ขอเคล็ดลับครับ ( ได้โปรดตอบด้วยนะคร้าบ )
- เลย์
- โพสต์: 1845
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 05, 2009 12:27 am
- ที่อยู่: ในอ้อมพระหัตถ์พระเป็นเจ้า
- ติดต่อ:
เลย์ขอเคล็ดลับการทอดปลาครับว่า ทำอย่างไรครับเวลาทอดปลาไม่ให้ปลาติดกะทะ และไม่มีกลิ่นคาว
เมื่อวานเลย์ทอดปลาให้แฟนทาน ปรากฏว่าปลาติดกะทะไม่น่าทาน แถมปลายังมีกลิ่นคาวอีกครับ
รบกวนพี่ๆนิวมานาช่วยบอกเคล็ดลับให้กับพ่อครัวจำเป็นคนนี้ด้วยนะครับ ขอบคุณคร๊าบบบบบ
เมื่อวานเลย์ทอดปลาให้แฟนทาน ปรากฏว่าปลาติดกะทะไม่น่าทาน แถมปลายังมีกลิ่นคาวอีกครับ
รบกวนพี่ๆนิวมานาช่วยบอกเคล็ดลับให้กับพ่อครัวจำเป็นคนนี้ด้วยนะครับ ขอบคุณคร๊าบบบบบ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ ต.ค. 19, 2009 8:34 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
เกลือครับ
หมักด้วยเกลือครับ เกลือจะดึงความชื้นที่ผิวหนังปลาออก ทำให้หนังแห้งเร็ว กรอบนาน
ไม่ควรหมักเกิน 30 นาทีก่อนทอด และระวังเกลือเกินครับ จะเค็มมาก
ระวังพวกเครื่องปรุงที่ไหม้ได้ง่าย เช่น พริกไทย น้ำมันหอย ฯลฯ
กระเทียมไม่ควรคลุกลงไป ควรเจียวทีหลัง แล้วโรยในจานดีกว่า เพราะ กว่าปลาจะสุก กระเทียมก็ไหม้ (สำนวนไทยในครัวปลา)
เรื่องเละ/ติดกระทะ ผมว่ามี 3 ปัจจัย คือ 1)น้ำมัน 2)กระทะ 3)วิธีทอด
1) ผมจะใช้นำมันที่ผ่านการทอดแล้วประมาณ 2-3 ครั้ง ไม่ชอบใช้น้ำมันใหม่ครับ ขี้เกียจรอ ใจร้อน
น้ำมันเก่าจะมีพวกเศษอะไรต่างๆ เยอะ ทำให้ติดกระทะน้อยกว่า
2) กระทะใหม่ หรือ กระทะที่ไม่ค่อยได้ใช้นี่ตัวอันตรายครับ นอกจากจะเป็นเทฟลอนคุณภาพดี ที่เหลือถ้าไม่ค่อยได้ใช้ยังไงก็ติด
3) วิธีทอด ให้หมั่นสังเกตแต่ไม่ต้องหมั่นแซะนะครับ แซะบ่อยๆ หนังที่มันไม่แห้งและกำลังติดกระทะก็จะหลุด เอาไว้รอซักพักพลิกทีเดียวจะดีกว่า
เรื่องคาว มี 3 ปัจจัยหลัก มั๊ง? ผมว่า 1)ความสดของปลา 2)ชนิดของปลา 3)ความสุก
1+2) ปลาหลายชนิดมีความสด และความคาวไม่เหมือนกัน บางชนิดตายแล้วคาวเลย บางชนิดตายสักพักแล้วถึงจะคาว
บางชนิดก็มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์แต่บางคนก็บอกว่าคาว เช่น ปลานิล (อันนี้ผมโปรดมาก) ปลาสวาย (ไม่เห็นมีเมนูทอดนี่นา) ฯลฯ
3) ถ้าปลาตัวใหญ่แล้วไม่แล่ ไม่แหกปากแหกท้อง บางทีความคาวอยู่ในปลาทั้งตัว ไม่ได้อยู่เนื้อที่กำลังกิน แต่ก็ได้กลิ่น ทำนองนั้น
ผมชอบบั้งข้่างตัว แหกปาก (จับปลาอ้าปากกว้า่ง) และเหงือกทิ้ง ผ่าท้อง บางทีก็เลาะก้างไปทอด ได้ Calcium เพิ่มอีก
อะไรทำนองนี้ฯ
หมักด้วยเกลือครับ เกลือจะดึงความชื้นที่ผิวหนังปลาออก ทำให้หนังแห้งเร็ว กรอบนาน
ไม่ควรหมักเกิน 30 นาทีก่อนทอด และระวังเกลือเกินครับ จะเค็มมาก
ระวังพวกเครื่องปรุงที่ไหม้ได้ง่าย เช่น พริกไทย น้ำมันหอย ฯลฯ
กระเทียมไม่ควรคลุกลงไป ควรเจียวทีหลัง แล้วโรยในจานดีกว่า เพราะ กว่าปลาจะสุก กระเทียมก็ไหม้ (สำนวนไทยในครัวปลา)
เรื่องเละ/ติดกระทะ ผมว่ามี 3 ปัจจัย คือ 1)น้ำมัน 2)กระทะ 3)วิธีทอด
1) ผมจะใช้นำมันที่ผ่านการทอดแล้วประมาณ 2-3 ครั้ง ไม่ชอบใช้น้ำมันใหม่ครับ ขี้เกียจรอ ใจร้อน
น้ำมันเก่าจะมีพวกเศษอะไรต่างๆ เยอะ ทำให้ติดกระทะน้อยกว่า
2) กระทะใหม่ หรือ กระทะที่ไม่ค่อยได้ใช้นี่ตัวอันตรายครับ นอกจากจะเป็นเทฟลอนคุณภาพดี ที่เหลือถ้าไม่ค่อยได้ใช้ยังไงก็ติด
3) วิธีทอด ให้หมั่นสังเกตแต่ไม่ต้องหมั่นแซะนะครับ แซะบ่อยๆ หนังที่มันไม่แห้งและกำลังติดกระทะก็จะหลุด เอาไว้รอซักพักพลิกทีเดียวจะดีกว่า
เรื่องคาว มี 3 ปัจจัยหลัก มั๊ง? ผมว่า 1)ความสดของปลา 2)ชนิดของปลา 3)ความสุก
1+2) ปลาหลายชนิดมีความสด และความคาวไม่เหมือนกัน บางชนิดตายแล้วคาวเลย บางชนิดตายสักพักแล้วถึงจะคาว
บางชนิดก็มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์แต่บางคนก็บอกว่าคาว เช่น ปลานิล (อันนี้ผมโปรดมาก) ปลาสวาย (ไม่เห็นมีเมนูทอดนี่นา) ฯลฯ
3) ถ้าปลาตัวใหญ่แล้วไม่แล่ ไม่แหกปากแหกท้อง บางทีความคาวอยู่ในปลาทั้งตัว ไม่ได้อยู่เนื้อที่กำลังกิน แต่ก็ได้กลิ่น ทำนองนั้น
ผมชอบบั้งข้่างตัว แหกปาก (จับปลาอ้าปากกว้า่ง) และเหงือกทิ้ง ผ่าท้อง บางทีก็เลาะก้างไปทอด ได้ Calcium เพิ่มอีก
อะไรทำนองนี้ฯ
โห้...สุดยอด กลิ่นหอมลอยมาแต่ไกลเชียว อ่านแล้วหิวเลย ขอบคุณมากคะEdwardius เขียน: เกลือครับ
หมักด้วยเกลือครับ เกลือจะดึงความชื้นที่ผิวหนังปลาออก ทำให้หนังแห้งเร็ว กรอบนาน
ไม่ควรหมักเกิน 30 นาทีก่อนทอด และระวังเกลือเกินครับ จะเค็มมาก
ระวังพวกเครื่องปรุงที่ไหม้ได้ง่าย เช่น พริกไทย น้ำมันหอย ฯลฯ
กระเทียมไม่ควรคลุกลงไป ควรเจียวทีหลัง แล้วโรยในจานดีกว่า เพราะ กว่าปลาจะสุก กระเทียมก็ไหม้ (สำนวนไทยในครัวปลา)
เรื่องเละ/ติดกระทะ ผมว่ามี 3 ปัจจัย คือ 1)น้ำมัน 2)กระทะ 3)วิธีทอด
1) ผมจะใช้นำมันที่ผ่านการทอดแล้วประมาณ 2-3 ครั้ง ไม่ชอบใช้น้ำมันใหม่ครับ ขี้เกียจรอ ใจร้อน
น้ำมันเก่าจะมีพวกเศษอะไรต่างๆ เยอะ ทำให้ติดกระทะน้อยกว่า
2) กระทะใหม่ หรือ กระทะที่ไม่ค่อยได้ใช้นี่ตัวอันตรายครับ นอกจากจะเป็นเทฟลอนคุณภาพดี ที่เหลือถ้าไม่ค่อยได้ใช้ยังไงก็ติด
3) วิธีทอด ให้หมั่นสังเกตแต่ไม่ต้องหมั่นแซะนะครับ แซะบ่อยๆ หนังที่มันไม่แห้งและกำลังติดกระทะก็จะหลุด เอาไว้รอซักพักพลิกทีเดียวจะดีกว่า
เรื่องคาว มี 3 ปัจจัยหลัก มั๊ง? ผมว่า 1)ความสดของปลา 2)ชนิดของปลา 3)ความสุก
1+2) ปลาหลายชนิดมีความสด และความคาวไม่เหมือนกัน บางชนิดตายแล้วคาวเลย บางชนิดตายสักพักแล้วถึงจะคาว
บางชนิดก็มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์แต่บางคนก็บอกว่าคาว เช่น ปลานิล (อันนี้ผมโปรดมาก) ปลาสวาย (ไม่เห็นมีเมนูทอดนี่นา) ฯลฯ
3) ถ้าปลาตัวใหญ่แล้วไม่แล่ ไม่แหกปากแหกท้อง บางทีความคาวอยู่ในปลาทั้งตัว ไม่ได้อยู่เนื้อที่กำลังกิน แต่ก็ได้กลิ่น ทำนองนั้น
ผมชอบบั้งข้่างตัว แหกปาก (จับปลาอ้าปากกว้า่ง) และเหงือกทิ้ง ผ่าท้อง บางทีก็เลาะก้างไปทอด ได้ Calcium เพิ่มอีก
อะไรทำนองนี้ฯ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
อ่านแล้วหิวมากมาย
-
- โพสต์: 1413
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
- ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
ถ้าใช้กะทะเทฟลอนได้ก็จะดี ปลาจะไม่ติดกะทะเลยค่ะ
ถ้าไม่มีกะทะเทฟลอนก็ต้องใช้น้ำมันเก่า ตามที่ คุณ Edwardius บอกค่ะ
แล้วก็ต้องล้างปลาด้วยเกลือก่อน แล้วค่อยหมักเกลืออีกที เกลือช่วยล้างคาวปลาได้ดีมาก
แล้วเอาปลาพักใส่ตะแกรงไว้ให้สะเด็ดน้ำซะก่อน พอผิวปลาแห้งดีแล้วค่อยเอาลงทอด
ที่สำคัญที่สุด ก่อนจะเอาลงกะทะทอด ต้องใส่ เสน่ห์ ลงไปด้วยนะคะ
แฟนทานแล้วจะหลงเสน่ห์ คุณ เลย์ หัวปักหัวปำเลยค่ะ
เคล็ดลับเพิ่มเติม ...
ที่สำคัญ !!! ก่อนจะทานปลา อย่าลืม !!!
"พระบิดาเจ้าข้า โปรดกรุณาอวยพรแก่ข้าพเจ้ากับสุดที่รัก และอาหารที่จะรับประทานนี้"
สวดก่อนอาหารค่ะ ออกเสียงดังๆ นิดนึงนะ
ถ้าไม่มีกะทะเทฟลอนก็ต้องใช้น้ำมันเก่า ตามที่ คุณ Edwardius บอกค่ะ
แล้วก็ต้องล้างปลาด้วยเกลือก่อน แล้วค่อยหมักเกลืออีกที เกลือช่วยล้างคาวปลาได้ดีมาก
แล้วเอาปลาพักใส่ตะแกรงไว้ให้สะเด็ดน้ำซะก่อน พอผิวปลาแห้งดีแล้วค่อยเอาลงทอด
ที่สำคัญที่สุด ก่อนจะเอาลงกะทะทอด ต้องใส่ เสน่ห์ ลงไปด้วยนะคะ
แฟนทานแล้วจะหลงเสน่ห์ คุณ เลย์ หัวปักหัวปำเลยค่ะ
เคล็ดลับเพิ่มเติม ...
ที่สำคัญ !!! ก่อนจะทานปลา อย่าลืม !!!
"พระบิดาเจ้าข้า โปรดกรุณาอวยพรแก่ข้าพเจ้ากับสุดที่รัก และอาหารที่จะรับประทานนี้"
สวดก่อนอาหารค่ะ ออกเสียงดังๆ นิดนึงนะ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. ส.ค. 20, 2009 9:27 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
ความรู้เพียบ
- (⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)
- โพสต์: 892
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 12:38 am
แดจังกึมมากเลยคะ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เคยหรอ ชายน้อยP เขียน: ไม่ให้ติดกะทะ
- ใส่น้ำมันหล่อลื่น
ไม่ให้คาว
- อย่าใช้ปลาตาย
แสดงว่าน้องเลย์ ไม่ชอบทาน รสเผ็ดจัด ไม่เหมือน พี่ ทาน เผ็ด จนคนอื่นกินด้วยไม่ได้เลย แบบว่า พริก สองกำมือ อะคะเลย์ เขียน: การทำต้มยำอ่ะครับ ทำอย่างไรคับให้ต้มยำแซบจี๊ดจ๊าดถึงใจวัยรุ่น เลย์ทำให้แฟนกินเมื่อตอนเย็น
แฟนมันบอกว่า จืดยังกับต้มจืดไข่น้ำ เจ็บใจ ::034::
[quote="เลย์"]
การทำต้มยำอ่ะครับ ทำอย่างไรคับให้ต้มยำแซบจี๊ดจ๊าดถึงใจวัยรุ่น เลย์ทำให้แฟนกินเมื่อตอนเย็น
แฟนมันบอกว่า จืดยังกับต้มจืดไข่น้ำ เจ็บใจ ::034::
[/quot
น้องเลย์ต้องรอให้น้ำเดือดแล้วก็ประเคนใส่พริกขี้หนูสดบุบพอให้แตก,ตะไคร้,ข่า,หอมแดง ต้มเครื่องต้มยำจนมีกลิ่นหอม
แล้วก็ค่อยใส่เนื้อปลา,กุ้ง ใส่ตอนน้ำเดือดนะ ถ้าจะใส่น้ำพริกเผาก็ให้ละลายกับน้ำร้อนเล็กน้อยก่อนผสมลงในหม้อต้มยำ จะได้ไม่เป็นก้อน
พอสุกแล้วก็ปิดไฟ แล้วฉีกใบมะกรูด,ผักชีฝรั่งใส่ลงไป เวลาเสริฟก็บีบมะนาว,น้ำปลาตามใจชอบลงในชาม
ถ้าบีบมะนาวลงในหม้อต้มยำเลยความร้อนจะทำให้ความเปรี้ยวลดลงและจะไม่หอม จะใส่พริกป่นเพิ่มก็ได้
ถ้าแฟนยังไม่ถูกปาก " อะแฮ้ม ทำกินเองแล้วกันเธอ "
การทำต้มยำอ่ะครับ ทำอย่างไรคับให้ต้มยำแซบจี๊ดจ๊าดถึงใจวัยรุ่น เลย์ทำให้แฟนกินเมื่อตอนเย็น
แฟนมันบอกว่า จืดยังกับต้มจืดไข่น้ำ เจ็บใจ ::034::
[/quot
น้องเลย์ต้องรอให้น้ำเดือดแล้วก็ประเคนใส่พริกขี้หนูสดบุบพอให้แตก,ตะไคร้,ข่า,หอมแดง ต้มเครื่องต้มยำจนมีกลิ่นหอม
แล้วก็ค่อยใส่เนื้อปลา,กุ้ง ใส่ตอนน้ำเดือดนะ ถ้าจะใส่น้ำพริกเผาก็ให้ละลายกับน้ำร้อนเล็กน้อยก่อนผสมลงในหม้อต้มยำ จะได้ไม่เป็นก้อน
พอสุกแล้วก็ปิดไฟ แล้วฉีกใบมะกรูด,ผักชีฝรั่งใส่ลงไป เวลาเสริฟก็บีบมะนาว,น้ำปลาตามใจชอบลงในชาม
ถ้าบีบมะนาวลงในหม้อต้มยำเลยความร้อนจะทำให้ความเปรี้ยวลดลงและจะไม่หอม จะใส่พริกป่นเพิ่มก็ได้
ถ้าแฟนยังไม่ถูกปาก " อะแฮ้ม ทำกินเองแล้วกันเธอ "
ต้มยำแซบๆ ก็ต้องใส่น้ำไม่มากเกินไป เพราะจะปรุงยากถ้าน้ำเยอะ ส่วนเครื่องเทศพวกข่าตะไคร้ใบมะกรูด ก็หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ในปริมาณไม่มากไม่น้อยเกินไป แม้จะกินไม่ได้แต่ก็ให้ความหอมของการเป็นต้มยำ แล้วพวกเครื่องปรุง ก็เน้นใส่น้ำมะขามเปียกข้น ๆ เกลือป่น ให้รสออกเปรี้ยวนำ เค็มตาม ตอนปิดไฟแล้วก็ใส่พริกขี้หนูสวนตำให้แหลก ๆ ชอบเผ็ดแค่ไหนก็กะเอานะครับ แล้วเวลาตักใส่ชามก็บีบน้ำมะนาวลงไปในชามประมาณครึ่งลูก รับรองแซบอีหลีเด้อแน่นอนครับ
อะโห ทำกับข้าวเก่งเนอะAndreas เขียน: ต้มยำแซบๆ ก็ต้องใส่น้ำไม่มากเกินไป เพราะจะปรุงยากถ้าน้ำเยอะ ส่วนเครื่องเทศพวกข่าตะไคร้ใบมะกรูด ก็หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ในปริมาณไม่มากไม่น้อยเกินไป แม้จะกินไม่ได้แต่ก็ให้ความหอมของการเป็นต้มยำ แล้วพวกเครื่องปรุง ก็เน้นใส่น้ำมะขามเปียกข้น ๆ เกลือป่น ให้รสออกเปรี้ยวนำ เค็มตาม ตอนปิดไฟแล้วก็ใส่พริกขี้หนูสวนตำให้แหลก ๆ ชอบเผ็ดแค่ไหนก็กะเอานะครับ แล้วเวลาตักใส่ชามก็บีบน้ำมะนาวลงไปในชามประมาณครึ่งลูก รับรองแซบอีหลีเด้อแน่นอนครับ
ต้มน้ำน้อยๆ พอเดือด ใส่ ข่าหั่นเป็นแว่นๆ ตะไคร้ทุบพอแตกต้ดเป็นท่อนสั้นๆ ใบมะกรูดฉีก
หอมแดงทุบเล็กน้อย ต้มจนหอมเครื่องต้มยำ ใส่คนอร์ไก่ 1 ก้อน คนพอละลาย พอเดือด ใส่กุ้ง ห้ามคนจ้า
ใส่เห็ดฟางผ่าซีก พอเดือดปิดไฟยกลงจากเตา ทุบพริกขี้หนูสวนใส่ตามชอบ ใส่น้ำพริกเผาซักช้อนใหญ่ๆ
ปรุงรสด้วยน้ำปลาดี น้ำมะนาว (ถ้าชอบน้ำข้น ก็ใส่นมข้นจืดลงไปจ้า)
ชิมรสตามชอบจ้า ใส่ใบผักชีฝรั่งตัดท่อนสั้นๆ ผักชีนิดหน่อยโรยหน้า
พยายามเข้านะ เลย์
ปล. อย่าบีบน้ำมะนาวบนเตาร้อนๆ เพราะจะทำให้มีรสขมจ้า
หอมแดงทุบเล็กน้อย ต้มจนหอมเครื่องต้มยำ ใส่คนอร์ไก่ 1 ก้อน คนพอละลาย พอเดือด ใส่กุ้ง ห้ามคนจ้า
ใส่เห็ดฟางผ่าซีก พอเดือดปิดไฟยกลงจากเตา ทุบพริกขี้หนูสวนใส่ตามชอบ ใส่น้ำพริกเผาซักช้อนใหญ่ๆ
ปรุงรสด้วยน้ำปลาดี น้ำมะนาว (ถ้าชอบน้ำข้น ก็ใส่นมข้นจืดลงไปจ้า)
ชิมรสตามชอบจ้า ใส่ใบผักชีฝรั่งตัดท่อนสั้นๆ ผักชีนิดหน่อยโรยหน้า
พยายามเข้านะ เลย์
ปล. อย่าบีบน้ำมะนาวบนเตาร้อนๆ เพราะจะทำให้มีรสขมจ้า
แก้ไขล่าสุดโดย sinner เมื่อ อังคาร ต.ค. 20, 2009 4:08 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
ฉีกผงมาม่า เทใส่ปากแฟน ง่ายสุด แซบแน่ ปี๊ดดดป๊าดดด แน่นอน
กินเผ็ดไม่ได้เหมือนกัน กินแล้วมีปัญหาเลยjacky เขียน:แสดงว่าน้องเลย์ ไม่ชอบทาน รสเผ็ดจัด ไม่เหมือน พี่ ทาน เผ็ด จนคนอื่นกินด้วยไม่ได้เลย แบบว่า พริก สองกำมือ อะคะเลย์ เขียน: การทำต้มยำอ่ะครับ ทำอย่างไรคับให้ต้มยำแซบจี๊ดจ๊าดถึงใจวัยรุ่น เลย์ทำให้แฟนกินเมื่อตอนเย็น
แฟนมันบอกว่า จืดยังกับต้มจืดไข่น้ำ เจ็บใจ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ ต.ค. 19, 2009 9:23 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 1653
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 10, 2007 9:22 pm
- ที่อยู่: ไม่ใกล้ไม่ใกล้จากวัดอัสสัม-0-
ไม่รู้อ่ะคับ แต่อยากตอบ: p
อ่ะไม่ใช่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ลองหาวิธีทำจากเน็ตดูสิคับ ไม่ก็ลองถามแม่ของพี่ดู>_< น่าจะได้คำตอบที่อธิบายง่ายๆนะึคับ
อ่ะไม่ใช่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ลองหาวิธีทำจากเน็ตดูสิคับ ไม่ก็ลองถามแม่ของพี่ดู>_< น่าจะได้คำตอบที่อธิบายง่ายๆนะึคับ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
หิววววววว
-
- โพสต์: 1413
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
- ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
ต้มยำกุ้งแม่น้ำ ตัวกุ้งขนาด 4 ตัวโล นะ (แถวปราจีนฯ โลละ 500 ค่ะ)
แหม๋...
แหม๋...
ไม่รู้ว่าจะตอบช้าไปหรือเปล่า ถ้าใช้กระทะเหล็กแบบโบราณ ให้ใส่เกลือไปในน้ำมันเยอะๆ แล้วมันจะไม่ติดกระทะครับ
ส่วนต้มยำทำอย่างไรให้อร่อย ต้องบอกว่าลางเนื้อชอบลางยา อย่างพ่อผมเวลาไปกินต้มยำตามร้านต่างๆแกจะบ่นว่าพวกข่าตะไคร้อะไรนี่ ทำไมใส่เยอะขนาดนี้ มันเหม็น โบราณเขาใส่นิดๆหน่อยๆแค่นั้นเอง
ส่วนต้มยำทำอย่างไรให้อร่อย ต้องบอกว่าลางเนื้อชอบลางยา อย่างพ่อผมเวลาไปกินต้มยำตามร้านต่างๆแกจะบ่นว่าพวกข่าตะไคร้อะไรนี่ ทำไมใส่เยอะขนาดนี้ มันเหม็น โบราณเขาใส่นิดๆหน่อยๆแค่นั้นเอง
- ^_^Matthew^_^
- โพสต์: 354
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ค. 10, 2008 2:03 am
- ที่อยู่: 125 ม.7 ถ.ชัยภูมิ-สีคิ้ว ต.หนองนาแซง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ 36000
- ติดต่อ:
ทอดไม่เป้นอ่า อยากรู้เหมือนกัน ขอบคุณสำหรับความรู้นะครับ
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
อ.ยิ่งศักดิ์Ma~Ri~A เขียน: คุณเลย์น่ารักจัง
คนแบบนี้หาได้ที่ไหนอีกน้า...-*-
-
- โพสต์: 1413
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
- ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
5555+ แล้วหน้าตาเหมือนกันรึป่าวนะ?คนละคนแล้วครับ เขียน:อ.ยิ่งศักดิ์Ma~Ri~A เขียน: คุณเลย์น่ารักจัง
คนแบบนี้หาได้ที่ไหนอีกน้า...-*-