รวมกระทู้น้องหมิงคร๊าฟ
ประสบการณ์ที่พี่เจอกับตัวเองหลายๆ ครั้งนะหมิง
พี่เชื่อพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจเลย แม้พี่จะยังทำตามคำสอนไม่ได้ทุกอย่าง
แต่พระก็ปกป้องคุมครองให้พี่ผ่านเรื่องร้ายๆ มาได้ในหลายๆ ครั้งเลยหมิง
การงาน เรื่องในครอบครัว การเดินทาง การเงิน สารพัด
และพี่ก็ยังเชื่อว่าจะมีการผจญอีกเรื่อยๆ แต่พระจะปกป้องคุ้มครองเราให้ผ่านไปได้ด้วยดีจ๊ะ
เชื่อมั่นนะหมิง...คิคิ
พี่เชื่อพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจเลย แม้พี่จะยังทำตามคำสอนไม่ได้ทุกอย่าง
แต่พระก็ปกป้องคุมครองให้พี่ผ่านเรื่องร้ายๆ มาได้ในหลายๆ ครั้งเลยหมิง
การงาน เรื่องในครอบครัว การเดินทาง การเงิน สารพัด
และพี่ก็ยังเชื่อว่าจะมีการผจญอีกเรื่อยๆ แต่พระจะปกป้องคุ้มครองเราให้ผ่านไปได้ด้วยดีจ๊ะ
เชื่อมั่นนะหมิง...คิคิ
ที่ต้องปลุกหน่ะ คือตัวเจ้าของgodlike เขียน: เชื่อมันก็เอาอยู่แล้ว แค่ปีศาจ พระคุ้มครอง เอาสายพระคำให้พ่อเสกแล้วมาสดประจำๆ เสกพอนะครับน้อง ไม่ต้องปลุกเสกนะ
อำนาจที่ยิ่งใหญ๋สายประคำมาจากการสวดภาวนาครับ
-
- โพสต์: 740
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 11:36 pm
ใช่ครับImmanuel (MichaelPaul) เขียน:หากเราเชื่อในพระเจ้าของเราแล้ว แม้ว่าปีศาจหรือเทพไร้สาระอื่นใดที่อาจจะมีจริงหรือไม่ หากต้องการจะมายุ่งกับเรา พระเจ้าของเราจะคุ้มครองและป้องกันเราจากสิ่งเหล่านั้น และแม้จะเกิดสิ่งใดขึ้น ก็ขอให้เรายอมรับทั้งดีและไม่ดี เพราะว่าเราทราบดีว่าพระเจ้าทรงมีหนทางสำหรับแต่ละคนหมิงคร๊าฟ เขียน: หากเราเชื่อพระองค์อย่างสุดหัวใจปีศาจหรือพระจากศาสนาอื่นจะมามีส่วนในชีวิตหรือบงการชีวิตเราได้อีกไหมครับ
- Jeanne d'Arc
- โพสต์: 235
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 12, 2009 12:33 pm
ไม่ว่าเทพอื่นหรือมารจะมีมากแค่ไหนที่จะมาทำร้ายเรา
แต่พระเจ้ามีกองทหารที่ไม่สามารถตีเป็นตัวเลขของพระองค์คอยคุ้มครองมนุษย์ผู้ชอบธรรมและพยายามกอบกู้ผูู้้หลงผิดอยู่
และพระองค์เองก็ทรงสถิตย์อยู่กับมนุษย์เพื่อปกป้อง คุ้มครอง ดูแล รักษา อวยพร เมตตา ฯลฯ แด่มนุษย์เช่นกัน
ไม่ว่าเทพอื่นใดหรือจะเป็นมารที่ไหนก็ไม่อาจยืนหยัดอยู่ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าพระเจ้าแท้จริงเพียงหนึ่งเดียวครับ
พระเจ้าของเรายิ่งใหญ่ที่สุดเหนือสรรพสิ่งทั้งมวลครับ
แต่พระเจ้ามีกองทหารที่ไม่สามารถตีเป็นตัวเลขของพระองค์คอยคุ้มครองมนุษย์ผู้ชอบธรรมและพยายามกอบกู้ผูู้้หลงผิดอยู่
และพระองค์เองก็ทรงสถิตย์อยู่กับมนุษย์เพื่อปกป้อง คุ้มครอง ดูแล รักษา อวยพร เมตตา ฯลฯ แด่มนุษย์เช่นกัน
ไม่ว่าเทพอื่นใดหรือจะเป็นมารที่ไหนก็ไม่อาจยืนหยัดอยู่ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าพระเจ้าแท้จริงเพียงหนึ่งเดียวครับ
พระเจ้าของเรายิ่งใหญ่ที่สุดเหนือสรรพสิ่งทั้งมวลครับ
- Slave of God
- โพสต์: 336
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 02, 2008 10:47 pm
ขอใช่กระทู้หน่อยนะครับ เดี๋ยวตั้งกระทู้ใหม่มันจะรก อิอิ
ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะเอารูปปั้นของเทพอันหนึ่ง ไปไว้ไหนดี มีมาตั้งแต่ตอนเป็นศาสนาเดิม
พอกลับใจเลยเอาลงมาวางไว้ใต้ตู้อยู่นาน วันนี้ได้เวลาเก็บกวาดบ้านเตรียมรับคริสต์มาส
เลยไม่รู้จะเอาไปไว้ไหน แล้ววันนี้เพื่อนมาที่บ้านพอดี เลยถามว่าจะเอาไหม (ตอนแรกกะเอาไว้ประดับบ้าน แต่กลัวเป็นที่สดุด)
เพื่อนตอบว่าเอา เลยยกให้ไป
ถามครับ
ผมทำถูกไหมครับ
หมายความว่าเอาไปให้คนอื่นบูชาเหมือนส่งเสริมให้หันจากพระเจ้ามากเข้าไปอีก
ปล.ที่บ้านเหลืออีกพอสมควร กำลังหาวิธีที่ดีที่สุดอยู่
เพราะตอนนี้ในบ้านเป็นคาทอลิกแล้ว2คน เหลือคนเดียว
แต่ที่หนักใจที่สุดคือสิ่งเหล่านั้นเหมือนเป็นสมบัติของพ่อกะแม่ที่ให้ไว้นะซิครับ(อันที่ให้เพื่อนไปเป็นของผมเองครับเลยให้แบบไม่ต้องคิด)
ทุกวันนี้ที่เหลือก็อยู่ในตู้ทั้งหมดครับ
ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะเอารูปปั้นของเทพอันหนึ่ง ไปไว้ไหนดี มีมาตั้งแต่ตอนเป็นศาสนาเดิม
พอกลับใจเลยเอาลงมาวางไว้ใต้ตู้อยู่นาน วันนี้ได้เวลาเก็บกวาดบ้านเตรียมรับคริสต์มาส
เลยไม่รู้จะเอาไปไว้ไหน แล้ววันนี้เพื่อนมาที่บ้านพอดี เลยถามว่าจะเอาไหม (ตอนแรกกะเอาไว้ประดับบ้าน แต่กลัวเป็นที่สดุด)
เพื่อนตอบว่าเอา เลยยกให้ไป
ถามครับ
ผมทำถูกไหมครับ
หมายความว่าเอาไปให้คนอื่นบูชาเหมือนส่งเสริมให้หันจากพระเจ้ามากเข้าไปอีก
ปล.ที่บ้านเหลืออีกพอสมควร กำลังหาวิธีที่ดีที่สุดอยู่
เพราะตอนนี้ในบ้านเป็นคาทอลิกแล้ว2คน เหลือคนเดียว
แต่ที่หนักใจที่สุดคือสิ่งเหล่านั้นเหมือนเป็นสมบัติของพ่อกะแม่ที่ให้ไว้นะซิครับ(อันที่ให้เพื่อนไปเป็นของผมเองครับเลยให้แบบไม่ต้องคิด)
ทุกวันนี้ที่เหลือก็อยู่ในตู้ทั้งหมดครับ
อาจไม่ถูก100% แต่มันก็เป็นทางที่ดีที่สุด ของเก่าๆของผมก็ยังนึกเสียดายที่ไม่เอาไปให้คนอื่นข้า-พระ-เจ้า เขียน: ขอใช่กระทู้หน่อยนะครับ เดี๋ยวตั้งกระทู้ใหม่มันจะรก อิอิ
ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะเอารูปปั้นของเทพอันหนึ่ง ไปไว้ไหนดี มีมาตั้งแต่ตอนเป็นศาสนาเดิม
พอกลับใจเลยเอาลงมาวางไว้ใต้ตู้อยู่นาน วันนี้ได้เวลาเก็บกวาดบ้านเตรียมรับคริสต์มาส
เลยไม่รู้จะเอาไปไว้ไหน แล้ววันนี้เพื่อนมาที่บ้านพอดี เลยถามว่าจะเอาไหม (ตอนแรกกะเอาไว้ประดับบ้าน แต่กลัวเป็นที่สดุด)
เพื่อนตอบว่าเอา เลยยกให้ไป
ถามครับ
ผมทำถูกไหมครับ
หมายความว่าเอาไปให้คนอื่นบูชาเหมือนส่งเสริมให้หันจากพระเจ้ามากเข้าไปอีก
ปล.ที่บ้านเหลืออีกพอสมควร กำลังหาวิธีที่ดีที่สุดอยู่
เพราะตอนนี้ในบ้านเป็นคาทอลิกแล้ว2คน เหลือคนเดียว
แต่ที่หนักใจที่สุดคือสิ่งเหล่านั้นเหมือนเป็นสมบัติของพ่อกะแม่ที่ให้ไว้นะซิครับ(อันที่ให้เพื่อนไปเป็นของผมเองครับเลยให้แบบไม่ต้องคิด)
ทุกวันนี้ที่เหลือก็อยู่ในตู้ทั้งหมดครับ
แก้ไขล่าสุดโดย godlike เมื่อ พฤหัสฯ. ธ.ค. 17, 2009 7:29 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- Slave of God
- โพสต์: 336
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 02, 2008 10:47 pm
godlike เขียน:อาจไม่ถูก100% แต่มันก็เป็นทางที่ดีที่สุด ของเก่าๆของผมก็ยังนึกเสียดายที่ไม่เอาไปให้คนอื่นข้า-พระ-เจ้า เขียน: ขอใช่กระทู้หน่อยนะครับ เดี๋ยวตั้งกระทู้ใหม่มันจะรก อิอิ
ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะเอารูปปั้นของเทพอันหนึ่ง ไปไว้ไหนดี มีมาตั้งแต่ตอนเป็นศาสนาเดิม
พอกลับใจเลยเอาลงมาวางไว้ใต้ตู้อยู่นาน วันนี้ได้เวลาเก็บกวาดบ้านเตรียมรับคริสต์มาส
เลยไม่รู้จะเอาไปไว้ไหน แล้ววันนี้เพื่อนมาที่บ้านพอดี เลยถามว่าจะเอาไหม (ตอนแรกกะเอาไว้ประดับบ้าน แต่กลัวเป็นที่สดุด)
เพื่อนตอบว่าเอา เลยยกให้ไป
ถามครับ
ผมทำถูกไหมครับ
หมายความว่าเอาไปให้คนอื่นบูชาเหมือนส่งเสริมให้หันจากพระเจ้ามากเข้าไปอีก
ปล.ที่บ้านเหลืออีกพอสมควร กำลังหาวิธีที่ดีที่สุดอยู่
เพราะตอนนี้ในบ้านเป็นคาทอลิกแล้ว2คน เหลือคนเดียว
แต่ที่หนักใจที่สุดคือสิ่งเหล่านั้นเหมือนเป็นสมบัติของพ่อกะแม่ที่ให้ไว้นะซิครับ(อันที่ให้เพื่อนไปเป็นของผมเองครับเลยให้แบบไม่ต้องคิด)
ทุกวันนี้ที่เหลือก็อยู่ในตู้ทั้งหมดครับ
ส่วนของผม มันเป็นเหล็ก หนักด้วย
ปล. ช่วยลบให้ด้วยคนครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. ธ.ค. 17, 2009 8:11 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- เลย์
- โพสต์: 1845
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 05, 2009 12:27 am
- ที่อยู่: ในอ้อมพระหัตถ์พระเป็นเจ้า
- ติดต่อ:
เลย์ว่าทำถูกแล้วอ่าครับ เราให้คนอื่นที่เขานับถือ ดีกว่าที่เราเอาไปทิ้งตามโคนต้นไม้ ฯลฯ เป็นการให้เกียรติแด่
ศาสนาเดิม เลย์ก็เคยเช่าพระพุทธรูปให้พ่อแม่ของเลย์ไปบูชา ตอนแรกเลย์คิดว่ามันสมควรหรือป่าว ก็เลย
โทรศัพท์ไปถามคุณพ่อที่โปรดศีลล้างบาปให้เลย์ คุณพ่อบอกว่าได้และดีด้วยซ้ำไป
สรุปแล้ว เราสามารถยกให้คนอื่นบูชาได้ครับ ไม่บาป ไม่ผิด : emo045 :
ศาสนาเดิม เลย์ก็เคยเช่าพระพุทธรูปให้พ่อแม่ของเลย์ไปบูชา ตอนแรกเลย์คิดว่ามันสมควรหรือป่าว ก็เลย
โทรศัพท์ไปถามคุณพ่อที่โปรดศีลล้างบาปให้เลย์ คุณพ่อบอกว่าได้และดีด้วยซ้ำไป
สรุปแล้ว เราสามารถยกให้คนอื่นบูชาได้ครับ ไม่บาป ไม่ผิด : emo045 :
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. ธ.ค. 17, 2009 4:02 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- dark-kanita
- โพสต์: 317
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 18, 2007 2:37 pm
อิอิ แม้จะมีความเชื่อแบบสุดๆ แต่ว่าพวกปีศาจมันก็ไม่เคยละเว้นไครหรอกคะ
มันแจมตลอดตั้งแต่คนที่อยู่ในศิลในธรรมจนถึงคนชั่วแบบสุดๆ
แต่ถ้าเราเชื่อพระแบบจริงจังแล้ว พวกมันก็มาทำอะไรไม่ได้นะคะ
เพราะเรายังมัน่คงอยู่เสมอ
เห!! มีรูปเคารพเยอะหรือคะ เเหมเราเองก็เหมือนกันที่บ้านย่า ย่าให้เรามาเยอะแยะเลย มีรูปพระแปลกๆเยอะแยะเลยคะ ตั้งแต่รูปพระของฮินดู
เจ้าแม่กาลี และก็เทวรูปเขมร แต่ว่าจะให้เอาไปทิ้งขว้างก็เสียดาย เลยขอมาไว้เป็นของสะสม
แบบว่าเป็นคนชอมศิลปะมากๆเลยคะ ตัดไจทำไม่ลง ก็เลยเอาเก็บไว้ในตู้กระจก ร่วมกับ พวกหุ่นแล้วก็โมเดล กันดั้มนะคะ
แฮะ ๆๆ จะทำแบบหนูทำก็ได้นะคะ
(เห็นคุนค่างานศิลป์ อะคะ ไม่ได้เอาไปเคารพบูชาคะ555)
มันแจมตลอดตั้งแต่คนที่อยู่ในศิลในธรรมจนถึงคนชั่วแบบสุดๆ
แต่ถ้าเราเชื่อพระแบบจริงจังแล้ว พวกมันก็มาทำอะไรไม่ได้นะคะ
เพราะเรายังมัน่คงอยู่เสมอ
เห!! มีรูปเคารพเยอะหรือคะ เเหมเราเองก็เหมือนกันที่บ้านย่า ย่าให้เรามาเยอะแยะเลย มีรูปพระแปลกๆเยอะแยะเลยคะ ตั้งแต่รูปพระของฮินดู
เจ้าแม่กาลี และก็เทวรูปเขมร แต่ว่าจะให้เอาไปทิ้งขว้างก็เสียดาย เลยขอมาไว้เป็นของสะสม
แบบว่าเป็นคนชอมศิลปะมากๆเลยคะ ตัดไจทำไม่ลง ก็เลยเอาเก็บไว้ในตู้กระจก ร่วมกับ พวกหุ่นแล้วก็โมเดล กันดั้มนะคะ
แฮะ ๆๆ จะทำแบบหนูทำก็ได้นะคะ
(เห็นคุนค่างานศิลป์ อะคะ ไม่ได้เอาไปเคารพบูชาคะ555)
-
- โพสต์: 519
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 27, 2009 10:09 pm
ครับผมต้องเชื่อในพระองค์^^
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
-*- ปีศาจไม่เคยหลอกคนชั่วครับ (เพราะมันชั่วอยู่แระ) ยิ่งคุณถูกประจนล่อลวงมาก รู้ไว้เถอะครับว่าคุณกำลังเข้าใกล้พระเจ้ามากขึ้น (เพราะเหตุนี้มันเลยพยายามก่อกวนคุณนั่นแหละ)dark-kanita เขียน: อิอิ แม้จะมีความเชื่อแบบสุดๆ แต่ว่าพวกปีศาจมันก็ไม่เคยละเว้นไครหรอกคะ
มันแจมตลอดตั้งแต่คนที่อยู่ในศิลในธรรมจนถึงคนชั่วแบบสุดๆ
แต่ถ้าเราเชื่อพระแบบจริงจังแล้ว พวกมันก็มาทำอะไรไม่ได้นะคะ
เพราะเรายังมัน่คงอยู่เสมอ
เห!! มีรูปเคารพเยอะหรือคะ เเหมเราเองก็เหมือนกันที่บ้านย่า ย่าให้เรามาเยอะแยะเลย มีรูปพระแปลกๆเยอะแยะเลยคะ ตั้งแต่รูปพระของฮินดู
เจ้าแม่กาลี และก็เทวรูปเขมร แต่ว่าจะให้เอาไปทิ้งขว้างก็เสียดาย เลยขอมาไว้เป็นของสะสม
แบบว่าเป็นคนชอมศิลปะมากๆเลยคะ ตัดไจทำไม่ลง ก็เลยเอาเก็บไว้ในตู้กระจก ร่วมกับ พวกหุ่นแล้วก็โมเดล กันดั้มนะคะ
แฮะ ๆๆ จะทำแบบหนูทำก็ได้นะคะ
(เห็นคุนค่างานศิลป์ อะคะ ไม่ได้เอาไปเคารพบูชาคะ555)
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
เรื่องทุบพระ เลี่ยงพูดได้ก็ดีครับ
เพราะโดยสากล เราไม่ได้ทำแบบนั้น อีกอย่างมันทำร้ายจิตใจเพื่อนต่างศาสนาด้วย
ยังไง พระองค์ก็เป็นความรักนะครับ
เพราะโดยสากล เราไม่ได้ทำแบบนั้น อีกอย่างมันทำร้ายจิตใจเพื่อนต่างศาสนาด้วย
ยังไง พระองค์ก็เป็นความรักนะครับ
- Slave of God
- โพสต์: 336
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 02, 2008 10:47 pm
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. ธ.ค. 17, 2009 6:28 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- Slave of God
- โพสต์: 336
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 02, 2008 10:47 pm
Istamite เขียน: อย่ามีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลเลาะฮ์
-
- โพสต์: 519
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 27, 2009 10:09 pm
ดห็นด้วยกับพี่บอยครับBoYz - The Series เขียน: เรื่องทุบพระ เลี่ยงพูดได้ก็ดีครับ
เพราะโดยสากล เราไม่ได้ทำแบบนั้น อีกอย่างมันทำร้ายจิตใจเพื่อนต่างศาสนาด้วย
ยังไง พระองค์ก็เป็นความรักนะครับ
ถึงขนาดทุบแล้วเอาเท้าขยี้ แล้วทิ้งชักโครกเลยหรอครับgodlike เขียน:
อาจไม่ถูก100% แต่มันก็เป็นทางที่ดีที่สุด ของเก่าๆของผมก็ยังนึกเสียดายที่ไม่เอาไปให้คนอื่น ตอนนั้นโมโหพ่อแม่มากที่ขัดขวาง ผมทุบทิ้งเอาเท้าขยี้แล้วโยนลงชักโครกหมดเลยครับ ถึงตอนนี้มาคิดได้ ว่าถ้ามีคนที่เค้านับถือมารู้ เค้าจะคิดอย่างไร แต่ตอนนั้นมันระเบิดลงครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. ธ.ค. 17, 2009 8:06 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 1653
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 10, 2007 9:22 pm
- ที่อยู่: ไม่ใกล้ไม่ใกล้จากวัดอัสสัม-0-
สำหรับผม เชื่อพระนะ แต่ว่าส่วนมากยังทำทุกอย่างไม่ได้ดีอ่ะ แต่ก็พยายาม
ให้กิจการทุกอย่างเป็นไปตามพระประสงค์อ่ะคับ แม้ว่าจะมีดื้อๆบ้าง
พุ่งรู้ตัวว่าไม่ควรไปขุดเรื่องมาพูด พี่นัทโทษก๊าบ-/\-
ให้กิจการทุกอย่างเป็นไปตามพระประสงค์อ่ะคับ แม้ว่าจะมีดื้อๆบ้าง
พุ่งรู้ตัวว่าไม่ควรไปขุดเรื่องมาพูด พี่นัทโทษก๊าบ-/\-
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ ศุกร์ ธ.ค. 18, 2009 4:39 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Istamite เขียน: อย่ามีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลเลาะฮ์
แรงไปหรือป่าวนั่นmew เขียน:ถึงขนาดทุบแล้วเอาเท้าขยี้ แล้วทิ้งชักโครกเลยหรอครับgodlike เขียน:
อาจไม่ถูก100% แต่มันก็เป็นทางที่ดีที่สุด ของเก่าๆของผมก็ยังนึกเสียดายที่ไม่เอาไปให้คนอื่น ตอนนั้นโมโหพ่อแม่มากที่ขัดขวาง ผมทุบทิ้งเอาเท้าขยี้แล้วโยนลงชักโครกหมดเลยครับ ถึงตอนนี้มาคิดได้ ว่าถ้ามีคนที่เค้านับถือมารู้ เค้าจะคิดอย่างไร แต่ตอนนั้นมันระเบิดลงครับ
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
ผมต้องขอโทดอย่างมากอ่ะครับ ตอนนั้นโมโหขีดสุด เก็บกระเป๋าออกจากบ้านไปเลย แล้วก็มาเสียใจทีหลังว่ามันไม่ควรจริงๆ ขอพี่น้องอย่าถือโทษโกรธเหมารวมคริสตชนทั้งหมดนะครับ เพราะมันผิดที่ผมคนเดียวจริงๆmew เขียน:ถึงขนาดทุบแล้วเอาเท้าขยี้ แล้วทิ้งชักโครกเลยหรอครับ ::043::godlike เขียน:
อาจไม่ถูก100% แต่มันก็เป็นทางที่ดีที่สุด ของเก่าๆของผมก็ยังนึกเสียดายที่ไม่เอาไปให้คนอื่น ตอนนั้นโมโหพ่อแม่มากที่ขัดขวาง ผมทุบทิ้งเอาเท้าขยี้แล้วโยนลงชักโครกหมดเลยครับ ถึงตอนนี้มาคิดได้ ว่าถ้ามีคนที่เค้านับถือมารู้ เค้าจะคิดอย่างไร แต่ตอนนั้นมันระเบิดลงครับ
แก้ไขล่าสุดโดย godlike เมื่อ ศุกร์ ธ.ค. 18, 2009 2:00 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 519
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 27, 2009 10:09 pm
เหนด้วยครับsinner เขียน: น้องนัททำไปด้วยความไม่รู้ค่ะ ในตอนนั้น
แต่ปัจจุบันนัทเค้าเสียใจและสำนึกในสิ่งที่ทำไปแล้ว
น่าจะถือว่าจบได้แล้วนะคะ ดูที่เจตนาค่ะ และการขอโทษแล้ว
เราต้องให้อภัยค่ะ แล้วสันติสุจจะเกิด
ขอพระอวยพรค่ะ
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
หมิงคร๊าฟ เขียน:เหนด้วยครับsinner เขียน: น้องนัททำไปด้วยความไม่รู้ค่ะ ในตอนนั้น
แต่ปัจจุบันนัทเค้าเสียใจและสำนึกในสิ่งที่ทำไปแล้ว
น่าจะถือว่าจบได้แล้วนะคะ ดูที่เจตนาค่ะ และการขอโทษแล้ว
เราต้องให้อภัยค่ะ แล้วสันติสุจจะเกิด
ขอพระอวยพรค่ะ
-
- โพสต์: 519
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 27, 2009 10:09 pm
-
- โพสต์: 605
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 05, 2009 3:19 pm
- ที่อยู่: พเนจร
- ติดต่อ:
โหดร้าย ทารุณ สถุล กาก เกรียนมากมาย T^T
-
- โพสต์: 519
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 27, 2009 10:09 pm
ใจเยนครับเรื่องมันผ่านมานานแร้น5555Ryuichi เขียน: โหดร้าย ทารุณ สถุล กาก เกรียนมากมาย T^T
-
- โพสต์: 519
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 27, 2009 10:09 pm
ฮาราคีรี วิธีการฆ่าตัวตาย
ฮาราคีรี ....พวกเรารู้จักกันว่าเป็น วิธีการฆ่าตัวตายและวิธีการประหารชีวิต ของคนญี่ปุ่นในอดีต โดยเฉพาะสมัยที่มีซามุไรมากๆ ปัจจุบันนี้การฆ่าตัวตายด้วยวิธีนี้ยังมีอยู่หรือไม่ในสังคมญี่ปุ่น
ก่อนอื่นเรามารู้จักกับคํา ๆ นี้กันก่อนว่ารากศัพท์นี้มันมาจากไหน ฮาราคีรี มาจาก
ฮาระ แปลว่า ท้อง
คิริ ที่แปลว่า ตัด รวมๆแล้วความหมายก็คือ ตัดท้อง ภาษาญี่ปุ่น มีอีกคําหนึ่งซึ่งความหมายเดียวกันคือคําว่า
เส็บพุขุ
การ ประหารชีวิตและการฆ่าตัวตายด้วยวิธีนี้ เขาไม่ได้เอามีดแทงเข้าไปในท้องตัวเองเฉยๆ มันมีวิธีการที่เสียวกว่านั้นแทงท้องทางด้านซ้าย
รวบรวมพละกําลังที่มีเหลืออยู่ดึงมีดที่ปักอยู่ในท้องไปทางด้านขวา ตัดไส้ตัดพุงให้ขาด(ถ้าทําได้)
ถ้ายังไม่ตายให้ใช้พลังเฮือกสุดท้ายที่อาจจะยังเหลืออยู่ดึงมีดขึ้นข้างบน
แค่ นึกภาพก็เสียวแทนแล้ว แต่นี่ยังธรรมดา ถ้าย้อนไปในอดีต สมัยแรกๆที่นํา ฮาราคีรี มาเป็นวิธีการประหารชีวิต สมัยนู้น ฮาราคีรี มีถึง 3 รูปแบบ แบ่งประเภทตามลักษณะของตัวคันจิ เลขหนึ่ง เลขสิบ แล้วก็ เลขสาม คือตัดเป็นรูปตัวอักษรคันจินั่นเอง
แค่แทงเข้าท้องอย่างเดียวก็ เสียวแล้ว นี่ต้องลากมีดจากซ้ายไปขวาให้เป็นเลขหนึ่งอีก เลขหนึ่งอาจจะพอลุ้น แต่ถ้าเป็นรูปเลขสิบกับเลขสามนี่ คงต้องแทงท้อง ปักเข้าถอนออกกันหลายเที่ยวทีเดียวกว่าจะตายสมใจ ...ซวบ! เอ้า...ซวบอีกที ยังไม่พอ ขออีกที ซวบ! ฮือ... ขนลุก
จริงๆแล้วในการประหารชีวิตด้วย วิธีนี้ จะมีเพชรฆาตรอตัดหัวอยู่ด้านหลังเพื่อไม่ให้ทรมาน หลายคนบอกว่า มันเป็นเรื่องยากมากที่จะดึงมีดที่อยู่ในท้องขึ้นๆลงๆ เพราะมนุษย์เราคงทนพิษบาดแผลไม่ไหว ถ้าไม่ตายก่อนก็คงไม่มีกําลังเหลือพอที่จะทําเรื่องที่เหนือมนุษย์ ทําได้หรือไม่ได้...ความจริงเป็นอย่างไรไม่อาจทราบได้ แต่ถ้าเป็นจริง ก็ต้องทึ่งกับความเป็นเลือดซามุไรของคนญี่ปุ่นในอดีตจริงๆ
ในสมัย เอโดะ ก็เปลี่ยนรูปแบบเป็นแค่พิธีการอย่างเดียว คือ คนที่จะถูกประหารชีวิตจะนั่งบนเสื่อตาตามิ ข้างหน้าจะมี มีด หรือไม่ก็ พัด วางอยู่ แต่มีดนั้นก็ไม่ใช่มีดจริง เป็นมีดไม้ พอผู้ที่จะถูกประหารหยิบมีดหรือพัดขึ้นมา เพชรฆาตที่เตรียมตัวอยู่ด้านหลังก็ลงมีด ตัดหัวทันที คือ ฮาราคีรีในสมัยหลังๆเป็นเพียงแค่พิธีการเท่านั้น จริงๆแล้วก็คือการตัดหัวประหารชีวิตเหมือนบ้านเรานั่นเอง
ปัจจุบัน นี้ การฆ่าตัวตายของคนญี่ปุ่น ส่วนมากจะนิยมแขวนคอกันซะมากกว่า พูดว่านิยมคงไม่ดีเท่าไหร่คงต้องบอกว่าเป็นสถิติ เดี๋ยวนี้คนที่อยากตายจะไม่ทําอะไรที่มันหวาดเสียวเหมือนแต่ก่อน แต่...เมื่อหลายปีที่แล้วช่วงที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นอยู่ในช่วงทรุดหนัก พนักงานที่มีอายุในหลายๆบริษัทถูกบังคับให้ลาออก....แล้วก็มีคดีที่น่าหวาด เสียวเกิดขึ้นพนักงานคนหนึ่งของบริษัทแห่งหนึ่ง ทําฮาราคีรี แทงท้องตัวเองต่อหน้าผู้จัดการ คําพูดที่พนักงานคนนั้นทิ้งเอาไว้คือ.... ผมอุทิศทั้งกายและใจเพื่อบริษัทมาตลอด ทําไมต้องทํากับผมแบบนี้
เป็น คดีที่ดังมากในญี่ปุ่นตอนนั้น แน่นอนวิธีที่ชายคนนั้นฆ่าตัวตายก็เป็นอะไรที่คนญี่ปุ่นฟังแล้วต้องทึ่ง แต่เรื่องที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือ คดีนี้ได้บอกว่า ระบบการว่าจ้างตลอดชีพ ระบบการดูแลพนักงานตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาในบริษัทจนกระทั่งเกษียร และความรู้สึกของพนักงานต่อบริษัท ระบบหลายๆอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของสังคมญี่ปุ่น ...กําลังเริ่มสั่นคลอน
ฮาราคีรี ....พวกเรารู้จักกันว่าเป็น วิธีการฆ่าตัวตายและวิธีการประหารชีวิต ของคนญี่ปุ่นในอดีต โดยเฉพาะสมัยที่มีซามุไรมากๆ ปัจจุบันนี้การฆ่าตัวตายด้วยวิธีนี้ยังมีอยู่หรือไม่ในสังคมญี่ปุ่น
ก่อนอื่นเรามารู้จักกับคํา ๆ นี้กันก่อนว่ารากศัพท์นี้มันมาจากไหน ฮาราคีรี มาจาก
ฮาระ แปลว่า ท้อง
คิริ ที่แปลว่า ตัด รวมๆแล้วความหมายก็คือ ตัดท้อง ภาษาญี่ปุ่น มีอีกคําหนึ่งซึ่งความหมายเดียวกันคือคําว่า
เส็บพุขุ
การ ประหารชีวิตและการฆ่าตัวตายด้วยวิธีนี้ เขาไม่ได้เอามีดแทงเข้าไปในท้องตัวเองเฉยๆ มันมีวิธีการที่เสียวกว่านั้นแทงท้องทางด้านซ้าย
รวบรวมพละกําลังที่มีเหลืออยู่ดึงมีดที่ปักอยู่ในท้องไปทางด้านขวา ตัดไส้ตัดพุงให้ขาด(ถ้าทําได้)
ถ้ายังไม่ตายให้ใช้พลังเฮือกสุดท้ายที่อาจจะยังเหลืออยู่ดึงมีดขึ้นข้างบน
แค่ นึกภาพก็เสียวแทนแล้ว แต่นี่ยังธรรมดา ถ้าย้อนไปในอดีต สมัยแรกๆที่นํา ฮาราคีรี มาเป็นวิธีการประหารชีวิต สมัยนู้น ฮาราคีรี มีถึง 3 รูปแบบ แบ่งประเภทตามลักษณะของตัวคันจิ เลขหนึ่ง เลขสิบ แล้วก็ เลขสาม คือตัดเป็นรูปตัวอักษรคันจินั่นเอง
แค่แทงเข้าท้องอย่างเดียวก็ เสียวแล้ว นี่ต้องลากมีดจากซ้ายไปขวาให้เป็นเลขหนึ่งอีก เลขหนึ่งอาจจะพอลุ้น แต่ถ้าเป็นรูปเลขสิบกับเลขสามนี่ คงต้องแทงท้อง ปักเข้าถอนออกกันหลายเที่ยวทีเดียวกว่าจะตายสมใจ ...ซวบ! เอ้า...ซวบอีกที ยังไม่พอ ขออีกที ซวบ! ฮือ... ขนลุก
จริงๆแล้วในการประหารชีวิตด้วย วิธีนี้ จะมีเพชรฆาตรอตัดหัวอยู่ด้านหลังเพื่อไม่ให้ทรมาน หลายคนบอกว่า มันเป็นเรื่องยากมากที่จะดึงมีดที่อยู่ในท้องขึ้นๆลงๆ เพราะมนุษย์เราคงทนพิษบาดแผลไม่ไหว ถ้าไม่ตายก่อนก็คงไม่มีกําลังเหลือพอที่จะทําเรื่องที่เหนือมนุษย์ ทําได้หรือไม่ได้...ความจริงเป็นอย่างไรไม่อาจทราบได้ แต่ถ้าเป็นจริง ก็ต้องทึ่งกับความเป็นเลือดซามุไรของคนญี่ปุ่นในอดีตจริงๆ
ในสมัย เอโดะ ก็เปลี่ยนรูปแบบเป็นแค่พิธีการอย่างเดียว คือ คนที่จะถูกประหารชีวิตจะนั่งบนเสื่อตาตามิ ข้างหน้าจะมี มีด หรือไม่ก็ พัด วางอยู่ แต่มีดนั้นก็ไม่ใช่มีดจริง เป็นมีดไม้ พอผู้ที่จะถูกประหารหยิบมีดหรือพัดขึ้นมา เพชรฆาตที่เตรียมตัวอยู่ด้านหลังก็ลงมีด ตัดหัวทันที คือ ฮาราคีรีในสมัยหลังๆเป็นเพียงแค่พิธีการเท่านั้น จริงๆแล้วก็คือการตัดหัวประหารชีวิตเหมือนบ้านเรานั่นเอง
ปัจจุบัน นี้ การฆ่าตัวตายของคนญี่ปุ่น ส่วนมากจะนิยมแขวนคอกันซะมากกว่า พูดว่านิยมคงไม่ดีเท่าไหร่คงต้องบอกว่าเป็นสถิติ เดี๋ยวนี้คนที่อยากตายจะไม่ทําอะไรที่มันหวาดเสียวเหมือนแต่ก่อน แต่...เมื่อหลายปีที่แล้วช่วงที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นอยู่ในช่วงทรุดหนัก พนักงานที่มีอายุในหลายๆบริษัทถูกบังคับให้ลาออก....แล้วก็มีคดีที่น่าหวาด เสียวเกิดขึ้นพนักงานคนหนึ่งของบริษัทแห่งหนึ่ง ทําฮาราคีรี แทงท้องตัวเองต่อหน้าผู้จัดการ คําพูดที่พนักงานคนนั้นทิ้งเอาไว้คือ.... ผมอุทิศทั้งกายและใจเพื่อบริษัทมาตลอด ทําไมต้องทํากับผมแบบนี้
เป็น คดีที่ดังมากในญี่ปุ่นตอนนั้น แน่นอนวิธีที่ชายคนนั้นฆ่าตัวตายก็เป็นอะไรที่คนญี่ปุ่นฟังแล้วต้องทึ่ง แต่เรื่องที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือ คดีนี้ได้บอกว่า ระบบการว่าจ้างตลอดชีพ ระบบการดูแลพนักงานตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาในบริษัทจนกระทั่งเกษียร และความรู้สึกของพนักงานต่อบริษัท ระบบหลายๆอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของสังคมญี่ปุ่น ...กําลังเริ่มสั่นคลอน