“ซานตาคลอสคือใคร”

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ธ.ค. 07, 2019 2:42 pm

ซานตาคลอสคือใคร

เชื่อว่าพวกเราจำนวนมาก ที่เผลอคิดว่า วันคริสต์มาสคือวันเกิดซานตาคลอส เพราะในช่วงนี้ ปลายเดือนพฤศจิกายน จนถึงเดือนธันวาคม ห้างสรรพสินค้า พับ-บาร์ ประดับประดาต้นคริสต์มาส และมีชายแก่พุงพลุ้ยเครายาวแต่งชุดแดง แบกถุงของขวัญ หรือข่าวต่างประเทศเสนอ ว่ามีสถาบันการเทรนลุงซานตาคลอส หรือประกวดซานตาคลอส ก็มากมาย และในทำนองเดียวกัน หลายๆคนที่เป็นผู้ใหญ่ หรือหัวหน้า ต้องทำหน้าที่เป็นซานตาคลอสแจกของขวัญแก่ผู้น้อย

เรื่องราวของซานตาคลอส (Santa Claus) นั้นมี 2 สาย สายแรก เป็นเรื่องที่จริงที่เกี่ยวกับคริสต์มาสของแท้ กับ สายที่สอง เป็นเรื่องแต่งขึ้นที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับแก่นสาระของวันคริสต์มาสเลย เป็นเพียงแค่สีสันประกอบเทศกาลเท่านั้น

+นักบุญ นิโคลัส แห่งไมร่า+

ซานตาคลอสที่เกี่ยวข้องกับคริสต์มาสนั้น เริ่มต้นในราว ค.ศ. 280 ในดินแดนที่เป็นประเทศตุรกีในปัจจุบันเมื่อมีเด็กชายคนหนึ่งถือกำเนิดมาในครอบครัวหนึ่งและได้นามว่า “นิโคลัส” ซึ่งแปลว่า “ชัยชนะ” เมื่อ นิโคลัส (Nicholas) อายุได้ 9 ปี บิดามารดาของเขาก็เสียชีวิต จากนั้นเขาจึงทุ่มเทความรักให้แก่คนยากจน โดยแอบเอาอาหารเสื้อผ้าและเงินทองไปให้อย่างลับๆ ในเวลากลางคืน ในวัยหนุ่ม นิโคลัส เดินทางไปอิสราเอลที่ถือกันว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์และในระหว่างเดินทาง เรือได้เผชิญกับพายุหนักตลอด 2 วัน 2 คืน นิโคลัสจึงอธิษฐานขอพระเจ้าทรงช่วยเหลือและคุ้มครอง จนกระทั่งในวันที่สาม เรือก็มาถึงฝั่งเมืองไมราที่อยู่ทางทิศตะวันตกของตุรกี

นิโคลัส จึงมองหาโบสถ์เพื่อที่เขาจะไปขอบคุณพระเจ้า พอดีโบสถ์ในเมืองนั้นกำลังคัดเลือก บิชอปคนใหม่ เมื่อ นิโคลัส เข้าไปในโบสถ์แห่งนั้น ก็ได้รับการเลือกให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวในที่สุด (ตามตำนานเล่าว่า ในท่ามกลางคณะผู้เลือกตั้ง มีคนหนึ่งได้รับนิมิตจากพระเจ้าในคืนก่อนการเลือกตั้งว่า ในวันรุ่งขึ้นเมื่อมีบุคคลภายนอกคนหนึ่งก้าวเข้ามาในโบสถ์ขณะที่มีการเลือกตั้ง ก็ให้แต่งตั้งคนนั้นเป็นบิชอป หรือผู้ปกครองดูแลโบสถ์ในทันที) นิโคลัส ได้กลายเป็นที่เคารพรักของชาวเมืองนั้น ในฐานะผู้นำฝ่ายวิญญาณที่มีความรัก ความเมตตาและจิตใจที่กว้างขวาง ยาวนานถึง 50 ปี และเสียชีวิตในวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 343 (บางตำราว่าราว ค.ศ. 350)

มีตำนานอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับ นิโคลัส เช่น ท่านช่วยลูกสาว 3 คน ในครอบครัวยากจนครอบครัวหนึ่งให้พ้นจากการเป็นโสเภณี หรือการที่ท่านโยนถุงทองคำเข้าไปทางหน้าต่างบ้านหลังหนึ่งเพื่อช่วยให้ลูกสาวแต่ละคนในครอบครัวนั้นได้มีโอกาสเข้าสู่พิธีแต่งงานที่มีเกียรติ การกระทำเช่นนี้เป็นการปูพื้นฐานสำหรับประเพณีการให้ของขวัญในสมัยต่อๆ มาจากนั้น ราวๆ 200 ปีต่อมาโบสถ์แห่งนี้ก็เปลี่ยนชื่อเป็น โบสถ์เซนต์นิโคลัส

+ประเพณีแห่งการมอบของขวัญ+

ประมาณต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 ได้มีการนำของขวัญไปมอบให้คนจนในนามของ “เซนต์ นิโคลัส” ในวันก่อนวันเซนต์ นิโคลัส (5 ธ.ค.) โดยนำของขวัญบางอย่างใส่ไว้ในถุงเท้ายาว เช่น พวกผลไม้และขนม ต่อมาประเพณีนี้ได้แพร่หลายไปยังส่วนต่างๆ ทั่วยุโรปและเป็นที่ยอมรับของคนทุกชนชั้น

บิดามารดาของเด็กที่ต้องการสอนบทเรียนแก่เด็กที่ดื้อดึง ก็จะใส่ไม้เรียวเสียบไว้ในถุงเท้าแทนของขวัญในไม่ช้า คริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ในเยอรมันทางเหนือก็ได้นำประเพณีการมอบของขวัญเช่นนี้มาใช้ในวันคริสตมาสแทน “วันเซนต์ นิโคลัส” (6 ธ.ค.)

คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เป็นผู้นำเรื่องนิโคลัสเข้าสู่ เวสท์ อินดีส์ โดยมีนักสำรวจชาวดัตช์ชื่อ เฮนรี่ ฮัดสัน เป็นผู้นำเรื่อง เซนต์ นิโคลัส เข้าสู่อเมริกาเหนือ ที่เมืองนิวอัมสเตอร์ดัม โดยมีชาวดัตช์ อพยพมาด้วยจำนวนหนึ่ง ต่อมา นิว อัมสเตอร์ดัม ได้ตกเป็นของอังกฤษในปี 1664 และเปลี่ยนชื่อมาเป็น “นิวยอร์ก”

แม้ว่าคนส่วนใหญ่ที่ตั้งรกรากอยู่ที่นั่นจะเป็นชาวอังกฤษ แต่พวกเขาก็ยอมให้ชาวดัตช์เหล่านั้นรักษาประเพณีการฉลองวันเซนต์ นิโคลัส ที่มีการเตรียมตัวต้อนรับเซนต์ นิโคลัส หรือ ซันเตอร์ คลาส (Sante Klaas หรือ Sankt Klaus) ตามที่เด็กชาวดัตช์เรียกกัน (ต่อมาชื่อของนิโคลัสก็ถูกเรียกขานกันหลากหลายออกไป เช่น Sant Nikolaas, Santa Claus อย่างเช่นในอังกฤษ นิโคลัสเป็นที่รู้จักในนามของ Father Christmas ส่วนในรัสเซียรู้จักกันในนาม Grandfather Frost ในฝรั่งเศส เรียกันว่า ‘Pe’re Noel’ ในเยอรมันเรียกขนานว่า ‘Kristkinder’ หรือ ‘Kriss’ Kringle’ และในสหรัฐอเมริกา เรียกว่า ‘Saint Nick’)

+สู่ยุคสมัยใหม่+

ส่วน ซานตาคลอส อีกราย ซึ่งไม่เกี่ยวกับคริสต์มาสดั้งเดิมเลยนั้น คือผู้ที่ทำให้ ซานตาคลอส เป็นที่นิยมในสหรัญอเมริกา คือ ศาสนาจารย์ ชาวนิวยอร์คชื่อ Dr. Clement C. Moore เมื่อเขาเขียนนิทานสนุกๆ เรื่อง “A Visit from St. Nicholas” ในปี 1822 เพื่อลูกๆ ของเขา ส่วนภาพของ ซานตาคลอส ที่เป็นชายแก่ที่คุ้นหน้า ผู้มีใบหน้าสีแดงกร่ำเหมือนผลเชอรี่ จมูกแดง หนวดเคราสีขาว นัยน์ตาสดใสเป็นประกายร่าเริง ใส่ชุดแดงที่เย็บชายเสื้อด้วยขนสัตว์สีขาว และสวมหมวกสี่แดงท่าทางใจดี สะพายถุงย่ามที่เต็มด้วยของขวัญ เดินทางด้วยเลื่อนที่ลากด้วยกวาง แอบเอาของขวัญมาให้ทางปล่องไฟ โดยใส่ไว้ในถุงเท้ายาว เป็นจินตนาการของนักวาดการ์ตูนชาวอเมริกันชื่อ โธมัส แนส ที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในปี ค.ศ. 1866 เป็นครั้งแรก จนเป็นที่ยอมรับและนิยมไปทั่วโลก และกลายเป็นสัญลักษณ์ทางธุรกิจการค้าและความบันเทิงจนกลบบดบังรัศมีของซานตาคลอสตัวจริงอย่างนิโคลัสไปจนหมดสิ้น

กล่าวโดยสรุป ซานตาคลอส ตัวจริงคือสานุศิษย์ผู้มีศรัทธาในพระเยซูคริสต์ ซึ่งมีนามว่า เซนต์ นิโคลัส ที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ เป็นผู้ที่ให้ความช่วยเหลือแก่คนจนคนขัดสนตามแบบอย่างพระเยซูคริสต์แห่งวัน คริสต์มาส

ส่วน ซานตาคลอส ตัวปลอมคือ บุคคลสมมติที่เป็นผลจากจินตนาการของคนหลายคน และกลายเป็นรูปลักษณ์ที่ประทับตาคนทั่วไปมาจนทุกวันนี้ ทั้งๆ ที่ ซานตาคลอส สมมติคนนี้ไม่เคยได้ให้อะไรแก่ใครเป็นรูปธรรมจริงๆ เลยแม้แต่สักคนเดียว

--+---+---+-

บทความ: ศจ.นันทิยา เพ็ชรเกตุ Nantiya Petchgate
เรียบเรียง: facebook.com/holysmn
ภาพประกอบ: การ์ดเกม Summoner Master ซัมมอนเนอร์ มาสเตอร์
ตอบกลับโพส