ร่วมสนุกชิงรางวัล สิ่งดี หรือสิ่งที่ท่านชอบในคริสต์ศาสนา

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. ธ.ค. 10, 2015 4:24 pm

:s002: ในปีเมตตาธรรมนี้ ขอพระองค์ทรง เมตตาโลกให้มีสันติสุข
"จงเป็นผู้เมตตากรุณาดังที่พระบิดาของท่านทรงพระเมตตากรุณาเถิด"
........................ :s007: :s007: :s007: ....................
เรามาแบ่งปันกัน ใครแบ่งปันได้ดีที่สุดมีรางวัลค่ะ และทุกคนที่เข้ามาแบ่งปัน
เรามีรางวัลแจกทุกท่านค่ะ เป็นรูปแม่พระ รูปนักบุญ สายประคำสวยๆ
หัวข้อ คำถามคือ
......สิ่งดีหรือสิ่งที่ท่านชอบที่ศาสนาคริสต์มีแตกต่างจากศาสนาอื่นคืออะไร.....
เราจะให้คุณพ่อ เป็นผู้พิจราณาตัดสินค่ะ
ถึง 10 ม.ค. 2016
ตอบเป็นข้อๆก็ได้ค่ะ
:s013: :s013:

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ
Focus2547
โพสต์: 47
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ต.ค. 26, 2015 7:51 pm
ที่อยู่: Northern part, Thailand
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ธ.ค. 10, 2015 5:33 pm

จากปัญญาเด็กๆเช่นผม
ศาสนาคริสต์มีพระเจ้าที่สูงสุดที่เรานับถือเพียงหนึ่งเดียว เป็นพระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพ ไม่มีศาสนาใดๆ ที่มีพระเจ้าที่มอบพระบุตรองค์เดียว ผ่านพระแม่มารี มาไถ่บาปบนกางเขน ซึ่งเป็นสิ่งที่ประทับใจของผมและทรงคืนพระชนน์ ไม่ปรากฏในศาสนาอื่นใดเลย

พระเจ้าอวยพร :s005:
สวัสดีครับ
†tonklakubpom†
โพสต์: 268
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ย. 17, 2009 5:15 pm

ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 3:30 am

สำหรับผมแล้วสิ่งที่ชื่นชอบในศาสนาคริสต์และทำให้ศาสนาคริสต์ไม่เหมือนศาสนาอื่นๆเลยก็คือ
"ความรัก"ครับผม
เราได้เรียนรู้ในการให้ความรักแก่ผู้อื่น ความรักในที่นี้มิใช่เพียงรักต่อบุคคลที่เรารักหรือรักเรา. แต่มันกว้างไปถึงบุคคลที่เราไม่รู้จัก เพื่อนร่วมโลก สิ่งสร้างของพระเจ้า และที่สำคัญที่สุดคือทรงสอนให้เรารักศัตรูหรือผู้ที่เกลียดชังเราด้วย น่าแปลกมากที่มีการสอนให้เรารักศัตรูของเรา จุดนี้เป็นจุดสำคัญและทำให้ผมชื่นชอบและคิดว่าไม่มีใครเหมือน ซึ่งมันทำให้เราได้เรียนรู้ที่จะรักผู้อื่นในมุมมองใหม่ๆ ไม่จำกัดอยู่ที่บุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เราควรรักทุกๆคนเหมือนที่เรารักตัวเอง และเฉกเช่นเดียวกับที่พระเจ้าทรงรักและเมตตาเราทุกคน

วันนี้คุณได้มอบความรักให้กับผู้อื่นแล้วหรือยัง?
:s002: :s002:
Ofivea
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 5:34 am

ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 5:49 am

เมื่อครั้งที่ไปร่วมงานวันพ่อที่อำเภอเชียงคาน ประธานในพิธีคือท่านนายอำเภอยกตัวอย่างให้คนที่มาร่วมงานซึ่งสว่วนมากเป็นพี่น้องชาวพุทธ ว่า ท่านไปเยี่ยมชมบ้านท่าบม ได้สนทนากับคุณพ่อประสงค์เจ้าอาวาสวัดอัครเทวดาราฟาแอล ถึงเรื่องการสร้างไม้กางเขนใหญ่บนภูเขา แม้ว่าถนนหนทางขึ้นสู่ยอดเขาจะยากลำบากต่อการลำเลียงวัสดุก่อสร้างหรือแม้แต่เดินขึ้นเขา แต่ทำไมสำเร็จสวยงาม. คุณพ่อตอบนายอำเภอว่า "ชาวบ้านสร้างด้วยเสียงหัวเราะ" ช่วยกันด้วยความสามัคคีอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ค่าใช้จ่ายทุกๆบาทมาจากชาวบ้าน นายอำเภอจบด้วย "นั่นคือตัวอย่างอันน่าชมเชยของพี่น้องคาทอลิค ที่นำมาแบ่งปันให้ทุกท่านในวันนี้"
Privateaow
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 5:34 am

ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 6:15 am

ขอเลือกบทเพลงมาใช้เเทนคำอธิบาย สิ่งดีๆในคริสต์ศาสนา
1. ให้เราเป็นเครื่องมือสื่อสันติ
ที่ใดมีความเกลียดชังนำรักพระไป
ที่ใดมีความโกรธเคืองนำการอภัย
ที่ใดสงสัยให้นำความเชื่อ
2. ให้เราเป็นเครื่องมือสื่อสันติ
ที่ใดมีความหวังมลายนำความหวังไป
ที่ใดมีความมืดมัวจะส่องแสงไป
ที่ใดทุกข์ใจนำความยินดี
(รับ) โอ้พระเจ้าโปรดสดับฟังคำวิงวอน
ให้เราเป็นผู้บรรเทามากกว่ารับการบรรเทา
จะปลอบโยนดูแลและเข้าใจผู้อื่น
มอบความรักมากกว่าการรอคอยความรักจากใคร
3. ให้เราเป็นเครื่องมือสื่อสันติ
ให้เรารู้จักอภัยเหมือนดังพระองค์
ให้เรารู้จักแบ่งปันความรักมั่นคง
เพื่อจะดำรงชีวิตนิรันดร์
kobkab
โพสต์: 10
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. เม.ย. 30, 2015 9:16 pm
ที่อยู่: นครราชสีมา

ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 6:22 am

สิ่งดีๆที่เรามีต่างจากศาสนาอื่นๆ ผมคิดว่าคือการที่เรามีความรักความสามัคคีกันอย่างเหนียวแน่น เช่นเวลามีการฉลองวัดหรืองานใหญ่ๆในชุมชน ครอบครัวแต่ละครอบครัวมีอะไรก็จะนำมาแบ่งกันหรือมาช่วยตระเตรียมงาน หรือแม้กระทั่งเวลาที่คุณพ่ออยากจะซ่อมแซมวัด ชาวบ้านก็มักจะบริจาคเงินหรือใครที่ซ่อมเป็นก็จะซ่อมให้ฟรี ซึ่งทั้งหมดแล้วล้วนมาจากความศรัทธาของพี่น้องในชุมชนนั้นๆ แม้กระทั่งพี่น้องที่ต่างความเชื่อเราก็ช่วยเหลือโดยไม่แบ่งแยกว่าจะนับถือศาสนาใดและช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในฐานะที่เราเป็นเพื่อนร่วมโลกด้วยกัน อีกทั้งการที่เรามีวิถีชุมชนวัด(BEC)ทำให้เรามีปฏิสัมพันธ์กับทางวัดมากขึ้นด้วยครับ
Zolomon
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 6:55 am

ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 7:04 am

ความรักและการให้อภัยค่ะ
เราต้องให้อภัยไม่ใช่แค่ 7 ครั้ง แต่ 70 คูณ 7 ครั้ง (มธ 18:22)
เราต้องมองข้ามความผิดของเขา พระองค์ทรงสอนแม้กระทั่งให้รักศัตรูและอย่าแก้แค้นค่ะ
::003::
wardenship
โพสต์: 120
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 8:50 pm
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 7:48 am

ความรักและความสามัคคีของชุมชนความเชื่อ ที่ถูกปลูกฝังกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ชุมชนคามอลิกเข้มแข็งขึ้นเรื่อย ๆ ครับ
Joshua1990
โพสต์: 3
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 8:46 am

ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 8:54 am

ไม่เคยมีศาสนาใดสอนให้เราวางใจในพระเจ้า พระทรงช่วยเราและเคียงข้าง โดยที่เราไม่ต้องเดินคนเดียวอีกต่อไป ไม่ใช่แค่คำสอน แต่พระองค์ทรงพระชนอยู่จริง
มัทธิว11
28 “ท่าน​ทั้ง​หลาย​ที่​เหน็ดเหนื่อย และ​แบกภาระ​หนัก จง​มา​พบ​เรา​เถิด เรา​จะ​ให้​ท่าน​ได้​พักผ่อน
29 จง​รับ​แอก​ของ​เรา​แบก​ไว้ และ​มา​เป็น​ศิษย์​ของ​เรา เพราะ​เรา​มี​ใจ​สุภาพอ่อนโยน​และ​ถ่อม​ตน จิตใจ​ของ​ท่าน​จะ​ได้​รับ​การ​พักผ่อน
30 เพราะว่า​แอก​ของ​เรา​อ่อนนุ่ม​และ​ภาระ​ที่​เรา​ให้​ท่าน​แบก​ก็​เบา”
mungka
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 8:22 am

ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 9:49 am

เพราะพระเป็นเจ้าได้ลงมาเกิดรับสภาพเป็นมนุษย์ ทำอัศจรรย์ สอนหลักคำสอนที่ใช้ได้จริง เสียสละ โดนดูถูกเย้ยหยัน แต่ทรงใช้ความรัก ความไว้ใจ สยบทุกอย่าง เกิดมามีอะไรไม่สำคัญเท่ากับมีศาสนาให้ยึดเหนี่ยวจิตใจ ทุกครั้งยามท้อ ยามผิดหวัง หรือมีสุขสมหวัง ขอบคุณศาสนาคริสต์ ที่ประทานความเชื่อ ความศรัทธา ให้ทุกครั้งที่จะทำอะไร ได้หรือไม่ได้ ก็ให้ลูกรู้จึกวอนขอและขอบคุณพระองค์


อย่ามาถือศาสนาคริสต์เพราะหวังจะได้อะไร หรือไม่ได้ก็โทษพระองค์

อย่าไปโบสถ์วันอาทิตย์ เพียงเพื่อ เพราะต้องไปเป็นหน้าที่ที่เรียนรู้มา แต่ให้เราไปเพราะศรัทธาระลึกถึงในคุณงามดีของพระองค์ และทุกครั้งที่ไปโบสถ์ ข้อคิดจากพระคัมภีร์ ข้อคิดจากคุณพ่อ ควรนำมาใช้ต่อในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่ฟังผ่านหู แล้วออกไปไม่ได้อะไรเลย


ขอขอบพระคุณพระเป็นเจ้า ที่ทำให้คนๆหนึ่งเรียนรู้ถึงการเป็นลูกแกะที่ดี ลูกแกะที่แม้บางครั้งก็อาจจะผิดพลาดในชีวิต ขอบคุณที่ทำให้ลูกได้เรียนรู้ ว่า บทสวดความเชื่อความศรัทธา และ โบสถ์ไหนที่ดีที่สุด โบสถ์ไหนที่เก่าแก่ โบสถ์ไหนที่คนขอแล้วได้ คนมั้งจะแห่กันไป ลูกก็เช่นกัน
แต่ตอนนี้พระองค์ทำให้ลูกได้เรียนรู้สัจธรรมอยู่ข้อหนึ่ง ไม่มีใครดีไปกว่ากัน บทสวดภาวนา ถึงแม้จะถูกเปลี่ยน
บางคนก็สวดได้แต่บทเก่า ก็ไม่สำคัญ ถ้าบทภาวนาบทนั้นเป็นความตั้งใจ ที่เราระลึกถึงพระองค์ ที่ออกมาจากใจเรา

โบสถ์ทุกโบสถ์ พระองค์อยู่ที่นั่น อยู่ทุกหนทุกแห่ง ไม่มีโบสถ์ไหนที่พระองค์จะอยู่แค่โบสถ์เดียว


ศาสนาคริสต์ เป็นเทวนิยม เป็นศาสนา ที่พิสูจน์ไม่ได้ เคยมีคนว่า เราเข้าไม่ถึงนิพพาน เพราะปฎิบัติมาน้อยบุญบารมีไม่ถึง นึกในใจเขาลืมอะไรไปแล้วหรอ การติเตียน การว่าคนอื่นหรือทำให้ศาสนาอื่นดูต่ำลง ไม่ใช่สิ่งที่ศาสนาไหนจะสอน ความเชื่อ ความศรัทธา ไม่จำเป็นต้องรวย มีบ้าน มีรถ ดูดีในสังคม แล้วมาสอนอะไร เราก็ฟังชื่นชม แต่ถ้าคนจนๆ รถไม่มี ตัวเหม็น พูดอะไร เราก็หนี คนเหมือนกัน ต่างกันแค่รูปลักษณ์ พระเป็นเจ้าก็มีกล่าวถึงผู้ที่ต่ำต้อย ให้เราได้เลือกปฏบัติ มีอีกหลาย ที่พระเป็นเจ้าทรงสอน และใช้ได้จริง อยู่ที่พวกเราจะเลือกเอาอะไรมาใช้ แต่เรารู้แล้ว สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต คือการที่มีพระองค์ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ อาแมน
TBKim
โพสต์: 6
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 12, 2015 12:47 am

ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 9:55 am

ขอพระหรรษทานจากพระตรีเอกภาพ จงมีท่ามกลางคุณ rosa-lee ครับ

สิ่งที่ดีที่พบได้เห็น และได้รับนะครับ คือส่วนตัวยังเป็นคริสตชนได้ไม่ถึงปีเลย แต่สิ่งที่รับเหมือนผมได้รับเป็นปี ๆ แล้ว ก็คือความสุขครับ ความรัก พี่น้องคริสตชนทุกนิกายที่ผมรู้จัก พวกเขาเปี่ยมไปด้วยความรัก และความสุข และอีกอย่างที่ผมได้รับ และนำมาใช่อยู่ทุกวันนี้ก็คือ "ความถ่อมตน" ผมได้รับมาจากมารดาต่างนิกายนั้นก็คือคุณแม่เทเรซา แห่งกัลกัตตา ครับ ท่ามเป็นคนที่อ้อมน้อมจริง ๆ และในเรื่องความรัก ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้ผมรักทุกคนแม้เขาจะดูเป็นคนบาปของ "บางกลุ่ม" แต่พระเจ้าก็ทรงสอนให้เราเอาความรักมองก่อนครับ

สิ่งที่ชอบ ขอตอบตอนที่ยังไม่ได้เข้าศาสนาคริสต์นะครับ คือเป็นศาสนาที่ดูสงบ มีความรัก รู้จัก ไม่รู้จัก ต่างศาสนาเขาก็จะบอกกันและกันว่า "พระเจ้าอวยพร" มันเป็นสิ่งที่ผมประทับใจมากครับ ๆ พวกเขาเต็มไปด้วยความรักครับ มันเป็นความรู้สึกที่ผมบอกไม่ถูกนะครับ 5555555555

Ave Maria!!

ชาโลมครับ. :s002:
lenovy
โพสต์: 2
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ต.ค. 05, 2015 7:35 am

ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 10:20 am

ศาสนาคริสต์ เป็นศาสนาเที่ยงแท้และเป็นศาสนาที่มีอิสระเสรีอย่างแท้จริง ศาสนาอื่นมีคำสอนที่ดีก็จริงแต่ไม่สามารถไปถึงมาตรฐานของพระได้เลย แถมยังกลายเป็นตรวนพันธการที่ทำให้ถูกสาปแช่งอยู่ทุกวัน
พระคริสต์ทรงมาอย่างถ่อมใจรับเอาคำสาปแช่งทั้งสิ้นของเราไปที่กางเขนนั้น ดูสิไม่มีพระใดทำแบบนี้ ที่ช่วยสาวกของตนได้ขึ้นสวรรค์อย่างแท้จริง
นี่แหละความจริงของโลก
magnum1412
โพสต์: 3
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 10:16 am

ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 10:44 am

[ยาวหน่อยนะครับ]

แต่เริ่มเดิมที ผมเป็นพุทธศาสนิกชนที่เคร่งพอสมควร เพราะทางครอบครัวเลื่อมใสศรัทธาในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาก โดยเฉพาะเรื่องเวรกรรม สวรรค์-นรก แต่เมื่อครั้งตอนผมอายุได้ห้าขวบเศษ ก็เกิดอุบัติเหตุจนหัวถลกเปิดไป คุณพ่อบอกว่านี่อาจจะเป็นเวรกรรมแต่ชาติปางไหนของผม แน่นอนว่าทุกคนก็คิดเช่นนั้นจนกระทั่งกลางดึก คุณแม่ผมฝันเห็นแม่พระเสด็จมาพร้อมกับพระเยซู เอื้อมมือลงมาสัมผัสผม แม่เล่าว่าในฝันนั้นท่านไม่รู้หรอกว่าพระองค์คือใครเพราะไม่รู้จัก แต่พระองค์ก็ไม่ได้รังเกียจที่จะอุ้มและรักษาผมจนหาย แม่วิ่งตามแม่พระเข้าไปในโบสถ์และพระเยซูทรงรออยู่ก่อนแล้ว พระองค์ทำพิธีล้างให้ผมแล้วผมก็ลืมตาขึ้น แล้วแม่ก็ตื่น วันรุ่งขึ้นเลยยกมือสวดขอผู้หญิงและผู้ชายในฝัน (ตอนนั้นไม่รู้จักพระองค์) แล้วผมก็หายในวันต่อมา หายเลยครับ...ตื่นแล้วทำงานร่าเริงปกติ แม่เล่าแบบนี้นะเพราะตอนนั้นผมยังจำความไม่ได้

แม่บอกว่าแม่จะพาผมไปวัดคาทอลิก แต่โดนพ่อห้ามเอาไว้ เพราะทั้งครอบครัวไม่มีใครเป็นคริสต์เลย ผมเลยต้องเป็นพุทธมาเรื่อย ๆ แต่ศรัทธาของผมใฝ่มาทางคริสต์ (คาทอลิก) ตั้งแต่จำความได้นะ ไม่รู้ทำไม แต่ชอบมาก เคยกระทั่งเอาตะเกียบมาทำเป็นไม้กางเขนแล้วกอดไว้ มันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

พออายุได้สักสิบสองขวบ (ป.6) มีคริสตจักรของพี่น้องโปรเตสแตนท์มาตั้งใกล้บ้าน ใกล้มากจนแบบสามารถเดินไปเข้าร่วมกิจกรรมได้ แต่พอมาถึงหน้าโบสถ์กลับไม่อยากเข้า รู้สึกมันไม่ใช่แบบที่เราอยากได้ พวกเขายิ้มต้อนรับแต่ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่ของจริง (ผมคิดแบบนี้จริง ๆ ในตอนนั้นครับ ไม่ได้มีอคตินะ เพราะยังไม่รู้เรื่องนิกายอะไรเลย รู้แต่ฉันชอบกางเขน ชอบพระเยซู) เลยไม่ได้มากลับใจเลยกระทั่งจบม.6

ตอนอายุสิบแปดไปเร่ร่อนในอุบลราชธานี ได้คลุกคลีกับทางวัดนักบุญฟรังซิสน้ำยืนบ่อยครั้ง รู้สึกว่านี่ล่ะที่หามานาน แต่ก็ไม่ได้เข้ารีตจนกลับมาสุพรรณเมื่อปีก่อน

ผมไม่ทราบว่าที่สุพรรณบุรีมีวัดคาทอลิกใกล้ ๆ บ้านไหม รู้แต่ที่รู้จักนั้นไกลมาก แต่เมื่อเดือนสิงหาที่ผ่านมา ผมฝันว่ามีนกบินนำผมไปตามทางแล้วผมต้องรีบขับมอเตอร์ไซค์ไปให้ทัน (ไม่รู้ทำไมนะ แต่อยากตาม) กระทั่งมาเจอวัดนักบุญบาร์โธโลมิวอัครสาวกที่ดอนตาล ซึ่งไม่ไกลจากบ้านผมนัก แล้วผมก็ตื่น วันนั้นผมรีบคว้ามอเตอร์ไซค์แล้วขับไปตามทางที่ฝัน แต่ก็หาวัดไม่เจอครับ ผมขับหาอยู่สามวันกระทั่งมาเจอวันสุดท้าย (ตรงกับวันศุกร์) ตอนแรกก็กล้า ๆ กลัว ๆ แต่ก็ตัดสินใจเข้าไป และก็ได้พบกับความอบอุ่นที่คุ้นเคยและค้นหา

ทั้งที่เราเป็นคนแปลกหน้า แต่สัตบุรุษที่วัดกลับทำเหมือนเราเป็นพี่น้อง จุดนี้ผมชอบมากครับ ทำให้ผมกล้าที่จะคุกเข่าแล้วภาวนาในใจ (ณ ตอนนั้นยังไม่รู้จักบทภาวนาอะไรเลย) รู้สึกขอบคุณมาก ขอบคุณที่นำมาจนเจอวัด ตอนนี้ตั้งใจเรียนคำสอนและมุ่งมั่นว่าจะเป็นคริสตชนที่ดีแม้จะไม่ได้เป็นคนดีอะไร พระองค์ทรงเปลี่ยนชีวิตผมจริง ๆ เพียงแค่ก้าวผ่านพ้นรั้วของวัดเข้ามา มันไม่ใช่อัศจรรย์แรกในชีวิตผมนะ แต่มันเป็นอัศจรรย์ที่ทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนไปตลอดกาล...

สิ่งที่ผมอยากจะบอกจากการเล่าที่ยาวเหยียดนี้ก็คือว่า จะมีพระเจ้าองค์ใดเล่าที่ทรงพระเมตตาเท่าพระองค์ แม้ลูกเป็นคนบาปและโง่เขลาไม่รู้เดียงสา พระองค์ก็ยังคงทรงนำมากระทั่งเจอวัดในตอนอายุ 22 ปี (หากนับจากวันที่เริ่มศรัทธาก็ 13 ปีครับ) ทั้งที่มีโบสถ์โปรเตสแตนท์และเซเว่นเดย์แอดเวนติสต์อยู่เกลื่อนเมือง แต่ผมกลับไม่อยากเข้า กระทั่งมาพบกับวัดคาทอลิก ที่สำคัญบรรยากาศภายในวัดก็อบอวลไปด้วยความรัก ความอบอุ่นในแบบที่ผมหาไม่ได้ในครอบครัวตัวเองด้วยซ้ำ ทุกวันนี้ผมมีความสุขที่รู้ว่าพระทรงอยู่กับผมตลอดเวลาแม้จะมองไม่เห็น รู้สึกมีกำลังใจเสมอที่รู้ว่าแม่พระก็ไม่ได้เมินเฉยแม้ว่าผมจะไม่ได้ยินเสียงของท่าน เมื่อคืนก่อนผมฝันเห็นเด็กทารกผิวขาว กลิ่นกายหอมนมและน้ำผึ้ง สะอาดสะอ้านนอนอยู่บนเตียงสำลี ผมไม่รู้ว่าใครจะคิดยังไง แต่ผมเชื่อว่าเป็นพระกุมารแน่ ๆ และมันก็ใกล้เข้ามาแล้วครับ...วันคริสตสมภพ ^-^

ไม่ว่าอย่างไรก็รักพระองค์ครับ พระองค์ทำให้ผมกล้าที่จะยืนหยัดต่อศรัทธาแม้จะไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่ผมเล่า พ่อหาว่าผมเพ้อฝัน เพ้อเจ้อ (แต่ท่านก็ไม่ได้แอนตี้นะ) ย่าก็ว่าทำไมเปลี่ยนศาสนา ผมเชื่อว่าเรื่องพวกนี้ต้องมาสัมผัสเองครับ แต่ก็นั่นแหละ...เพราะรักพระองค์ ผมถึง(พยายาม)รักคนอื่นเหมือนรักตัวเอง (พยายาม)ไม่โกรธ (พยายาม)ไม่เกลียด ถึงจะยังทำไม่ได้ แต่เชื่อว่าพระองค์ทำได้ทุกอย่างครับ ^-^ กระนั้นวันนี้ ย่ากับพ่อเองก็เริ่มสนใจในพระองค์มากขึ้น ผมบอกกับพ่อและย่ารวมถึงญาติคนอื่นว่า ผมจะไม่บังคับให้มารักพระองค์เพราะพระองค์ก็ไม่เคยบังคับใครให้มารัก แต่ถ้าชอบ ถ้ารัก ถ้าอยากสัมผัส ผมจะพาไปวัด...

สุดท้ายนี้ ขอขอบพระคุณพี่น้องทุกคนที่รับฟังและอ่านกระทั่งจบนะครับ คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อผม และผมจะไม่ขอให้คุณเชื่อ จนกว่าคุณจะได้รู้จัก รัก และสัมผัสพระองค์ด้วยตัวเองครับ

ขอสันติสุขแห่งพระคริสตเจ้าสถิตกับพี่น้องทุกคน และขอพระองค์ทรงอวยพระพรในปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมนี้เทอญ...
แก้ไขล่าสุดโดย magnum1412 เมื่อ ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 3:23 pm, แก้ไขไปแล้ว 2 ครั้ง.
Jatupol
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 10:53 am

ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 10:59 am

สำหรับผม คือความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพระเจ้า ทำให้ผมมีความสบายใจ เพราะพระองค์สถิตอยู่กับผม ผมสวดมนตนต์โดยไม่มีการนำสวดที่ รร ผมสวดเอง เพราะที่ รรผม เป็นชาวพุทธครับ
pungmala01
โพสต์: 2
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 10:35 am

ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 11:03 am

1.เราได้รู้ว่าเราเกิดมาจากไหนใครเป็นคนสร้างเรา เพราะสิ่งนี้ทุกคนคงต้องตั้งคำถามกับตัวเองบ้างไม่ว่าคนนั้นจะอยู่ในศาสนาไหนก็ตาม แต่เราอยู่ในศาสนาคริสต์เรารู้จักพระผู้เป็นเจ้าผู้สร้างเรามาด้วยความรักของพระองค์
2.ศาสนสคริสต์ทุกคนจะมีความเมตตาจากพระเจ้าความรักจากพระองค์ เราจะไม่แบ่งแยกคนอื่นนอกศาสนา เรามีพระเจ้าผู้เป็นพ่อที่สอนเราให้รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง กับผู้อื่นคำสอนนี้สามารถเตือนใจคริสต์ชนที่จะคิดอิจฉา หรือว่าร้าย หรือสิ่งอื่นๆ ได้ดี
3.เราจะละอายต่อการทำบาป ด้วยการละอายจากใจจริง ซึ่งบางครั้งการทำบาปมันก็ยากที่จะเล่าหรือพูดให้ใครฟังได้แต่ชาวคริสตชนกล้าที่จะสารภาพบาปต่อคุณพ่อ ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า และยอมรับว่าเราเป็นคนบาป ขอการอภัยบาปต่อพระองค์
4.ชอบในตอนเช้าที่คนแก่ บางท่านอายุมากแล้วบางท่านก็เดินแทบไม่ไหวแต่ท่านก็ยังจะมาวัดแต่เช้าเพื่อสวดสายประคำ และเข้าพิธีมิสซา ทำให้มองเห็นความรัก ของคนมีอายุแล้วต่อพระเจ้าอย่างมาก. มองแล้วรู้สึกมีความสุข

ขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ทรงเมตตาลูกด้วยความรักของพระองค์ ขอพระองค์ทรงพระเจริญเถิด

:s015:
Rosa
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 8:34 am

ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 1:23 pm

การดำเนินชีวิตบนโลกนี้ มีหลายครั้งที่ได้ทำผิดไป แต่ตลอดเวลาเราได้รับความรักจากพระเจ้าเสมอ "ศีลอภัยบาป" เป็นหนทางให้เราได้หันหลังให้ปีศาจ ขอโทษพระในบาปผิดที่ได้กระทำ รับพระพรสำหรับเริ่มต้นใหม่ เมื่อได้รับแล้วเราจะกลับไปคืนดีกับเพื่อนพี่น้อง ขจัดนิสัยที่ไม่ดี รักและรับใช้ผู้อื่นยิ่งๆ ขึ้นไป เป็นสิ่งดีในศาสนาของเรา พี่น้องอย่าลืมไปแก้บาปบ่อยๆ ด้วยนะคะ :s015:
Rosa
Anasyayuchai
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 1:42 pm

ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 1:52 pm

ตั้งแต่ที่จำความได้ การได้นับถือ ศาสนาคริสต์ ตั้งแต่เด็กๆ ได้สัมผัสกับการไปวัดกับแม่ตั้งแต่เด็กๆ รับรู้เสมอ ว่า พระเป็นเจ้าสถิตอยู่กับตัวของลูกตั้งแต่นู๋ได้รับศีลล้างบาป แม่จะคอยบอกเสมอว่า อย่าทิ้งพระไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตของเราก็ตาม ทั้งๆที่แม่เอง เป็นคริสตังยืน ด้วยซ้ำไป แต่สิ่งหนึ่งที่นู๋เห็น แม่ทำเสมอๆ คือการไปวัดทุกอาทิตย์ สวดสายประคำสม่ำเสมอ เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกๆได้เห็น ทุกวันนี้ นู๋มีความรัก ความเชื่อความศรัทธา และไม่ลืมที่จะขอบคุณพระเป็นเจ้าในทุกๆเวลา ::017:: ::017:: ::017:: ::017:: ::017:: ศาสนาคริสต์ สอนในเรื่องของการให้อภัย และมีความรักต่อเพื่อนมนุษย์ ::017:: ::017:: ::017::
ภาพประจำตัวสมาชิก
fork5552022
โพสต์: 145
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 12, 2014 2:17 pm
ที่อยู่: บ้านเลขที่ 120 ม.3 ต.งิ้วราย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 73120
ติดต่อ:

ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 5:47 pm

ศาสนาคริสต์เเตกต่างศาสนาอย่างไร
ตอบ.สำหรับผมศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่ลบบาปได้พระเจ้าเห็นอกเห็นใจสำหรับลูกของพระองค์เมื่อมี บาปย่อมมี พระเยซู พระเจ้ายอมส่งบุตรของพระเจ้ามาลงมาไถ่บาปสำหรับลูกทุกคนสำหรับคนทุกที่ อยากรองพ้นขอให้เเค่เปิดใจต้อนรับพระเยซูมาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดส่วนผมเเล้วผทนับคริสต์มา8ปีเเล้วพระเจ้าสองให้รู้จักความรักเเละเสียสละพร้อมที่จะให้อภัยผู้อื่นผมชอบพระเยซูมากพระองค์เหมือนพี่ชายเเท้ของผมเเละเป็นเพื่อนที่คอยให้กำลังใจมีเเต่พระเจ้าก็เหมือนพ่อเวลาลูกทำผิดผมก็ขอโทษพ่อส่วนศาสนาพุทธบาปลบไม่ได้ต้องเวียนไหว้ตายเกิดมีการเกิดชาตินี้เกิดชาติหนัาเราจะเกิดเป็นอะไรก็ไม่รู้เเล้วเเต่บุญวาสหนาเเล้วเเต่เวดกรรมที่ทำมาชาติที่เเล้วต่างกับศาสนาคริสต์เลยเกิดชาตินี้เเละชาติเคี่ยวจะไม่เกิดอีกเลยพระเจ้าสร้างเรามาจากคินพอเราเเล้วตายเราก็กลับสู่ดินพระเจ้าเป็นเจ้าของชีวิตเราไม่ใช่เจ้าของชีวิตเราพระเจ้าเป็นผู้กำหนดชีวิตชะตาชีวิตเราเราคือพระวิหาร์ของพระเจ้าเเละพระเจ้า คือ ทุกอย่างในชีวิตเราไม่ต้องหาความสุขที่ใหนเลยความสุขของพระเจ้าเเท้จริงทุกสุดเลย พระเจ้า

พระเจ้า คือ ความหวัง
พระเจ้า คือ ความรัก
พระเจ้า คือ ความรอดพ้น
พระเจ้า คือ ความเมตตา
พระเจ้า คือ ความสุขที่เเท้จริง
พระเจ้า คือ ความยินดี

ที่อยู่ของผมนะครับ
เลขที่บ้าน 867/4 ม.3 ซ.ยิ่งยง-หนองลุมพุก
ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนเเก่น 40110
แก้ไขล่าสุดโดย fork5552022 เมื่อ จันทร์ ธ.ค. 21, 2015 4:18 pm, แก้ไขไปแล้ว 2 ครั้ง.
satoshi_b1
โพสต์: 291
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.พ. 14, 2009 1:34 pm

ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 10:33 pm

ได้ความรับความรักที่มาจากพระเจ้า"(อากาเป)"..ความเป็นพี่น้องและครอบครัว..ทั้งสันติสุข..และการขอบพระคุณพระเจ้าในทุกๆกรณี..amen...
pacharapol_da57
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 11:00 pm

ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 11:05 pm

จงรักผู้อื่นเหมือนรักตนเองครับ ผมเชื่อว่าคำสอนนี้มันสำคัญมากสำหรับชีวิตของความเป็นมนุษย์ ถ้าคนเราเอาแต่ใจตนเองโดยไม่เคารพกฏกติกา ซึ่งไม่มีเลยที่จะสามารถเข้ากับสังคมได้ การที่สังคมจะอยู๋ร่วมกันได้แม้จะต่างเชื่อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม แต่สิ่งที่มนุษย์ควรพึงมีคือ การรักและเคารพผู้อื่น เช่นที่พระเยซูเจ้าสอนเรา ครับ...
terkung
โพสต์: 5
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. เม.ย. 10, 2014 9:47 pm

ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 11:29 pm

สอนเรื่องระงับความโกรธ และการโดนข่มเหง และให้ความรัก บุคคลผู้ใดรู้สึกยากจนฝ่ายจิตวิญญาณ ผู้นั้นเป็นสุข เพราะอาณาจักรแห่งสวรรค์เป็นของเขา บุคคลผู้ใดโศกเศร้า ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับการทรงปลอบประโลม
Arissara
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ธ.ค. 11, 2015 11:51 pm

เสาร์ ธ.ค. 12, 2015 2:32 am

หนูนับถือศาสนาพุทธ แต่เรียนโรงเรียนคาทอลิกมามากกว่า5ปีแล้ว ศาสนาคริสต์ให้อะไรหนูมากมาย สอนให้หนูรู้จักเเบ่งปัน สอนให้มีความรักต่อผู้อื่นซึ่งเป็นสิ่งที่หนูชอบมากๆ ดังพระวาจาของพระเจ้าที่กล่าวว่า จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง และ จงรักศัตรู จงทำดีต่อผู้ที่เกลียดชังท่าน สอนเเม้กระทั่งให้รักศัตรู ซึ่งตามความเป็นจริงก็คงยากมากๆ หนูเชื่อเสมอว่า หากเราเชื่อในพระเจ้าพระเจ้าจะอยู่กับเรา คอยช่วยเหลือเรา เเละมาทันเวลาเสมอในเวลาที่เราเดือดร้อน โดยส่วนตัวหนูมีปาฏิหาริย์ที่เเม่พระช่วยหนูมากมาย ซึ่งก็เเสดงให้เห็นว่าเเม่พระคอยดูแลเเละอยู่กับหนูตลอดเวลา รู้สึกอุ่นใจทุกครั้งที่สวดวันทามารีย์ สิ่งที่หนูคิดว่าไม่เหมือนศาสนาอื่นก็คือ มีการล้างบาป เเละ ศาสดาเกิดจากการปฏิสนธินิรมลทิน ในตอนนี้หนูนับถือพระเเม่มารีย์ เเละเคารพมากๆ และคิดจะเคารพต่อไปเรื่อยๆ ถึงหนูจะเป็นพุทธเเต่หนูคิดว่ามันอยู่ที่ใจ ถ้าเราเชื่อ เรารักเเม่พระ เเม่พระก็จะรักเรา เพราะเเม่พระรักลูกของท่านทุกคนค่ะ ::001::
pichpisith
โพสต์: 3
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ธ.ค. 12, 2015 3:39 pm

เสาร์ ธ.ค. 12, 2015 4:03 pm

เรื่องของความประทับใจนั้น คิดว่าทุกๆคนก็คงจะมีคล้ายๆกันนั่นคือ เรื่องราวของความรัก ไม่ว่าจะเป็น ความรักที่พระมีต่อเรา หรือความรักในรูปแบบที่พระสอนเรา สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่ตัวหนังสือที่ถูกถ่ายทอดไว้ในพระคัมภีร์ แต่เป็นสิ่งที่สัมผัสได้จริงและสัมผัสได้เสมอมา พระไม่เพียงแต่รักเราเท่านั้น พระยังสอนให้เราแพร่ความรักของพระ ความรักของเรา แพร่ไปสู่เพื่อนพี่น้องของเรา ทำให้ตัวเรา คนรอบข้าง ได้รับความอบอุ่นจากความรักนั้น

ในโลกที่วุ่นวายอย่างทุกวันนี้ คิดไม่ออกเลยว่า ถ้าเราไม่ให้ความรักความอบอุ่นแก่กัน ถ้าเราไม่มีความรักและการโอบอุ้มดูแลด้วยพระเมตตา ชีวิตของเราจะดำเนินไปอย่างไร

ขอพระเป็นเจ้าอวยพรทุกคนครับ :s002:
Tangmo rung
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ธ.ค. 13, 2015 9:17 pm

อาทิตย์ ธ.ค. 13, 2015 9:33 pm

ทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป้นคนดี แต่สิ่งหนึ่งที่ศาสนาคริสต์แตกต่างจากศาสนาอื่นคือ เวลาเราประสบปัญหาต่างๆๆเราภาวนาขอพรให้พระเจ้าช่วยหรือที่เห็นได้ชัดและประสบมาคือคือการขอให้วิญญาณในไฟชำระช่วยเรื่องนั้นจะผ่านไปด้วยดีเสมอมา ทั้งๆๆที่ตัวเราเองก็ไม่ค่อยได้ไปโบสถ์ หรือไม่ค่อยได้สวดภาวนาเท่าไหร่ แต่ พระผู้เป็นเจ้าไม่เคยทิ้งเรา ยังคงรอให้เรากลับตัวกลับใจไปโบสถ์
skyyy
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 14, 2015 11:06 pm

จันทร์ ธ.ค. 14, 2015 11:23 pm

สิ่งที่ชอบในศาสนาคริสต์คือ พระแม่มารี เพราะพระแม่มารีดูมีเมตตา อบอุ่น และใจดีถึงผมจะนับถือศาสนาพุทธ แต่ว่าเมื่อได้มองดูพระแม่มารีแล้วก็รู้สึกว่าสบายใจ และมีความสุขคับ
อยากได้พระแม่มารีชุดขาวผ้าคลุมสีฟ้าจริงๆน๊าค้าบบ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ธ.ค. 20, 2015 8:42 am

เชิญสมาชิกเข้ามาแบ่งปัน ได้อีกนะคะ
10 ม.ค. 2016 จะให้คุณพ่อแอนโทนี่ เลดึ๊ก
คณะSVD (คณะพระวจนาถ) พิจราณานะคะ
คุณพ่อได้เข้ามาอ่านบทความแบ่งปัน บางส่วนแล้วค่ะ
:s007:
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ พุธ ธ.ค. 23, 2015 12:17 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
truelove_name
โพสต์: 137
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.พ. 26, 2011 8:54 pm

อังคาร ธ.ค. 22, 2015 10:08 pm

......สิ่งดีหรือสิ่งที่ท่านชอบที่ศาสนาคริสต์มีแตกต่างจากศาสนาอื่นคืออะไร.....
เนื่องจากผมก้าวผ่านการเป็นทั้งคนพุทธที่เคร่งครัด จนมาถึงคนที่ไม่ศรัทธาในอะไรเลย และได้มาถึงศาสนาคริสต์ ทำให้ผมพอจะเห็นความแตกต่างจากศาสนาอื่นอยู่พอสมควร
สิ่งแรกเลยคือ ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาเพื่อคนที่อ่อนแอ เจ็บป่วย ไม่ว่าจะทางกาย จิตใจหรือวิญญาณ ไม่ใช่ศาสนาสำหรับผู้ที่ประพฤติปฏิบัติเป็นอย่างดี มีความพร้อม หรือเป็นผู้เข้มแข็งสามารถควบคุมตนเองได้ ด้วยเหตุนี้ทำให้แม้ว่าเราจะเคยเป็นอะไรมาก็ตาม เมื่อเราเข้ามาสู่เส้นทางนี้ เราจะเห็นพัฒนาการในจิตใจ ความคิดและชีวิตของเรา เราจะค่อยๆเติบโตขึ้นผ่านประสบการณ์ต่างๆที่พระเจ้าประทานให้ แม้บางครั้งแบบทดสอบนั้นจะหนักหนาเกินกว่าเราจะรับไว้ บางครั้งเราก็ได้พลาดพลั้งไป แต่ด้วยศาสนาคริสต์เป็นศาสนาของผุ้ทีอ่อนแอ พระจะคอยช่วยดึงเราไว้ในนาทีที่เราคิดว่าเราไม่เหลืออะไรแล้ว ทำให้เราลุกขึ้นมาได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกครั้งที่เราล้มลง เมื่อเราลุกขึ้นได้แล้วมองกลับไปจะพบว่าเราได้ผ่านอะไรมามากมายเหลือเกิน ขอบคุณพระเจ้าที่คอยช่วยเรามาจนถึงวันนี้
อีกสิ่งที่ทำให้ศาสนาคริสต์แตกต่าง คือ พระเจ้าไม่ได้สร้างกรอบขึ้นมาให้ทุกคนที่อยู่ในศาสนาคริสต์โดยการบอกว่าเราห้ามทำสิ่งนั้น ห้ามทำสิ่งนี้ แต่พระเจ้าได้สอนให้เราเข้าใจว่าเพราะเหตุใด คริสตชนจึงควรทำสิ่งนี้ ไม่ควรทำสิ่งนั้น หากจะให้เปรียบ ก็คงเหมือนกับ เวลามีเด็กจะเดินเหยียบแปลงดอกไม้เวลาเข้าบ้าน ศาสนาคริสต์ไม่ได้ปักป้ายห้าม และบอกเด็กว่าจะถูกลงโทษหากเหยียบแปลงดอกไม้ แต่ศาสนาคริสต์กลับนำป้ายห้ามออกไป และบอกเด็กๆให้รู้จักรักแปลงดอกไม้ ทำให้เด็กไม่อยากเหยียบแปลงดอกไม้อีกต่อไป อีกทั้งเด็กๆยังอยากจะคอยปกป้อง รดน้ำพรวนดิน แปลงดอกไม้แปลงนี้อีกด้วย
สองประเด็นดังกล่าวทำให้เราเห็นความแตกต่างว่า ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาแห่งความหวัง ความรัก และศรัทธา ในหลายๆครั้งแม้เราจะถูกท้าทายจากทางโลก ว่าเป็นศาสนาที่ไม่มีเหตุผล เป็นตรรกะที่ไม่ถูกต้อง เป็นความเชื่อที่ถูกกำหนดขึ้นด้วยมนุษย์แต่เรากลับยอมให้ถูกความเชื่อนี้ครอบงำชีวิตทั้งๆที่ก็เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น แต่พระเจ้าก็ไม่ได้สอนให้เราโต้ตอบด้วยความรุนแรง แต่เป็นความรัก แม้บางอย่างจะไม่สามารถอธิบายด้วยหลักความจริงเชิงประจักษ์ได้ แต่เพราะเราเป็นผู้ที่มีความเชื่อและมีความศรัทธา แม้จะถูกท้าทายซักกี่ครั้ง เราก็เชื่อว่าเราสัมผัสพระเจ้าได้ และเมื่อใดก็ตามที่มีคนที่ต้องการจะเชื่อ แม้จะแค่ทดลอง เราก็พร้อมที่จะให้เขาเหล่านั้นได้สัมผัสพระเจ้าเหมือนที่เราสัมผัส จึงอาจกล่าวได้ว่าศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่ใช้ความเชื่อ และความเชื่อนี้เองคือความจริงที่เราสัมผัสได้แม้เราจะมองไม่เห็นก็ตาม
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ม.ค. 05, 2016 10:57 pm

:s013: เพื่อนๆสมาชิกเหลือเวลาอีก 5 วันนะคะ เชิญเข้ามาแบ่งปันได้ค่ะ
มีรางวัลให้ทุกคนนะคะ คุณพ่อแอนโทนี่ได้เข้ามาอ่านแล้วนะคะ
และเริ่มให้คะแนนมาแล้วค่ะ คุณพ่อจะรอถึงวันที่ 9 ม.ค.นี้ค่ะ
:s021: :s021:
ภาพประจำตัวสมาชิก
* ST. Dominic *
โพสต์: 290
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 31, 2008 3:22 pm

พุธ ม.ค. 06, 2016 6:05 pm

ครอบครัวเป็นพุทธหมด เเละได้เปลี่ยนศาสนาคนเดียว ล้างบาปมาได้ 19 ปีแล้ว..ได้พบได้เห็น

สิ่งดีในศาสนาคริสโรมันคาทอลิก คือ...

1. การได้ไปวัดวันอาทิตย์และร่วมมิสซาเป็นหนึ่งเดียวกัน ซื่งแตกต่างจากศาสนาเดิมที่ไม่มี และได้ร่วมสวดสายประคำรู้สึกอบอุ่นชอบสวดมากๆๆ จนได้เข้ากลุ่มสวดพระเมตตาที่เซนต์หลุยส์ และได้มีโอกาสได้ไปสวดพระเมตตาให้กำลังใจผู้ป่วยใน รพ. เซนต์หลุยส์ (ซึ่งการเยื่ยมผู้ป่วยและให้กำลังใจทางพุทธไม่มี) + สวดให้กับผู้ที่เสียชีวิตที่ศาลาหลุยส์มารีย์ซึ่งเราก็ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องกับเขาเลย แต่ทางญาติๆเขายินดีแม้กระทั้งเราไม่ได้ใส่ชุดดำตอนนั้น ซื่งทางคาทอลิกเขาไม่ถือเรื่องนี้จนเรารู้สึกประทับใจและยังได้ไปร่วมพิธีฝังศพของเขาด้วยและได้เห็นพิธีฝังศพของชาวคาทอลิกซึ่งเราคงจะไม่มีโอกาสได้เห็นพิธีแบบคริสต์เพราะครอบครัวเราเป็นพุทธ

สิ่งที่แตกต่างจากศาสนาอื่น

2.การบวชเป็นพระสงฆ์ของคาทอลิกไม่ได้ง่ายเหมือนศาสนาอื่น คือ...
2.1 ต้องเข้าบ้านเณรตั้งแต่ยังเด็กคือเรียนปฐม ป. 1- ป.6 แล้วต่อ ป.ตรีปรัชญา 4ปี
และ ป.ตรีเทวศาสตร์(ศาสนศาสตร์) อีก4ปี(รวม8ปี) อันนี้พอรู้มาคร่าวๆๆจากพ่อทูลหัวนะค่ะ กว่าจะได้เป็นสงฆ์ของคาทอลิกรู้สึกไม่ง่ายเหมือนศาสนาอื่นๆ และต้องมีกระแสเรียกจากพระเจ้าเบื้องบนถึงจะมีใจรักที่จะเข้าบ้านเณรได้ ไม่ใช่คิดจะบวชก็บวชได้เลย
2.2 และใครที่ได้เรียนถึงขั้นสังฆานุกรเพื่อเตรียมตัวเป็นบาทหลวงแล้วก็ไม่สามารถสึกได้เลย (อันนี้ชอบมากและแตกต่างอย่างสิ้นเชิง) ...
2.3 การบวชเป็นสงฆ์คาทอลิกก็ต้องถือศีลบน 3 ข้อ
1.ต้องเป็นโสดถือพรหมจรรย์ตลอดชีพ
2.ถือความยากจน
3.นบนอบเชื่อฟังผู้ใหญ่

การที่เราได้เข้ามาเป็นคาทอลิกรู้สึก *อบอุ่น ปลอดภัย* มีความสุขมากกว่าเดิมค่ะ
ขอบพระคุณพระเจ้าที่ให้ลูกได้มารู้จักพระองค์และได้รู้จักความรักแท้ที่พระองค์ทรงมอบให้กับมุนษย์ทุกๆคนบนโลกนี้
penguin_ocean
โพสต์: 3
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 09, 2016 5:03 pm

เสาร์ ม.ค. 09, 2016 5:10 pm

......สิ่งดีหรือสิ่งที่ท่านชอบที่ศาสนาคริสต์มีแตกต่างจากศาสนาอื่นคืออะไร.....
มิสซาเพราะมิสซาทำให้เราได้พบเห็นคนต่างๆมากมายทั้งคนแก่ คนพิการ คนที่มีความทุกข์ยากลำบากซึ่งทำให้ผมเห็นถึงความเชื่อของพวกเขาทั้งๆที่พวกเขามีโรคภัยไข้เจ็บ สภาพร่างกายเสื่อมไปตามอายุขัย สภาพร่างกายมีความบกพร่องเขาก็ยังเชื่อยังรักในพระเจ้าไม่เคยบ่นว่าพระว่าทำไมถึงให้มีโรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นกับพวกเขาทำไมให้ลูกเกิดมาพิการพวกเขาไม่เคยบ่นแต่ผมเองบางครั้งลำบากก็ไม่อดทนดังนั้นทำให้ผมมีความเชื่อมากขึ้นเมื่อได้พบพวกเขา
การฉลองวัดเป็นภาพที่น่าชื่นชมยินดีทำให้เราเห็นความสามัคคีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เห็นถึงความเมตตาของพระผ่านทางบุคคลต่างๆซึ่งสอดคล้องกับปีนี้ที่สำคัญยิ่งคือปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม
ศีลหมาสนิทซึ่งไม่มีศาสนาไหนเหมือนศาสนาของเราซึ่งพระเป็นเจ้ามอบพระบุตรลงมาไถ่บาปพวกเราให้เรารื้อฟื้นระลึกถึงพระองค์ในทุกๆวันและยังมีศีลอภัยบาปทำให้เราได้รับพระเมตตากลับมาเป็นลูกของพระองค์ไม่ว่าเราจะผิดพลาดสักเพียงใดซึ่งศาสนาอื่นไม่มีถ้าทำผิดต้องชดใช้แต่ศาสนาเราพระยกบาปให้และยังมีวันฉลองสำคัญคือวันฉลองพระเมตตาอีกซึ่งอภัยทั้งบาปและโทษบาปของเราให้หมดสิ้นไป
และผมว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พระให้เราปฏิบัติที่พระศาสนจักรของเรามีเป็นสิ่งที่มีค่าทุกสิ่งทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้นเพื่อยกตัวอย่างให้เห็นภาพที่โดดเด่นของศาสนาเรา
ตอบกลับโพส