“ ครูที่มีจิตสำนึกที่ดีมีอยู่ทั่วทุกมุมโลก ”

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. ส.ค. 27, 2020 2:51 pm

นิทานเรื่องนี้ผมเอามาจาก เรื่องเล่า จากรายการทีวีของอาหรับ

ในงานแต่งงานงานหนึ่ง
ชายหนุ่มดูภูมิฐาน
มาร่วมงานแต่งงาน
ของเพื่อนร่วมชั้นเรียนประถม
ของเขาในขณะที่งานเลี้ยง
กำลังสนุกสนานและพูดคุยกัน
ระหว่างเพื่อนฝูง
สายตาของชายหนุ่มคนนั้น
ก็ได้เห็นชายแก่คนหนึ่ง
หัวใจของเขาก็เริ่มเต้นแรงขึ้น
และเหงื่อของเขาเริ่มออก
จากฝ่ามือของเขา
แล้วชายหนุ่มคนนั้น
ก็รวบรวมความกล้า
เดินเขาไปหาชายแก่คนนั้น
ใช่ชายคนนั้น
คือครูของเขาเมื่อ 30 ปีก่อน
ชายหนุ่ม: ครูครับจำผมได้ไหมครับ
ชายแก่: ขอโทษนะพ่อหนุ่มผมจำไม่ได้จริงๆ
ชายหนุ่ม:ครูครับ
ทำไมครูถึงจำผมไม่ได้ครับ
ผมคือลูกศิษย์ครู
ที่เคยขโมยนาฬิกา
เพื่อนในห้อง ซึ่งในวันนั้น
เพื่อนได้ไปฟ้องครูว่า
นาฬิกาของเขาหายและครู
ก็ได้ให้พวกเราออกไปยืน
อยู่หน้าห้อง หันหน้าเข้ากำแพง
ให้พวกเราทั้งหมดหลับตา
และครูก็เริ่มค้นกระเป๋า
ของพวกเราทีละคนทีละคน
จนกระทั่ง ครูได้นำนาฬิกา
ที่อยู่ในกระเป๋าของผมออกมา
และครูเอง ก็ได้นำนาฬิกานี้
คืนให้กับเจ้าของนาฬิกาไป
โดยที่ครู ไม่ได้บอก ว่า
ผมเป็นคนขโมยไป ซึ่งตัวผมเอง
ในขณะที่ครูค้นนั้น
ใจของผมคิดอยู่ตลอดเวลาว่า
ผมเองจะมองหน้า
เพื่อนๆในห้องอย่างไร
ผมคงต้องอับอายและไม่สามารถที่จะ
อยู่ในโรงเรียนต่อไปได้
แต่ทว่า ครูไม่เคยเรียกผมไปด่าว่า
และไม่เคยนำเรื่องของผมไปบอก
ให้ใครฟังเลย
และนับตั้งแต่วันนั้น
ผมเอง ก็ไม่กล้าที่จะไปขโมยของใคร
ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งเล็กน้อยก็ตาม
ชายแก่ : ออพ่อหนุ่มทำไมฉันถึงจะจำไม่ได้หล่ะ
เพราะในวันนั้น
นอกจากที่ฉันจะให้พวกเธอหลับตากันทั้งหมด ตัวของครูเอง ในขณะที่ค้นอยู่ ครูก็หลับตาของครูด้วย เพื่อที่ครูเอง
จะได้ไม่มีจิตใจที่จะเกลียดชัง
คนที่ขโมยนาฬิกาไปในวันนั้น
ซึ่งเป็นลูกศิษย์คนหนึ่งของครู
ครูคิดว่า สิ่งที่เธอทำในวันนั้น
เธอจะได้รับบทเรียนของเธอ
ซึ่งในวันนี้มันก็ได้พิสูจน์แล้วว่า
ในวันนั้นที่ครูทำเช่นนี้ มันเป็นการให้
บทเรียนที่ดีสำหรับเธอแล้ว
และในวันนั้นครูก็ไม่จำเป็น
ที่จะต้องให้เธอได้รับความอับอายเสียหาย
และครูก็ไม่เห็นประโยชน์อันใด
ในการที่จะต้อง ป่าวประกาศและสืบหา
คนที่ขโมย เพราะตัวของพวกเธอเอง
คือเด็กที่ไร้เดียงสา ยังไม่มีความรู้
การกระทำของครูในวันนั้น มันจึงเป็นประสบการณ์ ที่ตัวเธอเอง
ได้รับมันด้วยกับตัวเอง


นิทานเรื่องนี้​ สอนให้รู้ว่า... ครูที่มีจิตสำนึกดีๆยังมีอยู่ทุกมุมโลก..


เราขอเป็นกำลังใจให้ครูดีทุกท่าน.. อย่าหวั่นไหว..


จงเป็นเรือ..ยอร์จ..ลำงามที่นำพาเด็กน้อยข้ามมหาสมุทรให้

ตลอดปลอดภัย..ด้วยเทอญ..
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ก.ย. 01, 2020 2:01 pm

มนุษย์เราเป็นผู้สร้างความสุขขึ้นมา เราต้องรู้จักรัก
เห็นใจซึ่งกันและกัน สังคมจะเป็นสุข แล้วเราก็จะสุขด้วย

บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ..... ในคืนงานสังสรรค์วันขึ้นปีใหม่ของทุกๆปี ว่าจะมีการ"จับฉลาก"กฎของการจับฉลากคือ พนักงานแต่ละคนจะมอบเงินคนละ 200 บาท...เป็นกองทุนของบริษัท
............
ในบริษัทมีพนักงานทั้งสื้น 300 คน ดังนั้น จะต้องได้เงินกองทุนรวม 60,000 บาท สำหรับผู้ที่โชคดีที่ถูกจับฉลากขึ้นมา ก็จะได้เงินจำนวนนี้ทั้งหมดกลับบ้านในวันงาน...
.............
บรรยากาศในสำนักงานครึกครื้นมาก พนักงานแต่ละคนต่างก็เขียนชื่อลงในใบฉลาก แล้วใส่ลงไปในกล่องสำหรับจับฉลากขณะกำลังจะเขียนชื่อตัวเองลงไปในฉลาก
............
พนักงานหนุ่มคนหนึ่ง เกิดลังเลคิดถึงแม่บ้านทำความสะอาดของบริษัทที่ลูกชายป่วย และกำลังรอผ่าตัดอยู่แต่เธอไม่มีเงินพอที่จะจ่ายค่าดูแลรักษาลูกชายเธอได้ ทำให้เธอกลุ้มใจมาก แม้ว่าโอกาสที่จะถูกจับฉลากได้จะเลือนลางเพียงหนึ่งในสามร้อยเท่านั้น
...........
แต่พนักงานหนุ่มคนนั้นก็ตัดสินใจเขียนชื่อของแม่บ้านทำความสะอาดคนนั้นลงไปในใบฉลากของเขา!!
...........
และแล้วช่วงเวลาที่ตื่นเต้นก็มาถึงผู้จัดการจะเป็นผู้จับฉลากขึ้นมาเองพนักงานหนุ่มอธิษฐานในใจว่า...ขอให้แม่บ้านทำความสะอาดคนนั้นได้รางวัลด้วยเถอะ
.............
ในที่สุด...ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นจริงผู้ที่ถูกจับฉลากได้ก็คือ..."แม่บ้านทำความสะอาด"เสียงโห่ร้องแสดงความยินดีดังทั่วสำนักงาน แม่บ้านทำความสะอาดได้ขึ้นไปรับเงินกองทุน เธอดีใจมากถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่กล่าวด้วยความซาบซึ้งใจ
"ฉันโชคดีจริงๆ เงินก้อนนี้คงช่วยบรรเทาความเดือนร้อนของฉันและลูกชายได้อย่างมากเลยค่ะ"
.............
เมื่องานเลี้ยงเลิกรา พนักงานหนุ่มคนนั้นยังคงคิดถึงเรื่อง“ปาฏิหาริย์"ที่เกิดขึ้นอยู่อีก จึงได้เดินไปที่กล่องจับฉลาก เขาลองหยิบใบฉลากในกล่องขึ้นมาใบหนึ่ง เมื่อเปิดดูฉลากก็เห็นชื่อของแม่บ้านทำความสะอาดคนนั้น!!
............
เขาชักประหลาดใจ เลยหยิบฉลากขึ้นมาเปิดดูอีกหลายใบ บนฉลากทุกใบล้วนเขียนชื่อของแม่บ้าน เหมือนกันหมดด้วยลายมือที่ต่างกันไป?
...........
พนักงานหนุ่มถึงกับน้ำตาซึม เขาเข้าใจได้ทันทีเลยว่า...
......
ในโลกนี้มี.....
"ปาฏิหาริย์" จริง เพียงแต่ว่าปาฏิหาริย์นั้นไม่ได้หล่นลงมาจากฟากฟ้า แต่เป็นมนุษย์เรานี่เองที่เป็นผู้สร้างมันขึ้นมาเราต้องรู้จักรักเพื่อนร่วมงานเห็นใจซึ่งกันและกัน สังคมจะเป็นสุข แล้วเราก็จะสุขด้วย

CR : Mongholrata Sukhasvasdi
ตอบกลับโพส