หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เทวดาของคนนอกกฎหมาย

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 04, 2020 7:37 pm
โดย rosa-lee
เทวดาของคนนอกกฎหมาย (ตอนที่ (1)
จากหนังสือรวมเรื่องของคุณพ่อเอียน โดลตัน​ (Fr. Ian Doulton)
บิลลี่เดอะคิด (Billy the Kid or Henry McCarty : 1859-81) เป็นบุคคลในตำนานแดนเถื่อนตะวันตกที่ส่วนใหญ่มักเล่าถึงความโหดเหี้ยมของเขา แต่เรื่องที่จะเล่านี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเขาในอีกแง่มุมหนึ่ง เป็นเรื่องที่พบในบันทึกส่วนตัวของซิสเตอร์บลังดีนา (Sr. Blandina : 1850-1941) คณะภคินีเมตตาธรรม ที่บุกเบิกทำงานในดินแดนตะวันตกในยุคนั้น ซิสเตอร์เขียนบันทึกเรื่องนี้เป็นประโยคสั้น ๆ อย่างตรงไปตรงมาที่เมืองตรีนีแดด รัฐโคโลราโดในปี 1876 ดังนี้
1 มีนาคม : เกิดความโกลาหลขึ้นในเมือง บิลลี่เดอะคิดและกลุ่มสมุนนอกกฎหมายอยู่ในละแวกเมืองใกล้เคียง เมื่อวานนี้สมุนคนหนึ่งเข้ามาสร้างความหวาดกลัวในชุมชนซิเมรอน (Simeron) ที่อยู่ติดกัน
10 มีนาคม : เที่ยงวันนี้ วิลเลี่ยม แอดัมสันเข้ามาที่โรงเรียนด้วยความตื่นเต้น เขาเรียกดิฉันออกไปพบที่สนามหน้าโรงเรียนและบอกว่า
“ลูกน้องคนหนึ่งของบิลลี่เดอะคิด คนที่ก่อเรื่องที่ชุมชนซิเมรอนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกำลังมุ่งตรงมาที่โรงเรียนนี้ ดิฉันพยายามควบคุมพวกเด็กนักเรียนชายไว้แต่ก็ไม่สามารถควบคุมได้”
“ตอนนั้นเจ้าคนนอกกฎหมายคนนั้นก็มาถึงและทมึงตาจ้องมองวิลเลี่ยม แอดัมสันที่ตกใจกลัวจนไม่คิดชีวิต
25 มีนาคม : เจ้าโจรคนนั้นกลับมาอีก ก่อนหน้านั้นใคร ๆ ได้แต่หวังกันว่า มันออกไปที่อื่นไกลแล้ว แต่พวกเราก็ผิดหวัง ขณะเดียวกันวิลเลี่ยม แอดัมสันมีข่าวเพิ่มเติมว่า
“ซิสเตอร์ครับ จำคนนั้นที่อยู่ในแก๊งค์บิลลี่เดอะคิดได้ไหมครับ คนที่เคยยิงคนที่ชุมชนซิเมรอนและขี่ม้ามาที่โรงเรียนวันนั้นไงครับ ตอนนี้มันกลับมาอีกแล้วแต่ครั้งนี้คงไม่ไปที่อื่นอีกแล้ว เพราะมันถูกยิง”
“ดิฉันรู้สึกไม่ดีเลยเมื่อทราบเรื่อง จากนั้นวิลเลี่ยมก็เล่าต่อไปว่า “เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สมุนโจรคนนี้เกิดไปทะเลาะกับเจ้าแจ็คผู้ร่าเริง (Happy Jack) ทั้งสองจ้องมองตากันอยู่ 3 วัน มือขวาของทั้งสองอยู่ในท่าเตรียมยิงตลอดเวลา เป็นเวลา 3 วันที่ทั้งสองนั่งกินข้าวที่โต๊ะเดียวกัน มือขวาอยู่ใกล้ปืนพกและใช้มือซ้ายกินข้าว จนเมื่อสี่วันก่อนต่างคนต่างก็คิดว่าอีกคนหนึ่งไม่ได้ระวังตัว ทั้งสองจึงลั่นไกปืนออกพร้อมกัน เจ้าแจ็คผู้ร่าเริงจบชีวิตลงในหลุม 6x3 ฟุต ส่วนเจ้าคนที่มาที่โรงเรียนโดนยิงเข้าที่สะโพก มีคนลากไปทิ้งไว้ในกระท่อมนอกเมืองและปล่อยไว้ที่นั่น ตอนนี้ก็ผ่านไปสี่วันแล้วแต่ก็มันยังไม่ตายนะครับ” ---“อะไรกันทิ้งคนเจ็บไว้สี่วันโดยไม่มีใครดูแลเลยหรือ ดิฉันจะไม่ปล่อยแม้แต่สัตว์ที่บาดเจ็บไว้ในสภาพนั้นหรอกค่ะ” เเปลเเละเรียบเรียงโดย : กอบกิจ ครุวรรณ โปรดติดตามตอนที่ (2)ในวันพรุ่งนี้

Re: เทวดาของคนนอกกฎหมาย

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 04, 2020 7:39 pm
โดย rosa-lee
เทวดาของคนนอกกฎหมาย (ตอนที่ (2)
จากหนังสือรวมเรื่องของคุณพ่อเอียน โดลตัน (Fr. Ian Doulton)
26 มีนาคม : “เราเข้าไปเยี่ยมเจ้าโจรคนนั้นเป็นครั้งแรกด้วยกันโดยมีซุป น้ำ ผ้าลินนิน และสบู่หอมติดมือไปด้วย เจ้าโจรคนนั้นนอนอยู่บนแคร่ นัยน์ตาจ้องมองมาที่ดิฉันอย่างดุดัน ดิฉันรู้สึกกลัวอยู่บ้าง แต่ก็เดินไปยังที่นอนพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นอะไรมาก แต่ถ้าลูกกระสุนทะลุสมอง คุณก็คงเสร็จไปแล้ว! แต่ตอนนี้ขอตรวจดูแผลก่อนนะ”
“เจ้านั่นคำรามขึ้นว่า : คุณเอาอะไรมารักษาด้วยหรือ วางของที่เอามาไว้ข้างที่นอนนี่แหละ เดี๋ยวผมจัดการเอง แต่อ้อ จะให้ผมเรียกคุณว่าอะไรดีล่ะ?”
“ดิฉันตอบไปว่า : ซิสเตอร์ค่ะ”
“แล้วเขาก็พูดต่อว่า ซิสเตอร์ครับ แน่นอนผมดีใจที่ซิสเตอร์มา แต่ตอนนี้ลูกกระสุนยังฝังอยู่เลย”
“ดิฉันบอกเขาว่า เขาต้องมีหมอผ่าเอาลูกกระสุนออกให้”
“จากนั้นเขาก็ถามว่าดิฉันจะกลับมาอีกไหม ดิฉันตอบไปว่าจะกลับมาอีก”
27 พฤษภาคม : เราไปเยี่ยมโจรที่ถูกยิงตลอดสองเดือนที่ผ่านมา อาการของเขายังไม่ดีขึ้น เราพยายามทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ วันนี้เป็นวันแรกที่เขาคุยกับดิฉันเป็นเวลานาน
เขาเริ่มการสนทนาว่า “ซิสเตอร์ครับ ทำไมซิสเตอร์ไม่เคยพูดเรื่องศาสนากับผมเลย ทุกครั้งที่ซิสเตอร์มาเยี่ยมผมก็คิดว่าซิสเตอร์คงจะเริ่มพูดเตือนใจให้ผมเสียใจกับสิ่งไม่ดีที่ผมเคยทำและเรื่องไฟนรก ซึ่งถ้าซิสเตอร์เริ่มพูดเรื่องนี้กับผมละก็ ผมก็คงจะบอกซิสเตอร์ให้เลิกพูดไปได้เลย ซิสเตอร์ยังจำประโยคที่พูดกับผมครั้งแรกได้ไหมครับ” -- เขาพูดต่อไปว่า “ผมรู้สึกละอายใจกับสิ่งที่ผมพูดตอบซิสเตอร์ไปในครั้งนั้น ตอนนั้นซิสเตอร์พูดว่า ‘ไม่เป็นอะไรมาก แต่ถ้าลูกกระสุนทะลุสมอง คุณก็คงเสร็จไปแล้ว!’ ซิสเตอร์ทราบไหมครับว่าคำพูดของซิสเตอร์ทำให้ผมรู้สึกคิดสู้อีกครั้งหนึ่ง และพูดกับตัวเองว่า ‘เธอคนนี้ไม่ใช่ธรรมดา’ ซิสเตอร์เป็นคนที่แน่มาก ถามจริง ๆ ซิสเตอร์คิดว่าพระเป็นเจ้าจะทรงให้อภัยสิ่งที่ผมเคยทำหรือครับ”
“ดิฉันตอบเขาว่า ดิฉันมั่นใจว่าพระเป็นเจ้าจะทรงให้อภัย ถ้าเขาขอโทษพระองค์”
เขาพูดต่อไปว่า “แต่ซิสเตอร์ยังไม่รู้ว่าผมเคยทำอะไรไปบ้าง ผมอยู่ในแก๊งค์ของบิลลี่เดอะคิด แต่ถึงผมอยู่คนเดียวโดยไม่ได้อยู่ในแก๊งค์ ผมก็คงทำแต่สิ่งเลว ๆ เท่าที่ผู้ชายเลว ๆ คนหนึ่งจะทำได้ ผมเคยฆ่าชายชราคนหนึ่งเพื่อเงิน 10 เซนต์มาก่อน ซิสเตอร์คงคิดไม่ถึงนะครับ ตอนนั้นแก๊งค์ของเรายิงวัวเพื่อแล่เอาหนัง ครั้งหนึ่งผมยิงวัว 3-4 ตัวของชายชราคนหนึ่งที่เมืองแคนซัส ชายชราและพวกคนเลี้ยงวัวจับผมได้และกำลังจะถลกหนังของผม แต่ผมมีวิธีพูดจนที่สุดพวกเขายอมปล่อยตัว เพื่อน ๆ ที่รู้เรื่องต่างก็หัวเราะเยาะผม ผมจึงคุยโวว่าผมสามารถฆ่าชายชราคนนั้นได้ ถ้ามีคนจ่ายให้ผม 10 เซนต์ พวกเขาคนหนึ่งตอบตกลง ผมจึงไปตามหาชายชราคนนั้นและฆ่าเขาตาย ซิสเตอร์คิดว่าพระเป็นเจ้าจะทรงอภัยให้ผมได้หรือครับ”
“ดิฉันตอบเขาว่า ได้อย่างแน่นอน ถ้าเขาเสียใจจริง ๆ กับสิ่งที่ได้ทำไป”
เขาจึงพูดต่ออีกว่า “ซิสเตอร์รู้ไหมว่าผมกำลังคิดถึงอะไรอยู่ ผมคิดว่าพระเป็นเจ้าทรงหลอกใช้ซิสเตอร์อยู่เพื่อทำให้ผมรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ผมเคยทำในอดีต แต่พอผมขอโทษต่อพระองค์ ๆ ก็จะกวาดผมลงนรก”
เเปลเเละเรียบเรียงโดย : กอบกิจ ครุวรรณ โปรดติดตามตอนที่ (3)ในวันพรุ่งนี้

Re: เทวดาของคนนอกกฎหมาย

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 04, 2020 7:41 pm
โดย rosa-lee
เทวดาของคนนอกกฎหมาย (ตอนที่ (3)
จากหนังสือรวมเรื่องของคุณพ่อเอียน โดลตัน (Fr. Ian Doulton)

“ดิฉันรู้สึกสับสนแต่ก็ทำใจกล้าไว้และพูดถึงพระเยซูเจ้าขณะถูกตรึงอยู่บนกางเขนและพระดำรัสที่มีต่อโจรคนหนึ่งว่าจะทรงนำเขาเข้าสวรรค์ในวันนั้นพร้อมกับพระองค์ เพราะเขาได้แสดงความเสียใจ กับสิ่งเลวร้ายที่เคยกระทำในอดีต หลังจากฟังสิ่งที่ดิฉันเล่าแล้วเขายังคงรู้สึกไม่มั่นใจนัก และเป็นกังวลว่าเพื่อน ๆ จะคิดถึงเขาอย่างไร พวกเพื่อนคงคิดว่าเขากลายเป็นคนใจอ่อนไปแล้ว – ผมอยู่ในแก๊งค์ของบิลลี่เดอะคิด ผมไม่มีวันยอมสยบหรอก ผมขอเดินลุยไฟดีกว่า เพราะไม่นานก็คงจะชินไปเองกับไฟนรก”
“ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในสมอง ดิฉันหยิบที่ตักถ่านแล้วก็ตักถ่านที่ติดไฟอยู่ 3-4 ก้อนเอามาส่งให้เขาและพูดว่า คุณคิดว่าคุณจะชินกับไฟได้หรือ เอาสิ ลองหยิบถ่านพวกนี้กำไว้ในมือสัก 10 วินาที แล้วบอกดิฉันว่า เริ่มรู้สึกชินกับมันแล้วหรือไม่”
เมื่อเจอไม้นี้เข้า เขารู้สึกสับสนและพูดว่า “ซิสเตอร์ครับ ขอผมคิดไตร่ตรองเรื่องนี้ก่อนครับ”
12 กรกฎาคม : “เมื่อวานตอนที่ดิฉันไปเยี่ยมโจรคนนั้น ดิฉันพบคนกลุ่มหนึ่งที่เป็นสมาชิกคณะกรรมการสวัสดิการของเมือง คนเจ็บยิ้มเยาะขณะพูดกับดิฉันว่า ซิสเตอร์รู้ไหมครับว่าทำไมพวกเขาพากันมาที่นี่ พวกเขาคงรู้สึกอับอายไงล่ะครับ เป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่พวกเขาเห็นซิสเตอร์มาเยี่ยมผมและช่วยให้ผมมีชีวิตมาได้จนถึงทุกวันนี้ พวกเขาจึงอายและตอนนี้ก็คงต้องการรับช่วงดูแลผมต่อน่ะซีครับ”
คณะกรรมการคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างค่อนข้างสุภาพว่า “ซิสเตอร์ครับ พวกเราพร้อมที่จะดูแลชายที่น่าสงสารคนนี้แล้ว ถูกแล้วต่อนี้ไปพวกเราจะดูแลเขาเอง”
“โจรที่บาดเจ็บคิดว่าคนกลุ่มที่มาช่วยนี้เป็นพวกหน้าไหว้หลังหลอก อย่างไรก็ตามดิฉันตัดสินใจที่จะถอยออกไปอยู่หลังฉากกับเรื่องนี้”
29 กรกฎาคม : “วันนี้ดิฉันไปเยี่ยมโจรที่บาดเจ็บอีกครั้งหนึ่ง เพราะเมื่อตอนบ่าย วิลเลี่ยม แอดัมสัน มาที่โรงเรียนรายงานดิฉันว่า ไม่มีใครไปเยี่ยมคนเจ็บเลยหนึ่งอาทิตย์แล้ว ดิฉันจึงไปเยี่ยมเขาที่กระท่อมกับวิลเลี่ยม เมื่อไปถึงก็พบว่าทุกสิ่งเงียบสงัด ดิฉันค่อย ๆ ก้าวเข้าไปข้างใน คนเจ็บไม่ได้ยินเสียงการเข้ามาของดิฉัน ดิฉันเห็นเขาถือปืนกระบอกหนึ่งในมือ ปากกระบอกปืนจ่ออยู่ที่ขมับข้างหนึ่ง ดิฉันรีบเดินตรงเข้าไปหาพร้อมกับสั่งว่า “ส่งปืนมานี่”
เขาพูดขอร้องที่จะไม่ทำตาม แต่ดิฉันพูดย้ำอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “ส่งปืนมาให้ซิสเตอร์นะ” ที่สุดเขาก็ยอมส่งปืนให้
“วันนั้นดิฉันเอาไข่ไก่หลายฟองและแยมลูกพลัมมาด้วย คนเจ็บเริ่มรู้สึกสำนึกบุญคุณกับสิ่งที่ดิฉันทำมาตั้งแต่ต้น
7 สิงหาคม : “โจรของเรามีอาการทรุดลงเป็นลำดับ เราไปเยี่ยมเขาทุกวัน ทั้งเขาและดิฉันไม่เคยพูดถึงเรื่องการยิงตัวตายกันเลย ตอนนี้ในสมองของเขาคิดถึงเรื่องอื่นอยู่ วันนี้เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษและพูดว่า “ซิสเตอร์ครับ บิลลี่กำลังมาที่นี่ บิลลี่เดอะคิดกับพรรคพวกกำลังมาที่ตรีนีแดด! บิลลี่ทราบเรื่องแล้วว่าหมอทั้งสี่คนของเมืองนี้ไม่มีใครสามารถผ่าเอาลูกกระสุนปืนออกจากสะโพกของผมได้ พวกเขากำลังจะมาถลกหนังหมอทั้งสี่ครับ”
ดิฉันพูดขัดจังหวะขึ้นว่า “พวกเขาก็คงจะมาถึงกันวันเสาร์นี้นะสิ คุณคิดว่าดิฉันจะยอมให้เกิดเรื่องนี้หรือ”
เจ้าโจรหัวเราะอย่างสะใจพูดขึ้นว่า “แล้วซิสเตอร์จะทำอะไรได้ล่ะครับ”
เเปลเเละเรียบเรียงโดย : กอบกิจ ครุวรรณ
(โปรดติดตามตอน4)ในวันพรุ่งนี้

Re: เทวดาของคนนอกกฎหมาย

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 05, 2020 2:39 pm
โดย rosa-lee
เทวดาของคนนอกกฎหมาย (ตอนที่ (4)
จากหนังสือรวมเรื่องของคุณพ่อเอียน โดลตัน (Fr. Ian Doulton)

9 สิงหาคม : “วันนี้เป็นวันเสาร์ ดิฉันได้พบกับบิลลี่เดอะคิด ดิฉันไปที่กระท่อมคนเจ็บและพบบิลลี่ที่นั่น ใบหน้าของเขาดูอ่อนวัยทีเดียว คือดูเหมือนใบหน้าเด็กหนุ่มอายุไม่เกิน 17 ปี เขาดูเป็นคนมีผิวเปล่งปลั่งและมีดวงตาสีฟ้าที่ใสแจ๋ว การพูดจาของเขาฟังดูเหมือนเป็นเด็กซื่อ ๆ ยกเว้นเมื่อมองไปที่รอยย่นที่มุมตาทั้งสองข้าง”
“เขาพูดกับดิฉันอย่างสุภาพมากว่า ซิสเตอร์ครับ ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้พบซิสเตอร์ เพื่อนผมคนนี้เล่าเรื่องทั้งหมดที่ซิสเตอร์ทำให้เขาแล้ว ซิสเตอร์ครับ ผมจะตอบแทนซิสเตอร์ได้อย่างไรบ้างครับ”
“ดิฉันตอบออกไปทันทีว่า ซิสเตอร์อยากขอร้องสิ่งหนึ่งจากคุณค่ะ”
“บิลลี่พูดว่า ได้เลยผมรับประกัน ซิสเตอร์จะขออะไรหรือครับ”
“ดิฉันพูดอย่างกล้าหาญมากว่า ดิฉันทราบว่าคุณมาที่นี่ก็เพื่อถลกหนังของคุณหมอที่เมืองตรีนีแดดของเรา ดิฉันขอให้คุณอย่าได้กระทำสิ่งนี้เลยค่ะ”
“เขารับปากดิฉันและให้สัญญาว่าจะปฏิบัติตาม”
“เมื่อใดก็ตาม หากตัวผมและคนของผมสามารถช่วยเหลืออะไรซิสเตอร์ได้บ้างล่ะก็ ติดต่อมาได้เลยครับ ผมจะรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้รับใช้”
10 พฤศจิกายน : โจรของเรามีอาการทรุดหนักอย่างรวดเร็ว หลังจากทรมานเพราะบาดแผลกระสุนฝังในถึง 9 เดือน ในระยะหลังเขากลายเป็นคนช่างคิดและนัยน์ตาของเขาก็มีแววอ่อนโยน
2 ธันวาคม : “วันนี้ดิฉันไปเยี่ยมเขาแต่เช้า พอเห็นสภาพดิฉันก็รู้ทันทีว่าเขาจะอยู่ได้อีกไม่นาน”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักว่า “ซิสเตอร์ครับ ผมกำลังจะจากไป ผมคิดมาหลายวันแล้วถึงเรื่องที่ซิสเตอร์พูดเกี่ยวกับพระเป็นเจ้า”
“ดิฉันโพล่งออกไปทันทีว่า คุณอยากให้ดิฉันสวดภาวนาบทหนึ่งด้วยกันไหม แล้วดิฉันก็หลับตาปี๋พร้อมกับสวดดัง ๆ ว่า ข้าแต่พระเป็นเจ้าของลูก ลูกเสียใจจริง ๆ กับสิ่งที่ลูกเคยกระทำเป็นที่ขัดเคืองพระทัยพระองค์...
“โจรที่บาดเจ็บขอให้ซิสเตอร์หยุดสวดก่อน และพูดว่า ซิสเตอร์ครับ ช่วยสวดช้า ๆ หน่อย เพราะผมอยากจะซึมซับคำภาวนาทุกคำไว้”
12 ธันวาคม : “ตอนเย็น วิลเลี่ยม แอดัมสัน มาหาดิฉันและแจ้งว่าโจรของเราเสียชีวิตแล้ว หลังจากที่เราไปเยี่ยมเขาวันนั้นก็มีคนในเมืองสองคนมาเยี่ยมเขา แต่เขาบอกกับคนที่มาหาว่า “อย่ามารบกวนผมเลย ผมกำลังสวดซ้ำไปมาทบทวนบทภาวนาของซิสเตอร์อยู่”
“ตอนนี้เขาคงอยู่ในพระหัตถ์ของพระเป็นเจ้าแล้ว และขอพระองค์โปรดทรงเมตตาเขาด้วยเทอญ”

เเปลเเละเรียบเรียงโดย : กอบกิจ ครุวรรณ
............จบบริบูรณ์.........