หน้า 1 จากทั้งหมด 1

“อัศจรรย์ที่เกิดกับไบรอัน “

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 23, 2020 9:46 pm
โดย rosa-lee
อัศจรรย์ที่เกิดกับไบรอัน

โดย Brian Boyle

เรื่องจริงที่เกิดกับไบรอัน (Brian Boyle) หนึ่งเดือนหลังจากไบรอัน สำเร็จการศึกษามัธยมปลาย ในปี 2004 ขณะที่ไบรอันกำลังขับรถกลับบ้าน เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง

เมื่อรถบรรทุกชนประสานงาอย่างแรง อวัยวะส่วนกลางลำตัวถูกทำลาย หรือแตกแทบ ทั้งหมด

ไม่ว่าจะเป็นกระดูกซี่โครง กระดูกไหปลาร้า กระดูกเชิงกราน ปอด ไต และตับ หยุดทำงาน

ถูกตัดม้าม และถุงน้ำดี เสียเลือดไป 60 % เส้นประสาทที่หัวไหล่ซ้ายถูกทำลาย และอยู่ในสภาพโคม่า โดยมีเครื่องช่วยชีวิต

เป็นเวลานานกว่า 2 เดือน ในโรงพยาบาล Prince Georges Hospital Center in Cheverly , Maryland

ไบรอันเล่าว่า
“ ผมจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เกี่ยวกับอุบัติเหตุ สิ่งแรกที่จำได้แม่นจนทุกวันนี้ หลังจากได้สติ คือ การนั่งอยู่ในท่อสีขาวขนาดใหญ่มาก

มีเด็กหนุ่มคนหนึ่ง นั่งอยู่ทางด้านซ้าย ส่วนทางขวา มีหนุ่มสาวหลายคน อายุพอ ๆ กับผมนั่งอยู่เช่นกัน ผมไม่ทราบว่า ทำไมจึงอยู่ที่นั่น และเข้าไปอยู่ในนั้นได้อย่างไร

หลังจากนั่งอยู่พักหนึ่ง ผมก็สังเกตว่า เด็กหนุ่มคนที่อยู่ทางซ้ายมีมือถือ และถามผมว่า จะให้เขาช่วยโทรไปหาใครไหม ผมพูดตอบว่า

" ช่วยโทรบอกพ่อแม่ว่าผมรักท่าน "

หลังจากนั้น ผมก็ตื่นขึ้นมาอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล กระดุกกระดิกตัวไม่ได้ มีอุปกรณ์ และท่อสายยางต่าง ๆ อยู่รอบตัว

แล้วผมก็ได้ยินเสียงคุณพ่อ คุณแม่ ร้องสะอึกสะอื้นเป็นช่วง ๆ ผ่านเสียงสัญญาณต่าง ๆ ของอุปกรณ์ จับความได้ว่า

ผมจะรอดชีวิต ทั้ง ๆ ที่ไม่นานก่อนนั้น ผมเชื่อว่า ผมกำลังรออยู่ในแถว เพื่อรับการพิพากษาครั้งสุดท้าย แต่ก็ดูเหมือนยังไม่ถึงเวลาของผม และไม่นานต่อมา ผมก็ฟื้นคืนชีพ และเริ่มรู้สึกเจ็บปวด "

" ก่อนหน้านั้น ในห้องไอซียู หัวใจของผมหยุดเต้นไป 8 ครั้ง และเมื่อออกจากสภาพโคม่าแล้ว ก็ยังพูดหรือสื่อสารใด ๆ ไม่ได้เลย

ผมกลายเป็นคนไม่มีอนาคต เราไม่พูดถึงการที่ผมจะเดินได้อีกครั้งหนึ่ง เพราะผมยังมีบาดแผลสาหัสอยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะกระดูกเชิงกรานที่แตกอยู่

ส่วนเรื่องการว่ายน้ำ ก็เป็นเพียงความฝัน สรุปก็คือ ความฝันในอดีตสลายไป เหมือนกับร่างที่แตกหัก กระนั้นก็ดี ผมยังไม่หมดหวัง เพราะผมทราบว่า พระเป็นเจ้า ทรงมีแผนการสำหรับผม "

ติดตามต่อในตอน 2

Re: “อัศจรรย์ที่เกิดกับไบรอัน “

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 23, 2020 9:48 pm
โดย rosa-lee
อัศจรรย์ที่เกิดกับไบรอัน (ตอน 2)

หลังจากอยู่ในสภาพโคม่า 2 เดือน รับการผ่าตัด 14 ครั้ง ถ่ายเลือด 36 ครั้ง และทำศัลยกรรมพลาสติก 13 ครั้ง
น้ำหนักตัวของผมเหลือเพียง 45 กก.

และต้องไปทำกายภาพบำบัด ที่เมืองบัลติมอร์ เพื่อเรียนรู้วิธีพูด กิน เดิน อาบน้ำฝักบัว และใช้ชีวิตโดยไม่ต้องพึ่งผู้อื่นอีกครั้งหนึ่ง

หลังจากผ่านช่วงกายภาพบำบัด ที่แสนจะทรมานแล้ว ผมยังต้องไปรับการรักษา เป็นผู้ป่วยนอก ที่เมืองวอลดาร์ฟ (Waldorf) รัฐแมรี่แลนด์

หลังจากที่นั่งในรถเข็นอยู่ 2-3 เดือน ผมก็เริ่มหัดเดินเตาะแตะเอง และก็เป็นเหมือนความฝัน เมื่อผมเริ่มเดินได้ 2-3 ก้าว

นอกจากนั้น ผมยังต้องการจะพิสูจน์คำพูดของแพทย์ ที่ว่าผมคงเดินไม่ได้ตลอดชีวิตนั้นผิด เพราะผมไม่เพียงต้องการเดินได้เท่านั้น เเต่ต้องการวิ่ง และว่ายน้ำได้ด้วย

หลังจากผ่านผลการตรวจสอบ การทำงานของปอด 3 ครั้ง ที่สุด แพทย์ก็อนุญาตให้ผมเริ่มลงสระได้บ้าง "

" ความฝันที่เป็นเป้าหมายชีวิตของผม ก่อนเกิดอุบัติเหตุมี 3 อย่าง คือ การได้เรียนในมหาวิทยาลัย การได้อยู่ในทีมนักว่ายน้ำของมหาวิทยาลัย และการเป็นบุรุษเหล็ก “ ไตรกีฬา ”

หลังจากผ่านไป 2-3 เดือน ผมก็เริ่มว่ายน้ำไป-กลับ ในสระได้โดยว่ายคู่ไปกับครูฝึก (Sam Fleming) ผมตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่า ต้องไม่ให้บาดแผลในอดีต ขัดขวางความฝันของผม

และ 6 เดือนต่อมา ผมก็ได้เป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเซนต์แมรี่ รัฐแมรี่แลนด์ และได้เข้าอยู่ในทีมว่ายน้ำ ของมหาวิทยาลัย ”

" สิ่งที่ผมเล่ามานี้ ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย ๆ คือ เมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้ว ทุกสิ่งก็จะกลับเข้าที่ เข้าเอง ได้เอง

ทั้งที่จริง ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย เพราะกว่าที่ผมจะกลับมาเอาชนะอุปสรรค ต่าง ๆ ได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ตั้งแต่ที่โรงพยาบาล ตราบจนทุกวันนี้ ที่ผมยังรู้สึกเจ็บปวดทรมานอยู่ ในตอนแรกที่รู้สึกตัว ผมทำได้เพียงนอนอยู่กับที่บนเตียง จัองมองดูเพดาน และรอวันที่พระสงฆ์

จะมาโปรดศีลเจิม ผมได้แต่คิดไป คิดมาว่า ทำไมจึงเกิดเหตุร้ายกับตัวผม ทั้งที่ผมเป็นเด็กที่อยู่ในโอวาทผู้ใหญ่

สอบได้คะแนนสูง และไปวัดสม่าเสมอ ผมเฝ้าถามตัวเองอยู่หลายวันทีดียวว่า ทำไมพระจึงทรงอนุญาต ให้เกิดเรื่องนี้กับผมได้ ? "

ติดตามต่อในตอน 3

Re: “อัศจรรย์ที่เกิดกับไบรอัน “

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 23, 2020 9:51 pm
โดย rosa-lee
อัศจรรย์ที่เกิดกับไบรอัน (ตอน 3)

" และอยู่ ๆ พระจิตเจ้า คงทรงดลใจ ให้ผมคิดไปอีกรูปแบบหนึ่งว่า ทั้งที่เกิดเหตุร้ายแรงขนาดนี้แล้ว ทำไมผมจึงรอดชีวิตมาได้

และตั้งแต่นั้นมา ผมก็ไม่เคยมีปัญหาอีกเลย เพราะผมทราบแล้วว่า เป้าหมายสุดท้ายของชีวิตของผม คืออะไร แพทย์บอกว่า

ผมยังจะมีอายุอยู่ได้อีก 50 ปี ฉะนั้น ทุกวันที่ยังหายใจได้อยู่ ผมจะต้องใช้ให้เกิด
ประโยชน์มากที่สุด และเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น

โดยเฉพาะผู้ที่หมดหวัง กระตุ้นให้เขาลุกขึ้นสู้ และมีความเชื่อมั่นในพระเป็นเจ้า หลายคนตั้งสมญาให้ผมว่า

” ลาซารัสที่สอง "

เพราะพระเป็นเจ้าทรงมอบชีวิตคืน ให้ผมอีกครั้งหนึ่ง "

" และเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับผู้อื่นยิ่งขึ้น เมื่อ 2 เดือนก่อน (4 ส.ค. 2007) ผมเข้าแข่งขันไตรกีฬา (the steelhead 70.3 half-ironman race : ว่ายน้ำ 1.2 ไมล์ , จักรยาน 56 ไมล์ , วิ่ง 13.1 ไมล์) ที่รัฐมิชิแกน

แม้ว่าจะใช้เวลาถึง 7 ชม. 13 นาที (ผู้ชนะเลิศชาย ทำเวลา 4 ชม. 9 นาที) และได้รับอนุญาตให้เข้าแข่งขัน " มนุษย์เหล็ก " ที่ฮาวาย (the Ford Ironman World Championship , 13 ต.ค. 2007 : เกาะ Kailua , ระยะ 140.6 ไมล์ ผู้ชนะเลิศ : 8 ชม. 15 นาที : Brian : 14 ชม. 42 นาที)
.
สถานีข่าว NBC ถ่ายทำเรื่องของผม และแพร่ภาพทางทีวี ในวันที่ 1 ธ.ค. 2007 โดยเล่าประวัติของผม ตั้งแต่การฟื้นฟูร่างกาย และจิตใจ จนถึงการเข้าร่วมการแข่งขัน

แต่สิ่งที่ผมตั้งใจ ที่จะบอกกับทุกคนในโลก คือ ผมอยากเป็นแรงบันดาลใจ ให้ผู้ที่หมดหวังว่า

จงอย่าท้อถอย ขอให้ใช้เวลาแต่ละวัน อย่างคุ้มค่าที่สุด ในการทำตามความฝัน และอย่าหมดความวางใจในพระเป็นเจ้าเป็นอันขาด

ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ ที่เลวร้ายเพียงใด เพราะทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ล้วนมีเหตุผลที่ดีรองรับ ”

แปลและเรียบเรียงจาก

Inspirationl Stories

โดย กอบกิจ ครุวรรณ