แวะมาศึกษา
- BARKER BARBER
- โพสต์: 226
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 24, 2005 8:34 pm
- ที่อยู่: XAVIER HALL / PRISONMINISTRY
8)ยินดีเสมอครับ ที่นี่อบอุ่น ครับไม่เข้าใจอะไรถามได้ทุกคนครับ ;D 8)
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ยินดีต้อนรับคะ
อ่านลืมอ่านกฏบอร์ดต่าง ๆ ด้วยนะคะ *no1
อ่านลืมอ่านกฏบอร์ดต่าง ๆ ด้วยนะคะ *no1
ยินดีต้อนรับครับผม :D
คุณจองเวรจากบอร์ด Ragnatok ใช่ไหมครับ
คุณจองเวรจากบอร์ด Ragnatok ใช่ไหมครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Nihil เมื่อ จันทร์ ส.ค. 22, 2005 4:00 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ใช่ ข้าพเจ้า User จองเวร จาก TRO.
หวังว่าคงไม่สร้างความลำบากให้กับสมาชิกที่นี่.....ข้าพเจ้าแวะมาศึกษา และขอ นำ บทความบางบทที่
มีประโยชน์ ไปเผยแพร่ จะอนุญาต ได้ไหม ทุกท่าน..........ขอบคุณ
หวังว่าคงไม่สร้างความลำบากให้กับสมาชิกที่นี่.....ข้าพเจ้าแวะมาศึกษา และขอ นำ บทความบางบทที่
มีประโยชน์ ไปเผยแพร่ จะอนุญาต ได้ไหม ทุกท่าน..........ขอบคุณ
-
- Defender of lawS
- โพสต์: 3324
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
- ที่อยู่: Bangkok
บทความถ้าเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมจริง อนุญาตค่ะ แต่ถ้าไม่เป็นประโยชน์ นำออกนอกลู่นอกทาง13ตาปะมหานรก เขียน:
ใช่ ข้าพเจ้า User จองเวร จาก TRO.
หวังว่าคงไม่สร้างความลำบากให้กับสมาชิกที่นี่.....ข้าพเจ้าแวะมาศึกษา และขอ นำ บทความบางบทที่
มีประโยชน์ ไปเผยแพร่ จะอนุญาต ได้ไหม ทุกท่าน..........ขอบคุณ
หรือไม่สร้างสรรค์ webmaster หรือ พวก ผู้รักษากฏจะลบทิ้ง ค่ะ
ชื่อ ที่ใช้ ไม่ค่อย จะเข้ากับ บอร์ด คริสต์เลยค่ะ
ขอพระเจ้าทรงอวยพรค่ะ
สวัสดีค่ะ ^^
ชื่อโหดจัง แปลว่าอะไรเหรอคะ
ชื่อโหดจัง แปลว่าอะไรเหรอคะ
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
จึ๋ย!!!!
ชื่อเปรี้ยวมาก คือไรคะเนี่ย แปลว่าไร
ชื่อเปรี้ยวมาก คือไรคะเนี่ย แปลว่าไร
SugarRei เขียน: สวัสดีค่ะ ^^
ชื่อโหดจัง แปลว่าอะไรเหรอคะ
ชื่อที่ข้าพเจ้าใช้ หมายถึง นรก ลำดับที่ 7 จากจำนวนทั้งหมด 9 นรก ขุมใหญ่ ผู้ตกนรกขุมที่ 7 ต้องชดใช้
กรรมเป็นระยะเวลา ครึ่ง กัป
ความหมายของ 1 ปีนรก
1 ปีมี 12 เดือน เดือนละ 30 วัน ซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับปีมนุษย์
ความหมายของ 1 กัป
สมมติให้มีกล่องที่ กว้าง 1 โยชน์ ยาว 1 โยชน์ สูง 1 โยชน์ บรรจุเมล็ดผักกาดจนเต็ม เวลาผ่านไป 100 ปี หยิบออก 1 เมล็ด จนกระทั่งหมดไม่มีเหลือ นับเป็น 1 กัป
ข้าพเจ้า ชาวพุทธ.........หวังการเรียนรู้คงไม่จำกัดศาสนาหรอกนะท่าน..ข้าพเจ้าศึกษา ซิก กับคำสอนของProd Pran เขียน:บทความถ้าเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมจริง อนุญาตค่ะ แต่ถ้าไม่เป็นประโยชน์ นำออกนอกลู่นอกทาง13ตาปะมหานรก เขียน:
ใช่ ข้าพเจ้า User จองเวร จาก TRO.
หวังว่าคงไม่สร้างความลำบากให้กับสมาชิกที่นี่.....ข้าพเจ้าแวะมาศึกษา และขอ นำ บทความบางบทที่
มีประโยชน์ ไปเผยแพร่ จะอนุญาต ได้ไหม ทุกท่าน..........ขอบคุณ
หรือไม่สร้างสรรค์ webmaster หรือ พวก ผู้รักษากฏจะลบทิ้ง ค่ะ
ชื่อ ที่ใช้ ไม่ค่อย จะเข้ากับ บอร์ด คริสต์เลยค่ะ
ขอพระเจ้าทรงอวยพรค่ะ
ขงจื้อ มาแล้ว ตอนนี้ก็กำลังศึกษาเรื่องคริสต์ กับ ฮินดู....คงไม่ว่ากระไรข้าพเจ้ากระมัง.... ;D
ไม่เคยเห็นเมล็ดผักกาดเหมือนกันแฮะ
ว่าแต่ยังไม่ตอบผมที่นู้นเลยนะครับว่าเจอ web นี้ได้ยังไง ;D
ว่าแต่ยังไม่ตอบผมที่นู้นเลยนะครับว่าเจอ web นี้ได้ยังไง ;D
โอ้ หาเจอแล้วครับ จาก http://www.geocities.com/ss12345_th/304.html
+++++++
ต่อไปจะเทียบระยะเวลา 1 กัป 1 อสงไขย และ 1 ปทุมะนรก
ให้พิจารณากันดู เพื่อปลงสังเวช กับอัตตา(อวิชชา)ของสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งเป็นค่าโดยประมาณ อาจจะมีความคลาดเคลื่อนมากกว่านี้ก็ได้ ใครมีความรู้ในทางคณิตศาสตร์ ก็สามารถช่วยแสดงความคิดเห็น เพื่อจะได้ค่าที่ถูกต้องมากขึ้น
เรื่องของ กัป จากพระไตรปิฏกประมาณคำว่า 1 กัปได้ดังนี้
สมมุติมีกล่องใบหนึ่ง กว้าง 100 โยชน์ ยาว 100โยชน์ และ สูง 100 โยชน์ ในเวลา 100 ปี ให้เอาเมล็ดผักกาด 1 เมล็ด ใส่ลงไปในกล่องนั้น ทำอย่างนี้จนเมล็ดผักกาดนั้นเต็มเสมอเรียบปากกล่อง นั้นละจึงเท่ากับ 1 กัป
(บางตำรากล่าวว่า กว้าง 1 โยชน์ ยาว 1 โยชน์ สูง 1 โยชน์)
วิเคราะห์คำนวณ 1 โยชน์ = 16 กิโลเมตร
ดังนั้นกล่องใบนี้มีปริมาตร = 1600X1600X1600 = 4,096,000,000 ลูกบาตกิโลเมตร
ประมานว่า เมล็ดผักกาด มีขนาด .5 มิลลิเมตร
1 กิโลเมตรเทียบเป็นมิลลิเมตรได้ดังนี้ 10X100X1000 = 1,000,000 มิลลิเมตร
จะได้ 1 กิโลเมตรใช้เมล็ดผักกาดเรียงกัน = (1,000,000)/0.5 = 2,000,000 เมล็ด
ดังนั้น 1600 กิโลเมตรใช้เมล็ดผักกาดเรียงกัน = 1600X2,000,000 = 3,200,000,000 เมล็ด
ถ้าเป็นปริมาตร คือ กว้าง*ยาว*สูง ต้องใช้เมล็ดผักกาดทั้งหมด คือ
3,200,000,000X3,200,000,000X3,200,000,000 = 32,768,000,000,000,000,000,000,000,000 เมล็ด
ใน 100 ปี ใส่เมล็ดผักเพียง 1 เมล็ด ดังนั้นต้องใช้เวลาทั้งหมดคือ
32,768,000,000,000,000,000,000,000,000X100 = 3,276,800,000,000,000,000,000,000,000,000 ปี
จึงได้เวลา 1 กัป ประมาณ สามล้านสองแสนเจ็ดหมื่นหกพันแปดร้อยล้านล้านล้านล้าน ปี
ประมาณ 3.3 X 10**30 ปี
เครื่องหมาย ** เป็นเครื่องหมาย ยกกำลัง
(หมายเหตุ บางตำรากล่าวว่า กว้าง 1 โยชน์ ยาว 1 โยชน์ สูง 1 โยชน์ จึงได้ 1 กัป ประมาณ 3.3
X 10**24 ปี โดยเอา 0 ออกไป 6 ตัว จากค่าที่คำนวณได้ในครั้งแรก)
เรื่องของอสงไขย จากหนังสือสัมภาระโพธิญาณ (จำไม่ค่อยได้) เป็นหนังสือเก่ามากแล้ว เรียบเรียงก่อนที่ผมเกิดเสียอีกประมาณ 42 ปีมาแล้ว เสียดายไม่ได้จดชื่อผู้เรียบเรียง แต่ค่าที่ได้ก็ตรงกับผู้ที่คำนวณไว้ก่อน สามารถนับ 1 อสงไขย และเทียบกับหน่วยนับปัจจุบันได้ดังนี้
สิบ สิบหน เป็น ร้อย 10**2
สิบร้อย เป็น พัน 10**3
สิบพัน เป็น หมื่น 10**4
สิบหมื่น เป็น แสน 10**5
ร้อยแสน เป็น โกฏิ 10**7
ร้อยแสนโกฏิ เป็น ปโกฏิ 10**7 X 10**7 = 10**14
ร้อยแสนปโกฏิ เป็น โกฏิปโกฏิ 10**7 X 10**14 = 10**21
ร้อยแสนโกฏิปโกฏิ เป็น นนุตหนึ่ง 10**7 X 10**21 = 10**28
ร้อยแสนนนุต เป็น นินนนุตหนึ่ง 10**7 X 10**28 = 10**35
ร้อยแสนนินนุต เป็น อักโขภินีหนึ่ง 10**7 X 10**35 = 10**42
ร้อยแสนอักโขภินี เป็น พินทะหนึ่ง 10**7 X 10**42 = 10**49
ร้อยแสนพินทะ เป็น อัพภูทะหนึ่ง 10**7 X 10**49 = 10**56
ร้อยแสนอัพภูทะ เป็น นิรพุทะหนึ่ง 10**7 X 10**56 = 10**63
ร้อยแสนนิรพุทะ เป็น อหนะหนึ่ง 10**7 X 10**63 = 10**70
ร้อยแสนอหนะ เป็น อพพะหนึ่ง 10**7 X 10**70 = 10**77
ร้อยแสนอพพะ เป็น อฏฏะหนึ่ง 10**7 X 10**77 = 10**84
ร้อยแสนอฏฏะ เป็น โสคันธิกะหนึ่ง 10**7 X 10**84 = 10**91
ร้อยแสนโสคันธิกะ เป็น อุปละหนึ่ง 10**7 X 10**91 = 10**98
ร้อยแสนอุปละ เป็น กมุมะหนึ่ง 10**7 X 10**98= 10**105
ร้อยแสนกมุมะ เป็น ปทุมะหนึ่ง 10**7 X 10**105= 10**112
ร้อยแสนปทุมะเป็น ปุณฑริกะหนึ่ง 10**7 X 10**112= 10**119
ร้อยแสนปุณฑริกะ เป็น อกถานหนึ่ง 10**7 X 10**119= 10**126
ร้อยแสนอกถาน เป็น มหากถานหนึ่ง 10**7 X 10**126= 10**133
ร้อยแสนมหากถาน เป็น อสงไขยหนึ่ง10**7 X 10**133= 10**140
ดังนั้น 1 อสงไขย = สิบยกกำลัง หนึ่งร้อยสีสิบ หรือ 1 ตามด้วย 0 จำนวน 140 มหากัป
ข้อสังเกต จำนวนปีของมนุษย์โลกเทียบกับ 1 กัปนั้นยังมีความคลาดเคลื่อนอีกมากมาย จึงไห้ถือกำหนดเอา โลกจักรวาลเมื่อก่อกำเนิดขึ้นจนกระทั้งพังทลายศูนย์หายไป 1 ครั้ง เป็น 1 กัป แต่จำนวน 1 อสงไขยมีกี่กัปนั้นเป็นจำนวนที่แน่นอน คือ 1 ตามด้วยเลข 0 จำนวน 140 ตัว หรือ 1 X 10**140
อายุขัยของเทวดาเทียบกับปีของมนุษย์โลก หนึ่ง 1 ปีทิพย์ของสวรรค์แต่ละชั้น เท่ากับ 360 วันทิพย์ของสวรรค์แต่ละชั้น
ชั้นจาตุมีอายุ 500 ปีทิพย์ 1 วันทิพย์ เท่ากับ 50 ปีโลกมนุษย์ ดังนั้นเท่ากับ 500X360X50 = 9,000,000 ปี
ชั้นดาวดึงส์ " " 1000 " " 1 " " 100 " " เท่ากับ 36,000,000 ปี
ชั้นยามา " " 2000 " " 1 " " 200 " " เท่ากับ 144,000,000 ปี
ชั้นดุสิต " " 4000 " " 1 " " 400 " " เท่ากับ 576,000,000 ปี
ชั้นนิมมา " " 8000 " " 1 " " 800 " " เท่ากับ 2,304,000,000 ปี
ชั้นปรมิน " " 16000 " " 1 " " 1600 " " เท่ากับ 9,216,000,000 ปี
อายุของพระพรหม รูปฌาน 1 ถึง รูปฌาน 4
รูปฌาน 1 มีอยู่ 3 ชั้น
สมาธิอย่างอ่อน ปาริสัชนาพรหม มีอายุ 1/3 กัป
สมาธิอย่างกลาง ปุโรหิตพรหม มีอายุ 1/2 กัป
สมาธิอย่างสูง มหาพรหม มีอายุ 1 กัป
รูปฌาน 2 มีอยู่ 3 ชั้น
สมาธิอย่างอ่อน ปริตตาภาพรหม มีอายุ 2 กัป
สมาธิอย่างกลาง อัปปมาณภาพรหม มีอายุ 4 กัป
สมาธิอย่างสูง อาภัสสราพรหม มีอายุ 8 กัป
รูปฌาน 3 มีอยู่ 3 ชั้น
สมาธิอย่างอ่อน ปริตตสุภาพรหม มีอายุ 16 กัป
สมาธิยย่างกลาง อัปปมาณสุภาพรหม มีอายุ 32 กัป
สมาธิอย่างสูง สุภกิณหาพรหม มีอายุ 64 กัป
รูปฌาน 4 มีอยู่ 2 ชั้น
เวหัปผลพรหม มีอายุ 500 กัป
อสัญญสัตราพรหม มีอายุ 500 กัป
สุทธาวาสพรหม มี 5 ชั้น เป็นภพของพระอนาคามี
1. อวิหา มีอายุ 1,000 กัป
2. อตัปปา มีอายุ 2,000 กัป
3. สุทัสสา มีอายุ 4,000 กัป
4. สุทัสสี มีอายุ 8,000 กัป
5. อกนิฏฐา มีอายุ 16,000 กัป
อรูปพรหม มี 4 ชั้น
1.อากาสานัญจายตนพรหม มีอายุ 20,000 กัป
2.วิญญาณัญจายตนพรหม มีอายุ 40,000 กัป
3.อากิญจัญญายตนพรหม มีอายุ 60,000 กัป
4.เนวสัญญานาสัญญายตนาพรหม มีอายุ 84,000 กัป
พิจารณาดูจะเห็นว่า เมื่อมีพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น 1 พระองค์ ขณะที่พระองค์มีพระชนชีพอยู่ แสงสว่างของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ กระจายไปทั่วสากลจักวาลอย่างรวดเร็ว เหมือนกับสายฟ้าแลบ และแสงสว่างแห่งธรรมนั้นยังคงสว่างสไหวอยู่
เมื่อพระองค์ดับขันท์ปรินิพพานแม้อายุขัยของภพมนุษย์นั้นจะเพียงน้อยนิด แต่แสงสว่างในธรรมนั้นก็ค่อยทยอยดับอย่างช้าๆ เริ่มต้นจากโลกมนุษย์นี้ก่อน แล้วทยอยดับไปยัง สวรรค์ชั้นจาตุ ชั้นดาวดึงส์ ชั้นยามา ชั้นดุสิต ชั้นนิมมา ชั้นปรมิน
แล้วทยอยดับไปที่ รูปพรหมของฌานทั้ง 4 ซึ่งทยอยดับไปที่ละชั้น จนถึงสุทธาวาสพรหมทั้ง 5 ชั้นทยอยดับที่ละชั้น จนถึงอรูปพรหม ที่พระอริยะบางท่านจุติอยู่ ถ้ายังไม่มีพระพุทธเจ้าพระองค์ใหม่บังเกิดขึ้นในโลก แสงสว่างของธรรมจากพระพุทธองค์นั้นเมื่อบังเกิดขึ้น แล้วทยอยดับจนหมดสิ้น ใช้เวลาเป็นแสนกัป รอจนพระพุทธเจ้าองค์ใหม่อุบัติขึ้นมาใหม่ในโลก แสงสว่างแห่งธรรมนี้ ไม่มีมนุษย์หรือเทพหรือพระพรหมองค์ใดจะกระทำได้ มีแต่เพียงพระพุทธเจ้าเท่านั้นจึงทำให้บังเกิดขึ้นได้
เปรียบเทียบอายุในอเวจีนรก 1 ปทุมนรก กับมนุษย์โลกได้ ดังมีในพระไตรปิฏกดังนี้
เมล็ดงา 1 เกวียน มีอัตรา 20 ขารี 1 ขารีเท่ากับ 256 ทะนาน เมื่อล่วงไป 1 แสนปีเอาเมล็ดงาออกจากเกวียน 1 เมล็ดทำจนหมดจากเกวียน ก็ยังไม่ถึง 1 อัพพุทะในนรกเลย การเปรียบเทียบ 1 อัพพุทะ ตามมาตรตราปัจจุบันอย่างคล่าวๆ
1 ทะนาน เท่ากับ 1 ลิตร
1 ลิตร เท่ากับ 1000 ลูกบาศเชนติเมตร
เมล็ดงา 1 เมล็ด ประมาณ 1 มิลิเมตร ดังนั้น 1 เชนติเมตร เอาเมล็ดงาเรียงกันได้ 10 เมล็ด
จะได้ 1 ลูกบาศเชนติเมตร จะมีจำนวน เมล็ดงา ประมาณ 10 X10 X 10 = 1000 เมล็ด
จะได้ 1 ลิตรมีเมล็ดงาประมาณ 1000X1000 ประมาณ 1,000,000 เมล็ด
จะได้ 1 ทะนานจะมีเมล็ดงาประมาณ 1,000,000 เมล็ด
จะได้ 1 ขารีจะมีเมล็ดงาประมาน 256 X 1,000,000 ประมาณ 256,000,000 เมล็ด
จะได้ 1 เกวียนจะมีเมล็ดงาประมาณ 20 X 256,000,000 ประมาณ 5,120,000,000 เมล็ด
จะได้เวลาทั้งหมดเมื่อหยิบเมล็ดงาออกหมดเกวียน ประมาณ 100,000 X 5120,000,000 ปี
ประมาณ 512,000,000,000,000 ปี
ซึ่งยังไม่ถึง 1 อัพพุทะ แต่ก็ประมาณ 512,000,000,000,000 ปี หรือ 5.12 X 10**14 จึงเอาไปแทนค่าตามข้างล่าง
20 อัพพุทะ เป็น 1 นิรัพพุทะ 20**1 X 5.12 X 10**14
20 นิรัพพุทะเป็น 1 อพัพพะ 20**2 X 5.12 X 10**14
20 อพัพพะเป็น 1 อหหะ 20**3 X 5.12 X 10**14
20 อหหะเป็น 1 อฏฏะ 20**4 X 5.12 X 10**14
20 อฏฏะเป็น 1 กุมุทะ 20**5 X 5.12 X 10**14
20 กุมุทะเป็น 1 โสคันธิกะ 20**6 X 5.12 X 10**14
20 โสคันธิกะเป็น 1 อุปปละ 20**7 X 5.12 X 10**14
20 อุปปละเป็น 1 ปุณฑริกะ 20**8 X 5.12 X 10**14
20 ปุณฑริกะเป็น 1 ปทุมะ 20**9 X 5.12 X 10**14
และ 20**9 = 512,000,000,000 = 5.12 X 10**11
ดังนั้น 1 ปทุมะนรก ประมาณ 5.12 X 10**11 X 5.12 X 10**14 ประมาณ 26.2144 X 10**25
ประมาณ 2.62 X 10**26 หรือ 1 ปทุมะนรก ประมาณ 262,144,000,000,000,000,000,000,000 ปีมนุษย์โลก
+++++++
ต่อไปจะเทียบระยะเวลา 1 กัป 1 อสงไขย และ 1 ปทุมะนรก
ให้พิจารณากันดู เพื่อปลงสังเวช กับอัตตา(อวิชชา)ของสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งเป็นค่าโดยประมาณ อาจจะมีความคลาดเคลื่อนมากกว่านี้ก็ได้ ใครมีความรู้ในทางคณิตศาสตร์ ก็สามารถช่วยแสดงความคิดเห็น เพื่อจะได้ค่าที่ถูกต้องมากขึ้น
เรื่องของ กัป จากพระไตรปิฏกประมาณคำว่า 1 กัปได้ดังนี้
สมมุติมีกล่องใบหนึ่ง กว้าง 100 โยชน์ ยาว 100โยชน์ และ สูง 100 โยชน์ ในเวลา 100 ปี ให้เอาเมล็ดผักกาด 1 เมล็ด ใส่ลงไปในกล่องนั้น ทำอย่างนี้จนเมล็ดผักกาดนั้นเต็มเสมอเรียบปากกล่อง นั้นละจึงเท่ากับ 1 กัป
(บางตำรากล่าวว่า กว้าง 1 โยชน์ ยาว 1 โยชน์ สูง 1 โยชน์)
วิเคราะห์คำนวณ 1 โยชน์ = 16 กิโลเมตร
ดังนั้นกล่องใบนี้มีปริมาตร = 1600X1600X1600 = 4,096,000,000 ลูกบาตกิโลเมตร
ประมานว่า เมล็ดผักกาด มีขนาด .5 มิลลิเมตร
1 กิโลเมตรเทียบเป็นมิลลิเมตรได้ดังนี้ 10X100X1000 = 1,000,000 มิลลิเมตร
จะได้ 1 กิโลเมตรใช้เมล็ดผักกาดเรียงกัน = (1,000,000)/0.5 = 2,000,000 เมล็ด
ดังนั้น 1600 กิโลเมตรใช้เมล็ดผักกาดเรียงกัน = 1600X2,000,000 = 3,200,000,000 เมล็ด
ถ้าเป็นปริมาตร คือ กว้าง*ยาว*สูง ต้องใช้เมล็ดผักกาดทั้งหมด คือ
3,200,000,000X3,200,000,000X3,200,000,000 = 32,768,000,000,000,000,000,000,000,000 เมล็ด
ใน 100 ปี ใส่เมล็ดผักเพียง 1 เมล็ด ดังนั้นต้องใช้เวลาทั้งหมดคือ
32,768,000,000,000,000,000,000,000,000X100 = 3,276,800,000,000,000,000,000,000,000,000 ปี
จึงได้เวลา 1 กัป ประมาณ สามล้านสองแสนเจ็ดหมื่นหกพันแปดร้อยล้านล้านล้านล้าน ปี
ประมาณ 3.3 X 10**30 ปี
เครื่องหมาย ** เป็นเครื่องหมาย ยกกำลัง
(หมายเหตุ บางตำรากล่าวว่า กว้าง 1 โยชน์ ยาว 1 โยชน์ สูง 1 โยชน์ จึงได้ 1 กัป ประมาณ 3.3
X 10**24 ปี โดยเอา 0 ออกไป 6 ตัว จากค่าที่คำนวณได้ในครั้งแรก)
เรื่องของอสงไขย จากหนังสือสัมภาระโพธิญาณ (จำไม่ค่อยได้) เป็นหนังสือเก่ามากแล้ว เรียบเรียงก่อนที่ผมเกิดเสียอีกประมาณ 42 ปีมาแล้ว เสียดายไม่ได้จดชื่อผู้เรียบเรียง แต่ค่าที่ได้ก็ตรงกับผู้ที่คำนวณไว้ก่อน สามารถนับ 1 อสงไขย และเทียบกับหน่วยนับปัจจุบันได้ดังนี้
สิบ สิบหน เป็น ร้อย 10**2
สิบร้อย เป็น พัน 10**3
สิบพัน เป็น หมื่น 10**4
สิบหมื่น เป็น แสน 10**5
ร้อยแสน เป็น โกฏิ 10**7
ร้อยแสนโกฏิ เป็น ปโกฏิ 10**7 X 10**7 = 10**14
ร้อยแสนปโกฏิ เป็น โกฏิปโกฏิ 10**7 X 10**14 = 10**21
ร้อยแสนโกฏิปโกฏิ เป็น นนุตหนึ่ง 10**7 X 10**21 = 10**28
ร้อยแสนนนุต เป็น นินนนุตหนึ่ง 10**7 X 10**28 = 10**35
ร้อยแสนนินนุต เป็น อักโขภินีหนึ่ง 10**7 X 10**35 = 10**42
ร้อยแสนอักโขภินี เป็น พินทะหนึ่ง 10**7 X 10**42 = 10**49
ร้อยแสนพินทะ เป็น อัพภูทะหนึ่ง 10**7 X 10**49 = 10**56
ร้อยแสนอัพภูทะ เป็น นิรพุทะหนึ่ง 10**7 X 10**56 = 10**63
ร้อยแสนนิรพุทะ เป็น อหนะหนึ่ง 10**7 X 10**63 = 10**70
ร้อยแสนอหนะ เป็น อพพะหนึ่ง 10**7 X 10**70 = 10**77
ร้อยแสนอพพะ เป็น อฏฏะหนึ่ง 10**7 X 10**77 = 10**84
ร้อยแสนอฏฏะ เป็น โสคันธิกะหนึ่ง 10**7 X 10**84 = 10**91
ร้อยแสนโสคันธิกะ เป็น อุปละหนึ่ง 10**7 X 10**91 = 10**98
ร้อยแสนอุปละ เป็น กมุมะหนึ่ง 10**7 X 10**98= 10**105
ร้อยแสนกมุมะ เป็น ปทุมะหนึ่ง 10**7 X 10**105= 10**112
ร้อยแสนปทุมะเป็น ปุณฑริกะหนึ่ง 10**7 X 10**112= 10**119
ร้อยแสนปุณฑริกะ เป็น อกถานหนึ่ง 10**7 X 10**119= 10**126
ร้อยแสนอกถาน เป็น มหากถานหนึ่ง 10**7 X 10**126= 10**133
ร้อยแสนมหากถาน เป็น อสงไขยหนึ่ง10**7 X 10**133= 10**140
ดังนั้น 1 อสงไขย = สิบยกกำลัง หนึ่งร้อยสีสิบ หรือ 1 ตามด้วย 0 จำนวน 140 มหากัป
ข้อสังเกต จำนวนปีของมนุษย์โลกเทียบกับ 1 กัปนั้นยังมีความคลาดเคลื่อนอีกมากมาย จึงไห้ถือกำหนดเอา โลกจักรวาลเมื่อก่อกำเนิดขึ้นจนกระทั้งพังทลายศูนย์หายไป 1 ครั้ง เป็น 1 กัป แต่จำนวน 1 อสงไขยมีกี่กัปนั้นเป็นจำนวนที่แน่นอน คือ 1 ตามด้วยเลข 0 จำนวน 140 ตัว หรือ 1 X 10**140
อายุขัยของเทวดาเทียบกับปีของมนุษย์โลก หนึ่ง 1 ปีทิพย์ของสวรรค์แต่ละชั้น เท่ากับ 360 วันทิพย์ของสวรรค์แต่ละชั้น
ชั้นจาตุมีอายุ 500 ปีทิพย์ 1 วันทิพย์ เท่ากับ 50 ปีโลกมนุษย์ ดังนั้นเท่ากับ 500X360X50 = 9,000,000 ปี
ชั้นดาวดึงส์ " " 1000 " " 1 " " 100 " " เท่ากับ 36,000,000 ปี
ชั้นยามา " " 2000 " " 1 " " 200 " " เท่ากับ 144,000,000 ปี
ชั้นดุสิต " " 4000 " " 1 " " 400 " " เท่ากับ 576,000,000 ปี
ชั้นนิมมา " " 8000 " " 1 " " 800 " " เท่ากับ 2,304,000,000 ปี
ชั้นปรมิน " " 16000 " " 1 " " 1600 " " เท่ากับ 9,216,000,000 ปี
อายุของพระพรหม รูปฌาน 1 ถึง รูปฌาน 4
รูปฌาน 1 มีอยู่ 3 ชั้น
สมาธิอย่างอ่อน ปาริสัชนาพรหม มีอายุ 1/3 กัป
สมาธิอย่างกลาง ปุโรหิตพรหม มีอายุ 1/2 กัป
สมาธิอย่างสูง มหาพรหม มีอายุ 1 กัป
รูปฌาน 2 มีอยู่ 3 ชั้น
สมาธิอย่างอ่อน ปริตตาภาพรหม มีอายุ 2 กัป
สมาธิอย่างกลาง อัปปมาณภาพรหม มีอายุ 4 กัป
สมาธิอย่างสูง อาภัสสราพรหม มีอายุ 8 กัป
รูปฌาน 3 มีอยู่ 3 ชั้น
สมาธิอย่างอ่อน ปริตตสุภาพรหม มีอายุ 16 กัป
สมาธิยย่างกลาง อัปปมาณสุภาพรหม มีอายุ 32 กัป
สมาธิอย่างสูง สุภกิณหาพรหม มีอายุ 64 กัป
รูปฌาน 4 มีอยู่ 2 ชั้น
เวหัปผลพรหม มีอายุ 500 กัป
อสัญญสัตราพรหม มีอายุ 500 กัป
สุทธาวาสพรหม มี 5 ชั้น เป็นภพของพระอนาคามี
1. อวิหา มีอายุ 1,000 กัป
2. อตัปปา มีอายุ 2,000 กัป
3. สุทัสสา มีอายุ 4,000 กัป
4. สุทัสสี มีอายุ 8,000 กัป
5. อกนิฏฐา มีอายุ 16,000 กัป
อรูปพรหม มี 4 ชั้น
1.อากาสานัญจายตนพรหม มีอายุ 20,000 กัป
2.วิญญาณัญจายตนพรหม มีอายุ 40,000 กัป
3.อากิญจัญญายตนพรหม มีอายุ 60,000 กัป
4.เนวสัญญานาสัญญายตนาพรหม มีอายุ 84,000 กัป
พิจารณาดูจะเห็นว่า เมื่อมีพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น 1 พระองค์ ขณะที่พระองค์มีพระชนชีพอยู่ แสงสว่างของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ กระจายไปทั่วสากลจักวาลอย่างรวดเร็ว เหมือนกับสายฟ้าแลบ และแสงสว่างแห่งธรรมนั้นยังคงสว่างสไหวอยู่
เมื่อพระองค์ดับขันท์ปรินิพพานแม้อายุขัยของภพมนุษย์นั้นจะเพียงน้อยนิด แต่แสงสว่างในธรรมนั้นก็ค่อยทยอยดับอย่างช้าๆ เริ่มต้นจากโลกมนุษย์นี้ก่อน แล้วทยอยดับไปยัง สวรรค์ชั้นจาตุ ชั้นดาวดึงส์ ชั้นยามา ชั้นดุสิต ชั้นนิมมา ชั้นปรมิน
แล้วทยอยดับไปที่ รูปพรหมของฌานทั้ง 4 ซึ่งทยอยดับไปที่ละชั้น จนถึงสุทธาวาสพรหมทั้ง 5 ชั้นทยอยดับที่ละชั้น จนถึงอรูปพรหม ที่พระอริยะบางท่านจุติอยู่ ถ้ายังไม่มีพระพุทธเจ้าพระองค์ใหม่บังเกิดขึ้นในโลก แสงสว่างของธรรมจากพระพุทธองค์นั้นเมื่อบังเกิดขึ้น แล้วทยอยดับจนหมดสิ้น ใช้เวลาเป็นแสนกัป รอจนพระพุทธเจ้าองค์ใหม่อุบัติขึ้นมาใหม่ในโลก แสงสว่างแห่งธรรมนี้ ไม่มีมนุษย์หรือเทพหรือพระพรหมองค์ใดจะกระทำได้ มีแต่เพียงพระพุทธเจ้าเท่านั้นจึงทำให้บังเกิดขึ้นได้
เปรียบเทียบอายุในอเวจีนรก 1 ปทุมนรก กับมนุษย์โลกได้ ดังมีในพระไตรปิฏกดังนี้
เมล็ดงา 1 เกวียน มีอัตรา 20 ขารี 1 ขารีเท่ากับ 256 ทะนาน เมื่อล่วงไป 1 แสนปีเอาเมล็ดงาออกจากเกวียน 1 เมล็ดทำจนหมดจากเกวียน ก็ยังไม่ถึง 1 อัพพุทะในนรกเลย การเปรียบเทียบ 1 อัพพุทะ ตามมาตรตราปัจจุบันอย่างคล่าวๆ
1 ทะนาน เท่ากับ 1 ลิตร
1 ลิตร เท่ากับ 1000 ลูกบาศเชนติเมตร
เมล็ดงา 1 เมล็ด ประมาณ 1 มิลิเมตร ดังนั้น 1 เชนติเมตร เอาเมล็ดงาเรียงกันได้ 10 เมล็ด
จะได้ 1 ลูกบาศเชนติเมตร จะมีจำนวน เมล็ดงา ประมาณ 10 X10 X 10 = 1000 เมล็ด
จะได้ 1 ลิตรมีเมล็ดงาประมาณ 1000X1000 ประมาณ 1,000,000 เมล็ด
จะได้ 1 ทะนานจะมีเมล็ดงาประมาณ 1,000,000 เมล็ด
จะได้ 1 ขารีจะมีเมล็ดงาประมาน 256 X 1,000,000 ประมาณ 256,000,000 เมล็ด
จะได้ 1 เกวียนจะมีเมล็ดงาประมาณ 20 X 256,000,000 ประมาณ 5,120,000,000 เมล็ด
จะได้เวลาทั้งหมดเมื่อหยิบเมล็ดงาออกหมดเกวียน ประมาณ 100,000 X 5120,000,000 ปี
ประมาณ 512,000,000,000,000 ปี
ซึ่งยังไม่ถึง 1 อัพพุทะ แต่ก็ประมาณ 512,000,000,000,000 ปี หรือ 5.12 X 10**14 จึงเอาไปแทนค่าตามข้างล่าง
20 อัพพุทะ เป็น 1 นิรัพพุทะ 20**1 X 5.12 X 10**14
20 นิรัพพุทะเป็น 1 อพัพพะ 20**2 X 5.12 X 10**14
20 อพัพพะเป็น 1 อหหะ 20**3 X 5.12 X 10**14
20 อหหะเป็น 1 อฏฏะ 20**4 X 5.12 X 10**14
20 อฏฏะเป็น 1 กุมุทะ 20**5 X 5.12 X 10**14
20 กุมุทะเป็น 1 โสคันธิกะ 20**6 X 5.12 X 10**14
20 โสคันธิกะเป็น 1 อุปปละ 20**7 X 5.12 X 10**14
20 อุปปละเป็น 1 ปุณฑริกะ 20**8 X 5.12 X 10**14
20 ปุณฑริกะเป็น 1 ปทุมะ 20**9 X 5.12 X 10**14
และ 20**9 = 512,000,000,000 = 5.12 X 10**11
ดังนั้น 1 ปทุมะนรก ประมาณ 5.12 X 10**11 X 5.12 X 10**14 ประมาณ 26.2144 X 10**25
ประมาณ 2.62 X 10**26 หรือ 1 ปทุมะนรก ประมาณ 262,144,000,000,000,000,000,000,000 ปีมนุษย์โลก
สิ่งที่น่าสนใจคือ ตามระบบการคำนวณข้างต้น (เช่น ที่ว่า 100 ปี หยิบเมล็ดผักกาดออกหนึ่งอัน) นั้น ตั้งขึ้นเมื่อใด
เพราะหนึ่ง"ปี" ที่ว่า มีกี่วัน หากเป็นระบบเดียวกันกับที่เราใช้ ย่อมหมายความว่า คนที่ให้ระบบนี้มา เกิดภายหลังการบัญญัติระบบ 365.25 วัน = หนึ่งปี
และก่อนหน้านั้น คำจำกัดความของคำว่า กัป คืออะไร (ก่อนหน้าที่จะมีคำว่า "ปี")
และจริงๆแล้ว คำว่า"ปี" ที่เป็น 365.25 วันนั้น เริ่มใช้กันเมื่อใด (ไม่ทราบมีใครทราบบ้างครับ) เพราะผมก็อยากจะรู้ว่า คำว่า"ปี" ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลนั้น ใช้ก่อนหรือหลังการบัญญัติระบบนี้ขึ้นมา
น่าสนใจนะครับ ผมว่า
เพราะหนึ่ง"ปี" ที่ว่า มีกี่วัน หากเป็นระบบเดียวกันกับที่เราใช้ ย่อมหมายความว่า คนที่ให้ระบบนี้มา เกิดภายหลังการบัญญัติระบบ 365.25 วัน = หนึ่งปี
และก่อนหน้านั้น คำจำกัดความของคำว่า กัป คืออะไร (ก่อนหน้าที่จะมีคำว่า "ปี")
และจริงๆแล้ว คำว่า"ปี" ที่เป็น 365.25 วันนั้น เริ่มใช้กันเมื่อใด (ไม่ทราบมีใครทราบบ้างครับ) เพราะผมก็อยากจะรู้ว่า คำว่า"ปี" ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลนั้น ใช้ก่อนหรือหลังการบัญญัติระบบนี้ขึ้นมา
น่าสนใจนะครับ ผมว่า
โอเคครับ จากข้อมูลที่
http://physics.nist.gov/GenInt/Time/ancient.html
กล่าวไว้ว่า หลักฐาน(เท่าที่ค้นพบ)เกี่ยวกับการตั้ง 365 วันเป็นหนึ่งปีเริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 3,100 ปีก่อนคริสตศักราช ที่ประเทศอียิปต์
ซึ่งก็โอเค เพราะโมเสสเขียนพระคัมภีร์สมัยที่เขามีชีวิตอยู่ (สมมติว่าเป็นโมเสส ไม่ใช่คนอื่นภายหลัง อันนี้เป็น worst-case scenario นั่นคือ อย่างเก่าแก่ที่สุดก็โมเสสเขียน) ก็ถือได้ว่าโอเค เพราะคำว่าปีของโมเสสคงจะเป็นปีเดียวกันกับของอียิปต์ เนื่องจากโมเสสเกิดมาประมาณ 1,200 - 1,500 ปีก่อนคริสตศักราช (แล้วแต่ว่าใคร"กะ") ดังนั้นจึงเกิดมาหลังจากที่ระบบนี้ถูกนำมาใช้เรียบร้อยแล้ว และโมเสสก็มาจากอียิปต์ จึงไม่ยากอะไรที่จะนับอะไรๆแบบอียิปต์
ทีนี้มาเรื่องของ "กัป" กันต่อนะครับ ผมอยากทราบว่า คนที่ให้นิยามของ"กัป" เทียบว่าร้อยปีมาเอาเมล็ดผักกาดออกเนี่ย เค้าให้นิยามไว้เมื่อไหร่ครับ และก่อนหน้านั้นใช้อะไรเป็นคำนิยาม
ที่ถามก็เพราะว่า คำว่า"กัป" น่าจะมีมานานนมก่อนพระพุทธเจ้าเสียอีก นั่นคือ สมัยศาสนาฮินดูเริ่มต้นใหม่ๆ (ทั้งนี้ทั้งนั้นผมไม่ทราบแน่นอน) แต่ถ้าศาสนาฮินดูมีอายุหกเจ็ดพันปีอย่างที่ชาวบ้าน(แถบพันทิป)ชอบอ้างถึง ก็ย่อมแสดงว่า คำว่า"กัป" มีใช้มาตั้งแต่ก่อนหน้าที่อารายธรรมอียิปต์จะใช้คำว่า"ปี" และดังนั้น คำอธิบายสมัยนั้นย่อมไม่ใช่ 100 "ปี" หยิบออกหนึ่งเมล็ดอย่างแน่นอน
ผมว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจมากนะครับ ว่า เริ่มใช้คำนี้เมื่อไหร่ และตอนที่ใช้นั้น ให้คำนิยามว่าอะไร
ทำไมจึงน่าสนใจเหรอครับ เพราะคำๆเดียวนี้ อาจจะบอกได้ว่า ศาสนาฮินดู มีอายุนานแค่ไหนไงครับ (จริงอย่างที่ชาวบ้านเค้าว่าไว้หรือเปล่า เวลาเอามาข่มว่า คริสต์หรือยิวมาขโมยความรู้เค้าไป)
คุณ 13 ตาปะมหานรก ในฐานะที่อยากจะศึกษาศาสนาคริสต์ควบคู่ไปกับฮินดู น่าจะถือโอกาสนี้นำตรงนี้ไปเป็นกรณีศึกษานะครับ
;D
http://physics.nist.gov/GenInt/Time/ancient.html
กล่าวไว้ว่า หลักฐาน(เท่าที่ค้นพบ)เกี่ยวกับการตั้ง 365 วันเป็นหนึ่งปีเริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 3,100 ปีก่อนคริสตศักราช ที่ประเทศอียิปต์
ซึ่งก็โอเค เพราะโมเสสเขียนพระคัมภีร์สมัยที่เขามีชีวิตอยู่ (สมมติว่าเป็นโมเสส ไม่ใช่คนอื่นภายหลัง อันนี้เป็น worst-case scenario นั่นคือ อย่างเก่าแก่ที่สุดก็โมเสสเขียน) ก็ถือได้ว่าโอเค เพราะคำว่าปีของโมเสสคงจะเป็นปีเดียวกันกับของอียิปต์ เนื่องจากโมเสสเกิดมาประมาณ 1,200 - 1,500 ปีก่อนคริสตศักราช (แล้วแต่ว่าใคร"กะ") ดังนั้นจึงเกิดมาหลังจากที่ระบบนี้ถูกนำมาใช้เรียบร้อยแล้ว และโมเสสก็มาจากอียิปต์ จึงไม่ยากอะไรที่จะนับอะไรๆแบบอียิปต์
ทีนี้มาเรื่องของ "กัป" กันต่อนะครับ ผมอยากทราบว่า คนที่ให้นิยามของ"กัป" เทียบว่าร้อยปีมาเอาเมล็ดผักกาดออกเนี่ย เค้าให้นิยามไว้เมื่อไหร่ครับ และก่อนหน้านั้นใช้อะไรเป็นคำนิยาม
ที่ถามก็เพราะว่า คำว่า"กัป" น่าจะมีมานานนมก่อนพระพุทธเจ้าเสียอีก นั่นคือ สมัยศาสนาฮินดูเริ่มต้นใหม่ๆ (ทั้งนี้ทั้งนั้นผมไม่ทราบแน่นอน) แต่ถ้าศาสนาฮินดูมีอายุหกเจ็ดพันปีอย่างที่ชาวบ้าน(แถบพันทิป)ชอบอ้างถึง ก็ย่อมแสดงว่า คำว่า"กัป" มีใช้มาตั้งแต่ก่อนหน้าที่อารายธรรมอียิปต์จะใช้คำว่า"ปี" และดังนั้น คำอธิบายสมัยนั้นย่อมไม่ใช่ 100 "ปี" หยิบออกหนึ่งเมล็ดอย่างแน่นอน
ผมว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจมากนะครับ ว่า เริ่มใช้คำนี้เมื่อไหร่ และตอนที่ใช้นั้น ให้คำนิยามว่าอะไร
ทำไมจึงน่าสนใจเหรอครับ เพราะคำๆเดียวนี้ อาจจะบอกได้ว่า ศาสนาฮินดู มีอายุนานแค่ไหนไงครับ (จริงอย่างที่ชาวบ้านเค้าว่าไว้หรือเปล่า เวลาเอามาข่มว่า คริสต์หรือยิวมาขโมยความรู้เค้าไป)
คุณ 13 ตาปะมหานรก ในฐานะที่อยากจะศึกษาศาสนาคริสต์ควบคู่ไปกับฮินดู น่าจะถือโอกาสนี้นำตรงนี้ไปเป็นกรณีศึกษานะครับ
;D
ข้าพเจ้า มีความเห็นด้วย...และ ยินดีที่ได้รับข้อมูลเพิ่ม ข้าพเจ้ายังเจาะลงไปไม่ลึกนัก ....
โดยความคิดเห็นส่วนตัว.....คำนิยามต่างๆ น่าจะเกิด หลังจาก ผู้นำ สิ้นไปแล้ว ... ผู้สืบทอด น่าจะ คิด
กุศโลบาย เพื่มขึ้นเพื่อ ให้ คำสอนต่างๆ ยืนยง และมีการแพร่หลายมากขึ้น
ในส่วนของคำว่ากัป น่าจะมาจากฮินดู .....ครับต้องค้นหาต่อไป.....
โดยความคิดเห็นส่วนตัว.....คำนิยามต่างๆ น่าจะเกิด หลังจาก ผู้นำ สิ้นไปแล้ว ... ผู้สืบทอด น่าจะ คิด
กุศโลบาย เพื่มขึ้นเพื่อ ให้ คำสอนต่างๆ ยืนยง และมีการแพร่หลายมากขึ้น
ในส่วนของคำว่ากัป น่าจะมาจากฮินดู .....ครับต้องค้นหาต่อไป.....
ตามรายชื่อเวปที่ ท่าน Nihil เอ่ยชื่อ มา ข้าพเจ้าก็แวะ ไปทุกเวป นั่นแหละ เอาเป็นว่า ถ้าท่านNihil เขียน: ไม่เคยเห็นเมล็ดผักกาดเหมือนกันแฮะ
ว่าแต่ยังไม่ตอบผมที่นู้นเลยนะครับว่าเจอ web นี้ได้ยังไง ;D
Nihil อ่านบอร์ด BBS บ่อยๆ น่าจะคุ้นเคยกับ 13 บ้างนะ User ของข้าพเจ้าคือกลุ่ม 13 ทั้งกลุ่มนั่นแหละ
ไม่ว่า จะ 13 สังหาร 13ธุดงค์ 13 สว่าน 13โอปาติกะ จองเวร 13ตาปะมหานรก 13เจตสิก มวยคชสาร
บาทาลูบพักตร์ กินรีเล่นน้ำ และ อื่นๆ คือข้าพเจ้าทั้งนั้น......คงไม่ต้องสืบข้าพเจ้าแล้วนะ
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
พี่พี คิดเองเหรอครับไอ่ตัวเลขยึกยือๆ นั่นอ่ะ เห็นตัวเลขแล้วจะเป็นลม - -"
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
โอ้มายก็อด ตัวเลขเยอะจัง แล้วเมื่อไหร่จะใช้เวรใช้กรรมหมดล่ะ
ถ้าพี่P มีนิ้วไม่พอ เจี๊ยบให้ยืมนะงับ :D
ถ้าพี่P มีนิ้วไม่พอ เจี๊ยบให้ยืมนะงับ :D
P เขียน: โอ้ หาเจอแล้วครับ จาก http://www.geocities.com/ss12345_th/304.html
+++++++
ต่อไปจะเทียบระยะเวลา 1 กัป 1 อสงไขย และ 1 ปทุมะนรก
ให้พิจารณากันดู เพื่อปลงสังเวช กับอัตตา(อวิชชา)ของสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งเป็นค่าโดยประมาณ อาจจะมีความคลาดเคลื่อนมากกว่านี้ก็ได้ ใครมีความรู้ในทางคณิตศาสตร์ ก็สามารถช่วยแสดงความคิดเห็น เพื่อจะได้ค่าที่ถูกต้องมากขึ้น
เรื่องของ กัป จากพระไตรปิฏกประมาณคำว่า 1 กัปได้ดังนี้
สมมุติมีกล่องใบหนึ่ง กว้าง 100 โยชน์ ยาว 100โยชน์ และ สูง 100 โยชน์ ในเวลา 100 ปี ให้เอาเมล็ดผักกาด 1 เมล็ด ใส่ลงไปในกล่องนั้น ทำอย่างนี้จนเมล็ดผักกาดนั้นเต็มเสมอเรียบปากกล่อง นั้นละจึงเท่ากับ 1 กัป
(บางตำรากล่าวว่า กว้าง 1 โยชน์ ยาว 1 โยชน์ สูง 1 โยชน์)
วิเคราะห์คำนวณ 1 โยชน์ = 16 กิโลเมตร
ดังนั้นกล่องใบนี้มีปริมาตร = 1600X1600X1600 = 4,096,000,000 ลูกบาตกิโลเมตร
ประมานว่า เมล็ดผักกาด มีขนาด .5 มิลลิเมตร
1 กิโลเมตรเทียบเป็นมิลลิเมตรได้ดังนี้ 10X100X1000 = 1,000,000 มิลลิเมตร
จะได้ 1 กิโลเมตรใช้เมล็ดผักกาดเรียงกัน = (1,000,000)/0.5 = 2,000,000 เมล็ด
ดังนั้น 1600 กิโลเมตรใช้เมล็ดผักกาดเรียงกัน = 1600X2,000,000 = 3,200,000,000 เมล็ด
ถ้าเป็นปริมาตร คือ กว้าง*ยาว*สูง ต้องใช้เมล็ดผักกาดทั้งหมด คือ
3,200,000,000X3,200,000,000X3,200,000,000 = 32,768,000,000,000,000,000,000,000,000 เมล็ด
ใน 100 ปี ใส่เมล็ดผักเพียง 1 เมล็ด ดังนั้นต้องใช้เวลาทั้งหมดคือ
32,768,000,000,000,000,000,000,000,000X100 = 3,276,800,000,000,000,000,000,000,000,000 ปี
จึงได้เวลา 1 กัป ประมาณ สามล้านสองแสนเจ็ดหมื่นหกพันแปดร้อยล้านล้านล้านล้าน ปี
ประมาณ 3.3 X 10**30 ปี
เครื่องหมาย ** เป็นเครื่องหมาย ยกกำลัง
(หมายเหตุ บางตำรากล่าวว่า กว้าง 1 โยชน์ ยาว 1 โยชน์ สูง 1 โยชน์ จึงได้ 1 กัป ประมาณ 3.3
X 10**24 ปี โดยเอา 0 ออกไป 6 ตัว จากค่าที่คำนวณได้ในครั้งแรก)
เรื่องของอสงไขย จากหนังสือสัมภาระโพธิญาณ (จำไม่ค่อยได้) เป็นหนังสือเก่ามากแล้ว เรียบเรียงก่อนที่ผมเกิดเสียอีกประมาณ 42 ปีมาแล้ว เสียดายไม่ได้จดชื่อผู้เรียบเรียง แต่ค่าที่ได้ก็ตรงกับผู้ที่คำนวณไว้ก่อน สามารถนับ 1 อสงไขย และเทียบกับหน่วยนับปัจจุบันได้ดังนี้
สิบ สิบหน เป็น ร้อย 10**2
สิบร้อย เป็น พัน 10**3
สิบพัน เป็น หมื่น 10**4
สิบหมื่น เป็น แสน 10**5
ร้อยแสน เป็น โกฏิ 10**7
ร้อยแสนโกฏิ เป็น ปโกฏิ 10**7 X 10**7 = 10**14
ร้อยแสนปโกฏิ เป็น โกฏิปโกฏิ 10**7 X 10**14 = 10**21
ร้อยแสนโกฏิปโกฏิ เป็น นนุตหนึ่ง 10**7 X 10**21 = 10**28
ร้อยแสนนนุต เป็น นินนนุตหนึ่ง 10**7 X 10**28 = 10**35
ร้อยแสนนินนุต เป็น อักโขภินีหนึ่ง 10**7 X 10**35 = 10**42
ร้อยแสนอักโขภินี เป็น พินทะหนึ่ง 10**7 X 10**42 = 10**49
ร้อยแสนพินทะ เป็น อัพภูทะหนึ่ง 10**7 X 10**49 = 10**56
ร้อยแสนอัพภูทะ เป็น นิรพุทะหนึ่ง 10**7 X 10**56 = 10**63
ร้อยแสนนิรพุทะ เป็น อหนะหนึ่ง 10**7 X 10**63 = 10**70
ร้อยแสนอหนะ เป็น อพพะหนึ่ง 10**7 X 10**70 = 10**77
ร้อยแสนอพพะ เป็น อฏฏะหนึ่ง 10**7 X 10**77 = 10**84
ร้อยแสนอฏฏะ เป็น โสคันธิกะหนึ่ง 10**7 X 10**84 = 10**91
ร้อยแสนโสคันธิกะ เป็น อุปละหนึ่ง 10**7 X 10**91 = 10**98
ร้อยแสนอุปละ เป็น กมุมะหนึ่ง 10**7 X 10**98= 10**105
ร้อยแสนกมุมะ เป็น ปทุมะหนึ่ง 10**7 X 10**105= 10**112
ร้อยแสนปทุมะเป็น ปุณฑริกะหนึ่ง 10**7 X 10**112= 10**119
ร้อยแสนปุณฑริกะ เป็น อกถานหนึ่ง 10**7 X 10**119= 10**126
ร้อยแสนอกถาน เป็น มหากถานหนึ่ง 10**7 X 10**126= 10**133
ร้อยแสนมหากถาน เป็น อสงไขยหนึ่ง10**7 X 10**133= 10**140
ดังนั้น 1 อสงไขย = สิบยกกำลัง หนึ่งร้อยสีสิบ หรือ 1 ตามด้วย 0 จำนวน 140 มหากัป
ข้อสังเกต จำนวนปีของมนุษย์โลกเทียบกับ 1 กัปนั้นยังมีความคลาดเคลื่อนอีกมากมาย จึงไห้ถือกำหนดเอา โลกจักรวาลเมื่อก่อกำเนิดขึ้นจนกระทั้งพังทลายศูนย์หายไป 1 ครั้ง เป็น 1 กัป แต่จำนวน 1 อสงไขยมีกี่กัปนั้นเป็นจำนวนที่แน่นอน คือ 1 ตามด้วยเลข 0 จำนวน 140 ตัว หรือ 1 X 10**140
อายุขัยของเทวดาเทียบกับปีของมนุษย์โลก หนึ่ง 1 ปีทิพย์ของสวรรค์แต่ละชั้น เท่ากับ 360 วันทิพย์ของสวรรค์แต่ละชั้น
ชั้นจาตุมีอายุ 500 ปีทิพย์ 1 วันทิพย์ เท่ากับ 50 ปีโลกมนุษย์ ดังนั้นเท่ากับ 500X360X50 = 9,000,000 ปี
ชั้นดาวดึงส์ " " 1000 " " 1 " " 100 " " เท่ากับ 36,000,000 ปี
ชั้นยามา " " 2000 " " 1 " " 200 " " เท่ากับ 144,000,000 ปี
ชั้นดุสิต " " 4000 " " 1 " " 400 " " เท่ากับ 576,000,000 ปี
ชั้นนิมมา " " 8000 " " 1 " " 800 " " เท่ากับ 2,304,000,000 ปี
ชั้นปรมิน " " 16000 " " 1 " " 1600 " " เท่ากับ 9,216,000,000 ปี
อายุของพระพรหม รูปฌาน 1 ถึง รูปฌาน 4
รูปฌาน 1 มีอยู่ 3 ชั้น
สมาธิอย่างอ่อน ปาริสัชนาพรหม มีอายุ 1/3 กัป
สมาธิอย่างกลาง ปุโรหิตพรหม มีอายุ 1/2 กัป
สมาธิอย่างสูง มหาพรหม มีอายุ 1 กัป
รูปฌาน 2 มีอยู่ 3 ชั้น
สมาธิอย่างอ่อน ปริตตาภาพรหม มีอายุ 2 กัป
สมาธิอย่างกลาง อัปปมาณภาพรหม มีอายุ 4 กัป
สมาธิอย่างสูง อาภัสสราพรหม มีอายุ 8 กัป
รูปฌาน 3 มีอยู่ 3 ชั้น
สมาธิอย่างอ่อน ปริตตสุภาพรหม มีอายุ 16 กัป
สมาธิยย่างกลาง อัปปมาณสุภาพรหม มีอายุ 32 กัป
สมาธิอย่างสูง สุภกิณหาพรหม มีอายุ 64 กัป
รูปฌาน 4 มีอยู่ 2 ชั้น
เวหัปผลพรหม มีอายุ 500 กัป
อสัญญสัตราพรหม มีอายุ 500 กัป
สุทธาวาสพรหม มี 5 ชั้น เป็นภพของพระอนาคามี
1. อวิหา มีอายุ 1,000 กัป
2. อตัปปา มีอายุ 2,000 กัป
3. สุทัสสา มีอายุ 4,000 กัป
4. สุทัสสี มีอายุ 8,000 กัป
5. อกนิฏฐา มีอายุ 16,000 กัป
อรูปพรหม มี 4 ชั้น
1.อากาสานัญจายตนพรหม มีอายุ 20,000 กัป
2.วิญญาณัญจายตนพรหม มีอายุ 40,000 กัป
3.อากิญจัญญายตนพรหม มีอายุ 60,000 กัป
4.เนวสัญญานาสัญญายตนาพรหม มีอายุ 84,000 กัป
พิจารณาดูจะเห็นว่า เมื่อมีพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น 1 พระองค์ ขณะที่พระองค์มีพระชนชีพอยู่ แสงสว่างของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ กระจายไปทั่วสากลจักวาลอย่างรวดเร็ว เหมือนกับสายฟ้าแลบ และแสงสว่างแห่งธรรมนั้นยังคงสว่างสไหวอยู่
เมื่อพระองค์ดับขันท์ปรินิพพานแม้อายุขัยของภพมนุษย์นั้นจะเพียงน้อยนิด แต่แสงสว่างในธรรมนั้นก็ค่อยทยอยดับอย่างช้าๆ เริ่มต้นจากโลกมนุษย์นี้ก่อน แล้วทยอยดับไปยัง สวรรค์ชั้นจาตุ ชั้นดาวดึงส์ ชั้นยามา ชั้นดุสิต ชั้นนิมมา ชั้นปรมิน
แล้วทยอยดับไปที่ รูปพรหมของฌานทั้ง 4 ซึ่งทยอยดับไปที่ละชั้น จนถึงสุทธาวาสพรหมทั้ง 5 ชั้นทยอยดับที่ละชั้น จนถึงอรูปพรหม ที่พระอริยะบางท่านจุติอยู่ ถ้ายังไม่มีพระพุทธเจ้าพระองค์ใหม่บังเกิดขึ้นในโลก แสงสว่างของธรรมจากพระพุทธองค์นั้นเมื่อบังเกิดขึ้น แล้วทยอยดับจนหมดสิ้น ใช้เวลาเป็นแสนกัป รอจนพระพุทธเจ้าองค์ใหม่อุบัติขึ้นมาใหม่ในโลก แสงสว่างแห่งธรรมนี้ ไม่มีมนุษย์หรือเทพหรือพระพรหมองค์ใดจะกระทำได้ มีแต่เพียงพระพุทธเจ้าเท่านั้นจึงทำให้บังเกิดขึ้นได้
เปรียบเทียบอายุในอเวจีนรก 1 ปทุมนรก กับมนุษย์โลกได้ ดังมีในพระไตรปิฏกดังนี้
เมล็ดงา 1 เกวียน มีอัตรา 20 ขารี 1 ขารีเท่ากับ 256 ทะนาน เมื่อล่วงไป 1 แสนปีเอาเมล็ดงาออกจากเกวียน 1 เมล็ดทำจนหมดจากเกวียน ก็ยังไม่ถึง 1 อัพพุทะในนรกเลย การเปรียบเทียบ 1 อัพพุทะ ตามมาตรตราปัจจุบันอย่างคล่าวๆ
1 ทะนาน เท่ากับ 1 ลิตร
1 ลิตร เท่ากับ 1000 ลูกบาศเชนติเมตร
เมล็ดงา 1 เมล็ด ประมาณ 1 มิลิเมตร ดังนั้น 1 เชนติเมตร เอาเมล็ดงาเรียงกันได้ 10 เมล็ด
จะได้ 1 ลูกบาศเชนติเมตร จะมีจำนวน เมล็ดงา ประมาณ 10 X10 X 10 = 1000 เมล็ด
จะได้ 1 ลิตรมีเมล็ดงาประมาณ 1000X1000 ประมาณ 1,000,000 เมล็ด
จะได้ 1 ทะนานจะมีเมล็ดงาประมาณ 1,000,000 เมล็ด
จะได้ 1 ขารีจะมีเมล็ดงาประมาน 256 X 1,000,000 ประมาณ 256,000,000 เมล็ด
จะได้ 1 เกวียนจะมีเมล็ดงาประมาณ 20 X 256,000,000 ประมาณ 5,120,000,000 เมล็ด
จะได้เวลาทั้งหมดเมื่อหยิบเมล็ดงาออกหมดเกวียน ประมาณ 100,000 X 5120,000,000 ปี
ประมาณ 512,000,000,000,000 ปี
ซึ่งยังไม่ถึง 1 อัพพุทะ แต่ก็ประมาณ 512,000,000,000,000 ปี หรือ 5.12 X 10**14 จึงเอาไปแทนค่าตามข้างล่าง
20 อัพพุทะ เป็น 1 นิรัพพุทะ 20**1 X 5.12 X 10**14
20 นิรัพพุทะเป็น 1 อพัพพะ 20**2 X 5.12 X 10**14
20 อพัพพะเป็น 1 อหหะ 20**3 X 5.12 X 10**14
20 อหหะเป็น 1 อฏฏะ 20**4 X 5.12 X 10**14
20 อฏฏะเป็น 1 กุมุทะ 20**5 X 5.12 X 10**14
20 กุมุทะเป็น 1 โสคันธิกะ 20**6 X 5.12 X 10**14
20 โสคันธิกะเป็น 1 อุปปละ 20**7 X 5.12 X 10**14
20 อุปปละเป็น 1 ปุณฑริกะ 20**8 X 5.12 X 10**14
20 ปุณฑริกะเป็น 1 ปทุมะ 20**9 X 5.12 X 10**14
และ 20**9 = 512,000,000,000 = 5.12 X 10**11
ดังนั้น 1 ปทุมะนรก ประมาณ 5.12 X 10**11 X 5.12 X 10**14 ประมาณ 26.2144 X 10**25
ประมาณ 2.62 X 10**26 หรือ 1 ปทุมะนรก ประมาณ 262,144,000,000,000,000,000,000,000 ปีมนุษย์โลก
http://larndham.net/index.php?showtopic=12807&st=24
1 กัป เท่ากับ 3,276,800,000,000,000,000,000,000 ปี
แต่จากในตำรา เมื่อนับเป็นจำนวน อันตรกัป ได้ว่า 1 กัป เท่ากัน 64+64+64+64 เท่ากับ 256 อันตรกัป จึงสามารถคำนวณว่า 1 อันตรกัป มีระยะเวลากี่ปี ก็คือเอา 256 ไปหารจำนวนปีที่ได้ใน 1 กัป
ก็จะได้ 1 อันตรกัป เท่ากับ 12,800,000,000,000,000,000,000 ปี
เป็นอันว่าผมเริ่มได้ค่าที่เข้าใกล้ระยะเวลา จากปัจจุบัน จนถึงสมัยของพระศรีอริยะเมตตรัยที่จะอุบัติขึ้นเบื้องหน้าในอนาคตแล้ว ซึ่งสามารถหาค่าโดยประมาณด้วยการเปรียบเทียบได้ดังนี้
ปัจจุบัน อายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์อยู่ที่ 75 ปี สมัยพุทธกาลที่พระพุทธเจ้ามีพระชนชีพอยู่ อายุเฉลี่ยของมนุษย์ คือ 100 ปี ขณะนี้ผ่านมา 2547 ปีแล้ว ดังนั้นอายุขัยโดยเฉลี่ยของมนุษย์อยู่ที่ 75 ปี และเมื่อผ่านไป 100 ปีข้างหน้า อายุขัยเฉลี่ยก็จะลดลง 74 ซึ่งจะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ทุก 100 ปี เมื่ออายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์อยู่ที่ 50 ปี พระพุทธศาสนาของปัจจุบันเรานี้ก็หมดสิ้นแล้ว หลังจากนั้นอายุขัยของมนุษย์ลดลงเรื่อย ๆ จนถึง 10 ปี ต่อจากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปครบ 100 ปี อายุขัยของมนุษย์ ก็เพิ่มอีก 1 ปี เป็นอายุขัยโดยเฉลี่ย 11 ปี หลังจากนั้นอายุขัยของมนุษย์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนมากมาย กล่าวเป็นภาษาพูดแบบชาวบ้านไม่ได้ (ปัจจุบันนี้เรามีวิทยาศาสตร์เจริญขึ้น ดังนั้นสามารถเขียนตัวเลขที่มากมายได้) เมื่ออายุขัยมนุษย์มากมายนักถึงที่สุดก็เริ่มลดลง ผ่านไป 100 ปี ลดลง 1 ปี เป็นดังนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงที่อายุขัยของมนุษย์ แปดหมืนปี (80,000) พระศรีอริยะเมตตรัยก็จะอุบัติขึ้นเป็นพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงอยู่ในตะกุลของพราหมณ์มหาศาล และมีพระเจ้าจักรพรรดิย์ พระนามว่าสังขะปดครองโลกอยู่
จากข้างบนที่ผมบรรยายนั้น ก็คือ 1 อันตรกัป หย่อนไปหน่อยหนึ่ง ถ้าจะให้ครบ 1 อันตรกัปพอดีก็ต้องรอให้อายุขัยของมนุษย์ลดลงที่ 75 ปีพอดี ซึ่งสามารถที่จะคำนวณผลต่างนี้ได้ ก็คือ
จากอายุขัยของมนุษย์ 80,000 ปี จนถึง อายุขัยมนุษย์ 75 ปี มีผลต่าง เท่ากับ 79,925 ปี
ดังนั้นจำนวนปีทั้งหมดที่อายุขัยของมนุษย์ลดจาก 80,000 จนเหลือ 75 ปี คือ 79,925 x 100
ก็เท่ากับ 7,992,500 ปี
ดังนั้นจากปัจจุบันของเรานี้ จนถึงสมัยของพระศรีอริยะเมตตรัยในอนาคตนั้น ต้องใช้เวลาถึง
12,800,000,000,000,000,000,000 - 7,992,500 เท่ากับ 12,799,999,999,999,992,007,500 ปี
ยินดีต้อนรับครับ
อ่านๆมา รู้สึกว่า 1 กัปนี่นานจน...... อืม :-\
อ่านๆมา รู้สึกว่า 1 กัปนี่นานจน...... อืม :-\
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
อย่าว่าแต่ 1 กับนานเลย แค่อ่านก็นานแล้ว(เหนื่อยด้วย - - )
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
โอ้ย ตาลาย กะอาจารย์ชายน้อย
ยินดีต้อนรับครับ
ยินดีต้อนรับครับ
ตาลายเหมือนกัน เอิ๊ก
แต่บอกว่าอยู่ web ที่ผมบอกหมดแสดงว่าอยู่บอร์ด smn ด้วยหรือเนี่ย !!!
แต่บอกว่าอยู่ web ที่ผมบอกหมดแสดงว่าอยู่บอร์ด smn ด้วยหรือเนี่ย !!!
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
เห็นด้วยว่า....แค่สามแถวแรกก็เลิกดูแล้ว
เพราะ..เรา...ตกเลข ง่า ง่า ตาจะบอด +_+
เพราะ..เรา...ตกเลข ง่า ง่า ตาจะบอด +_+
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
แค่เห็นตัวเลข ก็เผ่นแน่บ แล้ว ไม่ถูกโรคกับมัน