พระสันตะปาปาประกาศสละตำแหน่งแล้ว (17 ก.พ. 2013)
11 February 2013
เป็นข่าวช็อกไปทั่วโลก เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงประกาศลาออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลทางสุขภาพ โดยจะมีผลอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 20.00 น. (ตรงกับ 02.00 น. วันที่ 1 มีนาคม 2013 ตามเวลาประเทศไทย)
หลังจากพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ลาออกอย่างเป็นทางการแล้ว พระองค์จะเสด็จไปพำนักที่พระราชวังฤดูร้อน คาสเตล กันดอลโฟ พระองค์ตัดสินใจจะใช้ชีวิตอย่างสันโดษแบบนักพรต โดยจะสวดภาวนาอย่างเงียบๆตามลำพังไปตลอดชีวิตที่เหลือ
ในส่วนของการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่ วาติกันแถลงว่า น่าจะมีขึ้นกลาง-ปลายเดือนมีนาคม 2013 ส่วนพระสันตะปาปาองค์ใหม่น่าจะได้รับเลือกในช่วงปาสกา (วันอาทิตย์ปาสกาคือ 31 มีนาคม 2013)
การตัดสินใจสละตำแหน่งในครั้งนี้ สื่อมวลชนทั่วโลกพร้อมใจ “สดุดี” พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ เพราะนี่คือการตัดสินใจที่กล้าหาญและเด็ดเดี่ยวมาก ทั่วโลกยกย่องว่าทรงถ่อมตนแบบสุภาพ ไม่ยึดติดกับตำแหน่ง และยอมรับความอ่อนแอของตนเองว่าไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ คนแบบนี้ หาได้ยากนักในสังคมทุกวันนี้
และข้างล่างนี้ คือพระดำรัสที่พระสันตะปาปาได้แจ้งแก่คณะพระคาร์ดินัล ถึงการสละสมณสมัยของพระองค์
..........................
พี่น้องที่รัก
พ่อเรียกพวกท่านมารวมกันในการประชุมคณะพระคาร์ดินัล ไม่ใช่แค่เรื่องการสถาปนานักบุญใหม่ทั้ง 3 กรณี แต่ยังอยากจะแจ้งพวกท่านได้ทราบถึงการตัดสินใจที่สำคัญต่อชีวิตของพระศาสนจักร
หลังจากไตร่ตรองความรู้สึกครั้งแล้วครั้งเล่าต่อหน้าพระเจ้า พ่อได้บทสรุปที่แน่นอนเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเอง ด้วยเหตุที่อายุมากขึ้น มันจึงเป็นเรื่องไม่คู่ควรที่จะปฏิบัติหน้าที่พระสันตะปาปาได้เต็มความสามารถ ประกอบกับความสำคัญฝ่ายจิต พ่อตระหนักดีว่าการอภิบาลต้องได้รับการลงมือปฏิบัติไม่ใช่แค่ทางวาจาและการกระทำ แต่สิ่งที่ต้องทำไม่น้อยไปกว่ากันก็คือการสวดภาวนาและการพลีกรรม อย่างไรก็ตาม โลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและมีเรื่องมากมายที่สั่นคลอนชีวิตความเชื่ออย่างลึกซึ้ง
เพื่อให้การปกครองนาวาของนักบุญเปโตรและการประกาศพระวรสารเป็นไปด้วยดี ความเข้มแข็งทางความคิดและร่างกายจึงเป็นเรื่องจำเป็น แต่ความเข้มแข็งที่ว่านี้ ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมาได้อ่อนแรงลงมากในตัวพ่อ พ่อจึงจำเป็นต้องไตร่ตรองถึงการขาดคุณสมบัติที่จะทำหน้าที่อภิบาลได้อย่างเต็มความสามารถ
ด้วยเหตุนี้ อาศัยการพิจารณาถึงความสำคัญของการกระทำที่จะเกิดขึ้น และอาศัยอิสรภาพในการตัดสินใจ พ่อขอประกาศว่า พ่อขอสละตำแหน่งพระสังฆราชแห่งกรุงโรมและพระสันตะปาปาผู้สานงานต่อจากนักบุญเปโตรซึ่งคณะพระคาร์ดินัลได้มอบความวางใจให้พ่อทำหน้าที่นี้ เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2005 และนับตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป บัลลังก์ของนักบุญเปโตรและตำแหน่งพระสันตะปาปาจะว่างลง จากนั้น การเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่จะได้รับการจัดขึ้น
พี่น้องที่รัก พ่อขอบคุณพวกท่านจากใจจริงสำหรับความรักและความช่วยเหลือที่พวกท่านได้ให้พ่อในการทำงานอภิบาล พ่ออยากขอโทษสำหรับความผิดบกพร่องต่างๆ ตั้งแต่นี้ไป ขอให้เรามอบพระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์ไว้ในความดูแลของพระเยซูคริสต์พระเจ้าของเรา อาศัยการเสนอวิงวอนของแม่พระผู้ศักดิ์สิทธิ์ แม่พระจะช่วยเหลือคณะพระคาร์ดินัลในการเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ส่วนตัวพ่อเอง พ่อปรารถนาที่จะอุทิศชีวิตในอนาคต ด้วยการรับใช้พระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าผ่านทางการสวดภาวนา
ให้ไว้ ณ นครรัฐวาติกัน 10 กุมภาพันธ์ 2013
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16
http://www.popereport.com/2013/02/17-2013.html
+++ พระสันตะปาปาประกาศสละตำแหน่งแล้ว +++
- salvation7
- Defender of lawS
- โพสต์: 522
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 31, 2010 1:05 am
- ติดต่อ:
ขอบคุณ พี่ Holy มากที่แบ่งปัน
เห็นข่าวเมื่อคืนแล้วค่ะ กำลังตามข่าวพอดีเลยค่ะ
เห็นข่าวเมื่อคืนแล้วค่ะ กำลังตามข่าวพอดีเลยค่ะ
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
เมื่อกี้เห็นจากเว็บเมืองนอกตกใจมากเลยรีบเข้ามาเช็ค ปรากฏว่าเป็นเรื่องจริง
จริงๆแล้วที่เคยอ่านมาตำแหน่งนี้ได้รับเลือกโดยพระจิตเจ้าเองแล้วจะต้องรับไปจนกว่าจะสิ้นอายุและไม่สามารถสละได้นี่ครับ
จริงๆแล้วที่เคยอ่านมาตำแหน่งนี้ได้รับเลือกโดยพระจิตเจ้าเองแล้วจะต้องรับไปจนกว่าจะสิ้นอายุและไม่สามารถสละได้นี่ครับ
-
- โพสต์: 164
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 24, 2011 2:17 pm
พระคาร์ดินัลปีเตอร์ อัปเปียห์ เติร์กสัน แห่งกานา ซึ่งเป็นหนึ่งในสองชาวแอฟริกาที่ถูกมองว่า จะขึ้นเป็นพระสันตะปาปาองค์ใหม่สืบแทนสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 16 กล่าวให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์รายวันเอล เมสเซ็กเกโร ในอิตาลีว่า โลกอาจพร้อมสำหรับโป๊ปชาวแอฟริกัน และว่า แอฟริกาเป็นทวีปสำคัญของชาวคาทอลิก......
----------------------------------------------------
สมเด็จพระสันตะปาปาเปโตรที่ 2
This page has some issues
สมเด็จพระสันตะปาปาเปโตรที่ 2 (อังกฤษ: Pope Peter II) เป็นพระนามพระสันตะปาปาที่สมมุติขึ้น และในระยะหลังนี้ เป็นชื่อสามัญของกลุ่มเซเดวาแคนทิซึม (Sedevacantism) ที่อุปโลกน์ตัวเป็นสันตะปาปา
ซ่อน
ชื่อและความหมายโดยนัย
นอกเหนือไปจากนักบุญเปโตรอัครทูตซึ่งชาวคริสต์ถือกันว่าเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์แรกนั้น ไม่มีพระสันตะปาปาพระองค์ใดเคยใช้พระนามว่า "เปโตร" อีกเลย และเป็นที่เล็งเห็นได้ว่า จะไม่มีพระสันตะปาปาพระองค์ใดในอนาคตกาลจะทรงเลือกใช้พระนามเช่นนั้นด้วย กระนั้น มีพระสันตะปาปาหลายพระองค์ที่ทรงใช้ชื่อบัปติศมาว่า "เปโตร" (อาจสะกดต่างออกไปสุดแต่ภูมิภาค) พระองค์ล่าสุดคือสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 13 ซึ่งทรงมีชื่อบัปติศมาว่า เปียโตร ออร์ซีนี (Pietro Orsini)
ทั้งนี้ เป็นเพราะวรรคสุดท้ายของสันตะวจนะ (Prophecy of the Popes) บทประพันธ์อันเป็นที่รู้จักกันกว้างขวางในวงการคาทอลิก และว่ากันว่าเป็นผลงานของนักบุญแมลาไค (St. Malachy) นั้น บรรยายไว้ทำนองพยากรณ์ว่า "เปโตรชาวโรมัน" (Petrus Romanus) จะเป็นพระสันตะปาปาพระองค์สุดท้าย วรรคนั้นว่า[1]
“
"ระหว่างการประหัตประหารสุดท้ายของพระศาสนจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ บัลลังก์จักถูกครองโดยปีเตอร์ ชาวโรมัน ผู้ซึ่งจะเลี้ยงดูฝูงแกะของเขาอย่างแสนยากเย็น และเมื่อการนี้บรรลุ นครสัตบริภัณฑ์จักถึงแก่กาลวินาศ ตุลาการผู้น่าหวั่นเกรงจักพิพากษาหมู่ชนของเขา สิ้นแล"
”
“
"In persecutione extrema S.R.E. sedebit Petrus Romanus, qui pascet oves in multis tribulationibus: quibus transactis civitas septicollis diruetur, et Iudex tremêndus iudicabit populum suum. Finis."
”
“
"During the final persecution of the Holy Roman Church, the seat will be occupied by Peter the Roman, who will feed his sheep in many tribulations; and when these things are finished, the seven-hilled city will be destroyed, and the formidable Judge will judge his people. The End."
”
มีการตีความวรรคข้างต้นกันไปต่าง ๆ นานา กระแสหลักนั้นเห็นว่า สมเด็จพระสันตะปาปาปีเตอร์ที่ 2 จะเสด็จขึ้นสู่ตำแหน่งถัดจากสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16
..........................คงคิดมากไปมั้งเรา
----------------------------------------------------
สมเด็จพระสันตะปาปาเปโตรที่ 2
This page has some issues
สมเด็จพระสันตะปาปาเปโตรที่ 2 (อังกฤษ: Pope Peter II) เป็นพระนามพระสันตะปาปาที่สมมุติขึ้น และในระยะหลังนี้ เป็นชื่อสามัญของกลุ่มเซเดวาแคนทิซึม (Sedevacantism) ที่อุปโลกน์ตัวเป็นสันตะปาปา
ซ่อน
ชื่อและความหมายโดยนัย
นอกเหนือไปจากนักบุญเปโตรอัครทูตซึ่งชาวคริสต์ถือกันว่าเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์แรกนั้น ไม่มีพระสันตะปาปาพระองค์ใดเคยใช้พระนามว่า "เปโตร" อีกเลย และเป็นที่เล็งเห็นได้ว่า จะไม่มีพระสันตะปาปาพระองค์ใดในอนาคตกาลจะทรงเลือกใช้พระนามเช่นนั้นด้วย กระนั้น มีพระสันตะปาปาหลายพระองค์ที่ทรงใช้ชื่อบัปติศมาว่า "เปโตร" (อาจสะกดต่างออกไปสุดแต่ภูมิภาค) พระองค์ล่าสุดคือสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 13 ซึ่งทรงมีชื่อบัปติศมาว่า เปียโตร ออร์ซีนี (Pietro Orsini)
ทั้งนี้ เป็นเพราะวรรคสุดท้ายของสันตะวจนะ (Prophecy of the Popes) บทประพันธ์อันเป็นที่รู้จักกันกว้างขวางในวงการคาทอลิก และว่ากันว่าเป็นผลงานของนักบุญแมลาไค (St. Malachy) นั้น บรรยายไว้ทำนองพยากรณ์ว่า "เปโตรชาวโรมัน" (Petrus Romanus) จะเป็นพระสันตะปาปาพระองค์สุดท้าย วรรคนั้นว่า[1]
“
"ระหว่างการประหัตประหารสุดท้ายของพระศาสนจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ บัลลังก์จักถูกครองโดยปีเตอร์ ชาวโรมัน ผู้ซึ่งจะเลี้ยงดูฝูงแกะของเขาอย่างแสนยากเย็น และเมื่อการนี้บรรลุ นครสัตบริภัณฑ์จักถึงแก่กาลวินาศ ตุลาการผู้น่าหวั่นเกรงจักพิพากษาหมู่ชนของเขา สิ้นแล"
”
“
"In persecutione extrema S.R.E. sedebit Petrus Romanus, qui pascet oves in multis tribulationibus: quibus transactis civitas septicollis diruetur, et Iudex tremêndus iudicabit populum suum. Finis."
”
“
"During the final persecution of the Holy Roman Church, the seat will be occupied by Peter the Roman, who will feed his sheep in many tribulations; and when these things are finished, the seven-hilled city will be destroyed, and the formidable Judge will judge his people. The End."
”
มีการตีความวรรคข้างต้นกันไปต่าง ๆ นานา กระแสหลักนั้นเห็นว่า สมเด็จพระสันตะปาปาปีเตอร์ที่ 2 จะเสด็จขึ้นสู่ตำแหน่งถัดจากสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16
..........................คงคิดมากไปมั้งเรา