การวิจัยเรื่องบาปอุลามก
ข้าพเจ้าคาดว่าตนเองต้องทำวิจัยเรื่องต่อไปในไม่ช้า กำลังสนใจประเด็นเรื่องของบาปอุลามกน่ะครับ เพราะข้าพเจ้าเห็นว่าสิ่งนี้เป็นปัญหาของคริสตชนจำนวนไม่น้อย (หากพวกเขาตระหนักว่านี่เป็นปัญหา) หลายคนทุกข์ใจอย่างแสนสาหัส ท้อแท้ ในการแบกกางเขนติดตามพระคริสตเจ้า เพราะตนเองหกล้มบ่อยเหลือเกินจากการทำผิดบาปในเรื่องอุลามกนี้ ข้าพเจ้าจึงอยากทำวิจัยในเชิงคุณภาพเพื่อให้เป็นเสียงสะท้อนจากผู้ประสบปัญหาจริงๆ หลายคนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากยิ่งไปกว่านั้น คือ พวกเขาแยกแยะไม่ออกด้วยซ้ำไปว่า อะไรคือการผจญล่อลวง และอะไรคือบาป ฉะนั้น เลยดูเหมือนกับว่าพวกเขาทำบาปอยู่ตลอดเวลา พวกเขาไม่อาจพบความสุขใจได้เลย
ข้าพเจ้าจึงดำริจะทำวิจัยในเรื่องนี้ เพราะในสังคมไทย เราจะไม่นิยมคุยกันเรื่องเพศ ทว่าหากไม่คุย ปัญหาทีเกี่ยวข้องก็จะถูกกดไว้ กลายเป็นเรื่องลับ ไม่ได้รับการแก้ไข และไม่บังเกิดความเข้าใจกัน
อนึ่ง จากความรู้ด้านสุขศึกษาและคำบอกเล่าของหลายท่านทำให้ทราบได้ว่า โดยเฉลี่ยแล้วเพศชายจะมีความต้องการทางเพศรุนแรงกว่าเพศหญิง ข้าพเจ้าจึงพุ่งเป้าไปที่การศึกษาไปที่เพศชาย เพราะน่าจะถือได้ว่าเป็นเพศที่มีนัยสำคัญที่สัมพันธ์กับปัญหาดังกล่าวนี้
ในขั้นต้นนี้ ข้าพเจ้าตั้งใจจะศึกษาในประเด็นเรื่องของ "ปัญหาเรื่องบาปที่ผิดต่อพระบัญญัติประการที่ 6 และประการที่ 9 ในชายไทยผู้นับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก" โดยศึกษาข้อมูลด้วยวิธีสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth Interview) ทั้งนี้ ข้อมูลทั้งหมดจะปิดเป็นความลับและทำลายทิ้งหลังจากการวิจัยจบสิ้นลง เพื่อรักษาหลักจริยธรรมในการวิจัย
ทว่า ขณะนี้ข้าพเจ้ารู้สึกสับสนอย่างหนัก ทั้งมีความกังวลใจเป็นอย่างยิ่ง ด้วยว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องที่อาจจะทำให้ผู้ให้ข้อมูลรู้สึกกระดากที่จะพูด แต่ข้าพเจ้าก็มีความปรารถนาจะทำวิจัยชิ้นนี้เพื่อสะท้อนปัญหาที่หลายคนเป็นทุกข์ใจ ในอีกด้านหนึ่ง ก็ไม่แน่ใจว่าการทำวิจัยเรื่องนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์หรือไม่ อย่างไร เพียงใด
รบกวนทุกท่านเสนอความคิดเห็นด้วยครับ เพราะข้าพเจ้ามีความตั้งใจทำวิจัยเพื่อรับใช้พระศาสนจักร ความเห็นทุกความเห็นของทุกท่านล้วนมีคุณค่ามาก โปรดช่วยเสนอความเห็นด้วยครับ เพราะถ้าหัวข้อนี้ไม่เวิร์ค ข้าพเจ้าจะเปลี่ยนหัวข้อครับ ขอบคุณครับ
แนวคำถาม
1. งานวิจัยเรื่องนี้มีความเป็นไปได้ที่จะทำหรือไม่ครับ
2. ถ้าสมมติท่านได้รับการติดต่อให้เป็นผู้ให้ข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก ท่านยินดีหรือไม่ครับ (แม้งานวิจัยเรื่องนี้จะเก็บข้อมูลกับผู้ชาย แต่ผู้หญิงก็ร่วมตอบคำถามนี้ได้ครับ)
ข้าพเจ้าจึงดำริจะทำวิจัยในเรื่องนี้ เพราะในสังคมไทย เราจะไม่นิยมคุยกันเรื่องเพศ ทว่าหากไม่คุย ปัญหาทีเกี่ยวข้องก็จะถูกกดไว้ กลายเป็นเรื่องลับ ไม่ได้รับการแก้ไข และไม่บังเกิดความเข้าใจกัน
อนึ่ง จากความรู้ด้านสุขศึกษาและคำบอกเล่าของหลายท่านทำให้ทราบได้ว่า โดยเฉลี่ยแล้วเพศชายจะมีความต้องการทางเพศรุนแรงกว่าเพศหญิง ข้าพเจ้าจึงพุ่งเป้าไปที่การศึกษาไปที่เพศชาย เพราะน่าจะถือได้ว่าเป็นเพศที่มีนัยสำคัญที่สัมพันธ์กับปัญหาดังกล่าวนี้
ในขั้นต้นนี้ ข้าพเจ้าตั้งใจจะศึกษาในประเด็นเรื่องของ "ปัญหาเรื่องบาปที่ผิดต่อพระบัญญัติประการที่ 6 และประการที่ 9 ในชายไทยผู้นับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก" โดยศึกษาข้อมูลด้วยวิธีสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth Interview) ทั้งนี้ ข้อมูลทั้งหมดจะปิดเป็นความลับและทำลายทิ้งหลังจากการวิจัยจบสิ้นลง เพื่อรักษาหลักจริยธรรมในการวิจัย
ทว่า ขณะนี้ข้าพเจ้ารู้สึกสับสนอย่างหนัก ทั้งมีความกังวลใจเป็นอย่างยิ่ง ด้วยว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องที่อาจจะทำให้ผู้ให้ข้อมูลรู้สึกกระดากที่จะพูด แต่ข้าพเจ้าก็มีความปรารถนาจะทำวิจัยชิ้นนี้เพื่อสะท้อนปัญหาที่หลายคนเป็นทุกข์ใจ ในอีกด้านหนึ่ง ก็ไม่แน่ใจว่าการทำวิจัยเรื่องนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์หรือไม่ อย่างไร เพียงใด
รบกวนทุกท่านเสนอความคิดเห็นด้วยครับ เพราะข้าพเจ้ามีความตั้งใจทำวิจัยเพื่อรับใช้พระศาสนจักร ความเห็นทุกความเห็นของทุกท่านล้วนมีคุณค่ามาก โปรดช่วยเสนอความเห็นด้วยครับ เพราะถ้าหัวข้อนี้ไม่เวิร์ค ข้าพเจ้าจะเปลี่ยนหัวข้อครับ ขอบคุณครับ
แนวคำถาม
1. งานวิจัยเรื่องนี้มีความเป็นไปได้ที่จะทำหรือไม่ครับ
2. ถ้าสมมติท่านได้รับการติดต่อให้เป็นผู้ให้ข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก ท่านยินดีหรือไม่ครับ (แม้งานวิจัยเรื่องนี้จะเก็บข้อมูลกับผู้ชาย แต่ผู้หญิงก็ร่วมตอบคำถามนี้ได้ครับ)
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
แนะนำว่าการหาคนคุยแบบตัวต่อตัวคงยาก แต่น่าจะทำเป็นแบบสอบถามให้กรอกตอบแล้วร่อนไปทาง IM ดีกว่าครับ (ไม่แน่ใจว่า IM จะส่งได้ไหมถ้าไม่ได้เป้นสมาชิก)
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
1. มีทางเป็นไปได้ แต่อาจจะยากครับ เพราะการที่คน ๆ หนึ่งจะเปิดใจพูดเรื่องนี้ ต้องกล้ามากจริง ๆ
2. สำหรับผมคงไม่ครับ
2. สำหรับผมคงไม่ครับ
- Slave of God
- โพสต์: 336
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 02, 2008 10:47 pm
ขนาดไปแก้บาปยังอายเลยครับ
แนะนำคนที่มีภรรยาแล้ว
เพราะถ้าวัยรุ่นอยู่ ผมว่าไม่น่าจะกล้า
แนะนำคนที่มีภรรยาแล้ว
เพราะถ้าวัยรุ่นอยู่ ผมว่าไม่น่าจะกล้า
ผมขอเสนอว่าให้ตั้วทำแบบสำรวจเป็นไฟล์ที่คนสามารถมา Download ไปได้ แล้วจะส่งกลับไปหาคุณโดยทางไปรษณีย์หรืออีเมลกลับก็ได้ เพราะข้อมูลเรื่องนี้ไม่มีใครอยากเปิดเผยหรอกครับ แล้วต้องใช้จำนวนผู้ตอบกี่ร้อยครับ แต่ถ้าจะใช้แบบการสัมภาษณ์ตัวต่อตัวผมคิดว่าเปลี่ยนหัวข้อวิจัยได้เลยครับ
ขอบคุณน้องเอก น้องอุ้ย คุณข้า-พระ-เจ้า เพชร และพี่พีพีมากครับ สำหรับคำตอบครับ
น้องเอกกับน้องอุ้ยก็ให้ความอนุเคราะห์ข้าพเจ้ามาตั้งแต่ครั้งทำรายงานในคราวก่อน
คำตอบของคุณข้า-พระ-เจ้าก็กระจ่างดีมากเลยครับ และเป็นจริงเช่นนั้นว่า หลายคนสารภาพบาปอุลามกยังอายมากเลบ
เพชรก็เสนอทัศนะที่ดีและเป็นประโยชน์มากครับ
พี่พีพีครับ งานที่ทำนี้เป็นงานวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของการเรียน ป.โท ครับ โดยผมตั้งใจจะทำงานนี้ นอกจากจะเป็นส่วนของการเรียนของผมแล้ว ก็ยังอยากให้เป็นประโยชน์กับพระศาสนจักรด้วย เพราะงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับพระศาสนจักรยังมีน้อย ถ้ามีก็เป็นในเรื่องการศึกษา (อันนี้น่าจะพอมีอยู่มากหน่อย) และส่วนใหญ่ก็เป็นงานวิจัยเชิงปริมาณ ส่วนเชิงคุณภาพมีน้อยมากๆๆๆๆๆๆ แทบไม่เห็นเลย เลยอยากทำงานในลักษณะดังกล่าวครับพี่ อยากรับใช้พระศาสนจักรน่ะครับพี่
สรุป ข้าพเจ้าจะเปลี่ยนหัวข้อ อิ อิ ส่วนจะเปลี่ยนเป็นหัวข้อใดนั้นจะแจ้งให้ทราบสืบไป ขอบคุณทุกท่านที่ไม่ปล่อยให้ข้าพเจ้าทุกข์ใจอยู่นานครับ
น้องเอกกับน้องอุ้ยก็ให้ความอนุเคราะห์ข้าพเจ้ามาตั้งแต่ครั้งทำรายงานในคราวก่อน
คำตอบของคุณข้า-พระ-เจ้าก็กระจ่างดีมากเลยครับ และเป็นจริงเช่นนั้นว่า หลายคนสารภาพบาปอุลามกยังอายมากเลบ
เพชรก็เสนอทัศนะที่ดีและเป็นประโยชน์มากครับ
พี่พีพีครับ งานที่ทำนี้เป็นงานวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของการเรียน ป.โท ครับ โดยผมตั้งใจจะทำงานนี้ นอกจากจะเป็นส่วนของการเรียนของผมแล้ว ก็ยังอยากให้เป็นประโยชน์กับพระศาสนจักรด้วย เพราะงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับพระศาสนจักรยังมีน้อย ถ้ามีก็เป็นในเรื่องการศึกษา (อันนี้น่าจะพอมีอยู่มากหน่อย) และส่วนใหญ่ก็เป็นงานวิจัยเชิงปริมาณ ส่วนเชิงคุณภาพมีน้อยมากๆๆๆๆๆๆ แทบไม่เห็นเลย เลยอยากทำงานในลักษณะดังกล่าวครับพี่ อยากรับใช้พระศาสนจักรน่ะครับพี่
สรุป ข้าพเจ้าจะเปลี่ยนหัวข้อ อิ อิ ส่วนจะเปลี่ยนเป็นหัวข้อใดนั้นจะแจ้งให้ทราบสืบไป ขอบคุณทุกท่านที่ไม่ปล่อยให้ข้าพเจ้าทุกข์ใจอยู่นานครับ
ปกติพ่อจะไม่นำเรื่องในห้องแก้บาปมาเล่าหรือเปิดเผยนะครับsansrepos เขียน: ลองปรึกษาบรรดาพระสงฆ์ดูสิครับ คุณพ่อทั้งหลายต้องฟังแก้บาปเป็นประจำท่านต้องได้ยินได้ฟังบาปอุลามกมาไม่น้อย และยังต้องให้ข้อคิดเตือนใจผู้มาแก้บาปอีกด้วย น่าจะได้คำแนะนำที่ดีนะครับ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
จขกท. เปลี่ยนหัวข้อแล้วจ้าsansrepos เขียน: ลองปรึกษาบรรดาพระสงฆ์ดูสิครับ คุณพ่อทั้งหลายต้องฟังแก้บาปเป็นประจำท่านต้องได้ยินได้ฟังบาปอุลามกมาไม่น้อย และยังต้องให้ข้อคิดเตือนใจผู้มาแก้บาปอีกด้วย น่าจะได้คำแนะนำที่ดีนะครับ
- (⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)
- โพสต์: 892
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 12:38 am
วิธีสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth Interview) วิธีนี้นี่ยากนะคะ ถ้าคนตอบไม่เปิดใจก็จบเลย
-
- โพสต์: 5
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 01, 2010 6:49 pm
ถามคุณพ่อคงไม่ได้หรอกครับเพราะการเเก้บาปต้องเป็นความลับมากที่สุด(รู้ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ซึ่งคุณพ่อเป็นผู้เเทนของพระเจ้า)
ผมว่าเปลี่ยนเรื่องดีกว่า
ผมว่าเปลี่ยนเรื่องดีกว่า
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
^
^
ครับพี่ตั้วถอดใจกับหัวข้อนี้แล้วครับ และกำลังคิดถึงหัวข้ออื่น อีกสักพักพี่แกคงจะมาตั้งกระทู้ถามใหม่ฮะ
^
ครับพี่ตั้วถอดใจกับหัวข้อนี้แล้วครับ และกำลังคิดถึงหัวข้ออื่น อีกสักพักพี่แกคงจะมาตั้งกระทู้ถามใหม่ฮะ
ผมขอเสนอให้ถามเกี่ยวกับการทำผิดพระบัญญัติประการที่ 1 "จงนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าเดียวของเจ้า" น่าจะง่ายกว่า แล้วก็น่าสนใจด้วย เพราะเห็นคาทอลิกหลายคนโดยเฉพาะพวกดาราชอบทำให้สับสนว่าพวกเขานับถือศาสนาอะไรกันแน่ ส่วนคนธรรมดาก็ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน เพราะหลาย ๆ คนยังเชื่อหมอดู การเข้าทรง หรือไหว้สิ่งที่เค้าเรียกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ