“ ย่อภูเขาให้เท่าจอมปลวก”

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5972
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ มี.ค. 15, 2020 8:05 pm

" ย่อภูเขาให้เท่าจอมปลวก "

มีโรงเรียนไหนบ้างหนอที่สอนการย่อขุนเขาให้เป็นจอมปลวก พูดให้ฟังง่ายขึ้นก็คือสอนทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก

ทักษะชีวิตนี้น่าฝึกฝนเป็นยิ่งนัก เพราะเมื่อใดที่คนเรามีเรื่องหนักอกเหมือนภูเขาตั้งทับ ความคิดก็จะเชื่องช้าไม่ปลอดโปร่ง แต่ถ้าลดย่อความสำคัญของอุปสรรคทั้งหลายให้ดูเล็กลงได้ ประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาก็จะเข้มคมขึ้น

ข้าพเจ้าโชคดีที่สามีเป็นนักย่อภูเขา ถ้าข้าพเจ้าบ่นว่าวันนี้พลาดท่าซื้อของแพงเกินเหตุ เขาก็จะพูดยิ้มๆ ว่า “เออน่ะ ซื้อแล้วเหมือนได้เปล่า คราวหน้าค่อยระวังหน่อย” ก็แค่นั้น

มีอยู่วันหนึ่งที่เราจัดเลี้ยงอาหารเย็นที่บ้าน โดยเชิญแขกสำคัญทั้งไทยและเทศ มีทั้งอธิการบดี ทั้งทูตการค้าต่างประเทศ ฯลฯ ข้าพเจ้าตั้งอกตั้งใจโชว์ฝีมือการทำอาหารไทยหลายขนาน แต่พอแขกพร้อมที่จะนั่งโต๊ะ...ก็

“ตายแล้ว...ลืมหุงข้าว !!”

พ่อบ้านไม่มีทีท่าเดือดร้อนเลยจนนิด เมื่อข้าพเจ้ารายงานวิกฤิต-การณ์นี้อย่างเจื่อนๆ ต่อหน้าแขกเหรื่อ “ไม่เห็นจะเป็นไรนี่ ไหนดูซิ กับข้าวอย่างไหนกินเปล่าๆ ได้ ก็กินรอข้าวไปก่อน ทีละคอร์สแบบอาหารฝรั่งไง” เขาว่าแล้วก็ชวนแขกลงนั่งตักจานยำเป็นคอร์สแรกอย่างสบายอกสบายใจ

ความเป็นทางการหายวับไปไหนไม่ทราบ งานเลี้ยงมื้อนั้นเฮฮาเป็นพิเศษ ทั้งๆ ที่แขกหลายคนเพิ่งจะรู้จักกัน

จานยำนำหน้ามาก่อน ตามด้วยแกงจืด ผัดผัก จานปลา ตามลำดับ คุยไปหัวเราะไป กว่าจะถึงคอร์สแกงเขียวหวานเครื่องเคียง ข้าวสุกก็หอมกรุ่นมาพอดิบพอดี ทุกคนกลายเป็นมิตรสนิทสนม นับเป็นงานเลี้ยงที่อร่อย สนุก และอบอุ่นอย่างยิ่ง ตัวข้าพเจ้าเองนอกจากไม่รู้สึกเสียหน้าแล้ว ยังได้หน้าว่าเป็นแม่บ้านที่มีอารมณ์ขัน ถึงแม้จะปํ้าเป๋อบ้างก็ตามที

ระยะความห่างมีผลกับการมองปัญหา ยิ่งใกล้ตัวยิ่งดูใหญ่และคมชัด เรื่องราวของตัวเองหรือคนใกล้ตัวจะดูใหญ่โต เมื่อเทียบกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับคนอื่นๆ ในมิติเวลาก็เช่นกัน ปัญหาที่ผ่านไปนานแล้วก็จะดูเล็กกว่าปัญหาที่กำลังร้อนรุ่ม

เรามักจะไม่เอาการขาดทุนล่มสลายของคนไกลตัวมาคิดเวียนวนจนนอนไม่หลับ แต่ถ้าเป็นเรื่องของตัวเราหรือคนใกล้ชิด ความเสียใจ เสียดาย จะใหญ่หลวงกว่านัก

ข้าพเจ้าอดไม่ได้ที่จะนึกถึงผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง สร้างธุรกิจที่งอกงามและขยายตัวมานานปี แต่วิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจเมื่อปี พ.ศ. 2540 ทำให้ธุรกิจที่ให้ลูกชายเข้ามารับผิดชอบต้องล่มสลาย ผู้เป็นบิดาล้มป่วยทั้งทางกายทางใจ และถึงแม้จะยังมีทรัพย์สินพอกินพอใช้ แต่ท่านก็ไม่เคยหัวเราะ เลิกสนใจข่าวสาร ไม่ยอมออกจากบ้าน ไม่พูดจากับใครเกิน 2 - 3 ประโยค ตลอด 4 - 5 ปีที่ผ่านมา สติปัญญาอันเฉียบแหลมและนิสัยที่ร่าเริงมลายหายไป จนเหลือแค่ความชราที่จมอยู่กับความสูญเสีย

ทั้งนี้เพราะท่านมองเห็นความสูญเสียนั้นเป็นเรื่องใหญ่...ใหญ่เสียจนมีอำนาจทำลายหัวใจท่านให้ย่อยยับ

สำหรับเสียงนินทาว่าร้ายนั้น ถ้าเกี่ยวกับคนอื่นเราก็มักจะไม่เอามาย้ำคิดให้เดือดดาล จะเจ็บแทนบ้างก็ไม่ลึกไม่นาน อาจช่วยชี้ให้เห็นด้วยซ้ำไปว่า “เรื่องไม่เป็นเรื่อง อย่าไปสนใจ...ช่างมันเถอะ” แต่ถ้าโดนกับตัวเองหรือคนที่เรารัก ความเจ็บร้อนก็จะรุนแรง ยิ่งรักมากก็คั่งแค้นจนกลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต ยิ่งยึดมั่นในฐานะศักดิ์ศรีเท่าใด ก็ยิ่งเร่าร้อน พ่อแม่ที่ออกมาเต้นแทนลูกจนเกินการณ์มีให้เห็นอยู่เสมอๆ ทั้งนี้ก็เพราะรัก

แต่ก็มีความรักตัวเองอีกแบบหนึ่ง ที่จะสร้างสรรค์และช่วยถนอมใจให้เป็นสุข คือรักอย่างรู้จักถอยห่างจากอารมณ์ออกมาพิจารณาปัญหา เหมือนถอยออกมามองภาพเขียน ถอยออกมามองความสูญเสียนั้นเหมือนกับเป็นเรื่องของคนอื่นที่ห่างตัว เป็นอุบายที่จะช่วยให้เห็นภาพกว้างและทำให้ไม่เข้าข้างตัวเอง ถ้าปล่อยระยะเวลาให้ผ่านไปสักนิดได้ยิ่งดี เพราะจะได้ความห่างในมิติเวลาอีกด้วย

ถ้าเราอยู่ในโลกแคบๆ ของตัวเอง เราก็จะหมกมุ่นเกี่ยวกับเรื่องใกล้ตัวจนกลายเป็นคนเรื่องมาก จู้จี้ ขุ่นมัว เพราะเห็นเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ แค่หันมาสนใจข่าวสาร วิทยาการ ธรรมะ ฯลฯ ให้มากขึ้น ช่วยเหลือและเห็นอกเห็นใจคนอื่นที่มีความทุกข์ ก็จะช่วยลดความใหญ่ของทุกข์ในใจตัวเองลงได้อย่างมหัศจรรย์

แต่ก็ต้องระวังว่า เมื่อช่วยเขาแล้ว อย่าคิดว่าตัวฉันนั้นดีเหลือหลาย เพราะจะกลายเป็นการเสริมความรักตัวเองแบบผิดๆ เข้าไปอีก

ถ้าเป็นเช่นนั้น ทักษะ ‘การย่อภูเขาให้เท่าจอมปลวก’ ก็จะดิ่งด้อยลงอย่างน่าเสียดาย

บท: ย่อภูเขาให้เท่าจอมปลวก
ผู้เขียน: คุณหญิงจำนงศรี หาญเจนลักษณ์
หนังสือ: เข็นครกตัวเบา

รักนะ.....
ตอบกลับโพส