ผมอยากรู้ว่าโกหกเพื่อความเอาตัวรอดบาปมั้ยครับใครพอมีคำตอบ
- fork5552022
- โพสต์: 145
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 12, 2014 2:17 pm
- ที่อยู่: บ้านเลขที่ 120 ม.3 ต.งิ้วราย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 73120
- ติดต่อ:
เเบบว่านะเมื่อตอนผมเป็นเด็กตอนนั้นผมอยู่ ป.5 เเล้วตอนนี้ ผมอยู่ ม.3 ตอนที่ผมอยู่ ป.5 เเม่ของผมเป็นหนี้นอกระบบเวลาเจ้าหนี้จะมาเอาเงินบางครั้งเเม่ของผมมีเงินจ่ายเเต่บางบางครั้งเเม่ของผมไม่มีเงินจ่ายเเล้วเวลาเเม่ไม่เงินให้เจ้าหนี้เวลาเขามาเเม่หลบเจ้าหนี้เพราะไม่เงินจ่ายเเล้วเเม่บอกผมว่าไปบอกเขาว่าเเม่ผมไม่อยู่ที่เเท้อยู่นี้เเหละโกหกเพื่อความเอาตัวรอดบาปมั้ยครับ
-
- โพสต์: 282
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 25, 2013 4:55 pm
กรณีนี้ ในความคิดของพี่ คือว่า การโกหกเป็นสิ่งที่ไม่ดีอยู่แล้ว
แต่จะดีได้ก็ต่อเมื่อการโกหกนั้นไม่ทำให้ใครเดือดร้อน และไม่ทำให้ใครลำบาก ไม่ทำให้เกิดเรื่อง
แต่ถ้าความคิดพี่นอกเหนือหรือไม่ถูกต้องในเรื่องนี้
การพิจารณาโทษบาป ก็ขึ้นตรงต่อพระเป็นเจ้าองค์เดียวแล้ว
แต่จะดีได้ก็ต่อเมื่อการโกหกนั้นไม่ทำให้ใครเดือดร้อน และไม่ทำให้ใครลำบาก ไม่ทำให้เกิดเรื่อง
แต่ถ้าความคิดพี่นอกเหนือหรือไม่ถูกต้องในเรื่องนี้
การพิจารณาโทษบาป ก็ขึ้นตรงต่อพระเป็นเจ้าองค์เดียวแล้ว
-
- โพสต์: 282
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 25, 2013 4:55 pm
น้องพอรู้จักคุณพ่อ หรือ ซิสเตอร์ไหมหล่ะ ลองถามดู เผื่อท่าน จะให้คำตอบที่ดีกว่านี้ นะ
- fork5552022
- โพสต์: 145
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 12, 2014 2:17 pm
- ที่อยู่: บ้านเลขที่ 120 ม.3 ต.งิ้วราย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 73120
- ติดต่อ:
ขอบคุณครับ
[b](มธ. 5:37 [THSV])
จริงก็จงว่าจริง ไม่ก็ว่าไม่ คำพูดที่เกินกว่านี้มาจากความชั่ว
(มธ. 12:36 [THSV])
ส่วนเราบอกพวกท่านว่า คำที่ไม่เป็นสาระทุกคำซึ่งมนุษย์พูดนั้น มนุษย์จะต้องรับผิดชอบถ้อยคำเหล่านั้นในวันพิพากษา
(มธ. 12:37 [THSV])
เพราะว่าพวกท่านจะพ้นผิดหรือถูกตัดสินลงโทษ ก็เพราะคำพูดของท่าน”
[/b]
ขอความนี้มาจากพระคัมภีร์ดังนั้นไม่ต้องตีความมากเพราะข้อพระคัมภีร์ระบุไว้ชัดเจนแล้ว เอเมน.
จริงก็จงว่าจริง ไม่ก็ว่าไม่ คำพูดที่เกินกว่านี้มาจากความชั่ว
(มธ. 12:36 [THSV])
ส่วนเราบอกพวกท่านว่า คำที่ไม่เป็นสาระทุกคำซึ่งมนุษย์พูดนั้น มนุษย์จะต้องรับผิดชอบถ้อยคำเหล่านั้นในวันพิพากษา
(มธ. 12:37 [THSV])
เพราะว่าพวกท่านจะพ้นผิดหรือถูกตัดสินลงโทษ ก็เพราะคำพูดของท่าน”
[/b]
ขอความนี้มาจากพระคัมภีร์ดังนั้นไม่ต้องตีความมากเพราะข้อพระคัมภีร์ระบุไว้ชัดเจนแล้ว เอเมน.
คุณปู่ทีล่วงลับไปแล้วของผมเคยให้หลักเอาไว้ว่ามันขึ้นกับว่าคนที่มาถามเราเขามีสิทธิ์รู้ความจริงหรือไม่ ถ้าเขามีสิทธิ์รู้ความจริงแล้วเราจงใจปกปิดหรือว่าโกหกอันนี้เป็นบาปครับ
กรณีที่เขาไม่มีสิทธิ์รู้ความจริงเช่นเขามาสอบถามเรื่องส่วนตัวของเราซึ่งไม่ใช่ธุระของเขา แต่ถามเพื่อหาทางเอาผลประโยชน์จากเราหรือเพื่อสอดรู้สอดเห็นอันนี้โกหกไปไม่น่าจะบาปนะครับ
กรณีที่ยกมาคุณแม่เราเจตนาเบี้ยวหรือไม่ก็จ่ายช้าอันนี้ผิดชัดเจนครับ เราร่วมโกหกก็ถือว่าเราผิดด้วย แต่หากเราและแม่เราทำเพราะความจำเป็นอันนี้ก็เป็นเหตุบรรเทาโทษบาปให้น้อยลง มันขึ้นกับมโนธรรมของเราด้วย
ส่วนเจ้าหนี้นอกระบบถ้าเค้าฉวยโอกาสเรียกดอกเบี้ยโหดเกินเหตุเพื่อฉวยโอกาสเอาเปรียบคนจนอันนี้มันก็เป็นบาปของเขาเหมือนกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเราเบี้ยวหนี้ชักดาบหรือจ่ายช้าแล้วเราจะไม่บาปนะครับ
กรณีที่เขาไม่มีสิทธิ์รู้ความจริงเช่นเขามาสอบถามเรื่องส่วนตัวของเราซึ่งไม่ใช่ธุระของเขา แต่ถามเพื่อหาทางเอาผลประโยชน์จากเราหรือเพื่อสอดรู้สอดเห็นอันนี้โกหกไปไม่น่าจะบาปนะครับ
กรณีที่ยกมาคุณแม่เราเจตนาเบี้ยวหรือไม่ก็จ่ายช้าอันนี้ผิดชัดเจนครับ เราร่วมโกหกก็ถือว่าเราผิดด้วย แต่หากเราและแม่เราทำเพราะความจำเป็นอันนี้ก็เป็นเหตุบรรเทาโทษบาปให้น้อยลง มันขึ้นกับมโนธรรมของเราด้วย
ส่วนเจ้าหนี้นอกระบบถ้าเค้าฉวยโอกาสเรียกดอกเบี้ยโหดเกินเหตุเพื่อฉวยโอกาสเอาเปรียบคนจนอันนี้มันก็เป็นบาปของเขาเหมือนกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเราเบี้ยวหนี้ชักดาบหรือจ่ายช้าแล้วเราจะไม่บาปนะครับ