ภาพนี้มีรางวัล ค่ะ

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. ก.พ. 21, 2013 11:54 pm

น้องๆลองดูภาพข้างล่างนะคะ เป็นภาพเหตุการณ์ต่างๆในพระคัมภีร์ เรื่องอะไร อยู่บทอะไร ข้ออะไร
ใครตอบถูกต้องหมดคนแรก มีรางวัลให้ค่ะ...

รูปภาพ
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ ศุกร์ ก.พ. 22, 2013 2:00 pm, แก้ไขไปแล้ว 2 ครั้ง.
lovelovebaby
โพสต์: 79
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ พ.ย. 30, 2012 3:56 am

ศุกร์ ก.พ. 22, 2013 3:39 am

หนูอยากได้มากๆเลยค่ืะ T^T

***หมายเหตุ*** ขอไม่เรียงเรื่องนะคะ*-*

เรื่องที่1 อุปมาเรื่องลูกล้างผลาญ และลูกที่คิดว่าตนทำดีแล้ว

ลก บทที่15ข้อ11-32

คือบุตรคนเล็กขอสมบัติจากบิดา..สมบัติที่เป็นมรดกของเขา
บิดาเลยแบ่งสมบัติให้ลูกทั้งสองคน ต่อมาไม่นาน บุตรคนเล็กรวบรวมทุกสิ่งที่มีแล้วเดินทางไปยังประเทศห่างไกล ที่นั่นเขาประพฤติเสเพลผลาญเงินทองจนหมดสิ้น
เมื่อเขาหมดตัว ก็เกิดกันดารอาหารอย่างหนักทั่วแถบนั้น และเขาเริ่มขัดสน จึงไปรับจ้างอยู่กับชาวเมืองคนหนึ่ง คนนั้นใช้เขาไปเลี้ยงหมูในทุ่งนาเขาอยากกินฝักถั่วที่หมูกินเพื่อระงับความหิว แต่ไม่มีใครให้ เขาจึงรู้สำนึกและคิดว่า "คนรับใช้ของพ่อฉันมีอาหารกินอุดมสมบูรณ์ ส่วนฉันอยู่ที่นี่ หิวจะตายอยู่แล้ว ฉันจะกลับไปหาพ่อ พูดกับพ่อว่า "พ่อครับ ลูกทำบาปผิดต่อสวรรค์และต่อพ่อ ลูกไม่สมควรได้ชื่อว่าเป็นลูกของพ่ออีก โปรดนับว่าลูกเป็นผู้รับใช้คนหนึ่งของพ่อเถิด" เขาก็กลับไปหาบิดา ‘ขณะที่เขายังอยู่ไกล บิดามองเห็นเขา รู้สึกสงสาร จึงวิ่งไปสวมกอดและจูบเขา บุตรจึงพูดกับบิดาว่า "พ่อครับ ลูกทำบาปผิดต่อสวรรค์และต่อพ่อ ลูกไม่สมควรได้ชื่อว่าเป็นลูกของพ่ออีก" แต่บิดาพูดกับผู้รับใช้ว่า "เร็วเข้า จงไปนำเสื้อสวยที่สุดมาสวมให้ลูกเรา นำแหวนมาสวมนิ้ว นำรองเท้ามาใส่ให้ จงนำลูกวัวที่ขุนอ้วนแล้วไปฆ่า แล้วกินเลี้ยงฉลองกันเถิด เพราะลูกของเราผู้นี้ตายไปแล้วกลับมีชีวิตอีก หายไปแล้ว ได้พบกันอีก" แล้วการฉลองก็เริ่มขึ้น

ส่วนบุตรคนโตอยู่ในทุ่งนา เมื่อกลับมาใกล้บ้าน ได้ยินเสียงดนตรีและการร้องรำ จึงเรียกผู้รับใช้คนหนึ่งมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้รับใช้บอกเขาว่า "น้องชายของท่านกลับมาแล้ว บิดาสั่งให้ฆ่าลูกวัวที่ขุนอ้วนแล้ว เพราะเขาได้ลูกกลับคืนมาอย่างปลอดภัย" บุตรคนโตรู้สึกโกรธ ไม่ยอมเข้าไปในบ้าน บิดาจึงออกมาขอร้องให้เข้าไป แต่เขาตอบบิดาว่า "ลูกรับใช้พ่อมานานหลายปีแล้ว ไม่เคยฝ่าฝืนคำสั่งของพ่อเลย พ่อก็ไม่เคยให้ลูกแพะแม้แต่ตัวเดียวแก่ลูกเพื่อเลี้ยงฉลองกับเพื่อน ๆ แต่พอลูกคนนี้ของพ่อกลับมา เขาคบหญิงเสเพล ผลาญทรัพย์สมบัติของพ่อจนหมด พ่อยังฆ่าลูกวัวที่ขุนอ้วนแล้วให้เขาด้วย"

บิดาพูดว่า "ลูกเอ๋ย ลูกอยู่กับพ่อเสมอมา ทุกสิ่งที่พ่อมีก็เป็นของลูก แต่จำเป็นต้องเลี้ยงฉลองและชื่นชมยินดี เพราะน้องชายคนนี้ของลูกตายไปแล้ว กลับมีชีวิตอีก หายไปแล้ว ได้พบกันอีก"'

อุปมาเรื่อง "ลูกล้างผลาญ" นี้ต้องการสอนเรื่องพระกรุณาของพระเจ้ามากกว่าจะสอนเรื่องการกลับใจของลูก เป็นการเชิญชวนให้ชาวฟาริสีร่วมยินดีกับพระเจ้าเมื่อคนบาปกลับใจ ท่าทีของบิดาที่ให้อภัยเป็นสัญลักษณ์ของการอภัยจากพระเจ้า ตรงข้ามกับท่าทีของบุตรคนโตซึ่งเหมือนกับท่าทีของชาวฟาริสีและธรรมาจารย์ที่ภูมิใจว่าตนเป็น "ผู้ชอบธรรม" เพราะไม่เคยละเมิดข้อกำหนดของธรรมบัญญัติเลย



เรื่องที่2 ุอุปมาเรื่องชาวสะมาเรียผู้ใจดี

ลก บทที่10ข้อ29-37

ชายคนนั้นต้องการแสดงว่าตนถูกต้องจึงทูลถามพระเยซูเจ้าว่า "แล้วใครเล่าเป็นเพื่อนมนุษย์ของข้าพเจ้า" พระเยซูเจ้าจึงตรัสต่อไปว่า "ชายคนหนึ่งกำลังเดินทางจากกรุงเยรูซาเล็มไปยังเมืองเยรีโค เขาถูกโจรปล้น พวกโจรปล้นทุกสิ่ง ทุบตีเขา แล้วก็จากไป ทิ้งเขาไว้อาการสาหัสเกือบสิ้นชีวิต สมณะผู้หนึ่งเดินผ่านมาทางนั้นโดยบังเอิญ เห็นเขาและเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่ง ชาวเลวีคนหนึ่งผ่านมาทางนั้น เห็นเขาและเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่งเช่นเดียวกัน แต่ชาวสะมาเรียผู้หนึ่งเดินทางผ่านมาใกล้ ๆ เห็นเขาก็รู้สึกสงสาร จึงเดินเข้าไปหา เทน้ำมันและเหล้าองุ่นลงบนบาดแผลแล้วพันผ้าให้ นำเขาขึ้นหลังสัตว์ของตนพาไปถึงโรงแรมแห่งหนึ่งและช่วยดูแลเขา วันรุ่งขึ้นชาวสะมาเรียผู้นั้นนำเงินสองเหรียญออกมามอบให้เจ้าของโรงแรมไว้กล่าวว่า "ช่วยดูแลเขาด้วย เงินที่ท่านจะจ่ายเกินไปนั้น ฉันจะคืนให้เมื่อกลับมา" ท่านคิดว่าในสามคนนี้ใครเป็นเพื่อนมนุษย์ของคนที่ถูกโจรปล้น" เขาทูลตอบว่า "คนที่แสดงความเมตตาต่อเขา" พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า "ท่านจงไปและทำเช่นเดียวกันเถิด"

อุปมาเรื่องชาวสะมาเรียผู้ใจดีสอนว่า สมณะและชาวเลวีในฐานะผู้ปฏิบัติธรรมบัญญัติอย่างเคร่งครัด น่าจะแสดงความรักต่อผู้บาดเจ็บ กลับไม่แสดง ส่วนชาวสะมาเรียคนต่างชาติต่างศาสนา น่าจะแสดงความเกลียดชังต่อชาวยิวที่บาดเจ็บ กลับแสดงความเมตตา

ีเรื่องที่3 อุปมาเรื่องผู้หว่าน

มัทธิว บทที่13ข้อ1-23

วันเดียวกันนั้นพระเยซูเจ้าเสด็จออกจากบ้านมาประทับที่ริมทะเลสาบ ประชาชนจำนวนมากมาเฝ้าพระองค์ พระองค์จึงเสด็จไปประทับอยู่ในเรือ ส่วนประชาชนยืนอยู่บนฝั่ง พระองค์ตรัสสอนเขาหลายเรื่องเป็นอุปมา
พระองค์ตรัสว่า “จงฟังเถิด ชายคนหนึ่งออกไปหว่านเมล็ดพืช ขณะที่เขากำลังหว่านอยู่นั้น บางเมล็ดตกอยู่ริมทางเดิน นกก็จิกกินจนหมด บางเมล็ดตกบนพื้นหินที่มีดินเล็กน้อย ก็งอกขึ้นทันทีเพราะดินไม่ลึก แต่เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น ก็ถูกเผาและเหี่ยวแห้งไปเพราะไม่มีราก บางเมล็ดตกในพงหนาม ต้นหนามก็ขึ้นคลุมไว้ ทำให้เหี่ยวเฉาตายไป บางเมล็ดตกในที่ดินดี จึงเกิดผลร้อยเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง สามสิบเท่าบ้าง ใครมีหูก็จงฟังเถิด”
บรรดาศิษย์เข้ามาทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “ทำไมพระองค์ตรัสแก่พวกเขาเป็นอุปมาเล่า” พระองค์ทรงตอบว่า “พระเจ้าประทานธรรมล้ำลึกเรื่องอาณาจักรสวรรค์ให้ท่านทั้งหลายรู้ แต่ไม่ได้ประทานให้แก่ผู้อื่น เพราะผู้ที่มีมากจะได้รับมากขึ้นจนเหลือเฟือ ส่วนผู้ที่มีน้อย จะถูกริบสิ่งเล็กน้อยที่มีไปด้วย เพราะฉะนั้น เรากล่าวแก่คนเหล่านี้เป็นอุปมา ถึงพวกเขามองดู ก็ไม่เห็น ถึงฟังก็ไม่ได้ยินและไม่เข้าใจ สำหรับคนเหล่านี้ คำทำนายของประกาศกอิสยาห์ก็เป็นความจริง ที่ว่า ท่านทั้งหลายจะฟังแล้วฟังเล่าแต่จะไม่เข้าใจ จะมองแล้วมองเล่าแต่จะไม่เห็น เพราะจิตใจของประชาชนนี้แข็งกระด้าง เขาทำหูทวนลมและปิดตาเสีย เพื่อไม่ต้องมองด้วยตา ไม่ต้องฟังด้วยหู จะได้ไม่เข้าใจ จะได้ไม่ต้องกลับใจ เราจะได้ไม่ต้องรักษาเขา “ส่วนท่านทั้งหลาย ตาของท่านเป็นสุขที่มองเห็น หูของท่านเป็นสุขที่ได้ฟัง เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ประกาศกและผู้ชอบธรรมจำนวนมากปรารถนาจะเห็นสิ่งที่ท่านได้เห็นอยู่ แต่ก็ไม่ได้เห็น ปรารถนาจะได้ฟังสิ่งที่ท่านฟังอยู่ แต่ก็ไม่ได้ฟัง
“เพราะฉะนั้น จงฟังความหมายของอุปมาเรื่องผู้หว่านเถิด เมื่อคนหนึ่งฟังพระวาจาเรื่องพระอาณาจักรและไม่เข้าใจ มารร้ายก็มาและถอนสิ่งที่หว่านลงในใจของเขาไปเสีย นั่นได้แก่ เมล็ดที่ตกริมทาง เมล็ดที่ตกบนหินคือผู้ฟังพระวาจาและมีความยินดีรับไว้ทันที แต่เขาไม่มีรากในตัว จึงไม่มั่นคง เมื่อเผชิญความยากลำบากหรือถูกเบียดเบียนเพราะพระวาจานั้น เขาก็ยอมแพ้ทันที เมล็ดที่ตกในพงหนามหมายถึงบุคคลที่ฟังพระวาจา แต่ความวุ่นวายในทางโลก ความลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติ เข้ามาบดบังพระวาจาไว้ จึงไม่เกิดผล ส่วนเมล็ดที่หว่านลงในดินดี หมายถึงบุคคลที่ฟังพระวาจาและเข้าใจ จึงเกิดผลร้อยเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง สามสิบเท่าบ้าง”

เรื่องที่4 อุปมาเรื่องหญิงสาวสิบคน

มัธธิวบทที่25ข้อ1-13

ข้อสรุปจากพระคัมภีร์ตอนนี้ ก็คือ

"เหตุฉะนั้น จงเฝ้าระวังรอยู่ เพราะท่านทั้งหลายไม่รู้กำหนดวันหรือโมงนั้น" (มัทธิว 25:13)

เราจะต้องเอาข้อสรุปนี้มาตั้งเป็นประเด็นสำคัญ ว่าสิ่งที่เรากำลังจะทำความเข้าใจในเหตุการณ์นี้ มีประเด็นสำคัญคือ เพื่อเตือนสติเราให้เฝ้าระวัง ให้เราพร้อมตลอด ไม่ว่าเวลาไหนหรือโมงไหน เพื่อที่เราจะได้ไม่หลงประเด็นในการตีความ

หญิงสิบคนนี้ มีฉลาด 5 คน และโง่ 5 คน คนโง่ มีตะเกียง มีน้ำมันในตะเกียง แต่ไม่มีน้ำมันสำรอง แต่คนฉลาด มีตะเกียงเหมือนกัน มีน้ำมันในตะเกียงเหมือนกัน แต่มีน้ำมันสำรองด้วย

เหตุการณ์ต่อมา คือ เจ้าบ่าวมาช้า พวกเขาพากันง่วงเหงาและหลับไป จนเที่ยงคืน มีเสียงร้องบอกว่าเจ้าบ่าวมาแล้ว ให้ออกมารับท่าน ก็เกิดปัญหาขึ้นมา เพราะทั้ง 10 คนตื่นหมด และเริ่มสำรวจว่าน้ำมันในตะเกียงของตน คนโง่ก็พบว่าน้ำมันในตะเกียงของตนมีน้อย ไม่เพียงพอ จึงไปขอแบ่งจากผู้หญิงฉลาด 5 คน แต่หญิงฉลาดไม่ให้ บอกให้ไปหาซื้อเอง

ขณะที่หญิงโง่เหล่านั้นไปหาซื้อ เจ้าบ่าวมาถึง และหญิงโง่ 5 คนนั้นเมื่อกลับมาก็พบว่าประตูก็ได้ปิดเสียแล้ว จึงเคาะประตูเรียก และเจ้าบ่าวก็ปฏิเสธว่า "เราไม่รู้จักท่าน"

เรื่องนี้ได้สอนเราถึงการเฝ้าระวังที่จะรอคอยโมงนั้น เวลานั้น สอนว่าเราจะต้องทำอย่างไรบ้าง

หญิงพรหมจารีย์ คือ หญิงที่บริสุทธิ์ ซึ่งเล็งถึงผู้ที่เชื่อในพระเจ้า ผู้ที่เป็นคริสเตียน เพราะว่าหญิงเหล่านี้เป็นผู้ที่ได้รับเชิญให้เข้าแผ่นดินสวรรค์ และคริสเตียนก็จะได้รับการเลือกให้เป็นเจ้าสาวของพระองค์ ดังนั้น คำอุปมานี้ เกี่ยวข้องกับคริสเตียนโดยเฉพาะ ไม่ได้พูดถึงผู้ที่ยังไม่เชื่อ

คริสเตียนทุกคนรู้ว่า จะต้องมีชีวิตที่สำแดงออก

"15 เมื่อจุดตะเกียงแล้ว ไม่มีผู้ใดเอาถังครอบไว้ ย่อมตั้งไว้บนเชิงตะเกียง จะได้ส่องสว่างแก่ทุกคนที่อยู่ในเรือนนั้น
16 ท่านทั้งหลายก็เหมือนกับตะเกียง จงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาได้เห็นความดีที่ท่านทำ เขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่าน ผู้ทรงอยู่ในสวรรค์" (มัทธิว 5:15-16)

หญิงทั้งสิบคน ทั้งฉลาดและโง่ ก็มีตะเกียงทั้งสิ้น เมื่อมีตะเกียง ก็จำเป็นต้องมีน้ำมัน จึงจะจุดติด และหญิงเหล่านี้ก็มีน้ำมันทุกคน พร้อมที่จะจุดไฟ และเขาทั้งสิบคนก็จุดไฟอยู่แล้ว ซึ่งก็แปลว่า หญิงเหล่านี้มิได้เล็งถึงคริสเตียนที่เป็นแต่ชื่อ แต่เป็นคริสเตียนจริง ๆ เป็นคริสเตียนที่มีแสงสว่าง และเป็นคริสเตียนที่กำลังส่องสว่างอยู่ ซึ่งต่างจากคำอุปมาในบทที่ 24 ที่มิได้เจาะจงว่าเป็นคริสเตียนหรือไม่

"40 เมื่อนั้นชายสองคนอยู่ที่ทุ่งนา จะทรงรับคนหนึ่ง ทรงละคนหนึ่ง
41 หญิงสองคนโม่แป้งอยู่ที่โรงโม่ จะทรงรับคนหนึ่ง ทรงละคนหนึ่ง" (มัทธิว 24:40-41)

ดังนั้น จึงไม่ควรตีความว่า น้ำมันเปรียบเป็นพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพราะว่า พระองค์คงจะไม่สามารถซื้อขายได้ เราคงจะไม่ต้องกลัวว่าจะไม่พอถ้าแบ่งให้ผู้อื่น และไม่ต้องกลัวว่าจะหมด

ในพระคัมภีร์ตอนอื่น ๆ ถ้าหากมีความหมายที่เกี่ยวข้องกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเยซูคริสต์จะทรงอธิบายให้เราเข้าใจด้วย

"37 ในวันสุดท้ายของงานเทศกาล ซึ่งเป็นวันใหญ่นั้น พระเยซูทรงยืน และประกาศว่า "ถ้าผู้ใดกระหาย ผู้นั้นจงมาหาเรา และดื่ม
38 ผู้ที่วางใจในเราตามที่มีคำเขียนไว้แล้วว่า 'แม่น้ำที่มีน้ำธำรงชีวิต จะไหลออกมาจากภายในผู้นั้น' "
39 สิ่งที่พระเยซูตรัสนั้นหมายถึงพระวิญญาณ ซึ่งผู้ที่วางใจในพระองค์จะได้รับ เหตุว่ายังไม่ได้ประทานพระวิญญาณให้ เพราะพระเยซูยังมิได้ประสบเกียรติกิจ" (ยอห์น 7:37-39)

แต่ถ้าหากว่าพระองค์ไม่ได้ตีความหมายให้เราเข้าใจ เราก็จะต้องระมัดระวังอย่างมากที่จะตีความหมาย

ประเด็นสำคัญของพระคัมภีร์ในตอนนี้ คือ ให้เราเป็นคนที่ดีรอบคอบ เฝ้าระวัง ที่จะไม่ให้น้ำมันหมด เตรียมพร้อมอยู่เสมอ เตรียมให้พร้อมที่สุดแม้ว่าพระเจ้าจะเสด็จมาช้า เพื่อที่เราจะไม่ต้องประสบกับปัญหาเมื่อพระเยซูคริสต์ทรงเสด็จกลับมา เพื่อที่เราจะไม่พลาด ถูกขับไล่เมื่อเจ้าบ่าวเสด็จมา

"เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงเป็นคนดีรอบคอบ เหมือนอย่างพระบิดาของท่าน ผู้ทรงสถิตในสวรรค์ เป็นผู้ดีรอบคอบ" (มัทธิว 5:48)

หญิงโง่ 5 คนนี้ แท้จริงแล้วเราจะเห็นได้ว่า เขาพลาดเพียงนิดเดียวเท่านั้นเอง แต่ความผิดพลาดของเขาเหล่านั้น ทำให้เขาเหล่านั้นพลาดที่จะเข้าแผ่นดินของพระเจ้า และเจ้าบ่าวก็บอกว่า "ไม่รู้จัก"

เมื่อเวลานั้น เจ้าบ่าวจะไม่ไว้หน้าผู้ใดเลย แม้ว่าหญิงโง่เหล่านั้นจะได้รับการเลือกและแต่งตั้งแล้ว แต่เจ้าบ่าวก็ปฏิเสธอย่างแข็งขันว่าไม่รู้จักพวกเขา

"เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าผู้ใดฟังคำของเรา และวางใจในพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา ผู้นั้นก็มีชีวิตนิรันดร์ และไม่ถูกพิพากษา แต่ได้ผ่านพ้นความตายไปสู่ชีวิตแล้ว" (ยอห์น 5:24)

เราจะต้องใคร่ครวญว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นสำหรับเหตุการณ์นี้ ว่าหญิงโง่ห้าคนนั้นมีข้อบกพร่องในสิ่งใด เพื่อที่เราจะได้ใคร่ครวญตัวเอง และจะไม่เป็นแบบเขา

เมื่อเจ้าบ่าวยังช้าอยู่ ทั้ง 10 คนก็หลับหมดเลย ทั้งคนฉลาดและโง่ต่างก็หลับเช่นกัน คำว่าหลับในตอนนี้มีความหมายว่าอะไร ? จะเป็นการหลับเดียวกันกับที่กล่าวใน 1เธสะโลนิกา 5หรือไม่ ?

"5 ท่านเป็นบุตรของความสว่าง และเป็นบุตรของกลางวัน เราทั้งหลายไม่ได้เป็นของกลางคืน หรือของความมืด
6 เหตุฉะนั้น เราอย่าหลับเหมือนอย่างคนอื่น แต่ให้เราเฝ้าระวัง และไม่เมามาย
7 เพราะว่า คนนอนหลับก็ย่อมหลับในเวลากลางคืน และคนเมาก็ย่อมเมาในเวลากลางคืน" (1เธสะโลนิกา 5:5-7)

ถ้าเราโยงว่าสองสิ่งเหมือนกัน ก็จะดูว่าขัดแย้งกัน แต่ให้เราสังเกตว่า ใน 1 เธสะโลนิกา ได้เน้นถึงกลางวันและกลางคน ความสว่างหรือความมืด ดังนั้น การหลับใน 1เธสะโลนิกา แตกต่างจากการหลับของหญิงพรหมจารย์ 10 คน เพราะการหลับใน 1เธสะโลนิกานี้ เป็นการหลับ กลับไปสู่ชีวิตในความมืด แต่สำหรับหญิงพรหมจารีย์นี้ มิได้เป็นการหลับเช่นนั้น เพราะทั้ง 10 คนก็ยังคงมีตะเกียง มีน้ำมัน และไฟก็ยังติดอยู่ เมื่อเขาหลับอยู่ พวกเขามิได้กลับไปสู่ความมืด และก็ยังมีผู้ที่สามารถที่จะเข้าร่วมพิธีสมรสได้ด้วย การหลับของหญิงเหล่านี้เป็นการหลับฝ่ายร่างกายจริง ๆ ไม่มีผลต่อความสว่างที่เขามีอยู่

หญิงโง่ห้าคน เมื่อขอแบ่งน้ำมัน หญิงฉลาดมิได้ให้ แสดงให้เห็นว่า ในเวลานั้น การเฝ้าระวัง ไม่สามารถที่จะฝากฝังกับใคร ไม่สามารถเอื้อให้ใครได้ แต่ละคนจะต้องเฝ้าระวังเอง ต้องรอบคอบเอง แม้ว่าเราจะอยู่ในกลุ่มคริสเตียนที่ร้อนรน แต่เมื่อถึงเวลานั้น พระเจ้าจะทรงพิจารณาอย่างยุติธรรม เป็นเรื่องส่วนตัวของเราว่าเราจะรอบคอบเพื่อพระเจ้าหรือไม่

เมื่อหญิงโง่รู้ตัวแล้ว พวกเขาก็ไปหาซื้อน้ำมัน เพื่อที่จะเติมในตะเกียง แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ฉะนั้น การเฝ้าระวังจะประมาทไม่ได้ พระเยซูคริสต์จึงทรงสรุปว่า ให้เราเฝ้าระวังตลอดเวลา ถ้าเราไม่เฝ้าระวังเช่นนี้ เราจะถูกปฏิเสธ

จากคำอุปมาตอนนี้ ทำให้เราเข้าใจถึงบุคลิกของพระเจ้าว่า พระองค์ทรงดีพร้อม ทรงจริงจัง ทรงเข้มงวด ทรงใส่พระทัย ทรงพิถีพิถันในการคัดสรรคนของพระองค์ และจะไม่ทรงอะลุ้มอล่วย

เมื่อเราทราบถึงพระลักษณะของพระองค์เช่นนี้ ก็ขอที่เราจะใคร่ครวญพิจารณาชีวิตเรา ว่าชีวิตของเราเหมาะสมที่จะเข้าในแผ่นดินของพระองค์หรือไม่ ขอพระเจ้าทรงช่วยเรา ที่เราจะได้เห็นว่า เราจะต้องเตรียมพร้อมเตรียมตัวมากขนาดไหน ที่เราจะเข้าใจว่ามาตรฐานของพระองค์เป็นเช่นไร และที่เราจะทำตัวเราให้ถึงมาตรฐานของพระองค์ แล้วเราก็จะปลอดภัย

อย่ามองว่า สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนว่ายาก แต่ให้เรามองว่า สิ่งที่เราจะได้นั้น มีคุณค่าเพียงไร แผ่นดินสวรรค์มีเพียงที่เดียว คือ แผ่นดินของพระเจ้า ถ้าเราพลาดจากที่แห่งนี้ เราก็จะลงนรกทันที พระเจ้าจึงทรงบอกกับเราว่า ให้เราต่อสู้ ไขว่คว้าให้ได้

ตะเกียงจะต้องเป็นความสว่างอยู่ตลอดเวลา ถ้าหากมิได้เป็นเช่นนี้ เวลาที่ตะเกียงไม่ได้เป็นความสว่าง ถ้าหากว่าพระเยซูคริสต์ทรงเสด็จกลับมาเมื่อนั้น เราก็จะไม่มีข้ออ้างได้เลย แสงสว่างจะต้องส่องตลอดเวลา จนกระทั่งถึงวันนั้น เวลานั้น โมงนั้น

ถ้าหากว่าน้ำมันของเราไม่พอ ให้เรารีบไปหามาให้พอ อย่าให้ตะเกียงดับ และถ้าหากตะเกียงเราดับอยู่ ให้เราเติมน้ำมัน รีบจุดไฟ ส่องสว่าง ก่อนที่จะสายเกินไป

เรื่องที่5 อุปมาเรื่องแกะที่พลัดหลง

ลก บทที่15ข้อ4-7

ท่านใดที่มีแกะหนึ่งร้อยตัว ตัวหนึ่งพลัดหลง จะไม่ละแกะเก้าสิบเก้าตัวไว้ในถิ่นทุรกันดาร ออกไปตามหาแกะที่พลัดหลงจนพบหรือ เมื่อพบแล้ว เขาจะยกมันใส่บ่าด้วยความยินดี กลับบ้าน เรียกมิตรสหายและเพื่อนบ้านมา พูดว่า "จงร่วมยินดีกับฉันเถิด ฉันพบแกะตัวที่พลัดหลงนั้นแล้ว" เราบอกท่านทั้งหลายว่าในสวรรค์จะมีความยินดีเช่นนี้เพราะคนบาปคนหนึ่งกลับใจมากกว่าความยินดีเพราะคนชอบธรรมเก้าสิบเก้าคนที่ไม่ต้องการกลับใจใหม่"

เรื่องที่6 อุปมาเรื่องเมล็ดมัสตาร์ด

มก บทที่4ข้อ30-32

พระองค์ตรัสอีกว่า "เราจะเปรียบพระอาณาจักรของพระเจ้าอย่างไร หรือจะใช้อุปมาอะไรอธิบายเรื่องนี้ พระอาณาจักรเปรียบเหมือนเมล็ดมัสตาร์ดซึ่งเมื่อหว่านในดิน ก็เป็นเมล็ดเล็กกว่าเมล็ดทั้งปวงทั่วแผ่นดิน แต่ครั้นได้หว่านแล้วก็งอกขึ้นและกลายเป็นต้นไม้ใหญ่กว่าพืชผักทุกชนิด มีกิ่งก้านใหญ่โตจนบรรดานกในอากาศมาพักอาศัยร่มเงาได้"

เรื่องที่7 อุปมาเรื่องเงินเหรียญที่หายไป

ลก บทที่15ข้อ8-10

หญิงคนใดที่มีเงินสิบเหรียญแล้วทำหายไปหนึ่งเหรียญ จะไม่จุดตะเกียง กวาดบ้าน ค้นหาอย่างถี่ถ้วนจนกว่าจะพบหรือ เมื่อพบแล้ว นางจะเรียกมิตรสหายและเพื่อนบ้านมาพูดว่า "จงร่วมยินดีกับฉันเถิด ฉันพบเงินเหรียญที่หายไปแล้ว" เราบอกท่านทั้งหลายว่าทูตสวรรค์ของพระเจ้าจะมีความยินดีเช่นเดียวกัน เมื่อคนบาปคนหนึ่งกลับใจ

พี่คะ คือหนูตอบเป็นคนแรก ถ้าหนูตอบไม่ถูก มีให้รางวัลชมเชยไหมคะ T_T

:s015: :s015: :s008: :s008:
รุ่งอรุณ
โพสต์: 477
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 06, 2010 9:26 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ ก.พ. 22, 2013 7:35 am

เก่งจังเลยค่ะ

:s007:
lovelovebaby
โพสต์: 79
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ พ.ย. 30, 2012 3:56 am

ศุกร์ ก.พ. 22, 2013 12:38 pm

รุ่งอรุณ เขียน:เก่งจังเลยค่ะ

:s007:
ที่พี่รุ่งอรุณบอกว่าเก่ง...แล้วหนูตอบถูกไหมอะคะ หนูกลัวหนูจะตอบไม่ถูำก :s008:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ก.พ. 22, 2013 1:43 pm

หนูตอบเก่งมาก แต่ยังไม่หมดนะคะ ไม่ต้องละเอียดมาก มันยาว
เข่น
1. เรื่องลูกล้างผลาญ จาก ลก บทที่15 ข้อ11-32
2. อุปมาเรื่องชาวสะมาเรียผู้ใจดีจาก ลก บทที่10 ข้อ29-37
3.....
4.....
อย่างนี้เป็นต้น
บอกใบ้มี 10 กว่าเหตุการณ์ค่ะ
รางวัลก็ คือ ภาพนี้แหละค่ะ ภาพจริงชัดใสแจ๋วกว่าในนี้มากค่ะ ใส่กรอบสวยหรู ค่ะ
สำหรับคนที่รักการอ่านพระคัมภีร์ และตอบถูกหมด พระอวยพรให้โชคดีทุกท่านนะคะ
:s007:
lovelovebaby
โพสต์: 79
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ พ.ย. 30, 2012 3:56 am

ศุกร์ ก.พ. 22, 2013 1:55 pm

T^T คิดไม่ออกแล้วค่ะ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ :s008:
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

ศุกร์ ก.พ. 22, 2013 7:30 pm

อยากได้ๆๆๆๆๆ :s021: จะลองคิดดูน่าค่ามามี้ :s021:
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

อาทิตย์ ก.พ. 24, 2013 1:11 am

1.เรื่องเงินตะลันต์และเรื่องแกะและแพะ (มัทธิว 25:14-46)
2.เรื่องชาวสะมาเรียผู้ใจดี (ลูกา 10:25-37)
3.เรื่องเศรษฐีกับลาซารัส (ลูกา 16:19-31)
4.เรื่องจุดจบของเอลี (ซามูเอล 4:18 )
5.เรื่องลูกล้างผลาญ จาก ลก บทที่15 ข้อ11-32
6.เรื่องเมล็ดพืชกับดิน (มัทธิว 13:1-23)
7.เรื่องหญิงพรหมจารีสิบคน (มัทธิว 25:1-13)
8.เรื่องฟาริสีกับคนเก็บภาษี (ลูกา 18:9-14)
9.เรื่องไม่ลดละ (ลูกา 11:5-13)
10.เรื่องช่างก่อสร้างที่ฉลาดและช่างก่อสร้างที่โง่เขลา (ลูกา 6:46-49)
11.เรื่องประตูแคบ (ลูกา 13:22-30)
12.เรื่องเศรษฐีโง่ (ลูกา 12:13-21)
13.เรื่องมะเดื่อถูกสาปก็เหี่ยวแห้งไป (มัทธิว 21:18-22 )
14.เรื่องผู้เช่าสวนชั่วช้า (มัทธิว 21:33-46)

ไม่แน่ใจครับโดยเฉพาะพระธรรมซามูเอล ยิ่งไม่แน่ใจเลย :s008:
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

อาทิตย์ ก.พ. 24, 2013 11:00 am

ภาพสวยจังอยากได้ แต่คิดไม่ออกและพี่ก็ตอบไปหมดแล้ว555 :s013:
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

อาทิตย์ ก.พ. 24, 2013 12:14 pm

คิดได้เหมือนพี่tเลยคิดไม่ออกเเล้ว :s030:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.พ. 24, 2013 11:44 pm

เดี๋ยวให้พี่ Holy มาเฉลยค่ะ ..
น้อง teyteyboy เก่งมากค่ะ แต่บางข้อ ที่บอกมารู้สึกไม่มี ขอให้โชคดีค่ะ

:s007:
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

จันทร์ ก.พ. 25, 2013 4:01 pm

เมจิคิดว่าซามูเอลอาจไม่ใช่ :s030:
รุ่งอรุณ
โพสต์: 477
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 06, 2010 9:26 pm
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ ก.พ. 25, 2013 8:42 pm

lovelovebaby เขียน:
รุ่งอรุณ เขียน:เก่งจังเลยค่ะ

:s007:
ที่พี่รุ่งอรุณบอกว่าเก่ง...แล้วหนูตอบถูกไหมอะคะ หนูกลัวหนูจะตอบไม่ถูำก :s008:
เดี๋ยวคงต้องรอคุณ Holy มาเฉลยนะคะ แต่พี่คิดตรงกะนู๋นุ้ย 4 ข้อค่ะ
แต่ที่พี่ว่าเก่งเพราะ มีรายละเอียดเยอะเชียวและมาเป็นคนแรกด้วยค่ะ

:s005:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ก.พ. 25, 2013 9:56 pm

ค่ะ น้องๆตอบได้ดีทุกคน จะเฉลยสิ้นเดือน 28 ก.พ.ค่ะ
ยังมีเวลาน้องๆที่สนใจ ลองหาคำตอบดูนะคะ ภาพเหตุการณ์ ต่างๆ ในพระคัมภีร์
ไม่ยากนะคะ .... :s012:
รุ่งอรุณ
โพสต์: 477
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 06, 2010 9:26 pm
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ ก.พ. 25, 2013 10:19 pm

rosa-lee เขียน:ค่ะ น้องๆตอบได้ดีทุกคน จะเฉลยสิ้นเดือน 28 ก.พ.ค่ะ
ยังมีเวลาน้องๆที่สนใจ ลองหาคำตอบดูนะคะ ภาพเหตุการณ์ ต่างๆ ในพระคัมภีร์
ไม่ยากนะคะ .... :s012:
จริงๆ แล้วก็ยากนะคะ หาได้ไม่ครบ10 ข้ออ่ะค่ะ

::004:: ::013:: ::004::
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

อังคาร ก.พ. 26, 2013 6:26 am

ยากมากๆ :s012:
รุ่งอรุณ
โพสต์: 477
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 06, 2010 9:26 pm
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร ก.พ. 26, 2013 12:24 pm

เมจิ เขียน:ยากมากๆ :s012:

:s005: :s007: :s002:
รุ่งอรุณ
โพสต์: 477
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 06, 2010 9:26 pm
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร ก.พ. 26, 2013 11:23 pm

rosa-lee เขียน:เดี๋ยวให้พี่ Holy มาเฉลยค่ะ ..
น้อง teyteyboy เก่งมากค่ะ แต่บางข้อ ที่บอกมารู้สึกไม่มี ขอให้โชคดีค่ะ

:s007:
ไม่ทราบว่าจะขอดูภาพด้านขวาชัดๆอีกภาพได้มั๊ยคะคุณ rosa-lee
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

พุธ ก.พ. 27, 2013 5:22 pm

รุ่งอรุณ เขียน:
rosa-lee เขียน:เดี๋ยวให้พี่ Holy มาเฉลยค่ะ ..
น้อง teyteyboy เก่งมากค่ะ แต่บางข้อ ที่บอกมารู้สึกไม่มี ขอให้โชคดีค่ะ

:s007:
ไม่ทราบว่าจะขอดูภาพด้านขวาชัดๆอีกภาพได้มั๊ยคะคุณ rosa-lee
พี่ลองกดเซฟเข้าเครื่องดูนะครับ แล้วเปิดรูปภาพที่เซพในเครื่องดูนะครับ ผมก็ใช้วิธีนี้ครับ
รุ่งอรุณ
โพสต์: 477
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 06, 2010 9:26 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ ก.พ. 27, 2013 10:59 pm

teyteybboy เขียน:
พี่ลองกดเซฟเข้าเครื่องดูนะครับ แล้วเปิดรูปภาพที่เซพในเครื่องดูนะครับ ผมก็ใช้วิธีนี้ครับ

ขอบคุณค่ะ ::004::
รุ่งอรุณ
โพสต์: 477
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 06, 2010 9:26 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ ก.พ. 27, 2013 11:37 pm

::013::
1.อุปมาเรื่องผู้หว่าน มธ.13:3-9
2.เงื่อนไขการติดตามพระเยซูเจ้า มธ.16:24-26
3.ความหน้าซื่อใจคตและความชอบโอ้อวดของธรรมาจารย์และฟาริสี มธ.23:1-7
4.อุปมาเรื่องหญิงสาวสิบคน มธ.25:1-7
5.อุปมาเรื่องผู้หว่าน มก.4:1-9
6.อุปมาเรื่องชาวสะมาเรียใจดี ลก.10:29-37
7.เรื่องแกะที่พัดหลง ลก.15:4-7
8.เรื่องลูกล้างผลาญ ลก.15:11-32
9.อุปมาเรื่องเศรษฐีกับลาซาลัส ลก.16:19-31
10.อุปมาเรื่องผู้รับใช้สิบคนที่รับเงินไปทำทุน ลก.19:11-29
11.อุปมาเรื่องลูกหนี้ไร้เมตตา มธ.18:23-35

::013::
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ มี.ค. 01, 2013 12:20 pm

ขออภัยค่ะ
พอดี คุณHOLY ติดธุระ คืนนี้จะมาเฉลยคำตอบค่ะ
:s012: :s012:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ มี.ค. 02, 2013 4:35 am

อุปมาที่พระเยซูเล่า 12 เรื่อง
1. ผู้หว่าน
2. สร้างบ้านบนศิลาและบ้านบนทราย
3. ฟาริสีและคนเก็บภาษี
4. เพื่อนผู้ขอขนมปัง
5. เหรียญที่หายไป
6. ลูกล้างผลาญ
7. ชาวสะมาเรียผู้ใจดี
8. ผู้เลี้ยงแกะที่ดี
9. เศรษฐีโง่เขลา
10.หญิงโง่หญิงฉลาดกับตะเกียง
11. กษัตริย์และคนใช้ทั้ง3
12. แพะและแกะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ มี.ค. 02, 2013 8:11 am

ลองดูนะคะตรงกันไหม
แต่ทั้ง 3 ท่านตอบถูกเกินครึ่ง ทางเว็บนิวมานาอยากแจกค่ะ จึงให้ทั้ง 3 ท่าน
ที่เข้ามาตอบค่ะ ช่วยบอกชื่อที่อยู่มาด้วยค่ะ
1. Lovelovebaby
2. Teyteyboy
3. รุ่งอรุณ
แต่ต้องคอยหน่อยค่ะ เพราะรูปที่เตรียมไว้มีรูปเดียว กำลังจัดทำอยู่เพิ่มอยู่
เมื่อเสร็จแล้วจะทำการจัดส่งให้ค่ะ และจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
อาจจะยากหน่อย แต่ขอบคุณที่มาร่วมสนุก ขอพระอวยพรค่ะ...
:s013: :s021: :s013: :s021:
lovelovebaby
โพสต์: 79
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ พ.ย. 30, 2012 3:56 am

เสาร์ มี.ค. 02, 2013 9:11 am

เย้ๆ ^___^ นานเเค่ไหนนุ้ยก็รอได้ แค่นุ้ยได้ก็ดีใจแล้ว ::003:: ::011:: ::015:: ::020::



ชื่อ-นามสกุล : มาลา แซ่เซียว

ที่อยู่ : 3769/132-133 ซอยอยู่ดี4 ถนนจันทน์ แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ 10120


ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ :s012: :s021: :s002: :s005: :s007:
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

เสาร์ มี.ค. 02, 2013 11:19 am

ดีใจกับผู้ได้รางวัลด้วยค่ะ :s021:
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

เสาร์ มี.ค. 02, 2013 12:01 pm

ณัฐวัชร์ อินทรีย์สังวรณ์
9/2 บ.พยากหลวง ต.ตลาดขวัญ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ 50220
ขอบคุณมากๆๆเลยครับ :s021:
รุ่งอรุณ
โพสต์: 477
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 06, 2010 9:26 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ มี.ค. 02, 2013 1:29 pm

ขอบพระคุณค่ะ

:s002: :s002:


:s022: :s022: :s022:
แก้ไขล่าสุดโดย รุ่งอรุณ เมื่อ อังคาร มิ.ย. 25, 2013 7:26 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ มี.ค. 13, 2013 8:53 pm

ขออภัยรอหน่อยนะจ๊ะ รอคุณ Holy ทำให้ค่ะ รูปภาพเป็นของเขาค่ะ ขอมาแจกเป็นรางวัลค่ะ :s002:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ มี.ค. 16, 2013 11:46 am

รูปภาพมาแล้วค่ะ สวยมากวันจันทร์นี้ จะทำการจัดส่งให้ค่ะ
ได้รับแล้ว ตอบด้วยค่ะ
:s002:
:s021:
ตอบกลับโพส