เรื่องประหลาด ๆ ที่ได้ยินมาในวันปัสกา

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

จันทร์ เม.ย. 25, 2011 2:27 pm

เมื่อวานได้คุยกับเพื่อนที่เป็นพุทธ เขามีเพื่อนเป็นชาวฟิลิปปินส์
เขารู้ว่าเราไปวัดปัสกา พฤ-อา เลย พอเห็นเพื่อนฟิลิปปินส์ไม่ไป
เลยถามว่า ทำไมยูไม่ไปวัด วันนี้อีสเตอร์ไม่ใช่เหรอ

เขาก็ตอบว่า "I'm Part-time Catholic now"

สอบถามไป สอบถามมา ได้ความประมาณว่า
กำลังแอนตี้โป๊ปเบเนดิก เลยประท้วงไม่ไปวัด
เพราะประมาณว่า พระองค์หัวโบราณเหมือนพวกออโทดอกซ์
และตอนนี้ที่ฟิลิปปินส์มีคนที่เป็นแบบเขาเยอะมาก


เพื่อนก็มาเล่าให้ฟัง ถามว่า มีPart-time กันด้วยเหรอ
แล้วจริงเหรอที่โป๊ปเป็นแบบนั้น
ไอ้เราได้ยินก็ทั้งอึ้ง ทั้งงง ก็เลยบอกไปว่า

เออ...ก็ฝากบอกเขาว่า เวลาตายไปสวรรค์ พระเจ้าก็ให้เข้าแบบPart-time เหมือนกัน
เข้าสวรรค์แบบ ชักขาเข้า ๆ ออก ๆ ครึ่งซ้ายอยู่ข้างใน ครึ่งขวาอยู่ข้างนอก

::023::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

จันทร์ เม.ย. 25, 2011 2:55 pm

เวลานี้ที่ฟิลิปปินส์ก็กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องพิธีกรรม เนื่องจากพระศาสนจักรได้ออกประกาศมาฉบับหนึ่ง ให้ปรับปรุงบทภาวนาและบทตอบรับในมิสซาภาษาต่าง ๆ ให้แปลตรงตามภาษาละตินมากที่สุด โดยเฉพาะภาษาอังกฤษซึ่งแปลออกมาใช้ตั้งแต่ช่วงหลังสังคายนาวาติกันที่ 2 ในแบบที่แปลพอเอาใจความ เหมือนทำแบบลวก ๆ เพราะหนังสือมิสซาเล่มใหญ่มาก ขนาด A4 จำนวนหนึ่ง 1200 หน้า แต่พอทางสันตะสำนักออกเอกสารขอร้องให้แปลบทมิสซาภาษาต่าง ๆ ให้ตรงกับภาษาละตินมากที่สุด ก็ได้มีทีมงานปรับปรุงแปลบทมิสซาใหม่อีกครั้ง และจะประกาศใช้ในปลายปี 2011 นี้ ซึ่งหลาย ๆ คนมีความรู้สึกว่าสำนวนภาษาที่ปรับปรุงแล้ว ชาวบ้านธรรมดาคงฟังไม่เข้าใจ เพราะมีหลักเทววิทยาลึกซึ้งมาก แล้วก็เป็นสำนวนภาษาที่คนทั่ว ๆ ปัจจุบันไม่ใช้กัน พระศาสนจักรฟิลิปปินส์ก็จะยื่นเรื่องขอใช้บทมิสซาแบบเดิม ซึ่งเป็นภาษาง่าย ๆ ก็ไม่รู้ว่าทางวาติกันจะยอมหรือเปล่า เพราะที่แปลใช้อยู่มาร่วมห้าสิบปีนั้น ขาดเนื้อหาสำคัญ ๆ หลายอย่างในบทภาวนา

ส่วนบทภาวนาในมิสซาของไทยก็แค่ขัดเกลานิดหน่อย เพราะเราแปลตรงตามภาษาละตินมาตั้งแต่ต้นแล้ว จึงไม่น่าหนักใจ ผมลองเทียบฉบับภาษาอังกฤษที่จะประกาศใช้ กับภาษาไทยที่เราใช้อยู่ก็พบว่าคำแปลตรงกันมากกว่าฉบับภาษาอังกฤษที่ใช้แต่เดิม
แก้ไขล่าสุดโดย Andreas เมื่อ จันทร์ เม.ย. 25, 2011 2:58 pm, แก้ไขไปแล้ว 2 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

จันทร์ เม.ย. 25, 2011 2:56 pm

เอกสารที่กล่าวถึงคือ Liturgiam authenticam

อ่านได้ที่นี่ครับ ยังไม่ได้แปลเป็นภาษาไทย
http://www.adoremus.org/liturgiamauthenticam.html
ภาพประจำตัวสมาชิก
yuki
โพสต์: 681
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 01, 2006 5:02 am

จันทร์ เม.ย. 25, 2011 5:45 pm

::010:: ขอถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
josep_maria
โพสต์: 34
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2011 5:52 pm

อังคาร เม.ย. 26, 2011 4:00 am

เรื่องบทภาวนาในมิสซาภาษาอังกฤษใหม่(new roman missal) เขาจะเริ่มใช้ปลายปีนี้รู้สึกว่าตอนเริ่มปีพิธีกรรมใหม่ แต่ที่ว่าภาษาไทยแปลตรงกับละติน อันนี้ผมไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะว่าภาษาอังกฤษเนี่ยะ ที่เราเคยตอบรับเมื่อพระสงฆ์กล่าวว่า the lord be with you(พระเจ้าสถิตกับท่าน) เราเคยชินที่จะตอบว่า and also be with you(และสถิตกับท่านด้วย) แต่ว่า new roman missal ที่จะใช้ใหม่เขาให้ตอบว่า and with your spirit(และสถิตกับวิญญาณท่าน) ซึ่งมาจากบทตอบรับในภาษาละติน et cum spiritu tuo อันนี้ก็คงจะมีคำวิพากษ์วิจารณ์พอสมควร ผมว่าภาษาไทยอีกไม่นานก็ต้องเปลี่ยนอีกเพราะบทที่เราใช้ในมิสซา ผมสังเกตว่าน่าจะได้รับอิทธิพลจากภาษาอังกฤษมาจากกว่าการแปลตามตัวอักษรจากภาษาละติน ดูตัวอย่าง "และสถิตกับท่านด้วย" ดังนั้นเราก็คงได้เปลี่ยนอีกไม่นาน

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ new roman missal http://www.usccb.org/romanmissal/index.shtml
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

อังคาร เม.ย. 26, 2011 8:59 am

บทประจำมิสซาภาษาไทยได้ปรับปรุงแล้วเมื่อปี 2000 แต่ก็มีบางจุดเล็ก ๆ ที่ในอนาคตอาจจะต้องปรับให้ตรงกับภาษาละตินมากที่สุด นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ต้องปรับปรุงบทภาวนาด้วยซึ่งเราได้ปรับปรุงและใช้กันแล้วตั้งแต่ปลายปี 2010 ไม่ใช้ว่าเราอยากจะปรับปรุงอะไรกันเองตามใจชอบ ทุก ๆ สิ่ง ทางสันตะสำนักได้ประกาศขอร้องมาให้ทำ เราก็ต้องพยายามทำอย่างดีที่สุด ไม่ใช่ว่าเราว่างจัด อยากปรับนู่นเปลี่ยนนี่ตามความพอใจครับ
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร เม.ย. 26, 2011 9:52 am

เวลาคนต่อต้านอะไร ก็มักจะละเลยส่วนที่สำคัญที่สุดฝ่ายวิญญาณจิต

เช่นคริสเตียนบางคนไม่ไปโบสถ์ เพราะว่าไม่ชอบศิษยาภิบาล/ศาสนาจารย์ไม่ดี บลาๆๆๆ

แล้วตัวเองไม่ไปหาพระเจ้า....ในทำนองเดียวกันที่พี่น้องคาทอลิกฟิลิปปินส์
ต่อต้านสมเด็จพระสันตะปาปา เบนเนดิกที่ 16 แล้วขอเป็น Part-time catholic
เป็นข้อแก้ตัวที่ไม่ make sense เลยครับ
guillotine
โพสต์: 48
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ย. 17, 2010 5:06 pm

อังคาร เม.ย. 26, 2011 1:09 pm

การนับถือศาสนาต้องเข้าให้ถึงแก่นแท้ของศาสนา มิฉนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการกินมังคุดแค่เปลือก มันจะขมและไม่อร่อย ถ้าปลอกเปลือกออกไป กินเนื้อขาวๆ ก็จะหอมหวานอร่อยดี ผมมีความเห็นว่าพิธีกรรมเป็นแค่เรื่องภายนอกเหมือนเปลือกมังคุดเท่านั้น ที่แท้จริงคือจิตใจของท่านเป็นอย่างไร แต่จริงๆแล้วก็ไม่น่าจะเน้นพิธีกรรมมากกว่าการสร้างเสริมความเชื่อความศรัทธาจากจิตใจเพื่อให้เข้าถึงแก่นแท้ของศาสนาและคำสอนของพระเจ้า
Sum
โพสต์: 21
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มี.ค. 22, 2011 7:37 pm

อังคาร เม.ย. 26, 2011 7:25 pm

Jeab Agape เขียน:เวลาคนต่อต้านอะไร ก็มักจะละเลยส่วนที่สำคัญที่สุดฝ่ายวิญญาณจิต

เช่นคริสเตียนบางคนไม่ไปโบสถ์ เพราะว่าไม่ชอบศิษยาภิบาล/ศาสนาจารย์ไม่ดี บลาๆๆๆ

แล้วตัวเองไม่ไปหาพระเจ้า....ในทำนองเดียวกันที่พี่น้องคาทอลิกฟิลิปปินส์
ต่อต้านสมเด็จพระสันตะปาปา เบนเนดิกที่ 16 แล้วขอเป็น Part-time catholic
เป็นข้อแก้ตัวที่ไม่ make sense เลยครับ
ถ้าเลือกไปวัดอื่นแทน?
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

อังคาร เม.ย. 26, 2011 8:51 pm

คนไม่อยากไปวัดก็มีข้ออ้างให้ตัวเองเสมอ พระศาสนจักรในฐานะที่เป็นสถาบันก็พยายามสร้างบรรยากาศให้พิธีกรรมในวัดชวนศรัทธาและมีความเป็นเอกภาพและงดงามมากที่สุด ทั้งตัวพิธีกรรมเอง สถาปัตยกรรม ดนตรี ตลอดจนองค์ประกอบอื่น ๆ เพื่อเอื้ออำนวยให้คนอยากมาวัดเพื่อร่วมพิธีกรรม

จึงไม่ควรโยนความผิดให้พระศาสนจักร แต่ควรเปิดใจ และให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของตนเองกับพระเจ้าเป็นอันดับแรก ไม่ควรเอาสิ่งที่ตนเองไม่ชอบมาเป็นข้ออ้าง แล้วทำให้ตนเองเหินห่างจากศาสนา
francisco xavier
โพสต์: 300
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am

พุธ เม.ย. 27, 2011 11:20 am

คนเราหนอ ตราบใดที่ยังเต็มไปด้วยอัตตา ก็ไม่มีที่ว่างให้กับพระเป็นเจ้า
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

พฤหัสฯ. เม.ย. 28, 2011 8:17 am

ได้อ่านแล้วเศร้าใจ เพราะว่าคนที่รู้จักพระเจ้าหลายคนทิ้งพระองค์อย่างไม่ใยดี
แต่เวลาแต่งงานมาแต่งที่โบสถ์ เพราะสวยงามและโรแมนติก :s008:
ตอบกลับโพส