ประสบการณ์น่ากลัวบนรถไฟฟ้า BTS

[Tuscany]

สวัสดีปีใหม่ 2010 ค่ะ คือสมัครสมาชิกที่นี้มาได้ซักระยะแล้ว เลยตัดสินใจขอความเห็นจากพี่น้องในที่นี้หน่อยนะคะ.

คือมีเรื่องเกิดขึ้นกับเราเมื่อหลายเดือนก่อนนี้จะเรียกได้ว่าโดนโรคจิตตามหรือเปล่าไม่แน่ใจ ช่วยวิเคราะห์กันหน่อยนะ?

เหตุเกิดบนสถานีรถไฟฟ้า BTS ณ สถานีหนึ่ง (ไม่ขอเอ่ย) เวลาประมาณ สองทุ่มนิดๆ

โปรดนึกภาพตาม

สถานการณ์เวลานั้นมีคนยืนรอรถไฟฟ้าประปราย เราเองก็กำลังยืนรอด้วยท่าทางขึงขังหันหน้าไปทิศที่รถไฟจะมา จู่ๆก็มีผู้ชายคนนึงมายืนรอเยื้องถัดจากเราไปด้านหน้าประมาณ 2-3 เมตร การแต่งตัวก็ดูเรียบร้อยดีออกแนวเมโทรฯแต๋วๆนิดๆ หน้าตาพอประมาณ ผมทรงเกาหลีๆ ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีครีมๆ ดูเนี้ยบมาก กางเกงขายาวก็ออกแนวออฟฟิศพอดีขาสีเทา รองเท้าหนังหัวแหลม ถือกระเป๋าแบบแนวๆออฟฟิศ เขามายืนรอรถไฟได้ซักพักหนึ่งก็หันมามองหน้าเราซักระยะ แล้วพอเราหันไปมองก็หลบสายตา พอเขามองมาเราก็หลบสายตาเขา หลังจากนั้นเราก็แอบมองด้วยหางตาประมาณว่าจะยังไงกับฉันเนี่ย ในตอนนั้นก็ไม่คิดอะไรมาก เราว่าเราแต่งตัวแอ๊บทอมแอ๊บแมนเพื่อความปลอดภัยแล้วนะ ทำไมยังมีผู้ชายมามองอีกแฮะ...?! หลังจากนั้นพอรถไฟฟ้ามาเราก็รีบเดินเฉิบๆเข้าไปพร้อมกับคนอื่นๆเลยแบบว่ากลัวๆนิดนึง เพราะรถว่างแบบว่ามันคือต้นทางไง เราเลือกที่นั่งติดกับประตูทางออกที่มีพลาสติกใสกั้นด้านซ้ายมือของเรานั้นแหละ พอนั่งได้ซักพักสายตามองกวาดไปรอบๆทั้งรถว่างมากๆมีคนนับหัวได้เลย แต่ละคนก็นั่งกระจายห่างกันไป ทันใดนั้น ไม่ถึง 3-4 วินาทีผู้ชายคนนั้น คนที่จ้องเราตั้งแต่รอรถนั้นแหละก็เดินเข้ามาแล้วมานั่งชิดติดกับเราทางด้านขวาเลย (คิดสภาพรถว่างมากๆที่นั่งเหลือบานเบอะ แต่หมอนี่ยังมานั่งชิดติดข้าง น่ากลัวมั้ยล่ะ) แล้วยังนั่งไขว่ห้างมาทางเรา แถมยังใส่หูฟังเพลงทำท่ากดเลือกเพลงจากมือถืออีกด้วย ประมาณว่ามาด้วยกันกับเราซะงั้น เรางี้อึดอัดน่าดู จะบอกให้เขาเขยิบไปนั่งห่างๆก็กลัวจะโดนด่ากลับ แต่ด้วยว่าจะลุกหนีย้ายไปนั่งที่อื่นก็หิ้วของพะรุงพะรังลำบากสุดๆ ก็เลยต้องทนนั่งหันหน้าไปทางอื่นแบบจำใจ (เราก็คิดในใจว่าเออมันชักแปลกๆยังไงๆอยู่นะ เมื่อไหร่จะถึงสถานีของเราซะทีจะได้จบๆ หวังว่าหมอนี่คงไม่ลงตามมาอีกนะ...) ทันใดนั้นเองพี่น้องพอถึงสถานีของเรา หมอนี่เดินออกตามเรามาอีก แต่คราวนี้เขาเดินลงบันไดนำหน้าไปอีกทางแล้ว ในใจคิดว่ารอดแล้วเรา แต่แล้วพอถึงตรงทางออกที่ต้องใส่บัตรคืนเครื่อง หมอนี่อีกแล้วมายืนรอแล้วทำท่าคุยโทรศัพท์อยู่ตรงบันไดทางลงไปที่ถนน เรางี้รีบวิ่งลงบันไดจนลืมของหนักกันเลยพี่น้อง แถมยังหันไปมองข้างหลังอีกเพราะไม่แน่ใจว่า เอจะเอาไงกับฉันกันเนี่ย....

คือว่าเราไม่แน่ใจว่า เราคิดไปเองว่าเขาเป็นโรคจิต หรือว่าคนกลัวผีบนรถไฟฟ้าเลยมานั่งข้างๆหรือเปล่า...มันคือประสบการณ์แรกที่บอกไม่ถูกจริงๆนะ หรือว่าเราจะมารยาทมากเกินไป แล้วพี่น้องคิดว่ามันออกแนวไหนกันแน่เนี่ย ทั้งกลัวทั้งงงมาหลายเดือนแล้ว...!?

แล้วถ้าเป็นพี่น้องจะแก้ไขสถานการณ์ที่เราเจอแบบนี้ยังไงดีล่ะ เผื่อคราวหน้าเราจะได้นำไปใช้ด้วย :)

ป.ล. ขอโทษที่เล่ายาวไปหน่อย คือต้อการให้เห็นภาพชัดเจน

[น้องทราย]

เปนผมมจะถามไปเลยว่า " มีปัญหาอาไรกะผมหรือป่าว เคลียได้ "

[Ministry Of Men]

เคสคล้ายกัน แต่บนรถเมล์

ผมยืน ผู้ชายอีกคนก็ยืน มันมองผม มองไรนักหนา ห่างกันเมตรนึง
ทางมันไกล แล้วมองๆหลบๆ

ผมเลยมองคืน จ้องเลย อารมณ์แบบ พร้อมมีเฮ

สักแป๊บโทรศัพท์ ไอ้นั่นดัง
..." อยู่บนร๊ดดด ตะเองงง หู๊ยยย....."  555+

Ok^^ Get! เลิกแล้วต่อกัน 555+ (ทำให้รู้ว่าเราหน้าตาดี)   



เรื่องนี้ขอเตือนใจ...

หลังจากกินงานเลี้ยง เงินไม่พอค่าแท็กซี่(พอแต่รถเมล์) (ผมจะไปพักที่เมืองทอง)
ผมหลงทาง และเวลาเที่ยงคืน รถหมด คนน้อย ทางเปรี่ยว มือถือแบตหมด

ที่อนุสาวรีย์มุ่งหน้าไปที่ไหนสักแห่ง... แล้วมีคนน้ำใจดีอาสาพาไปส่งขึ้นรถเมล์(หลอกไป) (เดินไกลมาก)
ระหว่างทางผมอ่อนแรง เค้ายื่นบุหรี่ให้ ผมก็รับไว้ ตอนนั้นยอมรับว่าเริ่มกลัว(ระหว่างทางเดินมีอยู่ 2 คน) (รถก็หายไปหมด)
เลยแกล้งดูดๆปลอมๆ แต่..บุหรี่เหมือนมียาปลุกเซก -*- แล้วอยู่ๆก็ชวนไปอ๊อฟสาว(เค้าบอกว่าฟรี) (แต่ผมว่าจะโดนขายซะมากกว่า)

ใจผมตอนนั้น "กรุแย่แน่เลย ตังค์ก็ไม่มีขึ้นแท็กซี่"
ผมปฏิเสธไป... คุมอารมณ์ตัวเอง... อธิษฐานกับพระเจ้าว่า "ลูกอยากกลับบ้าน ขอโปรดดูแลด้วย ลูกจนปัญญาแล้ว"

ตอนนั้น คิด2อย่าง จะกระทืบไอ้นี่แล้วเผ่น หรือเนียนเดินไปเรื่อยๆดี (แต่ก็ยังเดินไปเรื่อยๆ) (ผมเจอป้อมตำรวจ แต่ไม่มีตำรวจ )
เลยบอกกับพระเจ้าอีกที "ลูกไม่มีเงิน และต้องการขึ้นแท๊กซี่ เหนื่อยแล้ว แล้วไอ้นี่ก็หลอกเดินมาไกล.."
หลัง "อาเมน" อยู่ๆเค้าเรียกแท๊กซี่ และนั่งกลับไปทางเดิม ณ จุดที่เจอมัน(มันลงรถ) แถมให้ตังค์ค่าแท๊กซี่อีก และนั่งจนถึงปลายทาง 

สังคมเดี๋ยวนี้ ไว้ใจคนแปลกหน้าไม่ได้ ทำเหมือนดี มีน้ำใจ ถลำไปอาจซวยไม่จบไม่สิ้น
ตั้งแต่นั้นมา เลยทำ ATM พกเงินสดเยอะขึ้น โทรศัพท์หรูแบตอ่อนแอของโนเกีย เลิกใช้!! เลือกรุ่นแบตอึดหน่อยไว้ก่อน

ขอบคุณพระเจ้าที่รอดมาได้
และขอบคุณที่ผมทนได้ (เพิ่งรู้ว่า ที่พวกข่มขืนป้ายยามันทำเป็นงี้นี่เอง ร่างกายอยากแต่ใจปฏิเสธ) 

ปล.เรื่องนานผ่านมาหลายปีแล้ว 

[A Sheep]

ถ้าเป็นเพิร์ลๆจะยิ้ม แล้วโทรเรียกลูกพี่(พี่บอย)มาเคลียร์


ล้อเล่นนะค่ะ


ถ้าเป็นหนูๆคงหลอกมันอะ ว่าจะลงรถไฟฟ้าสถา่นีนี้แล้วพอมันเดินตามเราออกมาใช่ปะ


พอประตูรถจะปิดเราก็วิ่งหนีมันขึ้นรถไฟฟ้าทันที ฮ่าฮ่า


(คิดตื้นไปไหมเนี่ย??)





ว่าแต่ประสบการณ์พี่บอยก็น่ากลัวอะ

แล้วทำไมจู่ๆคนๆนั้นถึงยอมปล่อยพี่กลับง่ายๆอะ งงๆ

[Ministry Of Men]

พี่ก็งงเหมือนกัน

แต่เคยได้ยินคำพยานคริสเตียน เค้าก็ประมาณนี้อ่ะ

อะ เล่าหน่อย

คือ

ภรรยาเป็นคริสต์ สามีต่อต้าน เอาไบเบิลทิ้งน้ำ

คืนหนึ่ง สามีถือมีดมา จะฆ่าภรรยา โดยถามว่า พระเจ้ากับกูเลือกใคร

ภรรยาช็อค อธิษฐานพระเจ้า แบบที่พี่ทำ แล้วอยู่ๆ สามีก็นิ่ง ให้ภรรยาเอามีดออกจากมือได้ง่ายๆ


พระเจ้ายิ่งใหญ่นะ

เวลาใครจะแร่เนื้อเพิร์ลก็อธิษฐานแบบนี้แหละ

(พี่นึกถึง ท่าน ดาเนียลจริงๆ ความเชื่อแห่งความไว้ใจในพระเจ้า ยึดมั่นในความชอบธรรม)

[A Sheep]

เวลาใครจะแร่เนื้อเพิร์ลก็อธิษฐานแบบนี้แหละ

ทำไมต้องยกตัวอย่างเนื้อเพิร์ลทุกที 

[วอ]

ไม่สนใจแต่แรกแล้ว

[Jesus loves You]

เหอะๆ ทำตัวแปลกๆ

[Mobster]

ผมลองให้น้องสาวมาอ่าน มันก็ว่าน่ากลัวเหมือนกัน

----------

ประมาณว่ผมเป็นผู้ชาย เลยไม่คิดมากอะไร

กลัวแต่อย่างเดียว ไม่ชอบเลยที่ต้องนั่งชิดกับสตรี
มันเสี่ยงที่จะโดนตัวกับผมสูงมาก ไม่อยากผิดผีเลย> <

[Léon]

พี่ก็งงเหมือนกัน

แต่เคยได้ยินคำพยานคริสเตียน เค้าก็ประมาณนี้อ่ะ

อะ เล่าหน่อย

คือ

ภรรยาเป็นคริสต์ สามีต่อต้าน เอาไบเบิลทิ้งน้ำ

คืนหนึ่ง สามีถือมีดมา จะฆ่าภรรยา โดยถามว่า พระเจ้ากับกูเลือกใคร

ภรรยาช็อค อธิษฐานพระเจ้า แบบที่พี่ทำ แล้วอยู่ๆ สามีก็นิ่ง ให้ภรรยาเอามีดออกจากมือได้ง่ายๆ


พระเจ้ายิ่งใหญ่นะ

เวลาใครจะแร่เนื้อเพิร์ลก็อธิษฐานแบบนี้แหละ

(พี่นึกถึง ท่าน ดาเนียลจริงๆ ความเชื่อแห่งความไว้ใจในพระเจ้า ยึดมั่นในความชอบธรรม)

น่าจะมีเคส มรณสักขี เยอะกว่า

[Istamite]

คิดมากไปเองหรือป่าว

[Valkyrie Zero Number]

พี่ก็งงเหมือนกัน

แต่เคยได้ยินคำพยานคริสเตียน เค้าก็ประมาณนี้อ่ะ

อะ เล่าหน่อย

คือ

ภรรยาเป็นคริสต์ สามีต่อต้าน เอาไบเบิลทิ้งน้ำ

คืนหนึ่ง สามีถือมีดมา จะฆ่าภรรยา โดยถามว่า พระเจ้ากับกูเลือกใคร

ภรรยาช็อค อธิษฐานพระเจ้า แบบที่พี่ทำ แล้วอยู่ๆ สามีก็นิ่ง ให้ภรรยาเอามีดออกจากมือได้ง่ายๆ


พระเจ้ายิ่งใหญ่นะ

เวลาใครจะแร่เนื้อเพิร์ลก็อธิษฐานแบบนี้แหละ

(พี่นึกถึง ท่าน ดาเนียลจริงๆ ความเชื่อแห่งความไว้ใจในพระเจ้า ยึดมั่นในความชอบธรรม)

น่าจะมีเคส มรณสักขี เยอะกว่า

จริง ๆ ก็มีอยู่หลายกรณีที่เกิดขึ้นในที่ลับนะเนี่ย เรื่องคนที่ทำตัวอิจฉาพระเจ้าถึงขนาดจะฆ่าแกงกัน

แต่เมื่อมีมรณสักขีเกิดขึ้น คนที่ฆ่าหากไม่กลับใจ ก็เดาโทษมันออก การที่มันยอมก็นับว่าพระเจ้าใจดีแล้วที่เปลี่ยนใจมัน ถือว่าเมตตา

เพราะถ้าสมมติเราเป็นทูตสวรรค์ เห็นคนที่เป็นภรรยาตายเมื่อไหร่ คงแล่เนื้อสามีโยนลงนรกในไม่เกินสามสิบวินาที

(จะว่าเราโหดก็ได้ แต่เราเกลียดชังความชั่วช้า และคนที่ไม่ยอมกลับใจแถมยังหันดาบใส่ คือศัตรูอยู่ดี ไม่คิดแบบนี้ก็จะปกป้องใครไม่ได้หรอก)

[Mobster]

(จะว่าเราโหดก็ได้ แต่เราเกลียดชังความชั่วช้า และคนที่ไม่ยอมกลับใจแถมยังหันดาบใส่ คือศัตรูอยู่ดี ไม่คิดแบบนี้ก็จะปกป้องใครไม่ได้หรอก)

[Ministry Of Men]

พี่ก็งงเหมือนกัน

แต่เคยได้ยินคำพยานคริสเตียน เค้าก็ประมาณนี้อ่ะ

อะ เล่าหน่อย

คือ

ภรรยาเป็นคริสต์ สามีต่อต้าน เอาไบเบิลทิ้งน้ำ

คืนหนึ่ง สามีถือมีดมา จะฆ่าภรรยา โดยถามว่า พระเจ้ากับกูเลือกใคร

ภรรยาช็อค อธิษฐานพระเจ้า แบบที่พี่ทำ แล้วอยู่ๆ สามีก็นิ่ง ให้ภรรยาเอามีดออกจากมือได้ง่ายๆ


พระเจ้ายิ่งใหญ่นะ

เวลาใครจะแร่เนื้อเพิร์ลก็อธิษฐานแบบนี้แหละ

(พี่นึกถึง ท่าน ดาเนียลจริงๆ ความเชื่อแห่งความไว้ใจในพระเจ้า ยึดมั่นในความชอบธรรม)

น่าจะมีเคส มรณสักขี เยอะกว่า

พระเจ้ามีแผนการณ์ยิ่งใหญ่

สามีคนนี้ กลับใจมาเชื่อพระเจ้า ในเวลาต่อมาครับ อิอิ

แต่ถ้าเป็นพวกคนชั่ว เข่นฆ่าคริสตชนแบบ้าเลือด หรือ ใครเป็นคริสต์ฆ่าเม่งหมด
อันนั้น ผมก็ยอมเป็น มรณสักขี

แต่ถ้ากรณีนี้ คือคนในบ้านเอง เราใช้ความรัก + ความอดทน ต่อเขา

แต่ถ้าพวกเข่นฆ่าล้างพันธ์คริสต์ แอนตี้คริสต์ พวกนี้ ผมนิ่งให้มันทำอย่างเดียวดีกว่า ยอมเป็นมรณะสักขี

[Valkyrie Zero Number]

พี่ก็งงเหมือนกัน

แต่เคยได้ยินคำพยานคริสเตียน เค้าก็ประมาณนี้อ่ะ

อะ เล่าหน่อย

คือ

ภรรยาเป็นคริสต์ สามีต่อต้าน เอาไบเบิลทิ้งน้ำ

คืนหนึ่ง สามีถือมีดมา จะฆ่าภรรยา โดยถามว่า พระเจ้ากับกูเลือกใคร

ภรรยาช็อค อธิษฐานพระเจ้า แบบที่พี่ทำ แล้วอยู่ๆ สามีก็นิ่ง ให้ภรรยาเอามีดออกจากมือได้ง่ายๆ


พระเจ้ายิ่งใหญ่นะ

เวลาใครจะแร่เนื้อเพิร์ลก็อธิษฐานแบบนี้แหละ

(พี่นึกถึง ท่าน ดาเนียลจริงๆ ความเชื่อแห่งความไว้ใจในพระเจ้า ยึดมั่นในความชอบธรรม)

น่าจะมีเคส มรณสักขี เยอะกว่า

พระเจ้ามีแผนการณ์ยิ่งใหญ่

สามีคนนี้ กลับใจมาเชื่อพระเจ้า ในเวลาต่อมาครับ อิอิ

แต่ถ้าเป็นพวกคนชั่ว เข่นฆ่าคริสตชนแบบ้าเลือด หรือ ใครเป็นคริสต์ฆ่าเม่งหมด
อันนั้น ผมก็ยอมเป็น มรณสักขี

แต่ถ้ากรณีนี้ คือคนในบ้านเอง เราใช้ความรัก + ความอดทน ต่อเขา

แต่ถ้าพวกเข่นฆ่าล้างพันธ์คริสต์ แอนตี้คริสต์ พวกนี้ ผมนิ่งให้มันทำอย่างเดียวดีกว่า ยอมเป็นมรณะสักขี

ดูเหมือนคนละไทป์กับเรานะ

เผอิญเราไม่ชอบให้ใครมารังแก ไม่ใช่แค่ตัวเอง แต่คนที่รังแกเพื่อนพี่น้องเรา หรือคิดร้ายต่อพระเจ้าของเรา ก็เท่ากับทำกับเราซะด้วยสิ

ถือว่าเป็นการ "หาเรื่อง"

[Ministry Of Men]

น่าจะมีเคส มรณสักขี เยอะกว่า

พระเจ้ามีแผนการณ์ยิ่งใหญ่

สามีคนนี้ กลับใจมาเชื่อพระเจ้า ในเวลาต่อมาครับ อิอิ

แต่ถ้าเป็นพวกคนชั่ว เข่นฆ่าคริสตชนแบบ้าเลือด หรือ ใครเป็นคริสต์ฆ่าเม่งหมด
อันนั้น ผมก็ยอมเป็น มรณสักขี

แต่ถ้ากรณีนี้ คือคนในบ้านเอง เราใช้ความรัก + ความอดทน ต่อเขา

แต่ถ้าพวกเข่นฆ่าล้างพันธ์คริสต์ แอนตี้คริสต์ พวกนี้ ผมนิ่งให้มันทำอย่างเดียวดีกว่า ยอมเป็นมรณะสักขี

ดูเหมือนคนละไทป์กับเรานะ

เผอิญเราไม่ชอบให้ใครมารังแก ไม่ใช่แค่ตัวเอง แต่คนที่รังแกเพื่อนพี่น้องเรา หรือคิดร้ายต่อพระเจ้าของเรา ก็เท่ากับทำกับเราซะด้วยสิ

ถือว่าเป็นการ "หาเรื่อง"

ถ้าไม่ใช่การทนทุกข์ หรือยอมตาย เพื่อ รักษาความเชื่อในพระคริสต์
อันนั้น ก็อีกเคสนะครับ 

[(⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)]

น่ากลัวนะค่ะ มันอาจจะมาจีบ รึไม่รู้สิ มันจะมาไม้ไหนนะ

[Holy]

เคสคล้ายกัน แต่บนรถเมล์

ผมยืน ผู้ชายอีกคนก็ยืน มันมองผม มองไรนักหนา ห่างกันเมตรนึง
ทางมันไกล แล้วมองๆหลบๆ

ผมเลยมองคืน จ้องเลย อารมณ์แบบ พร้อมมีเฮ

สักแป๊บโทรศัพท์ ไอ้นั่นดัง
..." อยู่บนร๊ดดด ตะเองงง หู๊ยยย....."  555+

Ok^^ Get! เลิกแล้วต่อกัน 555+ (ทำให้รู้ว่าเราหน้าตาดี)  : emo056 :  : xemo033 :

เขาอาจจะตะลึงในความขี้เหร่ก็ได้ครับ อาจกะลังพูดต่อกะเพื่อนว่า "หู๊ย เจอผู้ชายคนนึง หน้าปลาเก๋าทอดมากเลยเธอ มามองชั้นตอบแบบมีอารมณ์(??)ด้วยล่ะ" อะไรแบบนี้

สำหรับเรื่องหัวข้อกระทู้ที่เล่า หากมองในอีกแง่นึง

ในกรณีผู้ชายที่แต่งองค์ทรงเครื่องซะขนาดนั้น แล้วคุณพิเคราะห์ว่าเขาแต๋ว ในขณะเดียวกันคุณบอกว่าคุณแต่งทอมแอ๊บแมน จึงอาจเป็นไปได้ว่า เขาคิดว่าคุณเป็น ผู้ชายผิวเนียน แล้วอาจคิดว่าใช่แน่แล้ว

แล้วอาจกำลังอินจากหนัง รถไฟฟ้ามาหานะต๊ะเอง คาดหวังจะมีโอกาศพบรักบนรถไฟฟ้าแบบเหม่ยลี่ และเห็นคุณเป็นตัวแทนพี่เคน จึงพยายามทอดสะพานคอนกรีตเสริมใยเหล็กให้ ซึ่งหากคุณเป็นชาย ตามที่เขาคาดหวัง ก็อาจไม่สะทกสะท้านอะไรมากกับเหตุการณ์นี้ แต่ด้วยความที่คุณเป็นผู้หญิง และไม่ได้คิดว่ากำลังจะได้เพื่อนสาวคนใหม่ จึงเกิดอาการสะพรึง

แต่อย่างไรก็ตาม หลักการแห่งโลกปัจจุบันคือ อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า (โดยเฉพาะคนหน้าแปลกแบบคุณบอย) การลุกหนี เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ และควรทำ ตำแหน่งปลอดภัยควรนั่งด้านตรงข้าม และเยื้องกับบุคคลที่สงสัยเล็กน้อย เพราะจะสามารถสังเกตุพฤติกรรมของเขาได้โดยไม่ต้องจ้องหน้าเขาตรงๆ โดยเพียงมองไปก็เห็นทุกอย่างอยู่ทางปลายสายตาโดยไม่ต้องเหลือบหรือคอยหันมองข้างๆ


อย่าคิดว่าทำตัวเป็นผู้ชายแล้วจะปลอดภัย สมัยนี้ผู้ชายก็มีภัยแบบเดียวกับผู้หญิงแล้ว อย่าประมาทครับ

[Ministry Of Men]

^
^
^
^

อ่านแล้ว ขำเลย 55555+        (ยกเว้นในวงเล็บนะ)     

ปล.เห็นด้วยครับ หลบๆไว้ เดี๋ยวนี้ผมก็หลบดีกว่า เพราะเดี๋ยวนี้คนเรามีอาวุธอะไรแปลกๆด้วย 

ที่เคยเห็นข่าวล่าสุดคือ เอาน้ำอะไรป้ายผิวนิดเดียว แล้วเหมือนสะกดจิต (แปลกดี ของแบบนี้ก็มีด้วย) 

ยังไง ขอพระเจ้าคุ้มครองพี่น้องทุกคน 

[Tuscany]

เปนผมมจะถามไปเลยว่า " มีปัญหาอาไรกะผมหรือป่าว เคลียได้ "

ขอบคุณที่กรุณาตอบกลับนะคะ
ถ้าเราเป็นผู้ชายและตัวสูงกว่าเขา เราก็คงจะรวบรวมความกล้าพูดออกไปแบบที่คุณพี่กล่าวมาค่ะ  แต่ปัญหาคือเราเป็นผู้หญิงตัวเล็กกว่าเขาอ่ะนะ เขาสูงประมาณ 170 อัพ แถมไม่รู้ว่าถ้าเกิดเขาเอาเรื่องขึ้นมา เราอาจจะโดนตบ (ถ้าเขาเป็นแต๋ว) หรือโดนชก (ถ้าเขาเป็นแมน) คงไม่มีใครช่วยเราแน่เพราะคนบนรถมีน้อยมากๆ ผู้ชายที่นั่งใกล้สุดห่างออกไปเกือบ 7 เมตรแถมใส่หูฟังเพลงอีกต่างหาก แต่ละคนก็นั่งห่างกันเป็นโยชน์ ทำไงได้สังคมสมัยนี้ค่อนข้างตัวใครตัวมัน ไม่ค่อยจะมีใครสนใจคิดช่วยเหลือใครกันเท่าไหร่ เป็นธรรมดาที่ทุกคนย่อมห่วงสวัสดิภาพความปลอดภัยของตัวเอง เราเองก็ต้องเซฟตัวเองไว้ก่อนด้วยความสงบเสงี่ยม แต่ถ้าคราวหน้าเจอตัวเท่ากันก็ไม่แน่อาจนำไปใช้ได้ค่ะ

[Tuscany]

เคสคล้ายกัน แต่บนรถเมล์

ผมยืน ผู้ชายอีกคนก็ยืน มันมองผม มองไรนักหนา ห่างกันเมตรนึง
ทางมันไกล แล้วมองๆหลบๆ

ผมเลยมองคืน จ้องเลย อารมณ์แบบ พร้อมมีเฮ

สักแป๊บโทรศัพท์ ไอ้นั่นดัง
..." อยู่บนร๊ดดด ตะเองงง หู๊ยยย....."  555+

Ok^^ Get! เลิกแล้วต่อกัน 555+ (ทำให้รู้ว่าเราหน้าตาดี)   



เรื่องนี้ขอเตือนใจ...

หลังจากกินงานเลี้ยง เงินไม่พอค่าแท็กซี่(พอแต่รถเมล์) (ผมจะไปพักที่เมืองทอง)
ผมหลงทาง และเวลาเที่ยงคืน รถหมด คนน้อย ทางเปรี่ยว มือถือแบตหมด

ที่อนุสาวรีย์มุ่งหน้าไปที่ไหนสักแห่ง... แล้วมีคนน้ำใจดีอาสาพาไปส่งขึ้นรถเมล์(หลอกไป) (เดินไกลมาก)
ระหว่างทางผมอ่อนแรง เค้ายื่นบุหรี่ให้ ผมก็รับไว้ ตอนนั้นยอมรับว่าเริ่มกลัว(ระหว่างทางเดินมีอยู่ 2 คน) (รถก็หายไปหมด)
เลยแกล้งดูดๆปลอมๆ แต่..บุหรี่เหมือนมียาปลุกเซก -*- แล้วอยู่ๆก็ชวนไปอ๊อฟสาว(เค้าบอกว่าฟรี) (แต่ผมว่าจะโดนขายซะมากกว่า)

ใจผมตอนนั้น "กรุแย่แน่เลย ตังค์ก็ไม่มีขึ้นแท็กซี่"
ผมปฏิเสธไป... คุมอารมณ์ตัวเอง... อธิษฐานกับพระเจ้าว่า "ลูกอยากกลับบ้าน ขอโปรดดูแลด้วย ลูกจนปัญญาแล้ว"

ตอนนั้น คิด2อย่าง จะกระทืบไอ้นี่แล้วเผ่น หรือเนียนเดินไปเรื่อยๆดี (แต่ก็ยังเดินไปเรื่อยๆ) (ผมเจอป้อมตำรวจ แต่ไม่มีตำรวจ )
เลยบอกกับพระเจ้าอีกที "ลูกไม่มีเงิน และต้องการขึ้นแท๊กซี่ เหนื่อยแล้ว แล้วไอ้นี่ก็หลอกเดินมาไกล.."
หลัง "อาเมน" อยู่ๆเค้าเรียกแท๊กซี่ และนั่งกลับไปทางเดิม ณ จุดที่เจอมัน(มันลงรถ) แถมให้ตังค์ค่าแท๊กซี่อีก และนั่งจนถึงปลายทาง 

สังคมเดี๋ยวนี้ ไว้ใจคนแปลกหน้าไม่ได้ ทำเหมือนดี มีน้ำใจ ถลำไปอาจซวยไม่จบไม่สิ้น
ตั้งแต่นั้นมา เลยทำ ATM พกเงินสดเยอะขึ้น โทรศัพท์หรูแบตอ่อนแอของโนเกีย เลิกใช้!! เลือกรุ่นแบตอึดหน่อยไว้ก่อน

ขอบคุณพระเจ้าที่รอดมาได้
และขอบคุณที่ผมทนได้ (เพิ่งรู้ว่า ที่พวกข่มขืนป้ายยามันทำเป็นงี้นี่เอง ร่างกายอยากแต่ใจปฏิเสธ) 

ปล.เรื่องนานผ่านมาหลายปีแล้ว 

ขอบคุณที่กรุณาตอบกลับและแบ่งปันประสบการณ์ที่น่ากลัวนะคะ
เรื่องแรกของคุณพี่ที่เกิดขึ้นบนรถเมล์ อ่านแล้วทำให้เราหัวเราะได้เป็นครั้งแรกของปี 53
แต่ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นจะมองคุณพี่นานกว่า 8.2 วินาทีหรือเปล่า หรือโทรศัพท์เพื่อนเขาโทรมาขัดจังหวะซะก่อน 

ส่วนเรื่องที่สอง ขอบอกว่าเป็นสถานการณ์ที่น่ากลัวจริงๆ  กลับดึก หลงทาง อยู่ลึกในซอยเปลี่ยวโดดเดี่ยวอยู่อย่างนี้ไม่มีผู้คน แถมมือถือแบตหมด ถ้าเกิดกับเราเองคงตื่นเต้นสุดๆไปเลยค่ะ แต่โชคดีที่คุณพี่มีสติอย่างมากและที่สำคัญพระเจ้าจะคอยช่วยเหลือพวกเราเสมอ ทุกเหตุการณ์จึงผ่านไปได้อย่างราบรื่นด้วยดี ดังนั้นจากเหตุการณ์นี้ทำให้เราเองต้องระวังว่าถ้าต้องเดินทางไปที่ไหนไกลๆ ต่อไปต้องติดมือถือสำรองเผื่อไปอีกเครื่องเพื่อความมั่นใจ 

[Tuscany]

ถ้าเป็นเพิร์ลๆจะยิ้ม แล้วโทรเรียกลูกพี่(พี่บอย)มาเคลียร์


ล้อเล่นนะค่ะ


ถ้าเป็นหนูๆคงหลอกมันอะ ว่าจะลงรถไฟฟ้าสถา่นีนี้แล้วพอมันเดินตามเราออกมาใช่ปะ


พอประตูรถจะปิดเราก็วิ่งหนีมันขึ้นรถไฟฟ้าทันที ฮ่าฮ่า


(คิดตื้นไปไหมเนี่ย??)





ว่าแต่ประสบการณ์พี่บอยก็น่ากลัวอะ

แล้วทำไมจู่ๆคนๆนั้นถึงยอมปล่อยพี่กลับง่ายๆอะ งงๆ

ขอบคุณที่กรุณาตอบกลับนะคะ
ถ้าคราวหน้าเจอแบบนี้อีกแล้วข้าวของไม่พะรุงพะรัง จะนำวิธีของคุณหนูเพิร์ลไปประยุกต์ใช้แน่นอนคะ เอาแบบหลอกไปหลอกมาให้งงกันไปเลย  แต่ถ้าเราเดินออกไปแล้ว เขาเดินตามออกมาด้วย แล้วเราวิ่งกลับก่อนประตูรถจะปิด แล้วเขาดันวิ่งกลับตามเข้ามาทัน อันนี้คงน่ากลัวมากๆทีเดียว แต่ว่ายังไงซะเราก็หวังว่าอย่าได้เจออะไรแบบนั้นเลย เพราะไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ

[Tuscany]

ไม่สนใจแต่แรกแล้ว

คิดมากไปเองหรือป่าว

เหอะๆ ทำตัวแปลกๆ

น่ากลัวนะค่ะ มันอาจจะมาจีบ รึไม่รู้สิ มันจะมาไม้ไหนนะ

ขอบคุณที่กรุณาตอบกลับนะคะ
ตอนแรกก็คิดเหมือนกันว่าไม่อยากจะสนใจหรือใส่ใจเลยจริงๆคะ แต่ด้วยความที่ดูหนังมาก แล้วที่บ้านผู้ใหญ่ก็มักสอนว่าเวลาไปไหนมาไหนคนเดียวต้องคอยระมัดระวังตัว อย่ามองโลกในแง่ดีจนเกินไปจะเป็นภัยแก่ตัวเอง อย่าทำตัวเอ๋อ ยืน เดินเหม่อลอย แต่ต้องคอยสังเกตุผู้คนรอบข้างและประเมินสถานการณ์รอบๆตัว เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าเราเองอาจจะกำลังดวงตกกลายเป็นเหยื่อหรือเป้าหมายหรืออะไรก็ตามของผู้ที่คิดบางอย่างกับเราอยู่ในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง (ซึ่งก็ไม่ค่อยจะมีเท่าไหร่อยู่แล้ว...) บางครั้งก็อยากจะคิดว่าตัวเองคิดมากไปหรือเปล่า แต่ถ้าลองประเมินเหตุการณ์และสภาพแวดล้อมโดยรวมแล้ว มีคนแปลกหน้าซักคนมาแสดงพฤติกรรมแปลกๆที่แตกต่างจากบุคคลปกติทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด อย่างจ้องมองเรานานผิดปกติ มากกว่าการมองผ่านๆอย่างคนอื่นๆ  พอเรามองไปก็หลบสายตา พอเราไม่มองเขาก็มองมาใหม่อยู่หลายครั้ง พยายามเข้ามายืน เดินวนใกล้ๆตัว ทั้งๆมีที่ออกกว้างขวางไม่มีคนเบียดเสียดแออัดยัดเยียด และยังตามมานั่งชิดติดข้างทั้งๆที่คนอื่นๆเลือกที่จะนั่งห่างๆกัน มันก็เลยชักจะรู้สึกแปลกๆ เหมือนมันมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น แต่จะดีหรือร้ายต้องคอยเก็บรายละเอียดต่างๆต่อไป แล้วมาประมวลสถานการณ์โดยรวมอีกที เพียงแต่คำตอบที่ได้มันไม่ชัดเจนถึงเจตนาว่าต้องการอะไรกันแน่นั้นแหละที่ทำให้เหตุการณ์มันดูน่ากลัว แต่จะว่าเขาเข้ามาจีบหรือเปล่าอันนี้ก็ไม่แน่ใจ แต่ไม่ว่าเขาจะมีจุดประสงค์อะไรก็ตามมันทำให้เรานอยด์จนต้องเปลี่ยนเวลาออกไปทำธุระตอนกลางวันให้เร็วขึ้นและกลับก่อนตะวันตกดิน ไม่เอาอีกแล้วกลับบ้านด้วยรถไฟฟ้าตอนคนโหลงเหลง น่ากลัวจริงๆ

[Valkyrie Zero Number]

นึกถึงวันนึง ที่โทรคุยกับแฟน ช่วงที่แฟนขึ้นรถกลับบ้านแล้วง่วง เกือบจะงีบ

เราถามเลยว่า ไม่กลัวโดนทำมิดีมิร้ายบนรถเหรอ (ตอนนั้นเจ้าตัวดันเดินทางคนเดียวอีก)

ไป ๆ มา ๆ เพื่อความปลอดภัยของที่รัก เราก็เลยเป็นเพื่อนคุยให้เค้าไม่หลับ จนรถถึงที่หมาย

มีแฟนเป็นพวกไม่คิดอะไรมากนี่ก็ลำบากเหมือนกันนะ สมัยนี้ยิ่งมีภัยเยอะอยู่

[Tuscany]

เคสคล้ายกัน แต่บนรถเมล์

ผมยืน ผู้ชายอีกคนก็ยืน มันมองผม มองไรนักหนา ห่างกันเมตรนึง
ทางมันไกล แล้วมองๆหลบๆ

ผมเลยมองคืน จ้องเลย อารมณ์แบบ พร้อมมีเฮ

สักแป๊บโทรศัพท์ ไอ้นั่นดัง
..." อยู่บนร๊ดดด ตะเองงง หู๊ยยย....."  555+

Ok^^ Get! เลิกแล้วต่อกัน 555+ (ทำให้รู้ว่าเราหน้าตาดี)  : emo056 :  : xemo033 :

เขาอาจจะตะลึงในความขี้เหร่ก็ได้ครับ อาจกะลังพูดต่อกะเพื่อนว่า "หู๊ย เจอผู้ชายคนนึง หน้าปลาเก๋าทอดมากเลยเธอ มามองชั้นตอบแบบมีอารมณ์(??)ด้วยล่ะ" อะไรแบบนี้

สำหรับเรื่องหัวข้อกระทู้ที่เล่า หากมองในอีกแง่นึง

ในกรณีผู้ชายที่แต่งองค์ทรงเครื่องซะขนาดนั้น แล้วคุณพิเคราะห์ว่าเขาแต๋ว ในขณะเดียวกันคุณบอกว่าคุณแต่งทอมแอ๊บแมน จึงอาจเป็นไปได้ว่า เขาคิดว่าคุณเป็น ผู้ชายผิวเนียน แล้วอาจคิดว่าใช่แน่แล้ว

แล้วอาจกำลังอินจากหนัง รถไฟฟ้ามาหานะต๊ะเอง คาดหวังจะมีโอกาศพบรักบนรถไฟฟ้าแบบเหม่ยลี่ และเห็นคุณเป็นตัวแทนพี่เคน จึงพยายามทอดสะพานคอนกรีตเสริมใยเหล็กให้ ซึ่งหากคุณเป็นชาย ตามที่เขาคาดหวัง ก็อาจไม่สะทกสะท้านอะไรมากกับเหตุการณ์นี้ แต่ด้วยความที่คุณเป็นผู้หญิง และไม่ได้คิดว่ากำลังจะได้เพื่อนสาวคนใหม่ จึงเกิดอาการสะพรึง

แต่อย่างไรก็ตาม หลักการแห่งโลกปัจจุบันคือ อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า (โดยเฉพาะคนหน้าแปลกแบบคุณบอย) การลุกหนี เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ และควรทำ ตำแหน่งปลอดภัยควรนั่งด้านตรงข้าม และเยื้องกับบุคคลที่สงสัยเล็กน้อย เพราะจะสามารถสังเกตุพฤติกรรมของเขาได้โดยไม่ต้องจ้องหน้าเขาตรงๆ โดยเพียงมองไปก็เห็นทุกอย่างอยู่ทางปลายสายตาโดยไม่ต้องเหลือบหรือคอยหันมองข้างๆ


อย่าคิดว่าทำตัวเป็นผู้ชายแล้วจะปลอดภัย สมัยนี้ผู้ชายก็มีภัยแบบเดียวกับผู้หญิงแล้ว อย่าประมาทครับ

ขอบคุณที่กรุณาตอบกลับนะคะ
เรื่องแรกที่คุณพี่พูดถึงหน้าปลาเก๋าทอด ทำให้หัวเราะได้เป็นครั้งที่ 2 ในปี 53

จากการวิเคราะห์ของคุณพี่ ทำให้ได้เห็นอีกมุมมองหนึ่งที่เราเองก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ถ้าการคาดการณ์ของคุณพี่ถูกต้อง อย่างนั้นก็แสดงว่าสังคมนี้จะอยู่กันยังไงเนี่ยไม่มีใครปลอดภัยอีกแล้ว ทุกครั้งเวลาดูหนังจีนโบราณพวกคุณหนู / องค์หญิง / คนใช้ / สาวชาวบ้าน เวลาจะไปเดินตลาดหรือท่องยุทธภพมักจะแต่งตัวปลอมเป็นชาย เพื่อความปลอดภัย เราเองก็เคยสงสัยนะคะว่าจะเป็นไปได้เหรอที่ผู้ชายจะไม่รู้ว่าพวกนั้นเป็นผู้หญิงปลอมตัวแอ๊บแมนมา ผู้ใหญ่ที่บ้านก็มักบอกว่าถ้าไปไหนมาไหนคนเดียวยังไงก็ปลอดภัยดีกว่าแต่งหญิงเพราะจะเป็นที่สนใจน้อยหน่อย เราเองก็พยายามแต่งตัวแอ๊บทอมแอ๊บแมนก็นึกว่าจะรอดแต่ไหงกลับไม่ได้ช่วยให้ปลอดภัยจากอีกด้าน....ซะงั้น แต่กลับก่อให้เกิดสถานการณ์ สะพรึงอีกรูปแบบหนึ่ง แล้วอย่างนี้จะแต่งตัวออกจากบ้านครั้งต่อไปคงต้องคิดให้ดีซะแล้ว

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับคำแนะนำและคำเตือน อย่างวิธีหาที่นั่งปลอดภัยบนรถไฟฟ้าค่ะ คราวหน้าถ้าเจอแบบนี้อีกจะไม่มานั่งห่วงมารยาทกันอีกแล้วล่ะค่ะ แต่กังวลนิดนึงถ้าเขาลุกย้ายตามมาอีกนี่คงต้องมีถามแบบคุณ New Year " มีปัญหาอาไรกะผมหรือป่าว เคลียได้ "  ::021::

ขอพระเจ้าคุ้มครองพี่น้องทุกคนให้เดินทางไปไหนมาไหนปลอดภัยทุกวันนะค้า  ::050::

[Tuscany]

นึกถึงวันนึง ที่โทรคุยกับแฟน ช่วงที่แฟนขึ้นรถกลับบ้านแล้วง่วง เกือบจะงีบ

เราถามเลยว่า ไม่กลัวโดนทำมิดีมิร้ายบนรถเหรอ (ตอนนั้นเจ้าตัวดันเดินทางคนเดียวอีก)

ไป ๆ มา ๆ เพื่อความปลอดภัยของที่รัก เราก็เลยเป็นเพื่อนคุยให้เค้าไม่หลับ จนรถถึงที่หมาย

มีแฟนเป็นพวกไม่คิดอะไรมากนี่ก็ลำบากเหมือนกันนะ สมัยนี้ยิ่งมีภัยเยอะอยู่

เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะขึ้นรถสาธารณะประเภทไหนก็น่ากลัวทั้งนั้น รถจักรยานยนต์ รถตุ๊กๆ รถกะเปาะ รถแท็กซี่ รถตู้ รถเมล์ รถทัวร์ รถไฟ หวังว่าแฟนคุณพี่จะมีอาวุธไว้ป้องกันตัวไว้บ้างน่าจะดี ขอพระเจ้าคุ้มครองคุณพี่และแฟนให้ปลอดภัยทุกวันนะคะ 

[Ministry Of Men]

นึกถึงวันนึง ที่โทรคุยกับแฟน ช่วงที่แฟนขึ้นรถกลับบ้านแล้วง่วง เกือบจะงีบ

เราถามเลยว่า ไม่กลัวโดนทำมิดีมิร้ายบนรถเหรอ (ตอนนั้นเจ้าตัวดันเดินทางคนเดียวอีก)

ไป ๆ มา ๆ เพื่อความปลอดภัยของที่รัก เราก็เลยเป็นเพื่อนคุยให้เค้าไม่หลับ จนรถถึงที่หมาย

มีแฟนเป็นพวกไม่คิดอะไรมากนี่ก็ลำบากเหมือนกันนะ สมัยนี้ยิ่งมีภัยเยอะอยู่

มีแฟนด้วยหรอ...  เผ่นดีกว่า   

แฟนสวยด้วยใช่ป่าวล่ะ    (หายตัว แว๊บซ์!!@!)

[Little Boy]

ผมก็เคยขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT
เวลาเช้าตรู่เลย

วันนั้นผมก็ยืนอยู่ข้างประตูทางออก
เมื่อประตูสถานีหนึ่งเปิด
ก็มีสาวเจ้าหน้าตาน่ารักคนหนึ่งวัยเดียวกับผมเดินเข้ามา
แล้วก็มายืนข้าง ๆ ผม

พอรถเร่งเครื่อง หลังเธอก็มาชนที่หน้าอกผม โอ โดนไปถึงหัวใจ
มองไปที่กระจกประตู สะท้อน เห็นหน้าเธอกำลังอมยิ้มอีกด้วย

คนมันแน่นมากง่ะ มันเลยเป็นอย่างงี้ ผมว่าเธอคงไม่คิดอะไรหรอก ผมอ่ะฟุ้งซ่านเอง 

[Ministry Of Men]

ตื่นครับ ตื่น ตื่นพี่น้อง 555++

โอ้ว เหมือนในหนังเกาหลี เลย 

[mew]

มิวชอบนั่งรถไฟฟ้ากลับบ้าน มันเร็วดีครับ