เป้าหมายปลายทาง

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
9qazwsx9
โพสต์: 79
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.พ. 24, 2010 3:21 pm

พฤหัสฯ. ก.พ. 25, 2010 2:27 pm

ทุกศาสนาคล้ายกันในเชิงจริยศาสตร์ แต่ต่างกันในแง่สัจจศาสตร์สูงสุด

ทุกวันนี้จึงประนีประนอมกันในจริยศาสตร์ แต่ปล่อยให้สัจจศาสตร์ เป็นเรื่องส่วนบุคคล ซึ่งก็ดีแต่จะมีปัญหาในตอนเผยแพร่ ผู้เผยแพร่ต้องใจกว้างที่จะรับแรงสะท้อน เพราะการเผยแพร่คือการคุกคามทางความเชื่อหรือจะใช้คำไหนก็ได้ถ้าอยากให้ฟังงงๆเพลินๆ หากไม่มีการเผยแพร่ก็จะไม่มีปัญหานี้ แต่ในเมื่อมีการเผยแพร่ในทุกศาสานา จะเป็นไปได้อย่างไรที่อีกศาสนาหนึ่งจะไม่โต้แย้งในสิ่งที่เผยแพร่ออกมา การโต้แย้งทางความคิดไม่ควรถูกกล่าวหาในทางร้ายไม่ว่าในกรณีใด ๆ เพราะในเมื่อมีความชอบธรรมในการเผยแพร่ ก็ย่อมมีความชอบธรรมในทางต่อต้านเหมือนกัน แต่การเผยแพร่และการต่อต้านนั้นต้องเป็นการเผยแพร่และต่อต้านทางความคิดเท่านั้น หากมีการนำอิทธิพลทางการเมือง เศรษฐกิจ หรือไม่ว่าในแง่ใดๆก็ตาม ที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาในศาสนานั้น มาใช้เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่หรือโต้แย้ง  นั่นล่ะ ชอบธรรมที่จะกล่าวหา

แนวคิดที่ว่าหากใครคิดไม่เหมือนตนเชื่อไม่เหมือนตน จริงอยู่ในบางเรื่องอาจเป็นเรื่องบาปสากล แต่การกล่าวหาว่าเป็นปรปักษ์หรือมารร้าย ผู้กล่าวหานั่นเองคือผญามาร
sansrepos
โพสต์: 460
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 6:23 pm

พฤหัสฯ. ก.พ. 25, 2010 3:14 pm

ก็ว่ามาไม่ผิดนี่ครับ

ความจริงสูงสุด คนเราเชื่อถือต่างกัน ตามการรับรู้ และจริตของแต่ละคน เราอาจจะเรียนรู้หลายศาสนา หรือศาสนาเดียวกันแต่ต่างนิกาย แต่จะเลือกนับถืออะไร หรือไม่นับถือเลย ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล

สำหรับศาสนาคริสต์คาทอลิกก็ไม่ได้บังคับให้ใครเชื่ออยู่แล้ว เพราะความเชื่อก็คล้ายๆกับความรัก คือเป็นสิ่งที่ต้องสมัครใจ
Pry-Kaew
โพสต์: 959
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 29, 2005 3:03 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ก.พ. 25, 2010 4:04 pm

sansrepos เขียน:
สำหรับศาสนาคริสต์คาทอลิกก็ไม่ได้บังคับให้ใครเชื่ออยู่แล้ว เพราะความเชื่อก็คล้ายๆกับความรัก คือเป็นสิ่งที่ต้องสมัครใจ

I agree on this comment so much.
ตอบกลับโพส