“ ความดีจะติดตัว ความชั่วจะติดกาย “

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5962
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ ส.ค. 05, 2020 3:49 pm

นางหลิวมีอาชีพขายโรตี แม้ลูกค้าจะไม่มาก แต่ก็พอประทังชีวิตได้วันๆ
นางมีลูกชายอยู่คนหนึ่ง ซึ่งออกไปรับจ้างต่างเมืองเป็นเวลากว่าครึ่งปีแล้ว
แม้รายได้จะไม่มาก แต่นางจะทอดโรตีชิ้นหนึ่งแล้ววางไว้หน้าประตูบ้านทุกวัน เผื่อใครที่เดินผ่านไปมาหิวข้าว จะได้หยิบไปโดยไม่ต้องเกิดความรู้สึกอาย และทุกครั้งที่นางเอาไปวางไว้หน้าบ้าน นางก็จะพึมพำขอให้ลูกชายของนางอยู่รอดปลอดภัย

โรตีที่นางวางไว้หน้าบ้าน จะมีชายขอทานวัยชราแวะมาเอาเสมอ และเมื่อชายขอทานหยิบไปก็จะเอ่ยคำพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนเดินจากไปเสมอว่า
"ความดีจะติดตัว ความชั่วจะติดกาย"

นางหลิวได้ฟังอย่างนั้นก็สะดุดใจทุกครั้ง นางคิดในใจ
"ไม่ขอบคุณก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่นี่เหมือนแช่งชั้นตลอดเลยตาเฒ่านี่"
คิดไปนางก็รู้สึกเจ็บแค้นคำพูดของชายชรา

วันหนึ่ง ความแค้นใจของนางหลิวได้ถึงจุดสิ้นสุด เช้านั้น หลังจากนางทอดโรตีเพื่อจะนำไปขายเสร็จ นางจึงหยิบโรตีชิ้นหนึ่งออกมา จากนั้นก็เทยาพิษใส่โรตีชิ้นนั้นพร้อมกับเกลี่ยให้เป็นปกติ แต่ในขณะที่นางกำลังห่อโรตีจนถึงเดินเอาโรตีไปวางไว้หน้าบ้าน ใจและมือของนางสั่นด้วยความละอายใจ จนในที่สุดฝ่ายมโนธรรมของนางก็เป็นฝ่ายชนะ นางหันหลังกลับ แล้วก็นำเอาโรตีชิ้นนั้นเผาไฟทำลายทิ้งเสีย แล้วหยิบโรตีอีกชิ้นไปไว้หน้าบ้านแทน

ก่อนเที่ยงของวันนั้น ชายขอทานก็ผ่านหน้าบ้านของนางและหยิบโรตีชิ้นนั้นไป และเหมือนเดิม ชายชราได้เอ่ยประโยคเดิมให้นาง แต่ครั้งนี้ นางหลิวแอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะนางเกือบฆ่าคนไปหนึ่งคน

บ่ายวันนั้น ลูกชายของนางที่ไปทำงานต่างเมืองมาหลายเดือน ก็เดินเข้าบ้านมาด้วยความอ่อนเพลีย พร้อมกับเล่าให้แม่ฟังว่า
"ลูกเดินทางมาไกล ก่อนจะถึงหมู่บ้านของเรา ลูกหิวข้าวจนเป็นลมอยู่ข้างทาง โชคดีที่ลุงขอทานคนหนึ่งเอาโรตีของเขามาให้ลูกกิน ลูกจึงมีกำลังเดินต่อได้ ถ้าไม่ได้ลุงคนนั้น ลูกคงแย่แน่ๆ"

เมื่อนางหลิวได้ยินดังนั้น เกือบล้มทั้งยืน กายใจของนางสั่นเทิ้ม มือเท้าเย็นแบบเฉียบพลัน
"จริงเหมือนคำพูดของขอทานคนนั้น ความดีจะติดตัว ความชั่วจะติดกาย ถ้าแม่ไม่ยับยั้งตัวเองเสียก่อน คนที่ตายคงเป็นลูกของแม่แน่ๆ"
นางพืมพำและร้องไห้ออกมาด้วยความสะเทือนใจ

.....
ผลตอบสนองของกรรมช้าหรือเร็วนั้นเหมือนการปลูกผักผลไม้
ถั่วงอกเพาะเพียงสามวันก็เห็นผล
ผักบุ้งปลูกไม่ถึงเดือนก็เก็บกินได้
มะละกอใช้เวลา 5-6 เดือน ส่วนทุเรียนต้องใช้เวลา 5-6 ปี
จึงกล่าวว่า ไม่มีผลกรรมใดที่ไม่ตอบสนอง!

ความดีที่ทำไม่เคยหายไปไหน ความชั่วที่ทำก็เช่นกัน!
ความดีความชั่วเหมือนเงาตามตัว แต่สำหรับบางคนทำไมยังไม่ส่งผล? เพราะเขายังอยู่ในร่ม เมื่อใดที่ออกจากร่ม เมื่อนั้นเห็นเงา! เมื่อนั้นคืนสนอง!

.....
นุสนธิ์บุคส์
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5962
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ ส.ค. 05, 2020 3:58 pm

............... "ความหมายในความทุกข์ "...............

มีจิตแพทย์หญิงคนหนึ่ง วันหนึ่ง มีสุภาพบุรุษคนหนึ่งมาพบเธอ อันที่จริงเป็นเพื่อน ๆ ของเขา ที่พาเขามาพบเธอ

ชายคนนั้น มีความเศร้าอย่างมาก ตาของเขาดูไม่มีชีวิตชีวา ศีรษะของเขาก้มตาลง เขาแทบจะไม่พูดอะไรเลย

ความเศร้าเหมือนกลุ่มควัน ที่รายล้อมรอบตัวเขา เพื่อนที่พาเขามา บอกกับจิตแพทย์ว่า

ตั้งแต่ภรรยาของเขาเสียชีวิต ชายคนนี้ ก็มีอาการตามที่จิตแพทย์ได้เห็น ในตอนแรก พวกเขาคิดว่า

เวลาจะช่วยรักษาความเจ็บปวด ในหัวใจของเขา แต่โชคร้าย ยิ่งเวลาผ่านไป เขายิ่งมีความโศกเศร้ามากกว่าเดิม

จิตแพทย์เริ่มคุยกับเขา
“ ฉันแน่ใจว่า คุณและภรรยาของคุณ คงจะเป็นคู่รักที่วิเศษ

แน่นอน คุณรู้สึกถึงการขาดหายไป ของบุคคลที่คุณรัก เธอต้องเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวของคุณ "

มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ซึ่งแสดงออกทางสีหน้าของชายคนนั้น ดูเหมือนว่า เขามีความกังวลที่จะพูด

" ใช่ครับคุณหมอ ภรรยาของผม เป็นผู้หญิงที่น่ารัก ภรรยาเพียงคนเดียว และเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม "

จิตแพทย์ถามต่อไปว่า
“ คุณแต่งงานมานานแล้วหรือยัง ”

“ ไม่ครับ ผมพบภรรยาของผมช้าเกินไป เวลาที่เราใช้ชีวิตด้วยกัน เป็นเวลาสั้น ๆ 2 ปีสุดท้ายในชีวิตของเรา เต็มไปด้วยความเจ็บปวด

เมื่อเธอเป็นมะเร็ง ตั้งแต่เธอเริ่มเป็นมะเร็ง จนถึงวันสุดท้ายในชีวิตของเธอ ผมเฝ้าดูแลเธอ อาบน้ำ ทำความสะอาดให้เธอ

แต่ผมก็รู้สึกมีความสุข เมื่อได้อยู่กับเธอ ที่ได้มีประสบการณ์ถึงความรัก ที่เธอมีต่อผม

แต่เดี๋ยวนี้เธอจากไปแล้ว ชีวิตของผมไม่มีความหมายอีกต่อไป “

" ภรรยาของคุณ เป็นคนที่น่าทึ่งจริงๆ แต่เธอปรารถนาอะไรสำหรับคุณ เมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ "

คุณหมอถาม
เขาตอบว่า

" คุณหมอครับ เธอปรารถนาให้ผมมีความสุขที่สุดในโลก เธอทําทุกอย่าง เท่าที่เธอทำได้ เพื่อจะทำให้ผมมีความสุข "

คุณหมอกล่าวต่อไปว่า
“ ภรรยาของคุณ แม้เธอจะเสียชีวิตไปแล้ว ก็คงไม่อยากให้คุณเสียใจ หรือเป็นทุกข์อย่างแน่นอน

ถ้าความปรารถนาของเธอ คือ ต้องการให้คุณมีความสุข และมีชีวิตชีวา ทำไม คุณไม่ลองทำตามความปรารถนาของเธอ เพื่อทำให้เธอมีความสุข

สมมุติว่า เธอกลับมา และเห็นคุณโศกเศร้าเช่นนี้ เธอจะรู้สึกอย่างไร เพื่อทำให้เธอมีความสุขอย่างแท้จริง คุณต้องทำตัวของคุณ ให้มีความสุข และมีชีวิตชีวา ”

ชายคนนั้น เริ่มยิ้ม และกล่าวว่า

“ คุณหมอครับ ผมไม่เคยคิดกับชีวิตของผมอย่างนี้เลย คุณหมอได้ให้ทัศนคติใหม่ แก่ผมในการดำเนินชีวิต ”

เขาหัวเราะเป็นครั้งแรก หลังจากที่ภรรยาของเขาเสียชีวิต พร้อมกับกล่าวว่า

“ ใช่ ผมต้องดำเนินชีวิต ตามความปรารถนาของภรรยาของผม ”

เขาจากคุณหมอไป พร้อมกับรอยยิ้ม ทำให้คุณหมอ พลอยมีความสุขไปด้วย และหลังจากนั้น เขาได้แผ่ขยายความสุข ไปยังทุกที่ ที่เขาไป เขาได้พบความหมายในชีวิตของเขา


(ribbon heart) ชวนคิดสะกิดใจ (ribbon heart)

“ สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งเห็นโคลนตม คนหนึ่งตาแหลมคม เห็นดวงดาวอยู่พราวพราย ” (เฟรเดริก แลงบริดจ์)

การมอง หรือตีความสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตของเรา ทำให้เรามีความสุขมากขึ้นหรือไม่

(candlestick)ดุจตะเกียงที่ส่องทาง(candlestick)

บาทหลวงเชษฐา ไชยเดช
ตอบกลับโพส