จะทำยังไงดี
-
- โพสต์: 164
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 24, 2011 2:17 pm
ถ้าเกิดว่างานที่เราทำอยู่นั้นทำให้เราห่างไกลจากพระเจ้าทุกวันๆ เพราะหลายๆส่วนในงานนั้นเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำผิดอยู่เสมอ เช่น การโกหก การมีนอกมีใน เป็นต้น ถ้าเป็นคุณๆจะทนทำงานแบบนั้นไหม
ปล. ทางบ้านบีบบังคับให้ทำงานแบบนั้นอยู่ พูดกรอกหูอยู่ทุกวันว่าสมัยนี้งานไหนๆก็มีนอกมีในทั้งนั้นแหละ ให้เราปรับเปลี่ยนตัวเองให้ได้เพื่อความอยู่รอดและได้งานดีๆทำ ทุกวันนี้ลำบากใจจริงๆ จะออกก็ออกไม่ได้เพราะโดนทางบ้านบังคับ ยิ่งเป็นธุรกิจของพี่น้องตนด้วยแล้วล่ะก็ เขาจะอ้างว่าทำงานช่วยพี่น้องตัวเองไม่ได้เหรอ จะออกไปทำงานกระจอกๆต่ำๆแบบนั้นทำไม แก่ตัวไปจะทำยังไง มีสมองคิดได้แค่นี้เหรอ งานดีๆเงินเยอะๆ นั่งออฟฟิตไม่ชอบเหรอไง
เครียดโว้ย อยากละโลกไปอยู่อารามนักบวชจริง เคยบ่นให้แม่ฟังแม่บอกว่าจะตามไปด่าถึงอารามเลย ทุกวันนี้ขาดโบสถ์จะครึ่งปีอยู่แล้ว ทำงานงานก็เครียดแทบไม่มีวันหยุด แถมเป็นงานที่ไม่ชอบแต่โดนบังคับให้ทำเพราะเป็นธุรกิจของพี่น้องตนเอง จะออกไปทำงานอื่นก็โดนแม่ว่าๆงานต่ำๆเงินเดือนน้อย(มันผิดตรงที่งานนั้นไม่ได้นั่งออฟฟิตเหรอไง งานมันดูไม่ไฮโซเหรอไง) เซง เซง เซง
ปล. ทางบ้านบีบบังคับให้ทำงานแบบนั้นอยู่ พูดกรอกหูอยู่ทุกวันว่าสมัยนี้งานไหนๆก็มีนอกมีในทั้งนั้นแหละ ให้เราปรับเปลี่ยนตัวเองให้ได้เพื่อความอยู่รอดและได้งานดีๆทำ ทุกวันนี้ลำบากใจจริงๆ จะออกก็ออกไม่ได้เพราะโดนทางบ้านบังคับ ยิ่งเป็นธุรกิจของพี่น้องตนด้วยแล้วล่ะก็ เขาจะอ้างว่าทำงานช่วยพี่น้องตัวเองไม่ได้เหรอ จะออกไปทำงานกระจอกๆต่ำๆแบบนั้นทำไม แก่ตัวไปจะทำยังไง มีสมองคิดได้แค่นี้เหรอ งานดีๆเงินเยอะๆ นั่งออฟฟิตไม่ชอบเหรอไง
เครียดโว้ย อยากละโลกไปอยู่อารามนักบวชจริง เคยบ่นให้แม่ฟังแม่บอกว่าจะตามไปด่าถึงอารามเลย ทุกวันนี้ขาดโบสถ์จะครึ่งปีอยู่แล้ว ทำงานงานก็เครียดแทบไม่มีวันหยุด แถมเป็นงานที่ไม่ชอบแต่โดนบังคับให้ทำเพราะเป็นธุรกิจของพี่น้องตนเอง จะออกไปทำงานอื่นก็โดนแม่ว่าๆงานต่ำๆเงินเดือนน้อย(มันผิดตรงที่งานนั้นไม่ได้นั่งออฟฟิตเหรอไง งานมันดูไม่ไฮโซเหรอไง) เซง เซง เซง
อย่าดีกว่าค่ะถึงงานจะได้เงินเยอะเป็นเเสนเป็นล้านยังไงก็ไม่มีความสุขเล่าให้เเม่ฟังเลยว่าเงินน่ะตายไปเเล้วเอาไปด้วยได้ไหมมีเเต่บาปกับบุญนี้เเหละจะติดตัวเราไปตลอดชีวิต ทำงานถึงจะเงินน้อยเเต่ทำไปมีความสุขก็ทำไปเถอะค่ะนานๆไปเดียวมันก็รวยเองง
-
- โพสต์: 164
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 24, 2011 2:17 pm
เคยพูดแล้วล่ะ แม่ผมเป็นพุทธนะครับคงไม่เข้าใจความคิดแบบคริสตชนคาทอลิกคนเดียวในบ้านอย่างผม เขาอยากจะให้ลูกๆได้งานดีๆทำ(อันนี้มีอีกเรื่องคือกลัวญาติพี่น้องเพื่อนบ้านดูถูกครอบครัวถ้าผมไปทำงานกระจอกๆ) อยากให้มีเงินเยอะๆ อยากให้มีหน้ามีตามีคนนับถือในสังคมเมจิ เขียน:อย่าดีกว่าค่ะถึงงานจะได้เงินเยอะเป็นเเสนเป็นล้านยังไงก็ไม่มีความสุขเล่าให้เเม่ฟังเลยว่าเงินน่ะตายไปเเล้วเอาไปด้วยได้ไหมมีเเต่บาปกับบุญนี้เเหละจะติดตัวเราไปตลอดชีวิต ทำงานถึงจะเงินน้อยเเต่ทำไปมีความสุขก็ทำไปเถอะค่ะนานๆไปเดียวมันก็รวยเองง
ผมรู้นะว่าหวังดี แต่ผมมีความคิดไม่เหมือนแม่เลย ผมไม่สนว่างานมันต่ำหรือเปล่า ผมไม่สนเรื่องมีหน้ามีตาในสังคม
ผมเคยอยากจะเป็นนักบวชเพราะรู้สึกมีกระแสเรียกแต่ก็โดนทางบ้านขัดขวาง อ้างโน้นอ้างนี่สารพัดจนในที่สุดก็ไม่ได้ไปเป็นนักบวชในอาราม แต่ต้องมานั่งทำงานแบบนี้ทุกวันๆ ห่างพระเจ้าทุกวันๆ ต้องค่อยโกหก ตามคำสั่งพี่น้องตน และทำผิดเรื่องอื่นๆเพื่อไม่ให้งานของพี่น้องตนเองเสียหาย รู้สึกแย่จริงๆจนไม่อยากไปวัด พอไปแล้วสารภาพบาปก็ต้องมาทำบาปก็เลยไม่ไปเพราะหน้าด้านต่อหน้าพระเจ้าไม่ไหว
แก้ไขล่าสุดโดย sdjakapong เมื่อ อาทิตย์ พ.ค. 12, 2013 7:22 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ถ้าเป็นเมจิน่ะ หนีบวชเลย คิดำว้น่ะถ้าโดนกีดกันตอนนี้ก็ทดเเทนบุญคุณพ่อเเม่อีกสักปีพอคิดว่าต้องไปละทิ้งจดหมายไว้เขียนบอกลสเเต่อย่าบอกอารามที่จะอยู่เดียวโดนตามไปด่า หลายคนก็เคยทำเเบบนี้ค่ะถ้าบรรลุนิติภาวะก็บวชได้โดยพ่อเเม่ไม่ต้องเซ็นต์รับด้วย
-
- โพสต์: 164
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 24, 2011 2:17 pm
และพอจะมีข้อมูลวิธีเข้าเป็นนักบวช(ชาย)ของอารามต่างๆไหมครับ แบบว่ายุ่งกับโลกภายนอกน้อยที่สุด เบื่อบ้าน เบื่อวิ่งตามโลกมันเนื่อยเปล่า เบื่อความหวังดีแต่เป็นผลร้ายต่อตัวเขา พยายามให้เขาละทิ้งความดีเพื่อความอยู่รอด ความมีหน้ามีตาในสังคม (แต่ต้องไปไฟชำระหลังตาย) เซงเมจิ เขียน:ถ้าเป็นเมจิน่ะ หนีบวชเลย คิดำว้น่ะถ้าโดนกีดกันตอนนี้ก็ทดเเทนบุญคุณพ่อเเม่อีกสักปีพอคิดว่าต้องไปละทิ้งจดหมายไว้เขียนบอกลสเเต่อย่าบอกอารามที่จะอยู่เดียวโดนตามไปด่า หลายคนก็เคยทำเเบบนี้ค่ะถ้าบรรลุนิติภาวะก็บวชได้โดยพ่อเเม่ไม่ต้องเซ็นต์รับด้วย
-
- โพสต์: 423
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
- ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa
สวัสดีครับ น้อง sdjakapong
พระนั้นสัมผัสเราทุกวัน พระนั้นอยู่ในใจมนุษย์ทุกคน มนุษย์ต่างหาก ที่มีข้ออ่าง
ต่าง ๆ นานา ที่จะละทิ้งพระ และให้ความบาป ความหยาบกระด้างทางจิตใจ
เข้ามาแทนที่...
โบสถ์ วิหาร พิธีกรรมต่าง ๆ เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เพื่อเป็นตัวแทน เพื่อเป็น
สัญลักษณ์ในการเชื่อมต่อ ไปถึงพระเจ้า ผ่านพิธีกรรม ...แต่ถ้าจิตใจเราสัมผัส
พระ...เราสามารถสัมผัสได้ในทุกลมหายใจเข้าออก สัมผัสผ่านการกระทำกิจการ
งานที่ได้รับมอบหมายจากพระองค์ สัมผัสผ่านการดำเนินชีวิตคริสตชนที่ดี และ
นำพาความเป็นคริสตชนที่ยั่งยืน ...หยิบยื่นต่อผู้ที่อ่อนแอกว่าในชีวิตประจำวัน
รู้จักให้อภัยกับศัตรูที่กระทำร้ายเรา ...ประดุจที่บุตรแห่งพระเจ้า ทรงให้อภัย
กับผู้คนที่จับพระองค์ทรมาน และตรึงบนไม้กางเขน
พระเจ้า ทรงอยู่ที่เดิม อยู่ในพระราชัยของพระองค์ และทรงพร้อมที่จะให้อภัย
กับ ลูกแกะหลงทางทุกคน...มนุษย์ต่างหาก ที่อ้างโน่น นี่ นั่น อ้างอารมณ์ อ้าง
สภาพแวดล้อม....แล้วเดินจากพระไป เหมือนอย่างที่บรรพบุรุษของเรา อาดับ
กับ เอวา(อีฟ) ได้ทำกับพระองค์....แต่ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังทรงประทานอภัย
ให้มนุษย์ครั้งแล้วครั้งเล่า ตั้งแต่ โปรดให้โนอาห์สร้างเรือ เพื่อให้มวลมนุษยชาติ
ได้รอด...มนุษย์ยังแข่งความยิ่งใหญ่ กับ พระเจ้าด้วยการสร้าง "หอคอยบาเบล"
ความชั่วร้าย และการห่างไกลพระ นำมาซึ่งพระมหาทรมาน ที่ยิ่งใหญ่ของ
พระเยซูคริสตเจ้า...ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ ทรงรับทรมาน ทรงถูกตรึงกางเขน...
ถ้า "จิตใจ" เราเข้มแข็ง และ สัมผัส พระองค์ทุกวัน จะไม่มีข้ออ้างใด ๆ ได้เลย
ว่า....ไกลพระ ว่าเซ็ง บรา ๆ ๆ ฯลฯ...
ก่อนที่ น้อง sdjakapong จะคิดละทิ้ง ทางโลก เข้าสู่ชีวิตของนักบวช
นักบวชในศาสนาคริสต์(คาทอลิก) มีกระบวนการกลั่นกรอง สภาพจิตใจอย่างสูง
บุคคลที่จะผ่าน ตั้งแต่.. สามเฌรเล็ก (หรือฟากหญิงเรียก แอบปิลัน) นั้นต้องผ่าน
บททดสอบ ทั้งทางโลกและทางธรรม ...ต้องผจญกับสิ่งเล้าโลม ทั้งความ
หอมหวลทางสังคม และสิ่งเย้ายวล ทางจิตวิญญาณ จากสถิติที่ผ่านมาคนที่
เดินเข้ามา ที่เรียก "กระแสเรียก" มีผ่านเข้าไปถึงศีลบวชได้ไม่ถึง 10% มาก
กว่า 50% หายไปตั้งแต่ยังไม่เข้าบ้านเฌรใหญ่ อีก 30% หายไปตอนบ้านเฌร
ใหญ๋ ...อีกประมาณ 10% หายไประหว่าง เป็นบราเดอร์ ที่ต้องไปรับใช้ศาสนจักร
ไปเจอ ครูสาว ๆ ไปเจอเพื่อน ๆ ที่เรียนจบแล้วได้เงินเดือน ...
ชีวิต นักบวช ในคริสตศาสนา คาทอลิก ไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายคนคิด ...
ถ้าวันนี้ยัง "ชนะใจ" ตนเองไม่ได้...ก็จำต้องฝึกตน และใกล้ชิดพระให้มาก
และเมื่อนั้น "ใจ" และ "กระแสเรียก" จาก พระเจ้า...จะมั่นคงกว่าสรรพสิ่ง
เอาใจช่วยครับ .... พระเจ้าอวยพร
โดย : ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ เดินทางทุกที่ ๆ มีพระองค์
-
- โพสต์: 282
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 25, 2013 4:55 pm
คุณต้อง เชือมั่นวางใจในพระเจ้าให้มากๆนะค่ะ อย่าเพิ่งหมดหวัง เราดีใจที่คุณมาบอกปัญหาสิ่งที่ไม่สบายใจ ถ้างานนั้น ทำให้คุณลำบากใจ ให้คุณออกมา แล้วพระองค์จะทรงนำทางคุณใหม่ ให้เดินในทางแห่งความดีเอง ไม่ต้องกังวลว่า พรุ่งนี้ จะเอาอะไรกิน หรือ เอาอะไรดื่ม เพราะพระองค์จะทรงจัดเตรียมให้คุณแล้ว คุณมีค่า มากกว่าทุกสิ่งที่พระเจ้าสร้างมา คุณเป็นคนพิเศษ พระองค์ดีใจที่คุณรู้ตัวว่ากำลังห่างไกลพระองค์ พระองค์ทรงรอคุณกลับมา คุณต้องมั่นคงอย่าหันหลังกลับ !!! อย่าหวั่นไหว คุณต้องรักพระเจ้ายิ่งกว่าสิ่งใด ขอพระเจ้าทรงคุ้มครองคุณนะค่ะ หนูจะเป็นกำลังใจให้
-
- โพสต์: 164
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 24, 2011 2:17 pm
ผมคงไปไม่ถึงบาทหลวงหรอกครับ ผมเป็นคนขี้อายด้วย อย่างมากก็อยากใช้ชีวิตสงบๆเน้นการสวดภาวนานะครับ แบบชีลับแบบเนี่ย อยากเป็นแค่นักบวชตามอารามที่เน้นชีวิตการสวดภาวนา เพราะผมเชื่อในการสวดสวดภาวนาครับ สนใจอารามคามิลเลียนแต่เมืองไทยมีแต่กลุ่มสตรี กลุ่มที่เป็นบุรุษยังไม่เข้ามา
ปล. ที่เซงเนี่ยเซงตัวเองครับ ยังไม่มีความกล้าพอ แค่จะบอกว่าจะลาออกยังไม่กล้าเลย
ปล. ที่เซงเนี่ยเซงตัวเองครับ ยังไม่มีความกล้าพอ แค่จะบอกว่าจะลาออกยังไม่กล้าเลย
แก้ไขล่าสุดโดย sdjakapong เมื่อ อาทิตย์ พ.ค. 12, 2013 11:27 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- Ecclēsia
- โพสต์: 976
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 27, 2009 9:25 pm
- ที่อยู่: อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขต1 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
- ติดต่อ:
น่าเห็นใจมากมายค่ะ ยิ่งเป็นอะไรที่คุณหนีไปไหนไม่ได้ด้วย
นี่คือความท้าทายอย่างหนึ่งของกระเเสเรียกฆราวาส อย่างเราๆ
ไม่นานมานี้เจอปัญหาคล้ายๆกับคุณเลยค่ะ อาจจะไม่น่าลำบากใจเท่านี้ เเต่กว่าจะผ่านมาได้ก็หืดขึ้นคอ ข้อสรุปก็คือ แม้เราจะหลีกเลี่ยงงานที่เราไม่อยากทำไม่ได้ เเต่หลีกเลี่ยงสิ่งที่ผิดได้ค่ะ
ฉันทำงานให้...เเต่ขอฉันไปวัดอาทิตย์ละครั้งเถอะ อย่างน้อยมิสซา1ชั่วโมงขอเถอะ
ฉันทำงานให้...เเต่ฉันไม่โกงตามที่เธอบอก (ถ้าจะไล่ฉันออกก็ได้นะ จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย)
ประมาณนี้ จะเห็นว่าอาการหัวเเข็งบางทีก็มีประโยชน์เหมือนกันค่ะ และเเม้จะทำได้ยาก (อันนี้เข้าใจ) เเต่ขอให้เจรจาต่อรองด้วยท่าทีสุภาพนะคะ
"เพราะข่าวดีนี้เองข้าพเจ้าจึงต้องทนทุกข์จนต้องถูกจองจำเหมือนเป็นอาชญากร แต่พระวาจาของพระเจ้าจะถูกจองจำไม่ได้..."2 ทธ 2.9
เป็นกำลังใจให้ค่ะ Fighto!!!!!!!!!
นี่คือความท้าทายอย่างหนึ่งของกระเเสเรียกฆราวาส อย่างเราๆ
ไม่นานมานี้เจอปัญหาคล้ายๆกับคุณเลยค่ะ อาจจะไม่น่าลำบากใจเท่านี้ เเต่กว่าจะผ่านมาได้ก็หืดขึ้นคอ ข้อสรุปก็คือ แม้เราจะหลีกเลี่ยงงานที่เราไม่อยากทำไม่ได้ เเต่หลีกเลี่ยงสิ่งที่ผิดได้ค่ะ
ฉันทำงานให้...เเต่ขอฉันไปวัดอาทิตย์ละครั้งเถอะ อย่างน้อยมิสซา1ชั่วโมงขอเถอะ
ฉันทำงานให้...เเต่ฉันไม่โกงตามที่เธอบอก (ถ้าจะไล่ฉันออกก็ได้นะ จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย)
ประมาณนี้ จะเห็นว่าอาการหัวเเข็งบางทีก็มีประโยชน์เหมือนกันค่ะ และเเม้จะทำได้ยาก (อันนี้เข้าใจ) เเต่ขอให้เจรจาต่อรองด้วยท่าทีสุภาพนะคะ
"เพราะข่าวดีนี้เองข้าพเจ้าจึงต้องทนทุกข์จนต้องถูกจองจำเหมือนเป็นอาชญากร แต่พระวาจาของพระเจ้าจะถูกจองจำไม่ได้..."2 ทธ 2.9
เป็นกำลังใจให้ค่ะ Fighto!!!!!!!!!
- siritawatss
- โพสต์: 559
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ย. 18, 2012 8:11 pm
- ที่อยู่: อ มะขาม จ จันทบุรี
- ติดต่อ:
ผมเชื่อมั่นว่าต้องมีทางออกที่ดีที่สุด สำหรับคุณนะครับ สวดภาวนาขอความช่วยเหลือครับ พระองค์รับรู้ทุกสิ่งครับ ไม่ต้องละอายใจที่จะเข้าหาพระนะครับ พระองค์รอคุณอยู่ครับ ขอให้พระเจ้าทรงนำทางคุณครับ