หน้า 1 จากทั้งหมด 1

คนดีหรือเลว ไม่ได้อยู่ที่รูปร่างแต่อยู่ที่จิตใจ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 04, 2019 11:28 am
โดย rosa-lee
........."คนดีหรือเลวไม่ได้อยู่ที่รูปร่าง หน้าตา
หรือฐานะใดๆ ความดีของคนอยู่ที่จิตใจ"...........

"แม่เฒ่า"เก็บขยะขายคนหนึ่ง เก็บได้กระเป๋าที่มีเงินสดอยู่
ภายใน100,000 หยวน ตอนคืนให้เจ้าของ กลับถูกเจ้าของเงิน
กล่าวหาว่า เงินยังขาดอยู่อีก 100,000หยวน

สุดท้ายเรื่องนี้ กลับทำให้หลายคนต้องหลั่งน้ำตา......

ในละแวกนี้ ทุกคนต่างรู้ว่า "แม่เฒ่า"คนนี้ เป็นคนที่น่า
สงสารที่สุด สามีตายตั้งแต่ยังหนุ่มๆ ทิ้งลูกชายใว้ให้
แม่เฒ่าเลี้ยงดูคนเดียวจนเติบโตเป็นหนุ่ม มีงานทำที่
มั่นคง จนเข้าสู่วัยที่ต้องมีครอบครัว หลังแต่งลูกสะใภ้
เข้าบ้านได้ 2 ปี เธอก็คลอดหลานสาวให้ 1 คน ความสุข
ของครอบครัวที่มีอย่างเปี่ยมล้นของคน 3 รุ่นนั้น มีแค่ช่วงสั้นๆ....
.
3 ปีต่อมา ลูกชายแม่เฒ่าถูกตรวจพบว่า เป็นโรคเบา
หวานขั้นสุดท้าย การรักษาก็เพียงสามารถยืดชีวิตได้
อีกระยะหนึ่ง ลูกสะใภ้รู้ว่าอานาคตคงลำบากแน่ เลย
ฉวยโอกาสขอหย่ากับลูกชาย โดยทิ้งหลานสาวอายุ 3 ขวบ
พร้อมกับลูกชายที่ป่วยหนักให้ตกเป็นภาระหนักของ"แม่เฒ่า"
เป็นผู้เลี้ยงดูคนเดียว...แม่เฒ่าคนนี้ชื่อ "ตี่-อ่อ"กุ๊ยจือ.........
.
ความยากจนทำให้ขาดการรักษาอย่างจริงจัง โรคของ
ลูกชายก็ค่อยๆทรุดหนักลง อีก 3 ปีต่อมา"แม่เฒ่า"ต้อง
ยอมรับคำพังเพยที่พูดว่า "โชคร้ายที่สุดของคน"คือผมขาว
ต้องส่งผมดำเดินทางไปสวรรค์ก่อน

เวลานี้นางอายุย่างเข้า 70 ปีแล้ว การออกไปหางานทำก็ไม่มี
ใครรับ จึงต้องอาศัยเก็บของเก่าตามถังขยะขายยังชีพ และส่ง
เสียเลี้ยงดูหลานสาวคนเดียวให้รอด..
.
เช้ามืดของทุกๆวัน "แม่เฒ่า" จะเข้าไปเก็บเศษผักตามแผงผัก
ในตลาดสดเพื่อมาเป็นอาหารประจำวัน "พอฟ้าสาง" นางจะง่วน
อยู่กับการคุ้ยถังขยะเพื่อหาของที่มีค่าไปขาย "ตกเย็น" นางจะสะพาย
ถุงเศษขยะไปที่ "จุดรับซื้อ" เพื่อแลกเป็นเงินกลับบ้าน วันไหนโชคดีมากๆ
นางจะขายได้เงินถึง 100 หยวน แต่อย่างน้อยก็จะได้หลายสิบหยวนเช่นกัน..
.
"แม่เฒ่า" มีความผูกพันกับ"หลานสาว" ยิ่งชีวิต นางมักคิดอยู่ว่า ขอให้
ตัวเองอายุยืนอีกสักหลายปี หากนางตายเร็วเกินไป หลานสาวคงต้อง
เป็นเด็กกำพร้าอีกครั้ง
แน่นอน.. เช้าวันนี้ หลานสาวบอก"แม่เฒ่า"ว่า...
"อาม่า" คุณครูทวงค่าเทอมอีกแล้ว หากไม่จ่าย ครูบอก
ว่าจะไม่ให้สอบค่ะ ....
" ทั้งหมดเป็นเงินเท่าไหร่ล่ะ" ?...
500 ค่ะ "อาม่า" ......
นางล้วงลงไปในถุงผ้าที่สะพายติดตัว หยิบเศษเงิน
แบ้งค์ออกมาปึกหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นใบละ10-20หยวน
ออกมานับอย่างตั้งใจจนครบ 500 หยวน
"เอาไป" เก็บให้ดีนะ ถึงโรงเรียนแล้วรีบเอาให้ครูก่อน
แล้วตั้งอกตั้งใจเรียนล่ะ.......

หลานสาวรับเงินด้วยสีหน้าเบิกบานใจ .... "ค่ะ อาม่า"
พอลุกขึ้นได้ก็รีบวิ่งไปโรงเรียนทันที.....
.
เงิน500หยวนสำหรับคนทั่วไป ไม่นับเป็นเงินมากมาย
แต่สำหรับนางแล้ว ต้องใช้เวลาหาเกินครึ่งเดือนเลยทีเดียว....
.
"หิมะแรก"ของปีนี้เริ่มโปรยปรายลงมาแล้ว บนศีรษะและ
หลังที่คุ้มงอของนาง ขาวโพลนด้วยเกล็ดหิมะที่เย็นยะเยือก
แต่ "แม่เฒ่า" ยังคงคุ้ยถังขยะอย่างขมักเขม้น ไม่ยี่หระกับ
ความหนาวเหน็บใดๆ.....

"เที่ยงแล้ว"
นางหยิบขวดน้ำพลาสติกที่คุ้ยมาจากถังขยะในขวด
ยังมีน้ำเหลืออยู่ครึ่งขวดที่ มีคนทิ้งใว้ มาดื่มกินพร้อม
กับหมั่นโถวที่พกติดตัวมาจากบ้าน นั่นนับเป็นมื้อเที่ยง
ของนางแล้ว....

ใกล้ค่ำ "แม่เฒ่า"แบกสะพายของมีค่า ที่หามาได้ทั้งวัน
ไปขายที่จุดรับซื้อ นางประเมินว่า วันนี้คงได้หลายสิบหยวน
เพราะโชคดีเก็บได้มากกว่าทุกวัน

หิมะตกหนักขึ้น บนท้องถนนคนเดินเริ่มน้อยลง "แม่เฒ่า"ขายของ
มีค่าได้ถึง 75 หยวน นางรู้สึกพึงพอใจในผลงานวันนี้มาก...
.
ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว วันนี้คนงานเลิกงานกลับบ้านอย่าง
เร่งรีบเพราะหิมะตกหนักขึ้นไฟบนถนนเริ่มสว่างขึ้นเป็น
สีเหลืองนวลตัดกับพื้นถนนสีขาวที่มีหิมะกองหนา เป็น
ประกายแวววับจับตา ก่อนถึงบ้าน "แม่เฒ่า" เหลือบ
เห็นบนถนนมีของสิ่งหนึ่ง ดูคล้ายกระเป๋าใบเล็กสีออก
ดำๆ จวนจะถูกหิมะปกคลุมหมดแล้ว เพราะนางเดิน
ช้าจึงสังเกตุเห็น นางอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปดูใกล้ๆ
มันเป็นกระเป๋าหนังสีดำจริงๆ หากนางมาช้าอีกเล็ก
น้อย กระเป๋าจะถูกหิมะคลุมหมด นางสันนิษฐานว่า
เจ้าของกระเป๋าคงเพิ่งทำหล่น จึงยังไม่ถูกหิมะปกคลุมจนหมด

นางเก็บกระเป๋าขึ้นมา โอ...หนักพอสมควร
นางเปิดกระเป๋าออกมาดู....
.
"ในกระเป๋าหนังสีดำ" มีธนบัตรใบละ 100 หยวน ถูกมัดเป็นปึกๆ
เต็มกระเป๋า นางนับได้ 100,000 หยวน
พอดี "แม่เฒ่า" ยืนงงอยู่ครู่ใหญ่ ไม่ทราบจะจัดการกับ
เงินในกระเป๋าอย่างไรดี นางคิดว่าเงินมากขนาดนี้คนทำหล่นคง
กระวนกระวายใจมาก ดูแล้วเจ้าของเงินคงเพิ่งทำหล่น เพราะกระเป๋า
ยังไม่ถูกหิมะฝังจนหมด .....
"เราน่าจะรอสักครู่” เผื่อเจ้าของรู้ตัวคงจะกลับมาหา
"แม่เฒ่า" ยืนรออยู่ 10 กว่านาที .... ปรากฎว่า มีรถเก๋ง
ราคาแพงคันหนึ่งขับมาช้าๆ จากแสงไฟบนถนน สัง
เกตุเห็นในรถมีคนขับเป็นชายวัยกลางคน ส่วนผู้โดย
สารเป็นเด็กสาวคนหนึ่งทั้ง 2 ต่างช่วยกันสอดส่ายสาย
ตามองข้างๆถนนตลอดเวลา จนรถเก๋งมาหยุดอยู่หน้าแม่เฒ่า
.
"เหล่าไท้ไถ่"(ยาย) "ขอถามหน่อย ?.. ..เดินอยู่
แถวนี้ เห็นกระเป๋าหนังสีดำใบหนึ่งตกอยู่แถวนี้ไม๊ครับ ? ...
"ลักษณะเป็นไงบ้างละ ?
นางถามโชเฟอร์...
"ผู้ชายคนนั้น" ทำไม้ทำมือประกอบบอกลักษณะกระ
เป๋าอย่างละเอียด ,
"แม่เฒ่า"ฟังจบก็รู้ว่า ผู้ชายคนนี้เป็นเจ้าของกระเป๋า ....
นางยื่นกระเป๋าหนังคืนให้ผู้ชายคนนั้น แล้วพูดว่า
"ฉันยืนรอตั้งนานแล้ว คุณเอาคืนไปเถอะ ฉันไม่ได้แตะต้องเงิน
ในกระเป๋าเลยนะรับรองได้
"ชายคนนั้น"มองดูหน้าแม่เฒ่า เหมือนจะค้นหาความ
จริงอะไรบางอย่าง เขาเปิดกระเป๋าออกมาดู พร้อมกับ
นับจำนวนเงินเสร็จ ก็หันกลับมาจ้องหน้า"แม่เฒ่า" อีก

ครั้งด้วยสีหน้าที่ไร้รอยยิ้ม พร้อมกับพูดออกมาเบาๆว่า "แปลก"
เขาเดินอ้อมไปกระซิบปรึกษากับสาวน้อยครู่หนึ่ง แล้วจึงเดินมา
มองหน้า"แม่เฒ่า"อีกครั้ง พร้อมกับถามว่า "เหล่าไท้ไถ่" ในกระเป๋า
ทำไมจึงเหลือเงินอยู่แค่ 100,000หยวน อีก100,000หายไปไหน ? ..

"แม่เฒ่า"ตกใจจนหน้าซีด ระล่ำระลักตอบว่า ...
"เปล่านะ" ฉันนับดูทีแรกก็มีแค่ 100,000 เอง คุณดูสิ
ทั้งตัวฉันก็มีแค่เงินขายเศษกระดาษ กับขวดน้ำ อยู่ 75
หยวนเท่านั้น นางพูดพลางล้วงเงินในกระเป๋าผ้าออก
มาให้ผู้ชายคนนั้นดูพร้อมกับพูดต่อไปว่า
“ถ้าคุณจะเอาผิดฉัน ฉันให้เงิน 75 หยวนกับคุณไปก็ได้ “
พูดพลางยัดเยียดเงินใส่มือ ชายคนนั้นไปทั้งหมด...
.
ในระหว่างที่นางกำลังตื่นตกใจอยู่นี้ เด็กสาวลงจากรถพร้อม
กับพูดว่า
"ป่าป๊า" เงินที่เบิกมาจากแบ้งค์ 200,000 ตอนเช้า ป๊าจ่ายค่า
สินค้าในเมืองไป 110,000 แล้วนี่ ? ในกระเป๋าจึงควรเหลือ
90,000 หยวนไม่ใช่หรือ?

ผู้เป็นพ่อมีสีหน้าตกใจ
"อ้อ" จริงด้วย ทำไมพ่อลืมไปแล้ว ไม่ไหว พออายุ
มากหน่อย เรื่องเล็กๆน้อยๆ มักลืมง่ายๆ ขอโทษทีครับ เหล่าไท้ไถ่
ผมจ่ายค่าสินค้าไป 110,000 แล้ว ในกระเป๋าจึงควรเหลือ 90,000 หยวน

"เหล่าไท้ไถ่"เป็นคนซื่อสัตย์และไม่โลภ ผมก็เป็นคน
ซื่อ เมื่อเงินผมเหลือแค่ 90,000 อีก 10,000 จึงไม่ใช่ของผม "เหล่าไท้ไถ่
"เอาคืนไป ผมไม่เอาเงินคนอื่นเด็ดขาด
.
"แม่เฒ่า" รับเงิน10,000 หยวน ที่ชายคนนั้นยัดใส่มืออย่างงงๆและยัง
ไม่หายตกใจ ...รถเก๋งคันนั้นก็แล่น
จากไปช้าๆจนลับหายไปจากสายตา"แม่เฒ่า"
นางคิดว่า นี่คงเป็นเงินที่สวรรค์ประทานมาให้แน่ นางเก็บเงินใส่ในถุง
ผ้ากอดใว้แนบอกแน่น แล้วเดินกลับบ้านอย่างมีความสุข..
.
ภายในรถเก๋งคันนั้น
"ทำไม ป่าป๊าไม่ให้เงินไปโดยตรง ต้องแกล้งหลอก
คุณยายคนนั้นด้วย ?

"ลูกไม่สังเกตุหรือ นางยอมยืนทนหนาวตากหิมะ รอ
คืนกระเป๋าที่มีเงินเป็นแสนให้เรา หากป๊ายืนยันจะให้
เงินแล้วนางไม่ยอมรับ ลูกคิดว่าจะทำยังไงต่อ
การที่ป๊าทำแบบนี้ ก็เพื่อให้นางรับเงินก้อนนี้ไปอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ
เพราะนางเป็นคนซื่อที่ไม่คิดเอาเงินคนอื่น และเป็นคนมีน้ำใจสูงมาก
สมควรที่ลูกต้องศึกษาจากสังคมให้มากว่า คนดีหรือเลวไม่ได้อยู่ที่
รูปร่างหน้าตา หรือฐานะใดๆ ความดีของคนอยู่ที่จิตใจและการอบรม
สั่งสอนของครอบครัวเป็นหลัก จำใว้นะลูก.....

แปล และเรียบเรียง โดย เจงเอี่ยม แซ่อึ้ง