พอดีมีโอกาสไปมาหลายครั้งแล้วครับ ถ่ายภาพไว้ เลยจะเอามาลง
ให้พี่ๆ น้องๆ ได้ชมความสวยงาม โดยเฉพาะ ภาพวาดข้างใน ที่เป็นที่ขึ้นชื่อมากๆ
ปิ๊งไปวัดนี้ เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2557 วันนั้นตั้งใจไปมาก
พอลงจากแท๊กซี่ เห็นยอดโดมของโบสถ์ที่งามตระหง่าน
ก็รีบสาวเท้า เร่งเดินไปยังจุดหมายทันที
จากที่เคยดูรูปในเนต แต่ก่อนวัดเป็นสีขาว และเปลี่ยนเป็นชมพู และมาเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ตอนชาวงเตรียมฉลองวัด 100 ปี ครับ ตื่นเต้นมากๆครับ สวย สวยมากๆ สวยจริงๆ
รูปนี้ ถ่ายตรงหน้าถ้ำแม่พระครับ อาจจะเบลอๆ เพราะวันนั้น ฝนตั้งเค้าจะตกเหมือนกัน
ตรงถ้ำแม่พระ บรรยากาศ อบอุ่นมากๆครับ
มุมเฉียง กับทิวต้นมะฮอกกานี หามุมสวยๆ ถ่ายภาพ ถ่ายภาพไป ตื่นเต้นไป ไม่คิดว่าจะได้มาวัดนี้จริงๆ สวยกว่าที่เคยมองผ่านจอคอมพิวเตอร์อีกครับ
ด้านข้างวัดตามแนวยาวครับ เดินซะรอบวัดเลย สวยงามมากจริงๆ
วัดสีน้ำตาลอ่อน เข้มขลัง สวยงาม จะมีต้นมะฮอกกานี ปลูกอยู่เรียงรายรอบวัดเลยครับ
บริเวณหลังวัดครับ จะเห็น ปี ค.ศ.อยู่ด้วย 1908- 1910 น่าจะเป็นระยะเวลาที่สร้างครับ
หลังจากนั้น ปิ๊งเองก็ เดินไปหยุดบริเวณหน้าบ้าน ภคิณี เพราะจะมีม้าหินอ่อนให้นั่งพักได้
ตอนนั้นยังนึกอะไรไม่ค่อยออก มองไปอีกฝั่ง ก็เห็นสุสาน นึกถึง MV เพลง โปรดอย่ามาสงสารทันที
ใจเองก็อยากจะเข้าไปถ่ายรูปข้างในวัด แต่ไม่รู้จะทำยังไง เลยเดินไปสวดสายประคำตรงถ้ำแม่พระ
สวดได้ 10 เม็ดเอง ด้วยอารมณ์ขี้เกียจหรืออะไรมิทราบ เลยเดินกลับไปนั่งที่ม้าหินอ่อนที่เดิม
ทำให้ได้เจอ ซิสเตอร์ท่านหนึ่ง ปิ๊งเองก็ไม่รู้อารมณ์ไหน เลยเดินตรงไปหาท่าน พร้อมกับเล่าเรื่องราวให้ท่านฟังทุกอย่าง ว่า เหตุใด ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ ซิสเตอร์ท่านก็ฟัง แล้วก็ยิ้มๆ แล้วก็ หยิบน้ำในถังแช่ ให้ 1 แก้ว แล้วบอกว่า "ดื่มน้ำซะก่อนนะ เดี๋ยวซิสเตอร์ไปเอากุญแจก่อน แล้วเดี๋ยวจะพาเข้าไปดูในวัด" เท่านั้นแหละครับหัวใจมันพองโตขึ้นด้วยความปิติยินดี ทำไมหนอท่านถึงใจดีกับผมขนาดนี้
ก้าวแรกที่ซิสเตอร์ เปิดประตูโบสถ์ครับ ทุกคนเป็นอย่างผมหรือเปล่า ทำไมช่างงดงามเช่นนี้
ขอขอบคุณพระเจ้าที่ อวยพรให้ผมพบกับซิสเตอร์
และขอขอบคุณซิสเตอร์ที่ให้ความเมตตา มาเปิดวัดให้ผมเข้าไปถ่ายรูป
งดงามจริงหรือเปล่า ชมกันเองเลยครับทุกท่าน มือจับกล้องไป ก็ตื่นเต้นไป ไม่รู้จะเริ่มจากมุมไหนก่อน สวยทุกมุม สวยทุกอย่าง แม้แต่เก้าอี้นั่ง ยังสวยงามน่ารัก
ภาพวาดบนเพดาน เห็นแล้วตื้นตันในความสง่างามมาก สีสันสดใส ทุกวันนี้ เวลาไปมิสซา ผมก็จะแหงนมองภาพเหล่านี้เสมอ
ซิสเตอร์ท่านเมตตา กลัวว่าจะถ่ายภาพไม่ชัด จึงเดินไปเปิดไฟที่เพดานให้
และยังอนุญาตให้มาถ่ายรูปใกล้ๆพระแท่นได้ด้วย ท่านบอกว่า เมื่อเช้ามีพิธีปลงศพ
ก็เลยมีดอกไม้จัดแต่ง แต่ไม่จัดมากเพราะอยู่ในช่วงรำลึกถึงพระมหาทรมานของพระเยชูเจ้า
ถ้ำแม่พระ มีความร่มรื่น สวยงาม มีพวงมาลัย และเก้าอี้ไว้สำหรับ คริสตชน
ที่ไปสวดสายประคำ บรรยากาศ ร่มรื่น สวยงาม เงียบ สงบมาก เมื่อเร็วๆนี้ กำลังจะมีงานครบ 26 ปี
แม่พระมาประจักษ์ แต่ติดช่วง คสช.พอดี เลยเลื่อนปไม่มีกำหนด
ปล.ภายในยังมีรูปแม่พระ รูปพระเยซู รูปคุณพ่อนิโคลาส ด้วยนะครับ เดี๋ยวจะอัพให้ดูอีกนะครับ
หลังจากเสร็จจากในวัดปิ๊งเอง ก็ได้มีโอกาสไปชมรูปปั้น แม่พระผู้เห็นอกเห็นใจ แต่ไม่ได้เข้าไปถ่ายภาพ ซิสเตอร์ท่านก็เล่าประวัติให้ฟัง จากนั้นปิ๊งก็มุ่งหน้าไปที่สุสาน เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังอีกกระทู้นึงนะครับ ย่าลืมติดตามด้วยนะครับ
