบ รวมทั้งความตั้งใจ ขยัน และอดทน ด้วยค่ะ
ตัวเอง ไม่ชอบ และไม่อยากเรียนเลย แต่เพราะความจำเป็นในหน้าที่และวิชาชีพบังคับ แถมมีคนหาทุนให้เสร็จสรรพ เลย ต้องเรียน แล้วก็จบได้ค่ะ
ขออย่างเดียวว่า พอคนเรียกว่า "ดร." แล้ว อย่าเดินข้อกางเหมือนคนต่อมน้ำเหลืองที่จั๊กกะแร้บวม ก็แล้วกันค่ะ เพราะ ดร. (ขี้โอ่) บางคน อาจจะแพ้ ปราชญ์ชาวบ้านที่จบ ป.4 ก็ได้นะคะ...เห็นมาแยะแล้ว...
แถมตอนนี้ กำลังทำวิจัยระดับหลังปริญญาเอก (Post Doctorate) อีกต่างหาก... บางคนก็เรีบกเชิงกระแนะกระแหนว่าเป็น superdoctor ฮ่าๆๆๆ...
แต่ถามว่า "จำเป็นไหม" ตอบยากนะคะ เพราะขึ้นอยู่กับวิชาชีพที่ประกอบค่ะ บางวิชาชีพ ก็จำเป็นมากค่ะที่ต้องเป็นปริญญาเอก และมีตำแหน่งทางวิชาการ บางวิชาชีพก็ไม่จำเป็นนะคะ ของแบบนี้ ไม่มีดี ไม่มีเสียค่ะ
เพียงแต่การเรียน ป.เอก นั้น มีความแตกต่างจากระดับอื่นตรงที่ว่า คนที่มาเรียน ต้องมีวุฒิภาวะเพียงพอ หมายถึง ต้องมีหัวข้อ วัตถุประสงค์ของการวิจัยที่ชัดเจน รู้ตัวเองแล้วว่า จะมาทำวิจัยอะไร เพื่ออะไร เพราะการเรียน ป.เอกที่ไหนๆ จะเน้นที่การวิจัย และจะมีรายวิชาที่ต้องเรียนน้อยมาก ที่เหลือจะเป็นวิทยานิพนธ์ ดังนั้น หากผู้เรียนมีพื้นความรู้ไม่แน่นหนาพอ คราวนี้ต้องแสวงหาเองแล้วล่ะค่ะ นอกจากนั้นงานวิจัยระดับปริญญาเอก เน้นที่ innovation คือองค์ความรู้ใหม่
การเรียน ป.เอก จึงไม่ใช่การเรียนเพื่อฆ่าเวลา แก้ปัญหาตกงาน หรือขี้เกียจหางานทำ นะคะ เพราะส่วนมาก นิสิต ป.เอกมักเป็นผู้ที่ทำงานแล้วสักระยะหนึ่ง เมื่อประสบคำถามในการทำงาน การวิจัย จึงตั้งเป็นสมมติฐานเพื่อนำมาเรียน และทำวิจัยในระดับป.เอกค่ะ
ส่วนคนที่เรียนจบแล้ว กลับมาทำงาน แล้วจะมีคุณภาพสมคำว่า ดร. หรือไม่ อันนี้มองว่า ขึ้นกับปัจจัยแวดล้อมแยะนะคะเช่น องค์กรของเขา put the right man to the right job หรือเปล่า บางคนจบมาทางนึง หน่วยงานสั่งย้ายเขาไปอยู่อีกที่หนึ่งที่เขาไม่มีโอกาสใช้ศักยภาพของเขา มันก็เรื้อเวที สนิมขึ้น หรือจบกลับมาแทนที่จะได้ใช้ความรู้ความสามารถ กลับต้องไปนั่งโต๊ะบริหารเสียแล้ว เป็นต้น
แต่โดยประสบการณ์ส่วนตัว เชื่อว่า ทุกคนเรียนป.เอกได้หมดล่ะค่ะ ความฉลาด ไม่เกี่ยวค่ะ แต่อยู่ที่ ประสบการณ์ มากที่สุด การมองปัญหาของงานวิจัยให้ทะลุตลอดทั้งระบบ รวมทั้งความตั้งใจ ขยัน และอดทน ด้วยค่ะ
ตัวเอง ไม่ชอบ และไม่อยากเรียนเลย แต่เพราะความจำเป็นในหน้าที่และวิชาชีพบังคับ แถมมีคนหาทุนให้เสร็จสรรพ เลย ต้องเรียน แล้วก็จบได้ค่ะ
ขออย่างเดียวว่า พอคนเรียกว่า "ดร." แล้ว อย่าเดินข้อกางเหมือนคนต่อมน้ำเหลืองที่จั๊กกะแร้บวม ก็แล้วกันค่ะ เพราะ ดร. (ขี้โอ่) บางคน อาจจะแพ้ ปราชญ์ชาวบ้านที่จบ ป.4 ก็ได้นะคะ...เห็นมาแยะแล้ว...
สุดยอดเลย..นี่ นี่ ถูกใจจริงๆขอร๊าบ...sea dog's wife เขียน: ดิฉันเป็นคนหนึ่ง ที่เรียนจบ ปริญญาเอกค่ะ : xemo016 :แล้วก็มีตำแหน่งทางวิชาการด้วย และกำลังปรับตำแหน่งทางวิชาการให้สูงขึ้นไปอีกด้วย
แถมตอนนี้ กำลังทำวิจัยระดับหลังปริญญาเอก (Post Doctorate) อีกต่างหาก... บางคนก็เรีบกเชิงกระแนะกระแหนว่าเป็น superdoctor ฮ่าๆๆๆ...
แต่ถามว่า "จำเป็นไหม" ตอบยากนะคะ เพราะขึ้นอยู่กับวิชาชีพที่ประกอบค่ะ บางวิชาชีพ ก็จำเป็นมากค่ะที่ต้องเป็นปริญญาเอก และมีตำแหน่งทางวิชาการ บางวิชาชีพก็ไม่จำเป็นนะคะ ของแบบนี้ ไม่มีดี ไม่มีเสียค่ะ
เพียงแต่การเรียน ป.เอก นั้น มีความแตกต่างจากระดับอื่นตรงที่ว่า คนที่มาเรียน ต้องมีวุฒิภาวะเพียงพอ หมายถึง ต้องมีหัวข้อ วัตถุประสงค์ของการวิจัยที่ชัดเจน รู้ตัวเองแล้วว่า จะมาทำวิจัยอะไร เพื่ออะไร เพราะการเรียน ป.เอกที่ไหนๆ จะเน้นที่การวิจัย และจะมีรายวิชาที่ต้องเรียนน้อยมาก ที่เหลือจะเป็นวิทยานิพนธ์ ดังนั้น หากผู้เรียนมีพื้นความรู้ไม่แน่นหนาพอ คราวนี้ต้องแสวงหาเองแล้วล่ะค่ะ นอกจากนั้นงานวิจัยระดับปริญญาเอก เน้นที่ innovation คือองค์ความรู้ใหม่
การเรียน ป.เอก จึงไม่ใช่การเรียนเพื่อฆ่าเวลา แก้ปัญหาตกงาน หรือขี้เกียจหางานทำ นะคะ เพราะส่วนมาก นิสิต ป.เอกมักเป็นผู้ที่ทำงานแล้วสักระยะหนึ่ง เมื่อประสบคำถามในการทำงาน การวิจัย จึงตั้งเป็นสมมติฐานเพื่อนำมาเรียน และทำวิจัยในระดับป.เอกค่ะ
ส่วนคนที่เรียนจบแล้ว กลับมาทำงาน แล้วจะมีคุณภาพสมคำว่า ดร. หรือไม่ อันนี้มองว่า ขึ้นกับปัจจัยแวดล้อมแยะนะคะเช่น องค์กรของเขา put the right man to the right job หรือเปล่า บางคนจบมาทางนึง หน่วยงานสั่งย้ายเขาไปอยู่อีกที่หนึ่งที่เขาไม่มีโอกาสใช้ศักยภาพของเขา มันก็เรื้อเวที สนิมขึ้น หรือจบกลับมาแทนที่จะได้ใช้ความรู้ความสามารถ กลับต้องไปนั่งโต๊ะบริหารเสียแล้ว เป็นต้น
แต่โดยประสบการณ์ส่วนตัว เชื่อว่า ทุกคนเรียนป.เอกได้หมดล่ะค่ะ ความฉลาด ไม่เกี่ยวค่ะ แต่อยู่ที่ ประสบการณ์ มากที่สุด การมองปัญหาของงานวิจัยให้ทะลุตลอดทั้งระบบ รวมทั้งความตั้งใจ ขยัน และอดทน ด้วยค่ะ
ตัวเอง ไม่ชอบ และไม่อยากเรียนเลย แต่เพราะความจำเป็นในหน้าที่และวิชาชีพบังคับ แถมมีคนหาทุนให้เสร็จสรรพ เลย ต้องเรียน แล้วก็จบได้ค่ะ
ขออย่างเดียวว่า พอคนเรียกว่า "ดร." แล้ว อย่าเดินข้อกางเหมือนคนต่อมน้ำเหลืองที่จั๊กกะแร้บวม ก็แล้วกันค่ะ เพราะ ดร. (ขี้โอ่) บางคน อาจจะแพ้ ปราชญ์ชาวบ้านที่จบ ป.4 ก็ได้นะคะ...เห็นมาแยะแล้ว...
อยากเรียนเหมือนกัน
เมื่อก่อนเป็นเด็กๆ คิดว่า การมี ดร.นำหน้าชื่อนี่ช่างเท่ห์จริง
ตอนนี้โตขึ้น พบว่าในมหาลัยนี่ ดร. นี้เกลื่อนกลาดมากมาย ไม่ต่างจากคนธรรมดาเลย
วันหนึ่งทำแล็ป พอดี สไลด์ หมด พร้อมกับเห็นลุงคนหนึ่งเดินผ่านมา นึกว่าพนักงานห้องแล็ป
เลยเรียก "ลุงๆ สไลด์หมดครับ ขอใหม่กล่องนึง" มาทราบที่หลังว่าคืออาจารย์ที่ภ่าควิชา มีตำแหน่ง ผศ.ดร.XXX ลงมาช่วยดูนักศึกษาทำแล็ป
เมื่อก่อนเป็นเด็กๆ คิดว่า การมี ดร.นำหน้าชื่อนี่ช่างเท่ห์จริง
ตอนนี้โตขึ้น พบว่าในมหาลัยนี่ ดร. นี้เกลื่อนกลาดมากมาย ไม่ต่างจากคนธรรมดาเลย
วันหนึ่งทำแล็ป พอดี สไลด์ หมด พร้อมกับเห็นลุงคนหนึ่งเดินผ่านมา นึกว่าพนักงานห้องแล็ป
เลยเรียก "ลุงๆ สไลด์หมดครับ ขอใหม่กล่องนึง" มาทราบที่หลังว่าคืออาจารย์ที่ภ่าควิชา มีตำแหน่ง ผศ.ดร.XXX ลงมาช่วยดูนักศึกษาทำแล็ป
- sea dog's wife
- โพสต์: 27
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 24, 2008 1:59 pm
- ติดต่อ:
น่ารักจังเลยค่ะคุณลุง... สงสัยถ้าเจอกัน ดิฉันคงโดนเรียก "ป้า" เหมือนกัน 555...Zaliaus เขียน: อยากเรียนเหมือนกัน
เมื่อก่อนเป็นเด็กๆ คิดว่า การมี ดร.นำหน้าชื่อนี่ช่างเท่ห์จริง
ตอนนี้โตขึ้น พบว่าในมหาลัยนี่ ดร. นี้เกลื่อนกลาดมากมาย ไม่ต่างจากคนธรรมดาเลย
วันหนึ่งทำแล็ป พอดี สไลด์ หมด พร้อมกับเห็นลุงคนหนึ่งเดินผ่านมา นึกว่าพนักงานห้องแล็ป
เลยเรียก "ลุงๆ สไลด์หมดครับ ขอใหม่กล่องนึง" มาทราบที่หลังว่าคืออาจารย์ที่ภ่าควิชา มีตำแหน่ง ผศ.ดร.XXX ลงมาช่วยดูนักศึกษาทำแล็ป
ดร. เขาก็เป็นคนธรรมดานี่แหละค่ะ ... ดีเสียอีกนะคะที่คิดได้ว่า ไม่แตกต่างจากคนธรรมดา จะได้มีความสุภาพ ถ่อมตนเสมอไปค่ะ
-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
คำว่า "ไม่จำเป็น" ของผมคือ เขาตั้งใจเปิดมาเพื่อจุดประสงค์ที่ว่า คนมีเงิน มีอำนาจ อยากได้คำนำหน้า ก็จัดให้Jeab Agape เขียน:ตามความคิดของ พี่ ในประเทศเรา สาขาไหน จำเป็น และสาขาไหนไม่จำเป็นบ้างคร้าบMan of Macedonia เขียน: "ทำไมคนเราจึงเรียนปริญญาเอก"
"มีความจำเป็นเพียงใดที่ต้องเรียน"
- ในบางสาขาจำเป็น ในบางสาขาไม่จำเป็น ในบางประเทศจำเป็น ในบางประเทศไม่จำเป็น
เช่น ประเทศไทย ดร. บางสาขาดูเหมือนไม่จำเป็นเลย แต่ที่จริงจำเป็น แต่บางสาขาดูเหมือนจำเป็น แต่ที่จริงไม่จำเป็น
จะระบุเจาะจงไปก็ไม่ดีล่ะมั้งครับ ลองไล่ๆหาหลักสูตรปริญญาเอกและ Feedback จากพวกป.เอกในมหาวิทยาลัยต่างๆ
ด้วยกันเองดูครับ
ส่วนสาขาที่จำเป็น ในความคิดผม
สำหรับประเทศเรา คือ "วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ทั้งหลาย,ดร.ทางการศึกษาและครูทั้งหลาย,ไทยศึกษา,สังคมศาสตร์"
- sea dog's wife
- โพสต์: 27
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 24, 2008 1:59 pm
- ติดต่อ:
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ และสาขาเหล่านี้แหละ...ที่ไม่ค่อยมีทุนให้ ไม่ได้รับการสนับสนุน น่าเศร้านะ ประเทศไทย...Man of Macedonia เขียน: ส่วนสาขาที่จำเป็น ในความคิดผม
สำหรับประเทศเรา คือ "วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ทั้งหลาย,ดร.ทางการศึกษาและครูทั้งหลาย,ไทยศึกษา,สังคมศาสตร์"
-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
sea dog's wife เขียน:เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ และสาขาเหล่านี้แหละ...ที่ไม่ค่อยมีทุนให้ ไม่ได้รับการสนับสนุน น่าเศร้านะ ประเทศไทย...Man of Macedonia เขียน: ส่วนสาขาที่จำเป็น ในความคิดผม
สำหรับประเทศเรา คือ "วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ทั้งหลาย,ดร.ทางการศึกษาและครูทั้งหลาย,ไทยศึกษา,สังคมศาสตร์"
การเรียน เรียนเพื่อให้รู้ว่าจะเรียนยังไงครับ
เรียน ป. ตรี อาจจะเอาแค่ความรู้
เรียน ป. โท อาจจะเอาความรู้ด้วย เอาวิธีเรียนด้วย ว่าจะเรียนยังไงถ้าไม่มีใครสอนแล้ว คือ ยืนได้ด้วยตัวเองหลังจากจบออกไปแล้ว (และถ้าใครเก่งๆ อาจจะมีการสร้างความรู้ใหม่เพิ่มเติมไปด้วยนิดหน่อย ให้กับสังคมวิชาการในแขนงที่สนใจ)
เรียน ป. เอก เอาทั้งความรู้ วิธีเรียน และวิธีสร้างความรู้ใหม่ คือ นอกจากจะยืนได้ด้วยตัวเองแล้ว ก็ยังต้องสร้างความรู้ใหม่ๆไปด้วย
ทั้งนี้ การเข้าไปเรียน ได้ประโยชน์แน่ๆ สองอย่างคือ
1. ครั้งแรกที่ลอง (ลองยืนด้วยตัวเอง หรือลองสร้างความรู้ใหม่ ฯลฯ) มีคนคอยแนะนำให้ ว่าต้องคิดอย่างไร ทำอย่างไร ไม่ต้องคุ้ยเองทั้งหมด 100% (อาจจะคุ้ยแค่ 80-90%) และมีทุกอย่างสนับสนุนพร้อม ไม่ได้สร้างทุกอย่างเองทั้งหมด (อย่างน้อยก็ไปใช้สถานที่ อุปกรณ์เครื่องมือ หนังสือหนังหา ยืมชื่อเสียงอาจารย์มาขอทุนวิจัย หรือสบายหน่อย อ. ก็มีทุนให้เสร็จ ไม่ต้องขอเอง ฯลฯ)
2. มีคน"รับรอง" ว่าได้สำเร็จวัตถุประสงค์แล้ว (คือ ใบปริญญา รับรองว่า นาย/นาง/นางสาว ก. ได้"ผ่าน"การเรียนรู้ ให้เรียนเองเป็น คิดเองเป็น สร้างความรู้ใหม่เป็น แล้ว 1 รอบ "เป็นอย่างน้อย" และโดยมาตรฐานของสถาบัน ข. ถือว่า "ยอมรับได้")
แต่ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าคนที่ไม่ได้เรียน (ไม่ว่าจะปริญญาลำดับไหนก็ตาม) จะเรียนรู้ด้วยตัวเองไม่ได้หรือสร้างความรู้ใหม่ไม่ได้ เพียงแต่ว่า "ถ้าต้องการความยอมรับจากสังคม" ก็จะเหนื่อยหน่อย เพราะไม่มีใครมารับรองให้ ต้องใช้ฝีมือกับเวลาล้วนๆ คือ อาจจะคิดค้นความรู้ใหม่ๆมาเป็นสิบ แต่เนื่องจากไม่มีคำว่า ดร. และไม่ได้เป็นอาจารย์ (สมมติว่าเป็นช่างกลึงอยู่โรงกลึงในซอยไหนก็ไม่รู้) คนที่จะรู้ว่าเขาเป็นใคร ทำอะไรได้ คิดอะไรขึ้นมา ก็มีแค่วงแคบๆ คนที่ไม่รู้จักเขา ก็จะไม่ให้ความเชื่อถือทางด้านวิชาการ ในขณะที่คนเป็น ดร. ไปที่ไหนก็มีคำว่า ดร. ติดอยู่ข้างหน้า คนไม่เคยรู้จัก ไม่เคยได้ยินชื่อ ก็ยังยอม ณ ระดับหนึ่งว่า โอเค หมอนี่ ยัยนี่ เป็น ดร. นะ
อะไรประมาณนั้นมังครับ
ก็เลยขึ้นอยู่กับว่า จะเรียนไปเพื่ออะไร
จะเรียน เพื่อเอาไปประกอบอาชีพการงาน
จะเรียน เพราะอยากให้มีคนรับรองเรา
จะเรียน เพราะอยากรู้เพิ่มเติมในสิ่งที่สนใจ
จะเรียน เพราะอยากเรียนรู้วิธีการเรียนรู้เอง และคิดค้นความรู้ใหม่ๆเอง
หรือจะเรียน เพียงเพราะจะเรียน
ก็เป็นสิ่งที่ตัวเองต้องนำไปคิด..
ความรู้เป็นสิ่งที่เรียนเท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมด และคนจบ ดร. ไม่ได้จบขั้นสูงสุดของความรู้ใดๆ เพียงแต่เตรียมตัวเองไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมได้ เมื่อไม่มีใครมาสอนให้แล้ว เพื่อสามารถนำความรู้นั้นๆไปต่อยอดได้ หรือไปสร้างความรู้ใหม่ๆเพิ่มเติมให้กับสังคมครับ
เรียน ป. ตรี อาจจะเอาแค่ความรู้
เรียน ป. โท อาจจะเอาความรู้ด้วย เอาวิธีเรียนด้วย ว่าจะเรียนยังไงถ้าไม่มีใครสอนแล้ว คือ ยืนได้ด้วยตัวเองหลังจากจบออกไปแล้ว (และถ้าใครเก่งๆ อาจจะมีการสร้างความรู้ใหม่เพิ่มเติมไปด้วยนิดหน่อย ให้กับสังคมวิชาการในแขนงที่สนใจ)
เรียน ป. เอก เอาทั้งความรู้ วิธีเรียน และวิธีสร้างความรู้ใหม่ คือ นอกจากจะยืนได้ด้วยตัวเองแล้ว ก็ยังต้องสร้างความรู้ใหม่ๆไปด้วย
ทั้งนี้ การเข้าไปเรียน ได้ประโยชน์แน่ๆ สองอย่างคือ
1. ครั้งแรกที่ลอง (ลองยืนด้วยตัวเอง หรือลองสร้างความรู้ใหม่ ฯลฯ) มีคนคอยแนะนำให้ ว่าต้องคิดอย่างไร ทำอย่างไร ไม่ต้องคุ้ยเองทั้งหมด 100% (อาจจะคุ้ยแค่ 80-90%) และมีทุกอย่างสนับสนุนพร้อม ไม่ได้สร้างทุกอย่างเองทั้งหมด (อย่างน้อยก็ไปใช้สถานที่ อุปกรณ์เครื่องมือ หนังสือหนังหา ยืมชื่อเสียงอาจารย์มาขอทุนวิจัย หรือสบายหน่อย อ. ก็มีทุนให้เสร็จ ไม่ต้องขอเอง ฯลฯ)
2. มีคน"รับรอง" ว่าได้สำเร็จวัตถุประสงค์แล้ว (คือ ใบปริญญา รับรองว่า นาย/นาง/นางสาว ก. ได้"ผ่าน"การเรียนรู้ ให้เรียนเองเป็น คิดเองเป็น สร้างความรู้ใหม่เป็น แล้ว 1 รอบ "เป็นอย่างน้อย" และโดยมาตรฐานของสถาบัน ข. ถือว่า "ยอมรับได้")
แต่ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าคนที่ไม่ได้เรียน (ไม่ว่าจะปริญญาลำดับไหนก็ตาม) จะเรียนรู้ด้วยตัวเองไม่ได้หรือสร้างความรู้ใหม่ไม่ได้ เพียงแต่ว่า "ถ้าต้องการความยอมรับจากสังคม" ก็จะเหนื่อยหน่อย เพราะไม่มีใครมารับรองให้ ต้องใช้ฝีมือกับเวลาล้วนๆ คือ อาจจะคิดค้นความรู้ใหม่ๆมาเป็นสิบ แต่เนื่องจากไม่มีคำว่า ดร. และไม่ได้เป็นอาจารย์ (สมมติว่าเป็นช่างกลึงอยู่โรงกลึงในซอยไหนก็ไม่รู้) คนที่จะรู้ว่าเขาเป็นใคร ทำอะไรได้ คิดอะไรขึ้นมา ก็มีแค่วงแคบๆ คนที่ไม่รู้จักเขา ก็จะไม่ให้ความเชื่อถือทางด้านวิชาการ ในขณะที่คนเป็น ดร. ไปที่ไหนก็มีคำว่า ดร. ติดอยู่ข้างหน้า คนไม่เคยรู้จัก ไม่เคยได้ยินชื่อ ก็ยังยอม ณ ระดับหนึ่งว่า โอเค หมอนี่ ยัยนี่ เป็น ดร. นะ
อะไรประมาณนั้นมังครับ
ก็เลยขึ้นอยู่กับว่า จะเรียนไปเพื่ออะไร
จะเรียน เพื่อเอาไปประกอบอาชีพการงาน
จะเรียน เพราะอยากให้มีคนรับรองเรา
จะเรียน เพราะอยากรู้เพิ่มเติมในสิ่งที่สนใจ
จะเรียน เพราะอยากเรียนรู้วิธีการเรียนรู้เอง และคิดค้นความรู้ใหม่ๆเอง
หรือจะเรียน เพียงเพราะจะเรียน
ก็เป็นสิ่งที่ตัวเองต้องนำไปคิด..
ความรู้เป็นสิ่งที่เรียนเท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมด และคนจบ ดร. ไม่ได้จบขั้นสูงสุดของความรู้ใดๆ เพียงแต่เตรียมตัวเองไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมได้ เมื่อไม่มีใครมาสอนให้แล้ว เพื่อสามารถนำความรู้นั้นๆไปต่อยอดได้ หรือไปสร้างความรู้ใหม่ๆเพิ่มเติมให้กับสังคมครับ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
^
^
แล้ว พี่P ทำวิจัย เรื่องอะไรคร้าบ
^
แล้ว พี่P ทำวิจัย เรื่องอะไรคร้าบ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
พี่ไม่สนใจเรื่องดิน เรื่องหินเหรอ แถวๆฝั่งธน สึกกร่อนจะเป็นทะเล อยู่แล้ว น่าจะทำวิจัยว่า เรื่องการสร้างบ้านแบบครึ่งบกครึ่งน้ำนะคร้าบP เขียน: ไม่ได้ทำเลยครับ ความสามารถไม่ถึง
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
มัวแต่แซวนักเรียนตัวเองทุกวันก็งี้P เขียน: ไม่ได้ทำเลยครับ ความสามารถไม่ถึง
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
P เขียน: เราคือครอบครัวครับพี่บ๊าต