ตามพระสันตะปาปาไปฟาติมา

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
fukky
โพสต์: 34
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 27, 2011 12:53 pm

อาทิตย์ มี.ค. 27, 2011 4:39 pm

ตามพระสันตะปาปาไปฟาติมา / 11 พฤษภาีคม 2010

ขณะที่ผมเขียนบทความนี้อยู่ (จันทร์ที่ 10 พฤษภาคม) สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 กำลังจะเสด็จเยือน “ฟาติมา ประเทศโปรตุเกส” อย่างเป็นทางการ การแสวงบุญครั้งนี้ มีขึ้นระหว่างวันที่ 11-14 พฤษภาคม รายละเอียดแบบเจาะลึก อาทิ พระสันตะปาปาตรัสอะไรบ้าง ผมจะนำเสนอในสัปดาห์หน้า ส่วนสัปดาห์นี้ ผมจะนำเสนอภาพรวมแบบกว้างๆไปก่อน ....



เมื่อพูดถึงฟาติมา สิ่งที่อยู่ในความสนใจของทุกคน นอกเหนือจาก “แม่พระ” รวมไปถึง “ลูซีอา, ฟรานซิสโก และยาชินทา สามเด็กน้อยที่เห็นแม่พระประจักษ์ใน ค.ศ. 1917” ก็น่าจะเป็น “ความลับ 3 ข้อที่แม่พระบอกกับเด็กทั้งสามคน”

ความลับ 3 ประการมีดังต่อไปนี้

1) “นรก” – แม่พระแสดงให้เด็กทั้งสามเห็นถึงความน่าสะพรึงกลัวของนรก ซึ่งวิญญาณของคนที่ทำบาปต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส

2) “การสิ้นสุดของสงครามโลก ครั้งที่ 1, การเริ่มต้นสงครามโลก ครั้งที่ 2 และการขอร้องให้ถวายรัสเซียไว้กับดวงหทัยอันนิรมลของแม่พระ” – แม่พระบอกเด็กทั้งสามว่า สงครามโลกครั้งที่ 1 จะสิ้นสุดลงในเร็ววัน และมันก็จบลงจริงๆ (แม่ พระประจักษ์ ค.ศ. 1917 สงครามจบ ค.ศ. 1918)

จากนั้น แม่พระบอกว่า ถ้าคืนใดที่ทวีปยุโรปได้เห็นแสงประหลาดเกิดขึ้นบนท้องฟ้า รู้ไว้เลยว่า สงครามโลก ครั้งที่ 2 ใกล้จะเริ่มแล้ว (วันที่ 24-25 มกราคม ค.ศ. 1938 เกิดปรากฏการณ์ “แสงเหนือ” ซึ่งคนทั่วทั้งยุโรปมองเห็นในยามค่ำคืนเหมือนกันหมด) 1 ปีต่อมา สงครามโลก ครั้งที่ 2 ก็อุบัติขึ้นตามนั้นจริงๆ


ส่วนเรื่องรัสเซีย ช่วงนั้น ลัทธิคอมมิวนิสต์กำลังแผ่ความชั่วร้ายปกคลุมโลก แม่พระจึงขอร้องให้ “ถวายรัสเซียไว้กับดวงหทัยอันนิรมลของแม่พระ และขอให้คริสตังรับศีลมหาสนิทในวันเสาร์ต้นเดือนทุกเดือน เพื่อเป็นการชดเชยโทษบาป” (นี่คือที่มาของ “บทถวายตัว” ที่เราสวดทุกๆวันที่ 13 ที่มีการแห่แม่พระ) แม่พระย้ำว่า ถ้าคำขอร้องนี้ได้รับการปฏิบัติตาม รัสเ ซียจะกลับใจและคอมมิวนิสต์จะหยุดคุกคามโลก

นักวิชาการและคอลัมนิสต์หลายคน อาทิ พระคาร์ดินัล โยเซฟ รัตซิงเกอร์ (พระสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน), ซานโดร มาจิสแตร์ นักข่าวสายวาติกัน และคุณพ่อไพบูลย์ อุดมเดช สงฆ์คณะมหาไถ่ ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า พระสันตะปาปา ปีโอ ที่ 12, พระสันตะปาปา จอห์น ที่ 23 และพระสันตะปาปา เปาโล ที่ 6 ต่างทราบเรื่องนี้เหมือนกันหมด (ไม่นับพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 1 เพราะพระ องค์อยู่ในสมณสมัยเพียง 33 วัน) แต่ไม่มีพระองค์ใดพินิจพิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนกับคำขอร้องว่า “ให้ถวายรัสเซียไว้กับดวงหทัยอันนิรมลของแม่พระ” ในช่วงแรกๆแห่งสมณสมัยการปกครองของสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 พระองค์ก็ไม่ได้จริงจังกับคำขอร้องนี้ จนกระทั่งพระองค์รอดชีวิตจากการถูกลอบปลงพระชนม์ในวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 1981 (วันฉลองแม่พระฟาติมา) ประกอบกับช่วงนั้นคอมมิวนิสต์กำลังรุกรานโลกอย่างหนัก พระองค์จึงมาไตร่ตรองคำขอร้องของแม่พระอย่างจริงจัง ที่สุ ดแล้ว วันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1984 พระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ทรงประกาศอย่างเป็นทางการว่า “พระศาสนจักรคาทอลิกขอถวายรัสเซียไว้กับดวงหทัยอันนิรมลของแม่พระ” ผลที่ตามมาก็คือ วันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 1991 สหภาพโซเวียต (รัสเซีย) ล่มสลายและสงครามเย็นก็ยุติลง



สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ถวายรัสเซียไว้กับดวงหทัยอันนิรมลของแม่พระ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1984

3) การเบียดเบียนพระศาสนจักรในศตวรรษที่ 20 และการลอบปลงพระชนม์พระสันตะปาปา (จอห์น ปอล ที่ 2) – คุณพ่อไพบูลย์ อุดมเดช ได้แปลความหมายของความลับประการที่ 3 ซึ่งซิสเตอร์ลูซีอาแจ้งให้สมเด็จพระสันตะปาปา ปีโอ ที่ 12 ทรงทราบเมื่อวันที่ 3 มกราคม ค.ศ. 1944 ไว้แล้ว ดังนั้น ผมขอนำมาแบ่งปันให้ทุกท่านได้ติดตามกัน ...


“พระเจ้าข้า ลูกเขียนสิ่งนี้ด้วยความนอบน้อมต่อพระองค์ ดั่งที่พระองค์ทรงสั่งให้ลูกเขียนผ่านทางพระสังฆราชแห่งเลยเรีย (สังฆมณฑลที่ฟาติมาตั้งอยู่) และผ่านทางพระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์และของลูกเอง หลังจากที่ลูกได้อธิบายภาพนิมิตทั้งสองแล้ว ทางซ้ายมือของแม่พระและสูงขึ้นมาหน่อย เราเห็นเทวดาถือดาบที่ลุกเป็นไฟสว่างจ้าในมือซ้าย ไฟนั้นพลุ่งออกมาราวกับจะเผาผลาญโลกให้เป็นจุล แต่ไฟก็มอดดับลง เมื่อสัมผัสกับแสงเรืองรองที่แ ผ่ออกมาจากพระหัตถ์ขวาของแม่พระ ตรงไปที่เทวดานั้น เทวดาได้ร้องด้วยเสียงดังว่า “จงใช้โทษบาป จงใช้โทษบาป จงใช้โทษบาป”


และเราเห็นแสงสว่างที่ยิ่งใหญ่ก็คือพระเจ้า เป็นบางอย่างคล้ายกับภาพสะท้อนในกระจกเมื่อคนนั้นเดินผ่าน เราเห็นพระสังฆราชในชุดสีขาว และเรามีความรู้สึกว่านั่นคือพระสันตะปาปา พระสังฆราช พระสงฆ์ และนักบวชชายหญิ ง กำลังเดินขึ้นไปยังภูเขาสูง ซึ่งบนยอดมีกางเขนใหญ่ปักอยู่ กางเขนนี้มีลำต้นเหมือนต้นไม้ก๊อกเปลือกหนา ก่อนที่จะถึงยอดภูเขา พระสันตะปาปาได้เสด็จผ่านเมืองใหญ่ที่ครึ่งหนึ่งถูกทำลายย่อยยับและอีกครึ่งหนึ่งกำลังสั่นสะเทือน ด้วยความปวดร้าวและเศร้าใจ พระสันตะปาปาทรงภาวนาเพื่อดวงวิญญาณของบรรดาซากศพเหล่านั้นที่พระองค์เห็นในระหว่างทาง เมื่อมาถึงยอดภูเขา พระสันตะปาปาทรงคุกเข่าลงต่อหน้าไม้กางเขนใหญ่ พระองค์ถูกฆ่าโดยกลุ่มทหารที่สาดกระสุนและธนูมายังพระองค์ และในลักษณะเดียวกัน บรรดาพระสังฆราช พระสงฆ์ นักบวชชายหญิง และบรรดาฆราวาสในฐานะต่างๆมากมายก็สิ้นชีวิตด้วย เบื้องล่างของไม้กางเขนทั้งสองด้าน มีเทวดาสององค์ แต่ละองค์ถือภาชนะอยู่ในมือเอาไว้เก็บรวบรวมเลือดของบรรดามรณสักขีและใช้เลือดนั้นพรมบรรดาวิญญาณที่กำลังเดินทางไปหาพระเจ้า” ....

นี่คือความลับข้อที่ 3 ซึ่งซิสเตอร์ลูซีอาแจ้งให้พระสันตะปาปาปีโอ ที่ 12 ทราบ แน่นอนว่า พระสันตะปาปาองค์ต่อมา ไล่ตั้งแต่พระสันตะปาปา จอห์น ที่ 23, พระสันตะปาปา เปาโล ที่ 6, พระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 1 และพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ต่าง ก็ได้อ่านความลับข้อนี้เหมือนกันหมด กระทั้ง พระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 รอดชีวิตจากถูกลอบยิงที่ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตรในวันฉลองแม่พระฟาติมา พระองค์จึงตระหนักว่าแม่พระฟาติมาช่วยชีวิตไว้ พระองค์ทรงสั่งให้มีการศึกษาความลับประการที่ 3 ของฟาติมาอย่างจริงจัง พระสันตะปาปาและทีมงานเทวศาสตร์ (หนึ่งในนั้นคือพระคาร์ดินัล โยเซฟ รัตซิงเกอร์ ซึ่งก็คือพระสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน) ได้ตีความอย่างรอบคอบ และสรุปว่า “พระสังฆราชในชุดสีขาวที่ถูกยิง” น่าจะหมายถึงพระสันต ะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 นั่นเอง (บทสรุปนี้ มาพร้อมการถวายรัสเซียไว้กับดวงหทัยอันนิรมลของแม่พระ) ... ที่สุดแล้ว พระสันตะปาปาทรงสั่งให้เปิดเผยความลับข้อนี้สู่สาธารณชนในวันที่ 26 มิถุนายน ค.ศ. 2000 (หลังเก็บเงียบมานาน 83 ปี)


... นี่ก็เป็นเรื่องความลับ 3 ประการของการประจักษ์ที่ฟาติมา ทีนี้ เรามาดูกันว่า 93 ปีหลังการประจักษ์ของแม่พระ โปรตุเกสเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดบ้าง


ความเปลี่ยนแปลงอย่างแรกคือ “จำนวนคริสตังลดลง และจำนวนคนไม่มีศาสนาเพิ่มขึ้น” แม้ข้อมูลอย่างเป็นทางการจะระบุว่า ชาวโปรตุกีสเป็นคาทอลิก 90 เปอร์เซ็นต์ แต่จำนวนที่มาวัดทุกวันอาทิตย์ มีเพียง 42 เปอร์เซ็นต์ เมื่อคนเมินเฉยศาสนา ผลที่ตามมาก็คือศีลธรรมและจริยธรรมเสื่อมถอย ตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือโปรตุเกสเป็นชาติแรกๆในยุโรปที่อนุญาตให้ทำแท้งได้ (บาปฆ่าคน) ผลกระทบลูกโซ่ก็คือโปรตุเกสเป็นหนึ่งในชาติที่มีอัตราการเกิดต่ำสุดในโลก (โชเซ่ โซคราเตส นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันขอ งโปรตุเกส และพรรคสังคมนิยม ซึ่งเป็นเสียงข้างมากของประเทศ เป็นกลุ่มที่ประกาศตนไม่มีศาสนา ดังนั้น ไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมศีลธรรมและจริยธรรมขั้นพื้นฐานโดนละเลย)


ความเปลี่ยนแปลงอย่างที่สองก็คือ “เศรษฐกิจโปรตุเกสใกล้จะล้มละลายเต็มที” หากคุณติดตามข่าวต่างประเทศ น่าจะทราบดีว่า เงินสกุล “ยูโร” ตกต่ำสุดๆ (ตอนนี้ 1 ยูโร = 41 บาท แต่ช่วงเวลานี้เมื่อปีที่แล้ว 1 ยูโร = 50 บาท) สาเหตุที่เงินยูโรตกสุ ดๆเพราะเศรษฐกิจของกรีซล้มละลาย และจำคำพูดผมไว้ให้ดี ประเทศต่อไปที่กำลังจะล้มละลายต่อจากกรีซก็คือ “โปรตุเกส” และถ้าโปรตุเกสล้มละลาย รายต่อไปคือ “สเปน” (เศรษฐกิจของ 3 ชาตินี้ ผูกกันไว้ ถ้าเกิดอะไรขึ้น มันจะเป็นลูกโซ่ ... เมื่อประเทศที่ใช้เงินยูโรล้มละลาย มันจะดึงเงินสกุลนี้ให้ตกตามไปด้วย)


ถามว่า “เศรษฐกิจโปรตุเกสใกล้ล้มละลาย เพราะอะไร” คำตอบง่ายมาก “เพราะคนในชาติไม่มีศาสนา ไม่มีจริยธรร มและศีลธรรม” โปรตุเกสเป็นหนึ่งในชาติที่มีการคอร์รัปชั่นมากสุดในยุโรป รัฐบาลผุดเมกะโปรเจกต์มากมาย แต่สุดท้าย ทุกอย่างเป็นไปอย่างล่าช้า เพราะผู้เกี่ยวข้องต่างตักตวงผลประโยชน์เข้าตัวกันหมด ในทางตรงกันข้าม ถ้าคนในชาติมีศีลธรรม ไม่มือถือสากปากถือศีล เขาก็จะรู้ว่า การโกงชาติเป็นสิ่งไม่ดี มันเป็นการกระทำที่ถ่วงความเจริญของประเทศ และโปรตุเกสคงไม่ตกต่ำแบบทุกวันนี้


ความเปลี่ยนแปลงเชิงถดถอยนี้ จัดเป็นความท้าทายที่พระสันตะปาปาต้องการจะแก้ไขและพัฒนาจิตใจของชาวโปรตุกีสให้ดีขึ้น พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงมีมุมมองว่าความตกต่ำของทวีปยุโรปเกิดจากการเมินเฉยศาสนาและศีลธรรม พระองค์ตรัสเสมอว่า “ยุโรปจะไม่ใช่ยุโรป ถ้าคนยุโรปลืมรากเหง้าของตน อาทิ ประวัติศาสตร์ ศาสนา และวัฒนธรรม” ดังนั้น สัปดาห์หน้า ผมจะกลับมาเล่าให้ฟังว่า พระสันตะปาปาจะช่วยโปรตุเกสพัฒนาจิตใจในแบบใดบ้าง


ก่อนจบ ผมได้แนวคิดบางอย่างจากคำพูดของพระสันตะปาปาที่ว่า “ยุโรปจะไม่ใช่ยุโรป ถ้าคนยุโรปลืมรากเหง้าของตน” เมื่อมองกลับมาที่เมืองไทย ผมอยากจะบอกว่า …


... “สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับประเทศไทย นี่คือหนึ่งในเอกลักษณ์ของไทย ถ้าเราไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ ประเทศไทยก็สูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปแล้ว” ...



ที่มา http://www.catholic.or.th/events/vatica ... an158.html
ตอบกลับโพส