“ ทัศนคติ “

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ธ.ค. 07, 2020 11:03 am

.......ทัศนคติ.......

นายเจอรี่เป็นผู้จัดการร้านอาหารแห่งหนึ่งในอเมริกา เขาเป็นคนอารมณ์ดีและมองสิ่งต่าง ๆ ในแง่ดีเสมอ เมื่อเขาเปลี่ยนไปทำงานที่ร้านอาหารอื่น บริกรในร้านหลายคนก็จะเปลี่ยนงานตามเพื่อจะได้ไปร่วมทำงานกับเขา สาเหตุที่บริกรตามเขาไปทำงานด้วย ก็เพราะทัศนคติของเขา เนื่องจากเขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้อื่น หากผู้ร่วมงานคนใดมีปัญหา เจอรี่ก็จะอยู่กับผู้นั้นและช่วยชี้แนะวิธีแก้ปัญหาที่ดีให้
ชีวิตของเจอรี่มีลักษณะที่น่าสนใจมาก วันหนึ่งข้าพเจ้าไปหาเขาและถามว่า "ผมไม่เข้าใจคุณเลย! คนเราไม่มีทางมองโลกในแง่ดีได้ตลอดเวลาหรอก คุณทำได้อย่างไรนะ?" เจอรี่ตอบว่า "ทุกเช้า พอตื่นนอน ผมก็บอกกับตัวเองว่า วันนี้ผมมีทางเลือก 2 ทาง ผมสามารถเลือกที่จะมีอารมณ์ดีหรืออารมณ์เสียก็ได้ แล้วผมก็เลือกที่จะมีอารมณ์ดี ทุกครั้งเมื่อมีสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้น ผมก็สามารถเลือกว่า จะปล่อยให้เป็นอย่างนั้นหรือจะเลือกให้สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นบทเรียน แล้วผมก็เลือกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นบทเรียน ทุกครั้งเมื่อมีคนมาหาและบ่นว่าต่าง ๆ นานา ผมก็สามารถเลือกที่ยอมรับการบ่นว่าของผู้นั้นหรือเลือกที่จะชี้วิธีแก้ปัญหาให้ผู้นั้นโดยให้พิจารณามุมมองที่ดีของสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วผมก็เลือกที่จะชี้วิธีแก้ปัญหาให้ผู้นั้น"
เมื่อฟังคำอธิบายจบ ข้าพเจ้าก็ค้านว่า "แต่ในความเป็นจริงมันไม่ง่ายอย่างที่พูดเสมอไปนะ" เจอรี่ก็ตอบว่า "เชื่อเถอะ สิ่งที่พูดมานี้ใช้ได้กับทุกกรณี ชีวิตเราเป็นเรื่องของการตัดสินใจเลือก เมื่อคุณตัดสิ่งที่วุ่นวายต่าง ๆ ออกไปแล้ว ทุกสถานการณ์ก็จะเป็นเรื่องของการตัดสินใจเลือก ของตัวคุณเอง คุณเลือกเองว่าจะให้ผู้อื่นมีผลต่ออารมณ์ของคุณอย่างไร คุณเลือกที่จะมีอารมณ์ดีหรืออารมณ์ร้ายก็ได้ คุณเลือกเองว่าคุณจะมีชีวิตอย่างไร"
หลายปีผ่านไป และวันหนึ่งข้าพเจ้าก็ได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจอรี่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในธุรกิจร้านอาหารเลย... เช้าวันหนึ่ง เขาลืมปิดประตูหลังของร้านอาหาร และถูกคนร้าย 3 คนเข้ามาปล้น พวกเขาบังคับให้เจอรี่เปิดเซฟ แต่ความที่เขาตกใจกลัว มือจึงสั่นและไม่สามารถหมุนรหัสเซฟให้ตรงกันได้ จึงเปิดไม่ออก พวกโจรหัวเสียและที่สุดก็ยิงเขาก่อนจากไปโดยไม่ได้อะไรเลย โชคดีที่มีผู้ส่งเขาเข้าโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว หลังจากการผ่าตัดเอากระสุนออกผ่านไป 18 ชั่วโมง และต้องพักฟื้นอยู่หลายสัปดาห์ ที่สุดเขาก็ออกจากโรงพยาบาลได้ โดยที่ยังมีเศษกระสุนปืนอยู่ในตัวเขา
6 เดือนหลังจากที่เจอรี่ออกจากโรงพยาบาล ข้าพเจ้าพบเขา และถามว่าเขาคิดอย่างไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจอรี่ก็ตอบว่า "สิ่งแรกคือ ผมเรียนรู้ว่าต้องปิดล็อคประตูหลังร้าน และตอนที่พวกเขายิงผมคว่ำบนพื้น ผมจำได้ว่า ผมมีทางเลือก 2 ทาง คือเลือกที่จะตาย หรือเลือกที่จะมีชีวิตต่อไป แล้วผมก็เลือกที่จะมีชีวิตต่อไป"
ข้าพเจ้าถามต่อไปว่า "คุณไม่กลัวหรือ?" เจอรี่ตอบว่า "ผู้ช่วยแพทย์ที่รุมล้อมต่างกุลีกุจอกันเข้ามา และพยายามพูดปลอบว่า ทุกสิ่งจะผ่านไปด้วยดี แต่พอเขาเข็นผมเข้าห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน ผมสังเกตเห็นสีหน้าของคณะแพทย์และพยาบาลแล้วก็รู้สึกกลัวจริง ๆ เพราะสายตาของพวกเขา อ่านได้ว่า "ไอ้หมอนี่ตายแล้ว" ดังนั้นผมจึงต้องหาวิธีแก้ปัญหาทันที

ข้าพเจ้าก็ถามต่อว่า "แล้วคุณทำอะไรหรือ?" -- "อ๋อ ตอนนั้นมีพยาบาลร่างใหญ่คนหนึ่งกำลังตะโกนถามคำถามต่าง ๆ ใส่ผม และคำถามหนึ่งก็คือ ถามว่าผมแพ้อะไรไหม? ผมก็ตอบไปว่า “แพ้สิ” ทันใดนั้นทั้งหมอและพยาบาลทุกคนวางมือจากผมทันที เพื่อรอฟังคำตอบ ผมจึงสูดหายใจเข้าเต็มปอดและตะโกนว่า “ผมแพ้กระสุนปืน” ทุกคนหัวเราะกันลั่นไปหมด แล้วผมก็พูดกลบเสียงหัวเราะของพวกเขาต่อไปว่า “ผมเลือกที่จะมีชีวิตต่อไป ช่วยกรุณาจัดการผ่าตัดผมเหมือนกับว่าผมยังมีชีวิตอยู่ มิใช่เหมือนกับคนที่ตายไปแล้วนะครับ"
เจอรี่รอดชีวิตมาได้ด้วยฝีมือของคณะแพทย์ และแน่นอนเพราะทัศนคติที่น่าทึ่งของเขาด้วย ผมจึงได้เรียนรู้จากเขาว่า ทุกวันเรามีทางเลือกว่าจะใช้ชีวิตให้สดชื่นหรือจะใช้ชีวิตแบบซังกะตาย สิ่งเดียวที่เป็นของคุณเสมอและเป็นสิ่งที่ไม่มีใครควบคุมคุณหรือเอาไปจากคุณได้คือทัศนคติของคุณ ดังนั้น หากคุณตัดสินใจที่จะมีทัศนคติที่ดี ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตก็จะราบรื่นยิ่งขึ้น
*******************
แปลและเรียบเรียงโดย กอบกิจ ครุวรรณ
ตอบกลับโพส