การสวดสายประคำของลูกชาย
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 03, 2020 6:58 pm
.....การสวดสายประคำของลูกชาย.....
เรื่องจริงเล่าโดย June A. Klins เมือง Erie รัฐเพ็นซิลเวเนีย จากหนังสือ 101 Inspirational Stories of the Rosary” เรื่อง “Brian’s Rosary””
ตอนที่ (1): วันนั้นตรงกับวันที่ 8 กันยายน ที่วัดของเราฉลองแม่พระบังเกิด ทันทีที่ดิฉันกลับถึงบ้านหลังจากไปเข้าเงียบนอกเมืองมา ทอม สามีโทรศัพท์มาบอกให้ฉันรีบไปพบเขาที่โรงพยาบาลโดยด่วน เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุกับไบร์นลูกชายของเราที่ถูกปืนยิงที่ขา เป็นแผลฉกรรจ์และเส้นเลือดแดงที่ขาถูกตัดขาด
ตอนที่มีคนนำไบร์นส่งเข้าโรงพยาบาล ทอมก็อยู่ที่นั่นด้วย เขาเล่าว่าสภาพของไบร์นเหมือนกับทหารถูกยิงจากสงครามเวียดนาม จากนั้นทอมก็ส่งซองจดหมายให้ดิฉันและบอกว่า “นี่คือสายประคำของไบร์นที่เปื้อนโคลนไปทั่ว แต่ลูกบอกว่าให้เก็บเอาไว้ตามสภาพที่เป็นอยู่”
ดิฉันรีบเข้าไปในวัดน้อยของโรงพยาบาล คุกเข่าต่อหน้าตู้ศีลและสวดสายประคำอย่างต่อเนื่องจนคิดว่าน่าจะถึงเวลาที่เขา นำไบร์นออกจากห้องผ่าตัดแล้ว และเมื่อถึงเวลาที่เราพบหน้าลูกชาย ดิฉันแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง เพราะจากที่ได้ฟังทอมเล่ามานั้น ไบร์นน่าจะอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่กว่าที่ดิฉันเห็นเขาในขณะนี้มาก ไบร์นกำลังนั่งอยู่บนเตียงพูดจาหยอกล้อกับนางพยาบาล และยังขอดูวีดีโอภาพยนตร์เรื่อง Young Guns อีกด้วย
ระหว่างการพักรักษาในโรงพยาบาลในวันต่อ ๆ มา ไบร์นได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ตอนเช้าวันที่ 8 กันยายน เขารู้สึกสังหรณ์ใจว่าจะมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นกับเขาในวันนั้น แต่เช้าวันนั้นอากาศดีมาก เขาจึงตัดสินใจไปเดินเล่นในป่าที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก แต่เมื่อเดินลึกเข้าไปในป่า เขารู้สึกว่ามีสิ่งกระตุ้นให้เขากลับบ้าน และเอาสายประคำที่ติดตัวไปด้วย เป็นสายประคำที่ทำด้วยไม้ที่เขาได้มาจากการไปแสวงบุญ ที่เมดจูกอร์เจฤดูร้อนปีที่แล้ว
เมื่อเขากลับเข้าไปในป่าอีกครั้งหนึ่ง เขาก็ใช้ปืนยิงเป้าเล่นได้สักครู่ แต่ขณะที่กำลังนำปืนกลับใส่ซองนั้น เกิดอุบัติเหตุปืนลั่น กระสุนเข้าที่สะโพกขวาตอนบนทำให้เขาหมดสติไป เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้งหนึ่งก็ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือโดยไร้ผล และไม่สามารถเดินได้ เขาพยายามกระโดดไปข้างหน้าด้วยขาซ้ายข้างเดียว แต่ก็ทำซ้ำอีกไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่กระโดด เขาก็จะล้มลง เขาจึงเปลี่ยนเป็นใช้ท้องคลานไปข้างหน้าขณะที่เลือดยังคงไหลออกจากบาดแผลจนกางเกงยีนส์ชุ่มไปด้วยเลือดและมีน้ำหนักมากขึ้นเนื่องจากกางเกงดูดซับน้ำโคลน ไว้ด้วย หลังจากนั้นเขาถอดเสื้อเชิ้ตออกเพื่อใช้มัดรอบขาห้ามเลือดแต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะสะโพกบวมมาก เขารู้สึกกระหายน้ำมากและคลานไปที่แอ่งน้ำ เขาใช้ปากจุ่มลงไปใต้ผิวน้ำเพื่อดื่ม เพราะผิวน้ำตอนบนมีคราบน้ำมันที่เกิดจากรถ ATV (รถวิบาก) ที่ขับผ่านทำให้ถนนเป็นแอ่งน้ำอยู่ทั่วไป
ไม่นานต่อมา หูของเขาเริ่มอื้อได้ยินเสียงบ้างไม่ได้ยินบ้างและหายใจติดขัด แต่ก็ต้องพยายามคลานต่อไปตามแอ่งน้ำต่าง ๆ ขณะเดียวกันก็ยังคงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ แต่ดูเหมือนว่าในวันนั้นจะไม่มีใครอยู่ในบริเวณนั้นเลย จนเวลาผ่านไปเกือบ 3 ชั่วโมง ที่สุดเขาถอดกางเกงยีนส์ที่หนักเพราะเลือดและโคลน ทิ้งโดยเอาสายประคำไม้ในกระเป๋ากางเกงออกมาพันไว้กับมือซ้ายและคลานต่อไป เมื่อไปไม่ไหวก็หยุดพักนอนหงายกับพื้นดินและสวดสายประคำ เขาเล่าว่าตลอดเวลาตั้งแต่เกิดเหตุนั้นเขารู้สึกโกรธมาก จนเมื่อเริ่มสวดสายประคำจึงรู้สึกผ่อนคลายและเริ่มคิดว่า เขาอาจไม่สามารถออกไปจากป่านี้ได้เลย โปรดติดตาม(2)
เรื่องจริงเล่าโดย June A. Klins เมือง Erie รัฐเพ็นซิลเวเนีย จากหนังสือ 101 Inspirational Stories of the Rosary” เรื่อง “Brian’s Rosary””
ตอนที่ (1): วันนั้นตรงกับวันที่ 8 กันยายน ที่วัดของเราฉลองแม่พระบังเกิด ทันทีที่ดิฉันกลับถึงบ้านหลังจากไปเข้าเงียบนอกเมืองมา ทอม สามีโทรศัพท์มาบอกให้ฉันรีบไปพบเขาที่โรงพยาบาลโดยด่วน เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุกับไบร์นลูกชายของเราที่ถูกปืนยิงที่ขา เป็นแผลฉกรรจ์และเส้นเลือดแดงที่ขาถูกตัดขาด
ตอนที่มีคนนำไบร์นส่งเข้าโรงพยาบาล ทอมก็อยู่ที่นั่นด้วย เขาเล่าว่าสภาพของไบร์นเหมือนกับทหารถูกยิงจากสงครามเวียดนาม จากนั้นทอมก็ส่งซองจดหมายให้ดิฉันและบอกว่า “นี่คือสายประคำของไบร์นที่เปื้อนโคลนไปทั่ว แต่ลูกบอกว่าให้เก็บเอาไว้ตามสภาพที่เป็นอยู่”
ดิฉันรีบเข้าไปในวัดน้อยของโรงพยาบาล คุกเข่าต่อหน้าตู้ศีลและสวดสายประคำอย่างต่อเนื่องจนคิดว่าน่าจะถึงเวลาที่เขา นำไบร์นออกจากห้องผ่าตัดแล้ว และเมื่อถึงเวลาที่เราพบหน้าลูกชาย ดิฉันแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง เพราะจากที่ได้ฟังทอมเล่ามานั้น ไบร์นน่าจะอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่กว่าที่ดิฉันเห็นเขาในขณะนี้มาก ไบร์นกำลังนั่งอยู่บนเตียงพูดจาหยอกล้อกับนางพยาบาล และยังขอดูวีดีโอภาพยนตร์เรื่อง Young Guns อีกด้วย
ระหว่างการพักรักษาในโรงพยาบาลในวันต่อ ๆ มา ไบร์นได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ตอนเช้าวันที่ 8 กันยายน เขารู้สึกสังหรณ์ใจว่าจะมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นกับเขาในวันนั้น แต่เช้าวันนั้นอากาศดีมาก เขาจึงตัดสินใจไปเดินเล่นในป่าที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก แต่เมื่อเดินลึกเข้าไปในป่า เขารู้สึกว่ามีสิ่งกระตุ้นให้เขากลับบ้าน และเอาสายประคำที่ติดตัวไปด้วย เป็นสายประคำที่ทำด้วยไม้ที่เขาได้มาจากการไปแสวงบุญ ที่เมดจูกอร์เจฤดูร้อนปีที่แล้ว
เมื่อเขากลับเข้าไปในป่าอีกครั้งหนึ่ง เขาก็ใช้ปืนยิงเป้าเล่นได้สักครู่ แต่ขณะที่กำลังนำปืนกลับใส่ซองนั้น เกิดอุบัติเหตุปืนลั่น กระสุนเข้าที่สะโพกขวาตอนบนทำให้เขาหมดสติไป เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้งหนึ่งก็ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือโดยไร้ผล และไม่สามารถเดินได้ เขาพยายามกระโดดไปข้างหน้าด้วยขาซ้ายข้างเดียว แต่ก็ทำซ้ำอีกไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่กระโดด เขาก็จะล้มลง เขาจึงเปลี่ยนเป็นใช้ท้องคลานไปข้างหน้าขณะที่เลือดยังคงไหลออกจากบาดแผลจนกางเกงยีนส์ชุ่มไปด้วยเลือดและมีน้ำหนักมากขึ้นเนื่องจากกางเกงดูดซับน้ำโคลน ไว้ด้วย หลังจากนั้นเขาถอดเสื้อเชิ้ตออกเพื่อใช้มัดรอบขาห้ามเลือดแต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะสะโพกบวมมาก เขารู้สึกกระหายน้ำมากและคลานไปที่แอ่งน้ำ เขาใช้ปากจุ่มลงไปใต้ผิวน้ำเพื่อดื่ม เพราะผิวน้ำตอนบนมีคราบน้ำมันที่เกิดจากรถ ATV (รถวิบาก) ที่ขับผ่านทำให้ถนนเป็นแอ่งน้ำอยู่ทั่วไป
ไม่นานต่อมา หูของเขาเริ่มอื้อได้ยินเสียงบ้างไม่ได้ยินบ้างและหายใจติดขัด แต่ก็ต้องพยายามคลานต่อไปตามแอ่งน้ำต่าง ๆ ขณะเดียวกันก็ยังคงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ แต่ดูเหมือนว่าในวันนั้นจะไม่มีใครอยู่ในบริเวณนั้นเลย จนเวลาผ่านไปเกือบ 3 ชั่วโมง ที่สุดเขาถอดกางเกงยีนส์ที่หนักเพราะเลือดและโคลน ทิ้งโดยเอาสายประคำไม้ในกระเป๋ากางเกงออกมาพันไว้กับมือซ้ายและคลานต่อไป เมื่อไปไม่ไหวก็หยุดพักนอนหงายกับพื้นดินและสวดสายประคำ เขาเล่าว่าตลอดเวลาตั้งแต่เกิดเหตุนั้นเขารู้สึกโกรธมาก จนเมื่อเริ่มสวดสายประคำจึงรู้สึกผ่อนคลายและเริ่มคิดว่า เขาอาจไม่สามารถออกไปจากป่านี้ได้เลย โปรดติดตาม(2)