“แมว ฮีโร่”

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ส.ค. 21, 2020 11:24 pm

.....เพื่อนในไลน์แบ่งปันมา
เมื่อชายชราคนหนึ่งล้มขยับตัวไม่ได้กว่า 16 ชั่วโมง
ความหวังสุดท้ายจึงไปตกอยู่กับแมวที่เขาเลี้ยงไว้

—————————————————————

รอน วิลเลียม ทหารผ่านศึกวัย 84 ปี ชาวอเมริกัน
รับเลี้ยงแมวเพศผู้ตัวหนึ่งมาจากเพื่อนของเขา
และตั้งชื่อมันว่า ฟลัฟฟี่

รอนอาศัยอยู่ในบ้านคนเดียวมาตลอด
เขาคิดว่าการเลี้ยงสัตว์จะช่วยให้เขาไม่เหงา และทำให้สภาพจิตใจดีขึ้น
จึงได้ตัดสินใจเอาฟลัฟฟี่เข้ามาเป็นครอบครัว

ด้วยวัยที่เริ่มจะช่วยตนเองได้น้อยลง
รอนจึงได้ซื้อสายรัดข้อมือซึ่งติดตั้งอุปกรณ์ฉุกเฉิน
สำหรับเรียกรถพยาบาลในเวลาที่เขาบาดเจ็บ

แต่อุบัติเหตุมักมาในเวลาที่เราไม่คาดคิด
เช้าวันหนึ่งรอนได้ถอดอุปกรณ์นี้ไปชาร์จไฟเนื่องจากแบตเตอรี่ใกล้หมด และเขาได้เข้าไปอาบน้ำ

รอนอาบน้ำเรียบร้อย กำลังก้าวออกจากห้องน้ำ
เท้าของเขาลื่นเข้ากับพื้นที่เปียกน้ำ
ตัวของรอนหงายหลังฟาดกับพื้นอย่างรุนแรง

ด้วยวัยขนาดนี้
การล้มอย่างรุนแรงมันทำให้ร่างกายของเขาบาดเจ็บยิ่งกว่าวัยปกติหลายเท่าตัว

รอนไม่สามารถขยับตัวได้เลย
และแขนข้างหนึ่งของเขาก็กระแทกกับพื้นจนผิดรูป
และถูกตัวทับจนยกไม่ขึ้น

เป็นเวลาตั้งแต่แปดโมงเช้า จนถึงเที่ยงคืน
ที่รอนนอนอยู่ในสภาพนี้

รอนหมดหวังกับชีวิต
และเสียใจที่จะต้องมาเสียชีวิตด้วยสภาพแบบนี้

ระหว่างที่เขากำลังร้องไห้อย่างสิ้นหวัง
ขนปุยนุ่มของสัตว์ชนิดหนึ่ง
ก็เข้ามาถูเข้ากับที่หน้าของเขา

“ฟลัฟฟี่!!”
รอนเรียกแมวของเขา
สิ่งมีชีวิตอีกหนึ่งเดียวที่อยู่ในบ้านนั้น

ทันใดนั้นรอนก็นึกอะไรออก
ใช่แล้ว เขาเอาโทรศัพท์มือถือวางไว้บนโต๊ะ

“ฟลัฟฟี่ ริงอะดิง”

“ริงอะดิง ฟลัฟฟี่”

ริงอะดิง (Ring a ding)
เป็นคำเรียกโทรศัพท์มือถือที่รอนใช้กับฟลัฟฟี่
เขาจะบอกฟลัฟฟี่เสมอว่า ริงอะดิง ทุกครั้งที่มีเสียงเรียกเข้า

แต่เขาไม่เคยใช้ฟลัฟฟี่เอาโทรศัพท์มาให้เขามาก่อนเลยในชีวิต

“ริงอะดิง ฟลัฟฟี่...ได้โปรด”
“นายเป็นเพียงความหวังเดียวของฉัน”
รอนผู้หมดหวังบอกกับฟลัฟฟี่

ฟลัฟฟี่ยืนอยู่สักพัก มันก็หายไปในความมืด

“มันคงเป็นไปไม่ได้ ฟลัฟฟี่จะเข้าใจได้อย่างไร”
รอนตัดพ้อ เขาหมดหวังกับชีวิต

และทันใดนั้นเอง

“ตุ๊บ!!!!”

เสียงโทรศัพท์มือถือ หล่นลงมาที่มือของรอน

“ฟลัฟฟี่!!” รอนตะโกนร้องไห้โฮ
เขาไม่คิดว่าในชีวิตนี้ฮีโร่ผู้ช่วยชีวิตเขาไว้จะเป็นแมว

รอนกดโทรศัพท์เรียก911
และรถพยาบาลก็มารับเขาไปรักษาอย่างปลอดภัย

“ตอนนั้นผมรู้สึกโล่งใจประมาณล้านครั้งได้
ถ้าไม่มีเขาผมคงตายไปแล้วในวันนี้”
รอนอธิบายความรู้สึกในตอนนั้น

“เขาคือฮีโร่ของผม และเขาจะเป็นตลอดไป
เราจะไม่มีวันจากกันจนกว่าผมจะตาย”
:s021: :s021:
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ เสาร์ ธ.ค. 05, 2020 2:46 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. ส.ค. 27, 2020 5:36 pm

“ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ที่พูดได้นั่นไม่จริง”

หนุ่มร่างกำยำผู้หนึ่ง จูงสุนัขเชื้อสายพันธุ์ธิเบตบริสุทธิ์ ราคาเป็น
ล้านออกมาเดินเล่น เจอะเจอผู้คนก็จะโอ้อวด สุนัขของตนดีอย่าง
ไรอย่างไร คนที่ไม่มีพละกำลังจริงๆ ไม่สามารถต้านแรงฉุดกระชาก
ของมันได้

ยามนี้..เห็นริมถนนมีชายชราศีรษะล้านผู้หนึ่ง ข้างกายมีสุนัขเฒ่า
นั่งอยู่ตัวหนึ่ง ขนของมันหลุดร่วงแทบจะหมดแล้ว

สุนัขพันธุ์ธิเบต เห่าหอนใส่สุนัขเฒ่าไม่หยุด แต่สุนัขเฒ่ากลับไม่
สนใจใยดีสุนัขพันธุ์ธิเบตแม้แต่น้อยนิด

ชายหนุ่มเกิดอาการไม่พอใจขึ้นมา พูดว่า
""ตาเฒ่า สุนัขของคุณตัวใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มเป็นสุนัขพันธุ์อะไรล่ะ เรานำ
มันมาสู้กันสักตั้งดีไม๊ ? หากสุนัขของคุณแพ้ จ่ายให้ผม 500 หากสุนัข
พันธุ์ธิเบตของผมแพ้ ผมจ่ายให้2000 ""

ชายชราพูดว่า "" ผมกำลังทุกข์ใจ ค่าอาหารเดือนหน้าของเพื่อนซี้เก่า
แก่อยู่พอดี จะพนันก็ต้องพนันกันเยอะหน่อย หากสุนัขของผมแพ้ ผม
จ่ายห้าหมื่น คุณแพ้จ่ายให้ผม
สามหมื่น ""

ชายหนุ่มอารมณ์เดือดขึ้นมาทันที "" สุนัขของผมเป็นเชื้อสายพันธุ์ธิเบต
บริสุทธิ์ อย่าหาว่าผมไม่บอก ตกลงผมรับคำท้า ""

สุนัขทั้งสองตัว ต่อสู้กันไม่ถึงสองนาที สุนัขพันธุ์ธิเบตก็พ่ายแพ้ ไม่
กล้าที่จะเห่าหอนอีก

ชายหนุ่มยื่นเงินให้สามหมื่น ท่าทางซึมเศร้าอย่างยิ่ง ถามว่า "" ท่านผู้เฒ่า
สุนัขของท่านมันเป็นสุนัขอะไร ทำไมถึงได้ดุร้ายเช่นนี้ ""

ชายชรานับเงินไปพร้อมๆ กับตอบว่า..
""ผมก็ไม่รู้ว่าตอนนี้มันเป็นสุนัขอะไร ก่อนที่ขนมันยังไม่หลุดร่วง เรียกว่า ""สิงโต""
ชายหนุ่มได้ยินเช่นนั้น ร้องไห้ก็ไม่ได้ หัวร่อก็ไม่ออก

* ไม่ว่า..เวลาใด ก็อย่าได้โอ้อวด รักษาการถ่อมตน ถ่อมตน และ ถ่อมตน *

#คุณโอ้อวดอะไรนั่นหมายถึงคุณขาดสิ่งๆนั้น
ผู้ที่มีความสามารถที่แท้จริง
ล้วนอยู่ในสภาวะที่สงบนิ่ง ก็เหมือนดั่งชายชราผู้นั้นกับ""สุนัขเฒ่า"" ตัวนั้น
ซึ่งคงอยู่ในสภาพที่
สบายสบาย

* คุณเป็นราชสีห์แล้ว ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ ไม่จำเป็นต้องโอ้อวด *

ชีวิตของคนเรา มองต่ำ เราก็เหลือ มองเหนือ เราก็ขาด
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ม.ค. 04, 2021 9:44 pm

....บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพ.....
ในคืนงานสังสรรค์วันขึ้นปีใหม่ของทุกๆปี ว่าจะมีการ"จับฉลาก"กฎของการจับฉลากคือ พนักงานแต่ละคนจะมอบเงินคนละ 200 บาท...เป็นกองทุนของบริษัท
............
ในบริษัทมีพนักงานทั้งสื้น 300 คน ดังนั้น จะต้องได้เงินกองทุนรวม 60,000 บาท สำหรับผู้ที่โชคดีที่ถูกจับฉลากขึ้นมา ก็จะได้เงินจำนวนนี้ทั้งหมดกลับบ้านในวันงาน...
.............
บรรยากาศในสำนักงานครึกครื้นมาก พนักงานแต่ละคนต่างก็เขียนชื่อลงในใบฉลาก แล้วใส่ลงไปในกล่องสำหรับจับฉลากขณะกำลังจะเขียนชื่อตัวเองลงไปในฉลาก
............
พนักงานหนุ่มคนหนึ่ง เกิดลังเลคิดถึงแม่บ้านทำความสะอาดของบริษัทที่ลูกชายป่วย และกำลังรอผ่าตัดอยู่แต่เธอไม่มีเงินพอที่จะจ่ายค่าดูแลรักษาลูกชายเธอได้ ทำให้เธอกลุ้มใจมาก แม้ว่าโอกาสที่จะถูกจับฉลากได้จะเลือนลางเพียงหนึ่งในสามร้อยเท่านั้น
...........
แต่พนักงานหนุ่มคนนั้นก็ตัดสินใจเขียนชื่อของแม่บ้านทำความสะอาดคนนั้นลงไปในใบฉลากของเขา!!
...........
และแล้วช่วงเวลาที่ตื่นเต้นก็มาถึงผู้จัดการจะเป็นผู้จับฉลากขึ้นมาเองพนักงานหนุ่มอธิษฐานในใจว่า...ขอให้แม่บ้านทำความสะอาดคนนั้นได้รางวัลด้วยเถอะ
.............
ในที่สุด...ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นจริงผู้ที่ถูกจับฉลากได้ก็คือ..."แม่บ้านทำความสะอาด"เสียงโห่ร้องแสดงความยินดีดังทั่วสำนักงาน แม่บ้านทำความสะอาดได้ขึ้นไปรับเงินกองทุน เธอดีใจมากถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่กล่าวด้วยความซาบซึ้งใจ
"ฉันโชคดีจริงๆ เงินก้อนนี้คงช่วยบรรเทาความเดือนร้อนของฉันและลูกชายได้อย่างมากเลยค่ะ"
.............
เมื่องานเลี้ยงเลิกรา พนักงานหนุ่มคนนั้นยังคงคิดถึงเรื่อง“ปาฏิหาริย์"ที่เกิดขึ้นอยู่อีก จึงได้เดินไปที่กล่องจับฉลาก เขาลองหยิบใบฉลากในกล่องขึ้นมาใบหนึ่ง เมื่อเปิดดูฉลากก็เห็นชื่อของแม่บ้านทำความสะอาดคนนั้น!!
............
เขาชักประหลาดใจ เลยหยิบฉลากขึ้นมาเปิดดูอีกหลายใบ บนฉลากทุกใบล้วนเขียนชื่อของแม่บ้าน เหมือนกันหมดด้วยลายมือที่ต่างกันไป?
...........
พนักงานหนุ่มถึงกับน้ำตาซึม เขาเข้าใจได้ทันทีเลยว่า...
......
ในโลกนี้มี.....
"ปาฏิหาริย์" จริงเพียงแต่ว่าปาฏิหาริย์นั้นไม่ได้หล่นลงมาจากฟากฟ้า แต่เป็นมนุษย์เรานี่เองที่เป็นผู้สร้างมันขึ้นมาเราต้องรู้จักรักเพื่อนร่วมงานเห็นใจซึ่งกันและกัน สังคมจะเป็นสุข แล้วเราก็จะสุขด้วย
ตอบกลับโพส