Happy Halloween Day ครับทุกท่าน

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
siritawatss
โพสต์: 559
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ย. 18, 2012 8:11 pm
ที่อยู่: อ มะขาม จ จันทบุรี
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ต.ค. 31, 2013 7:53 pm

:s012: เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สบายดีกันมั้ยครับ มีอะไรไม่สบายใจก็มาเล่าสู่กันฟังได้ครับ ยินดีเป็นผู้ฟังที่ดีครับ หรือถ้าสบายดีก็ทักทายกันบ้างนะครับ ขอบคุณครับ :s007:
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

พฤหัสฯ. ต.ค. 31, 2013 9:19 pm

:s007: :s007: :s007:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5974
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. ต.ค. 31, 2013 10:45 pm

อยากทราบที่ไปที่มาของวันฮาโลวีนค่ะ ใครพอทราบไหมเอ่ย ทำไมฝรั่งแม้นแต่เด็กๆก็แต่งตัวเป็นผีต่างๆ
หลอกคน แล้วฟักทองมันเกี่ยวกับวันฮาโลวีนอย่างไรคะ
::056:: ::022:: ::046:: ::053::
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

ศุกร์ พ.ย. 01, 2013 6:47 pm

rosa-lee เขียน:อยากทราบที่ไปที่มาของวันฮาโลวีนค่ะ ใครพอทราบไหมเอ่ย ทำไมฝรั่งแม้นแต่เด็กๆก็แต่งตัวเป็นผีต่างๆ
หลอกคน แล้วฟักทองมันเกี่ยวกับวันฮาโลวีนอย่างไรคะ
::056:: ::022:: ::046:: ::053::
มีเรื่องราวเล่ากันมาจากนิทานปรัมปราขอ​งชาวไอริชที่เล่าถึง แจ๊คจอมตืด ซึ่งเป็นนักเล่นกลจอมขี้เมา ในวันฮาโลวีนเป็นวันที่เขาหมดอายุไข ซาตาน จึงเดินทางมารับวิญญาณของแจ๊ค ขณะนั้นแจ๊คกำลังดื่มเหล้าอยู่ จึงขอซาตานว่าดื่มเสร็จแล้วจะไปลงนรกกับซาตาน เมื่อดื่มเสร็จแจ๊คออกอุบายท้าซาตานว่าถ้ามีอิทธิฤทธิ์จริงให้แปลงร่างเป็น เหรียญให้ตนดูซาตานทำตามคำท้าของแจ๊ค เมื่อแปลงร่างเป็นเหรียญ แจ๊คจึงรีบเก็บเหรียญใส่ไว้ในกระเป๋าแล้วเอาไม้กางเขนใส่กระเป๋าทับไว้ทันที เพื่อไม่ให้ซาตานกลับมาเป็นร่างเดิม

ต่อมาแจ๊คได้ยื่นข้อเสนอกับซาตานว่า หากอยากกลับร่างเดิมจะต้องสัญญาว่า ซาตานจะไม่มายุ่งกับเขาเป็นเวลา 1 ปี ซาตานตอบตกลง เมื่อ 1 ปี ผ่านไป ซาตานกลับมาหาแจ๊คอีก ครั้งนี้แจ๊คก็ออกอุบายหลอกซาตานอีก บอกให้ปีนต้นไม้ไปเก็บผลไม้ให้ตน เมื่อซาตานปีนขึ้นต้นไม้ แจ๊คจัดการแกะเปลือกไม้เป็นรูปไม้กางเขน ทำให้ซาตานไม่สามารถปีนลงมาได้ จากนั้นแจ๊คยื่นเงื่อนไขว่า ถ้าซาตานอยากลงจากต้นไม้จะต้องสัญญาว่าภายใน 10 ปี จะไม่มาเอาวิญญาณของเขา ซาตานไม่มีทางเลือกจึงต้องยอมตกลง

กระทั่งหลายปีต่อมา แจ๊คสิ้นชีวิตลง เทวดาไม่ยอมให้แจ๊คขึ้นสวรรค์ เพราะเขาเป็นคนเจ้าเล่ห์ ทำแต่สิ่งไม่ดี ในขณะเดียวกันนรกก็ไม่ต้องการ เพราะหลอกซาตานไว้ถึงสองครั้ง ซาตานบอกให้แจ๊คออกไปเป็นผีเร่ร่อนในความมืดเพียงลำพัง และโยนถ่านที่ยังไม่มอดให้แจ๊คหนึ่งก้อนเพื่อส่องทาง แจ๊คพยายามรักษาให้ถ่านอยู่ได้นานที่สุด โดยการนำ หัวผักกาด ที่แกะเอาเนื้อในออกและใส่ก้อนถ่านเข้าไป แล้วผีแจ๊คก็เร่ร่อน ล่องลอยไปตามที่ต่าง ๆ พร้อมกับตะเกียงหัวผักกาด

ต่อมาชาวยุโรปย้ายถิ่นฐานไปอยู่อเมริกา ได้นำธรรมเนียมนี้มาปฏิบัติด้วย แต่ใช้เป็น ลูกฟักทอง แทน เพราะฟักทองเป็นผลไม้ประจำท้องถิ่นที่หาง่าย ผลใหญ่ เหมาะที่จะนำมาแกะสลัก อีกทั้งมีสีสันสวยงามกว่าของเดิม มีความเชื่อว่าแกะสลักให้ดูน่ากลัวแล้วนำไปแขวนหรือวางไว้ที่หน้าต่างหรือประตู จะสามารถปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายตลอดทั้งปี

แจ๊คจอมตืด ก็คือที่มาของฟัก
ทองในวันฮาโลวีน

ผมไปหามาครับ :s012:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5974
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ พ.ย. 02, 2013 7:51 pm

เป็นเรื่องแบบนี้เอง อ่านเพลินเลย ขอบคุณลูก sun จ้า ที่ขยันหามาแบ่งปัน
ไม่รู้ เจ้าแจ็คจอมตืด ตอนนี้ไปอยู่ไหน????
:s002: :s007: :s013: :s021:
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

จันทร์ พ.ย. 04, 2013 11:05 pm

ผมเองก็เพิ่งรู้คับมาม๊า5555
magicgreen
โพสต์: 361
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 08, 2012 8:57 pm

พุธ พ.ย. 13, 2013 7:31 pm

เคยรู้,kแบบนั้นเหมือนกันแ ต่ฮัลโลวีนที่ผ่านมาด้วยความสงสัยว่าทำไมสมเด็จพระสันตะปาปาถึงประกาศให้วันที่1-8 พฤศจิกายน เป็นวันที่สวดให้วิญญาณในไฟชำระแล้วจะได้รับพระคุณการุญย์ ก็เลยหาได้ดังนี้ ><

(รู้จักความหมายของ "ฮาโลวีน")
ในคริสต์ศาสนา นิกายคาทอลิก Halloween เป็นคำภาษาอังกฤษ เพี้ยนมาจากคำ All Hallows Eves ซึ่งแปลว่า วันก่อนวันสมโภชนักบุญทั้งหลาย โดยวิธีตัดต่อ Hallow + Eve = Halloween คำว่า Hallow เป็นคำแองโกลแซกซัน แปลว่า ทำให้ศักดิ์สิทธิ์ ตรงกับภาษาเยอรมันว่า heiligen ในปัจจุบันนิยมใช้คำมาจากภาษาละตินว่า sanctify คำว่า Hallow ยังมีใช้ในบทสวดอธิษฐานเก่าๆ เช่น Hallowed be thy Name (พระนามพระองค์จงเป็นที่สักการะ)

คำว่า Hallow ยังแปลว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผู้ศักดิ์สิทธิ์ นักบุญ ดังนั้น All Hallowmas จึงแปลว่า วันสมโภชนักบุญทั้งหลาย ในปัจจุบันใช้คำว่า All Saints Day คู่กับ Christmas ซึ่งแปลว่า วันสมโภชพระคริสต์หรือคริสต์มาสนั่นเอง

วันก่อนวันสมโภชคริสต์มาสมี Christmas Eve ที่นิยมเรียกว่า คืน (ก่อน) คริสต์มาส วันก่อนวันสมโภชนักบุญทั้งหลายก็มี All Hallowmas Eve ซึ่งต่อมาย่อเป็น Halloween โดยมีงานรื่นเริงและพิธีกรรมทางศาสนาเช่นเดียวกับคืนคริสต์มาส ชาวคาทอลิกพร้อมใจกันเลื่อนพิธีกรรมทางศาสนาไป หลังวันสมโภชนักบุญทั้งหลาย และเรียกว่า วันวิญญาณในแดนชำระ (All Souls Day) เพื่อให้คู่กับวันสมโภชนักบุญทั้งหลาย (All Saints Day)

(ความเป็นมาของวันฮาโลวีน)

วันฮาโลวีนของทุกปี จะตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม เชื่อว่ามีที่มาจากวันฉลองปีใหม่ของชาวเซลท์ (Celt) ในวันที่ 1 พฤศจิกายนที่เรียกว่า Samhain ซึ่งเป็นชื่อของเทพเจ้าแห่งความตาย ทั้งนี้ ในวันที่ 31 ตุลาคม ชาวเคลต์ (Celt) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองเผ่าหนึ่งในไอร์แลนด์ ถือกันว่าเป็นวันสิ้นสุดของฤดูร้อน และวันต่อมา คือ วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นวันขึ้นปีใหม่

ซึ่งในวันที่ 31 ตุลาคมนี่เองที่ชาวเคลต์เชื่อว่า เป็นวันที่มิติคนตาย และคนเป็นจะถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน และวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตในปีที่ผ่านมา จะเที่ยวหาร่างของคนเป็นเพื่อสิงสู่ เพื่อที่จะได้มีชีวิตขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เดือดร้อนถึงคนเป็น ต้องหาทุกวิถีทางที่จะไม่ให้วิญญาณมาสิงสู่ร่างตน ชาวเคลต์จึงปิดไฟทุกดวงในบ้าน ให้อากาศหนาวเย็น และไม่เป็นที่พึงปรารถนาของบรรดาผีร้าย และยังพยายามแต่งกายให้แปลกประหลาด ปลอมตัวเป็นผีร้าย และส่งเสียงดัง เพื่อให้ผีตัวจริงตกใจหนีหายสาบสูญไป นอกจากนี้คืนดังกล่าวยังเป็นคืนเฉลิมฉลองการสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยว และอาจมีการนำสัตว์ หรือพืชผลมาบูชายัญให้กับเหล่าภูติผี และวิญญาณด้วย หลังจากคืนนั้นไฟทุกดวงจะถูกดับ และจุดขึ้นใหม่ด้วยไฟศักดิ์สิทธิ์ของชาวเซลท์ บางตำนานยังเล่าถึงขนาดว่า มีการเผา "คนที่คิดว่าถูกผีร้ายสิง" เป็นการเชือดไก่ให้ผีกลัวอีกต่างหาก แต่นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนคริสตกาล ที่ความคิดเรื่องผีสางยังฝังรากลึกในจิตใจมนุษย์ ต่อมาในศตวรรษแรกแห่งคริสตกาล ชาวโรมันรับประเพณีฮาโลวีนมาจากชาวเคลต์ แต่ได้ตัดการเผาร่างคนที่ถูกผีสิงออก เปลี่ยนเป็นการเผาหุ่นแทน
ในสมัยต่อชาวโรมันคาทอลิกต้องการกำจัดพิธีเฉลิมฉลอง ของกลุ่มชนนอกศาสนาคริสต์เหล่านี้ สันตะปาปา Gregory ที่ 4 จึงได้กำหนดวันที่ 1 พฤศจิกายนให้เป็นวันเฉลิมฉลอง All Saints Day หรือ All Hallows Day สำหรับชาวคริสต์เพื่อระลึกถึงนักบุญ และผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่การเฉลิมฉลองในคืนวันที่ 31 ตุลาคมหรือ Hallow´s Eve ก็ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบันแต่ชื่อเรียกได้เพี้ยนไปเป็น Halloween
กาลเวลาผ่านไป ความเชื่อเรื่องผีจะสิงสูร่างมนุษย์เสื่อมถอยลงตามลำดับ ฮาโลวีนจึงกลายเป็นเพียงพิธีการ การแต่งตัวเป็นผี แม่มด สัตว์ประหลาดตามแต่จะสร้างสรรค์กันไป

(กิจกรรมในวันฮาโลวีน)

การฉลองวันฮาโลวีนนิยมจัดกันในสหรัฐอเมริกา ไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร แคนาดา และยังมีในออสเตรเลีย กับนิวซีแลนด์ด้วย รวมถึงประเทศอื่นในทวีปยุโรปก็นิยมจัดงานวันฮาโลวีนเพื่อความสนุกสนาน ในประเทศทางตะวันตก เด็กๆ จะแต่งกายเป็นภูตผีปีศาจพากันชักชวนเพื่อนฝูงออกไปงานฉลอง เรียกว่า การเล่น Trick or Treat (หลอกหรือเลี้ยง) คือการเดินเคาะประตูขอขนมตามบ้าน
เคล็ดอีกอย่างหนึ่งของเทศกาลฮาโลวีน นอกจากเคาะประตูขอขนมตามบ้านต่างๆ แล้ว ยังมีการนำ แอปเปิ้ล กับเหรียญชนิดหกเพ็นซ์ใส่ลงในอ่างน้ำ หากใครสามารถแยกแยะของสองอย่างนี้ ออกจากกันได้ด้วยการใช้ปากคาบเหรียญขึ้นมา และใช้ส้อมจิ้มแอปเปิ้ลให้ติดเพียงครั้งเดียวถือว่าผู้นั้นจะโชคดีตลอดปีใหม่ที่กำลังมาถึง ทางด้านสาวอังกฤษสมัยก่อนจะออกไปหว่านและไถกลบเมล็ดป่านชนิดหนึ่งในยามเที่ยงคืนของวันฮาโลวีน พร้อมกับเสี่ยงสัตย์อธิษฐานด้วยการท่องคาถาว่า "เจ้าเมล็ดป่านที่ข้าหว่านจงช่วยบันดาลให้ผู้ที่จะมาเป็นคู่ชีวิตของข้าปรากฎตัวให้เห็น" หลังจากนั้นลองเหลียวมองผ่านบ่าด้านซ้ายของตนเองดู ก็จะได้เห็นนิมิตเรือนร่างของผู้ที่จะมาเป็นสามีในอนาคตของตน (นี่คือความเชื่อของสาวๆ อังกฤษ)

(ตำนานแกะสลักฟักทอง แจ๊ก-โอ'-แลนเทิร์น (jack-o'-lantern))

ตำนานที่เกี่ยวกับฟักทองนั้น เป็นตำนานพื้นบ้านของชาวไอริช กล่าวถึง แจ๊คจอมตืด ซึ่งเป็นนักเล่นกลจอมขี้เมา วันหนึ่งเขาหลอกล่อปีศาจขึ้นไปบนต้นไม้และเขียนกากบาทไว้ที่โคนต้นไม้ ทำให้ปีศาจลงมาไม่ได้ จากนั้นเขาได้ทำข้อตกลงกับปีศาจ "ห้ามนำสิ่งไม่ดีมาหลอกล่อเขาอีก" แล้วเขาจะปล่อยปีศาจลงจากต้นไม้ เมื่อแจ็คตายลง เขาปฏิเสธที่จะขึ้นสวรรค์ เพราะเขามีความคิดไปในทางของความชั่วร้าย ขณะเดียวกันปฏิเสธที่จะลงนรก เพราะเขาได้ทำข้อตกลงกับปีศาจไว้ ปีศาจจึงให้ถ่านที่กำลังคุแก่เขา เพื่อให้เขาใช้นำทางไปในทางที่มืดมิด และหนาวเย็น และแจ็คได้นำถ่านนี้ใส่ไว้ในหัวผักกาดเทอนิพที่ถูกเจาะให้กลวง เพื่อให้ไฟลุกโชติช่วงได้นานขึ้น ชาวไอริชจึงแกะสลักหัวผักกาดเทอนิพ และใส่ไฟในด้านใน อันเป็นอีกสัญลักษณ์ของวันฮาโลวีน เพื่อระลึกถึง "การหยุดยั้งความชั่ว" Trick or Treat เพื่อส่งผลบุญให้กับญาติผู้ล่วงลับ และพิธีทางศาสนาเพื่อทำบุญวันปีใหม่ แต่เมื่อมีการฉลองฮาโลวีนในสหรัฐอเมริกา ชาวอเมริกาพบว่าฟักทองหาง่ายกว่าหัวผักกาดมาก จึงเปลี่ยนมาใช้ฟักทองแทน

Credit : http://hilight.kapook.com/view/30133
ตอบกลับโพส