วันอาทิตย์ที่14 มี.ค.ที่จะถึงนี้ ควรทำอะไรดีที่สุด?
จงเงียบและอยู่นิ่งๆ
ไม่ว่าขณะนี้ท่านอยู่ที่ไหนก็ตาม ปิดดวงตาของท่านและวาดมโนภาพ ท่านอยู่ที่เชิงไม้กางเขน
จงเงียบ: ฟังเสียงถอนใจของพระเป็นเจ้า ฟังเสียงพระโลหิตของพระองค์หยดลงบนพื้นดิน เพื่อไถ่บาปท่าน
อยู่นิ่งๆ: รู้สึกพระมารดาของพระองค์สั่นด้วยความเศร้าระทมขมขื่นอย่างที่สุด ขณะพระนางเห็นพระบุตรพลีชีวิตบนไม้กางเขนเพื่อท่าน
พระองค์ประทับในตู้ศีล (พระกาย พระโลหิต พระวิญญาน และพระเทวภาพ) ตลอดเวลาที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
พระองค์เสด็จลงมาจากสวรรค์ขณะที่พระสงฆ์เสกปังและน้ำองุ่นเป็นพระกายและพระโลหิตของพระองค์ (การถวายเครื่องบูชาที่พระแท่นแด่พระบิดาเจ้าโดยไม่มีการหลั่งโลหิต)
จงเงียบและอยู่นิ่งๆ: ท่านอยู่ต่อหน้าพระผู้สร้าง พระมหาไถ่ และพระผู้พิพากษาของท่าน
และมาสวดบทภาวนาเหล่านี้กันดีกว่า ครับ
บทภาวนาที่ควรจำให้ขึ้นใจ ในเวลาปัจจุบันนี้
เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาแมน ,เชิญพระจิต ,ข้าแต่พระบิดา ,วันทามารีอา ,สิริพึงมี , ข้าพเจ้าเชื่อ ,เยซู มารีอา ยอแซฟ ,โอ้พระชนนีของพระเป็นเจ้า
บทแสดงความทุกข์, บทภาวนาของนักบุญฟรังซิส แห่งอัสซีซี ,บทสวดถวายตัวแด่พระนางมารีอา ,บทภาวนาถวายบ้านเราแด่แม่พระ ,บทเฝ้าพิทักษ์, บทสวดรุ่งอรุณ
คำภาวนาสำหรับครอบครัว ,บทสวดขอนักบุญอันนาสำหรับครอบครัว ,บทวิงวอนพระเจ้าช่วยชดเชยเวลาที่สูญเสียไปของน.เทเรซา แห่งอาวิลา
บทภาวนาเพื่อเลียนแบบพระคริสตเจ้า, บทภาวนาถึงพระจิตเจ้าโดยนักบุญออกัสติน, กางเขนของท่าน โดย น.ฟรังซิส เดอ ซาลส์
บทภาวนาอุทิศให้คนบาป ,จงเงียบและอยู่นิ่งๆ, บทสวดบรรเทาทุกข์วิญญาณในไฟชำระ
บทสวดวอนขอพระหรรษทานจากทุกมิสซาในโลก (ควรสวดบทภาวนานี้ทุกวันและนำไปเผยแพร่ ต่อๆกัน) ,บทภาวนาถวายประเทศไทย
**********************************************************
ข้าแต่พระบิดา พระองค์สถิตชั่วนิรันดร ข้าพเจ้าถวายพระองค์ พระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระเยซูคริสตเจ้า พร้อมด้วยความรัก การทรมาน และฤทธิ์กุศลทั้งหมดของพระองค์
๑. เพื่อใช้โทษบาปซึ่งข้าพเจ้าได้ทำในวันนี้ และตลอดชีวิตของข้าพเจ้า (สิริพึงมี)
๒. เพื่อทำให้บริสุทธิ์ผุดผ่องความดี ซึ่งข้าพเจ้าได้ทำในวันนี้ และตลอดชีวิตของข้าพเจ้า (สิริพึงมี)
๓. เพื่อชดเชยความดี ซึ่งข้าพเจ้าควรได้ทำแต่ได้ละเลยในวันนี้ และตลอดชีวิตของข้าพเจ้า (สิริพึงมี)
หมายเหตุ: ซิสเตอร์คณะ Clare ผู้ยากจนคนหนึ่ง หลังจากสิ้นใจไม่นาน ได้ปรากฎตัวให้แม่อธิการเห็น ผู้ซึ่งกำลังสวดอุทิศให้เธอ และพูด: "ฉันได้เข้าสวรรค์โดยตรง เพราะฉันได้ใช้โทษบาปทั้งหมดโดยสวดบทนี้ทุกคืน"
************************************************************
บทรำพึงมหาทุกข์เจ็ดประการของแม่พระ
ก่อ............ข้าแต่พระเป็นเจ้า โปรดเสด็จมาช่วยข้าพเจ้า
รับ............พระเจ้าข้า โปรดรีบเสด็จมาช่วยข้าพเจ้า
ก่อ............สิริพึงมีแด่ พระบิดา และ พระบุตร และ พระจิต
รับ............เหมือนในปฐมกาล บัดนี้ และ ทุกเมื่อตลอดนิรันดร อาแมน
๑. โอ้ พระนางมารีอา ทรงทุกข์โศกเศร้ายิ่งนัก ขณะที่ผู้เฒ่าซีเมออนผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทำนายว่าจะมีดาบหลายเล่มทิ่มแทงดวงพระทัยนิรมลทินของพระนาง
พระมารดามารีอาผู้น่ารักยิ่งนัก โดยการรำพึงถึงมหาทุกข์ประการนี้ ซึ่งทรมานดวงพระทัยของพระแม่อย่างแสนสาหัส โปรดขอฤทธิ์กุศลแห่งความสุภาพและพระคุณพระจิตแห่งความเกรงกลัวพระเจ้าให้ลูกด้วยเทอญ อาแมน
(วันทามารีอา)
๒. โอ้ พระนางมารีอา ทรงทุกข์โศกเศร้ายิ่งนัก ขณะพระนางและนักบุญยอเซฟพาพระกุมารเยซูหนีไปประเทศอียิปต์ และประทับอยู่ที่นั่นเป็นการชั่วคราว เพราะเฮรอดต้องการปลงพระชนม์พระองค์
พระมารดามารีอา ผู้น่ารักยิ่งนัก โดยการรำพึงถึงมหาทุกข์ประการนี้ซึ่งทรมานดวงพระทัยของพระแม่อย่างแสนสาหัส โปรดขอฤทธิ์กุศลแห่งการมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ โดยเฉพาะต่อคนยากจน และพระคุณพระจิตแห่งความศรัทธาให้ลูกด้วยเทอญ อาแมน
(วันทามารีอา)
๓. โอ้ พระนางมารีอา ทรงทุกข์โศกเศร้ายิ่งนัก ขณะพระนางและนักบุญยอเซฟกำลังตามหาพระเยซูเจ้า พระองค์ได้หายไปเป็นเวลา ๓ วัน
พระมารดามารีอาผู้น่ารักยิ่งนัก โดยการรำพึงถึงมหาทุกข์ประการนี้ซึ่งทรมานดวงพระทัยของพระแม่อย่างแสนสาหัส โปรดขอฤทธิ์กุศลแห่งความบริสุทธิ์และพระคุณพระจิตแห่งความรู้ให้ลูกด้วยเทอญ อาแมน
(วันทามารีอา)
๔. โอ้ พระนางมารีอา ทรงทุกข์โศกเศร้ายิ่งนัก ขณะพระนางพบพระเยซูเจ้า พระองค์กำลังแบกไม้กางเขนไปยังภูเขากัลวาริโอ
พระมารดามารีอา ผู้น่ารักยิ่งนัก โดยการรำพึงถึงมหาทุกข์ประการนี้ซึ่งทรมานดวงพระทัยของพระแม่อย่างแสนสาหัส โปรดขอฤทธิ์กุศลแห่งความอดทนและพระคุณพระจิตแห่งความเข้มแข็งให้ลูกด้วยเทอญ อาแมน
(วันทามารีอา)
๕. โอ้ พระนางมารีอา ทรงทุกข์โศกเศร้ายิ่งนัก ขณะพระนางยืนอยู่ที่เชิงไม้กางเขนใกล้พระเยซูเจ้าในเวลาเข้าตรีทูต
พระมารดามารีอา ผู้น่ารักยิ่งนัก โดยการรำพึงถึงมหาทุกข์ประการนี้ ซึ่งทรมานดวงพระทัยของพระแม่อย่างแสนสาหัส โปรดขอฤทธิ์กุศลแห่งการพลีกรรมและพระคุณพระจิตแห่งคำแนะนำให้ลูกด้วยเทอญ อาแมน
(วันทามารีอา)
๖. โอ้ พระนางมารีอา ทรงทุกข์โศกเศร้ายิ่งนัก ขณะเพชฌฆาตแทงสีข้างของพระเยซูเจ้าด้วยปลายหอก ก่อนพระกายของพระองค์ถูกยกลงมาจากไม้กางเขน
พระมารดามารีอา ผู้น่ารักยิ่งนัก โดยการรำพึงถึงมหาทุกข์ประการนี้ซึ่งทรมานดวงพระทัยของพระแม่อย่างแสนสาหัส โปรดขอฤทธิ์กุศลแห่งความรักพระและเพื่อนมนุษย์ และพระคุณพระจิตแห่งความเข้าใจให้ลูกด้วยเทอญ อาแมน
(วันทามารีอา)
๗. โอ้ พระนางมารีอา ทรงทุกข์โศกเศร้ายิ่งนัก ขณะฝังพระศพพระเยซูเจ้า
พระมารดามารีอา ผู้น่ารักยิ่งนัก โดยการรำพึงถึงมหาทุกข์ประการนี้ ซึ่งทรมานดวงพระทัยของพระแม่อย่างแสนสาหัส โปรดขอฤทธิ์กุศลแห่งความขยันขันแข็งและพระคุณพระจิตแห่งความเฉลียวฉลาดให้ลูกด้วยเทอญ อาแมน
(วันทามารีอา)
เราจงภาวนา
ข้าแต่พระเยซูเจ้า พระทัยเมตตาเหลือล้น พระองค์ได้ไถ่บาปมนุษยชาติจนพระโลหิตหยดสุดท้าย โปรดช่วยเหลือเราบัดนี้ และเมื่อจะตายโดยคำเสนอวิงวอนของพระนางมารีอาพรหมจารี พระมารดาที่รักยิ่งของพระองค์ ดาบมหาทุกข์ได้แทงดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของพระแม่ ในพระมหาทรมานอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ อาแมน
คำสัญญา ๗ ข้อของพระนางพรหมจารีมารีอาสำหรับผู้รำพึงถึงมหาทุกข์ของพระนาง พร้อมกับสวดบทวันทามารีอา ๗ จบทุกวัน
๑. เราจะประทานสันติสุขในครอบครัวแก่ผู้สวดรำพึง
๒. เราจะประทานความสว่างให้ผู้รำพึงเข้าใจข้อลึกลับและความจริงต่าง ๆ เกี่ยวกับพระเป็นเจ้า
๓. เราจะบรรเทาทุกข์ผู้สวดรำพึงเมื่อเขาเจ็บไข้ได้ป่วย และเป็นเพื่อนเขาในเวลาทำงาน
๔. เราจะประทานตามที่ผู้รำพึงสวดขอ ตราบใดที่การขอไม่ขัดน้ำพระทัยพระเป็นเจ้า หรือความศักดิ์สิทธิ์ของวิญญาน
๕. เราจะปกป้องรักษาผู้สวดรำพึงในเวลาที่เขาถูกประจญ และคุ้มครองเขาขณะเขายังมีชีวิตอยู่
๖. เราจะมาช่วยผู้สวดรำพึงในเวลาเข้าตรีทูต เขาจะได้เห็นใบหน้าของเราในเวลานั้น
๗. เราได้ขอพระหรรษทานพิเศษสำหรับผู้เผยแพร่ความศรัทธาต่อมหาทุกข์เจ็ดประการของเรา เราจะมารับวิญญานเขาในโลกนี้เมื่อเขาหมดลมหายใจ และพาเขาไปสู่ความสุขชั่วนิรันดรในสวรรค์ เขาจะได้รับการยกโทษบาปทั้งหมด พระบุตรจะเป็นองค์บรรเทาใจ และองค์ความยินดีของเขาตลอดกาล
ท่านนักบุญทั้งหลาย โปรดกรุณาสอนข้าพเจ้า
นักบุญอันนา........................กรุณาสอนข้าพเจ้ารักธิดาของท่าน พระนางมารีอา
พระนางมารีอาผู้ศักดิ์สิทธิ์ โปรดสอนข้าพเจ้าทำตัวเหมาะสม ตามคำสัญญาของพระคริสตเจ้า
นักบุญโยเซฟ.......................กรุณาสอนข้าพเจ้าฤทธิ์กุศลแห่งความเงียบ
นักบุญดาเนียล.....................กรุณาสอนข้าพเจ้าเป็นคนเฉลียวฉลาด
นักบุญมีคาแอล.....................กรุณาสอนข้าพเจ้าปราบปิศาจ
นักบุญยอห์น แบ๊บติสท์...........กรุณาสอนข้าพเจ้าทำพลีกรรม
นักบุญยอห์น อัครสาวกของพระเยซูเจ้า..........กรุณาสอนข้าพเจ้ารักพระเยซูเจ้าสิ้นสุดดวงใจ สิ้นสุดวิญญาน และสิ้นสุดกำลัง
นักบุญเปโตร........................กรุณาสอนข้าพเจ้าเป็นคนซื่อสัตย์
นักบุญเปาโล.........................กรุณาสอนข้าพเจ้ากอบกู้วิญญาณด้วยความร้อนรน
นักบุญโธมัส..........................กรุณาสอนข้าพเจ้าเชื่อโดยไม่ต้องสงสัย
นักบุญสตีเฟน.......................กรุณาสอนข้าพเจ้าจิตตารมณ์แห่งการเป็นมรณะสักขี
นักบุญซีมอน ชาวซีเรน............กรุณาสอนข้าพเจ้ารักการแบกไม้กางเขนของพระเยซูเจ้า
นักบุญเวโรนิกา......................กรุณาสอนข้าพเจ้าเห็นใจผู้ตกระกำลำบาก
นักบุญมารี มักดาเลนา.............กรุณาสอนข้าพเจ้าเป็นทุกข์ถึงบาป
นักบุญดิสมาส.......................กรุณาสอนข้าพเจ้าให้ได้สวรรค์
นักบุญอักแนส.......................กรุณาสอนข้าพเจ้าเป็นคนบริสุทธิ์
นักบุญมารีอา กอแรตตี ..........กรุณาสอนข้าพเจ้าต่อสู้กับการประจญ
นักบุญเยโรม.........................กรุณาสอนข้าพเจ้ารักการอ่านพระคัมภีร์
นักบุญมอนิกา.......................กรุณาสอนข้าพเจ้าภาวนาอย่างสม่ำเสมอ อย่าหยุด และตลอดเวลา
นักบุญออกัสติน....................กรุณาสอนข้าพเจ้าประพฤติตนตามคำภาวนาของแม่
นักบุญฟรังซิส บอร์เกีย..........กรุณาสอนข้าพเจ้าละทิ้งความต้องการทางโลก
นักบุญฟรังซิส เดอ เซลส์........กรุณาสอนข้าพเจ้าเป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส
นักบุญฟรังซิส อัสซีซี.............กรุณาสอนข้าพเจ้าเป็นคนสุภาพถ่อมตน
นักบุญฟรังซิส เซเวียร์...........กรุณาสอนข้าพเจ้าแพร่ธรรมด้วยความร้อนรน
นักบุญฟิลิป เนรี...................กรุณาสอนข้าพเจ้าเป็นคนร่าเริงสนุกสนาน
นักบุญโธมัส มอร์..................กรุณาสอนข้าพเจ้ามั่นคง มีสติสัมชัญญะ
นักบุญแอนโธนี.....................กรุณาสอนข้าพเจ้าแสวงหาความศักดิ์สิทธิ์ทางวิญญาณ
นักบุญปัสกาล......................กรุณาสอนข้าพเจ้ารักการรับศีลมหาสนิท
นักบุญยอห์น วีอันเน..............กรุณาสอนข้าพเจ้าเคารพรักการเป็นพระสงฆ์
นักบุญโธมัส อไคว์นัส.............กรุณาสอนข้าพเจ้ารักการรำพึงถึงพระเป็นเจ้า
นักบุญอัลเบิร์ต เดอะ เกรท......กรุณาสอนข้าพเจ้ารักและวางใจในพระปรีชาญาณของพระเป็นเจ้า
นักบุญวินเซนต์ เดอ ปอล........กรุณาสอนข้าพเจ้ารักคนจน
นักบุญเอลิซาเบธ...................กรุณาสอนข้าพเจ้าเอาใจใส่คนที่สังคมรังเกียจ
นักบุญคามิลเลียน..................กรุณาสอนข้าพเจ้าเยี่ยมและดูแลคนป่วย
นักบุญดอนบอสโก.................กรุณาสอนข้าพเจ้ารักเยาวชน
นักบุญมาร์กาเรต แมรี.............กรุณาสอนข้าพเจ้ารักพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระเยซูคริสตเจ้า
นักบุญเทเรซา........................กรุณาสอนข้าพเจ้าเห็นคุณค่าของสิ่งเล็กๆ น้อยๆ และทำทุกสิ่งถวายพระเกียรติและพระสิริโรจนาแด่พระเป็นเจ้า
อาแมน
ไม่ว่าขณะนี้ท่านอยู่ที่ไหนก็ตาม ปิดดวงตาของท่านและวาดมโนภาพ ท่านอยู่ที่เชิงไม้กางเขน
จงเงียบ: ฟังเสียงถอนใจของพระเป็นเจ้า ฟังเสียงพระโลหิตของพระองค์หยดลงบนพื้นดิน เพื่อไถ่บาปท่าน
อยู่นิ่งๆ: รู้สึกพระมารดาของพระองค์สั่นด้วยความเศร้าระทมขมขื่นอย่างที่สุด ขณะพระนางเห็นพระบุตรพลีชีวิตบนไม้กางเขนเพื่อท่าน
พระองค์ประทับในตู้ศีล (พระกาย พระโลหิต พระวิญญาน และพระเทวภาพ) ตลอดเวลาที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
พระองค์เสด็จลงมาจากสวรรค์ขณะที่พระสงฆ์เสกปังและน้ำองุ่นเป็นพระกายและพระโลหิตของพระองค์ (การถวายเครื่องบูชาที่พระแท่นแด่พระบิดาเจ้าโดยไม่มีการหลั่งโลหิต)
จงเงียบและอยู่นิ่งๆ: ท่านอยู่ต่อหน้าพระผู้สร้าง พระมหาไถ่ และพระผู้พิพากษาของท่าน
และมาสวดบทภาวนาเหล่านี้กันดีกว่า ครับ
บทภาวนาที่ควรจำให้ขึ้นใจ ในเวลาปัจจุบันนี้
เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาแมน ,เชิญพระจิต ,ข้าแต่พระบิดา ,วันทามารีอา ,สิริพึงมี , ข้าพเจ้าเชื่อ ,เยซู มารีอา ยอแซฟ ,โอ้พระชนนีของพระเป็นเจ้า
บทแสดงความทุกข์, บทภาวนาของนักบุญฟรังซิส แห่งอัสซีซี ,บทสวดถวายตัวแด่พระนางมารีอา ,บทภาวนาถวายบ้านเราแด่แม่พระ ,บทเฝ้าพิทักษ์, บทสวดรุ่งอรุณ
คำภาวนาสำหรับครอบครัว ,บทสวดขอนักบุญอันนาสำหรับครอบครัว ,บทวิงวอนพระเจ้าช่วยชดเชยเวลาที่สูญเสียไปของน.เทเรซา แห่งอาวิลา
บทภาวนาเพื่อเลียนแบบพระคริสตเจ้า, บทภาวนาถึงพระจิตเจ้าโดยนักบุญออกัสติน, กางเขนของท่าน โดย น.ฟรังซิส เดอ ซาลส์
บทภาวนาอุทิศให้คนบาป ,จงเงียบและอยู่นิ่งๆ, บทสวดบรรเทาทุกข์วิญญาณในไฟชำระ
บทสวดวอนขอพระหรรษทานจากทุกมิสซาในโลก (ควรสวดบทภาวนานี้ทุกวันและนำไปเผยแพร่ ต่อๆกัน) ,บทภาวนาถวายประเทศไทย
**********************************************************
ข้าแต่พระบิดา พระองค์สถิตชั่วนิรันดร ข้าพเจ้าถวายพระองค์ พระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระเยซูคริสตเจ้า พร้อมด้วยความรัก การทรมาน และฤทธิ์กุศลทั้งหมดของพระองค์
๑. เพื่อใช้โทษบาปซึ่งข้าพเจ้าได้ทำในวันนี้ และตลอดชีวิตของข้าพเจ้า (สิริพึงมี)
๒. เพื่อทำให้บริสุทธิ์ผุดผ่องความดี ซึ่งข้าพเจ้าได้ทำในวันนี้ และตลอดชีวิตของข้าพเจ้า (สิริพึงมี)
๓. เพื่อชดเชยความดี ซึ่งข้าพเจ้าควรได้ทำแต่ได้ละเลยในวันนี้ และตลอดชีวิตของข้าพเจ้า (สิริพึงมี)
หมายเหตุ: ซิสเตอร์คณะ Clare ผู้ยากจนคนหนึ่ง หลังจากสิ้นใจไม่นาน ได้ปรากฎตัวให้แม่อธิการเห็น ผู้ซึ่งกำลังสวดอุทิศให้เธอ และพูด: "ฉันได้เข้าสวรรค์โดยตรง เพราะฉันได้ใช้โทษบาปทั้งหมดโดยสวดบทนี้ทุกคืน"
************************************************************
บทรำพึงมหาทุกข์เจ็ดประการของแม่พระ
ก่อ............ข้าแต่พระเป็นเจ้า โปรดเสด็จมาช่วยข้าพเจ้า
รับ............พระเจ้าข้า โปรดรีบเสด็จมาช่วยข้าพเจ้า
ก่อ............สิริพึงมีแด่ พระบิดา และ พระบุตร และ พระจิต
รับ............เหมือนในปฐมกาล บัดนี้ และ ทุกเมื่อตลอดนิรันดร อาแมน
๑. โอ้ พระนางมารีอา ทรงทุกข์โศกเศร้ายิ่งนัก ขณะที่ผู้เฒ่าซีเมออนผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทำนายว่าจะมีดาบหลายเล่มทิ่มแทงดวงพระทัยนิรมลทินของพระนาง
พระมารดามารีอาผู้น่ารักยิ่งนัก โดยการรำพึงถึงมหาทุกข์ประการนี้ ซึ่งทรมานดวงพระทัยของพระแม่อย่างแสนสาหัส โปรดขอฤทธิ์กุศลแห่งความสุภาพและพระคุณพระจิตแห่งความเกรงกลัวพระเจ้าให้ลูกด้วยเทอญ อาแมน
(วันทามารีอา)
๒. โอ้ พระนางมารีอา ทรงทุกข์โศกเศร้ายิ่งนัก ขณะพระนางและนักบุญยอเซฟพาพระกุมารเยซูหนีไปประเทศอียิปต์ และประทับอยู่ที่นั่นเป็นการชั่วคราว เพราะเฮรอดต้องการปลงพระชนม์พระองค์
พระมารดามารีอา ผู้น่ารักยิ่งนัก โดยการรำพึงถึงมหาทุกข์ประการนี้ซึ่งทรมานดวงพระทัยของพระแม่อย่างแสนสาหัส โปรดขอฤทธิ์กุศลแห่งการมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ โดยเฉพาะต่อคนยากจน และพระคุณพระจิตแห่งความศรัทธาให้ลูกด้วยเทอญ อาแมน
(วันทามารีอา)
๓. โอ้ พระนางมารีอา ทรงทุกข์โศกเศร้ายิ่งนัก ขณะพระนางและนักบุญยอเซฟกำลังตามหาพระเยซูเจ้า พระองค์ได้หายไปเป็นเวลา ๓ วัน
พระมารดามารีอาผู้น่ารักยิ่งนัก โดยการรำพึงถึงมหาทุกข์ประการนี้ซึ่งทรมานดวงพระทัยของพระแม่อย่างแสนสาหัส โปรดขอฤทธิ์กุศลแห่งความบริสุทธิ์และพระคุณพระจิตแห่งความรู้ให้ลูกด้วยเทอญ อาแมน
(วันทามารีอา)
๔. โอ้ พระนางมารีอา ทรงทุกข์โศกเศร้ายิ่งนัก ขณะพระนางพบพระเยซูเจ้า พระองค์กำลังแบกไม้กางเขนไปยังภูเขากัลวาริโอ
พระมารดามารีอา ผู้น่ารักยิ่งนัก โดยการรำพึงถึงมหาทุกข์ประการนี้ซึ่งทรมานดวงพระทัยของพระแม่อย่างแสนสาหัส โปรดขอฤทธิ์กุศลแห่งความอดทนและพระคุณพระจิตแห่งความเข้มแข็งให้ลูกด้วยเทอญ อาแมน
(วันทามารีอา)
๕. โอ้ พระนางมารีอา ทรงทุกข์โศกเศร้ายิ่งนัก ขณะพระนางยืนอยู่ที่เชิงไม้กางเขนใกล้พระเยซูเจ้าในเวลาเข้าตรีทูต
พระมารดามารีอา ผู้น่ารักยิ่งนัก โดยการรำพึงถึงมหาทุกข์ประการนี้ ซึ่งทรมานดวงพระทัยของพระแม่อย่างแสนสาหัส โปรดขอฤทธิ์กุศลแห่งการพลีกรรมและพระคุณพระจิตแห่งคำแนะนำให้ลูกด้วยเทอญ อาแมน
(วันทามารีอา)
๖. โอ้ พระนางมารีอา ทรงทุกข์โศกเศร้ายิ่งนัก ขณะเพชฌฆาตแทงสีข้างของพระเยซูเจ้าด้วยปลายหอก ก่อนพระกายของพระองค์ถูกยกลงมาจากไม้กางเขน
พระมารดามารีอา ผู้น่ารักยิ่งนัก โดยการรำพึงถึงมหาทุกข์ประการนี้ซึ่งทรมานดวงพระทัยของพระแม่อย่างแสนสาหัส โปรดขอฤทธิ์กุศลแห่งความรักพระและเพื่อนมนุษย์ และพระคุณพระจิตแห่งความเข้าใจให้ลูกด้วยเทอญ อาแมน
(วันทามารีอา)
๗. โอ้ พระนางมารีอา ทรงทุกข์โศกเศร้ายิ่งนัก ขณะฝังพระศพพระเยซูเจ้า
พระมารดามารีอา ผู้น่ารักยิ่งนัก โดยการรำพึงถึงมหาทุกข์ประการนี้ ซึ่งทรมานดวงพระทัยของพระแม่อย่างแสนสาหัส โปรดขอฤทธิ์กุศลแห่งความขยันขันแข็งและพระคุณพระจิตแห่งความเฉลียวฉลาดให้ลูกด้วยเทอญ อาแมน
(วันทามารีอา)
เราจงภาวนา
ข้าแต่พระเยซูเจ้า พระทัยเมตตาเหลือล้น พระองค์ได้ไถ่บาปมนุษยชาติจนพระโลหิตหยดสุดท้าย โปรดช่วยเหลือเราบัดนี้ และเมื่อจะตายโดยคำเสนอวิงวอนของพระนางมารีอาพรหมจารี พระมารดาที่รักยิ่งของพระองค์ ดาบมหาทุกข์ได้แทงดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของพระแม่ ในพระมหาทรมานอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ อาแมน
คำสัญญา ๗ ข้อของพระนางพรหมจารีมารีอาสำหรับผู้รำพึงถึงมหาทุกข์ของพระนาง พร้อมกับสวดบทวันทามารีอา ๗ จบทุกวัน
๑. เราจะประทานสันติสุขในครอบครัวแก่ผู้สวดรำพึง
๒. เราจะประทานความสว่างให้ผู้รำพึงเข้าใจข้อลึกลับและความจริงต่าง ๆ เกี่ยวกับพระเป็นเจ้า
๓. เราจะบรรเทาทุกข์ผู้สวดรำพึงเมื่อเขาเจ็บไข้ได้ป่วย และเป็นเพื่อนเขาในเวลาทำงาน
๔. เราจะประทานตามที่ผู้รำพึงสวดขอ ตราบใดที่การขอไม่ขัดน้ำพระทัยพระเป็นเจ้า หรือความศักดิ์สิทธิ์ของวิญญาน
๕. เราจะปกป้องรักษาผู้สวดรำพึงในเวลาที่เขาถูกประจญ และคุ้มครองเขาขณะเขายังมีชีวิตอยู่
๖. เราจะมาช่วยผู้สวดรำพึงในเวลาเข้าตรีทูต เขาจะได้เห็นใบหน้าของเราในเวลานั้น
๗. เราได้ขอพระหรรษทานพิเศษสำหรับผู้เผยแพร่ความศรัทธาต่อมหาทุกข์เจ็ดประการของเรา เราจะมารับวิญญานเขาในโลกนี้เมื่อเขาหมดลมหายใจ และพาเขาไปสู่ความสุขชั่วนิรันดรในสวรรค์ เขาจะได้รับการยกโทษบาปทั้งหมด พระบุตรจะเป็นองค์บรรเทาใจ และองค์ความยินดีของเขาตลอดกาล
ท่านนักบุญทั้งหลาย โปรดกรุณาสอนข้าพเจ้า
นักบุญอันนา........................กรุณาสอนข้าพเจ้ารักธิดาของท่าน พระนางมารีอา
พระนางมารีอาผู้ศักดิ์สิทธิ์ โปรดสอนข้าพเจ้าทำตัวเหมาะสม ตามคำสัญญาของพระคริสตเจ้า
นักบุญโยเซฟ.......................กรุณาสอนข้าพเจ้าฤทธิ์กุศลแห่งความเงียบ
นักบุญดาเนียล.....................กรุณาสอนข้าพเจ้าเป็นคนเฉลียวฉลาด
นักบุญมีคาแอล.....................กรุณาสอนข้าพเจ้าปราบปิศาจ
นักบุญยอห์น แบ๊บติสท์...........กรุณาสอนข้าพเจ้าทำพลีกรรม
นักบุญยอห์น อัครสาวกของพระเยซูเจ้า..........กรุณาสอนข้าพเจ้ารักพระเยซูเจ้าสิ้นสุดดวงใจ สิ้นสุดวิญญาน และสิ้นสุดกำลัง
นักบุญเปโตร........................กรุณาสอนข้าพเจ้าเป็นคนซื่อสัตย์
นักบุญเปาโล.........................กรุณาสอนข้าพเจ้ากอบกู้วิญญาณด้วยความร้อนรน
นักบุญโธมัส..........................กรุณาสอนข้าพเจ้าเชื่อโดยไม่ต้องสงสัย
นักบุญสตีเฟน.......................กรุณาสอนข้าพเจ้าจิตตารมณ์แห่งการเป็นมรณะสักขี
นักบุญซีมอน ชาวซีเรน............กรุณาสอนข้าพเจ้ารักการแบกไม้กางเขนของพระเยซูเจ้า
นักบุญเวโรนิกา......................กรุณาสอนข้าพเจ้าเห็นใจผู้ตกระกำลำบาก
นักบุญมารี มักดาเลนา.............กรุณาสอนข้าพเจ้าเป็นทุกข์ถึงบาป
นักบุญดิสมาส.......................กรุณาสอนข้าพเจ้าให้ได้สวรรค์
นักบุญอักแนส.......................กรุณาสอนข้าพเจ้าเป็นคนบริสุทธิ์
นักบุญมารีอา กอแรตตี ..........กรุณาสอนข้าพเจ้าต่อสู้กับการประจญ
นักบุญเยโรม.........................กรุณาสอนข้าพเจ้ารักการอ่านพระคัมภีร์
นักบุญมอนิกา.......................กรุณาสอนข้าพเจ้าภาวนาอย่างสม่ำเสมอ อย่าหยุด และตลอดเวลา
นักบุญออกัสติน....................กรุณาสอนข้าพเจ้าประพฤติตนตามคำภาวนาของแม่
นักบุญฟรังซิส บอร์เกีย..........กรุณาสอนข้าพเจ้าละทิ้งความต้องการทางโลก
นักบุญฟรังซิส เดอ เซลส์........กรุณาสอนข้าพเจ้าเป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส
นักบุญฟรังซิส อัสซีซี.............กรุณาสอนข้าพเจ้าเป็นคนสุภาพถ่อมตน
นักบุญฟรังซิส เซเวียร์...........กรุณาสอนข้าพเจ้าแพร่ธรรมด้วยความร้อนรน
นักบุญฟิลิป เนรี...................กรุณาสอนข้าพเจ้าเป็นคนร่าเริงสนุกสนาน
นักบุญโธมัส มอร์..................กรุณาสอนข้าพเจ้ามั่นคง มีสติสัมชัญญะ
นักบุญแอนโธนี.....................กรุณาสอนข้าพเจ้าแสวงหาความศักดิ์สิทธิ์ทางวิญญาณ
นักบุญปัสกาล......................กรุณาสอนข้าพเจ้ารักการรับศีลมหาสนิท
นักบุญยอห์น วีอันเน..............กรุณาสอนข้าพเจ้าเคารพรักการเป็นพระสงฆ์
นักบุญโธมัส อไคว์นัส.............กรุณาสอนข้าพเจ้ารักการรำพึงถึงพระเป็นเจ้า
นักบุญอัลเบิร์ต เดอะ เกรท......กรุณาสอนข้าพเจ้ารักและวางใจในพระปรีชาญาณของพระเป็นเจ้า
นักบุญวินเซนต์ เดอ ปอล........กรุณาสอนข้าพเจ้ารักคนจน
นักบุญเอลิซาเบธ...................กรุณาสอนข้าพเจ้าเอาใจใส่คนที่สังคมรังเกียจ
นักบุญคามิลเลียน..................กรุณาสอนข้าพเจ้าเยี่ยมและดูแลคนป่วย
นักบุญดอนบอสโก.................กรุณาสอนข้าพเจ้ารักเยาวชน
นักบุญมาร์กาเรต แมรี.............กรุณาสอนข้าพเจ้ารักพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระเยซูคริสตเจ้า
นักบุญเทเรซา........................กรุณาสอนข้าพเจ้าเห็นคุณค่าของสิ่งเล็กๆ น้อยๆ และทำทุกสิ่งถวายพระเกียรติและพระสิริโรจนาแด่พระเป็นเจ้า
อาแมน
รูปปั้นร้องไห้และเลือดไหล
เรื่องราวของปาฏิหาริย์แห่งรูปเขียนรูปสลักของพระเยซูและพระแม่มารีนั้น มีหลายเรื่องด้วยกัน
เรื่องแรก เกิดขึ้นที่เมืองซีราคิวส์ในซิซิลีเมื่อเดือนสิงหาคม 1953 นางอันโตนิเอ็ตต้า จานุสโซ ซึ่งเพิ่งแต่งงานใหม่ ได้รับของขวัญเป็นรูปปั้นปูนพลาสเตอร์ของพระแม่มารี เธอนำรูปปั้นครึ่งตัวนั้นไปประดับไว้ที่ผนังห้องและไม่ได้สนใจเท่าใดนัก เพราะหลังจากแต่งงานได้ไม่นาน อันโตนิเอ็ตต้าก็เริ่มป่วยกระเสาะและเพิ่มมากขึ้น ๆ ด้วยอาการประหลาด กล่าวคือมีอาการหูหนวกหรือตาบอด หรือเป็นใบ้ไปชั่วคราว แพทย์ลงความเห็นในชั้นแรกว่าเป็นโรคประสาท แต่ต่อมาหลังจากตรวจหาสาเหตุโดยละเอียดแล้วก็กลับไม่รู้ว่าเป็นโรคแะไรกันแน่ บางหมอว่าเป็นฮีสทีเรีย บางคนว่าไม่ใช่... แต่ที่เป็นความจริงก็คืออันโตนิเอ็ตต้าผู้เคราะห์ร้ายต้องนอนแซ่วอยู่บนเตียงครั้งละนาน ๆ ครอบครัวของเธอยากจนมากด้วย เมื่อเธอต้องมาเจ็บป่วยอย่างนี้จึงลำบากกันไปหมด
และแล้ว วันหนึ่ง ในขณะที่สาวคนป่วยนอนอยู่บนเตียง เธอก็เหลือบตาขึ้นมองรูปแม่พระที่แขวนผนังไว้บนหัวนอนโดยไม่ตั้งใจแล้วก็ต้องตกตะลึงเมื่อได้เห็นความผิดปกติที่รูปนั้น
พระแม่มารีอันปั้นด้วยรูปพลาสเตอร์ มีน้ำตาไหลออกจากดวงตาเป็นหยาดหยดมองเห็นชัดเจน
รูปปั้นร้องไห้ !
การหลั่งน้ำตาของรูปพระแม่มารีเป็นไปติดต่อกันหลายวัน และทุก ๆ วันอันโตนิเอ็ตต้ารู้สึกสบายขึ้น ๆ ทุกขณะ โรคร้ายที่เล่นงานเธอดูจะล่าถอยออกไป พร้อมๆ กับพระแม่หยุดหลั่งน้ำตานั่นเอง อันโตนิเอ๊ตต้าก็หายป่วยพอดีเรื่องนี้ คนเล่าเจ้าของรูปมีพยานรู้เห็นมากมาย เพราะในวันแรกที่รูปปั้นหลั่งน้ำตามารดาของเธอได้เล่าให้เพื่อนบ้านฟัง ใคร ๆ ก็แห่กันเข้าไปในห้องแคบ ๆของอันโตนิเอ็ตต้า และได้เห็นด้วยตาตนเอ
ว่า รูปพระแม่มารีหลั่งน้ำตาจริง ๆ ...เรื่องนี้ ในทัศนะของผู้ที่เลื่อมใสศาสนาเต็มที่เชื่อมั่นว่าเป็นปาฏิหาริย์ทางศาสนาเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง แต่สำหรับแพทย์ที่รักษาโรคภัยำข้เจ็บของอันโตนิเอ็ตต้ากลับมีความเห็นว่า การที่เธอหายป่วยในครั้งนี้เป็นด้วยกำลังใจ คืออันโตนิเอ็ตต้าหยุดสงสารตัวเองเมื่อเห็นว่ามีผู้อื่นสงสารเธอสบายขึ้น แข็งแรงขึ้นและหายป่วยได้โดยเร็ว
ส่วนน้ำใสที่หลั่งจากดวงตารูปปั้นนั้น วิเคราะห์วิจัยแล้วพบว่าเป็นน้ำตาจริง แต่ที่วิเคราะห์ไม่ได้ก็คือ ทำไมจึงมีน้ำตาจริงไหลออกมาจากรูปปั้นพลาสเตอร์ราคาถูก ๆ ได้ ? ยังไม่มีคำตอบอันกระจ่างแจ้งทางวิทยาศาสตร์จนบัดนี้
อีกรายหนึ่งไม่ได้หลั่งน้ำตา หากหลั่งเลือดเลยทีเดียว
รูปปั้นที่หลั่งเลือดครั้งนี้ไม่ใช่รูปปั้นของพระแม่มารี หากเป็นรูปของนักบุญแอนน์ (St.Anne) ในท่าโน้มตัวนิด ๆ ยื่นมือออกมาด้วยท่าทางปรานีรูปนี้ส่วนสูงประมาณสองฟุต เป็นของนายญัง ซาลาท เจ้าของโรงแรมเล็ก ๆ ในเมืองอองเตรอโวซ์ของฝรั่งเศส วันหนึ่ง นายซาลาทเกิดโมโหโกรธาอะไรมาไม่ทราบ กำหมัดทุบโต๊ะโครม แล้วก็เผอิญหมัดนั้นไปกระทบถูกมือข้างหนึ่งของรูปปั้นเซ็นต์แอนน์หักอกครึ่งหนึ่ง คือหักตรงช่วงนิ้วกับฝ่ามือ พอหายมะโหแล้ว ซาลาทก็จัดการเอามือ ที่หักมา ต่อกันให้สนิทด้วยกาวอย่างดีจนมองไม่เห็นรอยต่อ แล้วก็คิดไม่มีอะไร เกิดขึ้น
เขาคิดผิดถนัด
ในวันนั้นเองหลังจากที่ต่อมือให้รูปปั้นเสร็จสรรพ ญัง ซาลาทเดินผ่านมาหน้ารูปอีกที พอแลเห็นเข้าก็มีความฉงนฉงายจนต้องปราดเข้าไปพิศดูใกล้ชิด
เพราะว่า มือของรูปปั้นตรงรอยตอที่เขาต่อไว้ดิบดีนั้น มีของเหลวสีแดงเหมือนเลือดไหลซึมออกมาเห็นถนัด
ซาลาแน่ใจว่าไม่ใช่กาวที่เขาทาไว้แน่นอน และยิ่งมั่นใจใหญ่เรื่องของเหลวสีแดงนี้ไหลออกมาไม่ขาดสายเขาโวยวายเรียกใครต่อใครมาดู แล้วก็ยิ่งแปลกใจกันมากขึ้นว่า วันนั้นทั้งวัน มีเลือดไหลซึมจากรอยแผลที่มือนักบุญทีละน้อย แล้วรวมกันเป็นหยดไหลหยาดลงช้า ๆ นับได้ถึง 30 หยดตลอดวันครั้นถึงวันรุ่งขึ้น เลือดยังไหลซึมอยู่อีก คราวนี้ซาลาทรีบไปเชิญนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ให้มาพิสูจน์ของเหลวสีแดงนั้นว่ามันเป็นอะไรแน่
ผลของการพิสูจน์บอกได้ชัดเจนว่าเป็นเลือดจริง ๆ !
เรื่องรูปร้องไห้หรือหลั่งเลือดนี้ไม่ใช่เพียงไม่กี่เรื่อง หากมีอยู่หลายเรื่อง และมีตั้งแต่อดีตอันไกลอดีตอันใกล้ไล่มาจนเกือบถึงปัจจุบันทีเดียว
อย่างรายนี้ เรื่องราวได้เกิดขึ้นในปี 1980 รูปแม่พระในซิซิลีเหมือนกัน หลั่งเลือดได้ต่อหน้าต่อคนที่เฝ้าดูจำนวนมาก ทีแรก รูปปั้นของแม่พระแห่งหมู่บ้านคัลตานิสเซ็ตหลั่งน้ำตาครั้งหนึ่งแล้วในปี ๑๙๗๔ ครั้นต่อมาในปี ๑๙๘๐ ก็หลั่งโลหิตออกจากรอยเล็ก ๆ ตรงแก้มรอยเลือดนี้หลั่งอยู่ตลอดวันในลักษณะค่อย ๆ ซึมออกมาทีละนิด ท่ามกลางสายตาคนดูจำนวนมาก และก็เช่นเดียวกับทุกครั้งคือวิเคราะห์ได้ว่า ทั้งน้ำตาและเลือดเป็นของจริง แต่ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
จากhttp://writer.dek-d.com/cammy/st ... 485&chapter=125 กับhttp://community.asc.ac.th/discuz7/viewthread.php?tid=589
เรื่องราวของปาฏิหาริย์แห่งรูปเขียนรูปสลักของพระเยซูและพระแม่มารีนั้น มีหลายเรื่องด้วยกัน
เรื่องแรก เกิดขึ้นที่เมืองซีราคิวส์ในซิซิลีเมื่อเดือนสิงหาคม 1953 นางอันโตนิเอ็ตต้า จานุสโซ ซึ่งเพิ่งแต่งงานใหม่ ได้รับของขวัญเป็นรูปปั้นปูนพลาสเตอร์ของพระแม่มารี เธอนำรูปปั้นครึ่งตัวนั้นไปประดับไว้ที่ผนังห้องและไม่ได้สนใจเท่าใดนัก เพราะหลังจากแต่งงานได้ไม่นาน อันโตนิเอ็ตต้าก็เริ่มป่วยกระเสาะและเพิ่มมากขึ้น ๆ ด้วยอาการประหลาด กล่าวคือมีอาการหูหนวกหรือตาบอด หรือเป็นใบ้ไปชั่วคราว แพทย์ลงความเห็นในชั้นแรกว่าเป็นโรคประสาท แต่ต่อมาหลังจากตรวจหาสาเหตุโดยละเอียดแล้วก็กลับไม่รู้ว่าเป็นโรคแะไรกันแน่ บางหมอว่าเป็นฮีสทีเรีย บางคนว่าไม่ใช่... แต่ที่เป็นความจริงก็คืออันโตนิเอ็ตต้าผู้เคราะห์ร้ายต้องนอนแซ่วอยู่บนเตียงครั้งละนาน ๆ ครอบครัวของเธอยากจนมากด้วย เมื่อเธอต้องมาเจ็บป่วยอย่างนี้จึงลำบากกันไปหมด
และแล้ว วันหนึ่ง ในขณะที่สาวคนป่วยนอนอยู่บนเตียง เธอก็เหลือบตาขึ้นมองรูปแม่พระที่แขวนผนังไว้บนหัวนอนโดยไม่ตั้งใจแล้วก็ต้องตกตะลึงเมื่อได้เห็นความผิดปกติที่รูปนั้น
พระแม่มารีอันปั้นด้วยรูปพลาสเตอร์ มีน้ำตาไหลออกจากดวงตาเป็นหยาดหยดมองเห็นชัดเจน
รูปปั้นร้องไห้ !
การหลั่งน้ำตาของรูปพระแม่มารีเป็นไปติดต่อกันหลายวัน และทุก ๆ วันอันโตนิเอ็ตต้ารู้สึกสบายขึ้น ๆ ทุกขณะ โรคร้ายที่เล่นงานเธอดูจะล่าถอยออกไป พร้อมๆ กับพระแม่หยุดหลั่งน้ำตานั่นเอง อันโตนิเอ๊ตต้าก็หายป่วยพอดีเรื่องนี้ คนเล่าเจ้าของรูปมีพยานรู้เห็นมากมาย เพราะในวันแรกที่รูปปั้นหลั่งน้ำตามารดาของเธอได้เล่าให้เพื่อนบ้านฟัง ใคร ๆ ก็แห่กันเข้าไปในห้องแคบ ๆของอันโตนิเอ็ตต้า และได้เห็นด้วยตาตนเอ
ว่า รูปพระแม่มารีหลั่งน้ำตาจริง ๆ ...เรื่องนี้ ในทัศนะของผู้ที่เลื่อมใสศาสนาเต็มที่เชื่อมั่นว่าเป็นปาฏิหาริย์ทางศาสนาเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง แต่สำหรับแพทย์ที่รักษาโรคภัยำข้เจ็บของอันโตนิเอ็ตต้ากลับมีความเห็นว่า การที่เธอหายป่วยในครั้งนี้เป็นด้วยกำลังใจ คืออันโตนิเอ็ตต้าหยุดสงสารตัวเองเมื่อเห็นว่ามีผู้อื่นสงสารเธอสบายขึ้น แข็งแรงขึ้นและหายป่วยได้โดยเร็ว
ส่วนน้ำใสที่หลั่งจากดวงตารูปปั้นนั้น วิเคราะห์วิจัยแล้วพบว่าเป็นน้ำตาจริง แต่ที่วิเคราะห์ไม่ได้ก็คือ ทำไมจึงมีน้ำตาจริงไหลออกมาจากรูปปั้นพลาสเตอร์ราคาถูก ๆ ได้ ? ยังไม่มีคำตอบอันกระจ่างแจ้งทางวิทยาศาสตร์จนบัดนี้
อีกรายหนึ่งไม่ได้หลั่งน้ำตา หากหลั่งเลือดเลยทีเดียว
รูปปั้นที่หลั่งเลือดครั้งนี้ไม่ใช่รูปปั้นของพระแม่มารี หากเป็นรูปของนักบุญแอนน์ (St.Anne) ในท่าโน้มตัวนิด ๆ ยื่นมือออกมาด้วยท่าทางปรานีรูปนี้ส่วนสูงประมาณสองฟุต เป็นของนายญัง ซาลาท เจ้าของโรงแรมเล็ก ๆ ในเมืองอองเตรอโวซ์ของฝรั่งเศส วันหนึ่ง นายซาลาทเกิดโมโหโกรธาอะไรมาไม่ทราบ กำหมัดทุบโต๊ะโครม แล้วก็เผอิญหมัดนั้นไปกระทบถูกมือข้างหนึ่งของรูปปั้นเซ็นต์แอนน์หักอกครึ่งหนึ่ง คือหักตรงช่วงนิ้วกับฝ่ามือ พอหายมะโหแล้ว ซาลาทก็จัดการเอามือ ที่หักมา ต่อกันให้สนิทด้วยกาวอย่างดีจนมองไม่เห็นรอยต่อ แล้วก็คิดไม่มีอะไร เกิดขึ้น
เขาคิดผิดถนัด
ในวันนั้นเองหลังจากที่ต่อมือให้รูปปั้นเสร็จสรรพ ญัง ซาลาทเดินผ่านมาหน้ารูปอีกที พอแลเห็นเข้าก็มีความฉงนฉงายจนต้องปราดเข้าไปพิศดูใกล้ชิด
เพราะว่า มือของรูปปั้นตรงรอยตอที่เขาต่อไว้ดิบดีนั้น มีของเหลวสีแดงเหมือนเลือดไหลซึมออกมาเห็นถนัด
ซาลาแน่ใจว่าไม่ใช่กาวที่เขาทาไว้แน่นอน และยิ่งมั่นใจใหญ่เรื่องของเหลวสีแดงนี้ไหลออกมาไม่ขาดสายเขาโวยวายเรียกใครต่อใครมาดู แล้วก็ยิ่งแปลกใจกันมากขึ้นว่า วันนั้นทั้งวัน มีเลือดไหลซึมจากรอยแผลที่มือนักบุญทีละน้อย แล้วรวมกันเป็นหยดไหลหยาดลงช้า ๆ นับได้ถึง 30 หยดตลอดวันครั้นถึงวันรุ่งขึ้น เลือดยังไหลซึมอยู่อีก คราวนี้ซาลาทรีบไปเชิญนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ให้มาพิสูจน์ของเหลวสีแดงนั้นว่ามันเป็นอะไรแน่
ผลของการพิสูจน์บอกได้ชัดเจนว่าเป็นเลือดจริง ๆ !
เรื่องรูปร้องไห้หรือหลั่งเลือดนี้ไม่ใช่เพียงไม่กี่เรื่อง หากมีอยู่หลายเรื่อง และมีตั้งแต่อดีตอันไกลอดีตอันใกล้ไล่มาจนเกือบถึงปัจจุบันทีเดียว
อย่างรายนี้ เรื่องราวได้เกิดขึ้นในปี 1980 รูปแม่พระในซิซิลีเหมือนกัน หลั่งเลือดได้ต่อหน้าต่อคนที่เฝ้าดูจำนวนมาก ทีแรก รูปปั้นของแม่พระแห่งหมู่บ้านคัลตานิสเซ็ตหลั่งน้ำตาครั้งหนึ่งแล้วในปี ๑๙๗๔ ครั้นต่อมาในปี ๑๙๘๐ ก็หลั่งโลหิตออกจากรอยเล็ก ๆ ตรงแก้มรอยเลือดนี้หลั่งอยู่ตลอดวันในลักษณะค่อย ๆ ซึมออกมาทีละนิด ท่ามกลางสายตาคนดูจำนวนมาก และก็เช่นเดียวกับทุกครั้งคือวิเคราะห์ได้ว่า ทั้งน้ำตาและเลือดเป็นของจริง แต่ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
จากhttp://writer.dek-d.com/cammy/st ... 485&chapter=125 กับhttp://community.asc.ac.th/discuz7/viewthread.php?tid=589
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
ทหารไม่ออกมา แต่ตำรวจออกมาแถมคนบาดเจ็บมากมายครับIsolation เขียน: กระทู้นี้ เฮ้อ...ตอนสีอื่นทำบ้านเมืองยำแย่
คนไม่เห็นจะอลม่านขนาดนี้ พอทีนี้จะมาโอ๊ยอย่างนั้นอย่างนี้
ตอนสีเหลืองทำ ไม่มีทหารออกมา ไม่มีปล่อยข่าว รุนแรง
แต่สถานการณ์แย่สุดๆ ไม่เห็นมีคนมาพูดบ้างเลย เบื่อๆๆ
เห็นแดงบอกว่าเมษาปีที่แล้วคนตายเยอะ เจอศพหรือยังครับ
ปล. ขอร้องอย่าเปิดประเด็น
อ่า .. ความพยายามเรียกร้องให้ไม่พูดการเมืองของพี่วิน น่าจะเรียกได้ว่า "ประสบความล้มเหลวอย่างเห็นได้ชัด" โดยตัวเองเป็นผู้ริเริ่มเปิดประเด็นก่อน
ผมว่า กลับไปที่หัวข้อ "ควรทำอะไรดีที่สุด" กันอย่างเดิมดีกว่าฮับ น่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคน
ผมว่า กลับไปที่หัวข้อ "ควรทำอะไรดีที่สุด" กันอย่างเดิมดีกว่าฮับ น่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคน
สำเนาเห็นด้วยถูกต้อง^_^P เขียน: อ่า .. ความพยายามเรียกร้องให้ไม่พูดการเมืองของพี่วิน น่าจะเรียกได้ว่า "ประสบความล้มเหลวอย่างเห็นได้ชัด" โดยตัวเองเป็นผู้ริเริ่มเปิดประเด็นก่อน
ผมว่า กลับไปที่หัวข้อ "ควรทำอะไรดีที่สุด" กันอย่างเดิมดีกว่าฮับ น่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคน
-
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm
ใจเย้น....ใจเย็นกันนะครับพี่ๆทุกคน
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
วันอาทิตย์ที่ 14 เข้าสู่เทศกาลมหาพรต อาทิตย์ที่ 4 ใครมีกิจศรัทธาอะไรมาแบ่งปันกันฟังบ้าง
-
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm
ผมจะใช้เวลาสวดสายประคำให้มากขึ้นครับ (ถึงแม้จะไปวัดไม่ได้ก็ตาม) และก็ทำกิจใช้โทษบาปครับ:+: seraphim :+: เขียน: วันอาทิตย์ที่ 14 เข้าสู่เทศกาลมหาพรต อาทิตย์ที่ 4 ใครมีกิจศรัทธาอะไรมาแบ่งปันกันฟังบ้าง
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
^
ทำไมไปวัดไม่อ่ะคะ
ทำไมไปวัดไม่อ่ะคะ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
พยายามไม่โกรธครับ
นับ 1 ถึง 10 บ่อย ๆ
นับ 1 ถึง 10 บ่อย ๆ
ผ่านไปได้อย่าง(เหมือนจะ)ราบรื่น
For me It's not Bloody Birthday,
But It's Lonely Birthday....'Cause Everything out of my plan.
For me It's not Bloody Birthday,
But It's Lonely Birthday....'Cause Everything out of my plan.
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ก็แล้วกลับมาแล้ว ตอนเช้ารถสีแดง เสื้อแดง วิ่งว่อนไปหมด ใจหงุดหงิดมาก แต่ภาวนาให้
ตอนนี้ก็อธิษฐานให้เหตุการณ์ต่างๆผ่านไปได้
ตอนนี้ก็อธิษฐานให้เหตุการณ์ต่างๆผ่านไปได้
ผมอยู่ภูเก็ต วันนี้รอลุ้นเหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น เกิดรุนแรงขึ้นมานี่ ลำบากเหมือนกัน นักท่องเที่ยวกระเจิงหมดแน่
ที่วัดวันนี้ก่อนเริ่มมิซซา พ่อก็อ่านจดหมายจากพระสังฆราชเรื่องการภาวนาเพื่อสันติในบ้านเมือง ช่วงบทภาวนาเพื่อมวลชนคุณป้าใจศรัทธาท่านหนึ่ง เสริมขึ้นมาแบบไม่มีโพยได้กินใจดีสุดๆ
ขอพระอำนวยพรบ้านเมืองของเราด้วยเถิดพระเจ้าข้า
ปล. วันนี้คุณป้าแดงแจ๋กับลูกชายเหลืองอ๋อยมามิซซาด้วยกัน เห็นแล้วก็ดีใจ
ที่วัดวันนี้ก่อนเริ่มมิซซา พ่อก็อ่านจดหมายจากพระสังฆราชเรื่องการภาวนาเพื่อสันติในบ้านเมือง ช่วงบทภาวนาเพื่อมวลชนคุณป้าใจศรัทธาท่านหนึ่ง เสริมขึ้นมาแบบไม่มีโพยได้กินใจดีสุดๆ
ขอพระอำนวยพรบ้านเมืองของเราด้วยเถิดพระเจ้าข้า
ปล. วันนี้คุณป้าแดงแจ๋กับลูกชายเหลืองอ๋อยมามิซซาด้วยกัน เห็นแล้วก็ดีใจ
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
ขอบคุณพระเจ้ามากครับ เช้าวันอาทิตย์กำลังเดินทางไปโบสถ์ ก็มีรถสาย 84 มารอรับที่ป้ายรถเมล์หลังจากลงสะพานลอย พอไปถึงโบสถ์ก็เริ่มเดินรูปพอดี (เป็นการเดินรูปครั้งแรกในชีวิต ทั้งที่ตั้งใจจะเดินหลายครั้งก็มาไม่เคทันสักที ^^)
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
เชื่อว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คริสตชน ทุกคณะ/นิกาย ได้อธิษฐาน ขอพระเจ้าทรงประทานความสงบสุขให้แก่คนไทย
และวิงวอนให้สถานการณ์ การเมือง ได้รับการแก้ไข ในทางที่ดี แน่ๆ
และวิงวอนให้สถานการณ์ การเมือง ได้รับการแก้ไข ในทางที่ดี แน่ๆ
สดด.121ผมท่องประจำ(ภาษาฮิบรู) กำลังพยายามท่องภาษาไทยให้ได้อยู่อันตน เขียน: ลองอ่าน 121
เพราะความหมายดีมาก โดยเฉพาะ สดด.121:2
ขอเชิญชวนให้อ่านบทสดุดีที่119(Vul.118)เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
^
พี่แมว เรียน ฮีบรูด้วยเหรอ...เจี๊ยบเคยเรียน และคืน teacher หมดแล้ว อิอิ
เจี๊ยบฝึกท่องเป็นภาษาอังกฤษ งับ
Psalm 121 (New International Version)
Psalm 121
1 I lift up my eyes to the hills
พี่แมว เรียน ฮีบรูด้วยเหรอ...เจี๊ยบเคยเรียน และคืน teacher หมดแล้ว อิอิ
เจี๊ยบฝึกท่องเป็นภาษาอังกฤษ งับ
Psalm 121 (New International Version)
Psalm 121
1 I lift up my eyes to the hills
แก้ไขล่าสุดโดย Jeab Agape เมื่อ อังคาร มี.ค. 16, 2010 4:39 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
Psalms Chapter 121 תְּהִלִּים
א שִׁיר, לַמַּעֲלוֹת:
אֶשָּׂא עֵינַי, אֶל-הֶהָרִים-- מֵאַיִן, יָבֹא עֶזְרִי. 1 A Song of Ascents. {N}
I will lift up mine eyes unto the mountains: from whence shall my help come?
ב עֶזְרִי, מֵעִם יְהוָה-- עֹשֵׂה, שָׁמַיִם וָאָרֶץ. 2
My help cometh from the LORD, who made heaven and earth.
ג אַל-יִתֵּן לַמּוֹט רַגְלֶךָ; אַל-יָנוּם, שֹׁמְרֶךָ. 3
He will not suffer thy foot to be moved; He that keepeth thee will not slumber.
ד הִנֵּה לֹא-יָנוּם, וְלֹא יִישָׁן-- שׁוֹמֵר, יִשְׂרָאֵל. 4
Behold, He that keepeth Israel doth neither slumber nor sleep.
ה יְהוָה שֹׁמְרֶךָ; יְהוָה צִלְּךָ, עַל-יַד יְמִינֶךָ. 5
The LORD is thy keeper; the LORD is thy shade upon thy right hand.
ו יוֹמָם, הַשֶּׁמֶשׁ לֹא-יַכֶּכָּה; וְיָרֵחַ בַּלָּיְלָה. 6
The sun shall not smite thee by day, nor the moon by night.
ז יְהוָה, יִשְׁמָרְךָ מִכָּל-רָע: יִשְׁמֹר, אֶת-נַפְשֶׁךָ. 7
The LORD shall keep thee from all evil; He shall keep thy soul.
ח יְהוָה, יִשְׁמָר-צֵאתְךָ וּבוֹאֶךָ-- מֵעַתָּה, וְעַד-עוֹלָם. 8
The LORD shall guard thy going out and thy coming in, from this time forth and for ever. {P}
พี่แมว ช่วยเขียนภาษาฮีบรู ให้เจี๊ยบท่องด้วยดิ
א שִׁיר, לַמַּעֲלוֹת:
אֶשָּׂא עֵינַי, אֶל-הֶהָרִים-- מֵאַיִן, יָבֹא עֶזְרִי. 1 A Song of Ascents. {N}
I will lift up mine eyes unto the mountains: from whence shall my help come?
ב עֶזְרִי, מֵעִם יְהוָה-- עֹשֵׂה, שָׁמַיִם וָאָרֶץ. 2
My help cometh from the LORD, who made heaven and earth.
ג אַל-יִתֵּן לַמּוֹט רַגְלֶךָ; אַל-יָנוּם, שֹׁמְרֶךָ. 3
He will not suffer thy foot to be moved; He that keepeth thee will not slumber.
ד הִנֵּה לֹא-יָנוּם, וְלֹא יִישָׁן-- שׁוֹמֵר, יִשְׂרָאֵל. 4
Behold, He that keepeth Israel doth neither slumber nor sleep.
ה יְהוָה שֹׁמְרֶךָ; יְהוָה צִלְּךָ, עַל-יַד יְמִינֶךָ. 5
The LORD is thy keeper; the LORD is thy shade upon thy right hand.
ו יוֹמָם, הַשֶּׁמֶשׁ לֹא-יַכֶּכָּה; וְיָרֵחַ בַּלָּיְלָה. 6
The sun shall not smite thee by day, nor the moon by night.
ז יְהוָה, יִשְׁמָרְךָ מִכָּל-רָע: יִשְׁמֹר, אֶת-נַפְשֶׁךָ. 7
The LORD shall keep thee from all evil; He shall keep thy soul.
ח יְהוָה, יִשְׁמָר-צֵאתְךָ וּבוֹאֶךָ-- מֵעַתָּה, וְעַד-עוֹלָם. 8
The LORD shall guard thy going out and thy coming in, from this time forth and for ever. {P}
พี่แมว ช่วยเขียนภาษาฮีบรู ให้เจี๊ยบท่องด้วยดิ
-
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm
พ่อแม่ผมไม่ให้ไปครับ:+: seraphim :+: เขียน: ^
ทำไมไปวัดไม่อ่ะคะ
ฟังจากYoutube แล้วแกะเป็นคำอ่านแล้วท่องครับ ^ ^!Jeab Agape เขียน: ^
พี่แมว เรียน ฮีบรูด้วยเหรอ...
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Holy Bible เขียน:พ่อแม่ผมไม่ให้ไปครับ:+: seraphim :+: เขียน: ^
ทำไมไปวัดไม่อ่ะคะ
สวดภาวนาขอพระนำทางนะคะ ไม่มีอะไรสู่แรงภาวนาได้หรอก