ไม่อยากสวดบทนี้เลย ..
- เลย์
- โพสต์: 1845
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 05, 2009 12:27 am
- ที่อยู่: ในอ้อมพระหัตถ์พระเป็นเจ้า
- ติดต่อ:
ไม่รุ้ว่าเลย์คิดมากไปเองหรือป่าว เลย์ไม่อยากสวดบทแสดงความทุกข์เลย โดยเฉพาะประโยคที่ว่า " เดชะพระหรรษทานช่วย
ข้าพเจ้าตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ทำบาปอีกเลย " เพราะรู้สึกเหมือนว่าเรากำลังโกหกพระเป็นเจ้าว่าเราจะไม่ทำบาปอีก แต่เราก็ทำบาป
กันอยู่ทุกวัน และเป็นบาปที่ซ้ำๆด้วย เวลาเลย์สวด เลย์จะสวดบทแสดงความเชื่อ ความไว้ใจ ความรัก ส่วนบทแสดงความทุกข์เลย์จะไม่สวด
ด้วยเหตุผลดังกล่าว เพื่อนๆว่าเลย์คิดมากไปเองหรือป่าวครับ แนะนำด้วยครับ .. : emo036 : : xemo031 : : xemo033 :
ข้าพเจ้าตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ทำบาปอีกเลย " เพราะรู้สึกเหมือนว่าเรากำลังโกหกพระเป็นเจ้าว่าเราจะไม่ทำบาปอีก แต่เราก็ทำบาป
กันอยู่ทุกวัน และเป็นบาปที่ซ้ำๆด้วย เวลาเลย์สวด เลย์จะสวดบทแสดงความเชื่อ ความไว้ใจ ความรัก ส่วนบทแสดงความทุกข์เลย์จะไม่สวด
ด้วยเหตุผลดังกล่าว เพื่อนๆว่าเลย์คิดมากไปเองหรือป่าวครับ แนะนำด้วยครับ .. : emo036 : : xemo031 : : xemo033 :
มนุษย์ก็คือ มนุษย์เลย์ ไม่ว่าจะอย่างไรก็มีโอกาสพลาดพลั้ง เราว่าคุณควรจะสวดนะ เราสวดเวลาไปแก้บาปทุกที เรียกว่าสำนึกก่อนเข้าที่แก้บาปเสียอีก
งานนี้คุณอาจจะคิดมากไปนะ แค่คุณสำนึกได้และพยายามหลีกเลี่ยงจากบาป พระองค์ก็ทรงยกโทษให้คุณแล้วแหละ
ขอพระเจ้าอวยพรนะ
งานนี้คุณอาจจะคิดมากไปนะ แค่คุณสำนึกได้และพยายามหลีกเลี่ยงจากบาป พระองค์ก็ทรงยกโทษให้คุณแล้วแหละ
ขอพระเจ้าอวยพรนะ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
สวดเถอะครับ เป็นการทำให้เราสำนึกในบาปนั้นมากขึ้น
ผมก็เคยคิดอย่างเลย์นะครับ..แต่ผมคิิดว่าการที่เราเป็นมนุษย์นั้นสิ่งล่อลวงสารพัดโดยมากมักมีแต่สิ่งจูงใจให้ทำบาปทั้งสิ้น การพลาดพลั้งก็เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่จงภูมิใจที่เรายังมีจิตสำนึกที่ดีที่คิดจะกลับตัวและแก้ไข หากเรามีสิ่งนี้ก็หมายถึงเรามีศีลธรรมที่ดีอยู่ในตัวอยู่แล้ว ต่างจากคนที่คิดแต่จะทำผิดอย่างดียวคิดแต่จะเอาัดเอาเปรียบโดยไม่มีพระเป็นเจ้านำทางหรือไม่ยอมเดินตามทางพระองค์ ผิดจากเราที่มีแสงสว่างในพระคอยชี้นำให้เรากลับใจเสมอ..
อย่าลืมว่าอย่างไรเสียเราก็เป็นคนบาปดังนั้นการสังวรว่าเราเป็นคนบาปนั้นมิใช่สิ่งผิดแต่การไม่สำนึกถึงมันเลยนั่นสิเป็นบาปอันใหญ่หลวงที่แท้จริง
อย่าลืมว่าอย่างไรเสียเราก็เป็นคนบาปดังนั้นการสังวรว่าเราเป็นคนบาปนั้นมิใช่สิ่งผิดแต่การไม่สำนึกถึงมันเลยนั่นสิเป็นบาปอันใหญ่หลวงที่แท้จริง
คิดมากไปครับ
ถ้าเราละอายเมื่อสวด เป็นการบ่งบอกว่า มโนธรรมของเรา ยังคงทำงานอยู่ ยังไม่ได้หลงผิด คิดไปว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่บาป และยังละอายในบาปนั้นอยู่ ซึ่งน่ายินดีว่า พระจิตเจ้ายังทำงานในจิตวิญญาณเรา และเรายังอยู่ในพระหรรษทาน
ซึ่งการบอกกับพระเจ้า และตัวตนเองว่า เราจะพยายามไม่ทำบาปอีก ไม่ได้แปลว่า คนตั้งใจแน่วแน่จะพลาดหรือล้มไม่ได้ แต่เพียงบอกว่าจะพยายามให้ถึงที่สุด และเมื่อพลาดไป ให้กลับไปขอโทษพระองค์ และกลับใจใหม่อีกครั้ง
ตราบที่เราอยู่ในเนื้อหนัง เราจะไม่ทำบาปเลยคงเป้นไปไม่ได้ แม้แต่นักบุญยังสารภาพบาปเสมอๆ ทั้งพระสันตะปาปา ก็สารภาพบาปเสมอๆเช่นกัน แล้วเราเป็นใครกัน ที่จะเก่งว่าท่านดำรงชีวิตโดยไม่ทำบาปเลยแม้แต่นิดเดียวได้ ในเมื่อเราต้องสำนึกเสมอว่า เราเป็นคนบาป
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
ถ้าเราละอายเมื่อสวด เป็นการบ่งบอกว่า มโนธรรมของเรา ยังคงทำงานอยู่ ยังไม่ได้หลงผิด คิดไปว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่บาป และยังละอายในบาปนั้นอยู่ ซึ่งน่ายินดีว่า พระจิตเจ้ายังทำงานในจิตวิญญาณเรา และเรายังอยู่ในพระหรรษทาน
ซึ่งการบอกกับพระเจ้า และตัวตนเองว่า เราจะพยายามไม่ทำบาปอีก ไม่ได้แปลว่า คนตั้งใจแน่วแน่จะพลาดหรือล้มไม่ได้ แต่เพียงบอกว่าจะพยายามให้ถึงที่สุด และเมื่อพลาดไป ให้กลับไปขอโทษพระองค์ และกลับใจใหม่อีกครั้ง
ตราบที่เราอยู่ในเนื้อหนัง เราจะไม่ทำบาปเลยคงเป้นไปไม่ได้ แม้แต่นักบุญยังสารภาพบาปเสมอๆ ทั้งพระสันตะปาปา ก็สารภาพบาปเสมอๆเช่นกัน แล้วเราเป็นใครกัน ที่จะเก่งว่าท่านดำรงชีวิตโดยไม่ทำบาปเลยแม้แต่นิดเดียวได้ ในเมื่อเราต้องสำนึกเสมอว่า เราเป็นคนบาป
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
-
- .
- โพสต์: 1739
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
- ที่อยู่: In the Christ
ผมก้อรู้สึกครับ
แต่เชื่อเถอะครับ
พระพรของพระมีมากมายเหลือล้นจริงๆ .. ^ ^
แต่เชื่อเถอะครับ
พระพรของพระมีมากมายเหลือล้นจริงๆ .. ^ ^
-
- โพสต์: 300
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่า เราจะไม่ทำบาปอีกเลยจริง ๆ
ประเด็นอยู่ที่ เรารู้สึกรังเกียจสิ่งที่เราทำ แล้วตั้งใจว่าจะไม่ทำบาปนั้นอีก ฉะนั้น ความสำคัญอยู่ที่ เรารู้สึกสำนึกผิดมากแค่ไหน ไม่ได้อยู่ที่เราสะอาดมากแค่ไหน ครับ
ประเด็นอยู่ที่ เรารู้สึกรังเกียจสิ่งที่เราทำ แล้วตั้งใจว่าจะไม่ทำบาปนั้นอีก ฉะนั้น ความสำคัญอยู่ที่ เรารู้สึกสำนึกผิดมากแค่ไหน ไม่ได้อยู่ที่เราสะอาดมากแค่ไหน ครับ
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
ดีแล้วครับที่รู้สึกแบบนี้ สวดต่อไปเถอะครับตามที่พี่ Holy ว่าใว้
ใช่เลยHoly เขียน: คิดมากไปครับ
ถ้าเราละอายเมื่อสวด เป็นการบ่งบอกว่า มโนธรรมของเรา ยังคงทำงานอยู่ ยังไม่ได้หลงผิด คิดไปว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่บาป และยังละอายในบาปนั้นอยู่ ซึ่งน่ายินดีว่า พระจิตเจ้ายังทำงานในจิตวิญญาณเรา และเรายังอยู่ในพระหรรษทาน
ซึ่งการบอกกับพระเจ้า และตัวตนเองว่า เราจะพยายามไม่ทำบาปอีก ไม่ได้แปลว่า คนตั้งใจแน่วแน่จะพลาดหรือล้มไม่ได้ แต่เพียงบอกว่าจะพยายามให้ถึงที่สุด และเมื่อพลาดไป ให้กลับไปขอโทษพระองค์ และกลับใจใหม่อีกครั้ง
ตราบที่เราอยู่ในเนื้อหนัง เราจะไม่ทำบาปเลยคงเป้นไปไม่ได้ แม้แต่นักบุญยังสารภาพบาปเสมอๆ ทั้งพระสันตะปาปา ก็สารภาพบาปเสมอๆเช่นกัน แล้วเราเป็นใครกัน ที่จะเก่งว่าท่านดำรงชีวิตโดยไม่ทำบาปเลยแม้แต่นิดเดียวได้ ในเมื่อเราต้องสำนึกเสมอว่า เราเป็นคนบาป
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
ตรงกันข้ามถ้าคิดว่า"ชั้นไม่ทำบาปแล้ว ฉันสวดได้อย่างเต็มปากเต็มคำ"...แบบนี้น่าเป็นห่วงของจริง