“ ผ้าปูโต๊ะ”

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. เม.ย. 23, 2020 9:41 pm

..........“ผ้าปูโต๊ะ”................
เรื่องราวงดงาม..ทำให้คุณเข้าใจว่าทุกอย่างมีเหตุมีผลในตัวมัน

ศิษยาภิบาลมือใหม่พร้อมภรรยา ได้รับมอบหมายพันธกิจแรก ให้ไปรื้อฟื้นก่อตั้งคริสตจักรที่ถูกทิ้งร้างขึ้นมาใหม่ ณ ชานเมืองบรุคลิน ด้วยความตื่นเต้นกับโอกาสงานที่ได้รับมอบหมาย พวกเขามาถึงราวต้นเดือนตุลาคม เมื่อเห็นโบสถ์ที่จะใช้งานที่ทรุกโทรมอย่างมากและต้องซ่อมแซมหลายอย่าง พวกเขาก็ตั้งเป้าว่าจะซ่อมแซมทุกอย่างให้ใช้งานได้ก่อนการเปิดการนมัสการครั้งแรกในคืนฉลองคริสตมาส
พวกเขาทำงานอย่างหนัก ซ่อมแซมม้านั่ง ฉาบปูนใหม่ที่ผนัง ทาสี ฯลฯ วันที่ 18 ธันวาคมทุกอย่างก็ก้าวหน้าไปจนจวนเสร็จสมบูรณ์แล้ว
วันที่ 19 ธันวาคม อากาศรุนแรงแปรปรวนก่อพายุฝน ทำลายทั่วบริเวณคริสตจักรและหมู่บ้านอยู่สองวัน
พอพายุสงบ วันที่ 21 ศิษยาภิบาลก็มาสำรวจดูโบสถ์ ห้วใจหดหู่เมื่อเห็นหลังคาโบสถ์แตกเป็นช่องโหว่ กระเบื้องหล่นลงมาทำใหผนังปูนด้านหน้าพระแท่นแตกออกเห็นอิฐเปลือยอยู่เป็นวงกว้างราว 20 x 8 ฟุต ซึ่งถ้าจะซ่อมก็ต้องกินเวลาออกไปเลยกำหนดที่จะฉลองคริสตมาส
พื้นที่เป็นรอยตำหนินี้สำคัญเพราะอยู้ด้านหลังของบรรณฐาน ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่สุดเวลานมัสการ
ศิษยาภิบาลทำความสะอาดเศษซากปูนกระเบื้องบนพื้น และไม่รู้ว่าจะแก้ไขอย่างไรนอกจากเลื่อเวลานมัสการคืนวันคริสตมาสต์ออกไปก่อน แล้วเขาก็เดินทางกลับบ้าน ระหว่างทางเขาสังเกตเห็นว่ามีตลาดนัดหมู่บ้านขายสินค้าเพื่อการกุศล เขาจึงแวะเข้าไปดู สินค้าชิ้นหนึ่งเป็นผ้าปูโต๊ะงานฝีมือถัดโครเชต์สีงาช้างประณีตงดงามมาก ปักไหมรูปไม้กางเขนสีสวยกลางผืนผ้า มีขนาดกว้างเท่ากับรูผนังพระแท่นในโบสถ์ที่แตกออกพอดีเลย เขารีบซื้อมันและมุ่งตรงกลับไปยังโบสถ์
เวลานั้นหิมะเริ่มตกแล้ว หญิงชราคนหนึ่งสวนมาพยายามวิ่งโบกรถเมล์ให้รอเธอ แต่ก็ไม่ทัน ศิษยาภิบาลจึงเชิญเธอให้เข้ามานั่งพักในโบสถ์เพื่อความอบอุ่นก่อนเพราะรถเมล์คันต่อไปจะมาก็ต้องใช้เวลาอีก 45 นาที
เธอนั่งที่มานั่งในโบสถ์ไม่ได้สนใจศิษยาภิบาลขณะที่เขาไปยกบันได ติดโน่นตอกนี่เพื่อจะแขวนผ้าปูโต๊ะเพิ่งซื้อมาตรงรอยปูนแตกให้ดูเหมือนพรมติดผนังงดงาม ศิษยาภิบาลแทบไม่เชื่อตาตัวเองว่าผ้าที่ติดบนผนังนั้นดูดีมากๆเลย มันแก้ปัญหาช่วยปิดรอยแตกของปูนได้อย่างสมบูรณ์
แต่ศิษยาภิบาลก็แปลกใจที่หญิงชรากลับเดินออกมายืนอยู่กลางโบสถ์ระหว่างม้านั่งสองข้าง หน้าตาเธอซีดเผือก “ ท่านศิษยาภิบาล” เธอกล่าว “ท่านไปเอาผ้าปูโต๊ะผืนนี้มาจากไหนกัน?”
ศิษยาภิบาลจึงเล่าให้ฟัง หญิงชราขอตรวจดูที่มุมขวาว่าจะมีอักษรย่อปักโครเชต์อยู่ ว่า “ EBG “ ด้วยหรือไม่? มันมีจริงๆ มันเป็นอักษรย่อชื่อของเธอ เธอถักผ้าปูโต๊ะผื่นนี้เมื่อ 35 ปีที่แล้วที่ประเทศออสเตรีย
หญิงชราแทบไม่อยากเชื่อที่ศิษยาภิบาลเล่าว่าได้ “ผ้าปูโต๊ะ” ผืนนี้มาได้อย่างไร เพราะว่าก่อนจะเกิดสงคราม เธอกับสามีอยู่กันอย่างสุขสงบในประเทศออสเตรีย เมื่อพวกกองทัพนาซีเข้ามารุกราน เธอถูกบังคับให้ต้องออกนอกประเทศ สามีของเธอก็ถูกจับในสัปดาห์ต่อมาและถูกขังคุกจากนั้นเธอก็ไม่เคยได้พบสามีหรือได้กลับไปบ้านอีกเลย
ศิษยาภิบาลต้องการคืนผ้าปูโต๊ะผืนนี้แก่เธอ แต่เธอบอกว่าให้เก็บไว้ที่โบสถ์หลังนี้เถอะ ศิษยาภิบาลยืนยันว่าจะขับรถไปส่งเธอที่บ้าน นั่นเป็นสิ่งเดียวที่พอจะทำให้เธอได้เนื่องจากผ้าผืนนี้ เธออาศัยอยู่อีกฝั่งหนึ่งของย่าน Staten Island วันนี้เป็นวันเดียวในบรูคลินที่มีการทำความสะอาดบ้านเรือนเตรียมคริสต์มาส
พิธีนมัสการในค่ำคืนคริสต์มาสที่โบสถ์ช่างงดงามจริงๆ ผู้คนมาเกือบเต็มโบสถ์ บทเพลงและจิตวิญญาณชุ่มชื่นต่อใจมาก ตอนจบการนมัสการ ศิษยาภิบาลและภรรยาออกมาทักทายกับพี่น้องที่ประตูและหลายคนบอกว่าจะกลับมาที่โบสถ์อีก
ชายแก่คนหนึ่งที่ศิษยาภิบาลจำได้ว่าเป็นเพื่อนบ้านแถวนั้นเองยังคงนั่งอยู่ต่อในโบสถ์ สายตาจ้องมองออกไปอย่างแน่วแน่ ศิษยาภิบาลเริ่มสงสัยว่าทำไมเขายังไม่กลับบ้าน
ชายชราถามศิษยสภิบาลว่าไปได้ผ้าผืนที่ติดอยู่บนกำแพงเวทีนมัสการมาจากไหน เพราะมันเหมือนกับผ้าที่ภรรยาของเขาถักหลายปีมาแล้วอย่างมาก ตอนที่เขายังอยู่ที่ประเทศออสเตรียก่อนจะมีสงครามและเป็นไปได้อย่างไรถ้ามันจะมีผ้าแบบนี้สองผืนที่เหมือนกันเปี๋ยบเลย?
เขาเล่าต่อว่าพวกกองกำลังนาซีบุกเข้ามาและเขาบังคับให้ภรรยาหนีไปก่อนและเขาตั้งใจจะติดตามภรรยาอพยพไปด้วยภายหลังแต่กลับถูกจับและขังไว้ในคุก เขาไม่เคยได้พบกับภรรยาหรือได้กลับไปบ้านอีกเลยตลอดเวลา 35 ปีที่ผ่านมา
ศิษยาภิบาลบอกชายชราว่าเขาจะขอขับรถพาชายชราไปกับเขาสักหน่อยหนึ่งได้หรือไม่ พวกเขาขับรถมาถึงย่าน Staten Island และมาถึงบ้านหลังเดียวกันกับที่ศิษยาภิบาลได้มาส่งหญิงชราเมื่อสามวันก่อน
เขาช่วยพยุงชายชราเดินขึ้นบันไดถึงสามช่วงชั้นจนหยุดตรงอพาร์ทเมนต์ที่หญิงชราพักอยู่ เคาะประตูห้องและศิษยาภิบาลก็ได้เห็นคริสต์มาสแห่งการกลับมาพบกันอีกอันยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าทีเขาจะสามารถจินตนาการไปได้
นี่เป็นเรื่องจริงที่ถ่ายทอดจากศิษยาภิบาล ร็อบ รีด ผู้กล่าวว่า “พระเจ้าทรงทำงานอย่างลึกลับ ฉันขอพระเจ้าทรงอวยพรท่านและฉันจะภาวนาให้ท่านในวันนี้ ขอพระองค์ทรงนำทางและปกปักรักษาท่านตลอดหนทางที่ท่านเดินไป ขอความรักของพระองค์ประทับอยู่กับท่าน คำสัญญาของพระองค์เป็นจริง และเมื่อเราถวายความห่วงใยทั้งหมดไว้กับพระองค์เรารูว่าพระองค์ก็จะทรงดูแลรักษาเราในทุกสิ่งตลอดไป”
“ดังนั้น เมื่อหนทางที่ท่านดำเนินไปเริ่มลำบาก เมื่อทำอย่างดีที่สุดแล้ว จงจำไว้ว่าฉันอยู่ที่นี่สวดภาวนาและพระเจ้าจะทรงทำส่วนที่เหลือ จงส่งผ่านสิ่งนีไปให้แก่คนที่ปรารถนาให้พระเจ้าทรงอวยพรให้ และอย่าลืมส่งกลับไปให้เขาคนแรกที่วอนขอพระเจ้าให้ทรงอวยพรแก่ลูก”
เมื่อไม่เหลืออะไร นอกจากพระเจ้า ท่านจะพบว่าพระเจ้าเป็นทุกสิ่งที่ท่านปรารถนามาโดยตลอด ใช้เวลา60 วินาทีให้สิ่งนี้เป็นเหมือนการลั่นกระสุนส่งไป ที่ท่านต้องทำง่ายเหลือเกินจงกล่าวบทภาวนาสั้นๆนี้แก่ใครผู้ซึ่งส่งเรื่องราวนี้มาให้
“ข้าแต่พระบิดา พระเจ้าของลูก โปรดอวยพระพรแก่เพื่อนของลูกทุกคนแก่ครอบครัวสำหรับทุกสิ่งที่พระองค์ทรงทราบดีว่าพวกเขาต้องการสิ่งใดในวันนี้ ขอให้ชีวิตของพวกเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยสันติของพระองค์ อุดมสมบูรณ์และมีพลังดังที่พวกเขาแสวงหาอยากมีความสัมพันธ์สนิทชิดใก้ลกับพระองค์ด้วยเทอญ อาแมน”
นั่งดีๆและคอยดูพละกำลังของพระเจ้าที่ทำงานอยูในชีวิตของท่าน
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ตอบกลับโพส