เอ็มมานูเอล เซเกทัชเชีย เด็กหนุ่มผู้ได้พบพระเยซูเจ้า

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
reccanohono
โพสต์: 1045
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
ที่อยู่: thailand

ศุกร์ มี.ค. 09, 2012 8:53 am

THE BOY WHO MET JESUS by Immaculée Ilibagiza
เอ็มมานูเอล เซเกทัชเชีย เด็กหนุ่มผู้ได้พบพระเยซูเจ้า
โดย อิมมัคคูลี อีลีบากีซา
CREDIT : ฟอร์เวิดเมล
ปล. โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ :s015:

รูปภาพ

นี่คือเรื่องราวที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อนของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งมิได้เป็นคาทอลิก ผู้ได้พบพระเยซูเจ้าและกล้าทูลถามพระองค์ในเรื่องที่มนุษย์ข้องใจกันมานาน

เขาชื่อ ‘เซเกทัชเชีย’ เกิดปี 1967 ในครอบครัวยากจนที่ไม่รู้หนังสือ เขาเป็นคนเลี้ยงวัว ครอบครัวนับถือความเชื่อดั้งเดิมของท้องถิ่น อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลของรวันดา เซเกทัชเชียไม่เคยเรียนหนังสือ ไม่เคยเห็นพระคัมภีร์ และไม่เคยก้าวเข้าโบสถ์สักครั้ง

แล้ววันหนึ่งในฤดูร้อนปี 1982 ตอนเขาอายุ 15 ปี ขณะเซเกทัชเชียกำลังนั่งพักอยู่ใต้ร่มไม้ พระเยซูคริสตเจ้าทรงมาเยือนเขา ตรัสถามหนุ่มน้อยคนนี้ว่า เขาเต็มใจทำงานเพื่อนำมนุษย์ไปสวรรค์หรือไม่ เซเกทัชเชียตอบตกลงภายใต้เงื่อนไขข้อหนึ่ง คือ ขอให้พระเยซูตอบคำถามทุกข้อของเขา ทั้งของผู้ที่เขาได้พบระหว่างการเดินทางด้วย ในเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อ ศาสนา จุดมุ่งหมายของชีวิต และสภาพของสวรรค์และนรก

พระเยซูเจ้า ทรงเห็นชอบกับเงื่อนไขของเซเกทัชเชีย เขาจึงเริ่มดำเนินชีวิตที่สุดแสนน่าพิศวงนี้
ผู้คนต่างพากันสงสัยว่าเขาได้รับความรู้ในเรื่องศีลอภัยบาป บาปและความรักมาจากที่ใด พระเยซูเจ้าเองทรงเป็นผู้สอนให้เขารู้จักการทำสำคัญมหากางเขน การสวดบทข้าแต่พระบิดา วันทามารีย์และการสวดสายประคำ เขามีความศรัทธาอันลึกซึ้งจนทำให้เขาสามารถพูดถึงความเชื่อได้อย่างปรีชาฉลาด เหมือนกับผู้ที่เล่าเรียนทางศาสนามาเป็นเวลานาน เซเกทัชเชียได้รับศีลล้างบาปในปี 1983 โดยใช้ศาสนนามว่า ‘เอ็มมานูเอล’ ตามที่พระเยซูเจ้าปรารถนา เขาถูกฆ่าตายในระหว่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในรวันดา ปี 1994

อวสานโลก

เซเกทัชเชียได้สนทนาเรื่องวาระสุดท้ายของยุคกับพระเยซูเจ้ามากมาย ส่วนใหญ่ในช่วงการประจักษ์ในกิเบโฮ ระหว่างวันที่ 2 กรกฎาคม 1982 ถึง 2 กรกฎาคม 1983 เขาเล่าเรื่องการสนทนาเหล่านี้ให้ฟังในภายหลังในบทสัมภาษณ์ ที่ดร.โบนาเวนเจอร์ -กรรมการฝ่ายสงฆ์ท่านหนึ่งในคณะไต่สวนของพระสังฆราช- ได้ทำการบันทึกไว้

ต่อไปนี้คือข้อความบางตอนที่คัดมาจากบทสัมภาษณ์


ในยุคสุดท้าย แสงอาทิตย์จะร้อนแรง ผู้คนนับไม่ถ้วนจะล้มตายเพราะความอดอยากหิวโหย และจากหายนะอื่นๆที่ตามมา จะมีการประจญมากมายจากปีศาจในช่วงเวลาเหล่านั้น เพราะจะมีมหันตทุกข์บนแผ่นดินอย่างที่ชาวโลกไม่เคยล่วงรู้มาก่อน

ลูกจะรู้ว่าใกล้ถึงวันที่เรากลับมา เมื่อลูกเห็นสงครามระหว่างศาสนาที่แตกต่างกันของโลกปะทุขึ้น
เมื่อลูกได้เห็นสงครามศาสนา ลูกจะรู้ว่าเรากำลังมา เมื่อสงครามศาสนาเริ่มขึ้น การสู้รบจะยืดเยื้อ
ไม่มีวันจบสิ้นจนถึงวาระสุดท้าย ชนชาติหนึ่งจะต่อสู้กับอีกชนชาติหนึ่ง และศาสนาหนึ่งจะต่อสู้กับ
อีกศาสนาหนึ่ง แต่คนในครอบครัวก็จะขัดแย้งกันเองด้วย -พ่อแม่จะขัดแย้งกับลูกๆของตน บรรดา
บุตรชายและบุตรสาวจะขัดแย้งกัน ทุกขเวทนาจะตามมา เพราะโลกจะยังคงปฏิเสธที่จะกลับใจ
แก้ไขล่าสุดโดย reccanohono เมื่อ ศุกร์ มี.ค. 09, 2012 9:08 am, แก้ไขไปแล้ว 3 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
reccanohono
โพสต์: 1045
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
ที่อยู่: thailand

ศุกร์ มี.ค. 09, 2012 8:54 am

รูปภาพ

พระองค์เจ้าข้า ศาสนาจะต่อสู้กันทำไม ในเมื่อพวกเขาก็ล้วนแต่ทำงานรับใช้พระองค์ทั้งนั้น

เป็นเพราะในศาสนาทุกศาสนานั้น มีผู้คนมากมายที่อ้างว่า เขาเชื่อในความรักของพระเจ้า แต่ไม่ได้เชื่ออย่างแท้จริง สงครามจะเกิดเพราะผู้คนมากมายต่างอ้างว่าพวกเขารัก แต่พวกเขาไม่มีความรักที่จริงใจต่อพระเจ้าหรือต่อมนุษย์


เป็นไปได้อย่างไรที่พ่อแม่กับลูกๆจะขัดแย้งกัน ในเมื่อมีความรักเป็นสายไยผูกพันกันไว้เหนียวแน่นขนาดนั้น

คนในครอบครัวจะเริ่มขัดแย้งกันเมื่อมนุษย์เริ่มเบื่อหน่ายท้อแท้กับชีวิตที่มีแต่ความทุกข์ยาก ผู้คนจะหน่ายโลก และโลกก็จะหน่ายผู้คน บาปของมนุษย์จะมีมากเสียจนความทุกข์ยากจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ผู้เป็นแม่จะอยากเป็นหมันมากกว่าจะให้ลูกเกิดมาในสังคมที่เจ็บปวดเช่นนั้น คนที่ เป็นผู้ใหญ่จะเบื่อชีวิต พวกเขาจะร่ำขอความตาย เพื่อจบชีวิตที่วุ่นวายของตน

จะเกิดแผ่นดินไหวมากมายทั่วโลก ในบางสถานที่ แสงแดดจะแผดกล้าจนผืนดินจะแล้งและการ
เพาะปลูกจะล่ม ปีแล้วปีเล่า กระแสลมจะซัดดินไป และฝนที่ตกไม่หยุดจะทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่

หลายประเทศจะอดอยากหิวโหย ผู้คนเป็นอันมากจะแย่งอาหารกัน และจะขาดอาหารตายจำนวน
มาก
แก้ไขล่าสุดโดย reccanohono เมื่อ ศุกร์ มี.ค. 09, 2012 10:31 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
reccanohono
โพสต์: 1045
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
ที่อยู่: thailand

ศุกร์ มี.ค. 09, 2012 8:55 am

ในเมื่อพระองค์ทรงรู้ว่าโลกจะเต็มไปด้วยบาป ทั้งทรงรู้ว่าสิ่งที่น่ากลัวดังกล่าวจะเกิดขึ้น ทำไมพระองค์จึงสร้างมนุษย์ให้มีความบกพร่องอ่อนแอและมีแนวโน้มที่จะทำบาปเช่นนั้นเล่า พระองค์ทรงรอบรู้ทุกสิ่ง ดังนั้นพระองค์ก็ต้องทราบดีตอนที่พระองค์สร้างอาดัมกับเอวาว่ามนุษยชาติทุกยุคสมัยจะไม่เข้มแข็งพอที่จะต้านทานการประจญล่อลวงต่างๆ

เมื่อสร้างมนุษย์ขึ้นมาพร้อมกับความอ่อนแอนั้น ใช่ว่าเขาจะต้องอ่อนแออยู่เช่นนั้น เรามายังโลก และมาเกิดเป็นมนุษย์ ก็เพื่อให้มวลมนุษยชาติยึดถือเราเป็นแบบฉบับที่ทรงชีวิตในสิ่งที่เป็นไปได้สำหรับมนุษย์ เราเปิดเผยให้มนุษย์เห็นวิถีชีวิตที่จะปฏิบัติตาม และชี้ให้เขาเห็นทางสวรรค์ เรามาในโลกในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง และเราให้มนุษย์ทุกคนรู้วิธีอดทนต่อความเจ็บปวดของโลก และรู้จัก รักพระเจ้า เรามาเพื่อช่วยมนุษย์ให้รอดพ้น เพราะเราเห็นความยากลำบากของมนุษย์ เมื่อพวกเขา พยายามดำเนินชีวิตให้บริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์

เราลงมาจากสวรรค์เพื่อเยียวยารักษาความผิดบาปของโลก และมวลมนุษยชาติก็ได้เห็นสิ่งที่เราตรากตรำมาเพราะบาปเหล่านั้นแล้ว เราถูกเปลื้องผ้า ถูกเฆี่ยนตี และถูกตรึงกางเขน และ มนุษยชาติก็รู้เห็นเป็นพยานในเรื่องนี้ เราตายเพื่อให้มนุษย์ได้รอดพ้น ดังนั้น เพื่อจะได้รับความรอด

เขาต้องเชื้อเชิญเราเข้าไปในหัวใจของเขาก่อนวาระสุดท้าย และวาระสุดท้ายใช่จะมาถึงเพราะผู้คน
เป็นคนเลว แต่เป็นเพราะพระเจ้าทรงสร้างโลกโดยรู้ว่า สักวันหนึ่งโลกก็จะถึงกาลอวสาน

โลกจะถึงกาลอวสาน ไม่ว่าโลกจะมีมนุษย์ หรือไม่มีมนุษย์ แต่ทุกปัญหาและความทุกขเวทนาที่มาพร้อมกับวาระสุดท้าย คือ บาปของมนุษยชาตินั้น ล้วนแต่จะนำความทุกข์เหล่านั้นมาสู่โลก

ทุกคนที่ยอมรับความรักของเรา และสำนึกเสียใจที่ได้ทำบาปทั้งหมด จะได้รับการอภัยบาปจนหมดสิ้น และเราจะรักพวกเขามากทีเดียว แต่บรรดาผู้ที่ไม่ยอมสำนึกเสียใจที่ได้ทำบาป ก็จะเก็บบาปเหล่านั้นไว้เป็นตำหนิบนวิญญาณของพวกเขา และเราจะแสดงความขัดเคืองใจให้พวกเขาเห็น

นั่นคือเหตุผลที่เมื่อเรากลับมาในวันพิพากษา เราจะมาตัดสินคนที่ไม่ยอมสำนึกผิดเสียก่อน และ
พวกเขาจะทุกข์ใจอย่างหนัก แต่จะมาเศร้าโศกเอาตอนนั้นก็สายเกินการแล้ว และเราจะเทภัยพิบัติ
ใส่พวกเขา ความโกรธของเราต่อพวกเขาจะรุนแรง ทูตสวรรค์ทั้งเจ็ดของเราจะเป็นผู้นำไปยังทั้งสี่
ทิศของแผ่นดินโลก บรรดาทูตสวรรค์ของเราจะนำความโกรธของเราไปเยือนทุกผู้คนที่ได้ปฏิเสธที่จะสำนึกในบาปของตน และที่นั่นจะมีความทุกข์ทรมานและความยากลำบากอย่างใหญ่หลวง แต่เพราะความยากลำบากที่คนบาปได้รับ จะทำให้พวกเขาโกรธเคืองลูกๆของเราที่เชื่อในเราในวัน
เหล่านั้น คนบาปก็จะข่มเหงผู้ที่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า และจะขับไล่ลูกๆของเราออกจากสถานนมัสการ ของพวกเขา และปราบพวกเขาในท้องถนน แต่เราขอแนะนำลูกๆของเรา ไม่ว่าพวกเขาจะถูกโจมตี หรือทุกข์ทรมานขนาดไหน ก็จงอย่าปฏิเสธเรา...เราจะอยู่กับพวกเขาเสมอในยามที่พวกเขากลัดกลุ้มทรมาน

สิ่งต่างๆในโลกจะยิ่งเลวร้ายเพราะบรรดาผู้ที่ไม่ยอมกลับใจ หัวใจมนุษย์จะยิ่งมืดบอดมองไม่เห็น
ความจริงของพระเจ้าว่า กองทัพปีศาจจะเคลื่อนกำลังพลไปทั่วโลก หลายคนจะอ้างตัวเป็นเรา พระเยซูเจ้า พวกเขาจะรับปากว่าจะขจัดความเดือดร้อนลำเค็ญและปัดเป่าความทุกข์ให้หมดสิ้นไป จงระวังพวกปีศาจเหล่านี้ให้ดี เพราะความต้องการอย่างเดียวของพวกมันก็คือล่อลวงมนุษย์ไปในทางชั่ว
แก้ไขล่าสุดโดย reccanohono เมื่อ ศุกร์ มี.ค. 09, 2012 10:34 am, แก้ไขไปแล้ว 3 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
reccanohono
โพสต์: 1045
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
ที่อยู่: thailand

ศุกร์ มี.ค. 09, 2012 8:55 am

ทำอย่างไรเราถึงจะมองออกว่าพวกนี้เป็นปีศาจ แล้วเราจะรอดจากการต่อสู้ที่ยากลำบากดังกล่าวได้อย่างไรใน วาระสุดท้าย

เมื่อลูกได้ยินคนอ้างตัวว่าเป็นเรา หรือแอบอ้างนามของเรา แต่ใช้คำพูดที่ขัดแย้งกับสิ่งที่เราได้กล่าวไว้ในพระคัมภีร์ ลูกก็จะรู้เองว่าพวกเขาเป็นปีศาจที่กำลังพยายามชักนำลูกออกไปจากความสว่างของพระเจ้า เพื่อปราบกองกำลังเหล่านี้ ผู้คนทั้งหลายจะต้องอธิษฐานภาวนา สารภาพบาป และสำนึกผิด

จงบอกกับทุกคนในโลกว่า นับจากวันนี้เป็นต้นไป พวกเขาต้องทำพลีกรรม เนื่องจากเหลือเวลาอีกไม่มากแล้วก่อนซาตานจะปรากฏตัวบนโลกเพื่อทดสอบมนุษย์ในเรื่องวิถีทางของความชอบธรรม

จงบอกให้ทุกคนอ่านพระคัมภีร์และค้นหาถ้อยคำของเรา บอกพวกเขาให้เชื่อทุกถ้อยคำที่เราเคย
กล่าวไว้และปฏิบัติตามถ้อยคำเหล่านั้น วาระสุดท้ายมีอยู่สองส่วน และมีสองความหมาย

ความหมายแรกเกี่ยวข้องกับวิญญาณของแต่ละคน สำหรับแต่ละคน วาระสุดท้ายคือวันตายของตัวเขาเอง

ส่วนวาระสุดท้ายสำหรับมนุษยชาติจะเป็นวันที่เรากลับมาครั้งที่สอง เมื่อหมดวันแต่ละวัน แต่ละคนก็ยิ่งใกล้วันพบพระเจ้าเข้าไปอีกหนึ่งวัน


ถ้าลูกหวาดกลัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวาระสุดท้าย แล้วทุกคนจะไม่ตระหนกตกใจกันหมดหรือ
อย่ากลัว แต่จงมีความเชื่อ! ผู้ที่รักพระเจ้าและกระทำความดีก็จะไปสวรรค์กับเราและไม่ถูกล่อลวง
อีกเลย แต่จงเร่งมือเข้าเถิด เพราะเวลาเหลือน้อยเต็มที

จงบอกกับทุกคนว่า ถ้าพวกเขามีเราอยู่ในหัวใจของพวกเขา พวกเขาก็ไม่ต้องกลัวว่าจะทุกข์ทรมาน
ในวาระสุดท้าย แต่พวกเขาต้องซื่อสัตย์มั่นคงต่อพระเจ้า และจงระมัดระวังเล่ห์เหลี่ยมและกลอุบายมากมายที่ซาตานใช้เพื่อชักนำพวกเขาให้ตกอยู่ในบาปและความมืด ในวันนั้น ซาตานจะมาโอ้อวดว่าเขาเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ เขาสามารถขจัดปัญหาภัยแล้ง ป้องกันน้ำท่วม และ รักษาคนที่เจ็บไข้ได้ป่วยเป็นล้านๆ เขาอาจจะทำการอัศจรรย์ เขาจะคุยโวโอ้อวดสิ่งดีๆที่เขากระทำและผู้คนในโลกจะแห่กันไปหาเขาและเรียกเขาว่าพระคริสต์...แต่เขาไม่ใช่พระคริสต์ เขาคือซาตาน
ที่ปลอมตัวมา เขาจะอ้างว่าเขาจะทำในสิ่งที่พระคริสต์เคยทำมาแล้ว คือ การรักษาผู้ป่วยและการ
ให้อาหารแก่ผู้หิวโหย แต่เขาโกหก เขาอาจจะทำให้คนจำนวนมากพิศวงงงงวยกับอัศจรรย์ลวงโลก
เขาอาจจะรักษาบางคนที่กำลังป่วยและให้อาหารบางคนที่กำลังหิวโหย - แต่อัศจรรย์ต่างๆของเขา
คือกับดักที่ทำให้หัวใจและวิญญาณของมนุษย์ตกหลุมพราง

ในช่วงวาระสุดท้าย ซาตานจะทำทุกวิถีทางเพื่อหันเหความสนใจของผู้คนไปจากความจริงของเรา
และจะชักนำ​​มวลมนุษย์ให้ละทิ้งทางสวรรค์ บางคนจะทำงานให้ซาตานในวันเหล่านั้นและพยายาม
ทำให้คนอื่นๆสับสนด้วยการบอกพวกเขาว่า ความแตกต่างระหว่างพระเจ้าและซาตานล้วนไม่ใช่เรื่องสำคัญ บอกว่าพระเจ้าและซาตานเป็นพี่น้องกัน และปัญหาที่เคยมีในสวรรค์เป็นแค่เรื่องภายในครอบครัวที่ไม่เกี่ยวกับมนุษย์ จงอย่าหลงเชื่อ! พระเจ้าเป็นพระผู้ทรงสรรพานุภาพและพระองค์ไม่มีน้องชาย...จงเชื่อในพระวาจาของพระเจ้าตามที่ลูกอ่านพบในพระคัมภีร์เถิด

อย่าไปไว้เนื้อเชื่อใจใครที่อ้างตัวเป็นพระเยซู หรือบอกว่าเขาคือพระคริสต์ที่กลับมาอีกครั้งหนึ่ง ใครก็ตามที่อ้างแบบนี้เป็นคนโกหก หลายคนจะประโคมข่าวลือว่าพระคริสต์เสด็จมาและจะชี้ไปยังคนที่
อ้างตัวเป็นเรา ... อย่าไปกราบไหว้บูชาพวกเขา จงซื่อสัตย์ต่อเรา และเรียกหาเราในคำภาวนา ไม่ว่าลูกอยู่ที่ไหน เราก็จะมาพบลูก

ถ้าเราดำเนินอยู่ในหมู่มนุษย์ เราจะไม่ทำเอิกเกริกหรือโอ้อวดเช่นนั้น เราจะซุ่มรักษาคนป่วย คืนสายตาให้แก่คนตาบอด และให้คนหูหนวกได้ยิน เราจะเลี้ยงดูชนชาติทั้งหลายโดยไม่หวังคำชมเชยยกย่อง เราจะเดินทางผ่านโลกโดยไม่มีใครสังเกตเห็นและให้ความสนใจกับผู้ที่ยังคงซื่อสัตย์ต่อเรา
จงภาวนาวอนขอเรา และจงมั่นใจในเราเถิด แล้วเราจะมาพบลูก ทุกหนแห่งที่ลูกอยู่ ถ้าหากลูกอยู่บนยอดเขา เราจะออกค้นหาลูก หากลูกอยู่ภายใต้สะพาน เราก็จะหาลูกจนพบ จงร้องหาเรา
เพื่อขอพละกำลังและความกล้าหาญเมื่อยุคมืดมาถึง แล้วเราจะมอบพละกำลังให้

จะมีอัศจรรย์เท็จเทียมมากมาย แต่อย่าไปหลงเชื่อ เพราะสิ่งเหล่านี้จะไม่ได้มาจากพระเจ้าในวาระสุดท้าย อัศจรรย์ใดๆที่มาจากเรา จะเป็นอัศจรรย์ด้านจิตใจ เมื่อเรามา เราจะใส่ความรักลงในจิตใจของชาย-หญิงที่มีความซื่อสัตย์ต่อเรา ทุกหนทุกแห่งในโลก ผู้คนจะเริ่มฝันถึงเรา และพวกเขาจะเต็มเปี่ยมด้วยพระจิตเจ้า แต่คนบาปจะไม่ได้รับพระจิตเจ้า และพวกเขาจะแสวงหาปีศาจที่อ้างว่าเป็นตัวแทนของพระเจ้า

ซาตานจะมายังประเทศที่ประสบภาวะอดอยากกันดาร พร้อมกับอาหารจำนวนมากมาย แต่เขาจะ
มุ่งหวังให้คนกราบไหว้บูชาเป็นการตอบแทน อาหารที่ลูกจะรับมาจากเขาเพื่อประทังชีวิตฝ่ายกาย
นั้น ไม่ใช่อาหารที่หล่อเลี้ยงวิญญาณของลูก และจะมีพิษภัยต่อวิญญาณลูก - จงอย่ารับมันมา อย่า
กินอาหารนั้น อาหารดังกล่าวจะทำให้จิตใจคนบอดมืด มองไม่เห็นความจริงและความรักของพระเจ้า และมันจะกระตุ้นความโลภโมโทสันของมนุษย์และหว่านความเกลียดชังลงในหัวใจของ
มนุษย์ มันจะทำให้ชนชาติหนึ่งต่อสู้กับอีกชนชาติหนึ่ง และทำให้คนละแวกเดียวกันต่อสู้กันเอง
จงยอมอด ดีกว่ากราบไหว้พระเจ้าเท็จเทียม หากลูกหิวจนแสบท้อง ก็อย่าไปหาอาหารบำรุงกำลัง
จากคนที่สั่งให้กราบไหว้บูชา - จงภาวนาวอนขอเรา และเราจะค้ำจุนลูกไว้
แก้ไขล่าสุดโดย reccanohono เมื่อ ศุกร์ มี.ค. 09, 2012 10:36 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
reccanohono
โพสต์: 1045
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
ที่อยู่: thailand

ศุกร์ มี.ค. 09, 2012 8:56 am

พระเจ้าข้า ที่พระองค์ตรัสว่าจะมีความทุกข์ยากมากมายในช่วงวาระสุดท้าย และจะมีปีศาจจำนวนมากที่พยายามหลอกลวงมนุษย์ไปสู่ทางบาปชั่วและความพินาศ -พระองค์จะปกป้องผู้ที่รักพระองค์และทำงานรับใช้พระองค์อย่างซื่อสัตย์ทั้งชีวิต แต่ตกหลุมพรางของปีศาจในวาระสุดท้ายนั้นอย่างไร แล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับคนที่ทำความดีมาตลอด แต่ถูกซาตานทำให้เขาเสียคนในบั้นปลายชีวิต ดูเหมือนจะไม่ยุติธรรมถ้าหากคนที่เป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าจะต้องถูกตัดสิทธิ์ในสวรรค์ไปตลอดกาล เมื่อเขาก้าวพลาดไปในบั้นปลายชีวิต

เราคือพระผู้ทรงสรรพานุภาพ และเรามีอำนาจที่จะมองเข้าไปในหัวใจมนุษย์ เราจะมองเข้าไปในหัวใจของทุกคนในวันพิพากษา เพื่อดูว่าพวกเขาเป็นคนมีความเชื่อจริงใจที่เสียทีในสงครามระหว่าง พระเจ้าและซาตานในวาระสุดท้ายหรือไม่ ... หากพวกเขาเป็นคนมีความเชื่อที่จริงใจจนถึงที่สุด เราจะช่วยเขาให้รอด
ภาพประจำตัวสมาชิก
reccanohono
โพสต์: 1045
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
ที่อยู่: thailand

ศุกร์ มี.ค. 09, 2012 8:56 am

แล้วคนที่ทำความผิด แล้วก็ไม่ยอมให้พระองค์เข้าไปอยู่ในหัวใจพวกเขาตลอดทั้งชีวิต แต่ไม่เคยร่วมมือกับปีศาจ ทำสงครามกับพระเจ้าในช่วงวาระสุดท้ายนั้นเล่า พวกเขาจะได้ไปสวรรค์หรือไม่

คนเหล่านั้นทำงานให้กับซาตานมาทั้งชีวิต ไม่ได้ทำงานรับใช้พระเจ้า และพวกเขาไม่มีที่ทางใน
สวรรค์ จะสายเกินไปสำหรับคนเช่นนั้น การที่ใครบางคนไม่ได้ทำงานรับใช้ซาตานในวาระสุดท้าย
ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาได้กลับใจมาหาพระเจ้าแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
reccanohono
โพสต์: 1045
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
ที่อยู่: thailand

ศุกร์ มี.ค. 09, 2012 8:57 am

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อถึงวาระสุดท้าย

ในวาระสุดท้าย แผ่นดินโลกจะสั่นสะเทือน และคนชอบธรรมจะชื่นชมยินดีเป็นล้นพ้น สายรุ้งหลากสีสันขนาดใหญ่จะพาดขวางท้องฟ้า และเมฆขาวจะก่อตัวขึ้นในชั้นฟ้า ในขณะนั้นเอง ลูกจะเห็นเราแบกกางเขนออกมาจากก้อนเมฆ เราจะส่งทูตสวรรค์ทั้งหมดไปทั่วโลกเพื่อรวบรวมผู้คนในทุกส่วนของโลก กางเขนของเราจะทำให้ทั้งคนดีและคนชั่วตัวสั่นงันงก จากนั้น เราจะตัดสินวิญญาณทั้งหมดที่มาอยู่ตรงหน้าเรา ว่าใครที่ได้ทำงานรับใช้พระเจ้าอย่างซื่อสัตย์ และใครที่ไม่ได้ทำ และเราจะกำหนดสถานที่ที่พวกเขาสมควรได้รับชั่วนิรันดร์ ให้พวกเขาแต่ละคน

ความทุกข์ของวาระสุดท้ายจะยุติลง และการต่อสู้ชีวิตบนโลกจะจบสิ้นไปตลอดกาล ไม่มีใครจะต้อง
สำนึกเสียใจอีกต่อไป เพราะสำหรับคนชอบธรรมที่สำนึกเสียใจมาทั้งชีวิตนั้น ถึงเวลาที่เขาจะชื่นชม
ยินดีในสวรรค์แล้ว และสำหรับคนชั่ว ก็จะสายเกินไปที่จะมาสำนึกเสียใจ วิญญาณไม่มีวันตาย และวิญญาณทั้งหมดล้วนเป็นของพระเจ้า ในวาระสุดท้าย วิญญาณผู้ที่สมควรได้รับที่ทางในอาณาจักรของพระเจ้าจะลาโลกไปตัวเปล่า บรรดาผู้ที่ปฏิเสธพระเจ้าและได้รับการตัดสินให้เป็นคนบาปที่ไม่สำนึกผิดก็จะลงนรกเพื่อรับความตายนิรันดร บรรดาผู้ที่ได้รักและรับใช้พระเจ้าจะขึ้นสวรรค์ เพื่อใช้ชีวิตนิรันดร์ในสวรรค์

หลังจากที่วิญญาณผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกไว้ทั้งหมด ได้รับการนำทางเข้าสู่สวรรค์แล้ว ไฟกัลป์จะปะทุขึ้นมาจากแกนโลก แล้วโลกก็จะถูกเปลวไฟเผาทำลาย และทุกคนที่ปฏิเสธพระเจ้าและไม่ยอมเชื่อในพระเจ้า จะถูกเผาอยู่ในกองไฟนั้น
แก้ไขล่าสุดโดย reccanohono เมื่อ ศุกร์ มี.ค. 09, 2012 10:38 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
reccanohono
โพสต์: 1045
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
ที่อยู่: thailand

ศุกร์ มี.ค. 09, 2012 8:57 am

ยังมีวิญญาณในไฟชำระ ที่กำลังเดินทางไปสวรรค์ หลังจากวาระสุดท้ายหรือไม่

พอถึงวันสิ้นโลก จะไม่มีไฟชำระอีกต่อไป ไฟชำระนั้นมีไว้สำหรับผู้ที่เป็นคนดีตอนมีชีวิตอยู่แต่ตาย
ไปขณะที่วิญญาณมีบาปอยู่ไม่มากนัก และพวกเขาต้องรับการชำระเสียก่อนที่จะเข้าสวรรค์

แต่ ความทุกข์ทรมานทั้งหมดที่คนดีๆเหล่านั้นจะตรากตรำในช่วงวาระสุดท้าย จะเพียงพอที่จะชำระ วิญญาณของพวกเขาแล้ว และพวกเขาจะเข้าสวรรค์ทันที ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีไฟชำระ หลังจากวันพิพากษา วิญญาณทั้งหมดจะอยู่ในสวรรค์ หรือไม่ก็อยู่ในนรกตลอดนิรันดร์
แก้ไขล่าสุดโดย reccanohono เมื่อ ศุกร์ มี.ค. 09, 2012 10:43 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
reccanohono
โพสต์: 1045
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
ที่อยู่: thailand

ศุกร์ มี.ค. 09, 2012 8:58 am


ทำไมพระองค์ไม่บอกให้ผู้คนรู้ไปเลยว่าจะถึงกำหนดวันพิพากษาเมื่อไหร่ พวกเขาจะได้กลับใจเสียตอนนี้ และ มั่นใจว่าจะได้เข้าสวรรค์


อย่างแรก เราไม่รู้เรื่องวันเวลา มีแต่พระบิดาเจ้าเท่านั้นที่ทรงรู้กำหนดวันสิ้นโลก

แต่ถ้าเรารู้กำหนดวาระสุดท้าย เราก็จะไม่บอกชาวโลก ถ้าคนเรารู้กำหนดวันสิ้นโลก พวกเขาก็จะกลับใจ เพราะความกลัว ไม่ใช่เพราะรักพระเจ้า สวรรค์เป็นของผู้ที่รักพระเจ้าอย่างจริงใจเท่านั้น

แต่ที่สำคัญ เราไม่ควรหมกมุ่นกับวาระสุดท้ายของโลก สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้คนในโลกที่ควรจะใส่ใจก็คือวาระสุดท้ายของตัวเขาแต่ละคน เพราะวาระสุดท้ายเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และคนเราต้องแน่ใจว่า
วิญญาณของพวกเขาพร้อมที่จะพบพระเจ้าแล้ว สำหรับผู้ที่ตายในบาปจะกลับคืนชีพโดยที่มีบาปติดตัว ... ส่วนผู้ที่ตายโดยไม่มีบาปก็จะฟื้นคืนชีพโดยปราศจากบาปใดๆ
* * * * * * *
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ มี.ค. 11, 2012 10:03 am

มีประวัติเขาอยู่ที่นี่

viewtopic.php?f=35&t=3116#p44506


ปล.ได้ทำการแก้ไขกระทู้นี้ให้อ่านง่ายขึ้น
PeterCartoon
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ค. 03, 2006 12:17 pm

อาทิตย์ มี.ค. 11, 2012 11:17 am

อ่านแล้วรู้สึกดีมากจริง ๆ ขอบคุณมากนะครับ...ขอพระเจ้าอวยพร.. :s007:
s.gabriel
โพสต์: 1011
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 2:21 pm

อาทิตย์ มี.ค. 11, 2012 11:20 am

หนังสือมีเนื้อหาเยอะกว่านี้มั้ยครับ หรือคัดลอกมาให้อ่านแค่บางส่วนครับ ขอบคุณครับ
littleseal
โพสต์: 1029
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm

อาทิตย์ มี.ค. 11, 2012 2:40 pm

อยากอ่านเพิ่มเลยค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

อาทิตย์ มี.ค. 11, 2012 9:08 pm

ขอโทษนะ แต่ถึงจะบอกว่าไม่อยากให้กลับใจเพราะความกลัว อยากให้กลับใจเพราะความรัก

แต่ไอ้ที่กลัวมันก็กลัวอยู่ดีนี่ฝ่า......

โทษที เรานี่แปลกนะ สิ่งที่คนอื่นอ่านแล้วรู้สึกดี ทำไมเราถึงไม่รู้สึกดีด้วยเท่าไหร่นะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ มี.ค. 12, 2012 2:47 am

s.gabriel เขียน:หนังสือมีเนื้อหาเยอะกว่านี้มั้ยครับ หรือคัดลอกมาให้อ่านแค่บางส่วนครับ ขอบคุณครับ
อันนี้น่าจะตัดบางส่วนมานะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
reccanohono
โพสต์: 1045
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
ที่อยู่: thailand

จันทร์ มี.ค. 12, 2012 8:05 am

Holy เขียน:มีประวัติเขาอยู่ที่นี่

viewtopic.php?f=35&t=3116#p44506


ปล.ได้ทำการแก้ไขกระทู้นี้ให้อ่านง่ายขึ้น
ขอบคุณค่ะ :s007: :s007:
syaoran
โพสต์: 267
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 06, 2009 8:42 pm
ที่อยู่: นครสวรรค์
ติดต่อ:

อังคาร มี.ค. 13, 2012 3:59 pm

เอ็มมานูเอล เซเกทัชเชีย เด็กหนุ่มผู้ได้พบพระเยซูเจ้า
คำตอบ
มีมนุษย์อีกกลุ่มหนึ่งที่ติดตามพระเจ้า และพวกเขาได้รับพระพรและสติปัญญาจากพระองค์ จึงได้รู้เท่าทันกลเกมต่างๆของซาตานและสมุนของมันไม่ว่าจะมาในรูปแบบใด พระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทรงสถิตอยู่ด้วยกับผู้ที่เชื่อและวางใจในพระเจ้าอย่างสุดหัวใจ จะทำให้พวกเขามองภาพต่างๆออกและเข้าใจถึงที่มาที่ไป แล้วจึงได้นำมาเปิดเผยนี่เอง

สุภาษิต 2:6-12
6 เพราะพระเยโฮวาห์ทรงประทานปัญญา ความรู้และความเข้าใจมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์
7 พระองค์ทรงสะสมสติปัญญาไว้ให้คนชอบธรรม พระองค์ทรงเป็นโล่ให้แก่ผู้ที่ดำเนินในความเที่ยงธรรม
8 พระองค์ทรงรักษาระวังวิถีของความยุติธรรม และทรงสงวนทางของวิสุทธิชนของพระองค์ไว้
9 แล้วเจ้าจะเข้าใจความชอบธรรมและความยุติธรรม และความเที่ยงตรง คือวิถีที่ดีทุกสาย
10 เมื่อปัญญาจะเข้ามาในใจของเจ้า และความรู้จะเป็นที่ร่มรื่นแก่จิตใจของเจ้า
11 ความเฉลียวฉลาดจะคอยเฝ้าเจ้า และความเข้าใจจะระแวดระวังเจ้าไว้
12 เพื่อช่วยเจ้าให้พ้นจากทางแห่งคนชั่วร้าย จากคนที่พูดตลบตะแลง

สุดท้ายแล้วนั้น ซาตานและบรรดาลูกสมุน
คือผีร้ายวิญญาณชั่วต่างๆ รวมทั้งมนุษย์ผู้ที่ติดกับดักการล่อลวงของมัน
ทั้งได้ติดตามมันและนมัสการมันนั้น ก็จะถูกทิ้งลงไปในบึงไฟนรก

"....ส่วนพญามารที่ล่อลวงเขาเหล่านั้น
ก็ถูกโยนลงไปในบึงไฟและกำมะถัน
ที่สัตว์ร้ายและผู้พยากรณ์เท็จอยู่นั้น
และมันต้องทนทุกข์ทรมานทั้งกลางวัน
และกลางคืนตลอดไปเป็นนิตย์ "
วิวรณ์ 20:10

"...ผู้ที่ตายแล้ว ทั้งผู้ใหญ่และผู้น้อย
ยืนอยู่จำเพาะพระพักตร์พระเจ้า
และหนังสือต่างๆก็เปิดออก หนังสืออีกม้วนหนึ่งก็เปิดออกด้วย
คือหนังสือแห่งชีวิต
และผู้ที่ตายไปแล้วก็ถูกพิพากษาตามข้อความที่จารึกไว้ในหนังสือเหล่านั้น ตามที่เขาได้กระทำ..
และผู้ใดที่ไม่มีชื่อจดไว้ในหนังสือแห่งชีวิต
ผู้นั้นก็ถูกทิ้งลงไปในบึงไฟ"
วิวรณ์ 20:12-15


**ผู้เรียบเรียงมีความหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เนื้อหาสาระเหล่านี้น่าจะเพียงพอที่จะเปิดมุมมองใหม่ให้ท่านผู้ที่เปิดเข้ามาอ่านได้เข้าใจ และเป็นข้อมูลพื้นฐานในการตัดสินใจเลือกทางเดินที่ถูกต้องให้กับชีวิตของตนเองได้ ขอพระเจ้าพระเยซูคริสต์ช่วยท่านให้รอดจากบ่วงมารด้วยเถิด....^_^
ลองไปกันที่อ่านเจอมาพอดีเลย:

ลิงค์ที่นำมาลงมีส่วนใส่ความคาทอลิกจึงลบออก(ผู้ดูแลบอร์ด)
ตอบกลับโพส