ลำบากใจตอนถูกขอคำปรึกษาุเรื่องไสยเวท
-
- โพสต์: 1029
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm
ช่วงนี้คนรอบข้าง (หลายคน) มาปรึกษาแนวนี้
เจอผีมาถามกับเราว่าที่เห็นคือผีใช่มั้ย จะทำยังไง ทำบุญใส่บาตรแล้ว
ทำสังฆทานแล้ว ไปดูหมอมา หมอว่าแบบนู้นแบบนี้ ล่าสุดอยากเลี้ยงกุมารทอง
บางคนบอกว่าเป็นคริสต์ เขาจะเข้าใจแยกตัวออกไป
แต่บางคนกลับบอกว่าเราทายแม่น (ไม่เคยไปดูหมอให้นะคะ) อยากให้ทายให้อีก
(เอ้า...) บอกว่าทำตามที่เราบอกชีวิตดีขึ้น (เช่น สวดภาวนาให้คนอื่นบ้าง
ให้ยกโทษคนที่เราเกลียด ก็บอกตามที่พระเยซูสอนทั้งนั้น) ทุกศาสนาก็สอนนะ
หรือบางคนเคยเล่าขำ ๆ ว่าฝันเห็นเค้าด้วย แบบนี้ ๆ (เล่าความฝันไป)
เค้าดันเอาไปปรึกษาคนอื่นจริง ๆ จัง ๆ แล้วยืนยันว่าเป็นลางเตือนให้รู้ตัวอย่างนู้น
อย่างนี้อย่างนั้น เสียเงินทองทำบุญต่อชีวิต (เราได้แต่อึ้ง...)
แต่พอบอกงั้นเชื่อพระเจ้าสิ ... พวกเขาก็เปลี่ยนเรื่องพูด สักพักก็จะกลับมาลากเรา
เข้ากลุ่มเรื่องลึกลับอีก (ปล่อยฉันไป)
ล่าสุดอีกรายมาปรึกษาจะเลี้ยงกุมารทองรักยม เอ้า...มาปรึกษาฉันทำไม
ได้คำตอบ "ก็พี่มีเซ้นส์" ปรึ๊ด... (ฉันไม่มีซ่งมีเซ้นส์อะไรทั้งนั้น)
ใช้มาหมดทุกวิธีแล้วตั้งแต่พูดตรง ๆ หนีดื้อ ๆ แพร่ธรรมให้รู้จักพระเจ้าเลย
แต่ก็ไม่วายจะต้องมีอะไรแบบนี้มาปรึกษาอีก
ฟังบ่อย ๆ แล้วบาปโมโหจะขึ้น ตอนแรกฟังจะคิดในใจ "พระขาช่วยเขาด้วย
พระขาเมตตาเขาด้วย" หลัง ๆ จะเป็น "พระขาเอาเขาไปห่าง ๆ หนูที"
ปล.เล่าชวนคุยขำ ๆ (แอบบ่นระบายความในใจ แหะ ๆ) อย่าเครียดตามแมวน้ำ
แมวน้ำเครียดคนเดียวพอ
เจอผีมาถามกับเราว่าที่เห็นคือผีใช่มั้ย จะทำยังไง ทำบุญใส่บาตรแล้ว
ทำสังฆทานแล้ว ไปดูหมอมา หมอว่าแบบนู้นแบบนี้ ล่าสุดอยากเลี้ยงกุมารทอง
บางคนบอกว่าเป็นคริสต์ เขาจะเข้าใจแยกตัวออกไป
แต่บางคนกลับบอกว่าเราทายแม่น (ไม่เคยไปดูหมอให้นะคะ) อยากให้ทายให้อีก
(เอ้า...) บอกว่าทำตามที่เราบอกชีวิตดีขึ้น (เช่น สวดภาวนาให้คนอื่นบ้าง
ให้ยกโทษคนที่เราเกลียด ก็บอกตามที่พระเยซูสอนทั้งนั้น) ทุกศาสนาก็สอนนะ
หรือบางคนเคยเล่าขำ ๆ ว่าฝันเห็นเค้าด้วย แบบนี้ ๆ (เล่าความฝันไป)
เค้าดันเอาไปปรึกษาคนอื่นจริง ๆ จัง ๆ แล้วยืนยันว่าเป็นลางเตือนให้รู้ตัวอย่างนู้น
อย่างนี้อย่างนั้น เสียเงินทองทำบุญต่อชีวิต (เราได้แต่อึ้ง...)
แต่พอบอกงั้นเชื่อพระเจ้าสิ ... พวกเขาก็เปลี่ยนเรื่องพูด สักพักก็จะกลับมาลากเรา
เข้ากลุ่มเรื่องลึกลับอีก (ปล่อยฉันไป)
ล่าสุดอีกรายมาปรึกษาจะเลี้ยงกุมารทองรักยม เอ้า...มาปรึกษาฉันทำไม
ได้คำตอบ "ก็พี่มีเซ้นส์" ปรึ๊ด... (ฉันไม่มีซ่งมีเซ้นส์อะไรทั้งนั้น)
ใช้มาหมดทุกวิธีแล้วตั้งแต่พูดตรง ๆ หนีดื้อ ๆ แพร่ธรรมให้รู้จักพระเจ้าเลย
แต่ก็ไม่วายจะต้องมีอะไรแบบนี้มาปรึกษาอีก
ฟังบ่อย ๆ แล้วบาปโมโหจะขึ้น ตอนแรกฟังจะคิดในใจ "พระขาช่วยเขาด้วย
พระขาเมตตาเขาด้วย" หลัง ๆ จะเป็น "พระขาเอาเขาไปห่าง ๆ หนูที"
ปล.เล่าชวนคุยขำ ๆ (แอบบ่นระบายความในใจ แหะ ๆ) อย่าเครียดตามแมวน้ำ
แมวน้ำเครียดคนเดียวพอ
ดีแล้วครับที่คุณแมวน้ำกังวล
คริสตชนบางคน บางครั้ง พอได้รับคำชมแนวนี้ก็เหลิง
คิดว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ ไม่ต้องพึ่งพระเจ้า (บ้าไปแล้ว)
____________________
หน้าที่ของเราบอกว่าความเชื่อที่ถูกต้อง
(คือ การเชื่อฟังพระเจ้า องค์ความดีครบบริบูรณ์)
ส่วนคนที่เข้ามาถามเรา
จะเชื่อหรือไม่ก็เป็นสิทธิเสรีภาพที่พระเจ้ามอบให้เขาเลือกเองครับ
คริสตชนบางคน บางครั้ง พอได้รับคำชมแนวนี้ก็เหลิง
คิดว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ ไม่ต้องพึ่งพระเจ้า (บ้าไปแล้ว)
____________________
หน้าที่ของเราบอกว่าความเชื่อที่ถูกต้อง
(คือ การเชื่อฟังพระเจ้า องค์ความดีครบบริบูรณ์)
ส่วนคนที่เข้ามาถามเรา
จะเชื่อหรือไม่ก็เป็นสิทธิเสรีภาพที่พระเจ้ามอบให้เขาเลือกเองครับ
-
- โพสต์: 1029
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm
ก็พยายามจะทำตัวให้เป็นประโยชน์ด้วยการแทรก ๆ คำสอน
แทรก ๆ ความเชื่อให้เขารู้จักพระเจ้ามาขึ้น เห็นแล้วเหนื่อยใจแทน
เพราะพออยู่กับกลุ่มและครอบครัวที่เชื่อเรื่องเทพเจ้า ผีสางนางไม้
คนทรง ดูดวงต่อโชค อะไรแบบนี้ตลอด เหมือนเขาจะยิ่งห่างจากพระ
ไปทุกทีดึงไม่กลับแล้ว
ล่าสุดเมื่อเย็นก็โทรมาเล่าอีกแล้ว สรุปที่หมอดูก็พูดเหมือน
แมวน้ำพูดไม่ผิดประมาณ คือ ทำดี รักษาศีล ทำบุญ
คิดไปคิดมาเป็นคริสต์ดีสุด ๆ ไม่ต้องกระเสือกกระสน
ไปดูชะตาล่วงหน้า ไม่ต้องวิ่งหอบข้าวของไปไหว้ศาลเจ้าต่าง ๆ
ไม่ต้องเสียเงินทองซื้อของมาเพื่อเผาหรือทิ้งให้บูดเน่า
แค่รักพระเยอะ ๆ ทำตามพระวาจา ทุกอย่างถวายยกให้พระทั้งหมด
ชีวิตก็ไม่ต้องการอะไรพวกนั้นแล้ว ง่ายกว่าตั้งเยอะ
อยากให้เขาเข้าใจสิ่งที่เราอยากจะบอกเขามาก
แทรก ๆ ความเชื่อให้เขารู้จักพระเจ้ามาขึ้น เห็นแล้วเหนื่อยใจแทน
เพราะพออยู่กับกลุ่มและครอบครัวที่เชื่อเรื่องเทพเจ้า ผีสางนางไม้
คนทรง ดูดวงต่อโชค อะไรแบบนี้ตลอด เหมือนเขาจะยิ่งห่างจากพระ
ไปทุกทีดึงไม่กลับแล้ว
ล่าสุดเมื่อเย็นก็โทรมาเล่าอีกแล้ว สรุปที่หมอดูก็พูดเหมือน
แมวน้ำพูดไม่ผิดประมาณ คือ ทำดี รักษาศีล ทำบุญ
คิดไปคิดมาเป็นคริสต์ดีสุด ๆ ไม่ต้องกระเสือกกระสน
ไปดูชะตาล่วงหน้า ไม่ต้องวิ่งหอบข้าวของไปไหว้ศาลเจ้าต่าง ๆ
ไม่ต้องเสียเงินทองซื้อของมาเพื่อเผาหรือทิ้งให้บูดเน่า
แค่รักพระเยอะ ๆ ทำตามพระวาจา ทุกอย่างถวายยกให้พระทั้งหมด
ชีวิตก็ไม่ต้องการอะไรพวกนั้นแล้ว ง่ายกว่าตั้งเยอะ
อยากให้เขาเข้าใจสิ่งที่เราอยากจะบอกเขามาก
-
- โพสต์: 124
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ย. 30, 2009 5:18 pm
- ที่อยู่: ขอนแก่น
เห็นชื่อกระทู้แล้วชะงัก เพราะมันช่างใกล้เคียงกับเรื่องของผม กดเข้ามาอ่านแล้วก็ขอบ่น+ขอคำปรึกษาเรื่องที่เกี่ยวกับอะไรทำนองนี้เหมือนกัน แต่กรณีของผมแม้จะเกี่ยวกับสิ่งที่พี่น้องต่างศาสนาเชื่อกัน แต่กลับไม่ใช่พี่น้องต่างศาสนาที่เป็นประเด็น ตรงกันข้าม กลับเป็นพี่น้องคริสตชนเราเอง
ช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปร่วมร้องเพลงอวยพรคริสต์มาสตามบ้านกับกลุ่มเยาวชนของอีกวัดในเขตรับผิดชอบของพวกเขาเป็นครั้งแรก แม้จะไม่ได้เป็นสัตบุรุษวัดนี้แต่ก็คุ้นเคยกันดีกับคุณพ่อ สัตบุรุษวัดหลายคน และกลุ่มเยาวชน ทุกคนต่างดูเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นคงและร้อนรนรักในพระ แต่เมื่อผมมีโอกาสได้ไปเยือนถึงที่บ้านของพวกเขาเพื่อร้องเพลงอวยพร ผมก็เป็นอันต้องสะดุด บ้านหลังหนึ่งที่ผมไปเป็นร้านขายของชำ หน้าบ้านมีผ้ายันต์แปะอยู่ ประตูห้อยเครื่องราง ในบ้านมีหิ้งพระซึ่งมีทั้งรูปพระ แม่พระ นักบุญ และพระของศาสนาอื่น ถ้ามองแค่จากหน้าบ้านและไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นคาทอลิก ผมอาจจะคิดว่าพวกเขาเป็นคนต่างศาสนาแล้วก็ได้ ผมหันไปถามพี่กลุ่มเยาวชนด้วยความสงสัย+อยากรู้ว่า บ้านนี้เป็นคาทอลิกทั้งบ้านหรือเปล่า หรือมีศาสนาอื่นด้วย เพราะเห็นบ้านนี้ก็ไปวัดประจำ พี่เขาเป็นคนท้องที่ ผมเลยคิดว่าเขาน่าจะรู้อะไรบ้าง คำตอบที่ได้กลับมาคือ เขาเป็นคาทอลิกทั้งบ้าน ได้ยินแค่นั้นผมก็นิ่งเงียบ และเก็บเอาไว้ในใจ
ผ่านไปหลายบ้าน เจอทำนองเดียวกันก็หลายหลัง แม้จะไม่มีอะไรเยอะแยะมากมายเหมือนร้านชำนั่น แต่ก็ทำผมต้องสะดุดซ้ำซ้อนไปเหมือนกัน จนในที่สุดก็มาถึงบ้านหลังสุดท้าย เจ้าของบ้านผมรู้จักดี เขาเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย ไปวัดประจำ บางทีก็เห็นไปมิสซาเย็นที่วัดของผมด้วย เขาขอให้เราไปบ้านของเขาเป็นหลังสุดท้าย เพราะเขาได้เตรียมอาหารและมีเกมให้เล่นกัน เป็นเหมือนคริสต์มาสปาร์ตี้ขนาดย่อมๆ พอพวกเราไปถึง บรรยากาศทั้งภายนอกและภายในบ้านดีมาก ตั้งแต่หน้าบ้านเข้าไปรับรู้ได้ถึงอะไรสักอย่างที่ทำให้คิดว่าเขาต้องเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นคงดี รักพระมากแน่ๆ ตั้งแต่ดาวที่ประดับหน้าบ้าน รูปทูตสวรรค์เหนือประตู รูปพระ รูปปั้นพระ แม่พระ นักบุญ ที่ดูมีเยอะแยะเต็มไปหมด แต่เพราะการจัดวางให้ไม่ดูรกหูรกตาจึงทำให้รู้สึกว่ามันเข้ากับบ้านหลังนี้มาก
ร้องเพลงเสร็จ ก็มีเล่นเกม รับประทานอาหารกัน แต่ในระหว่างที่กำลังสนุกสนานกันอยู่นั้น ผมก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างอยู่บนหลังตู้ซึ่งตั้งใจให้เป็นตู้โชว์ ตอนแรกคิดว่าเป็นรูปปั้นแม่พระ แต่พอดูให้ดีๆ ก็ชัดเจนว่าเป็นนางกวัก มีธูปเทียน ดอกไม้สำหรับบูชาไว้เสร็จสรรพ อย่างที่บอกว่ารู้จักกับเจ้าของบ้านดี ก็เลยถามเขา(ด้วยน้ำเสียงแบบกลั้วหัวเราะ ไม่จริงจัง เพราะไม่อยากให้เขาคิดว่าเรากำลังจับผิดเขาอยู่)ออกไปเลยว่า นั่นนางกวักหรือเปล่า ทำไมถึงมีอยู่ที่นี่ด้วย เขาก็หันกลับมาตอบยิ้มๆ ว่า เพื่อนให้มา เขาบอกว่าเอามาบูชาบ้าง มันทำให้ชีวิตดีขึ้น อีกอย่างเราเป็นคนไทยก็น่าจะเชื่อๆ อะไรบ้าง ผมก็แบบว่า อึ้ง คือ ไม่คิดว่าจะได้ยินแบบนี้จากเขา ผมไม่ได้พูดไม่ได้ถามอะไรอีก ได้แต่เก็บไว้ในใจ
หลังจากนั้นผมก็ได้มีโอกาสไปร่วมมิสซาที่วัดนั้นอีก พร้อมกับพาเพื่อนที่อยากเปลี่ยนศาสนามาเรียนคำสอนที่นี่ เพราะใกล้บ้านเขา ในช่วงเรียนคำสอนผมอยู่เรียนด้วย กะว่าจะฟื้นฟูไปในตัว แต่ก็ต้องสะดุดกับสิ่งที่คุณพ่อสอนให้กับเพื่อน คุณพ่อสอนประมาณว่า พุทธกับคริสต์ก็ไม่ค่อยต่างกัน มีเรื่องเวรเรื่องกรรมเหมือนกัน คือ ทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เรื่องไฟชำระก็เหมือนกับชาติภพของพุทธที่วิญญาณพวกนั้นก็รอเวลาไปเกิด ผมฟัง แต่ไม่ได้พูดอะไร คิดในใจอยู่คนเดียวว่า อาจเพราะพ่อต้องการให้เพื่อนเข้าใจอะไรง่ายๆ พอเรียนคำสอนเสร็จผมจึงพูดเรื่องที่ไปเจอตอนคริสต์มาสให้คุณพ่อฟัง แต่สิ่งที่คุณพ่อตอบกลับมาก็ทำเอาผมอึ้ง แต่ครั้งนี้หนักกว่าเดิม แบบว่า คาดไม่ถึง ไม่คิดว่า... เอ่อ.. คุณพ่อบอกว่า มันไม่ใช่เรื่องผิดหรอก อะไรดีเราก็นับถือได้ แล้วคุณพ่อก็พูดไปถึงเรื่องชาติภพ เรื่องเวรกรรม บอกว่าพ่อก็เชื่อเรื่องพวกนี้ เพราะมันก็เหมือนกันกับคำสอนของเรา (ตรงไหน?? ผมอยากรู้) เราทำอะไรเราก็ต้องได้อย่างนั้น พูกถึงเรื่องไฟชำระว่าก็เหมือนกับชาติภพ ว่าวิญญาณที่อยู่ในนั้นก็รอเวลาไปเกิด ซึ่งผมไม่เคยรู้ถึงทัศนะเรื่องนี้ของคุณพ่อเลย
ตอนนี้ผมแนะนำให้เพื่อนมาเรียนคำสอนที่วัดผมแทน เพราะคำสอนที่วัดผมจะจัดเป็นระบบ มีหลักสูตรตามวัย ช่วงนี้ผมก็ยังไปวัดนั้นอยู่บ้าง เวลาเทศน์สอนคุณพ่อท่านก็เทศน์ปกติ หนุนใจดีด้วย แต่ความรู้สึกเป็นห่วงต่อพี่น้องที่วัดนี้เริ่มมีเข้ามาในใจผม ผมไม่รู้จะไปปรึกษากับใคร เพราะขนาดคุณพ่อที่น่าจะแนะนำอะไรผมได้ก็ยังเป็นแบบนี้ ผมก็เลยได้แต่สวด เลยอยากจะขอความคิดเห็นและคำแนะนำจากพี่น้องด้วยครับ
ช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปร่วมร้องเพลงอวยพรคริสต์มาสตามบ้านกับกลุ่มเยาวชนของอีกวัดในเขตรับผิดชอบของพวกเขาเป็นครั้งแรก แม้จะไม่ได้เป็นสัตบุรุษวัดนี้แต่ก็คุ้นเคยกันดีกับคุณพ่อ สัตบุรุษวัดหลายคน และกลุ่มเยาวชน ทุกคนต่างดูเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นคงและร้อนรนรักในพระ แต่เมื่อผมมีโอกาสได้ไปเยือนถึงที่บ้านของพวกเขาเพื่อร้องเพลงอวยพร ผมก็เป็นอันต้องสะดุด บ้านหลังหนึ่งที่ผมไปเป็นร้านขายของชำ หน้าบ้านมีผ้ายันต์แปะอยู่ ประตูห้อยเครื่องราง ในบ้านมีหิ้งพระซึ่งมีทั้งรูปพระ แม่พระ นักบุญ และพระของศาสนาอื่น ถ้ามองแค่จากหน้าบ้านและไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นคาทอลิก ผมอาจจะคิดว่าพวกเขาเป็นคนต่างศาสนาแล้วก็ได้ ผมหันไปถามพี่กลุ่มเยาวชนด้วยความสงสัย+อยากรู้ว่า บ้านนี้เป็นคาทอลิกทั้งบ้านหรือเปล่า หรือมีศาสนาอื่นด้วย เพราะเห็นบ้านนี้ก็ไปวัดประจำ พี่เขาเป็นคนท้องที่ ผมเลยคิดว่าเขาน่าจะรู้อะไรบ้าง คำตอบที่ได้กลับมาคือ เขาเป็นคาทอลิกทั้งบ้าน ได้ยินแค่นั้นผมก็นิ่งเงียบ และเก็บเอาไว้ในใจ
ผ่านไปหลายบ้าน เจอทำนองเดียวกันก็หลายหลัง แม้จะไม่มีอะไรเยอะแยะมากมายเหมือนร้านชำนั่น แต่ก็ทำผมต้องสะดุดซ้ำซ้อนไปเหมือนกัน จนในที่สุดก็มาถึงบ้านหลังสุดท้าย เจ้าของบ้านผมรู้จักดี เขาเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย ไปวัดประจำ บางทีก็เห็นไปมิสซาเย็นที่วัดของผมด้วย เขาขอให้เราไปบ้านของเขาเป็นหลังสุดท้าย เพราะเขาได้เตรียมอาหารและมีเกมให้เล่นกัน เป็นเหมือนคริสต์มาสปาร์ตี้ขนาดย่อมๆ พอพวกเราไปถึง บรรยากาศทั้งภายนอกและภายในบ้านดีมาก ตั้งแต่หน้าบ้านเข้าไปรับรู้ได้ถึงอะไรสักอย่างที่ทำให้คิดว่าเขาต้องเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นคงดี รักพระมากแน่ๆ ตั้งแต่ดาวที่ประดับหน้าบ้าน รูปทูตสวรรค์เหนือประตู รูปพระ รูปปั้นพระ แม่พระ นักบุญ ที่ดูมีเยอะแยะเต็มไปหมด แต่เพราะการจัดวางให้ไม่ดูรกหูรกตาจึงทำให้รู้สึกว่ามันเข้ากับบ้านหลังนี้มาก
ร้องเพลงเสร็จ ก็มีเล่นเกม รับประทานอาหารกัน แต่ในระหว่างที่กำลังสนุกสนานกันอยู่นั้น ผมก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างอยู่บนหลังตู้ซึ่งตั้งใจให้เป็นตู้โชว์ ตอนแรกคิดว่าเป็นรูปปั้นแม่พระ แต่พอดูให้ดีๆ ก็ชัดเจนว่าเป็นนางกวัก มีธูปเทียน ดอกไม้สำหรับบูชาไว้เสร็จสรรพ อย่างที่บอกว่ารู้จักกับเจ้าของบ้านดี ก็เลยถามเขา(ด้วยน้ำเสียงแบบกลั้วหัวเราะ ไม่จริงจัง เพราะไม่อยากให้เขาคิดว่าเรากำลังจับผิดเขาอยู่)ออกไปเลยว่า นั่นนางกวักหรือเปล่า ทำไมถึงมีอยู่ที่นี่ด้วย เขาก็หันกลับมาตอบยิ้มๆ ว่า เพื่อนให้มา เขาบอกว่าเอามาบูชาบ้าง มันทำให้ชีวิตดีขึ้น อีกอย่างเราเป็นคนไทยก็น่าจะเชื่อๆ อะไรบ้าง ผมก็แบบว่า อึ้ง คือ ไม่คิดว่าจะได้ยินแบบนี้จากเขา ผมไม่ได้พูดไม่ได้ถามอะไรอีก ได้แต่เก็บไว้ในใจ
หลังจากนั้นผมก็ได้มีโอกาสไปร่วมมิสซาที่วัดนั้นอีก พร้อมกับพาเพื่อนที่อยากเปลี่ยนศาสนามาเรียนคำสอนที่นี่ เพราะใกล้บ้านเขา ในช่วงเรียนคำสอนผมอยู่เรียนด้วย กะว่าจะฟื้นฟูไปในตัว แต่ก็ต้องสะดุดกับสิ่งที่คุณพ่อสอนให้กับเพื่อน คุณพ่อสอนประมาณว่า พุทธกับคริสต์ก็ไม่ค่อยต่างกัน มีเรื่องเวรเรื่องกรรมเหมือนกัน คือ ทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เรื่องไฟชำระก็เหมือนกับชาติภพของพุทธที่วิญญาณพวกนั้นก็รอเวลาไปเกิด ผมฟัง แต่ไม่ได้พูดอะไร คิดในใจอยู่คนเดียวว่า อาจเพราะพ่อต้องการให้เพื่อนเข้าใจอะไรง่ายๆ พอเรียนคำสอนเสร็จผมจึงพูดเรื่องที่ไปเจอตอนคริสต์มาสให้คุณพ่อฟัง แต่สิ่งที่คุณพ่อตอบกลับมาก็ทำเอาผมอึ้ง แต่ครั้งนี้หนักกว่าเดิม แบบว่า คาดไม่ถึง ไม่คิดว่า... เอ่อ.. คุณพ่อบอกว่า มันไม่ใช่เรื่องผิดหรอก อะไรดีเราก็นับถือได้ แล้วคุณพ่อก็พูดไปถึงเรื่องชาติภพ เรื่องเวรกรรม บอกว่าพ่อก็เชื่อเรื่องพวกนี้ เพราะมันก็เหมือนกันกับคำสอนของเรา (ตรงไหน?? ผมอยากรู้) เราทำอะไรเราก็ต้องได้อย่างนั้น พูกถึงเรื่องไฟชำระว่าก็เหมือนกับชาติภพ ว่าวิญญาณที่อยู่ในนั้นก็รอเวลาไปเกิด ซึ่งผมไม่เคยรู้ถึงทัศนะเรื่องนี้ของคุณพ่อเลย
ตอนนี้ผมแนะนำให้เพื่อนมาเรียนคำสอนที่วัดผมแทน เพราะคำสอนที่วัดผมจะจัดเป็นระบบ มีหลักสูตรตามวัย ช่วงนี้ผมก็ยังไปวัดนั้นอยู่บ้าง เวลาเทศน์สอนคุณพ่อท่านก็เทศน์ปกติ หนุนใจดีด้วย แต่ความรู้สึกเป็นห่วงต่อพี่น้องที่วัดนี้เริ่มมีเข้ามาในใจผม ผมไม่รู้จะไปปรึกษากับใคร เพราะขนาดคุณพ่อที่น่าจะแนะนำอะไรผมได้ก็ยังเป็นแบบนี้ ผมก็เลยได้แต่สวด เลยอยากจะขอความคิดเห็นและคำแนะนำจากพี่น้องด้วยครับ
-
- โพสต์: 1029
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm
อ่านของคุณลูกแกะแล้วอึ้ง...
คุณพ่อยังไม่มั่นคงแล้วจะให้ลูกวัดเชื่อศรัทธาได้ยังไง
คุณพ่อยังไม่มั่นคงแล้วจะให้ลูกวัดเชื่อศรัทธาได้ยังไง
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
สวดภาวนาเพื่อคนเหล่านั้นนะครับ
คริสตังจำนวนมากอ่อนเรียนคำสอน และขาดการอ่านพระคัมภีร์ เพราะมักนับถือแบบสืบต่อกันมาไม่ใช่จากการแพร่ธรรมแล้วเชื่อเอง ทำให้คิดว่าสิ่งใดถูกแบบตามใจตัวเอง ไม่ใช่ตามที่พระเยซูสอน
ซูแปร์ติซัง คือความอ่อนแอ และจุดอ่อนขนาดใหญ่ที่สุดอันหนึ่ง ของพระศาสนจักรในประเทศนี้
ซูแปร์ติซัง คือความอ่อนแอ และจุดอ่อนขนาดใหญ่ที่สุดอันหนึ่ง ของพระศาสนจักรในประเทศนี้
กจ 16:16-21
วันหนึ่ง ขณะที่เรากำลังเดินไปยังสถานที่อธิษฐานภาวนา ทาสหญิงคนหนึ่งมาพบเรา นางเป็นคนทรง ทำนายอนาคตได้ ทำให้นายของนางมีรายได้มากมายจากการทำนาย ทาสหญิงคนนี้ติดตามเปาโลและพวกเราพลางตะโกนว่า “คนเหล่านี้เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าผู้สูงสุด กำลังประกาศหนทางแห่งความรอดพ้นให้ท่านทั้งหลาย” นางทำเช่นนี้หลายวัน จนเปาโลรำคาญ จึงหันมาสั่งจิตที่เข้าทรงนั้นว่า “เดชะพระนามของพระเยซูคริสตเจ้า ข้าพเจ้าสั่งเจ้าให้ออกไปจากนาง” ทันใดนั้น จิตก็ออกไป
วันหนึ่ง ขณะที่เรากำลังเดินไปยังสถานที่อธิษฐานภาวนา ทาสหญิงคนหนึ่งมาพบเรา นางเป็นคนทรง ทำนายอนาคตได้ ทำให้นายของนางมีรายได้มากมายจากการทำนาย ทาสหญิงคนนี้ติดตามเปาโลและพวกเราพลางตะโกนว่า “คนเหล่านี้เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าผู้สูงสุด กำลังประกาศหนทางแห่งความรอดพ้นให้ท่านทั้งหลาย” นางทำเช่นนี้หลายวัน จนเปาโลรำคาญ จึงหันมาสั่งจิตที่เข้าทรงนั้นว่า “เดชะพระนามของพระเยซูคริสตเจ้า ข้าพเจ้าสั่งเจ้าให้ออกไปจากนาง” ทันใดนั้น จิตก็ออกไป
กด LikeBatholomew เขียน:สวดภาวนาเพื่อคนเหล่านั้นนะครับ
กด LikeHoly เขียน:คริสตังจำนวนมากอ่อนเรียนคำสอน และขาดการอ่านพระคัมภีร์ เพราะมักนับถือแบบสืบต่อกันมาไม่ใช่จากการแพร่ธรรมแล้วเชื่อเอง ทำให้คิดว่าสิ่งใดถูกแบบตามใจตัวเอง ไม่ใช่ตามที่พระเยซูสอน
ซูแปร์ติซัง คือความอ่อนแอ และจุดอ่อนขนาดใหญ่ที่สุดอันหนึ่ง ของพระศาสนจักรในประเทศนี้
และเสริม
ยศเคยเจอน้าคนหนึ่ง สวดสายประคำ150เม็ด ก็เลยเข้าไปคุยเรื่องศรัทธา
คุยๆไปอยู่ๆน้าก็พูดมาว่า
"รู้รึเปล่า นอกจากสวดถวายแล้ว
น้ายังตั้งหิ้ง ถวายองุ่นให้แม่พระ ต้มไข่ถวายพระเยซูดูด้วยนะ"
ผมก็ "เฮ้ย พระศาสนจักรไม่ได้สอนกิจศรัทธาแบบนี้นะครับ"
น้าก็บอกว่า
"น้ารู้ แต่น้าลองแล้วกิจการขายของก็ดีนะ นี่น้าลองถวายตั้งหลายอย่าง
ถึงรู้นะนี่ว่าพระองค์ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร"
.......
ยศก็เลยพยายามหลีกเลี่ยงไม่คุยเรื่องที่อาจมีโอกาสวกเข้าเรื่องแนวนี้กับแกอีก
แล้วพยายามสวดเผื่อแกครับ (ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นไงบ้างแล้ว...)
คริสตชนบางคน อ่อนแอในความเชื่อ ขาดความวางใจ บางทีเคลิ้มไปกับพิธีของคนต่างศาสนา
หรือเขาแนะนำให้เอามาตั้ง ทำที่บ้านบังเอิญได้ดั่งใจ หรือถูกหวยหรือขายของดีในช่วงนั้น
ก็คิดว่ามาจากสิ่งที่ เขาทำ ก็เลยทำมาเรื่อยๆ ซึ่งมันเป็นที่สดุดต่อคริสตชนมากๆ และเป็นตัวอย่าง
ให้กับลูกหลานเขาเอง นับถือ2อย่างหรือถ้าเคลิ้มไปมากๆ อาจมีมาเพิ่มเรื่อยๆ ถ้าเขาได้ประโยชน์
...ผิดต่อ พระบัญญัติ 10 ประการ ข้อ1 อย่างเด่นชัด
...1 จงนมัสการ องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าพระองค์เดียวของท่าน
พระเยซูเจ้าตรัส ..ไม่มีใครมีเจ้านาย2คน เขาจะรักนายคนหนึ่งและเกลียดนายอีกคนหนึ่ง.
...จะมีประโยชน์อะไรถ้าได้ทรัพย์สินทั้งโลกแต่ต้องเสียวิญญานไป
คริสตชนที่อ่อนแอในความเชื่อ ต้องสวดมากๆ อ่านพระวาจามากๆ ไปร่วมมิสซาบ่อยๆ
สวดพระเมตตา ขอความเชื่อ ความวางใจ จากพระมากๆ และยอมรับตามน้ำพระทัยถึงแม้น
จะลำบากบ้าง ก็อดทน พระองค์เตรียมสี่งดีๆให้กับเราทั้งในโลกนี้และโลกหน้า สิ่งที่ตาไม่เคยเห็น
หูไม่เคยได้ยิน จิตใจคาดไม่ถึง สำหรับลูกที่ซื่อสัตย์ของพระองค์
...อย่าลืมพระองค์สร้างทุกสิ่ง เป็นเจ้านายสูงสุดของทุกสิ่ง ประเสริฐสุดแล้ว.....
ถ้าพวกเราเจอคริสตชนที่อ่อนแอ ช่วยเตือนเขาด้วย ให้กำลังใจเขากลับมาหา
...พระเจ้าเที่ยงแท้นิรันดร..
ช่วยสวดให้เขามากๆ และพระสงฆ์ด้วย
... ..
หรือเขาแนะนำให้เอามาตั้ง ทำที่บ้านบังเอิญได้ดั่งใจ หรือถูกหวยหรือขายของดีในช่วงนั้น
ก็คิดว่ามาจากสิ่งที่ เขาทำ ก็เลยทำมาเรื่อยๆ ซึ่งมันเป็นที่สดุดต่อคริสตชนมากๆ และเป็นตัวอย่าง
ให้กับลูกหลานเขาเอง นับถือ2อย่างหรือถ้าเคลิ้มไปมากๆ อาจมีมาเพิ่มเรื่อยๆ ถ้าเขาได้ประโยชน์
...ผิดต่อ พระบัญญัติ 10 ประการ ข้อ1 อย่างเด่นชัด
...1 จงนมัสการ องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าพระองค์เดียวของท่าน
พระเยซูเจ้าตรัส ..ไม่มีใครมีเจ้านาย2คน เขาจะรักนายคนหนึ่งและเกลียดนายอีกคนหนึ่ง.
...จะมีประโยชน์อะไรถ้าได้ทรัพย์สินทั้งโลกแต่ต้องเสียวิญญานไป
คริสตชนที่อ่อนแอในความเชื่อ ต้องสวดมากๆ อ่านพระวาจามากๆ ไปร่วมมิสซาบ่อยๆ
สวดพระเมตตา ขอความเชื่อ ความวางใจ จากพระมากๆ และยอมรับตามน้ำพระทัยถึงแม้น
จะลำบากบ้าง ก็อดทน พระองค์เตรียมสี่งดีๆให้กับเราทั้งในโลกนี้และโลกหน้า สิ่งที่ตาไม่เคยเห็น
หูไม่เคยได้ยิน จิตใจคาดไม่ถึง สำหรับลูกที่ซื่อสัตย์ของพระองค์
...อย่าลืมพระองค์สร้างทุกสิ่ง เป็นเจ้านายสูงสุดของทุกสิ่ง ประเสริฐสุดแล้ว.....
ถ้าพวกเราเจอคริสตชนที่อ่อนแอ ช่วยเตือนเขาด้วย ให้กำลังใจเขากลับมาหา
...พระเจ้าเที่ยงแท้นิรันดร..
ช่วยสวดให้เขามากๆ และพระสงฆ์ด้วย
... ..
- billa-bong
- ~@
- โพสต์: 668
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 14, 2006 12:16 pm
- ที่อยู่: thailand
อ่านเรื่องของคุณแมวน้ำ แล้วมาเจอเรื่อง คุณลูกแกะพระเจ้า แล้ว ฮืม รู้สึกว่าคริสตชนจิงๆ มีกี่คนกันนะ คุณพ่อหลายคนก็สอนแบบประมานนั้น มันยิ่งทำให้เรารู้สึกว่า เหมือนคุณพ่อกลัวว่าจะแตกต่าง กลัวคนที่จะกลับใจ รับไม่ได้ แบบนั้น ว่าพระเจ้าเราก็เหมือนๆ กันกับศาสนาอื่นแหละ และมันยิ่งทำให้คริสตศาสนาคริสต์ แห้งแล้ง เป็นอะไรที่เหมือนๆ กับศาสนาอื่น ก็แค่ทำความดี จบ แต่จิงๆแล้ว ศาสนาคริสต์นั้นเป็นศาสนาที่มีความรัก และความสุข อย่างมาก กับการได้อยู่กับพระเจ้าอย่างแท้จิง ไม่ใช่แค่ทำความดีแล้วจบ เพราะพระองค์ทรงรักผู้ที่เป็นของพระองค์จากส่วนลึกของพระหฤทัยพระองค์
ขอพระเจ้าทรงเมตตาพวกลูกคนบาปด้วยเทอญ
ขอพระเจ้าทรงเมตตาพวกลูกคนบาปด้วยเทอญ