รวมเรื่องสั้น ข้อคิดสะกิดใจ 2

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ มี.ค. 29, 2019 8:30 pm

.............. การดูแลที่เหมาะสม..................

ครั้งหนึ่งมีเพื่อนบ้าน 2 คน อาศัยอยู่ใกล้กัน คนหนึ่งเป็นครูเกษียณ
ส่วนอีกคนหนึ่ง เป็นผู้แทนบริษัทประกันภัย และสนใจเรื่องเทคโนโลยีมาก
ทั้งสองต่างมีสวนปลูกไม้ผลเหมือนกัน ครูเกษียณปลูกต้นไม้
โดยให้น้ำแต่น้อย และไม่ได้ดูแลต้นไม้ของตนมากนัก ต้นไม้ของครู
จึงเติบโตเป็นต้นไม้เหมือนกับที่เห็นกันอยู่ทั่วไปขณะที่ผู้แทนบริษัทประกันภัย
รดน้ำต้นไม้เต็มที่และใช้เวลามาก ในการดูแลต้นไม้ของตน ต้นไม้ของเขา
จึงโตใหญ่และมีใบสีเขียวกว่าปกติ

คืนวันหนึ่งเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง รุ่งเช้าทั้งสองไปสำรวจความเสียหาย
ในสวนผู้แทนบริษัทประกันภัย พบว่าต้นไม้ทุกต้นของเขาล้มหมดส่วนต้นไม้
ในสวนของครูเกษียณ ยังคงยืนต้นอยู่ได้เหมือนเดิม ผู้แทนบริษัทประกันภัย
รู้สึกประหลาดใจมาก กับสิ่งที่เกิดขึ้นจึงถามครูเกษียณว่า “ เราทั้งสองต่างก็
ปลูกต้นไม้เหมือนกัน ผมดูแลต้นไม้ของผมอย่างดีมาตลอด และแถมยังรดน้ำ
ให้มากกว่าของคุณด้วย ทำไมต้นไม้ของผมจึงล้มหมดขณะที่ต้นไม้ของคุณ
กลับไม่เป็นอะไรเลย ”

ครูเกษียณยิ้มและพูดตอบว่า “ ก็เพราะคุณรดน้ำต้นไม้มาก และดูแล
มันตลอดเวลา จนต้นไม้ไม่รู้จักเลี้ยงลำต้นของมันเอง ส่วนผมให้น้ำพอ
ให้มันอยู่รอด และปล่อยให้มันแตกรากไปหาน้ำเอง รากของมันจึงชอน
ไชลึกลงไปในดินทำให้ลำต้น ยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคงครับ ”

ข้อคิดสะกิดใจ : การเลี้ยงดูเด็กเล็ก เปรียบได้กับการปลูกต้นไม้
หากผู้ปกครองประเคนทุกอย่าง ให้เด็กง่าย ๆ เด็กก็จะไม่รู้และไม่เข้าใจ
เรื่องการทำงานหนัก เพื่อหาเลี้ยงชีพในอนาคตด้วยตัวเอง อีกทั้งยังไม่
รู้จักดูแลรักษาข้าวของที่มีอยู่ด้วย จึงน่าจะเป็นการดีกว่าหากผู้ปกครอง
จะใช้วิธีสอนให้คำแนะนำเด็ก แทนที่จะให้ทุกอย่างตามที่เด็กเรียกร้อง

*************

แปลและเรียบเรียง โดยอาจารย์กอบกิจ ครุวรรณ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ มี.ค. 29, 2019 8:34 pm

............. ขอให้สิ่งดีๆเกิดขึ้นกับคุณ................

เหตุการณ์เกิดที่โรงแรมซาบรีนา เมืองเกราลา ประเทศอินเดีย
มีชายคนหนึ่ง ขณะนั่งกินอาหารอยู่ในโรงแรม มองออกไปข้างนอก
ก็เห็นสายตาของเด็กน้อยคนหนึ่ง จ้องอาหารที่เขากิน เขาจึงตัดสินใจ
กวักมือเรียกเด็กมากินด้วย

เด็กน้อยเข้ามา พร้อมน้องสาวตัวเล็ก ชายคนนั้นถามว่า อยากกินอะไร
เด็กก็ชี้ไปที่จานของเขาชายคนนั้น จึงสั่งแบบเดียวกันมาให้ เมื่ออาหาร
มาถึง สายตาของเด็กทั้งสองตื่นเต้นมากกินอาหารแบบมีความสุขอยู่
เงียบๆไม่มีการคุยกัน เมื่อกินเสร็จเด็กก็ลุกขึ้นไปล้างมือ แล้วเดินออกไป
ชายคนนั้นยังไม่ได้แตะต้องอาหารของตัวเองเลย ... เขาอิ่มใจ ...
พอจัดการอาหารของตัวเองเสร็จ ก็เรียกให้ทางโรงแรมเก็บเงิน

เมื่อได้บิลมา ชายคนนั้นถึงกับน้ำตาคลอ อึ้งไปชั่วขณะ เพราะในบิล
ไม่ได้ระบุจำนวนเงิน แต่เขียนว่า“ เราไม่มีเครื่องคิดเงินที่เก็บ
ค่ามนุษยธรรมได้... ขอให้สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นกับคุณ”

*************

เรียบเรียงจาก www.kamsonbkk.com โดยอาจารย์กอบกิจ ครุวรรณ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ มี.ค. 30, 2019 11:03 am

...........นี่หรือรางวัลสูงสุดของชีวิตการทำงาน ? .............

วันชัยเป็นพ่อบ้านตัวอย่าง เขาอดทนทำงานหนัก เพื่อเลี้ยงภรรยา
และลูก 3 คน หลังเลิกงานตอนเย็น เขาลงทุนเรียนภาคค่ำเพิ่มเติม
โดยหวังจะได้งานที่มีเงินเดือนสูงขึ้นทุกสัปดาห์เขามีเวลาอยู่กับ
ครอบครัวจริง ๆ เฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้นเมื่อถูกบ่น เรื่องการไม่มี
เวลาให้กับครอบครัว เขาให้เหตุผลกับทุกคนที่บ้านว่า เขาอยาก
เห็นทุกคนในครอบครัวมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีที่สุด ด้วยน้ำพัก
น้ำแรงของเขา
วันเวลาผ่านไป จนถึงวันประกาศผลสอบ เขาดีใจมากที่สอบผ่าน
ในระดับเกียรตินิยม และได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการฝ่าย พร้อม
กับการขึ้นเงินเดือนถึง 30 % ชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคนใน
ครอบครัวดีขึ้นมาก จนสามารถไปเที่ยวต่างประเทศทั้งครอบครัวได้
อย่างไรก็ดีวันชัยยังคงทำงานอย่างหนักต่อไป จนแทบไม่มีเวลาอยู่
กับครอบครัวเขายังคงใฝ่ฝันที่จะได้ตำแหน่งสูงกว่าเดิม และถึงกับ
ตัดสินใจเรียนหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง ในมหาวิทยาลัยเปิดเมื่อคน
ในครอบครัวบ่นเรื่องการให้เวลาน้อยมากกับครอบครัว เขายังคงให้
เหตุผลเดิม ๆ คือต้องการมีรายได้เพิ่มขึ้นเพื่อว่าในอนาคตจะได้มีเวลา
อยู่ด้วยกันมากขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องรายได้อีกต่อไป

ความอุตสาหะของเขาได้รับรางวัลตอบแทนตามที่เขาหวังไว้คือเขา
ได้รับตำแหน่งเป็นรองประธานของบริษัท เขาจ้างคนทำงานบ้าน
เพื่อให้แม่บ้านมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น และย้ายออกจากแฟลต ไปอยู่
ในบ้านหลังใหม่ หลังจากมีความสุขกับชีวิตที่หรูหรามากขึ้นได้ไม่นาน
เขาก็คิดจะเป็นเจ้าของกิจการเอง อาชีพการงานของเขาก้าวหน้าเป็นลำดับ
เขาเริ่มศึกษาสูงขึ้นไปอีก และแทบไม่มีเวลาให้กับครอบครัวเช่นเดิม
บ่อยครั้งแม้แต่วันอาทิตย์ เขาเชิญแขกพิเศษของบริษัท ไปเลี้ยงรับรอง
ในโรงแรมหรูจนดึกดื่น ข้ออ้างกับครอบครัวคงเหมือนเดิมคือเขาอุทิศทั้งชีวิต
เพื่อทุกคนในครอบครัว

ความฝันเป็นจริงในที่สุดบัดนี้เขาเป็นเจ้าของคฤหาสน์ที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว
พร้อมสวนดอกไม้ และระหว่างอาหารค่ำเลิศรสวันอาทิตย์แรกในคฤหาสน์หลัง
ใหม่นั้นเอง เขาประกาศข่าวดีกับทุกคนในครอบครัวว่า เขาบรรลุจุดสูงสุดของ
ชีวิตการทำงานแล้วเขาจะไม่ใช้เวลาเพื่อพัฒนาด้านอาชีพการงานอีกต่อไป
และจะให้เวลากับครอบครัวอย่างเต็มที่ แต่วันชัยหลับไปในค่ำคืนนั้นโดย
ไม่ตื่นอีกเลย ในเช้าวันรุ่งขึ้น !

**************

แปลและเรียบเรียง โดยอาจารย์กอบกิจ ครุวรรณ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร เม.ย. 02, 2019 11:42 am

.............. ผลร้ายของความเกลียดชัง................

ครูโรงเรียนอนุบาลแห่ง หนึ่ง ให้นักเรียนในชั้นเล่นเกมส์
โดยบอกให้แต่ละคน หาถุงพลาสติกใส่มันฝรั่งไว้ในถุง และนำมา
ที่โรงเรียนวันรุ่งขึ้นก่อนใส่มันฝรั่งแต่ละหัวลงในถุง ให้เขียนชื่อคน
ที่ตนเกลียดไว้ด้วยจำนวนมันฝรั่งในถุงของแต่ละคน จึงขึ้นอยู่กับ
จำนวนคนที่เด็กแต่ละคนเกลียด

วันรุ่งขึ้นเด็กต่างก็ถือถุงพลาสติก ที่มีมันฝรั่งอยู่ข้างในมาอวดกัน
ส่วนใหญ่ก็มีกันคนละ 2-3 หัว แต่บางคนมีถึง 5 หัว! จากนั้นครูก็พูดว่า
“ ครูอยากทราบว่า พวกเธอจะรู้สึกอย่างไร เมื่อต้องถือถุงของตนไว้
1 สัปดาห์” หลังจากผ่านไป 3 วัน เด็กก็เริ่มบ่นและรู้สึกหนักใจ ที่ต้อง
หิ้วถุงของตนไปทุกที่โดยต้องทนกับกลิ่นเหม็น ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น
ทุกที โดยเฉพาะผู้ที่ต้องหิ้วถุงที่มีมันฝรั่งถึง 5 หัว และยังต้องอดทนต่อไป
จนครบกำหนด

พวกเด็กรู้สึกโล่งใจมากเมื่อเกมส์จบลง ครูจึงอธิบายความหมาย
ที่ซ่อนอยู่ในเกมส์ว่า " นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ในจิตใจของผู้ที่เก็บ
ความเกลียดชังผู้อื่นไว้ เพราะความเกลียดชัง ที่ซ่อนอยู่ในใจ
เป็นบ่อเกิดของความทุกข์กับผู้นั้นตลอดเวลา ที่ยังเก็บความเกลียดชัง
ไว้อยู่ฉะนั้นหากพวกเธอแทบจะทนไม่ไหว กับการเก็บหัวมันฝรั่งเน่า
ไว้เพียง 1 สัปดาห์ พวกเธอคงจะเข้าใจดีว่า ชีวิตของผู้ที่เก็บ
ความเกลียดชังไว้ตลอดชีวิตจะเป็นเช่นไรนะ "

คติธรรม : จงเลิกเกลียดชังผู้อื่นโดยเร็ว ด้วยการให้อภัย การมีท่าที
เชิงลบต่อผู้อื่น เป็นสาเหตุทำลายความสงบสุข สงบในใจ จงสลัด
ความเกลียดชังออกไปให้สิ้นซาก และจดจำแต่สิ่งที่ดีงามของผู้อื่นเท่านั้น

**************

แปลและเรียบเรียงจาก " Moral Stories " โดยกอบกิจ ครุวรรณ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ เม.ย. 10, 2019 1:51 pm

..............อย่าตัดสินผู้อื่น............

....ขณะที่บิดาคนหนึ่ง และลูกสาวตัวน้อย กำลังเล่นด้วยกัน
ในสวนสาธารณะอยู่นั้น ลูกสาวเหลือบไปเห็นพ่อค้าขายแอปเปิ้ลผ่านมา
ก็ขอให้คุณพ่อซื้อแอปเปิ้ลให้วันนั้นคุณพ่อไม่ได้เอาเงินติดตัวมามากนัก
จึงซื้อแอปเปิ้ลเพียง 2 ผลและส่งให้ลูกสาวถือไว้ไม่นานต่อมา คุณพ่อก็
ขอให้ลูกสาวแบ่งแอปเปิ้ลให้ท่านลูกหนึ่งทันทีที่คุณพ่อขอแบ่งลูกสาวก็
รีบกัดไปที่แอปเปิ้ลลูกละคำ ทั้งสองลูกอย่างรวดเร็ว จนคุณพ่อห้ามไม่ทัน

คุณพ่อรู้สึกเสียใจ และคิดตำหนิตนเอง ที่อบรมลูกสาวไม่ดี เธอจึงแสดง
พฤติกรรม ที่แสดงความเห็นแก่ตัวเช่นนั้น ท่านคิดต่อไปว่า ลูกสาวคงยัง
เด็กเกินไป ที่จะเรียนรู้เรื่องการแบ่งปัน และการมีน้ำใจต่อผู้อื่น
ความสนุกสนานและรอยยิ้มของท่าน จึงเปลี่ยนไปเป็นใบหน้าที่บึงตึงในบัดดล

ทันใดนั้น ลูกสาวก็ส่งแอปเปิ้ลลูกหนึ่งให้คุณพ่อพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียง
ที่ร่าเริงว่า“ คุณพ่อกินลูกนี้นะ หนูชิมดูแล้วลูกนี้หวาน และหอมกว่าอีกลูกหนึ่งค่ะ
" คุณพ่อขมวดคิ้วพูดไม่ออก รู้สึกผิดที่ด่วนตัดสิน ว่าลูกเป็นคนเห็นแก่ตัว
จากนั้นท่านก็ยิ้มอย่างเป็นสุข เมื่อทราบเหตุผลที่แท้จริง ถึงการรีบกัดแอปเปิ้ล
ทั้งสองลูกของลูกสาว

**************

จาก Moral Stories แปลและเรียบเรียง โดยกอบกิจ ครุวรรณ
ตอบกลับโพส