ลูกจ๋า... อย่าส่งแม่ไปบ้านพักคนชราเลย!!

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ มี.ค. 24, 2019 8:31 pm

...........ส่งอีกครั้ง
.......อ่านแล้วน้ำตาไหล ..

ลูกจ๋า อย่าส่งแม่ไปบ้านพักคนชราเลย! (อ่านให้ได้นะ)

ลูกสะใภ้พูดว่า “ ทำจืด แม่ก็ว่าไม่มีรสชาติ ตอนนี้ทำเค็มนิดหนึ่ง แม่ก็ว่า
กินไม่ได้ แล้วจะเอายังไง ! ”

เมื่อแม่เห็นลูกชายกลับมา ไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่กลืนข้าวเข้าปาก
ลูกสะใภ้มองตามด้วยความโกรธ

เมื่อลูกชายลองชิมอาหารที่แม่กำลังกิน ก็พูดกับภรรยาว่า
“ ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าโรคของแม่กินเค็มมากไม่ได้ ”

“ เอาละ ! ในเมื่อเป็นแม่ของคุณ วันหลังคุณก็ทำเองก็แล้วกัน ”
ลูกสะใภ้กล่าวด้วยความโมโห แล้วก็สะบัดหน้าเดินเข้าห้องไป

ลูกชายเรียกตามด้วยความจนใจ จากนั้นก็หันมาพูดกับแม่ว่า
“ แม่ครับ ไม่ต้องกินหรอก เดี๋ยวผมต้มบะหมี่ให้แม่กินนะครับ ”

“ ลูกมีอะไรจะพูดกับแม่ไหม ถ้ามีก็บอกแม่เถอะ อย่าเก็บไว้เลย ”
แม่เห็นอาการกังวลของลูกชาย

“ แม่ครับ เดือนหน้าผมได้เลื่อนตำแหน่ง เกรงว่าจะต้องมีงานที่
ต้องรับผิดชอบมากขึ้น เมียผมก็อยากออกไปทำงาน คือว่า .... ”
แม่รู้ทันทีว่าลูกชายจะพูดอะไรต่อ ....

“ อย่าส่งแม่ไปอยู่บ้านพักคนชรานะลูก .... ” แม่พูดออกมาอย่างอ้อนวอน

ลูกชายนิ่งคิดไปนาน แต่ก็พยายามหาทางออกที่ดีกว่านี้

แม่ครับ อยู่บ้านพักคนชราก็ดีนะแม่จะได้ไม่เหงา ที่นั่นมีคนดูแล ดีกว่าอยู่
ที่บ้านนะครับ หากเมียผมไปทำงาน เธอจะไม่มีเวลาดูแลแม่เลยนะครับ ”

หลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จ ก็ออกมาทานบะหมี่ จากนั้นก็เข้าไปที่ห้อง
หนังสือ เขายืนนิ่งอยู่ที่หน้าต่าง ในใจเกิดความสับสนขัดแย้ง
ไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรดี !

แม่ของเขาเป็นหม้ายตั้งแต่ยังสาว กล้ำกลืนทนทุกข์เลี้ยงเขามาจน
เติบใหญ่ อีกทั้งส่งเสียให้เรียนยังต่างประเทศ แต่แม่ไม่ได้อ้างสิ่งที่ทำไป
เป็นเบี้ยต่อรองให้เขาต้องเลี้ยงดู
กลับกันภรรยาผู้มาทีหลังกลับเรียกร้องให้เขาต้องรับผิดชอบ
นี่เขาต้องส่งแม่ไปอยู่บ้านพักคนชราจริงหรือ ?

“ คนที่จะอยู่กับแกในช่วงบั้นปลายชีวิตคือเมียนะโว้ย ไม่ใช่แม่ ! ”
เพื่อนๆมักจะเตือนเขาอย่างนี้

“ แม่ของเธอแก่แล้วนะ หากโชคดีก็อยู่กับแกได้อีกหลายปี ทำไม
ไม่อาศัยเวลาที่เหลือของแม่แล้วก็กตัญญูปรนนิบัติท่านละ อย่ารอ
ให้แกอยากกตัญญูแต่แม่ไม่อยู่แล้ว แล้วแกจะเสียใจ ! ” ญาติ ๆ
มักจะเตือนเขาว่าอย่างนี้

เขาไม่กล้าคิดอะไรต่อ กลัวว่าตนเองจะเปลี่ยนแปลงความตั้งใจ
เย็นแล้ว พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า เขานั่งเงียบๆคนเดียวด้วย
จิตใจที่หดหู่

ณ บ้านพักคนชราที่แสนจะหรูหรานอกชานเมือง เขาใช้เงินจำนวนมาก
เพื่อทดแทนความรู้สึกผิดต่อแม่ของเขา อย่างน้อยที่นี่ก็สะดวกสบาย

เมื่อเขาพยุงแม่เข้าสู่ตัวอาคาร ทีวีจอยักษ์กำลังฉายภาพยนตร์ตลกอยู่
แต่ไม่มีเสียงหัวเราะจากผู้ชมแม้แต่คนเดียว คนชราจำนวนหนึ่งที่สวม
ใส่เสื้อผ้าเหมือนกัน นั่งอยู่บนโซฟานั่งมองประตูทางเข้าด้วยสายตาอันเหม่อลอย
หญิงชราคนหนึ่ง กำลังก้มตัวลงไปเก็บขนมที่ตกอยู่ที่พื้นขึ้นมาใส่ปาก

เขารู้ว่าแม่ชอบห้องที่สว่างโล่ง จึงเลือกห้องที่แสงพระอาทิตย์สามารถ
สาดส่องเข้ามาได้ เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ใบไม้กำลังร่วงลงสู่พื้นหญ้า
เป็นจำนวนมาก นางพยาบาลหลายคนกำลังเข็นรถเข็นที่มีคนชรานั่งอยู่
ออกไปชมพระอาทิตย์ตกดิน รอบตัวเงียบสงัด ทำให้เขาสะท้านวาบในจิตใจ

แม้แสงพระอาทิตย์ยามลับขอบฟ้าจะงดงามสักเพียงใด นั่นก็หมายความว่า
ความมืดยามค่ำคืนกำลังจะย่างกรายเข้ามาแทนที่ เขาถอนหายใจเบาๆ

“ แม่ครับ ผม....ต้องไปแล้วนะ ” ผู้เป็นแม่ทำได้เพียงแค่พยักหน้า

ตอนที่เขาเดินจากมา แม่ยังคงโบกมือลาด้วยสีหน้าอันเศร้าสร้อย
อ้าปากพูดโดยไม่มีเสียงอยู่ตลอดเวลา เมื่อเขาหันมามอง จึงเห็นผม
สีดอกเลาของแม่ เขานึกในใจ “ แม่แก่แล้วจริง ๆ ”

อยู่ ๆ ภาพในครั้งอดีตก็ผุดขึ้นในห้วงแห่งความคิด ปีนั้นเขาอายุ
ได้เพียงแค่ 6 ขวบ แม่มีธุระต้องไปต่างจังหวัด จึงต้องพาเขาไปฝากไว้
ที่บ้านคุณลุง ตอนที่แม่จะออกจากบ้านไป เขารู้สึกกลัวมาก
เอาแต่กอดขาแม่ไม่ยอมให้แม่ไป
“ แม่จ๋าอย่าทิ้งหนูไป แม่จ๋าอย่าทิ้งหนูนะ ! ”
สุดท้าย แม่ก็ไม่กล้าทิ้งเขาไปต่างจังหวัด
เขารีบก้าวเท้าเดินออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
เมื่อปิดประตูแล้วก็ไม่กล้าหันไปมองแม่อีก

เมื่อกลับถึงบ้าน เขาเห็นภรรยาและแม่ยาย กำลังเก็บเอาข้าวของ
ของแม่โยนออกมานอกห้อง ถ้วยรางวัลรูปคนยืนสูงประมาณ 3 ฟุต
ที่เขาชนะเลิศประกวดเรียงความ “ แม่ของฉัน ”
พจนานุกรมอังกฤษจีนที่แม่ซื้อให้เขาในวันเกิด ซึ่งเป็นของขวัญ
ชิ้นแรกที่เขาได้รับจากแม่ ยังมียาหม่องน้ำที่แม่ต้องทาขาก่อนนอนทุกวันฯ

“ หยุดเดี๋ยวนี้นะ ! พวกคุณโยนของ ๆ แม่ผมออกมาทำไม ? ”
เขาถามออกไปด้วยความโมโหสุดขีด

“ ขยะทั้งนั้น ถ้าไม่ทิ้ง แล้วฉันจะเอาของ ๆ ฉันวางไว้ตรงไหน ? ”
แม่ยายพูดอย่างไม่สบอารมณ์

“ ใช่แล้ว คุณรีบเอาเตียงเน่าๆของแม่คุณไปทิ้งได้แล้ว
พรุ่งนี้ฉันจะซื้อเตียงใหม่ให้แม่ฉัน ! ”
รูปเก่าๆสมัยเขายังเด็กกองอยู่กับพื้น มันเป็นรูปที่แม่พาเขา
ไปเที่ยวสวนสัตว์และสวนสนุก

“ นั่นมันเป็นสมบัติของแม่ผม ใครก็เอาไปทิ้งไม่ได้ ! ”

“ มันจะมากเกินไปแล้วนะ มาทำเสียงดังกับแม่ฉันได้ยังไง
ขอโทษแม่ฉันเดี๋ยวนี้ ! ”

“ ผมเลือกคุณก็ต้องรักแม่คุณด้วย แต่คุณแต่งงานเข้ามาอยู่บ้านผม
ทำไมคุณรักแม่ผมไม่ได้ ? ”

ท้องฟ้าอันมืดมิดหลังฝนตก หนาวสะท้านเข้าไปถึงหัวใจ ท้องถนน
ที่ว่างเปล่าไร้รถรา บีเอ็มดับบลิวคันหนึ่งพุ่งไปข้างหน้าราวกับอยู่ในสนามแข่ง
พร้อมกับเสียงสะอื้นไห้ของชายคนหนึ่งซึ่งมุ่งไปทางบ้านพักคนชรานอกเมือง

จอดรถเสร็จ เขารีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องพักของแม่ เมื่อเปิดประตูเข้าไป
เขายืนมองแม่ด้วยความรู้สึกที่ไม่น่าให้อภัยตัวเอง แม่ของเขาก้มหน้า
ใช้มือนวดที่ขาของตัวเอง
เมื่อแม่ของเขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่ประตู ก็เห็นลูกชายของตัวเองยืนอยู่
และในมือถือยาหม่องน้ำอยู่ และก็พูดออกมาด้วยเสียงอ่อนโยนว่า
“ แม่ลืมเอามาด้วย ดีนะที่ลูกเอามาให้ ... ”
เขาเดินไปหาแม่และคุกเข่าลงไป

“ ดึกแล้วลูก แม่ทาเองได้ พรุ่งนี้ลูกต้องไปทำงานแต่เช้า กลับไปเถอะ ! ”

เขานิ่งไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้
“ แม่ครับ ผมขอโทษ แม่ยกโทษให้ผมนะ กลับบ้านเราเถอะ ! ”

#########################

*** ลูกรัก ตอนที่เจ้ายังเด็ก แม่ใช้เวลาทั้งหมด ค่อยๆสอนให้เจ้า
ใช้ช้อนใช้ตะเกียบคีบอาหาร สอนเจ้าใส่รองเท้า สอนเข้ากลัดกระดุม
สอนเจ้าใส่เสื้อผ้า อาบน้ำให้เจ้า เช็ดอุจาระปัสาวะให้เจ้า *****

*** สิ่งเหล่านี้แม่ไม่เคยลืม ***
*** หากวันหนึ่ง แม่จำไม่ได้ หรือเริ่มพูดช้าลง ขอเวลาให้แม่สักหน่อย
รอแม่ได้ไหม อยากจะพูด
สอนเจ้ากี่ร้อยครั้งให้เจ้าพูดว่าคำว่าแม่ได้ ! ***

*** แม่ดีใจมากแค่ไหนที่เจ้าเริ่มพูดเป็นประโยคได้ ?

*** แม่ต้องตอบคำถามของเจ้ากี่ร้อยครั้ง กว่าเจ้าจะเข้าใจในสิ่งที่เจ้าสงสัย !

*** ดังนั้น หากวันหนึ่ง แม่ถามเจ้าซ้ำแล้วซ้ำอีกกับเรื่องเดิมๆ
ขอให้เจ้าอย่ารำคาญจะได้ไหม ? ***

*** ตอนนี้แม่อาจกลัดกระดุมเสื้อไม่ได้ ยามกินข้าวอาจหกเลอะเสื้อผ้า
เจ้าอย่าเอ็ดแม่ได้ไหม ? ขอให้เจ้าอดทนและอ่อนโยนกับแม่ ขอเพียงเจ้า
อยู่ข้าง ๆ แม่ แม่ก็รู้สึกอุ่นใจ ***

*** ลูกรัก วันนี้ขาของแม่เริ่มอ่อนแรง ยืนได้ไม่ค่อยนาน
เดินเหินลำบาก ขอให้ลูกจับมือและพยุงแม่ไว้ เดินเป็นเพื่อนแม่จนวันที่แม่สิ้นใจ
เหมือนวันที่เจ้าคลอดมา แม่ก็พยุงเจ้าเดินอย่างนี้เหมือนกัน ! ***

*** ขอบคุณเจ้าของบทความดีๆ ท่านอ่านแล้ว ท่านจะเก็บไว้คนเดียว
หรือส่งต่อก็ตามใจ ***
ตอบกลับโพส