วันนี้ได้ไปร่วมมิสซาที่วัดดวงหทัยนิรมลของแม่พระเป็นวัดในเขต3 มีแลกเปลื่ยนพระสงฆ์ทำมิสซาในช่วง
มหาพรต วันนี้คุณพ่อบุญเสริมมาทำมิสซา เปลื่ยนกับคุณพ่อสุขุม ขอแบ่งปันบทเทศน์ ตอนหนึ่ง
...คุณพ่อเล่าว่า โทมัสมอร์(ส่วนตัวเราเองนะไม่รู้ว่าโทมัสมอร์เป็นใคร คุณพ่อเทศน์ก็ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร)
มีญาติเป็นคริสต์ แต่ก็ได้ทิ้งวัดโทมัสมอร์ก็เรียกญาติคนนี้ให้กลับใจ ญาติก็ไม่กลับใจ และบอกว่าใกล้ตายก่อนค่อย
กลับใจพระเยซูใจดี ดูโจรที่ข้างกางเขนซิแค่บอกว่า "พระองค์เมตตาลูกด้วย" พระองค์ก็ยกโทษให้และบอกว่าวันนี้เจ้า
จะอยู่กับเราในสวรรค์ แล้วเขาก็ไม่กลับใจ ต่อมาเขาก็พบกับโทมัสมอร์อีกและโทมัสมอร์ก็เรียกให้กลับใจ
คำตอบก็คือใกล้ตายก่อนค่อยกลับใจ แค่พูดว่า "พระองค์เมตตาลูกด้วย" พระองค์ใจดี และเขาก็ไม่กลับใจเหมือนเดิม
...ต่อมาวันหนึ่งญาติคนนี้ได้ขี่ม้าข้ามสะพาน ม้าเป็นอะไรไม่รู้ได้พยศสะบัดเขาตกลงไปในลำธารข้างล่าง เขาจมน้ำตะเกียกตะกาย พยายามโผล่ขึ้นมาจากน้ำ เขาโมโหม้าที่สะบัดเขาตก คำที่เขาพูดเป็นครั้งสุดท้ายด่าม้าคือ
"ไปลงนรกซะ"แล้วเขาก็จมน้ำตาย ไม่มีเวลาที่จะขอโทษพระองค์........
ดังนั้นเราต้องกลับใจตลอดเวลา พระจะเรียกไปเมื่อไรไม่รู้ จะมากลับใจใกล้ตายไม่ทันแน่ๆ
ขอแบ่งปันเท่านี้ค่ะ.....
(คนที่ไม่คิดถึงพระเลยเมื่อต้องตายกระทันหันเขาอาจจะลืมคิดถึงพระในตอนนั้นก็ได้ ถ้าไม่มีใครเตือนในเวลานั้น)
คอยตอนใกล้ตายก่อนแล้วค่อยกลับใจ
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
Just as I thought
- reccanohono
- โพสต์: 1045
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
- ที่อยู่: thailand
เพิ่มเติมอีกช่วงค่ะ คุณพ่อท่านน่าจะได้เคยดูหนังเรื่อง In Time มาแน่ๆ
เพราะท่านพูดถึงในช่วงนึงที่ว่า ทุกคนจะมีเวลาเท่ากัน เมื่อเวลาหมดก็จะตายลง
ดังนั้นใครที่รวยและมีเงินมากก็จะสามารถซื้อเวลาได้เพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อ
ส่วนพวกคนจนหรือนักเลง ก็จะคอยแต่จะไปปล้นเวลาคนอื่น เพราะตนเองก็ไม่อยากตาย
คนที่มีชีวิตสุจริตทั่วๆไป ก็จะทำงานเพื่อแลกกับเวลาให้มีชีวิตต่อไป
แต่สำหรับพวกเราไม่มีกำหนดเวลาบอก พระจะเรียกไปเมื่อไรก็ไม่รู้เหมือนดังตัวอย่างข้างบน
ดังนั้นเราควรกลับใจเสียแต่ตอนนี้ และควรกลับใจบ่อยๆ โดนเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเทศกาลมหาพรตนี้
ขอแบ่งปันเรื่องส่วนตัวอีกนิดค่ะ หลังจากจบมิสซา นักขับร้องก็ร้องเพลงหนึ่งขึ้นมา
ทำให้เรารู้ว่า บางครั้งแม้เราจะเจอปัญหามากมาย ละเรารู้สึกเดียวดายเหมือนไม่เหลือใครเลย
อย่าคิดว่าพระองค์ทอดทิ้งเรา พระองค์อยู่กับเราเสมอจริงๆ
เพราะท่านพูดถึงในช่วงนึงที่ว่า ทุกคนจะมีเวลาเท่ากัน เมื่อเวลาหมดก็จะตายลง
ดังนั้นใครที่รวยและมีเงินมากก็จะสามารถซื้อเวลาได้เพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อ
ส่วนพวกคนจนหรือนักเลง ก็จะคอยแต่จะไปปล้นเวลาคนอื่น เพราะตนเองก็ไม่อยากตาย
คนที่มีชีวิตสุจริตทั่วๆไป ก็จะทำงานเพื่อแลกกับเวลาให้มีชีวิตต่อไป
แต่สำหรับพวกเราไม่มีกำหนดเวลาบอก พระจะเรียกไปเมื่อไรก็ไม่รู้เหมือนดังตัวอย่างข้างบน
ดังนั้นเราควรกลับใจเสียแต่ตอนนี้ และควรกลับใจบ่อยๆ โดนเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเทศกาลมหาพรตนี้
ขอแบ่งปันเรื่องส่วนตัวอีกนิดค่ะ หลังจากจบมิสซา นักขับร้องก็ร้องเพลงหนึ่งขึ้นมา
ทำให้เรารู้ว่า บางครั้งแม้เราจะเจอปัญหามากมาย ละเรารู้สึกเดียวดายเหมือนไม่เหลือใครเลย
อย่าคิดว่าพระองค์ทอดทิ้งเรา พระองค์อยู่กับเราเสมอจริงๆ
ท่านเป็นมรณสักขี สมัย กษัตริย์เฮนรี่ที่8แห่งอังกฤษครับrosa-lee เขียน: ...คุณพ่อเล่าว่า โทมัสมอร์(ส่วนตัวเราเองนะไม่รู้ว่าโทมัสมอร์เป็นใคร คุณพ่อเทศน์ก็ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร)
ท่านมีงานเขียนที่ดังไปทั่วโลกชื่อว่า "ยูโทเปีย"
ท่านได้รัีบการแต่งตั้งเป็นนีกบุญเมื่อ 1931 นี้เองครับ
ประวัติของท่าน
viewtopic.php?f=20&t=14428&p=208973#p208973