แม่จะให้เข้าวัดพุทธไปปฏิบัติธรรมถ้าเอ็นท์ติด!!

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
khim_kha
โพสต์: 17
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 13, 2011 12:31 pm

พุธ เม.ย. 11, 2012 10:15 am

หนูมีปัญหาอีกแล้ว พี่ๆบางคนคงจะจำหนูได้ ที่หนูเคยมาขอความช่วยเหลือครั้งก่อนๆค่ะ
คราวนี้ หนูกำลังเข้าสู่ช่วงเอ็นทราน แม่บอกว่าถ้าหนูติดอันดับหนึ่งที่เลือกไว้
หนูจะต้องเข้าไปปฏิบัติธรรมในวัดป่า ต่างจังหวัด แล้วหนูไม่ยอม แม่ขอให้พูดมาว่าคำเดียวแล้วจะติดแน่นอน
แม่เล่าว่าตอนพี่สาวสอบเข้าทำงานในที่ๆหนึ่ง จริงๆมีเส้นไว้แล้ว พี่เขยแกล้งเปรยว่า ถ้าสอบได้จะมาวิ่งขึ้นเขาหลายกม.ให้เสด็จเตี่ย(กรมหลวงชุมพรฯ)ใช่มั้ย พี่สาวบอกไม่ติดหรอกๆ แต่ไม่ได้บน
พอติด ผีสาวก็ฝันว่าเขามาเรียกให้ไปวิ่งแก้บน พี่สาวบอกไม่ได้บนๆ แต่สุดท้ายก็ต้องไปวิ่งเพราะแม่สั่ง
แม่บอกว่า เขาให้ แล้วเราก็ต้องวิ่ง(มีอย่างงี้ด้วย?)
แล้วถ้าคราวนี้หนุติดแต่หนูยืนยันหนักแน่นว่าไม่เข้าวัดๆ แล้วจะมีใครมาทวงหนูมั้ย หนูกลัวมากเลย
ก่อนคะแนนสอบแกทแพทรอบสุดท้ายจะออก หนูภาวนาทั้งคืน รู้ว่าตัวเองทำไม่ค่อยได้ แต่ขอให้คะแนนมันดีขึ้นกว่ารอบแรก เที่ยงๆวันรุ่งขึ้นเปิดดูคะแนน คะแนนหนูขึ้นหมดเลย ยกเว้นพาร์ทเชื่อมโยงในแกท
มันเป็นพาร์ทที่ต้องใช้สมาธิ แล้วหนูไปทำข้อสอบแบบง่วงนอนมาก หนูยอมรับเลยว่าพลาด :s015:
แต่วิชชาที่เหลือหนูดีขึ้นหมดเลย แม้ว่าพาร์ทเชื่อมโยงจะดึงคะแนนหนู แต่หนูไม่โทษใคร หนูผิดเอง
แล้วหนูก็ยังขอบพระคุณพระองค์ที่ให้หนูมากขนาดนี้
ซึ่งพอแม่บอกให้หนูไปวัดทางพุทธ หนูเครียดมากเลย หนูไม่ไปแม่ก็โกรธ หนูไม่รู้จะทำยังไง
แม่พยายามพูดเกี่ยวกับการเวียนว่ายตายเกิด วันนึงถ้าเราเป็นคนไม่ดี ชาติหน้าจะเกิดมาเป็นหมา(แสดงว่าหมานี่เคยเป็นคนชั่วมากก่อนหรอ?) และหนูก็ถามว่าคนอีกทั้งโลกไม่ได้เป็นพุทธนะ
บางคนเดี๋ยวนี้ไม่มีศาสนา ทุกศาสนาสอนให้เราทำความดีไม่ใช่หรอ แล้วที่หนูทำหนูไม่ได้งมงายด้วย
แม่ก็ทำท่าเคืองๆ หนูไม่อยากให้เป็นแบบนี้ หนูเปลี่ยนความเชื่อแม่ไม่ได้ แต่หนูก็อยากให้แม่เข้าใจหนูบ้าง หนูรักแม่มาก แม่ก็รักหนูมาก เราสนิทกัน กลับไม่เข้าใจกัน เรื่องศรัทธานี้มันคือปัญหาเลยล่ะ
หนูเป็นคริสต์ไปหมดทั้งใจแล้ว แม้หนูยังไม่เคยไปรับเชื่อก็ตาม หนูอัดอั้นมากกับปัญหานี้ เพื่อนๆหนูบางคนก็เป็นพุทธเคร่งๆ หนูเลยไม่ปริปากบอกกับเพื่อนคนใดเลย หนูกลัวมากค่ะ
หนูกลัวจะมีใครมาทวงสัญญาที่หนูไม่ได้ทำเลย แล้วหนูกลัวว่าถ้าเป็นแบบนั้นเท่ากับว่าหนูจะทรยศพระองค์
หนูไม่ได้จะไปวัดพุทธนะ แต่ถ้าทางฝั่งนั้นเขาคิดอย่างงี้ละ หนูจะทำยังไงดีค่ะ
หนุอัดอั้น อยากขอคำแนะนำ
ขอบคุณนะคะ
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

พุธ เม.ย. 11, 2012 10:24 am

khim_kha เขียน:หนูมีปัญหาอีกแล้ว พี่ๆบางคนคงจะจำหนูได้ ที่หนูเคยมาขอความช่วยเหลือครั้งก่อนๆค่ะ
คราวนี้ หนูกำลังเข้าสู่ช่วงเอ็นทราน แม่บอกว่าถ้าหนูติดอันดับหนึ่งที่เลือกไว้
หนูจะต้องเข้าไปปฏิบัติธรรมในวัดป่า ต่างจังหวัด แล้วหนูไม่ยอม แม่ขอให้พูดมาว่าคำเดียวแล้วจะติดแน่นอน
แม่เล่าว่าตอนพี่สาวสอบเข้าทำงานในที่ๆหนึ่ง จริงๆมีเส้นไว้แล้ว พี่เขยแกล้งเปรยว่า ถ้าสอบได้จะมาวิ่งขึ้นเขาหลายกม.ให้เสด็จเตี่ย(กรมหลวงชุมพรฯ)ใช่มั้ย พี่สาวบอกไม่ติดหรอกๆ แต่ไม่ได้บน
พอติด ผีสาวก็ฝันว่าเขามาเรียกให้ไปวิ่งแก้บน พี่สาวบอกไม่ได้บนๆ แต่สุดท้ายก็ต้องไปวิ่งเพราะแม่สั่ง
แม่บอกว่า เขาให้ แล้วเราก็ต้องวิ่ง(มีอย่างงี้ด้วย?)
แล้วถ้าคราวนี้หนุติดแต่หนูยืนยันหนักแน่นว่าไม่เข้าวัดๆ แล้วจะมีใครมาทวงหนูมั้ย หนูกลัวมากเลย
ก่อนคะแนนสอบแกทแพทรอบสุดท้ายจะออก หนูภาวนาทั้งคืน รู้ว่าตัวเองทำไม่ค่อยได้ แต่ขอให้คะแนนมันดีขึ้นกว่ารอบแรก เที่ยงๆวันรุ่งขึ้นเปิดดูคะแนน คะแนนหนูขึ้นหมดเลย ยกเว้นพาร์ทเชื่อมโยงในแกท
มันเป็นพาร์ทที่ต้องใช้สมาธิ แล้วหนูไปทำข้อสอบแบบง่วงนอนมาก หนูยอมรับเลยว่าพลาด :s015:
แต่วิชชาที่เหลือหนูดีขึ้นหมดเลย แม้ว่าพาร์ทเชื่อมโยงจะดึงคะแนนหนู แต่หนูไม่โทษใคร หนูผิดเอง
แล้วหนูก็ยังขอบพระคุณพระองค์ที่ให้หนูมากขนาดนี้
ซึ่งพอแม่บอกให้หนูไปวัดทางพุทธ หนูเครียดมากเลย หนูไม่ไปแม่ก็โกรธ หนูไม่รู้จะทำยังไง
แม่พยายามพูดเกี่ยวกับการเวียนว่ายตายเกิด วันนึงถ้าเราเป็นคนไม่ดี ชาติหน้าจะเกิดมาเป็นหมา(แสดงว่าหมานี่เคยเป็นคนชั่วมากก่อนหรอ?) และหนูก็ถามว่าคนอีกทั้งโลกไม่ได้เป็นพุทธนะ
บางคนเดี๋ยวนี้ไม่มีศาสนา ทุกศาสนาสอนให้เราทำความดีไม่ใช่หรอ แล้วที่หนูทำหนูไม่ได้งมงายด้วย
แม่ก็ทำท่าเคืองๆ หนูไม่อยากให้เป็นแบบนี้ หนูเปลี่ยนความเชื่อแม่ไม่ได้ แต่หนูก็อยากให้แม่เข้าใจหนูบ้าง หนูรักแม่มาก แม่ก็รักหนูมาก เราสนิทกัน กลับไม่เข้าใจกัน เรื่องศรัทธานี้มันคือปัญหาเลยล่ะ
หนูเป็นคริสต์ไปหมดทั้งใจแล้ว แม้หนูยังไม่เคยไปรับเชื่อก็ตาม หนูอัดอั้นมากกับปัญหานี้ เพื่อนๆหนูบางคนก็เป็นพุทธเคร่งๆ หนูเลยไม่ปริปากบอกกับเพื่อนคนใดเลย หนูกลัวมากค่ะ
หนูกลัวจะมีใครมาทวงสัญญาที่หนูไม่ได้ทำเลย แล้วหนูกลัวว่าถ้าเป็นแบบนั้นเท่ากับว่าหนูจะทรยศพระองค์
หนูไม่ได้จะไปวัดพุทธนะ แต่ถ้าทางฝั่งนั้นเขาคิดอย่างงี้ละ หนูจะทำยังไงดีค่ะ
หนุอัดอั้น อยากขอคำแนะนำ
ขอบคุณนะคะ
. เห้อเจอโจทย์หนัก ::006:: ถ้าเป็นเทจิก็จะไปคุยกับเเม่นะค่ะบอกไปเลยว่าเรารักพระเเค่ไหนเเต่ต้องรับฟังเเม่ด้วยนะค่ะ บางทีเเม่อาจเค้าใจเราก็ได้นะค่ะ :s015: ถ้าคุยไม่รู้เรื่องก็คงต้องยอมทำเเต่เวลาทำบุญอย่างงี้เมจิจะนึกถึงพระเวลาต้องช่องบทสวดของพุธก็นึกถึงพระค่ะ นานฯเเม่ก็ใจอ่อนเองเเหละค่ะ :s024:
littleseal
โพสต์: 1029
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm

พฤหัสฯ. เม.ย. 12, 2012 12:04 am

ถ้าเอ็นท์ติดไปบอกคุณแม่อย่างจริงจังเลยค่ะ ว่า

"ความจริงแล้วหนูไปขอกับแม่พระมารีย์เอาไว้ ว่าถ้าหนูเอ็นท์ติดหนูจะไปเข้าเงียบ
หนูไม่กล้าบอกคุณแม่แต่ไปขอเอาไว้แล้ว ถ้าคุณแม่อยากให้หนูเรียนจบภายใน 4 ปี
คุณแม่ต้องให้หนูไปเข้าเงียบนะคะ"

เราต้องปรับให้เข้ากับสภาพสังคมค่ะ - -"



ขอพระทรงนำทางและอวยพรค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พฤหัสฯ. เม.ย. 12, 2012 7:24 am

ไม่บอกไปเลยว่าบนกับพระเยซูไว้ว่าถ้าติดจะล้างบาป
peopletribune
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa

พฤหัสฯ. เม.ย. 12, 2012 10:50 am

สวัสดีครับ น้องkhim_kha


จริง ๆ คราแรกผมว่าจะไม่ตอบคำถามนี้ เพราะตอบไปก็คงช่วยอะไรน้องkhim_kha
ไม่ได้เพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัว แต่คิดอีกทีบางครั้งการที่แสดงความเห็นหรือ
มุมมองของคนเป็นผู้ใหญ่แล้วคนหนึ่ง ผ่านโลกมาในระดับหนึ่ง มีวุฒิภาวะ วัยวุฒิและ
คุณวุฒิอาจจะเป็นแนวคิดอันหนึ่งสำหรับน้องkhim_kha ได้ จึงเข้ามาตอบครับ

จริง ๆ แล้วการปฏิบัติธรรม และการนั่งสมาธิ เป็นสิ่งที่ดีครับ คุณแม่อาจจะต้องการให้
เราได้หยุดนิ่ง เจริญสติ เพื่อพร้อมสำหรับการเรียน เพราะการเรียนในระดับอุดมศึกษา
สำคัญที่สุดคือ สติ และความรู้สึกตัว เพราะสิ่งเร้า เพื่อน แสงสี ความอิสระล้วนแล้ว
แต่ล่อตา ล่อใจ มีหลายคนที่สูญหายและไม่ได้กลับมาในช่วงชีวิตในมหาวิทยาลัย
เช่น ใจแตก ฟุ้งเฟ้อ ติดยาเสพติด ติดการพนัน ติดความอยากมีอยากได้ หรือหลงไป
ในการศึกษา(คิดว่าตนเองได้รับการศึกษาสูง แล้วมองคนอื่นต่ำ คนอื่นด้อยกว่า) ด้วยเหตุนี้
การมีสติ รู้จะอ่อนน้อมถ่อมตน จะเกิดได้จากการเจริญสมาธิ ความเรียบง่ายในชีวิตในช่วง
ที่อยู่ที่วัดระหว่างไปปฏิบัติธรรม ทำให้มีทั้ง ศีล สมาธิ และปัญญา อันจะสามารถนำมา
ใช้ได้ในช่วงชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย ครับ

เหล่านี้ล้วนเป็นความห่วงใยของคุณแม่ ที่จะมอบให้ด้วยการมอบ ศีล ซึ่งจะเป็นตัวกำกับ
น้องไม่ให้หลงไปในความเป็นที่สุดหรือสุดโต่ง ให้ดำรงไว้ซึ่งทางสายกลางหรือที่ทางพุทธ
เรียก"มัชฌิมาปฏิปทา" การดำรงไว้ซึ่ง สมาธิ เมื่อมี สมาธิ จะเป็นบ่อเกิดซึ่ง ปัญญา
เมื่อมีปัญญาก็จะสามารถศึกษาเรียกรู้สรรพวิชาได้แตกฉาน ไม่ใช่รู้แบบท่องจำเป็นนกแก้ว
นกขุนทองซึ่งเมื่อจบออกมาไม่สามารถใช้วิชาความรู้หรือปริญญา ประกอบสัมมาอาชีพ
และช่วยเหลือสังคมและประเทศชาติได้อย่างมีคุณภาพ(คนกว่า 50% ที่ถือปริญญาใน
ประเทศไทยในปัจจุบัน เป็นคนด้อยซึ่งคุณภาพ) ขาดหลัก ตรรกะ และหลักธรรม ในการ
ดำเนินชีวิต ประเทศเราจึงวุ่นวาย และไม่เจริญเทียบนานาอารยะ ทั้งที่ควรไปได้ไกล
กว่านี้ ::003::

เรื่องพระเจ้านั้นเราอยู่ที่ไหนเราก็สามารถอยู่ในพระเจ้าได้ เพราะพระเจ้าอยู่ในใจเรา
การดำเนินชีวิตนั้นแม้ไม่อยู่ในบวรศาสนา แต่สำคัญคือการปฏิบัติตัวให้เป็นไปตามน้ำพระทัย
ของพระองค์มากกว่า และหากน้องkhim_kha ได้ศึกษาหลักธรรมของทั้งศาสนาพุทธ และ
คริสต์แล้ว ยิ่งจะพบว่าศาสนาทั้งสองมีแนวคิดที่สอดคล้องกันอย่างไม่ได้นัดหมาย

ผมไม่ได้พูดเอง แต่ปราชญ์ทางศาสนาอย่างท่านพุทธทาส ท่านก็ปาฐกถาไว้

http://www.buddhadasa.com/BudChrist/Beunderstand1.html

ทุกศาสนาสอนคนให้เป็นคนดี มีหิริ โอตะปะ (ความละอายและเกรงกลัวบาป) สอนให้เรา
ลดละสิ่งที่จะชุ่มโชกไปด้วย ตัณหา ราคะ โลภะ(ในคริสต์ก็มี คือ บาปทั้ง 7) และสูงสุด
คือ สอนให้เรารู้จักการให้ สอนให้เรารักผู้อื่นเหมือนรักตนเอง และสอนให้เรารู้จักการให้
สูงสุด คือ ให้อภัย...ซึ่งสอดคล้องกับภาษิตทางพุทธที่ว่า "อภัยทานัง อามิสทานัง ชินาติ"
การให้อภัยทานย่อมชนะเสียซึ่งการให้ทั้งปวง ซึ่งพระเยซูสละพระชนม์ชีพของพระองค์
เืืพื่อไถ่บาปมวลมนุษยชาติ และพระองค์ไม่ทรงถือโทษคนที่จับพระองค์ตรึงบนไม้กางเขน
นั่นคือการให้อภัยสูงสุด เช่นกัน ซึ่งถ้าเรามีหลักธรรมเหล่านี้เรื่องศาสนา เป็นเพียง
เรื่องที่มนุษย์สมมุติขึ้นทั้งสิ้น...หลักธรรมต่างหากที่คือ พระเจ้า ซึ่งอยู่ในตัวผู้ปฏิบัติดี
ทุกคน


:s021:
โดย : ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ เดินทางทุกที่ ที่มีพระองค์
In the name of father
โพสต์: 719
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
ที่อยู่: กาญจนบุรี

พฤหัสฯ. เม.ย. 12, 2012 5:13 pm

peopletribune เขียน:สวัสดีครับ น้องkhim_kha


จริง ๆ คราแรกผมว่าจะไม่ตอบคำถามนี้ เพราะตอบไปก็คงช่วยอะไรน้องkhim_kha
ไม่ได้เพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัว แต่คิดอีกทีบางครั้งการที่แสดงความเห็นหรือ
มุมมองของคนเป็นผู้ใหญ่แล้วคนหนึ่ง ผ่านโลกมาในระดับหนึ่ง มีวุฒิภาวะ วัยวุฒิและ
คุณวุฒิอาจจะเป็นแนวคิดอันหนึ่งสำหรับน้องkhim_kha ได้ จึงเข้ามาตอบครับ

จริง ๆ แล้วการปฏิบัติธรรม และการนั่งสมาธิ เป็นสิ่งที่ดีครับ คุณแม่อาจจะต้องการให้
เราได้หยุดนิ่ง เจริญสติ เพื่อพร้อมสำหรับการเรียน เพราะการเรียนในระดับอุดมศึกษา
สำคัญที่สุดคือ สติ และความรู้สึกตัว เพราะสิ่งเร้า เพื่อน แสงสี ความอิสระล้วนแล้ว
แต่ล่อตา ล่อใจ มีหลายคนที่สูญหายและไม่ได้กลับมาในช่วงชีวิตในมหาวิทยาลัย
เช่น ใจแตก ฟุ้งเฟ้อ ติดยาเสพติด ติดการพนัน ติดความอยากมีอยากได้ หรือหลงไป
ในการศึกษา(คิดว่าตนเองได้รับการศึกษาสูง แล้วมองคนอื่นต่ำ คนอื่นด้อยกว่า) ด้วยเหตุนี้
การมีสติ รู้จะอ่อนน้อมถ่อมตน จะเกิดได้จากการเจริญสมาธิ ความเรียบง่ายในชีวิตในช่วง
ที่อยู่ที่วัดระหว่างไปปฏิบัติธรรม ทำให้มีทั้ง ศีล สมาธิ และปัญญา อันจะสามารถนำมา
ใช้ได้ในช่วงชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย ครับ

เหล่านี้ล้วนเป็นความห่วงใยของคุณแม่ ที่จะมอบให้ด้วยการมอบ ศีล ซึ่งจะเป็นตัวกำกับ
น้องไม่ให้หลงไปในความเป็นที่สุดหรือสุดโต่ง ให้ดำรงไว้ซึ่งทางสายกลางหรือที่ทางพุทธ
เรียก"มัชฌิมาปฏิปทา" การดำรงไว้ซึ่ง สมาธิ เมื่อมี สมาธิ จะเป็นบ่อเกิดซึ่ง ปัญญา
เมื่อมีปัญญาก็จะสามารถศึกษาเรียกรู้สรรพวิชาได้แตกฉาน ไม่ใช่รู้แบบท่องจำเป็นนกแก้ว
นกขุนทองซึ่งเมื่อจบออกมาไม่สามารถใช้วิชาความรู้หรือปริญญา ประกอบสัมมาอาชีพ
และช่วยเหลือสังคมและประเทศชาติได้อย่างมีคุณภาพ(คนกว่า 50% ที่ถือปริญญาใน
ประเทศไทยในปัจจุบัน เป็นคนด้อยซึ่งคุณภาพ) ขาดหลัก ตรรกะ และหลักธรรม ในการ
ดำเนินชีวิต ประเทศเราจึงวุ่นวาย และไม่เจริญเทียบนานาอารยะ ทั้งที่ควรไปได้ไกล
กว่านี้ ::003::

เรื่องพระเจ้านั้นเราอยู่ที่ไหนเราก็สามารถอยู่ในพระเจ้าได้ เพราะพระเจ้าอยู่ในใจเรา
การดำเนินชีวิตนั้นแม้ไม่อยู่ในบวรศาสนา แต่สำคัญคือการปฏิบัติตัวให้เป็นไปตามน้ำพระทัย
ของพระองค์มากกว่า และหากน้องkhim_kha ได้ศึกษาหลักธรรมของทั้งศาสนาพุทธ และ
คริสต์แล้ว ยิ่งจะพบว่าศาสนาทั้งสองมีแนวคิดที่สอดคล้องกันอย่างไม่ได้นัดหมาย

ผมไม่ได้พูดเอง แต่ปราชญ์ทางศาสนาอย่างท่านพุทธทาส ท่านก็ปาฐกถาไว้

http://www.buddhadasa.com/BudChrist/Beunderstand1.html

ทุกศาสนาสอนคนให้เป็นคนดี มีหิริ โอตะปะ (ความละอายและเกรงกลัวบาป) สอนให้เรา
ลดละสิ่งที่จะชุ่มโชกไปด้วย ตัณหา ราคะ โลภะ(ในคริสต์ก็มี คือ บาปทั้ง 7) และสูงสุด
คือ สอนให้เรารู้จักการให้ สอนให้เรารักผู้อื่นเหมือนรักตนเอง และสอนให้เรารู้จักการให้
สูงสุด คือ ให้อภัย...ซึ่งสอดคล้องกับภาษิตทางพุทธที่ว่า "อภัยทานัง อามิสทานัง ชินาติ"
การให้อภัยทานย่อมชนะเสียซึ่งการให้ทั้งปวง ซึ่งพระเยซูสละพระชนม์ชีพของพระองค์
เืืพื่อไถ่บาปมวลมนุษยชาติ และพระองค์ไม่ทรงถือโทษคนที่จับพระองค์ตรึงบนไม้กางเขน
นั่นคือการให้อภัยสูงสุด เช่นกัน ซึ่งถ้าเรามีหลักธรรมเหล่านี้เรื่องศาสนา เป็นเพียง
เรื่องที่มนุษย์สมมุติขึ้นทั้งสิ้น...หลักธรรมต่างหากที่คือ พระเจ้า ซึ่งอยู่ในตัวผู้ปฏิบัติดี
ทุกคน


:s021:
โดย : ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ เดินทางทุกที่ ที่มีพระองค์

แต่ผมว่าแม่ของน้องเขาไม่ได้แนะนำเชิงทำสมาธิหรือใจสงบนะครับ มันออกแนวแก้บนผีป่าซาตานซะมากกว่า?
khim_kha เขียน:แม่เล่าว่าตอนพี่สาวสอบเข้าทำงานในที่ๆหนึ่ง จริงๆมีเส้นไว้แล้ว พี่เขยแกล้งเปรยว่า ถ้าสอบได้จะมาวิ่งขึ้นเขาหลายกม.ให้เสด็จเตี่ย(กรมหลวงชุมพรฯ)ใช่มั้ย พี่สาวบอกไม่ติดหรอกๆ แต่ไม่ได้บน
พอติด ผีสาวก็ฝันว่าเขามาเรียกให้ไปวิ่งแก้บน พี่สาวบอกไม่ได้บนๆ แต่สุดท้ายก็ต้องไปวิ่งเพราะแม่สั่ง
แม่บอกว่า เขาให้ แล้วเราก็ต้องวิ่ง
แบบนี้ไม่น่าจะใช่เรื่องแนวทางธรรมแล้วนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
garuda
โพสต์: 116
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ย. 12, 2011 11:22 pm

พฤหัสฯ. เม.ย. 12, 2012 11:13 pm

-.-) ไม่ได้เพื่อปฏิบัติธรรม แต่เพื่อแก้บน
peopletribune
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa

ศุกร์ เม.ย. 13, 2012 2:13 pm

คุณIn the name of father และคุณgaruda...

คำตอบของผมพยายามชี้ให้เห็นว่า...เราจะมีมุมมองเชิง Positive หรือปรับวิธีคิดที่ต่าง
ให้เข้ากับหลักธรรมของคริสต์ได้อย่างไร การแก้บนเป็นเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคล
ผมก็เห็นคนคริสต์ หลายท่าน ก็บน หรือสวดภาวนาเพื่อวอนขอกับพระ หรือ แม้แต่พิธี
ในบางโบสถ์ของเราเอง ผมยังเคยเห็นมีการเผากระดาษที่สัตบุรุษเขียนเพื่อขอพระใน
โบสถ์ โดยบาทหลวงด้วยซ้ำ

เรื่องความเชื่อทางศาสนา เทพ หรือความเชื่อที่เข้าไปในกมลความคิด หรือแม้แต่ความ
เชื่อทางการเมือง ระบอบการปกครอง ล้วนแล้วแต่ไม่ควรนำมาถกเถียง เพราะต่างฝา่ย
ต่างยืนอยู่บนหลักตัวเอง แต่สำคัญคือ เราจะใช้หลัก ตรรกะ เข้ามาช่วยได้อยา่งไร หรือ
เราจะอยู่ร่วมและเข้าใจเค้าได้อย่างไร เช่น เรื่อง ตัดเล็บตอนกลางคืน ผีจะเอาไปทำ
กระดูก ซึ่งถ้าอธิบายหลักตรรกะ คือ คนโบราณไม่ต้องการให้ตัดเล็บในเวลากลางคืน
ที่แสงสว่างไม่พอ อาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

เรื่องความเชื่อ กับ ความงมงาย เป็นเส้นบาง ๆ ในประวัติศาสตร์ไทยเราปะทะกันมาเรื่อง
นี้จนเกิดเป็นโศกนาฏกรรม หลายครั้ง เช่น กบฎผีบุญ,เหตุการณ์บุญราศีที่สองคอน หรือ
แม้แต่เหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ เหล่่านี้ล้วนเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

การจะพูดจา หรือสนทนาในเรื่องเหล่านี้ ต้องมั่นใจว่าตัวท่าน มีองค์ความรู้มากพอ ผ่าน
การอ่านหนังสือ และศึกษามามากพอ หรือแม้แต่การศึกษาความเชื่ออื่น ๆ ที่มิได้จำกัด
ในส่วนของความเชื่อของตนเองเท่านั้น เช่นกรณี "เสด็จเตี่ย" นั้นมีคุโณปการกับประเทศ
ชาติชาวไทยให้ความเคารพนับถือ ศรัทธา มีปาฏิหาริย์ ที่เกิดจากเสด็จเตี่ย ที่ประชาชนไทย
จำนวนมากเชื่อและให้ความศรัทธามากมาย เช่น กรณีพายุเข้าชุมพร แต่คนที่อยู่ในอาณา
เขตศาลเสด็จเตี่ยรอด เป็นต้นครับ

ดังนั้นคำตอบของผม ต่อ น้องkhim_kha มุ่งเน้น ให้สามารถเข้าใจคุณแม่ และสามารถ
อยู่ร่วมกับความคิด ความเชื่อที่แตกต่างได้...โดยปรับให้เข้ากับหลักการของคริสต์ หรือ
ยังรับพระเจ้าไว้ในจิตใจได้ มิได้มีเจตนา แนะนำน้องไปในทาง สุแปร์ติซัง ครับ!!!


:s024:
In the name of father
โพสต์: 719
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
ที่อยู่: กาญจนบุรี

ศุกร์ เม.ย. 13, 2012 8:37 pm

คุณ peopletribune

เรารับใช้พระเจ้าองค์เดียว และเป็นพระเจ้าที่หวงแหนครับ

ผมไม่มีปัญหาเรื่องการปฏิบัติธรรม การทำสมาธิ เจริญปัญญา ออกจะเห็นว่าดีด้วยซ้ำที่ช่วยให้เราใช้ชีวิตอย่างมีสติ

แต่การบนบานศาลกล่าวและการก้มหัวให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆนอกเหนือจากพระผู้เป็นเจ้า เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ครับ
peopletribune
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa

ศุกร์ เม.ย. 13, 2012 9:18 pm

In the name of father เขียน:คุณ peopletribune

เรารับใช้พระเจ้าองค์เดียว และเป็นพระเจ้าที่หวงแหนครับ

ผมไม่มีปัญหาเรื่องการปฏิบัติธรรม การทำสมาธิ เจริญปัญญา ออกจะเห็นว่าดีด้วยซ้ำที่ช่วยให้เราใช้ชีวิตอย่างมีสติ

แต่การบนบานศาลกล่าวและการก้มหัวให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆนอกเหนือจากพระผู้เป็นเจ้า เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ครับ
คุณIn the name of father

ผมเคารพในความเห็นครับ และขอบคุณที่กรุณาสนทนาด้วยครับ :s021:
sdjakapong
โพสต์: 164
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 24, 2011 2:17 pm

จันทร์ เม.ย. 16, 2012 8:13 am

เรื่องพระเจ้านั้นเราอยู่ที่ไหนเราก็สามารถอยู่ในพระเจ้าได้ เพราะพระเจ้าอยู่ในใจเรา
การดำเนินชีวิตนั้นแม้ไม่อยู่ในบวรศาสนา แต่สำคัญคือการปฏิบัติตัวให้เป็นไปตามน้ำพระทัย
ของพระองค์มากกว่า
อืม ถ้ากรณีของผม แม่ผมพยายามบอกให้ผมเปลี่ยนมานับถือพุทธตามเดิม ผมก็สามารถทำได้ใช่ไหมครับ ไม่จำเป็นต้องอยู่ใต้บวรศาสนาคริสต์ เพียงแต่ปฎิบัติตามน้ำพระทัยพระองค์ก็ใช้ได้ใช่ไหมครับ เพื่อเป็นการอยู่ร่วมกับคนอื่นได้โดยไม่ทำให้แม่และพึ่น้องลำบากใจด้วย จะได้หมดปัญหาครอบครัวซะที เหนื่อย -*-
peopletribune
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa

จันทร์ เม.ย. 16, 2012 10:16 am

sdjakapong เขียน:
เรื่องพระเจ้านั้นเราอยู่ที่ไหนเราก็สามารถอยู่ในพระเจ้าได้ เพราะพระเจ้าอยู่ในใจเรา
การดำเนินชีวิตนั้นแม้ไม่อยู่ในบวรศาสนา แต่สำคัญคือการปฏิบัติตัวให้เป็นไปตามน้ำพระทัย
ของพระองค์มากกว่า
อืม ถ้ากรณีของผม แม่ผมพยายามบอกให้ผมเปลี่ยนมานับถือพุทธตามเดิม ผมก็สามารถทำได้ใช่ไหมครับ ไม่จำเป็นต้องอยู่ใต้บวรศาสนาคริสต์ เพียงแต่ปฎิบัติตามน้ำพระทัยพระองค์ก็ใช้ได้ใช่ไหมครับ เพื่อเป็นการอยู่ร่วมกับคนอื่นได้โดยไม่ทำให้แม่และพึ่น้องลำบากใจด้วย จะได้หมดปัญหาครอบครัวซะที เหนื่อย -*-
สวัสดีครับ น้องsdjakapong

ในส่วนตัวผมเห็นว่า ได้

เมื่อเทียบกับคนคริสต์ที่เกิดมาในศาสนาคริสต์ แต่ไม่ได้อยู่ในศีล ในธรรม ไม่แก้บาปรับศีล
ไม่ดำเนินชีวิตในเส้นทางของคริสตชนที่ดี ผมว่าเลวร้ายกว่าเยอะ

แต่ศาสนาเป็นเรื่องของความเชื่อ และกลุ่มคน และละเอียดอ่อนอีกเยอะ ผมยกตัวอย่าง
ให้ฟังง่าย เหมือนเราอ่านกฎหมาย อ่านรัฐธรรมนูญ เล่มเดียวกันแท้ ๆ ประเทศเรา ถกเถียง
กันมาตั้งแต่ พ.ศ. 2475 แล้วยังไม่จบ เรื่องของศาสนาเองก็มีทั้้งพวก Liberal (เสรีนิยม)
และ Conservative(อนุรักษ์นิยม)

บางคนสุดโต่ง...แต่เท่าที่ผมสังเกตุและพบเจอ พวกสุดโต่ง กลับอ่านพระคัมภีร์น้อยมาก
ไม่เปิดโลก และส่วนใหญ่จะหมกมุ่นอยู่ใน วจนพิธี...

หรือเช่น การตีความ "จีฮัด" ของพี่น้องมุสลิม ก็แตกต่างกัน แบบคริสต์เราเองยังมีตั้งหลาย
นิกาย ตามประวัติศาสตร์แยกกันด้วย 3 เรื่อง ความเชื่อ เรื่องการปกครอง และอำนาจ

หรือการตีความ นิพพาน ของพุทธ ยังมีฝ่ายที่ตีความเป็น อัตตา ด้วยซ้ำ

สมัยนี้คาทอลิก เราผ่อนปรนมากในเรื่องการอยู่ร่วมกับต่างศาสนิก ทางวิชาการมีการทำงาน
ร่วมกับศาสนาอื่น ๆ ที่ออกสื่อในฟรีทีวีก็เยอะ คนไปร่วมก็เป็นบาทหลวง ที่ได้รับศีลบวชถูกต้อง
หรืออย่างเช่นกรณีงาน พระราชทานเพลิง สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ ก็มี ผู้นำศาสนาเข้าร่วมพิธี
ซึ่งเป็นเมื่อก่อน พวกคาทอลิกไม่เข้าร่วม เพราะตามพระราชพิธีนำมาจากแนวคิดของ ฮินดู
ที่เชื่อว่ากษัตริย์เป็นสมมุติเทพ เป็นระบอบ "เทวราชา" หรือแม้แต่หลักความเชื่อว่าเป็นพระพุทธ
องค์กลับชาติมาเกิด(ซึ่งทางคริสต์เราไม่มี) สมัยอยุธยาเราจึงเห็นกษัตริย์ชื่อ หน่อพุทธธางกูร
หรือ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 หรือ ปัญหาคาทอลิกในการเข้าร่วมพิธี ตามบันทึกประวัติศาสตร์เรามีปัญหาเรื่องความจงรักภักดีเพราะไม่เข้าร่วม พระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา
แต่เดี๋ยวนี้ ศาสนาเราปรับตัว ไม่มีปัญหาเช่นนั้นแล้ว

หรือยกตัวอย่างบางเรื่องเช่น เมื่อก่อนคาทอลิกที่แต่งงานกัน แล้วหย่าร้าง เป็นเรื่องใหญ่มาก
ใหญ่มากจริง ๆ ต้องขออนุมัติถึง โป๊บ โน่น แต่เดี๋ยวนี้ ด้วยสังคมที่เปลี่ยนไปเราเห็นคาทอลิก
อย่าร้าง เดินกันเต็มเมือง และสามารถจบได้ที่อำนาจสังฆมณฑล ไม่ต้องส่งเรื่องถึง โป๊บ แล้ว

ในสังคมไทย เรื่อง ศาสนา กับ เรื่อง สถาบันกษัตริย์ คนไทยมักไม่เข้าไปแตะต้อง และไม่ถกกัน
เชิงปัญญาเมื่อเห็นต่างก็สาดใส่กันด้วยความรุนแรง แบบ 3 จังหวัดภาคใต้ หรือ กรณี อ.วรเจตน์

ถ้าคาทอลิกไม่ปรับตัว และยังเชื่อว่าโลกกลม เราจะไม่ได้ค้นพบเกาะฟิลิปปินส์ จนฟิลิปปินส์
เป็นประเทศเดียวในอาเซียน ...ที่มีศาสนาคาทอลิก เป็นศาสนาประจำชาติ และมีพิธีกรรม
ทางคาทอลิกที่ยิ่งใหญ่มากของโลก คือ Black Nazarene Procession

ผมเคยเขียนเรื่อง Black Nazarene Processionไว้ หาอ่านได้ตาม Link ครับ
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id ... =4&gblog=9





วันนี้โลกไร้พรมแดน ความคิดต่างทางศาสนา ต้องใช้แนว ปรองดอง เพื่ออยู่ร่วมกัน ไม่ใช่
ถกเถียง ใช้กำลังเข้าฮ่ำหั่นกันแบบสมัยโบราณแล้วครับ ไม่อย่างนั้นจะเหมือความเชื่อโบราณ
ที่เชื่อว่าโลกกลม แล้วไม่กล้าเดินเรือไกล จน คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ค้นพบ อเมริกา

:s021:
khim_kha
โพสต์: 17
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 13, 2011 12:31 pm

พุธ เม.ย. 18, 2012 1:04 pm

หนูคงคิดว่าการจะไปปฏิบัติธรรมยังคงยากสำหรับหนูค่ะ
ยังไงก็รู้สึกผิดลึกๆในใจ เพราะเสมือนว่าคะแนนสอบที่ได้และการเอ็นติดเป็นเสมือนพระพรจากพระองค์
หนูทำใจยาก หนูรู้สึกเหมือนกำลังทรยศอย่างไรชอบกล
คนที่เคยเป็นพุทธหรืออาจจะเป็นพุทธอยู่คงรู้ดีว่าเวลาไปปฏิบัติธรรมเขาจะมีสวดมนต์
สวนพาหุง สวดอะไรไม่รู้เยอะแยะเพื่อให้พระคุ้มครอง ให้เทวดาทางพุทธมาปกปักเราเยอะๆ(แปลตามทบสวด) แล้วยังมีการฟังเทศอีกด้วย มันไม่ดีเลย
เพราะสิ่งที่ได้มาคือพระพรของพระองค์ หนูภาวนาทุกคืนแต่พอได้หนูกลับไปเข้าศาสนพิธีของพุทธ...
ก็ยังสับสนเหมือนเดิม :s030:
peopletribune
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa

พุธ เม.ย. 18, 2012 1:34 pm

หนูคงคิดว่าการจะไปปฏิบัติธรรมยังคงยากสำหรับหนูค่ะ
ยังไงก็รู้สึกผิดลึกๆในใจ เพราะเสมือนว่าคะแนนสอบที่ได้และการเอ็นติดเป็นเสมือนพระพรจากพระองค์
หนูทำใจยาก หนูรู้สึกเหมือนกำลังทรยศอย่างไรชอบกล
คนที่เคยเป็นพุทธหรืออาจจะเป็นพุทธอยู่คงรู้ดีว่าเวลาไปปฏิบัติธรรมเขาจะมีสวดมนต์
สวนพาหุง สวดอะไรไม่รู้เยอะแยะเพื่อให้พระคุ้มครอง ให้เทวดาทางพุทธมาปกปักเราเยอะๆ(แปลตามทบสวด) แล้วยังมีการฟังเทศอีกด้วย มันไม่ดีเลย
เพราะสิ่งที่ได้มาคือพระพรของพระองค์ หนูภาวนาทุกคืนแต่พอได้หนูกลับไปเข้าศาสนพิธีของพุทธ...
ก็ยังสับสนเหมือนเดิม :s030:
อึ่มม...คุณkhim_kha เหมือนพายเรือในอ่างนะครับ

ตั้ง สติ และ อยู่ใน ความเชื่อ เถอะครับ


:s007:
tach
โพสต์: 200
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 22, 2009 9:53 pm

อังคาร เม.ย. 24, 2012 10:29 am

เเอด ปีนี้รอออ เราก็เเอดปีนี้ เปลี่ยนจากปฏิบัติธรรมเป็นไปรวมมิสซาจะดีน่ะ เเละช่วงที่รอ ก็ใช้โทษพลีกรรม เราสวดสายประคำ 3 เส้น สวดพระเมตตา สวดเพื่อไฟชำระ สวดวันทามารีทั้งวัน ใช้โทษอย่างหนักก สู้ๆๆ เด็กแอด 55 :s012:
ภาพประจำตัวสมาชิก
COLUMBUS
โพสต์: 96
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ เม.ย. 22, 2012 1:14 pm

อังคาร เม.ย. 24, 2012 12:44 pm

สรุปแล้วก็คือคุณkhim_kha ไม่อยากไปนั่งสมาธิเข้าวัดป่าเพราะรู้ว่าตัวเองเป็นผู้ที่มีความเชื่อในพระคริสต์และได้รับพระพรจากพระองค์จากการทำข้อสอบที่ได้ผลคแนนดีขึ้น แต่ถูกทางบ้านบังคับให้ต้องไปปฏิบัติธรรม ผมขอแนะนำนะครับว่าให้คุณkhim_kha ตั้งจิตอธิษฐานขอพระพรและคำแนะนำจากพระคริสตเจ้านะครับ ลองฟังเสียงตรัสจากพระองค์ หากคุณkhim_kha ไม่ต้องการไปปฏิบัติธรรมในวัดตามที่บ้านบอก ก็ลองบอกเหตุผลของตัวเองไปเลยจะดีกว่านะ และพึ่งพาพระพรจากพระคริสต์ให้สำแดงแก่ทางบ้านโดยขอให้คุณkhim_kha สามารถเข้าศึกษาต่อในคณะที่เลือกไว้โดยไม่ต้องไปวัดป่า ทางบ้านเขาก็จะเชื่อเหตุผลของคุณแล้วละครับ ยังไงขอให้พระเจ้าทรงประทานพระพรให้คุณได้เข้าเรียนในคณะที่่ต้องการสมความตั้งใจครับ :s007:
Holy Bible
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm

ศุกร์ เม.ย. 27, 2012 5:11 pm

ฮ่าๆ ปีนี้เราก็เอนท์เหมือนกันแต่ไม่แอดเพราะว่าติดรับตรงแล้ว คือจะบอกว่าจริงๆก่อนที่จะมีเชื่อพระเนี่ย สอบอะไรก็ไม่เคยติดซักอย่างซึ่งเราก็รู้สึกแย่นะตอนนั้น ทั้งสอบเข้าม.1เอยม.4เอย ไม่ได้หมด แต่พอหลังจากที่เชื่อพระมาทุกอย่างก็ดีขึ้น เหตุการณ์ทุกอย่างเหมือนมีแด๊ดดี๊ใจดีคอยช่วยเหลือเราอยู่ตลอดเลย เชื่อหรือไม่ว่าเราไม่ใช่คนที่เรียนเก่งอะไรเลยนะและก็ไม่ได้อยู่เตรียมอุดมด้วย แต่เราไปสอบตรงที่ไหนก็ติดหมด เราคิดว่าถ้าไม่มีพระ เราก็คงไม่ได้ดีขนาดนี้ แนะนำว่าเชื่อใจพระเจ้าเถอะ เราเข้าใจดีว่าความรู้สึกมันเป็นยังไงเพราะเราเคยเจอมาแล้ว แล้วก็สวดภาวนาด้วยนะ(เวิร์คจริงๆ เพราะว่าเมื่อก่อนเราเป็นแบบเดียวกับเธอเปี๊ยบเลย เวลาขอคำแนะนำใครก็มีแต่บอกว่าให้สวดๆ ซึ่งตอนนั้นเราก็คิดว่าอยากจะได้คำแนะนำที่ดีกว่าสวดภาวนา แต่สุดท้ายมันก็ออกมาดีมาก) สู้ๆนะ พระเจ้าช่วยเหลือลูกของพระิองค์เสมอ :s012:

เราก็เป็นเหมือนกัน เมื่อก่อนเราสนิทกับแม่นะ มีอะไรก็บอกแม่ตลอด แต่พอพูดเรื่องพระเจ้าขึ้นมาแม่ก็จะบอกว่าเราโดนเ้ค้าล้างสมอง เราก็...อยู่เฉยๆอะ
ตอบกลับโพส