Belong to the Truth Jesus Christ

http://www.youtube.com/watch?v=NYvRbrnU ... r_embedded

โฆษณาอันใหม่ของไทยประกันชีวิต ที่กำลังฉายออกทีวีอยู่ในช่วงนี้
เป็นโฆษณาดีๆ ที่ดูแล้วซึ้ง ประทับใจ ชวนเรียกน้ำตา ไม่แพ้โฆษณาแม่ต้อยเลยทีเดียว

ขอบคุณครับ

แต่ผมชอบโฆษณาแมลงสาบ มากกว่า โดนใจดี อิอิ
คนขายประกันที่จริงใจ เป็นคนดี หายากมาก แต่ตรงกันข้ามนั้นมีเกลื่อน..

ซึ้งงงงงง น้ำตาไหลอีกแล้ว เกลียดโฆษณา ไทยประกันชีวิตจัง

แน๊วแนว,, เขียน: ซึ้งงงงงง น้ำตาไหลอีกแล้ว เกลียดโฆษณา ไทยประกันชีวิตจัง

อ้าว ทำไมเกลียดอ่า -*-

แล้วเนื้อหาของโฆษณามันเกี่ยวอะไรกับบริษัทประกันชีวิตครับ ดูแล้วไม่เชื่อมเกี่ยวกันเท่าไหร่ครับ เหมือนบิรษัทประกันเอาความน่ารักน่าสงสารของเด็กมาหาประโยชน์ให้ธุรกิจ  แต่ถ้าใครดูโฆษณาแล้วไปทำบุญให้เด็กพิการก็ยังดีกว่าดูโฆษณาแล้วไปซื้อประกันให้ตัวเอง เพราะบริษัทประกันเค้าไม่รับประกันชีวิตให้คนพิการใช่ไหมครับ ขนาดผมเค้าก็หาว่าผอมเกินไป ไม่รับประกันสุขภาพ เลยทำได้แค่ประกันอุบัติเหตุ

งง อ่ะ

ก็เหมือนกับว่า ชีวิตไม่แน่นอนไงครับ อนาคตไม่รู้จะเกิดอะไร มาทำประกันชีวิตไว้ดีกว่า ให้ลูก ให้ตน อะไรแบบนี้ไง

ไม่เห็นเข้าใจยากเลย ตะเอง 

เหอะๆๆๆ

ผมดูไป ยังไม่ค่อยจะรู้เรื่อง-*-

ผมตามเข้าไปดูในเวปของไทยประกันชีวิต โฆษณาเรื่องนี้มีจุดประสงค์คือ เค้าต้องการขายประกันที่ชื่อว่า "กรมธรรม์ก้าวแรก" เป็นการประกันชีวิตและสุขภาพของคุณแม่ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ รวมทั้งลูกที่จะเกิดมา ไม่ว่าจะเกิดมาสมบูรณ์หรือพิการก็ตาม สมัยนี้บริษัทประกันก็ดีนะครับ มีตัวเลือกให้ลูกค้ามากขึ้น คงเป็นเพราะเดี๋ยวนี้บริษัทประกันต้องการเงินจากคนที่มาทำประกัน ต่างกับเมื่อก่อนตอนผมเป็นเด็ก พ่อแม่อยากทำประกันชีวิตให้ผมกับบริษัทเอไอเอ ทางเอไอเอก็นำผมไปตรวจสุขภาพ แล้วก็ปฏิเสธไม่ยอมรับทำประกันให้ผม เพราะตอนแรกเกิดผมเกิดมาผิดปกติ ต้องผ่าตัดหลายครั้ง แต่จริง ๆ หลังจากนั้น สุขภาพก็แข็งแรงดี ไม่เคยเจ็บป่วยหนักอีกเลย  ผมเลยไม่อยากง้อพวกบริษัทประกัน ดูสิเดี๋ยวนี้พวกเค้าต้องมาง้อลูกค้า ถึงขนาดให้มาทำประกันโดยไม่ต้องตรวจสุขภาพหรือตอบคำถามเกี่ยวกับสุขภาพใด ๆ

คนละคนแล้วครับ พูดซะผมเข้าใจเลย พูดแล้วเหมือนไอ้โฆษณานี้ มันอยากให้เราทำประกัน คล้ายๆ หยั่งกะแช่ง

  ซึ้งจนน้ำตาไหล สงสารเด็กๆ แถมอีก 2 เดือนก็จะคลอดแล้ว แม่ทุกคนก็ย่อมกังวลว่าลูกจะออกมาครบ32รึเปล่า พอลืมตาดูโลกแล้วก็ต้องฉีดวัคซีนสารพัด เพื่อไม่ให้ลูกเจ็บป่วย  ก็เข้าใจจุดโฆษณาของเค้าที่ต้องดึงความสนใจโดยใช้เด็กๆที่ป่วยหรือพิการ โดยความเห็นส่วนตัวในฐานะคุณแม่ลูกสองทำประกันตั้งแต่เริ่มท้องคงไม่จำเป็น แต่ถ้าหากลูกของเราพิการหรือเจ็บป่วยรุนแรง เราคงต้องการภาครัฐหรือเอกชนที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือหลังจากเด็กเกิดมากกว่า ทั้งเรื่องยา การดูแลรักษา ฯลฯ ทุกวันนี้เห็นครอบครัวที่มีลูกพิการอยู่กันลำบาก ต่างกันมากกับทางยุโรปที่ทางรัฐจะมีเงินช่วยเหลือผู้พิการทุกเดือน ถ้าต้องไปหาหมอก็จะมีบริการแท็กซี่มารับฟรี ถ้าป่วยหนักก็จะมีพยาบาลมาดูแล เช็ดตัว ล้างแผลให้ถึงบ้าน โดยเฉพาะเด็กๆเขาให้ความสำคัญมาก เด็กๆจะได้รับการตรวจวัดสายตาตั้งแต่อนุบาล เด็กๆที่พิการก็จะได้เรียนร่วมกับเด็กปกติ ถ้าเด็กเป็นออทิสติกก็จะมีครูที่ได้รับการอบรมมาดูแลโดยเฉพาะ  อยากให้บ้านเราเป็นอย่างเขาบ้าง อาจจะไม่ต้องเหมือนเป๊ะ เพราะเขาเสียภาษีกันตั้ง 20%ของเงินเดือนทุกเดือน เพียงแต่ไม่อยากเห็นผู้พิการหรือเด็กๆที่สุขภาพไม่ดีถูกปลอยปละเลย ให้อยู่กันตามมีตามเกิด  ไม่ต้องรอให้ลงหน้าหนังสือพิมพ์หรือออกโทรทัศน์ถึงจะมีใครต่อใครลอยหน้ากันเข้าไปช่วย

เอาเด็กมาขายง่ะ

คนขายประกันน่ะเวลาจะขายก็มาง้อ มาตื้อต่างๆ นานา

หลานเราสองคน น้องสาวซื้อให้ แต่เวลาป่วยบ่อยๆ

ยกเลิกสัญญาเอาดื้อๆ เวลาได้เงินเงียบเลย

แต่เวลาต้องจ่ายตังเยอะๆ เหอ เหอ หายจ้อย

ประกัน ถ้ายังไม่เกิดกบัตัวเอง ไม่รู้หรอกคะ ว่ามันสำคัญ

ไม่รู้ดิ ก็อยากทำประกันน่ะแต่ว่ารอโตก่อน

ซื้อกับคนที่เรารู้จักจริงๆ ง่ายที่สุดครับ

ปล. เดี๋ยวนี้เวลาใช้ประกันเคลม ทางโรงพยาบาลจะจัดการให้ เรามีหน้าที่แสดงบัตรประกันครับ

ปล2. ระวังการเลือกรูปแบบของประกัน เพราะบางทีก็เคลมค่ารักษาพยาบาลไม่ได้ เป็นแค่ประกันเพื่อสะสมทรัพย์

ปล3. กรณีผู้ป่วยนอก หรือ OPD ถ้าไปตามโรงพยาบาลแล้วมีบัตรแสดง ไม่ต้องสำรองจ่าย

ดูแล้วแอบซึ้ง

  แอบน้ำตาซึมด้วยอ่ะ  แบบว่าคนทำโฆษณาโดนใจมากเลย

ไว้จะรอดูอีกนะค่ะ

อิอิ ไม่มีอะไรจะบอกว่า ดิชั้นเป็นตัวแทนประกันคะ