.....จากนสพ ไทยรัฐ โดย. มิสแซฟไฟร์
ดิดต่างอย่างเข้าใจ!! " มนุษย์ป้า " กับ " มนุษย์หลาน "
....ถูกย้อนศรเข้าแล้ว เมื่อหญิงวัยกลางคนถึงสูงวัยแต่งตัวดีมีฐานะ โดนขนานนาม
เป็น"มนุษย์ป้า" ผู้สร้างความปั่นป่วนให้สังคม ด้วยพฤติกรรมเหวี่ยงๆเอาแต่ใจ
ตัวเองมากถึงมากที่สุดและยึดถือตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล โดยไม่สนใจคนรอบข้าง
ว่าจะรู้สึกอย่างไร ป้าหลายคนทนคำเหน็บแนมไม่ไหว ถึงกับเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่บ้านพักใหญ่
ไม่กล้าออกไปเพ่นพ่านในที่สาธารณะ โดยเฉพาะแหล่งรวมวัยรุ่นใจกลางเมือง เพราะกลัว
โดนถ่ายคลิปตอนสติแตกไปเผยแพร่บนโลกออนไลน์
.....ในโลกโซเซียลบัญญัติไว้ว่า คุณสมบัติของ "มนุษย์ป้า" คือถูกทุกข้อ ! ทำอะไรป้าก็ถูก
เสมอ ชอบแซงคิวทุกที่ทุกเวลา โดยมักใช้ความแก่เป็นข้ออ้าง ขออภิสิทธิ์พิเศษไปทุกเรื่อง
ชอบของแจกฟรี พอๆกับชอบใช้อำนาจเบ่งใส่คนอื่น และทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์สุงสุด
ของตัวเอง ไม่ยอมให้ใครเอาเปรียบถ้าโดนเอาเปรียบก็จะโวยวายทันที อันนี้ไม่ได้เหมารวม
ว่าผู้หญิงสูงวัยต้องนิสัยป้าทุกคน บางคนยังไม่แก่ก็ทำตัวเป็น "มนุษย์ป้า" ได้เหมือนกันนะ
มันเป็นเรื่องอินเนอร์!! และพวกลุงทั้งหลายก็ไม่ต้องแอบหัวเราะคิกคักเพราะ "มนุษย์ลุง"
ก็มีพฤติกรรมไม่น้อยหน้าป้าสักเท่าไหร่ เพียงแต่เป็นผู้ชายอาจจะแสดงออกปรี้ดปร๊าดไม่เท่า
ผู้หญิง
....ก่อนหน้าที่จะมีคำว่า "มนุษย์ป้า" แพร่หลายไปทั่วให้คุณป้าๆเจ็บจี๊ด จนอยากถือป้าย
ประท้วงเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมกันในสังคมกลับคืนมา !!
มีต่อ..
"มนุษย์ป้า" กับ "มนุษย์หลาน" เป็นอย่างไร
.... "มนุษย์หลาน" ก็ตกเป็นเป้าโจมตีของสังคมโลกมาแล้วอย่างต่อเนื่อง
โดย "มนุษย์หลาน" หรือ " The Me Me Generation " อาจจะไม่ขี้เบ่ง และเคารพ
สิทธิส่วนบุคคล พอๆกับที่หวงแหนสิทธิความเป็นส่วนตัว แต่เอาเข้าจริงๆ "มนุษย์หลาน"
ก็มีพฤติกรรมบั่นทอนอารมณ์ไม่แพ้กัน...จริงไหม
...."มนุษย์หลาน" ที่พวกเราเรียกติดปากว่า "เด็กสมัยนี้ " เป็นพวกหลงตัวเองอย่างหนัก
ขี้เกียจ, เห็นแก่ตัว, ไม่สู้งาน, ความอดทนต่ำ, ไม่แคร์โลกไม่แคร์สังคมไม่แคร์ประเทศชาติ,
บุคลิกแปรปรวน และไม่เห็นหัวผู้ใหญ่ หลายๆคนวันๆเอาแต่หมกตัวอยู่หน้าคอมพิวเตอร์
และทำตัวเป็นลูกแหง่ให้พ่อแม่หาเลี้ยงไปทั้งชีวิต ไม่คิดทำงานทำการใดๆ
....มีหลักฐานยืนยันจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ซึ่งจัดทำรายงานสถานการณ์
การว่างงานของเยาวชนรุ่นใหม่ ประจำปี2013 ระบุว่า ทั่วโลกในขณะนี้มีเด็กจบใหม่ตกงาน
ถึง 73ล้านคนหรือคิดเป็น 12.6 % และคาดว่า ภายใน4 ปีข้างหน้า อัตราการว่างงานของ
เด็กรุ่นใหม่จะขยับขึ้นเป็น 12.8 % ซึ่งถือว่าเข้าขั้นวิกฤติ อันนี้เป็นผลพวงมาจากความถดถอย
ของเศรษฐกิจโลก ทำให้เด็กจบใหม่ต้องตกงานเป็นเบือและถูกบีบให้เป็นพนักงานชั่วคราว
หรือเด็กฝึกงานที่ไม่ได้ค่าจ้าง เพราะขาดทักษะความชำนาญและประสบการณ์ ที่ตลาดแรงงาน
ต้องการในยุคเศรษฐกิจตกสะเก็ต ภาระหนักอึ้งจึงตกอยู่ที่ "มนุษย์ป้า"และ "มนุษย์ลุง"
ต้องเป็นคนหาเลี้ยงต่อไป
....การเติบโตมาแบบเหยาะแหยะ หนักไม่เอาเบาไม่สู้ของ "มนุษย์หลาน" อันที่จริงแล้วก็
เป็นผลพวงมาจากการเลี้ยงดูฟูมฟักและตามอกตามใจของ "มนุษย์ป้า" ซึ่งพยายามปรนเปรอ
ความสุขให้ลูกหลานเต็มที่ เพื่อชดเชยความเหนื่อยยากที่ป้าทำงานหนักมาทั้งชีวิต กระทั่ง
สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาได้
...ส่วนพฤติกรรมเหวี่ยงวีนชอบใช้อภิสิทธิ์ของ "มนุษย์ป้า" ขอยืนยันว่าเป็นได้ก็หายได้
ด้วยความเคารพนะคะ!!
(เป็นบทความของ มิสแซฟไฟร์)
