คุณรู้ไหมว่ามีพระคริสตธรรมคัมภีร์ภาษาบาลีด้วย

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. พ.ค. 12, 2011 8:34 pm

บรรดามิชชันนารีในสมัยก่อนมีความสามารถหลาย ๆ ด้าน ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ การแพทย์ ดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ภาษาศาสตร์ คุณทราบไหมว่า ได้มีการแต่งพระคริสตธรรมคัมภีร์เป็นภาษาบาลีด้วย (ที่ใช้คำว่าแต่งก็เพราะไม่ได้เป็นการแปลพระคัมภีร์ทั้งเล่ม แต่เป็นการสรุปย่อเนื้อหาของพระคัมภีร์ให้เป็นคัมภีร์ฉบับย่อ) โดยใช้ชื่อว่า “คัมภีร์พระพุทธเยซูคฤศโตศาสนาฯ”

ตัวอย่างข้อความจากพระคัมภีร์ฉบับนี้
“ภวันตา ภวันตา เอกโกพุทธเยกริสสตโร มาหาการุณิโกโหติ โสสัพเพสัง มนุสสานัง สรโณโหติ โสโลกัสสา โลโกโหติ โสเอกโกชิวิตนิโก มนุสสานัง ชิวิตังเทติโยโย พุทธเยซุกริสสตวังนสัญชาเนติ โสโสอันธกาโร มัคคมัชเณวาว สันโต ติฏชุติ ตุมเหพุทธบุตตัง ปวิสสาหิ เตสังสัทธหิตถถ โสปมตุมหากัง”
“ดูก่อนท่านผู้เจริญทั้งหลาย พระพุทธเยซูคฤศโตองค์เดียว มีพระกรุณามาก พระองค์เป็นที่พึงของมนุษย์ทั้งหลาย พระองค์เป็นแสงสว่างของโลก พระองค์เดียวเป็นผู้ให้ชีวิตมนุษย์ทั้งหลาย บุคคลใดย่อมไม่รู้จักพระพุทธเยซูคฤศโต บุคคลนั้นเป็นคนมืดยืนอยู่ในกลางทาง ท่านทั้งหลายจงนับถือพระพุทธบุตร แล้วจงเชื่อซึ่งถ้อยคำเหล่านั้นของพระองค์เถิด”

อ้างอิงจาก http://haab.catholic.or.th/churchbkk/sa ... asat2.html
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. พ.ค. 12, 2011 9:46 pm

สุดยอด... ว่าแต่ทำไมต้องมีคำว่าพระพุทธล่ะ
เดี๋ยวคนพุทธมาอ่าน จะเอามาเป็นประเด็นกันอีก
littleseal
โพสต์: 1029
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm

พฤหัสฯ. พ.ค. 12, 2011 9:52 pm

พระพุทธเยซู, พระพุทธบุตร ::024:: รู้สึกแปลก ๆ ตอนอ่าน
พระพุทธบุึตร = บุตรของพระพุทธ (เหมือนราชบุตร = บุตรของราชา)
พระพุทธ = พระพุทธเจ้า อืม... อืม... อืม...

เหมือนตอนอ่านบนภาวนาเก่า พระศรีพรหมจารีผู้ทรงบุญ
พระศรี = พระลักษมี (มเหสีพระนารายณ์)
พระศรีพรหมจารี = พระลักษณีผู้บริสุทธ์ อืม... อืม... อืม...

ขอบคุณที่ช่วยเปลี่ยนบทภาวนามาก ๆ เลยค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. พ.ค. 12, 2011 10:06 pm

555 นั่นสินะ เราอ่านเองยังงงเลย
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

ศุกร์ พ.ค. 13, 2011 10:01 am

หนังสือนี้น่าจะแต่งในสมัยพระคุณเจ้าปัลเลอกัวร์ (ค.ศ.1841-1862) ซึ่งอยู่ในช่วงรัชกาลที่ 4 ท่านเป็นผู้มีความรู้แตกฉานใดด้านภาษาบาลี ผมก็ไม่ทราบว่าทำไมท่านถึงชอบใช้คำว่า "พุทธ" ผมเห็นว่า คำว่า "คริสต" น่าจะเหมาะสมกว่า

บทข้าแต่พระบิดาในสมัยของท่านปัลเลอกัวร์

ข้าแต่พระพุทธิบิดาแห่งข้าพระเจ้าทั้งหลาย
ท่านอยู่สวรรค์
ขอโปรดให้พระนามรุ่งเรืองไป
เมืองพระพุทธิบิดาครอบครองนั้น ขอให้มาถึง
ให้สำเร็จแล้ว ตามพระหือฤาไทย
ณ แผ่นดินเสมอสวรรค์
อาหารเลี้ยงข้าพระเจ้าทุกวัน
ขอประทาน ณ กาละวันนี้
ขอพระมหากรุณา โปรดยกหนี้ข้าพระเจ้า
เหมือนข้าพระเจ้าโปรดแก่เขา
ขอพระองค์อย่าละวางข้าพระเจ้า
ในการประจญล่อลวงประการใด
แต่ว่าให้ข้าพระเจ้าพ้นจากอันตราย อาแมน

บทอาเวมารีอาในสมัยของท่านปัลเลอกัวร์

อาเว มารีอา ท่านประกอบด้วยอานิสงส์
พระองค์จำเริญ อยู่กับท่าน ซึ่งมีบุญยิ่งกว่าสตรีทั้งหลาย
และพระมหาเยซู บุตรอุทรของท่าน
ทรงบุญยิ่งกว่าทั้งปวง
ซางตามารีอา ท่านพุทธมารดาของพระองค์
ขอช่วยวิงวอน เพราะข้าพระเจ้าคนบาปทั้งหลายนี้เถิด
บัดนี้และ ณ กาละเมื่อจะตาย อาแมน
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ พ.ค. 13, 2011 11:18 am

พุทธะ เนี่ย ...จริง ๆ แล้วแปลว่าอะไร?
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

ศุกร์ พ.ค. 13, 2011 11:37 am

คำว่า "พุทธ" ในพจนานุกรมฉบับราชบัญฑิตยสถาน พ.ศ.2525 ให้คำจำกัดความเอาไว้ว่า หมายถึง ผู้ตรัสรู้, ผู้ตื่นแล้ว, ผู้เบิกบานแล้ว (ใช้เฉพาะพระพุทธเจ้า) แต่ในสมัยพระคุณเจ้าปัลเลอกัวร์ ยังไม่มีพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิต ท่านเลยเอาคำว่า "พุทธ" มาใช้ แต่สมัยหลังก็เลิกใช้คำนี้ไป เพราะทางศาสนาพุทธร้องเรียนมาว่าเป็นคำที่สงวนไว้สำหรับพระพุทธเจ้าเท่านั้น

แต่ถ้าหากไม่จำกัดว่า "พุทธ" จะใช้กับอะไรก็ได้ พระเจ้าก็น่าจะมีคุณลักษณะทั้ง 3 ประการนี้ด้วย แล้วก็อาจจะมีคุณสมบัติมากว่า 3 ข้อนี้ด้วย เช่น

God Is All Knowing. God possesses all knowledge (Job 38:39; Rom 11:33-36). Because God is everywhere at one and the same time, He knows everything simultaneously. That God has the power to know the thoughts and motives of every heart is evident from many Scripture passages, notably Job 37:16; Ps 147:5, and Heb 3:13.

God Is Spirit. Jesus taught that "God is Spirit" (John 4:24). God has no body, no physical or measurable form. Thus, God is invisible. He became visible in human form in the person of Jesus Christ, but His essence is invisible.

God Is Changeless. Progress and change may characterize some of His works, but God Himself remains unchanged (Heb 1:12). He does not change; otherwise, He would not be perfect. Thus, what we know of God can be known with certainty. He is not different from one time to another.

God Is Everywhere. God is not confined to any part of the universe but is present in all His power at every point in space and every moment in time (Ps 139:7-12). Thus, God does not belong to any one nation or generation. He is the God of all the earth (Gen 18:25).

God Is Wisdom. God's wisdom is revealed in His doing the best thing, in the best way, at the best time for the best purpose. Some people have knowledge, but little wisdom, while the most wise at times have little knowledge. But God is "the only wise God" (1 Tim 1:17). In creation, history, human lives, redemption, and Christ, His divine wisdom is revealed. Man, lacking wisdom, can claim God's wisdom simply by asking (1 Kings 3:9; James 1:5).
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ พ.ค. 13, 2011 12:07 pm

ขอบคุณมากๆฮะพี่เพชร

คำที่ใช้ เป็นคำแห่งยุคนั้นครับ เพราะศาสดาของศาสนา คือผู้ตื่น ผู้รู้ ผู้เบิกบาน
เพราะว่าพระพุทธเจ้าที่เราเรียกๆกัน พระองค์ชื่อ "สิทธัตถะ"(เขียนถูกเปล่านี้)
ปัจจุบันเราเรียกศาสนนามของท่าน เพื่อยกย่อง ฮะ

สมัยพระสังฆราชปัลเลอร์กัว ภาษาที่ใช้สื่อกันเป็นที่ยอมรับกันทุกฝ่าย
แต่มาถึงยุคของเรา ก็รับกันไม่ได้ ทั้งพุทธ และคริสต์เอง
เพราะเราตีความกันคนละความหมายเดิม
กรอกสมบูรณ์
โพสต์: 1413
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

ศุกร์ พ.ค. 13, 2011 3:36 pm

อืมม...ม...ม... ::023:: กำลังเก็บเอาไปคิด ...
HOLY DANCE
โพสต์: 159
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 03, 2011 5:53 pm

ศุกร์ พ.ค. 13, 2011 10:07 pm

คำว่า พุทธะ เป็นภาษาบาลีแปลว่า รู้ ตื่น เบิกบานครับ ไม่ได้หมายถึง พระพุทธเจ้าศาสดาของพุทธศาสนาแต่อย่างเดียว ถ้าในภาษาบาลีเราก็เรียกพระเยซูว่า พระพุทธเจ้าก็ได้ครับ
เพราะคำว่าพระพุทธเจ้าแปลว่า พระผู้รู้ธรรมอันประเสริฐ พระผู้ตื่นสิ้นจากกิเลศ ไม่ได้เป้นทาสของบาป และเป็นผู้มีเมตตากรุณาเหลือล้นครับ ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ ที่เป้นศาสดา เป็นพระพุทธเจ้าของศาสนาพุทธ

ในสมัยพุทธกาล เจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้ธรรม หลุดพ้นกิเลส เขาเลยขนานนามว่าพุทธะ แปลว่า รู้ ตื่น เบิกบานครับ

(ขอบคุณพระเจ็าที่ลูกเคยเป้นพุทธมาก่อนเพื่อได้ความรู้ดีๆประดับตน)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

เสาร์ พ.ค. 14, 2011 11:12 am

ชาวพุทธที่เขาไม่ได้เป็นพวกยึดติด ว่าตัวกูของกูนั้น เขาเห็นว่า...
ความเป็นพุทธะสามารถเป็นได้กับทุกคน ถ้าเราคิดว่าพุทธะคือผู้รู้เป็นได้เฉพาะแต่พระพุทธเจ้าพระองค์เดียว เมื่อพระองค์เสด็จปรินิพพานไปแล้วพุทธะย่อมสาบสูญไป แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ แม้ว่าพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานไปแล้ว ธาตุแท้ของความเป็นพุทธะยังสถิตอยู่ในจิตใจของเราทุกคน พุทธะคือวิสุทธิธรรม พุทธะที่เป็นวิสุทธิธรรมย่อมเป็นสิ่งรับรอง นักปฏิบัติทุกท่านย่อมสามารถที่จะเหนี่ยวเอาคุณสมบัติอันนี้เข้าไปอยู่ในจิตใจของตนเองได้ ถึงความบริสุทธิ์สะอาด และเข้าถึงความเป็นพุทธะอย่างแท้จริง

ศาสนาของพระพุทธเจ้าเป็นศาสนาที่มีความจริง และพุทธะก็คือสัจธรรม เป็นวิสุทธิธรรม เป็นความจริงอย่างสูงสุด สัจธรรมคือความจริงนั้นย่อมไม่สังกัดในลัทธิหรือศาสนาใด แต่เมื่อใครได้ดำเนินจิตของตนเองเข้าไปสู่จิตแห่งความเป็นสัจธรรมอย่างแท้จริง หรือธาตุแท้แห่งความจริงที่มีอยู่ภายในจิตใจ สัจธรรมแห่งพุทธะอันเป็นวิสุทธิธรรมย่อมเป็นสมบัติของผู้นั้น

อ้างอิงจาก http://mahamakuta.inet.co.th/practice/mk726.html

ท่านปัลเลอกัวร์เป็นนักปราชญ์ที่เชี่ยวชาญ ท่านรู้ว่าคำว่า "พุทธ" มีความหมายแท้ ๆ ว่าอย่างไร จึงนำมาปรับใช้กับศาสนาคริสต์ เพราะท่านเห็นว่า ศาสนาพุทธแท้ ๆ แล้ว ไม่ได้จำกัดคำ "พุทธะ" ไว้เป็นของตนเองคนเดียว
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

เสาร์ พ.ค. 14, 2011 1:58 pm

อืม... แต่ก็ดีที่เปลี่ยนแล้ว เราก็ไม่อยากไปซ้ำเขาเหมือนกัน 555
weerachart
โพสต์: 51
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 03, 2011 12:57 am

อาทิตย์ พ.ค. 15, 2011 9:45 pm

ความรู้ใหม่เลยครับ ผมก็ไม่รู้มาก่อน คิดว่ามีแต่ฮีบรู กรีก ประมาณเนี๊ย ก็ดีซะอีก งานแพร่ธรรมของคริสตชนเราจะได้ขยายทั่วโลก ขอพระเจ้าอวยพรในกิจการแพร่ธรรมของเราทุกคน อาแมน.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Cherval
โพสต์: 566
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 7:17 pm
ที่อยู่: เชียงราย

จันทร์ พ.ค. 16, 2011 4:41 pm

เ้ข้าใจเป็นพระคัมภีร์ในยุคสมัยที่ไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับการปรับความเชื่อเข้าสู่วัฒนธรรมที่ดีพอ
ทำให้เกิดความเข้าใจผิด และนำไปสู่ การใช้คำศัพท์ผิดพลาด
และเหตุนี้ ทำให้ในยุคสมัยหนึ่ง มีพี่น้องพุทธศาสนิกชนเข้าใจศาสนาคริสต์ผิดพลาด
เป็นผลให้มีรอยเปื้อน รอยด่างดำ ในประวัติศาสตร์ของการเผยแพร่ศาสนาในประเทศไทยถึงทุกวันนี้

เพราะเราไม่ควรใช้คำว่า "พุทธะ" ที่แปลว่า "รู้ ตื่น เบิกบาน" กับพระเยซูเจ้า
เนื่องจากคำว่า "พุทธะ" เป็นคำที่เจ้าชายสิทธัตถะ เมื่อคราวออกผนวชและตรัสรู้ทรงเรียกพระองค์เอง

เราควรใช้แต่เพียงคำที่พระศาสดาเรียกพระองค์เอง เช่นคำว่า "ลูกแกะ,ปัง" เท่านั้น

เป็นเรื่องของการใช้ภาษาที่ทำให้เกิดความผิดพลาด และยังไม่มีการแก้ไขน่ะครับ
มีอะไรในโลกนี้ และวงการวิชาการนี้อีกมาก ที่ถูกปล่อยรกร้าง ไม่มีการมารื้อฟื้น
เพราะกลัวความจริงก็ดี หรือหนีปัญหา หรือแม้กระทั่ง ไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นฝ่ายบกพร่องก็มี

จากที่ได้ไปค้นข้อมูลเพิ่มเติมจากฐานข้อมูลที่มีอยู่

พบข้อความที่เกี่ยวข้องกันและสามารถนำมาอ้างอิงได้ จากหนังสือการดัดแปลงพิธีกรรมกับวัฒนธรรมท้องถิ่น
ซึ่งเป็นหนังสือของวิทยาลัยแสงธรรม เขียนโดยคุณพ่อสำราญ วงศ์เสงี่ยม หน้า12 บรรทัดที่11-18

" นักบุญฟรังซิส เซเวียร์ เคยใช้คำผิดพลาดมาแล้ว เมื่อท่านใช้คำญี่ปุ่นเรียกพระผู้เป็นเจ้าว่า Dainichi
ซึ่งสำหรับชาวพุทธลัทธิมหายานในญี่ปุ่น ย่อมเข้าใจว่าหมายเจาะจงถึง 'พระพุทธเจ้า'
-ในประเทศไทยของเราสมัยหนึ่งก็เคยใช้คำเรียกพระผู้เป็นเจ้าว่า 'พระพุทธิบิดา', เรียกพระนางมารีย์ว่า 'พระพุทธิมารดา',
เรียกเทพมีคาเอลว่า 'มหาพรหมมีคาแอล' เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งอาจจะทำให้คนต่างศาสนาเข้าใจผิดว่าหมายถึงพระพุทธเจ้าเอง,
หรือพระมารดาของพระพุทธเจ้า, หรือพระพรหมของศาสนาพราหมณ์ "

อ้างอิงข้อมูลจาก : ฐานข้อมูลวีรฺตูสเซียน
ภาพประจำตัวสมาชิก
เลย์
โพสต์: 1845
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 05, 2009 12:27 am
ที่อยู่: ในอ้อมพระหัตถ์พระเป็นเจ้า
ติดต่อ:

จันทร์ พ.ค. 16, 2011 11:39 pm

Andreas เขียน: “ภวันตา ภวันตา เอกโกพุทธเยกริสสตโร มาหาการุณิโกโหติ โสสัพเพสัง มนุสสานัง สรโณโหติ โสโลกัสสา โลโกโหติ โสเอกโกชิวิตนิโก มนุสสานัง ชิวิตังเทติโยโย พุทธเยซุกริสสตวังนสัญชาเนติ โสโสอันธกาโร มัคคมัชเณวาว สันโต ติฏชุติ ตุมเหพุทธบุตตัง ปวิสสาหิ เตสังสัทธหิตถถ โสปมตุมหากัง”
“ดูก่อนท่านผู้เจริญทั้งหลาย พระพุทธเยซูคฤศโตองค์เดียว มีพระกรุณามาก พระองค์เป็นที่พึงของมนุษย์ทั้งหลาย พระองค์เป็นแสงสว่างของโลก พระองค์เดียวเป็นผู้ให้ชีวิตมนุษย์ทั้งหลาย บุคคลใดย่อมไม่รู้จักพระพุทธเยซูคฤศโต บุคคลนั้นเป็นคนมืดยืนอยู่ในกลางทาง ท่านทั้งหลายจงนับถือพระพุทธบุตร แล้วจงเชื่อซึ่งถ้อยคำเหล่านั้นของพระองค์เถิด”
เพราะดีเหมือนกันฮ้าฟฟฟฟฟฟฟฟ ::022::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Happiness
โพสต์: 345
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ค. 14, 2009 11:23 pm

พุธ พ.ค. 18, 2011 9:53 pm

คุณ Cherval ตอบไว้ถูกแล้วครับ

คำว่า "พุทธะ" เป็นคำที่พระมหาบุรุษ(สิทธัตถะ) ทรงตรัสเรียกพระองค์เองหลังจากตรัสรู้ (ชานตา ปัสสตา อรหัตตา สัมมาสัมพุทเธน เราได้รู้ได้เห็นอริยสัจธรรมแล้วจึงปฏิญณตนเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า)

คนชมพูทวีปสมัยนั้นไม่มีใครรู้จักคำว่า "พุทธะ" พระราชาองค์หนึ่งคือ พระมหากัปปินะ ซึ่งต่อมาเป็นพระอสีติมหาสาวก ได้ยินคำว่า "พุทธะ" ถึงกับสลบไปสามครั้ง เพราะปีติมาก เสมือนคุ้นๆได้ยินได้ฟังมาในอดีตชาติ เกิดมาชาตินี้พึ่งเคยจะได้ยินได้ฟัง

แม้แต่พราหมณ์ 108 ที่มาทำนายพระลักษณะมหาบุรุษว่าจะออกผนวช ก็กล่าวแค่ว่าจะเป็นศาสดาเอกของโลก ยังไม่มีใครรู้จักคำว่า "สัมมาสัมพุทธเจ้า"

ผู้บรรลุธรรมในพระพุทธศาสนาเรียกว่า "พุทธะ" ตรัสรู้เองเรียกว่า สัมมาสัมพุทธะ ปัจเจกพุทธะ รู้ตามเรียกว่า อนุพุทธะ

การเอาประเด็นว่า "พุทธที่แท้" มาอ้างถึงในเรื่องนี้คงไม่เข้าข่าย จริงอยู่ ทางพระพุทธศาสนาค้นพบสัจธรรมอันเป็นสากลนั้นถูกต้องแล้ว เรียกสัจจะธรรมนั้นว่า "ปรมัตถ์" และ "อริยสัจ" นั่นก็คือ ผู้ที่เข้าถึงสัจธรรมความจริงเช่นนี้ๆๆ จึงจะเรียกว่า พุทธะ แยกกันระหว่าง "องค์ความรู้ความจริง" กับ "ผู้เข้าถึง"
...................

วิเคราะห์ได้ว่าคงจะเกิดจากการเข้าใจผิดแล้วกัน ที่เข้าใจว่าคำว่า "พุทธะ" หมายเอาเป็นคำศัพท์สากลที่ใครๆจะนำมาใช้ก็ได้

เช่นเดียวกับคำว่า "คริตส์" ที่หมายถึงพระผู้ไถ่ ก็คงจะเอาไปใช้กับคนอื่นๆไม่ได้ เพราะเป็นคำศัพท์เฉพาะ ไม่ใช่ศัพท์สากล ขนาดที่พระเยซูประกาศตนว่าคือพระคริตส์ ชาวยิวก็ดี นักบวชยิวก็ดี ยังไม่ยอมรับจนเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตเลยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Happiness
โพสต์: 345
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ค. 14, 2009 11:23 pm

พุธ พ.ค. 18, 2011 10:13 pm

เรื่องคำศัพท์นี่เคยได้โพสต์ไว้นานแล้ว บางคำนั้นอาจจะแทนความหมายกันได้ แต่บางคำก็ไม่สามารถแทนความหมายกันได้

บางคำจึงสมควรใช้คำทับศัพท์ดีที่สุด ในทุกๆเรื่อง ไม่เฉพาะเรื่องศาสนา

เช่นคำว่า ภาษาบาลี ใช้หมายเอาเฉพาะคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น เพราะหมายเอาภาษาที่รักษาพระพุทธวจนะเท่านั้น

แต่ภาษาบาลีนั้นใช้ภาษาอะไรหล่ะครับ? ตอบว่า ใช้ภาษามคธครับ

ภาษาสันสกฤษ ก็เรียกได้ว่าเป็นภาษาบาลีเหมือนกัน ถ้าในกรณีนำมาใช้เพื่อรักษาพระพุทธวจนะครับ
.................

เวลาใช้คำภาษาอังกฤษทางศาสนาก็จำเป็นต้องมีคำว่า buddhist ต่อท้าย หรือนำหน้าเสมอไป

แต่ภาษาอังกฤษอาจจะเสียเปรียบบ้าง เพราะอยู่ในฐานะภาษาสากล บางทีเขาก็ไม่ต่อคำศัพท์ให้ชัดเจน

ส่วนศาสนาที่เคร่งครัดกับคำทับศัพท์มากๆนั่นก็คือศาสนาอิสลาม ไม่ยอมใช้ศัพท์ร่วมกับภาษาอื่นๆเลยทีเดียว อย่างชาวคริตส์ในอินโดหรือมาเลย์จำไม่ได้ จะใช้คำว่าอัลเลาะห์ เรียกพระยะโฮวาห์ ยังเป็นเรื่องราวใหญ่โตเลยครับ
taiyo
โพสต์: 658
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 22, 2006 12:01 am

อาทิตย์ พ.ค. 22, 2011 1:41 pm

พระพุทธเยซูใช้ได้ไม่ผิดหรอกครับ เพราะความจริงใช้ได้กันหลายคน ทั้งพระเยซูและพระมหากษัตริย์ก็ใช้กันเกลื่อนไปหมด ร.5 เราก็เรียกว่าพระพุทธเจ้าหลวง กษัตริย์หลายพระองค์ก็ใช้คำว่าพระพุทธนำหน้า พระพุทธ หรือ พระพุทธเจ้า เป็นคำทั่วไปครับ ไม่ใช่คำเฉพาะ ในสมัยนั้นจึงใช้ได้กับพระเยซู และกษัตริย์ แตกต่างกับคำว่าเยซู กัยสิทธัตถะ อันนี้เป็นคำเฉพาะครับ พระพุทธเจ้าหลวง เอาคำว่า หลวงต่อเข้าไปเพื่อให้รู้ว่าบุคคลใด พระพุทธเยซูก็เช่นกันครับ เอาคำว่า เยซู ต่อท้ายเช่น และสมัยนี้ก็ไม่ได้สงวนไว้อย่างที่บางคนอ้าง เช่นเวลาถวายพระพร ก็จะใช้คำว่า ข้าพระพุทธเจ้า....เป็นต้น
taiyo
โพสต์: 658
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 22, 2006 12:01 am

อาทิตย์ พ.ค. 22, 2011 1:51 pm

และขอแย้งคุณ Happiness หน่อยเหอะ คำว่า คริสต์ ที่บอกว่าใช้กับคนอื่นไม่ได้ ใช้ได้แต่พระเยซู คุณไม่รู้อย่าพูดประเด็นนี้ดีกว่าครับ ชื่อดารา ชื่อคน ใช้คำว่า Christ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

อาทิตย์ พ.ค. 22, 2011 7:19 pm

ดอกไม้ยังใช้ชื่อ ดอกพุทธรักษา ได้เลยครับ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพระพุทธเจ้าสักนิด
แต่ชาวพุทธไม่ต้องกลัวหรอกครับว่าชาวคริสต์จะไปแย่งใช้ภาษาบาลี รวมทั้งคำว่า "พุทธ" เพราะเราไม่มีความคิดว่าจะเอาคำนี้มาใช้อีกแล้ว เรามีคำอื่นที่เหมาะสมกว่า เช่น "คริสต" "พระปรีชาญาณ"
ภาพประจำตัวสมาชิก
Happiness
โพสต์: 345
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ค. 14, 2009 11:23 pm

พฤหัสฯ. พ.ค. 26, 2011 3:48 pm

ดูที่เจตนาครับ

ผมเข้าใจว่าชาวคริตส์ในบอดร์นี้จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ที่มีศักดิ์ศรี ที่ไม่เห็นด้วยกับการนำคำศัพท์ทางศาสนาอื่นๆมาใช้ในศาสนาตน โดยมีเจตนาแอบแฟงอยู่ ที่ไม่ใช่การยืมคำศัพท์เพื่อสื่อสารความเข้าใจในเบื้องต้น
................................

ถ้าจะเอามาตั้งเป็น "ชื่อ" เช่นชื่อพระมหากษัตริย์ ชื่อนามสกุล ชื่อดอกไม้ ชื่อตึก ฯลฯ

คงไม่มีใครว่าหรอกครับ ยิ่งเอามาตั้งชื่อดอกไม้เจตนาก็เพื่อบูชาพระรัตนะตรัยด้วยซ้ำไป

แต่นี่เอามาตั้งเป็นชื่อศาสดา ดูเจตนาก็ทราบได้แล้วว่าเป็นเช่นไร เหมาะสมหรือไม่
...............................

ถ้าหากเกิดจากการเข้าใจผิดไม่มีใครว่าอะไรหรอกครับ ซึ่งผมเข้าใจว่าคงไม่ได้มีเจตนาไม่ดี

แต่หากเกิดจากเจตนาจะพยายามกลมกลืน หรือเจนาข่ม เพื่อประโยชน์ทางศาสนา เช่นนี้ย่อมไม่เหมาะสม

ไม่ต้องถกเถียงกันมากหรอกครับ ดูทีเจตนาและควรใช้สามัญสำนึกพื้นฐานก็น่าจะรู้แล้ว

ย้ำว่าไม่ควรนำเอามาอย่างเป็นทางการ หากเป็นการยืมเพื่อการสื่อสารไม่ว่ากัน และชาวพุทธไม่ได้กลัวอะไรหรอกครับ ว่าใครจะแอบอ้างนำศัพท์ไปใช้ แต่เป็นเรื่องของความถูกต้องเหมาะสม และศักดิ์ศรีของผู้พยายามแอบอ้างไปใช้ด้วย

ดูเจตนาก็พอจะรู้ได้
...............................

เรื่องการใช้คำศัพท์นี้ต้องขอชมชาวมุสลิมเลยว่า มีศักดิ์ศรีอย่างหนึ่ง ที่ไม่ยอมใช้คำของศาสนาอื่นๆ หรือภาษาอื่นๆ มาปลอมปนคำในศาสนาของตนเลย และก็ไม่ยอมให้ใครมใช้คำเหมือเขาด้วย เช่นบางประเทศที่ชาวคริตส์จะเรียกพระยะโฮวาห์ว่าพระอัลเลาห์ เขาก็ไม่ยอมกันเลยทีเดียว ทั้งๆที่ชาวคริตส์ก็เข้าใจว่าเป็นพระบิดาสูงสุดหนึ่งเดียวกันแท้ๆ
...............................

ส่วนเรื่องความหมายเฉพาะ ก็ชัดเจนแล้ว คุณ taiyo ยังไม่เข้าใจอย่าพูดเลยดีกว่า

คำว่า"พุทธ" คำว่า"คริตส์" ต่างก็มีความหมายเฉพาะตนชัดเจนอยู่แล้ว นี้เป็นกรณีหนึ่ง จะเอาไปมั่วเป็นความหมายอื่นๆไม่ได้

หากจะกล่าวในเชิงศาสนสัมพันธ์ก็อีกบริบทหนึ่ง ซึ่งต่างก็ต้องมีจุดยืนที่ชัดเจนในการศาสนสัมพันธ์ด้วย มิใช้ผสมปนเปมั่วไปหมด กลายเป็นลัทธิผสมปนเป ซึ่งเราพบเห็นกันได้ทั่วไปแม้แต่ตามเวปบอดร์ต่างๆ
...............................

ส่วนใครจะนำไปตั้งเป็นชื่อก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ผมก็เคยพบพระฟรั่งที่ชื่อหลวงพี่คริตส์ หรือชื่อนักบุญ ทูตสวรรค์ (หลายคน เพราะใช้ชื่อทำนองนี้กันเยอะ) มาบวชเป็นพระภิกษุ เลยครับ เขาเอาชื่อพระคริตส์ไปตั้งชื่อเฉยๆ แน่นอนมีคนนามสกุลประสมศัพท์ว่า "พุทธ" เป็นชาวคริตส์ และชาวมุสลิมเยอะแยะไป

เขาก็ไม่ได้มีเจตนานำมาเพื่อประโยชน์ไม่ดีที่แอบแฝงอยู่ ดูเจตนาก็รู้แล้ว.....
ตอบกลับโพส