รวมเรื่องสั้น ข้อคิดสะกิดใจ ( 1 )

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ มี.ค. 22, 2019 6:34 pm

...........ชายผู้เกียจคร้านและแผนการของพระ....................

........มีชายคนหนึ่ง ตลอดชีวิตที่ผ่านมา พยายามเลี้ยงชีพตนเอง
ด้วยวิธีการที่เกียจคร้านที่สุด วันหนึ่งเขาเดินผ่านต้นไม้ ที่มีผลดกน่า
รับประทาน เมื่อมองไปโดยรอบ ก็ไม่เห็นเจ้าของ จึงตัดสินใจ
ขโมยผลไม้ทันที แต่ขณะที่กำลังปีนต้นไม้อยู่นั้น เขาแลเห็นเจ้าของ
สวนแต่ไกล กำลังตรงเข้ามาที่เขาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับถือไม้ยาว
ในมือ เขารีบลงจากต้นไม้ และวิ่งหนีไปซ่อนตัวในป่าใกล้เคียง
หลังจากที่ซ่อนตัวอยู่ได้ครู่ใหญ่ เขาก็เห็นภาพที่ทำให้เขารู้สึกแปลกใจยิ่งนัก
เขาเห็นสุนัขจิ้งจอกพิการ ที่มีเพียง 2 ขา กำลังคลานไปข้างหน้าอย่าง
สบายอารมณ์ เขาถามตัวเองว่า เหตุใดสุนัขจิ้งจอกตัวนี้ ทั้งที่พิการแต่กลับ
ดูใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขได้

ทันใดนั้น เขาก็เห็นสิงโตตัวหนึ่ง คาบเนื้อก้อนใหญ่ในปาก กำลังเดินผ่านมา
สัตว์ทุกตัวต่างวิ่งหนี เมื่อสิงโตเข้าใกล้ ชายผู้เกียจคร้าน ก็ปีนไปหลบอยู่บน
ต้นไม้เช่นกัน เหลือแต่สุนัขจิ้งจอกพิการ ที่มีเพียง 2 ขา ยังอยู่ที่เดิม เขาคิดว่า
คงเป็นเพราะมัน วิ่งหนีไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เขาต้องประหลาดใจอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อสิงโตเดินตรงมา ที่สุนัขจิ้งจอกตัวนั้น ปล่อยก้อนเนื้อในปากออก
เพื่อให้สุนัขจิ้งจอกกินเป็นอาหาร เมื่อเห็นภาพเช่นนั้น เขาเริ่มรู้สึกมีความสุข
และคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ต้องเป็นแผนการของพระเจ้าอย่างแน่นอน
พระองค์ทรงสร้างสรรพสิ่ง และทรงมีแผนการที่ดี สำหรับทุกชีวิตอย่างแน่นอน

เมื่อคิดได้เช่นนั้นแล้ว เขาก็แน่ใจว่า พระเจ้าทรงมีแผนการที่ดี สำหรับตัวเขาด้วย
และดังนั้น เขาจึงเดินออกจากป่า และไปนั่งอยู่ที่ข้างถนน รอให้มีใครสักคน
นำอาหารมาให้ เช่นเดียวกับที่เห็นสิงโต กระทำกับสุนัขจิ้งจอกตัวนั้น
เขานั่งรออยู่ 2 วันเต็ม ก็ไม่มีผู้ใดนำอาหารมาให้เลย ที่สุดเมื่อทนหิวไม่ไหว
ก็เริ่มขยับตัวลุกขึ้นเดินออกไป ไม่นานต่อมา เขาพบอาจารย์เรืองปัญญา
ท่านหนึ่ง จึงเล่าสิ่งที่เกิดขี้นทั้งหมดให้ฟัง อาจารย์ให้อาหารและน้ำดื่ม
เพื่อประทังชีวิตเขา จากนั้นเขาก็ถามอาจารย์ว่า " ท่านผู้ทรงปัญญาครับ
พระเจ้าทรงเมตตาต่อสุนัขจิ้งจอกพิการ แต่ทำไมพระองค์
จึงทรงโหดร้ายกับผมล่ะครับ " อาจารย์ยิ้มและตอบว่า " ถูกต้อง
พระผู้สร้างทรงมีแผนการสำหรับทุกคน ตัวท่านเองก็อยู่ในแผนการของ
พระองค์ด้วย แต่ท่านเข้าใจผิดไปเอง พระองค์ไม่ทรงปรารถนา
ให้ท่านเป็นเหมือนสุนัขจิ้งจอกพิการ เพราะท่านมีร่างกายครบทั้ง 32
พระองค์จึงทรงมีพระประสงค์ ให้ท่านเป็นเหมือนสิงโตต่างหาก ! "


******************************

เรื่องจาก Moral stories แปลและเรียบเรียง โดยอาจารย์กอบกิจ ครุวรรณ
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ ศุกร์ พ.ค. 29, 2020 6:01 pm, แก้ไขไปแล้ว 3 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ มี.ค. 22, 2019 6:38 pm

................อย่าห่วงเรื่องของคนอื่น..............

....... ชายวัย 24 ปีคนหนึ่ง นั่งริมหน้าต่างรถไฟ ตะโกนขึ้นมาด้วย
ความตื่นเต้นว่า... " พ่อ ต้นไม้พวกนั้น กำลังวิ่งไปข้างหลังแน่ะครับ ! "
ผู้เป็นพ่อนั่งอมยิ้ม ขณะที่หนุ่มสาวคู่หนึ่ง ที่นั่งข้าง ๆ ชายตามองลูกชาย
ของเขาด้วยแววตาดูแคลนว่า ลูกชายเขาคงเป็นเด็กปัญญาอ่อน
และตอนนั้นเอง ลูกชายก็อุทานขึ้นอีกว่า " พ่อดูสิ ก้อนเมฆพวกนั้น
กำลังวิ่งไปทางเดียวกับเราด้วยครับ " คราวนี้หนุ่มสาวคู่นั้น อดรนทน
ไม่ไหว ชายหนุ่มจึงพูดกับผู้เป็นพ่อว่า
" ทำไม ไม่พาลูกชายไปหาหมอล่ะครับ "
ผู้เป็นพ่อยิ้มอีกครั้งหนึ่ง และพูดว่า " ผมก็พาไปหาหมอนะครับ
และนี่ก็เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาล ลูกชายผม เป็นคนตาบอด
มาแต่กำเนิด เขาเพิ่งออกจากโรงพยาบาล พร้อมกับลูกตาใหม่
วันนี้เอง "
ข้อคิดสะกิดใจ : แต่ละคนบนโลกใบนี้ ต่างมีเรื่องของตัวเองโดยเฉพาะ
ฉะนั้นอย่าตัดสินผู้อื่น หากยังไม่รู้จักผู้นั้นดีพอ

*****************
เรื่องจาก Moral stories
แปลและเรียบเรียง โดย
อาจารย์กอบกิจ ครุวรรณ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ มี.ค. 22, 2019 6:51 pm

...................... ผมขอไอศครีมธรรมดาครับ ..............

เมื่อตอนที่ไอศครีมซันเดย์ ราคายังถูกอยู่นั้น มีเด็กชายวัย 10 ขวบ
คนหนึ่ง เข้าไปนั่งในร้านคอฟฟี่ช็อป ของโรงแรมแห่งหนึ่ง เมื่อพนักงานสาว
นำน้ำเปล่าแก้วหนึ่ง มาวางให้ที่โต๊ะ เด็กคนนั้นถามขึ้นว่า " ไอศครีมซันเดย์
ราคาถ้วยละเท่าไรครับ " ก็ได้รับคำตอบว่า " 50 เซนต์ค่ะ "...
จากนั้นเด็กก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง และเอาเหรียญต่าง ๆ
ออกมานับ ก่อนจะถามอีกว่า " แล้วไอศครีมธรรมดาล่ะครับ "
ขณะนั้นเริ่มมีลูกค้าคนอื่น ยืนรอหาโต๊ะว่างอยู่ พนักงานสาวเริ่มแสดง
อาการไม่พอใจ และตอบห้วนๆ ว่า" 35 เซนต์ !" หนูน้อยเริ่มนับเหรียญต่าง ๆ
ของตนอีกครั้งหนึ่ง และที่สุดก็สั่งว่า " ผมขอไอศครีมธรรมดาครับ "
พนักงานสาวนำไอศครีมมาเสริฟให้ พร้อมกับวางใบเสร็จรับเงินไว้ที่โต๊ะ
ก่อนจะเดินจากไปอย่างรวดเร็ว เมื่อหนูน้อยกินไอศครีมเสร็จ ก็ไปชำระเงิน
ค่าไอศครีมกับแคชเชียร์ และเดินออกจากร้านไป ไม่นานต่อมา
พนักงานสาวคนเดิม ก็มาเก็บถ้วยไอศครีม และเริ่มเช็ดโต๊ะทำความสะอาด
เธอถึงกับอึ้งไปชั่วครู่
เมื่อพบว่า แทนที่หนูน้อยคนนั้น จะสั่งไอศครีมซันเดย์ แต่กลับสั่งเพียง
ไอศครีมธรรมดา เพื่อจะได้มอบเหรียญ 10 และเหรียญ 5 เซนต์ ที่รวมกันอยู่
ใต้ถ้วยไอศครีม เป็นจำนวน 15 เซนต์ ซึ่งหมายถึง หนูน้อยยอมเสียสละ
ไม่สั่งไอศครีมซันเดย์ เพื่อจะมอบทิป 15 เซนต์ ให้เธอ !

*****************

เรื่องจาก Moral stories แปลและเรียบเรียงโดยอาจารย์กอบกิจ ครุวรรณ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ มี.ค. 22, 2019 8:49 pm

..................... ขอบเขตการให้ความช่วยเหลือ..................

เมื่อไม่นานมานี้ รถของสตีฟเกิดอุบัติเหตุ จำต้องนำรถเข้าอู่ซ่อมเป็น
เวลาหลายวัน เขาจึงตัดสินใจนั่งรถใต้ดินไปทำงานในช่วงที่รถยังซ่อม
ไม่เสร็จ ค่ำวันรุ่งขึ้นขณะกลับบ้านเขาพบชายเร่ร่อนคนหนึ่ง ที่สถานีรถใต้ดิน
ก็รู้สึกสงสาร และให้เงินไปเล็กน้อย ชายเร่ร่อนกล่าวขอบคุณเขา

ค่ำวันรุ่งขึ้น เขาก็พบชายเร่ร่อนคนเดิมที่เดิมอีก ครั้งนี้สตีฟคิดอยากจะ
ช่วยเขามากขึ้นจึงออกไปนอกสถานี และซื้ออาหารให้เขาชุดหนึ่งจากนั้น
ก็ถามชายเร่ร่อนว่า “ คุณตกอยู่สภาพนี้ได้อย่างไรครับ ”

ชายเร่ร่อนอมยิ้มมองหน้าเขาก่อนจะกล่าวตอบว่า “ เพราะความรักครับ ”
สตีฟรู้สึกงงกับคำตอบที่ได้รับ จึงถามอีกว่า “ ผมไม่รู้เข้าใจคำตอบของคุณ
นักช่วยอธิบายให้ชัดหน่อยครับ ” ชายเร่ร่อนจึงขยายความว่า “ ในอดีตที่
ผ่านมาผมตั้งใจจะทำให้ทุกคน มีความสุขโดยไม่คิดถึงฐานะของตัวเองผม
ให้ความช่วยเหลือทุกคนเรื่อยมา ” สตีฟถามต่อไปว่า “ แล้วคุณเสียใจกับ
สิ่งที่ได้ทำไปไหมครับ ” ชายเร่ร่อนตอบว่า “ ไม่หรอกครับผมเพียงรู้สึกเจ็บ
อยู่ในใจเพราะมีคนที่ผมเคย “ ถอดเสื้อให้แต่พอผมลำบากและขอความช่วย
เหลือเพียงเศษผ้า " จากเขา ๆ เมินหน้าราวกับไม่เคยรู้จักผมมาก่อน ผมจึง
อยากบอกกับคุณว่าจะเป็นการดีกว่าที่จะสร้างบ้านของเราให้เสร็จ ก่อนที่
จะเชิญคนอื่นเข้ามาพักพิง หรืออย่าให้ก้อนอิฐที่เรากำลังใช้สร้างบ้านของ
เราเอง กับคนอื่น เพราะเมื่อให้ไปแล้ว ตัวเราเองกลับกลายเป็นคนไม่มี
บ้านอยู่ และต้องยื่นมือขอก้อนอิฐจากคนอื่น ”
สตีฟเข้าใจคำอธิบายที่ได้รับ และขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่ดีของชาย
เร่ร่อนคนนั้น
ข้อคิดสะกิดใจ : การให้ความช่วยเหลือผู้อื่นเป็นสิ่งที่ควรกระทำแต่อย่าช่วย
จนเกิดปัญหากับตัวเองแต่เราจะช่วยผู้อื่นได้มากขึ้นเมื่อเราอยู่ในสถานะที่
เข้มแข็งพอดีกว่าการให้ความช่วยเหลือผู้อื่นแล้วตัวเองกลับตกอยู่ในสถานะ
ที่ลำบาก

***************

แปลและเรียบเรียง โดยอาจารย์กอบกิจ ครุวรรณ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ มี.ค. 22, 2019 9:01 pm

................. ..... ไก่ทอดของผู้พันแซนเดอร์ส. ..................

ชายสูงอายุท่านหนึ่ง อาศัยอยู่ที่เมืองเคนตั๊กกี้ หลังจากประสบ
ความล้มเหลว ในอาชีพต่าง ๆ มามากมาย ที่สุดเขาเหลือทรัพย์สมบัติ
เพียงบ้านเล็กหลังหนึ่งที่เก่าพอ ๆ กับรถยนต์คันหนึ่งของเขา เขาต้อง
ขอรับเงินสวัสดิการรัฐ เพื่อประทังชีวิต เป็นเช็คเดือนละ 99 ดอลล่าร์
จนเมื่อเขามีอายุได้ 65 ปี จึงคิดค้นสูตรไก่ทอดได้ และคิดว่าจะสามารถ
ทำให้เขา เป็นมหาเศรษฐีได้ในวันหนึ่ง ด้วยวิธีการขยายสาขาแบบเฟรนไชส์

เขาออกจากเมืองและเดินทางไปตามรัฐต่างๆ เพื่อให้เจ้าของภัตตาคาร
ชิมไก่ทอดตามสูตรของเขาฟรี โดยมีข้อแม้ว่า หากขายไก่ทอดตามสูตร
ของเขาให้กับลูกค้าได้ จะต้องแบ่งเปอร์เซนต์ให้กับเขาบ้างเท่านั้น ซึ่งฟังดูก็
น่าจะเป็นไปได้... แต่ปรากฏว่า แทบจะไม่มีเจ้าของภัตตาคารสักคน
ที่เขาพบยอมตกลงกับเขาเลย
แม้ว่าเขาได้รับการปฏิเสธ ติดต่อกันถึง 1009 ครั้ง แต่เขาก็ยังคงมั่นใจ ในสูตร
ไก่ทอดของเขา และยังคงไม่ลดละที่จะหาเจ้าของภัตตาคาร ที่จะเห็นด้วยกับเขา
ต่อไป และครั้งที่ 1010 เขาก็สามารถตกลงกับเจ้าของภัตตาคารได้เป็นครั้งแรก

และนี่ก็คือการเริ่มต้นเปลี่ยน โฉมหน้าการกินไก่ทอดของคนอเมริกัน
ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนั้น ซึ่งรู้จักกันในชื่อของ ไก่ทอดเคเอฟซี
ของผู้พันฮาร์ทแลนด์ แซนเดอร์ส
( Colonel Hartland Sanders : 9 ก.ย. 1890 - 16 ธ.ค. 1980 )
ร้านแรกที่เปิดขายไก่ทอด (k)(f)(c) อยู่ในรัฐยูท่าห์ ในปี 1952
ต่อมาในปี 1964 เขาขายบริษัทไปเป็นเงิน 2 ล้านดอลล่าร์ในขณะนั้น
ซึ่งเทียบเป็นมูลค่าในปัจจุบัน มากกว่า 15 ล้านดอลล่าร์

**********************************

เรื่องจาก Morel stories แปลและเรียบเรียง โดยอาจารย์กอบกิจ ครุวรรณ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ มี.ค. 22, 2019 9:13 pm

.........เมื่อประตูบานหนึ่งปิดลง
พระเจ้าจะเปิดประตูอีกบานให้แก่เรา..!!
--------------------------

อย่าพึ่งหมดหวัง
หากคุณกำลังอยู่ในจุดที่ตกต่ำที่สุดของชีวิต..
หากคุณพลาดพลั้ง หรือกำลังสูญเสียบางอย่างที่สำคัญไป
พระเจ้าจะเป็นผู้จัดเตรียมสิ่งที่ดีกว่าไว้ให้แก่คุณ..

พระเจ้าตรัสว่า
“เพราะเรารู้แผนงานที่เรามีไว้สำหรับเจ้า
เป็นแผนงานเพื่อสวัสดิภาพ ไม่ใช่เพื่อทุกขภาพ
เพื่อจะให้อนาคตและความหวังใจแก่เจ้า”
(เยเรมีย์ 29:11)
--------------------------

แผนการของพระเจ้านั้นดีเสมอ..!

บางครั้ง การผิดหวังจากบางอย่าง
อาจนำเราไปสู่สิ่งที่ดีกว่าก็เป็นได้..
แน่นอนว่า ความผิดหวังทำให้ใจของเราเป็นทุกข์
ความสับสน อาจทำให้เรามีมุมมองที่ผิด..
พระเจ้าอยู่ที่ไหน ทำไมปล่อยให้เราเผชิญกับสิ่งเหล่านี้
พระองค์รักและห่วงใยเราจริง ๆ หรือ ?..

เมื่อเราเกิดความรู้สึกไม่พอใจ รู้สึกว่าพระเจ้าทอดทิ้ง
รู้สึกขุ่นเคืองใจ อัดอั้นใจ โมโห น้อยใจ..
พระเจ้าก็ยังต้องการให้เราระบายความรู้สึกแย่ ๆ
ทั้งหมดเหล่านี้ต่อพระองค์..

“จงวางใจในพระองค์ตลอดเวลา
จงระบายความในใจของท่านต่อพระองค์
พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยของเรา”
(สดุดี 62:8)
---------------------------

พระเจ้าจัดเตรียมสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ
เพราะชีวิตของเราอยู่ในแผนการของพระองค์..!

เรามีค่ามากในสายตาของพระเจ้า
ความผิดหวังที่เราพบเจอในวันนี้
จะเป็นหนทางนำเราไปสู่สิ่งที่ดีกว่าในวันข้างหน้า..
พระเจ้ารักเรามาก ทรงรู้จักเราดียิ่งกว่าผู้ใด
และทรงรู้ว่า สิ่งใดดีที่สุดสำหรับเรา..

มอบความผิดหวังที่มีให้กับพระเจ้าเถอะ
วางใจในการทรงนำของพระองค์..
พระเจ้าจะเป็นผู้นำย่างเท้าของเรา
ไปสู่ประตูบานใหม่ เพื่อพบกับสิ่งใหม่ที่รออยู่..!!
--------------------------

อย่าวางใจความคิด และสิ่งที่เรามองเห็นว่าดี
แต่จงเชื่อในแผนการที่พระเจ้ามีต่อชีวิตของเรา..!

“สิ่งที่ตาไม่เห็นหูไม่ได้ยิน
และสิ่งที่มนุษย์คิดไม่ถึง
คือสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงจัดเตรียมไว้
สำหรับคนที่รักพระองค์”
( 1โครินธ์ 2:9)

อย่าใช้สายตาฝ่ายเนื้อหนัง
มองหาสิ่งดีจากพระเจ้า..
แต่จงใช้สายตาฝ่ายวิญญาณ
และหัวใจที่เต็มไปด้วยการเชื่อฟังมองหา..
แล้วเราจะพบกับสิ่งล้ำค่า
ที่พระเจ้าได้ทรงจัดเตรียมไว้ให้แก่เรา..!!
----------------------------
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ มี.ค. 22, 2019 9:16 pm

............คำอธิษฐานของคุณมีผลกระทบ

คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า
คำอธิษฐานของคุณเกิดผลบ้างหรือไม่?

คุณกำลังอธิษฐานเกี่ยวกับบางสิ่งอยู่
แล้วซาตานก็มากระซิบบอกคุณว่า
"อธิษฐานไป ก็เสียเวลาเปล่า จงลืมมันเสีย!
คุณคิดว่า คุณเป็นใครกัน?
คุณคิดว่า คุณกำลังทำอะไรอยู่?
พระเจ้าไม่ได้กำลังฟังคุณอยู่หรอก
อย่าเสียเวลาเปล่าเลย"

การอธิษฐานเกิดผล
เพราะพระเจ้าควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างไว้อยู่
หลักการของปาฏิหารย์ทั้งหมด
คือ อำนาจสูงสุดในการปกครองของพระเจ้า

ทำไมพระเจ้าจึงทำสิ่งหนึ่ง
แต่กลับไม่ทำอีกสิ่งหนึ่งหรือ?
ก็เพราะว่า พระเจ้าควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างไว้อยู่
เราจำเป็นต้องวางใจในสติปัญญาและความดีของพระองค์

"พระองค์...ทรงสามารถกระทำ
เกินกว่าที่เราจะทูลขอหรือคาดคิดได้
ตามฤทธานุภาพของพระองค์
ซึ่งกระทำการอยู่ภายในเรา"
(เอเฟซัส 3:20 TNCV)

การอธิษฐานสามารถทำสิ่งใดก็ตามที่พระเจ้าสามารถทำได้
คุณมีแหล่งทรัพยากรของพระเจ้าอยู่แล้ว

ในพันธสัญญาใหม่
มีการพูดถึงคำว่า "จงขอ" ถึง 20 ครั้ง
เราจะได้รับกำลังใจอย่างมาก เมื่อเราตระหนักว่า
สิ่งซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของเรานั้น
ไม่ได้อยู่นอกเหนือการควบคุมของพระเจ้าเลย

ผมอาจไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการหนึ่งได้
แต่ผมสามารถอธิษฐานได้
และพระเจ้าก็สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์นั้นได้

ผมทราบอย่างชัดแจ้งว่า
คุณบางคนกำลังคิดอะไรอยู่ตอนนี้
"ถ้าฉันสามารถอธิษฐาน
และขอให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ได้
และถ้าพระเจ้าควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างไว้อย่างแท้จริงแล้ว
ทำไมฉันถึงไม่ได้รับทุกสิ่งที่ฉันอธิษฐานขอล่ะ"
นี่เป็นคำถามที่ดี และนี่ก็คือเหตุผล 3 ประการ

1. พระเจ้าไม่ใช่ยักษ์ในตะเกียงวิเศษ

คุณไม่ได้เพียงแค่ใส่คำอธิษฐานเข้าไป
แล้วก็ได้รับทุกสิ่งที่คุณต้องการ
ถ้าคำอธิษฐานทุกอย่างได้รับการตอบแล้ว
เราก็คงจะเป็นคนที่ถูกตามใจจนเสียคน
คุณให้ทุกสิ่งที่ลูกๆ ของคุณขอหรือไม่?
ผมหวังว่าคุณจะไม่ทำเช่นนั้น
คุณรู้ดีว่า อะไรดีที่สุดสำหรับพวกเขา
คุณสามารถเห็นภาพรวมได้ดีกว่าเขา
ถ้าคุณสามารถเห็นภาพรวมได้ดีกว่าลูก ๆ ของคุณแล้ว
พระเจ้าจะสามารถเห็นภาพรวมได้ดียิ่งกว่าคุณมากสักเท่าไร?

2. บางครั้ง คริสเตียนอธิษฐานขัดแย้งกัน

ถ้าคริสเตียนสองคนกำลังอธิษฐานเชียร์กีฬาคนละทีม
แล้วพระเจ้าจะตอบคนไหนดีล่ะ?
เป็นที่แน่ชัดว่า
พระเจ้าไม่สามารถตอบคำอธิษฐานของทั้งสองคนพร้อมกันได้
แต่ผมคิดว่า เหตุผลที่แท้จริง คือข้อ 3

3. พระเจ้าทราบว่า สิ่งใดดีที่สุด แต่เราไม่ทราบ

ถ้าคุณคิดว่าคุณทราบ
คุณก็กำลังอวดดีอย่างยิ่ง

"นี่คือความมั่นใจที่เรามีเมื่อเข้าเฝ้าพระเจ้า
คือถ้าเราทูลขอสิ่งใดที่สอดคล้องกับพระประสงค์ของพระองค์
พระองค์ก็ทรงฟังเรา"
(1 ยอห์น 5:14 TNCV)

ลองสังเกตดูคำเหล่านี้สิครับ
"สอดคล้องกับพระประสงค์ของพระองค์"

ท่าทีในการอธิษฐานของเราควรจะเป็นเช่นนี้ คือ
"ข้าแต่พระเจ้า นี่คือสิ่งที่ข้าพระองค์อธิษฐานขอ
แต่ขอให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์เถิด"

และนั่นก็คือสิ่งที่พระเยซูอธิษฐาน

"ข้าแต่พระบิดา ถ้าพระองค์พอพระทัย
ขอทรงเอาถ้วยนี้ไปจากข้าพระองค์
อย่างไรก็ตามอย่าให้เป็นไปตามใจของข้าพระองค์
แต่ขอให้สำเร็จดังพระประสงค์ของพระองค์"
(ลูกา 22:42 TNCV)

เขียนโดย Rick Warren
Your Prayers Have an Impact
แปล/เรียบเรียงโดย "ข้อคิดหนุนใจ อยากให้คนไทยได้อ่าน"
https://www.facebook.com/thaiencouragement
Line: dailyword

#ข้อคิดหนุนใจอยากให้คนไทยได้อ่าน
#วันละนิดกับข้อคิดดีๆ​
#RickWarren #1John05_14
ตอบกลับโพส