คำถามเกี่ยวกับการพิจารณาบาปหนัก-เบา และการสารภาพบาปครับ

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
truelove_name
โพสต์: 137
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.พ. 26, 2011 8:54 pm

เสาร์ เม.ย. 23, 2016 7:16 pm

อยากทราบว่าเราจะใช้เกณฑ์ใดในการกำหนดว่าบาปนั้นเป็นบาปหนัก-เบา ครับ
เพราะปกติถ้าไม่มั่นใจก็จะแก้บาปทุกคน จนกลายเป็นเป็นคนที่แก้บาปทุกครั้งทีไปโบสถ์
เลยอยากจะสอบถามว่าจะใช้เกณฑ์ใดในการพิจารณาบาปดีครับ
มีข้อมูลว่าจะเป็นบาปหนักก็ต่อเมื่อ
หนึ่ง... พฤติกรรมนั้นละเมิดกฎในข้อหนัก
สอง... เขาต้องรู้ตัวดีขณะที่ทำ
สาม....และเต็มใจที่จะกระทำ
ข้อ 2 และ 3 ยังเข้าใจครับ แต่ข้อ 1 นี่ เราจะทราบได้อย่างไรว่าพฤติกรรมนั้นเป็นบาปหนักหรือไม่
มีอยู่ในหนังสือคู่มือ หรือขึ้นอยู่กับมโนธรรมซึ่งเป็นเรื่องที่ subjective ครับ
บางการกระทำค่อนข้างตัดสินยากว่าเป็นบาปหนัก ควรแก่การสารภาพบาป เพราะมิติในการกระทำค่อนข้างซับซ้อนครับ
เช่น การโกหกเพื่อให้ผู้อื่นสบายใจ การเลี่ยงพูดความจริงทั้งหมดเพราะเหตุจำเป็น การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองเนื่องมาจากความเครียดและฮอร์โมนส์ การเกียจคร้านจากการทำงานหนัก ฯลฯ
อยากขอความกรุณาด้วยครับ
ปล. สารภาพบาปทุกสัปดาห์ก็โอเคอยู่นะครับ แต่บางทีก็คิดว่าหากเป็นบาปเบาอาจจะทำให้ผู้อื่นที่มีบาปหนักกว่าเสียเวลารึเปล่า บางทีคุณพ่ออาจจเข้าใจผิดว่า เราเป็นคนทำบาปสม่ำเสมอรึเปล่า อะไรทำนองนี้อ่ะครับ
แก้ไขล่าสุดโดย truelove_name เมื่อ อาทิตย์ เม.ย. 24, 2016 2:16 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

อาทิตย์ เม.ย. 24, 2016 11:40 am

สำหรับตัวผมนะครับ ก็ใช้เกณฑ์จากพระบัญญัติและบัญญัติพระศาสนจักรเป็นข้อกำหนด แล้วก็ค่อยลงดีเทลว่าทำไปโดยตั้งใจไหม รู้ตัวไหม ถ้าอันไหนผมผิดโดยรู้ทั้งรู้ว่าผิด แล้วผมยังทำต่อ ผมก็ถือเป็นบาปหนัก และถ้าสิ่งนั้นที่ผมทำให้ทำให้ใจออกห่างจากพระผมก็ถือว่าเป็นบาปหนักเช่นกัน

ส่วนเรื่องบาปที่มีมมิติมาก ที่ทำแล้วสำหรับผมไม่บาป คือ การเลี่ยงพูดความจริงทั้งหมดเพราะเหตุจำเป็น การเกียจคร้านจากการทำงานหนัก(พักได้ แต่ก็ไม่ใช่พักจนเกินงาม) การโกหกเพื่อให้ผู้อื่นสบายใจ(บางเรื่องที่ไม่ทำให้เป็นที่สะดุด)

สำหรับการช่วยตัวเองนั้นไม่ว่ากรณีไหนๆ เท่าที่เคยเห็นมาในหนังสือก็ถือว่าเป็นบาปอยู่แล้ว แต่ถ้ากรณีที่ป่วยเป็นโรคถึงจุดสุดยอดด้วยตัวเองอะไรแบบนี้ ก็ไม่น่าผิดเพราะมันเป็นอาการบกพร่องของร่างกาย

ปล. ไปแก้บาปบ่อยๆดีแล้วครับ ไม่มีใครเสียเวลาใครหรอกครับ แต่ถ้ากลัวจริงๆก็อาจเดินทางมาถึงวัดสักชั่วโมง แล้วไปขอแก้ตัวต่อตัวกับคุณพ่อไปเลย เพื่อความสบายใจ
ปล2. คุณพ่อท่านตระหนักดีอยู่แล้วว่าเราเป็นมนุษย์ ซึ่งอ่อนแอ จึงไม่แปลกที่จะบาปเดิมๆซ้ำๆบ่อยๆ เคยคุยกับคุณพ่อหลายๆองค์ ท่านก็ไม่เคยจำอยู่แล้วว่าใครทำบาปอะไรมา ดังนั้นไม่ต้องห่วงหรอกครับ เรื่องของเรากับพระ อย่ายอมให้ความคิดแบบมนุษย์มาขวางไว้

อาจไม่ช่วยอะไรมาก แต่ก็พูดตามประสบการณ์คนแก้บาปบ่อยคนหนึ่ง หากผิดพลาดอย่างไรก็ขอให้พี่คนอื่นช่วยเสริมด้วยนะครับ ::005::
ภาพประจำตัวสมาชิก
zero401
โพสต์: 41
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ค. 18, 2013 10:12 pm

จันทร์ พ.ค. 02, 2016 12:04 am

ส่วนตัวยึดบาปหนักตามพระบัญญัติ 10 ประการครับ และบาปนั้นได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้าหรือตัวเราเองกับเพื่อนมนุษย์แย่ลง พระองค์ไม่ได้เป็นพระเจ้าที่จ้องจะลงโทษเมื่อเราทำผิดแต่พระองค์เปี่ยมด้วยความรักและพระเมตตา มีคุณพ่อท่านหนึ่งอธิบายให้ฟังว่า กระบวณการให้อภัยเริ่มตั้งแต่วินาทีแรกที่เราคิดว่าจะมาแก้บาปแล้ว พระองค์พร้อมที่จะให้อภัยกับเราเสมอครับ :s002:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5974
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร พ.ค. 03, 2016 11:23 am

:s005: ขอบคุณพระเจ้า พระองค์พระทัยดีพระเมตตาของพระองค์
พร้อมอภัยให้เสมอ เป็นทุกข์ถึงบาปด้วยใจจริง แม้นบาปนั้นจะเป็น
บาปหนักหรือบาปเบาจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม น้องๆน่ารักมากแก้บาป
รับศิลบ่อยๆ เราจะอยู่ในพระหรรษทานเสมอ
ตอบกลับโพส