อยากศึกษาพระคริสต์แต่ลำบากใจจัง

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
aor wachiraporn
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 08, 2013 9:44 pm

พุธ พ.ค. 08, 2013 9:58 pm

ที่บ้านเป็นพุทธค่ะ ตัวเองเป็นครูอยู่ในโรงเรียนคาทอลิก เคยเข้าร่วมพิธีฉลองวัด ตอนอยู่ในพิธีรู้สึกใจเต้นแรงมาก เห็นเพื่อนๆ รับแผ่นปังแล้วน้ำตาจะไหล บอกไม่ถูก ก็เลยอยากศึกษาพระคริสต์ แต่กลัวที่บ้านจะไม่พอใจ อยากลองเข้าไปร่วมพิธีวันอาทิตย์แต่ก็กลัวเพื่อนร่วมงานจะมองว่าเราฉาบฉวย ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี แนะนำด้วยนะคะ :s002:
ภาพประจำตัวสมาชิก
siritawatss
โพสต์: 559
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ย. 18, 2012 8:11 pm
ที่อยู่: อ มะขาม จ จันทบุรี
ติดต่อ:

พุธ พ.ค. 08, 2013 10:34 pm

aor wachiraporn เขียน:ที่บ้านเป็นพุทธค่ะ ตัวเองเป็นครูอยู่ในโรงเรียนคาทอลิก เคยเข้าร่วมพิธีฉลองวัด ตอนอยู่ในพิธีรู้สึกใจเต้นแรงมาก เห็นเพื่อนๆ รับแผ่นปังแล้วน้ำตาจะไหล บอกไม่ถูก ก็เลยอยากศึกษาพระคริสต์ แต่กลัวที่บ้านจะไม่พอใจ อยากลองเข้าไปร่วมพิธีวันอาทิตย์แต่ก็กลัวเพื่อนร่วมงานจะมองว่าเราฉาบฉวย ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี แนะนำด้วยนะคะ :s002:
ผมมองว่าชีวิตเนรเทศนี้มันสั้นนะครับ ถ้ารู้สึกว่าพระเรียกเราให้มาเป็นลูกของพระองค์ ก็ควรทำเลยนะครับ เเรกๆที่บ้านอาจจะไม่พอใจบ้าง เเต่ถ้าเรามีความตั้งใจจริง ซักวันที่บ้านก็คงจะเข้าใจเรา ที่นี่ก็มีมากมายที่โดนกีดกัน เเต่ก็ทำสำเร็จจนได้ ขอเป็นกำลังใจ เเละเอาใจช่วยเต็มที่เลยครับ เริ่มที่คุยกับคุณพ่อที่วัดก่อนเลย สะดวกที่ไหนไปที่นั่นครับ บอกไปสั้นๆเลยว่า อยากเป็นคาทอลิก เดี๋ยวท่านจะบอกเองครับ ว่าต้องทำยังไงเรียนคำสอนเมื่อไร สะดวกไม่สะดวกยังไง ก็คุยกับท่านนะครับ ขอให้พระเจ้าอวยพรนะครับ :s012:
รุ่งอรุณ
โพสต์: 477
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 06, 2010 9:26 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ พ.ค. 08, 2013 11:03 pm

::013::

จริงแล้วหากเป็นครูโรงเรียนคาทอลิก การที่จะไปร่วมมิสซาวันอาทิตย์แบบเนียนๆ ก็มีโอกาสทำได้นะคะ
ทำไมถึงคิดว่าที่บ้านจะไม่พอใจ หรือเพื่อนร่วมงานจะว่าฉาบฉวยล่ะคะ

เห็นด้วยกับที่คุณ siritawatss ค่ะ

::017::
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

พฤหัสฯ. พ.ค. 09, 2013 8:05 am

เมจิก็เป็นพุธค่ะมิสเเต่เมจิยังไปได้เลยไปคนเดียวตั้งเเต่9ขวบเลยด้วย :s021: มิสลองหาโบสถ์ไกล้ๆบ้านเเล้้วลองไปดูค่ะหลังเสร็จพิธีมิสซามิสก็ไปบอกคุณพ่อว่าอยากเรียนคำสอนเเบบผู้ใหญ่เดียวคุณพ่อเค้าจะจัดการได้เองค่ะ :s012: อันนี้เมจิไม่เเน่ใจน่ะค่ะมิสที่โรงเรียนบอกว่สถ้าบรรลุนิติภาวะเเล้วไม่จำเป็นต้องให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาติเเเล้วค่ะสามารถล้างบาปได้เลย :s021:
kanya Muang-in
โพสต์: 282
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 25, 2013 4:55 pm

พฤหัสฯ. พ.ค. 09, 2013 9:47 am

::001:: คุณ aor ขอให้คุณผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้ด้วยดีนะค่ะ หนทางของพระเจ้าไม่ไกลจากคุณแล้ว ถ้ามีอะไรลำบากใจ ให้คุณวางใจในพระ นะค่ะ ยินดีที่คุณจะมารู้จักพระเจ้าค่ะ ของพระองค์ทรงนำลูกแกะของพระองค์ด้วยเทอญ :s002:
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

พฤหัสฯ. พ.ค. 09, 2013 11:49 am

ผมเองก็เป็นก็ยังไม่ได้เป็นคาทอลิกครับยังเด็กอยู่ด้วย แต่ก็เปลี่ยนตัวเองเป็นคริสตชนมาห้าปีแล้ว
ถ้ายังไงก็ยินดีเสมอในการมาร่วมทางในพระคริสตเยซูองค์เดียวกัน ลองถามคุณพ่อเจ้าวัดที่ ร ร ดูว่าต้องการจะเป้นคริสตชนแล้วก็เรียนคำสอนล้างบาปเลยนะครับ ขอพระเจ้าอวยพร :s012: :s012:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. พ.ค. 09, 2013 11:59 am

ขอพระอวยพรค่ะ อย่าคิดไปเองนะคะ ....
ลองศึกษาดู ยิ่งเป็นคุณครูใน ร.ร.คาทอลิก ยิ่งมีโอกาสเรียนรู้มากๆค่ะ
:s021:
peopletribune
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa

เสาร์ พ.ค. 11, 2013 10:26 pm

aor wachiraporn เขียน:ที่บ้านเป็นพุทธค่ะ ตัวเองเป็นครูอยู่ในโรงเรียนคาทอลิก เคยเข้าร่วมพิธีฉลองวัด ตอนอยู่ในพิธีรู้สึกใจเต้นแรงมาก เห็นเพื่อนๆ รับแผ่นปังแล้วน้ำตาจะไหล บอกไม่ถูก ก็เลยอยากศึกษาพระคริสต์ แต่กลัวที่บ้านจะไม่พอใจ อยากลองเข้าไปร่วมพิธีวันอาทิตย์แต่ก็กลัวเพื่อนร่วมงานจะมองว่าเราฉาบฉวย ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี แนะนำด้วยนะคะ :s002:
สวัสดี ครับ คุณaor wachiraporn

เรื่องศาสนา เป็นเรื่องของ "ความเชื่อ" ส่วนบุคคล ความเชื่อ เรื่อง ลัทธิการปกครอง
อย่าง ศาสนาอย่าง ระบอบการปกครองอย่าง มันมีความสุขขุมคัมภีรภาพ และนำมา
ซึ่ง "ความสงบ" ก็ได้ "ความแตกแยก" ก็ได้ ไม่เว้น แม้แต่ในครอบครัว

ใน คริสต์ อิสลาม และ พุทธ เอง ยังมีความแตกต่างกันในเรื่องความเชื่อ นิกาย ฯลฯ
ยิว คริสต์ อิสลาม มาจากที่เดียวกัน เป็นลูกหลาน อับราฮัม(อิบรอฮิม) ยังมีความเชื่อ
ที่ต่างกัน ครับ...

แต่สิ่งหนึ่งที่จะทำให้เห็นว่า "การนับถือศาสนา" แล้ว ทำให้ยกระดับจิตใจ จิตวิญญาณ
มีจิตเป็นสาธารณะ และ เข้าถึง "แก่น" ของศาสนา คือ การให้ความรักผู้อื่น เหมือนรัก
ตนเอง...การให้อภัย การรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน มีจิตสาธารณะ และมีชีวิตเพื่อรับใช้ผู้อื่น
นั่นแหละครับ คือ "แก่นของคาทอลิก"

ถ้าเราเดินตามมรรคาศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูอย่างนี้ดี เชื่อ่ว่า "ครอบครัว"
ก็ต้องยอมรับเรา ในที่สุด เพราะครอบครัวก็ "มีความรัก" ให้เราเช่นกัน เพียงแต่
อยากเห็น "เรา" เป็นคนดี ทั้งต่อคนในครอบครัว และ สังคม ประเทศชาติ


รูปภาพ

เหมือนที่ "พระพุทธองค์" ทรงบำเพ็ญทุกรกิริยาอยู่ถึง 6 ปี ...เมื่อพระองค์
ทรงเห็นว่าทางของการถึงนิพพานนั้นหาใช้การทรมานพระองค์ไม่ จึงทรงหยุด
การบำเพ็ญทุกรกิริยาหันมาบำรุงพระวรกายโดยปกติ โดยมีพระราชดำริว่า
"เหมือนสายพิณควรจะขึงพอดีจึงจะได้เสียงที่ไพเราะ"

ในขณะนั้ ปัญจวัคคีย์ ทั้ง 5 ได้แก่ โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ
อัสสชิ
ก็ไม่เข้าใจพระพุทธองค์ นึงว่าจะมีใจทรงสละละทิ้ง การบำเพ็ญเพียร...
ศิษย์ทั้ง 5 ต่างพากันไปอยู่ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี
(อยู่ ต.สารนาถ ประเทศอินเดีย)

จนพระองค์บรรลุ ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เหล่าปัญจวัคคีย์ จึงได้
กลับมาติดตามพระพุทธองค์อีกครั้ง....

:s023:
รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็น กฏหมายสูงสุดของประเทศ ให้ทุกคนมีเสรีภาพ
ในการนับถือศาสนา


รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
หมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย

มาตรา ๓๗ บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการถือศาสนา นิกายของศาสนา
หรือลัทธินิยมในทางศาสนา และย่อมมีเสรีภาพในการปฏิบัติตามศาสนธรรม
ศาสนบัญญัติ หรือปฏิบัติพิธีกรรมตามความเชื่อถือของตน เมื่อไม่เป็น
ปฏิปักษ์ต่อหน้าที่ของพลเมืองและไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือ
ศีลธรรมอันดีของประชาชน

ในการใช้เสรีภาพตามวรรคหนึ่ง บุคคลย่อมได้รับความคุ้มครองมิให้รัฐกระทำ
การใด ๆ อันเป็นการรอนสิทธิหรือเสียประโยชน์อันควรมีควรได้ เพราะเหตุที่
ถือศาสนา นิกายของศาสนา ลัทธินิยมในทางศาสนาหรือปฏิบัติตามศาสนธรรม
ศาสนบัญญัติ หรือปฏิบัติพิธีกรรมตามความเชื่อถือ แตกต่างจากบุคคลอื่น

:s004:
อาชีพ ของคุณaor wachiraporn นั้น คือ "ครู" สิ่งที่จะทำให้ "ครู"
ต่าง...จาก "คนรับจ้างสอนหนังสือ" คือ ครู ต้องเป็นผู้ยกระดับวิญญาณมนุษย์
ให้ "คน" เป็น "มนุษย์"....ซึ่ง ก่อน ที่จะเป็นเบ้าหลอมคนอื่นได้ จำต้อง
หลอม ตนเอง ให้เข้มแข็งก่อน
...และ บททดสอบความเข้มแข็ง ที่พระเจ้า
มอบให้ ก็คือ "ความเข้มแข็งที่จะรับพระองค์เข้าไปสู่จิตวิญญาณ โดยที่
ไม่เสีย "สันติภาพ" ภายในครอบครัว..."

ดัังพุทธสุภาษิต ที่ว่า :
อตฺตานญฺเจ ตถา กยิรา ยถญฺญมนุสาสติ
ถ้าพร่ำสอนผู้อื่นฉันใด ก็ควรทำตนฉันนั้น



:s023:
โดย : ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ เดินทางทุกที่ ๆ มีพระองค์
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ecclēsia
โพสต์: 976
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 27, 2009 9:25 pm
ที่อยู่: อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขต1 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
ติดต่อ:

อาทิตย์ พ.ค. 12, 2013 11:54 pm

ปรึกษาอธิการโรงเรียนเลยค่ะครู ท่านต้องมีคำเเนะนำดีๆเเน่เลย

ส่วนเรื่องที่ครูกังวล เกี่ยวกับคนที่บ้านหรือเพื่อนร่วมงาน ขอฝากพระวาจาข้อนี้ไว้นะคะ

"...ท่านทั้งหลายอย่ากังวลถึงวันพรุ่งนี้ เพราะวันพรุ่งนี้จะกังวลสำหรับตนเอง
เเต่ละวันมีทุกข์พออยู่เเล้ว
" มัทธิว 7:34


:s015:

ป.ล. คริสตชนใหม่ ไม่ต้องกังวลว่าจะเจออุปสรรค์หรือเปล่า เพราะต้องเจอเเน่นอนค่ะ หลีกเลี่ยงไม่ได้ เเต่เมื่อพระเจ้าทรงเปิดประตูให้เเล้ว พระองค์จะนำเราไปถึงจุดหมายเเน่นอนเหมือนกันค่า
ตอบกลับโพส