หน้า 1 จากทั้งหมด 1

รวมเรื่องสั้นข้อคิดสกิดใจ ( 4 )

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 20, 2020 5:43 pm
โดย rosa-lee
.............. สร้อยมุกแท้. ................

ขณะที่เจนนี่ เด็กหญิงวัย 5 ขวบ ยืนอยู่ข้างแม่ ที่กำลังเข้าคิวรอชำระเงิน หลังจากซื้อของในร้านขายของชำอยู่นั้น

เจนนี่หลือบไปเห็นสร้อยมุกเทียม ที่มีแสงสีแวววาว ราคา 2 เหรียญครึ่ง ที่แขวนอยู่ใกล้ที่ชำระเงิน ตาของเธอ จับจ้องสร้อยอยู่นาน

เธออยากได้สร้อยมุกเส้นนั้นมาก และขอให้แม่ซื้อให้ แต่แม่ตอบว่า

" เป็นสร้อยที่สวยมาก แต่ราคาก็สูงด้วย แม่จะซื้อให้ก็ได้ แต่ลูกต้องช่วยทำงานทั้งหมด ที่แม่จะเขียนเป็นรายการให้นะ "

เจนนี่ตกลง และแม่ก็ซื้อสร้อยที่สวยเส้นนั้นให้...เจนนี่ทำงานที่แม่มอบหมายให้ด้วยความเต็มใจ ตามสัญญาอยู่หลายวัน จนครบหมดทุกรายการ

เธอภูมิใจกับสร้อยมุกมาก เธอสวมใส่อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะไปที่ไหน เธอยอมถอด เมื่อจะอาบน้ำเท่านั้น

พ่อของเจนนี่ เป็นพ่อที่น่ารักมาก ทุกคืนก่อนนอน พ่อจะอ่านนิทานเรื่องหนึ่งให้เธอฟัง หลังจากอ่านนิทานที่สนุกมาก จบในคืนวันหนึ่ง พ่อก็ถามว่า

" เจนนี่ลูกรักพ่อไหม ? ” เจนนี่ตอบว่า

“ พ่อก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ ว่าหนูรักพ่อมาก "
พ่อจึงพูดต่อว่า

“ แล้วถ้าพ่อขอสร้อยมุกของลูก ๆ จะให้พ่อไหม ? "

เจนนี่หน้าซีดลงทันที และพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาลงว่า

“ พ่อจะขออะไรของลูกก็ได้ เอาเจ้าตุ๊กตาตัวโปรด ที่พ่อให้ในวันเกิดของลูก เมื่อเดือนที่แล้วก็ได้ แต่อย่าขอสร้อยมุกของหนูเลยนะคะ "
พ่อจึงตอบว่า

“ ตกลงลูกรัก พ่อไม่เอาอะไรเลยก็ได้ โอเค ตอนนี้นอนหลับฝันดีได้แล้วลูก ”

หลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์ เมื่ออ่านนิทานจบ พ่อก็ถาม คำถามเดิม กับเจนนี่อีกว่า

เธอรักเขาไหม และเมื่อเธอตอบว่า รัก เขาก็ขอสร้อยมุกของเธออีก เธอตอบพ่อว่า

" พ่อจะเอาตุ๊กตาม้าสีสวยสด ที่หนูรักมากก็ได้ แต่อย่าขอสร้อยมุกของหนูเลยนะคะ ”

พ่อก็ตอบตกลง เหมือนกับครั้งก่อน

หลายวันต่อมา ขณะที่พ่อเข้ามาในห้องนอนของเจนนี่ และกำลังจะเริ่มอ่านนิทานอยู่นั้น

เจนนี่ลุกขึ้นนั่งบนเตียงของเธอ ปากคอสั่น สะอึกสะอื้น ขณะที่ยื่นสร้อยมุกให้พ่อพูดว่า

“ นี่ค่ะ คุณพ่อที่หนูรักมากที่สุด ”

พ่อใช้มือข้างหนึ่ง หยิบสร้อยมุกเทียมของเธอ ส่วนมืออีกข้างหนึ่ง พ่อก็ยื่นกล่องกำมะหยี่สีเงิน ส่งให้ลูกสาว

เมื่อเธอเปิดออกก็พบว่า ในกล่องมีสร้อยมุกแท้ ที่สวยงามเป็นประกายอยู่ ที่จริง พ่อถือกล่องนี้ไว้เกือบ 2 สัปดาห์แล้ว

เมื่อเข้ามาอ่านนิทานให้ลูกฟัง และพ่อก็รอเวลาที่เจนนี่ จะยอมสละสร้อยมุกเทียม ที่เธอรักสุดชีวิตให้ก่อน

ทั้งที่จริง แทบไม่มีค่างวดอะไรเลย ในสายตาของพ่อ ก่อนที่พ่อจะมอบสร้อยมุกแท้ ให้ด้วยความรัก

*******************

รวบรวมและเรียบเรียง โดย
กอบกิจ ครุวรรณ

Re: รวมเรื่องสั้นข้อคิดสกิดใจ ( 4 )

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 20, 2020 5:47 pm
โดย rosa-lee
................ ต้นมะม่วง ...............

มีมะม่วงต้นใหญ่ต้นหนี่ง แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงา อยู่ที่เชิงเขาข้างหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มะม่วงต้นนี้ รักเด็กคนหนึ่ง ที่ชอบมาวิ่งเล่น ใต้ต้นอยู่ทุกวัน

บางครั้ง เมื่อมะม่วงมีผลสุก เด็กคนนี้ ก็จะปีนขึ้นไป เก็บผลมากิน อย่างเอร็ดอร่อย แต่ส่วนใหญ่ เขาจะวิ่งเล่นไปรอบ ๆ จนเหนื่อย และงีบหลับอยู่ใต้ต้น...

เขารักมะม่วงต้นนี้มาก และมันก็ชอบให้เขามาอยู่ใกล้ ๆ เช่นกัน

วันเวลาผ่านไป เด็กคนนี้โตขึ้น และไม่มาเล่นใต้มะม่วงต้นนี้อีก วันหนึ่ง เขากลับมาที่ต้นมะม่วง ด้วยสีหน้าเศร้าหมอง ต้นมะม่วงจึงพูดกับเขาว่า

“ มาเล่นกับฉันสิ "
เขาตอบว่า

“ ฉันไม่ได้เป็นเด็กเล็กแล้ว และฉันก็ไม่เล่นกับต้นไม้แล้ว ฉันอยากได้ของเล่นจริง ๆ ฉันต้องการเงินไปซื้อของเล่น "

ต้นมะม่วงจึงพูดว่า

“ เสียใจด้วยนะ ฉันไม่มีเงินให้ แต่เธอเก็บผลของฉันไปขาย ก็จะได้เงินเหมือนกันนะ "

เด็กตื่นเต้นกับข้อเสนอ และเก็บผลมะม่วง ไปจนหมดต้น เพื่อนำไปขาย และไม่กลับมาที่ต้นมะม่วงอีก เป็นเวลานาน

แล้วอยู่มาวันหนึ่ง เด็กคนนี้ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็หวนกลับมา ต้นมะม่วงตื่นเต้นดีใจมาก พูดกับเขาว่า

" มาเล่นกับฉันสิ "
แต่เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า

" ฉันไม่มีเวลาเล่นแล้ว ฉันต้องทำงาน หาเลี้ยงครอบครัว ตอนนี้ฉันต้องการมีบ้าน เธอช่วยฉันได้ไหมล่ะ "

ต้นมะม่วงจึงตอบว่า

" เสียใจด้วยนะ ที่ฉันไม่มีบ้าน แต่เธอตัดกิ่งใหญ่ ๆ ของฉัน แล้วเอาไม้ที่ได้ ไปสร้างบ้านก็ได้นี่ "

พอมะม่วงพูดจบ เขาก็รีบจัดการ ตัดกิ่งต้นมะม่วง ออกไปจนเกลี้ยง จากนั้น ก็ขนกิ่งมะม่วงทั้งหมด จากไปอย่างมีความสุข

และตั้งแต่วันนั้น เขาก็ไม่ได้กลับมา ที่ต้นมะม่วงอีก ทำให้มันรู้สึกเศร้า อีกครั้งหนึ่ง

จนถึงวันหนึ่ง ในฤดูร้อน ชายคนนั้นก็กลับมา ต้นมะม่วงดีใจมาก พูดว่า

" มาเล่นกับฉันสิ "
แต่เขาตอบว่า

" ตอนนี้ ฉันอายุมากแล้ว และรู้สึกเหงา ฉันอยากจะแล่นเรือ ออกไปพักผ่อน ในท้องทะเลบ้าง เธอให้เรือเล็กฉันสักลำได้ไหมล่ะ ”

ต้นมะม่วงจึงตอบว่า

“ ได้เลย เอาลำต้นของฉัน ไปขุดเป็นเรือก็ได้นี่ เธอจะได้ทำเป็นเรือใบ และออกไปพักผ่อนได้อย่างมีความสุข "

แล้วชายคนนั้น ก็ตัดต้นมะม่วง ไปทำเรือใบ แล่นไปในท้องทะเล แวะเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ

เขาจากไปนานหลายปี ก่อนจะกลับมาที่ต้นมะม่วงอีก ครั้งนี้ ต้นมะม่วงซึ่งเหลือแต่ตอ พูดทักขึ้นก่อนว่า

“ เสียใจด้วยนะ ตอนนี้ฉันไม่เหลืออะไร ที่จะให้เธออีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผล , กิ่ง หรือลำต้น "

ชายคนนั้น จึงตอบว่า

“ ฉันเองก็ไม่มีฟัน จะกินมะม่วงเหมือนกัน จะปีนต้นมะม่วงก็ไม่ไหว "

มะม่วงที่เหลือแต่ตอ พูดต่อไปว่า

“ ฉันไม่เหลืออะไรจริง ๆ ดูสิ ที่เหลืออยู่นี่ ก็เป็นเพียงตอไม้ ที่กำลังจะแห้งตายไป ”

ชายคนนั้น พูดตอบว่า

“ ฉันก็ไม่ต้องการอะไรมากแล้ว ขอเพียงได้นั่งพักก็พอ ฉันเหนื่อยมาตลอดชีวิตแล้ว พอกันที "

ตอต้นมะม่วงจึงพูดว่า

“ งั้นก็ดีเลย มานั่งพิงที่ฉัน และพักผ่อนตามสบายได้เลย "

แล้วเขาก็มานั่งอยู่เคียงข้าง ตอมะม่วงต้นนั้น และทั้งสอง ก็ยิ้มให้กันอย่างเป็นสุข

ข้อคิดสะกิดใจ :

ต้นมะม่วง เปรียบได้กับพ่อแม่ของเรา เมื่อเราเป็นเด็ก เรารักที่จะเล่น และคลุกคลีกับพ่อแม่

แต่เมื่อเราโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ เราก็จากท่านไป และกลับมาเยี่ยมท่าน เมื่อต้องการความช่วยเหลือเป็นครั้งคราว

ซึ่งท่านทั้งสอง ก็ยอมเสียสละทุกสิ่งที่มีให้ และมีชีวิตอยู่ เพื่อช่วยประคับประคอง ให้ความช่วยเหลือเรา จนถึงที่สุด

********************

Re: รวมเรื่องสั้นข้อคิดสกิดใจ ( 4 )

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 23, 2020 8:02 pm
โดย rosa-lee
...................ของขวัญ.....................

ถ้าพูดถึง ?ของขวัญ? เรามักนึกถึงสิ่งของที่เรามอบให้กันในวันสำคัญต่าง ๆ แต่อันที่จริงแล้ว ยังมีของขวัญที่เราสามารถมอบให้กันได้ทุกวัน โดยไม่เสียเงินเลยครับ

ของขวัญล้ำค่าเหล่านี้ ไม่ต้องรอมอบให้กันในช่วงเทศกาล เราสามารถมอบให้ผู้อื่นได้ตลอดปี และเมื่อเรามอบของขวัญนี้แก่ผู้ใดแล้ว ผลที่ได้รับมีคุณค่ามากมายมหาศาลครับ ทั้ง ๆ ที่เราไม่ต้องลงทุนซักแดงเดียว เรามาลองดูรายละเอียดของกิฟต์เซ็ต ชุดนี้กันดีกว่าครับ

ของขวัญจากการฟัง
จงตั้งใจฟังผู้อื่นให้มาก อย่าขัดจังหวะการพูด หรือขัดคอผู้อื่น พูดให้น้อย ฟังให้มากครับ

ของขวัญจากภาษากาย
อย่าอายที่จะแสดงความรักต่อครอบครัวหรือเพื่อนของคุณครับ การแสดงออกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่บอกให้พวกเขารู้ถึงความสนิทสนมที่คุณมีให้ จับมือ, โอบไหล่, สวมกอด, หอมแก้ม ฯลฯ

ของขวัญจากความเบิกบาน : แบ่งปันเสียงหัวเราะและความสนุกสนาน ให้คนรอบข้าง มีเรื่องสนุกอย่าแอบหัวเราะคนเดียว

ของขวัญจากการเขียน : กระดาษโน้ตที่เขียนด้วยลายมือ หรือการพิมพ์ของคุณเอง เช่น ?ฉันรัก สมาชิกนักอ่านทุกคนจังเลย 555 !
ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ
จะสร้างความรู้สึกดี ๆ ให้แก่คนอ่านได้ไม่น้อยเลยครับ

ของขวัญจากคำชม : ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ ไม่ว่าใครก็อยากได้รับคำชมครับ เช่น.
ผมทรงนี้ดูดีจัง
กับข้าวอร่อยมากเลยนะ
ผอมลงรึเปล่า ดูดีขึ้นเยอะเลยนะ
แต่อย่าชมจนเว่อร์ก็แล้วกัน เดี๋ยวจะกลายเป็นคนไม่จริงใจครับ

ของขวัญจากความมีน้ำใจ : ความจริงคนเราทุกคนล้วนมีน้ำใจ สภาพสังคมที่แก่งแย่งแข่งขันอยู่ตลอดเวลา ทำให้น้ำใจของหลายคนเกิดอาการ หลับในครับ
การแบ่งปันให้กันจะทำให้โลกเราน่าอยู่ขึ้นนะครับ

ของขวัญจากเวลาส่วนตัว : บางเวลาคนเราก็อาจอยากอยู่เงียบ ๆ ตามลำพังครับ อย่าลืมเคารพสิทธิ์ผู้อื่นด้วย ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวเมื่อเขาต้องการ

ของขวัญจาการให้กำลังใจ : คนเรายามที่จิตใจท้อแท้ ก็เหมือนรถน้ำมันหมดครับ คอยเติมกำลังใจให้คนอื่นทุกครั้งที่มีโอกาสครับ
ใจเย็น ๆ นะ เดี๋ยวก็มีทางแก้? ยากกว่านี้เธอยังทำได้เลย? สักวันรถของคุณเองก็อาจขาดน้ำมันเหมือนกันก็ได้ครับ

ของขวัญจาก มธุรสวาจา :
คำพูดดี ๆ ทำให้เกิดความประทับใจต่อกันได้ดีครับ
อย่าลืมคำพื้นฐานอย่าง ขอบคุณ ขอโทษ ไม่เป็นไร เพราะคุณเองก็คงอยากฟังคำพูดดี ๆ จากคนอื่นบ้างเหมือนกันครับ

เห็นไหมครับว่า เรามีของขวัญมากมายอยู่กับตัวที่สามารถหยิบยื่นให้แก่กัน ได้ทุกที่ทุกเวลา ลองมอบให้คนข้าง ๆ ซักคนละชิ้น สองชิ้น เริ่มต้นจาก การยิ้มให้กันก่อน ยิ้ม เป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพและเรื่องราวดี ๆ อีกมากมายครับ
:s013: :s013: :s013:

Re: รวมเรื่องสั้นข้อคิดสกิดใจ ( 4 )

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 23, 2020 8:11 pm
โดย rosa-lee
........... " คุณมองปัญหาของคุณอย่างไร "............

วันหนึ่ง สิงโตผู้เป็นเจ้าป่า ได้ประกาศว่า จะเรียกประชุมบรรดาสัตว์ทั้งหลาย ในวันรุ่งขึ้น ตอน 8 โมงเช้า

เนื่องจากสิงโตเป็นหัวหน้าที่เคร่งครัด มันจึงประกาศกฏเหล็ก แก่สัตว์ทั้งหลายว่า ถ้าสัตว์ตัวใดมาประชุมสาย ไม่ตรงเวลา สัตว์ตัวนั้นจะถูกลงโทษ

บรรดาสัตว์ทั้งหลาย ต่างมาประชุมกันตรงเวลา ยกเว้นเพียงเต่าตัวเดียว เมื่อถึงเวลา 8 โมงตรง สิงโตเริ่มการประชุมทันที

เวลาผ่านไปจนถึง 9 โมง สิงโตเห็นเต่าค่อย ๆ คลานมาถึงที่ประชุม สิงโตจึงกล่าวกับเต่าว่า

" เจ้าจะต้องถูกลงโทษ เพราะเจ้ามาประชุมสาย "

เต่าโอดครวญกับสิงโตว่า

“ ท่านก็ทราบอยู่แล้วว่า ปัญหาของข้า คือ ข้าเป็นสัตว์ที่เดินช้ากว่าสัตว์อื่น ๆ ท่านยังจะลงโทษข้าอีกหรือ ”

“ แน่นอน ยิ่งเจ้ารู้ตัวแบบนี้ ข้าต้องลงโทษเจ้า ”
สิงโตกล่าว

“ อ้าว เพราะอะไรล่ะ ”
เต่าถาม

" ก็เจ้ารู้อยู่แล้วว่า เจ้าเดินช้ากว่าสัตว์อื่น เจ้าก็ต้องกะเวลา ออกเดินทางจากบ้านให้เช้าขึ้น เจ้าจะได้มาประชุมตรงเวลาอย่างไรล่ะ "

(ribbon heart) ชวนคิดสะกิดใจ (ribbon heart)

เรามีท่าทีอย่างไรต่อปัญหา ข้อบกพร่อง และความอ่อนแอที่เรามี

ใช้มันเป็นข้อแก้ตัว หรือยอมรับมัน และพยายามแก้ไข ปรับปรุงตัวของเราให้ดีขึ้น

(candlestick)ดุจตะเกียงที่ส่องทาง(candlestick)

บาทหลวงเชษฐา ไชยเดช

Re: รวมเรื่องสั้นข้อคิดสกิดใจ ( 4 )

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 26, 2020 10:42 am
โดย rosa-lee
..........คลายเครียดหน่อยค่ะ
ไม่ทราบเจ้าของเรื่องคือใครขอบคุณนะครับ
เป็นคุณหมอท่านหนึ่ง ส่งมาให้อีกที น่ากลัวมากๆ

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง..โปรดอ่านให้จบ..

แต่ถ้าจิตไม่แข็ง..อย่าเสี่ยงครับ !!!
.
แล้วถ้าตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้.. อย่าทำตามเด็ดขาด !!!

#ทำไมจึงห้ามดึงยันต์ออก
.
มีเด็กคนหนึ่ง รักการอ่านหนังสือมาก มากจนเรียกได้ว่าอภิมหาหนอนหนังสือ เค้าชอบไปนั่งอ่านที่ร้านขายหนังสือแห่งหนึ่ง อ่านทุกวัน..วันละเล่มสองเล่ม มาบ่อยจนเจ้าของร้านยอมปล่อย เพราะอยากให้เด็กได้อ่านหนังสือ
.
อ่านไปอ่านมา หนังสือในร้านหมดเพราะอ่านจบครบทุกเล่ม เลยไปคะยั้นคะยอเจ้าของร้านว่า "มีหนังสืออีกมั้ยครับ?" เจ้าของก็บอก " ไม่มีแล้วไอ้หนู เจ้าอ่านจนหมดร้านแล้ว "
.
เด็กน้อยไม่เชื่อ ร้านหนังสือจะไม่มีหนังสือให้อ่านได้ไง จึงบอกให้พยายามหาหนังสือมาให้อ่านหน่อย จนเจ้าของร้านจำใจ บอกไปว่า..
.
เอางี้.มีอยู่เล่มหนึ่ง แต่เล่มนี้ไม่ให้อ่านฟรีนะ ต้องซื้อ.. เด็กก็บอก "ได้ครับ ราคาเท่าไหร่ เรื่องอะไร ขอดูหน่อย"
.
เจ้าของร้านหายไปหลังร้านสักพัก ก็เอาหนังสือออกมาให้ดู เป็นเล่มสีดำสนิท หน้าปกพิมพ์ชื่อเรื่องว่า " วิญญาณ และความตาย"
.
แต่ที่สำคัญ ปกหลังหนังสือมี "ยันต์สีแดง" แผ่นเกือบเท่าปกหลังติดอยู่ ซึ่งน่าแปลกมาก !?!
.
เจ้าของร้านบอกขายให้ 500 บาทพอ เพราะเห็นเป็นเด็กชอบอ่าน จริงๆไม่อยากขายให้ใคร เด็กคนนั้นดีใจมาก แม้จะแพงไปนิด เด็กรีบจ่ายเงินและนำหนังสือกลับบ้าน เพื่อจะอ่านทันที
.
ก่อนจะพ้นจากประตู เจ้าของร้านไม่ลืมที่จะเตือนว่า..
.
"เดี๋ยวก่อน ไม่ว่าเจ้าอ่านแล้วจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม.. ห้ามดึงยันต์หลังปกหนังสือนี้ออกอย่างเด็ดขาดนะ"
.
เด็กคนนั้นรีบรับปาก แล้วเดินกลับบ้านด้วยความงุนงงสงสัย
.
หลังจากนั้น เด็กก็อ่านแต่หนังสือเล่มนี้โดยไม่เป็นอันทำอะไร.. อ่านไป อ่านไป อ่านไปจนจบเล่ม..และ คืนที่อ่านจบนั่นเอง....
.
เด็กน้อยเริ่มรู้สึกว่า.. มันน่าจะมีอะไรแปลกๆ เกี่ยวกับยันต์แผ่นนี้แน่ เลยคิดที่จะดึงยันต์ออก... (เอาล่ะสิ)
.
แต่ในใจก็ยังกลัวคำเตือนของเจ้าของร้าน " ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ห้ามดึงยันต์หลังหนังสือนี้ออกอย่างเด็ดขาด "
.
แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่า .." เอาน่า..ไหนๆก็เป็นหนังสือของเราแล้ว จะลองดึงดู..ก็ไม่น่าเป็นไรหรอก เด็กจึงตัดสินใจ..ค่อยๆ แกะผ้ายันต์นั้นออก "
.
สุดท้าย.. หลังจากที่แกะยันต์ออกจนหมด เด็กคนนั้นตัวชา อึ้งไปสักพักใหญ่ แล้วก็ร้องไห้โฮโดยไม่รู้ตัว เพราะหลังหนังสือ พิมพ์ไว้ว่า....

"ราคา 20 บาท"

:s013: :s013: :s013:

Re: รวมเรื่องสั้นข้อคิดสกิดใจ ( 4 )

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 29, 2020 2:02 pm
โดย rosa-lee
................ ความสุขในการให้ .................

George Peabody เป็นพ่อค้าที่ร่ำรวยที่สุด ของศตวรรษที่แล้ว เขาได้บริจาคมากมาย สิ่งหนึ่งก็คือ อาคารบ้านพักที่ทันสมัยหลังหนึ่ง ในลอนดอน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 2 ล้านเหรียญ ประมาณกันว่าเขาได้ทำบุญทั้งหมด ประมาณ 9 ล้านเหรียญ ในช่วงชีวิตของเขา

ครั้งหนึ่งในงานเลี้ยงที่เมือง Baltimore George Peabody และ John Hopkins ได้ไปร่วมงานด้วย

มีคนหนึ่งถามเขาว่า
" คุณ Peabody ครับระหว่างการสร้างทรัพย์สินเงินทอง กับการแจกจ่ายเงินทอง อย่างไหนทำให้คุณมีความสุขมากกว่ากัน ”

Peabody ตอบอย่างช้า ๆ ว่า “ ฉันมีความสุขมากเมื่อได้รับเงิน ได้สร้างทรัพย์สมบัติ ฉันคิดว่ามันเป็นความพึงพอใจใหญ่หลวงมาก ในการหาเงิน และเมื่อฉันรู้ว่าฉันต้องจ่ายมันออกไป มันทำให้ฉันรู้สึกรำคาญมาก แต่ฉันได้คิดว่า มันควรจะไม่มายุ่งกับฉัน และสรุปว่า ฉันจะจ่ายให้เล็กน้อยที่สุด ดังนั้นเมื่อฉันสร้างบ้านหลังแรก ในกรุงลอนดอน มันเป็นเรื่องที่หนักใจมาก แต่หลังจากทำเสร็จ ฉันเดินดูรอบ ๆ คนยากจนที่มีที่อาศัยในห้องที่สะอาด และสะดวกสบาย ฉันจึงเกิดความรู้สึกใหม่ขึ้น ฉันมีความสุขมากทีเดียว ดังนั้นฉันจึงได้ให้เงินเพิ่มขึ้น และความรู้สึกที่ดีที่เพิ่มขึ้น เวลานี้ฉันกล้าพูดได้เต็มปากว่า ฉันมีความสุขในการให้เงิน มากกว่าที่จะได้รับเงินเสียอีก ”

การให้ที่เห็นแก่ความรู้สึกที่ดี หรือเพื่อความพึงพอใจ จากการกระทำ อาจจะไม่ใช่เป็นความรักในชั้นที่ถูกต้อง แต่เรื่องนี้ต้องการแสดงให้เห็น การเห็นอกเห็นใจ ซึ่งนำความสุข ความยินดีมาให้นั้น นำความยินดีมาสู่ผู้ให้และผู้รับเท่ากัน

****************

จากเรื่องสั้น ข้อคิด สะกิดใจ รวบรวมโดย คุณพ่อวัชศิลป์ กฤษเจริญ

Re: รวมเรื่องสั้นข้อคิดสกิดใจ ( 4 )

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 29, 2020 5:50 pm
โดย rosa-lee
............"ความต้องการที่แท้จริง”...........

ชายชราคนหนึ่ง ประกาศขายบ้านของตัวเอง ภรรยา
ของเขาเสียไปแล้วและเขาก็ไม่มีบุตรสืบสกุลแม้เพียง
สักคนเดียว

เขาวางแผนว่า เมื่อเขาได้เงินจากการขายบ้าน เขาจะ
ไปอาศัยอยู่บ้านพักคนชรา อย่างน้อยที่นั่นก็มีเพื่อน
เขาจะได้ไม่โดดเดี่ยว เหมือนกับอยู่คนเดียวในบ้าน
หลังนี้

มีเศรษฐีจำนวนมากที่ถูกใจบ้านของเขา ต่างพากันแวะ
เวียนมาสอบถามราคา แต่ชายชราก็ยังไม่ตกลงปลงใจ
จะขายให้แก่ใคร

อยู่มาวันหนึ่ง มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งได้เข้ามาสอบถามและ
ดูบ้าน ชายหนุ่มได้แต่ชื่นชม และบอกว่าเขาอยากได้
บ้านหลังนี้มาก
“เธอมีเงินพอที่จะซื้อไหมพ่อหนุ่ม?”
ชายชราถามออกไป
“ครับ แต่ทว่า ผมมีเงินแค่เพียงห้าแสน ผมยังขาดเงินอีกตั้งครึ่งหนึ่งถึงจะซื้อบ้านของคุณได้!”
ชายหนุ่มตอบออกไป
“เสียใจด้วยนะพ่อหนุ่ม ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขายให้เธอไม่ได้”
เด็กหนุ่มนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ก็ได้พูดกับชายชราว่า
“ผมอยากซื้อบ้านของคุณจริงๆ เราพอจะคุยกันในวิธีการซื้อขายแบบใหม่ได้ไหมครับ?”
“ลองบอกวิธีการซื้อขายแบบใหม่ของเธอสิ!”
ชายชรากล่าว
“ผมยินดีมอบเงินจำนวนห้าแสนให้คุณ เพื่อซื้อบ้านหลังนี้ แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็อยากให้คุณอยู่ในบ้านหลังนี้เหมือนเดิม คุณไม่ต้องย้ายออกไปอยู่บ้านพักคนชราเหมือนที่คุณคิดไว้ ผมถือว่าคุณเป็นเสมือนคุณปู่ของผม ผมจะดูแลคุณและอยู่เป็นเพื่อนคุณ”
“หากคุณขายบ้านหลังนี้ให้กับคนอื่น คุณก็จะได้แค่เงิน ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการจริงๆ เพราะคุณรวยอยู่แล้ว หากคุณขายบ้านหลังนี้ให้ผม นอกจากคุณจะได้เงินไปจำนวนหนึ่ง คุณยังจะได้ชีวิตที่เหมือนเดิม บ้านหลังเดิม แต่สิ่งที่คุณจะได้เพิ่มก็คือลูกชายแถมมาอีกหนึ่งคน คุณจะมีครอบครัวใหม่ในบั้นปลายของชีวิตวันใดที่ผมแต่งงานคุณจะเป็นคนสำคัญในชีวิตผม คุณจะมีลูกสะใภ้และหลานๆเพิ่มขึ้น ชีวิตของคุณจะไม่เงียบเหงาอีกต่อไป”
ชายชรานิ่งคิดตามที่ชายหนุ่มบอก
หากชายหนุ่มคนนี้ทำได้จริงตามที่พูดมา ชีวิตของเขา
ก็จะสมบูรณ์อย่างที่ชายหนุ่มพูด อยู่ที่เขาแล้วว่าจะ
เลือกอะไร?

เงินทองเหรอ? เขาหามาทั้งชีวิตแล้ว ต่อให้ไม่ขาย
บ้านหลังนี้ เงินที่มีอยู่ในบัญชีก็เพียงพอแก่ชีวิตบั้น
ปลายของตนเองแล้ว ความสุขต่างหากที่เขาต้องการ
ณ ตอนนี้!

หลังจากนั้นสามวัน ชายชราตกลงขายบ้านให้ชาย
หนุ่มคนนั้นด้วยราคาเพียงห้าแสน พวกเขาใช้ชีวิตอยู่
ในบ้านหลังนั้นดั่งคนในครอบครัวเดียวกัน

ความต้องการที่แท้จริงของชายชราคนนี้คืออะไร? นั่น
คือสิ่งที่คุณต้องเรียนรู้ต่อคนรอบข้าง สิ่งนี้เรียกว่า“รู้ใจ”
ส่วนสิ่งที่ชายหนุ่มมีอยู่ นอกเหนือจากกำลังทรัพย์อัน
น้อยนิดนั้น สิ่งที่เขามีอย่างมากมายมหาศาลก็คือ
“มิตรภาพ” และการเสนอตัวเองอยู่“เคียงข้าง”ชายชรา
ที่คนทั่วไปมองว่าเป็นสิ่งที่แสนจะธรรมดา แต่ชายชรา
คนนี้กำลังต้องการ!

ค้นหาข้อดีของตนเองให้เจอ สักวันคุณย่อมประสบ
ความสำเร็จในชีวิตและการงาน

นำเสนอโดย
#เรื่องดีๆ มีข้อคิด


นุสนธิ์บุคส์