เพื่อสุขภาพ ผู้มีอายุเกิน55ปี ควรอ่าน มีประโยชน์มาก

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ม.ค. 18, 2021 11:17 am

......พี่หมออัมพรแชร์มาจ้ะ..

ผู้มีอายุเกิน55ปีควรต้องอ่านให้จบนะครับ
การบรรยายของ ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์เสก อักษรานุเคราะห์ ผู้อำนวยการ ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู สภากาชาดไทย เรื่อง "การดูแลสุขภาพ :
ห่างไกลโรคข้อ - ปวดคอ ปวดหลัง และการปวดกล้ามเนื้อจากการทำงาน"... ขอให้ทุกคนอ่านให้เข้าใจและจำวิธีปฏิบัติให้ถูกต้อง เพราะมีความสำคัญกับการใช้ชีวิตเพื่อให้ร่างกายไม่ผิดปกติและแข็งแรง

ในสภาวะปกติ กระดูกคนเราจะมีทั้งการสร้างและการทำลายเนื้อกระดูกพร้อม ๆ กันไปตลอดเวลา โดยที่อัตราการสร้างและการทำลายนี้จะมีพอ ๆ กัน จึงอยู่ในสมดุล และในสภาวะบางอย่างจะมีการกระตุ้นให้มีการทำลายเนื้อกระดูกมากขึ้นโดยที่การสร้างจะน้อยลง ซึ่งเป็นปัจจัยให้กระดูกบางโดยเฉพาะในคนสูงอายุ จนท้ายสุดกระดูกนั้นจะหักและทรุดง่าย จุดที่พบได้บ่อยคือ ที่ข้อมือ สะโพก และกระดูกสันหลัง

กระดูกสันหลัง ประกอบด้วย กระดูกคอ ทรวงอก เอว แ ละ ก้นกบ เรียงต่อกันจากคอลงมาถึงก้นมีลักษณะแอ่น(คอ) โค้ง(ทรวงอก) แอ่น(เอว) โค้ง(ก้นกบ) ตามลำดับ หักลบกันแล้วจะเป็นเส้นตรง
1. กระดูกคอ เคลื่อนไหวได้ทุกทิศ คือ ก้ม เงย ตะแคงซ้าย ขวา หมุนซ้าย ขวา จึงทำให้สึกหรอและปวดได้ง่ายกว่าที่อื่น สาเหตุที่ทำให้คอสึก คือ การนั่ง นอน ทำงาน ในท่าที่ไม่ถูกต้อง
2. กระดูกทรวงอก เคลื่อนไหวก้มไม่ได้ ได้แต่เอนกับหมุนบิดซ้ายขวา จึงไม่ค่อยเสื่อม
3. กระดูกเอว เคลื่อนไหวได้มาก คือ ก้ม และ เงย

หมอนรองกระดูก
มีลักษณะประกบกันเฉย ๆ โดยมีตัวยึด 4 จุด ตัวที่ยึดนี้เรียกว่า ข้อ ตรงกลางหมอนรองกระดูกเป็นศูนย์รวมประสาท เส้นประสาทจะโผล่ออก มาตามข้อเพื่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หมอนรองกระดูกจะสึกไปเรื่อย ๆ ตามอายุ ตลอดชีวิตจะสึก 4 ซม. ถือว่าปกติ เช่นสูง 170 พอแก่อายุ 70-80 ปี ความสูงลดลงเหลือ 166 ถือว่าเป็นไปตามธรรมชาติ แต่ถ้าเตี้ยลงปีละ 1 ซม. ถือว่าเป็นโรคกระดูกผุ หญิงวัย 55 ปีขึ้นไป กระดูกจะทรุดลงตามธรรมชาติ ตัวก็จะเตี้ยลง และมีพุงยื่น

เส้นประสาทคอ
มี 8 คู่ ถ้าเกิดกระดูกคอเสื่อมจะเป็นต้นเหตุของอาการปวดตามที่ต่าง ๆ โดยคู่ที่ 1 จะไปที่หัว คู่ที่ 2 หลังหู กระบอกตา ขมับ คู่ที่ 3 ต้นคอ คู่ที่ 4 สะบัก คู่ที่ 5 บ่าและไหล่ คู่ที่6 ต้นแขน คู่ที่ 7 ปลายแขน และคู่ที่ 8 มือ

เส้นประสาทเอว
มี 5 คู่ คือ คู่ที่ 1 เอว คู่ที่ 2 โคนขา คู่ที่ 3 หัวเข่า คู่ที่ 4 น่อง และคู่ที่ 5 เท้า

การปรับปรุงท่าทางในกิจวัตรประจำวัน
ท่านอน ต้องเหมือนกับคนยืนตรง เวลานอนให้ใช้หมอนหนุนคอ จงจำไว้หมอนมีไว้หนุนคอ ไม่ใช่หนุนหัว หมอนที่ดีมีลักษณะตรงกลางบางกว่าซ้ายและขวา หากไม่มีหมอนจะใช้ผ้าขนหนูม้วนเป็นแท่ง แล้วรองหนุนคอให้พอดีก็ได้
นอนหงาย การนอนหงายจะทำให้หลังแอ่น วิธีแก้ต้องงอสะโพกและเข่า โดยมีหมอนรองใต้โคนขา หลังจะแบบเรียบติดที่นอน
นอนตะแคง เป็นท่านอนที่ดีที่สุด หลังจะตรง นอนตะแคงข้างใด ก็ได้โดยกอดหมอนข้างใบใหญ่ ขาล่างเหยียดตรง ขาบนงอก่ายบนหมอนข้าง
นอนคว่ำ เป็นท่านอนที่ไม่ดี ห้ามนอนท่านี้เด็ดขาด เพราะจะทำให้กระดูกสันหลังแอ่น ทำให้ปวดหลังระดับเอวมากขึ้น กระดูกเอวและคอเสื่อม

การลุกจากที่นอนและการลงนอน ห้ามสปริงตัวลุกขึ้นมาตรง ๆ เพราะหลังจะสึกมาก ควรปฏิบัติดังนี้
ถ้านอนหงายอยู่ให้งอเข่าขึ้นมาก่อน ตะแคงตัวในขณะเข่ายังงออยู่ ใช้ข้อศอกและมือยันตัวขึ้นในขณะที ่ห้อยเท้าทั้ง 2 ข้าง ลงจากเตียง ดันตัวขึ้นมาในท่านั่งตรงได้ โดยให้เท้าวางราบบนพื้น ในท่าลงนอนให้ทำสวนกับข้างบนนี้

การดูโทรทัศน์ หรืออ่านหนังสือ
ห้ามนอนดู TV หรือนอนอ่านหนังสือ เพราะจะทำให้หมอนรองกระดูกคอสึก ควรนั่งจะดีกว่า

การนั่ง
ควรนั่งเข้าให้สุดที่รองก้น หลังพิงสนิทกับพนักพิง หลังจะตรง เท้าวางบนพื้นเต็มเท้า
ส่วนสำคัญของเก้าอี้
- สูงพอดีเท้าวางราบบนพื้นได้
- ที่นั่ง รองรับจากก้นถึงใต้เข่า
- พนักพิง เริ่มจากที่นั่งสูงถึงระดับสะบัก โดยทำมุม 110 องศากับที่นั่งรองก้น

โต๊ะทำงาน ควรจะลาดเอียงเทเข้าหาตัว แบบโต๊ะสถาปนิก คอจะได้ไม่ต้องก้มอ่านหนังสือ

ท่านั่งคอมพิวเตอร์และพิมพ์ดีด
จอคอมพิวเตอร์ควรตั้งอยู่ตรงระดับหน้าเหมือนที่ตั้งโน้ตดนตรีและอยู่สูงพอดีระดับตา จะได้มองตรงๆได้ ระยะห่างประมาณ 2-3 ฟุต มีแผ่นกรองแสง คีย์บอร์ดควรอยู่ระดับเอว หรืออยู่เหนือตักเล็กน้อย ไม่ควรวางคีย์บอร์ดบนโต๊ะเพราะต้องยกไหล่ ทำให้ปวดไหล่

ท่านั่งของผู้บริหาร
เก้าอี้ส่วนใหญ่ของผู้บริหารจะเอนไปข้างหลังได้ จึงจำเป็นต้องก้มคออยู่เสมอ ทำให้เหมือนกับนอนหมอนสูง
วิธีแก้ ควรให้พนักพิงสูงขึ้นไปจนรองรับศรีษะได้ และควรจะให้บริเวณต้นคอนูนกว่าส่วนอื่น เพื่อรองรับกระดูกต้นคอด้วย หรือมิฉะนั้นให้นั่งเก้าอี้ที่เอนไม่ได้จะดีกว่า เมื่อจะลุกจากที่นั่ง ให้เขยิบก้นออกมาครึ่งหนึ่ง ก้าวเท้าออกไป มือยันที่ท้าวแขน แล้วลุกขึ้น

นั่งขับรถยนต์
เลื่อนที่นั่งให้ใกล้พวงมาลัย เมื่อเวลาเหยียบครัชเต็มที่ เข่าควรสูงกว่าสะโพก หลังควรมีหมอนรองถ้าที่นั่งลึกเกินไปและพนักพิงไม่ควรเอนเกิน 100 องศา ถ้าที่นั่งนุ่มและ นั่งแล้วก้นจมลงในเบาะ ต้องมีเบาะเสริมก้นด้วย การเข้านั่งรถยนต์ ให้เปิดประตู หันหลังให้เบาะนั่ง ลงนั่งตรง ๆ แล้วจึงค่อย ๆ หมุนตัวไปข้างหน้าพร้อมยกเท้าเข้ามาในรถทีละข้าง การลงจากรถยนต์ ให้ทำย้อนทาง

การดันหรือผลักรถ ให้หันหลังใช้ก้นดัน

การฉุดลาก ให้หันหลังให้วัตถุที่จะฉุดลาก

ไอจาม ห้ามก้มหลังขณะไอจามเด็ดขาด เพราะเวลาไอจามจะมีแรงกระแทกมาก ให้ยืดหลังให้ตรง ใช้มือหนึ่งกดหลังไว้ อีกมือหนึ่งปิดปาก แล้วค่อยไอ หรือจาม

แปรงฟัน ให้ยืนหรือนั่งแปรงฟัน ห้ามก้มหลังแปรงฟัน

อาบน้ำ ให้นั่งหรือยืนอาบน้ำ โดยเวลาถูสบู่ที่ขาให้ยกขาขึ้นมาถูสบู่ ไม่ให้ก้มหลัง

การยืนนาน ๆ ควรมีตั่งรองเท้าสูงประมาณครึ่งน่อง เพื่อยกเท้าขึ้นพักสลับข้างกัน ทั้งนี้เพราะเวลางอสะโพกและเข่า กระดูกสันหลังจะตั้งตรงไม่แอ่นหรืองอ ทำให้ยืนได้นานโดยไม่ปวดหลัง และช่วยพักขาเวลาเมื่อยและสามารถเปลี่ยนสลับขาบนตั่งได้

ท่าบริหาร เป็นการป้องกันไม่ให้กระดูก เสื่อมเร็ว โดยมีหลักการคือทำอย่างไรให้กล้ามเนื้อทุกส่วนแข็งแรงเท่า ๆ กัน และออกแรงอย่างไรให้กล้ามเนื้อคลายตัว ทำท่าละ 10 รอบ ถ้าเกินจะทำให้กล้ามเนื้อเปลี้ย มี 6 ท่า ดังนี้
1. กล้ามเนื้อหน้าท้อง
1.1 นอนหงาย งอเข่า 2 ข้าง มือสอดใต้คอ ยกหัวนิดนึงพร้อมเหยียดขาตรง นับ 1-5
1.2 นอนหงายขาซ้ายไขว่ห้าง มือสอดใต้คอ ยกข้อศอกและลำตัวขวาเข้าหาขาซ้ายที่ไขว่ห้างอยู่ นับ 1-5 ทำทั้งซ้ายและขวา
1.3 ยกขาลอยเหยียดตรง 1 ข้าง บิดสะโพก (ยักสะโพก) นับ 1-5 ทำทั้ง 2 ข้าง
1.4 ขมิบก้น นอนหงายกอดอก ขมิบก้น ให้ก้นสูงขึ้นเล็กน้อย หลังแนบพื้น นับ 1-5
2. กล้ามเนื้อหลัง นอนหงายงอเข่า 2 ข้าง มือสอดใต้เข่า ดึงเข่าชิดหน้าอก นับ 1-5
3. กล้ามเนื้องอสะโพก ทำแบบท่ากล้ามเนื้อหลัง แต่งอเข่าข้างเดียว นับ 1-5 ทำทั้ง 2 ข้าง
4. กล้ามเนื้อเหยียดสะโพก นอนหงาย งอเข่าข้างหนึ่งไว้แล้วใช้ส้นเท้าอีกข้างหนึ่งกดเข่าที่งออยู่แล้วดันเอนมา จนชิดพื้น นับ 1-5 ทำสลับกัน
5. กล้ามเนื้อโคนขา นั่งกับพื้นงอเข่าข้างหนึ่ง ขาอีกข้างเหยียดตรง เอามือแตะปลายเท้าที่เหยียดตรง นับ 1-5 ทำทั้ง 2 ข้าง
6. กล้ามเนื้อน่อง ยืนหันหน้าเข้าหาโต๊ะ เอามือยันโต๊ะ งอเข่าหน้าไปข้างหน้า ขาหลังเหยียดตรง แอ่นตัวไปข้างหน้า นับ 1-5 ทำสลับข้าง

สรุปประเด็นสำคัญช่วงคำถามคำตอบ
ที่นอนที่ดีควรมีลักษณะเช่นไร
ควรนุ่มพอควร เวลานอนไม่จมมาก จมแค่ 1-2 ซม. ควรเป็นที่นอนที่ใช้ใยกากมะพร้าวจะดีที่สุดเพราะโปร่ง อากาศผ่านได้

เก้าอี้เหล็กไฟฟ้า ตัวละแสน เป็นกระแสแม่เหล็ก
มีรังสีแม่เหล็ก เบต้า หรือแกรมม่า ทำให้เกิดมะเร็ง ใช้นวดกล้ามเนื้อไม่ได้ผล เป็นการหลอกลวงสายไฟฟ้าแรงสูง คนที่อยู่ใต้ไฟฟ้าแรงสูง ในรัศมี 60 เมตร มีสถิติเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดสูง ต้องอยู่ห่างเกิน 100 เมตร ขึ้นไปจึงจะปลอดภัย

การเล่นกอล์ฟ
การบาดเจ็บจะเกิดจากการไดร์ฟ 99% อีก 1% บาดเจ็บจากสนาม การไดร์ฟกอล์ฟปกติไม่มีปัญหากับกระดูกสันหลัง แต่ถ้าไดร์ฟติดต่อกันโดยไม่หยุด เช่นมีเครื่องตั้งกอล์ฟ หรือบางรายตีโดนอิฐ ดิน ไหปลาร้าหักได้ คนที่ผ่าตัดกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทสามารถเล่นกอล์ฟได้โดยใส่เสื้อพิเศษป้องกัน คนที่ผ่าตัดหมอนรองกระดูกที่ต้นคอโดยเอากระดูกเชิงกรานมาต่อ ข้อกระดูกคอจะหายไ ป 1 ข้อ และเชื่อมกระดูกแล้ว สามารถออกกำลังกายได้

การเสื่อมของกระดูก
จะเกิดขึ้นมากในขณะที่เราอยู่เฉย ๆ เช่น นอน นั่ง เพราะกินเวลานาน แต่ถ้าเคลื่อนไหวการเสื่อมจะน้อยกว่าเพราะกินเวลาน้อย

โยคะ
การฝึกโยคะมีผลดีต่อการฝึกลมหายใจและได้สมาธิ แต่ไม่ถือเป็นการออกกำลังกาย และบางท่าจะเป็นการเคลื่อนไหวที่เสี่ยงอันตรายต่อกระดูกเพราะเกินกว่าธรรมชาติ เช่น การทรงตัวบนพื้นด้วยศรีษะ การแอ่นหลัง ทำให้กระดูกหลังเสื่อมมาก

ไท้เก๊ก
เป็นการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยมมาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุ อาจารย์เคยทำวิจัยเกี่ยวกับ ชี่กง (คือการออกกำลังกายตามมโนภาพ เช่น วาดมโนภาพว่ายกของหนัก น้ำหนักเท่าไรก็ได้แล้วแต่จะนึก) โดยใช้คน 30 คน เป็นเวลา 3 เดือน ได้ผลคือเหงื่อออกและกล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นมาก นอกจากนี้อาจารย์มีโครงการจะทำวิจัยกับคนกลุ่มใหญ่ขึ้น โดยเน้นผลในเรื่องหัวใจ ความดันโลหิต และชีพจร

เก้าอี้ไฟฟ้านวดทั้งตัว
ไม่มีประโยชน์เสียเงินเปล่า เพราะนวดทั้งตัว แต่เราต้องการเฉพาะจุด และ ไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุ แต่รักษาที่ปลายเหตุ เช่นเดียวกับบริการของหมอนวด นวดวันนี้สบาย พรุ่งนี้ปวดอีกแล้ว ควรรักษาที่ต้นเหตุด้วยวิธีการที่ถูกต้อง

การดึงคอ
คือการดึงเอ็นที่ยึดอยู่ให้ห่างออก คนที่ข้อต่อกระดูกหลังยุบรักษาโดยการดึงคอได้ การ ดึงคอ มีข้อห้าม 3 กรณีคือ กระดูกหัก กระดูกเชื่อมต่อกันหมด หรือเป็นโรครูมาตอยด์ ทั้งนี้ต้องให้แพทย์ผู้ชำนาญวินิจฉัยก่อนว่าไม่ได้เป็น 3 โรคที่กล่าว และควรกระทำโดยผู้ชำนาญการจึงจะปลอดภัย

จ็อกกิ้งและเต้นแอโรบิค
เป็นการออกกำลังกายที่หนัก และมีผลต่อกระดูกมาก ทำให้ข้อเสื่อมได้ง่ายกว่าการเดิน ยกตัวอย่าง การเดิน น้ำหนักขาที่เราวางบนพื้นเท่ากับน้ำหนักขา เช่น ขาหนัก 10 กก. เวลาเดินจะเกิดแรงกระแทกเท่ากับ 10 กก. แต่ถ้าวิ่ง น้ำหนักตัว 60 กก. วิ่ง 3 กม./ชม. ขณะวิ่งไปข้างหน้า 2 ขาจะลอยจากพื้นแรงกระแทกจะคูณ 3 เท่ากับ 180 กก. การวิ่งทำให้กระดูกเสื่อมมากกว่าการเดิน ถ้าอยากถนอมกระดูกและข้อให้เดินดีกว่า
การวิ่งมีข้อดีทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง แต่มีข้อเสียคือขาพังเข่าพัง ขณะวิ่งห้ามหยุดทันทีเพราะเลือดจะตกไปที่ขาทำให้หัวใจวายได้ แม้แต่บิดาแห่งจ็อคกิ้งก็ยังหัวใจวายคาที่ ดังนั้นในการออกกำลังกายต้องเลือกท่าบริหาร พื้นลู่วิ่งและรองเท้าที่เหมาะสม

การออกกำลังกาย
ต้องคำนึงถึงวัยและความเหมาะสมกับตัวเรา ในวัยหนุ่มสาวออกกำลังกายโดยการวิ่งได้ แต่เมื่ออายุมากขึ้น ๆ ต้องเปลี่ยนให้เบาลง เป็นว่ายน้ำ เดิน พออายุ 80-90 ปี แค่ยืนแกว่งแขน หรือรำมวยจีนก็พอ ขอให้คำนึงถึงสายกลางเพื่อสุขภาพนั่งสมาธิ ไม่จำเป็นต้องนั่งพับเพียบหรือขัดสมาธิ

นั่งอย่างไรก็ได้ที่ทำให้เกิดสมาธิดีที่สุด
ควรนั่งเก้าอี้ดีที่สุด

การรักษาโดยหมอแผนโบราณ
ที่ดึงกระดูกปุ๊บแล้วเข้าที่ มีความเสี่ยงสูงและไม่มีใครรับรองผล ที่ดึงแล้วหายก็มี แต่ที่ดึงแล้วเป็นอัมพาต หรือกระดูกหักก็มี

ท่าออกกำลังกายโดยการก้มเอามือแตะเท้า
เป็นท่าที่อันตราย ทำให้กระดูกสันหลังเสื่อม

นิ้ว
ห้ามหักหรืองอ ให้ดึงได้อย่างเดียวคือดึงตรงๆจะเกิดเสียงดังเป๊าะ ในข้อนิ้วจะลดแรงกดดันทำให้สบายขึ้น

การนั่งซักผ้านานๆ
จะทำให้ปวดหลัง ควรนั่งเก้าอี้และวางกาละมังผ้าบนโต๊ะ หรือยืนซักจะทำให้ไม่ปวดหลัง

การหยิบของที่พื้น
ห้ามก้มเด็ดขาด ให้ย่อเข่าลงแล้วหยิบ ถ้าของหนักให้ย่อเข่าแล้วหยิบของมาอุ้มไว้กับอกแล้วลุกขึ้น.
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ก.ย. 11, 2023 6:10 pm

สรุปว่า..พวกเราเข้าใจคลาดเคลื่อนกันมาตลอด ว่าอายุยืนโดยออกกำลังกายสำคัญสุด
แต่ความจริงวิธีทำให้อายุยืน ด้วยการออกกำลังกาย ถูกจัดให้อยู่ในอันดับแปด

การปฏิบัติเป็นนิสัย
ให้ชีวิตยืนยาว แปดอย่างข้างล่าง

แล้วหมายเลข 1 คือวิธีอะไร???

😅ในบรรดาการปฏิบัติเป็นนิสัย ให้ชีวิตยืนยาวที่ได้รับการยอมรับในโลก
ตามแนวคิดการแพทย์ทั่วไป เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ


👉-อันดับที่ 8: การออกกำลังกาย

👉-อันดับที่ 7: กินปลาสัปดาห์ละสองครั้ง

👉-อันดับที่ 6: กินธัญพืช 3 ครั้ง ต่อสัปดาห์

👉-อันดับที่ 5: ดื่มน้ำให้เพียงพอ ทุกวัน

👉-อันดับที่ 4: กินไข่ 1 ฟอง ต่อวัน

👉-อันดับที่ 3: กินอาหารให้อิ่มแค่ แปดส่วน

👉-อันดับที่ 2: การพักผ่อนนอนหลับ ที่เพียงพอ

👉-อันดับที่ 1: การยึดมั่น ให้อารมณ์ดีตลอด

"อารมณ์ความรู้สึก มีผลกระทบอย่างมาก ต่อสุขภาพ
ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า ในระยะยาว และความตึงเครียดสูง
มีแนวโน้ม ที่จะก่อให้เกิด ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ
และทำให้เกิด ความเสี่ยงต่อสุขภาพที่มองไม่เห็น

ผู้สูงอายุที่มีอายุยืนยาวกว่า 100 ปี
ล้วนแต่เป็น คนมองโลกในแง่ดี แม้ว่าพวกเขา
จะมีประสบการณ์ชีวิตที่เลวร้าย แต่พวกเขา
ก็ยังยิ้มได้ในชีวิต อารมณ์ที่มีความสุข
และความสงบของจิตใจ เป็น "ยาดี" ที่ดีที่สุด
สำหรับการป้องกันโรค"..

😊"หั ว ใ จ ที่ ร่ า เ ริ ง"... คือ ยาที่ดี..
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ก.ย. 12, 2023 8:44 pm

ลองดู สัก 1 เดือนไม่เสียเงิน / กลุ่มแพทย์ชาวญี่ปุ่น ยืนยันว่า❤️น้ำอุ่น❤️มีประสิทธิภาพ
ในการแก้ปัญหาสุขภาพได้ 100% เช่น:
1 ไมเกรน
2 ความดันโลหิตสูง
3 ความดันโลหิตต่ำ
4 อาการปวดข้อ
5 เพิ่มขึ้นและลดลง ของการเต้นของหัวใจ อย่างฉับพลัน
6 โรคลมชัก
7 เพิ่มระดับคอเลสเตอรอล
8 ไอ
9 ไม่สบายตัว
10 หอบหืด
11 ไอแบบช่วง
12 การอุดตันของหลอดเลือดดำ
13โรคที่เกี่ยวข้องกับมดลูกและปัสสาวะ
14 ปัญหาในกระเพาะอาหาร
15 การย่อยอาหารไม่ดี
16 โรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตา หู และลำคอ
17 ปวดศีรษะ
❤️ใช้น้ำอุ่นอย่างไร❤️
ลุกขึ้นในตอนเช้า และดื่มน้ำอุ่นประมาณ 4 แก้ว เมื่อท้องว่างเปล่า คุณอาจจะไม่สามารถที่จะทำให้
ได้ 4 แก้วในตอนที่เริ่มต้น แต่ไม่ช้าคุณจะทำได้.....
👌💋❤️หมายเหตุ: อย่าพึ่งกินอะไรตามหลังจากดื่มน้ำผ่านไป 45 นาที การบำบัดด้วยน้ำอุ่น
จะช่วยแก้ปัญหาสุขภาพภายใน หรืออาการทัองผูก เช่น
❤️โรคเบาหวาน ภายใน 30 วัน
❤️ความดันโลหิต ใน 30 วัน
❤️ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ใน 10 วัน
❤️มะเร็งทุกชนิด ภายใน 9 เดือน
❤️การอุดตันของเส้นเลือด ใน 6 เดือน
❤️การย่อยอาหารไม่ดี ใน 10 วัน
❤️มดลูกและโรคที่เกี่ยวข้อง ใน 10 วัน
❤️ปัญหาจมูกหูและลำคอ ใน 10 วัน
❤️ปัญหาผู้หญิง ใน 15 วัน
❤️โรคหัวใจ ใน 30 วัน
❤️ปวดหัว / ไมเกรน ใน 3 วัน
❤️คอเลสเตอรอล ภายใน 4 เดือน
❤️โรคลมชักและอัมพาตอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลา 9 เดือน
❤️หอบหืด ภายใน 4 เดือน

💋พึงระลึกไว้เสมอว่า น้ำเย็นจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ หากน้ำเย็นไม่ส่งผลต่อคุณ
ในวัยเด็ก ก็จะเป็นอันตรายต่อคุณในวัยชรา
💋น้ำเย็นจะปิด 4 หลอดเลือดดำของหัวใจและทำให้หัวใจวาย เครื่องดื่มเย็นเป็นสาเหตุสำคัญ
ของการเกิดอาการหัวใจวาย
💋นอกจากนี้ยังสร้างปัญหาในตับ ทำให้ไขมันติดอยู่กับตับ คนส่วนใหญ่รอการปลูกถ่ายตับ
เป็นเหยื่อของการดื่มน้ำเย็น
❤️💋*น้ำเย็นส่งผลกระทบต่อผนังภายในของกระเพาะอาหาร มีผลต่อลำไส้ใหญ่
และส่งผลต่อมะเร็ง

❤️❤️โปรดอย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้ เพื่อตัวคุณเอง บอกให้ใครบางคนซึ่งอาจช่วยชีวิตคนอื่นได้ ❤️
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ต.ค. 28, 2023 6:36 pm

……..สี่ขั้นตอนชีวิต……….

เมื่ออายุ 60 ปี สถานที่ทำงานจะกำจัดคุณ ไม่ว่าคุณจะประสบความสำเร็จหรือมีอำนาจมากเพียงใดใน
อาชีพการงาน คุณจะกลับไปเป็นคนธรรมดา ดังนั้นอย่ายึดติดกับกรอบความคิดและความรู้สึกว่าตัวเอง
เหนือกว่าจากงานที่ผ่านมา ปล่อยวางอัตตา มิฉะนั้นคุณอาจสูญเสียความรู้สึกสบายใจ!

เมื่ออายุ 70 ​​ปี สังคมจะค่อยๆ กำจัดคุณออกไป เพื่อนและเพื่อนร่วมงานที่คุณเคยพบปะและสังสรรค์ด้วย
มีน้อยลง และแทบไม่มีใครจำคุณในที่ทำงานเดิมของคุณ อย่าพูดว่า "ฉันเคยเป็น..." หรือ "ฉันเคยเป็น..."
เพราะเด็กรุ่นหลังจะไม่รู้จักคุณ และคุณไม่ต้องรู้สึกอึดอัดใจ!

เมื่ออายุ 80 ครอบครัวค่อยๆ กำจัดคุณ แม้ว่าคุณจะมีลูกและหลานหลายคน แต่ส่วนใหญ่แล้วคุณจะอยู่กับ
คู่สมรสหรืออยู่คนเดียว เมื่อลูก ๆ ของคุณมาเยี่ยมเป็นครั้งคราว มันเป็นการแสดงความรัก ดังนั้นอย่าโทษ
พวกเขาที่มาน้อยไป เพราะพวกเขากำลังยุ่งอยู่กับชีวิตของพวกเขาเอง!

เมื่ออายุ 90 ปี โลกต้องการจะกำจัดคุณ บางคนที่คุณรู้จักได้จากไปแล้วตลอดกาล ถึงตรงนี้ไม่ต้องเสียใจ
หรือคร่ำครวญเพราะนี่คือวิถีชีวิตและสุดท้ายทุกคนก็จะเดินตามทางนี้!

ดังนั้นในขณะที่ร่างกายของเรายังแข็งแรงอยู่ก็จงใช้ชีวิตให้เต็มที่! กินสิ่งที่คุณต้องการ ดื่มสิ่งที่คุณต้องการ
เล่นและทำในสิ่งที่คุณรัก

จำไว้ว่าสิ่งเดียวที่จะไม่กำจัดคุณคือกลุ่ม LINE ดังนั้น สื่อสารกันมากขึ้นในกลุ่ม ทักทาย รักษาสถานะของคุณ
มีความสุข และไม่เสียใจ!
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ต.ค. 28, 2023 6:57 pm

ชอบหมอคนนี้จัง…!!!
😀😀😀

*Q*: หมอครับ ผมได้ยินว่าการออกกำลังทำให้หัวใจแข็งแรง จะช่วยยืด
ชีวิตเราให้ยืนยาวได้

*A*: แค่หัวใจดีขึ้นจากการเต้นถื่ๆ ก็แค่นั้น อย่าเสียเวลาออกกำลังให้มากนักเลย ทุกอย่างมันจะสึกหรอไป
ในที่สุด การเร่งให้หัวใจเต้นเร็วไม่ได้ทำให้ชีวิตยืนยาวขึ้น เหมือนกับการยืดอายุรถยนต์ด้วยการขับเร็วๆ
อยากอยู่ยาวขึ้นก็งีบหลับเสียบ้างสิ

*Q*: ผมควรจะดื่มเหล้าไวน์น้อยลงมั้ยครับ

*A*: ไม่ต้อง ไวน์ทำมาจากผลไม้ ผลไม้ดีอยู่แล้ว บรั่นดีกลั่นต่อจากไวน์ นั่นคือเอาน้ำออกจากผลไม้เล็กน้อย
คุณจะยิ่งได้ประโยชน์มากขึ้น เบียร์ ก็ทำมาจากข้าวต่างๆ ก็ต้องดีเหมือนๆกัน 😀

*Q*: แล้วจะได้ประโยชน์อะไรจากการเข้าคอร์สออกกำลังกายละครับ

*A*: ผมตอบแทนคนอื่นไม่ได้แต่สำหรับผม อะไรที่ไม่ปวดเนื้อตัวคือ ดีแล้ว

*Q*: สำหรับหมอ อาหารจำพวกทอดไม่ดีจริงหรือเปล่าครับ

*A*: คุณไม่ฟังอีกแล้ว อาหารทอดในน้ำมันพืช เมื่อพืชดี น้ำมันพืชจะไม่ดีได้อย่างไร เอ๊ะ คุณนี่

*Q*: แล้วช็อคโกแล็ต จะไม่ดีสำหรับผมมั้ยครับ

*A*: คุณบ้าอีกแล้ว นี่คุณ เมล็ดโคคาก็เป็นพืชชนิดหนึ่ง มันจึงเป็นอาหารที่ดี

*Q*: แล้วหมอคิดว่าว่ายน้ำแล้วหุ่นจะดีมั้ย

*A*: ถ้าว่ายน้ำแล้วหุ่นดี ลองอธิบายให้ผมฟังซิว่าปลาวาฬหุ่นดีหรือเปล่า

*Q*: แล้วหุ่นดีๆจะสำคัญต่อการใช้ชีวิตมั้ยครับ

*A*: นี่คุณ กลมดิ๊กก็หุ่นดีนา อย่าทำหน้างง

สุดท้าย หมอญี่ปุ่นคนนั้นสรุปไว้ดังนี้

นี่คุณ ชีวิตไม่ใช่การเดินทางไปหลุมฝังศพด้วยความตั้งใจที่จะไปถึงอย่างปลอดภัย ไปด้วยร่างกายที่
สมบูรณ์โดยไม่มีรอยขีดข่วนใดๆนะ เราลื่นไถลลงข้างทางบ่อยครั้ง มือข้างหนึ่งถือแก้วเบียร์ อีกข้างถือ
ช็อคโกแล็ตอยู่ประจำร่างกาย เราถูกใช้อย่างสมบุกสมบัน จนชำรุดทรุดโทรม จนมันต้องร้องออกมาว่า
"ชีวิตของฉันมันเป็นเช่นไรหนอ"!!!!! กินไปตามใจชอบนั่นแหละ เพราะอย่างไรก็ต้องตาย อย่าปล่อย
ให้พวกนักโน้มน้าวคนทั้งหลายหลอกเอาได้

1. คนประดิษฐ์ลู่วิ่งตายตอนอายุ 54

2. คนคิดค้นกีฬายิมนาสติก ตายอายุ 57

3. แชมป์โลกนักเพาะกาย ตายตอนอายุ 41

4. สุดยอดนักฟุตบอลอย่างมาราโดนา
ตายตอนอายุ 60

แต่ว่า ………

5. ต้นตำหรับไก่ทอดKFC ตายตอนอายุ 94.

6. เจ้าของ Nutella ทาขนมปังตายตอนอายุ 88

7. ลองคิดดู คนผลิตบุหรี่ยี่ห้อ Winston กลับตายตอนอายุ 102

8. คนคิดค้นการสูบฝิ่น ตายตอนอายุ 116 ตายจากแผ่นดินไหวด้วยนะ

9. คนทำเหล้า Hennessey ตายตอนอายุ 98.

แบบนี้แล้ว พวกบรรดาหมอทั้งหลายสรุปไปได้อย่างไรว่าการออกกำลังกายจะยืดชีวิตเราได้

กระต่ายกระโดดโลดเต้นตลอดเวลา ทำไมอายุมันสั้นแค่ 2 ปีเอง แต่เต่าคลานต้วมเตี้ยมแทบ
ไม่เคยออกกำลังกายเลย กลับมีอายุยืนยาวตั้ง  400 ปี

ฉะนั้น พักผ่อนบ้างเถอะ ใจเย็นๆ อยู่สบายๆ กิน ดื่ม สนุกสนานกับชีวิตบ้าง
ยังไงคุณก็ต้องตายอยู่แล้ว อย่าเรื่องมากนักเลย ……😀😀😀😀
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ พ.ย. 06, 2023 11:42 pm

รวยแล้วไร้ญาติ
ทุกวันนี้ เพื่อนๆ......อยากได้อะไร ?...

อยากได้อะไรมากที่สุด..............ลองลองคิดกันดูนะ.

คำเตือน: โพสต์นี้เป็นเรื่องจริงทั้งหมด ไม่แต่งเติม

หลายปีก่อนช่วงปลายปี หมอไปดูเคสคุณลุง 70 ปี เป็นอัมพาตมา 1 วัน นอนติดเตียง ยังรู้ตัวดี
แต่พูดพอได้ ขยับแขนขาซีกหนึงไม่ได้

ลุงนอนอยู่ห้อง very VIP ที่สุด ของ รพ. มีผู้ดูแลหนึ่งคนดูแลอยู่ ดูนามสกุลของคุณลุง มันอัน
เดียวกันกับชื่อตึก พยาบาลเดินเข้ามาบอก “หมอคะ ท่านเป็นผู้บริจาคสร้างตึกนี้ค่ะ
VIP หน่อยนะคะ” อืม ตอนนั้นผมก็รักษาเศรษฐีมาบ้างนะ แต่ไม่เคยรักษามหาเศรษฐี
ก็กลัวๆหน่อย

หมอก็เดินไปดูเคสแบบเกร็งๆ แต่พอดูไป ชวนคุยกันไป
จนสนิทในระดับนึง ก็เริ่มคุยเล่นกันได้ คุยเล่นเหมือนตากะหลาน แกก็ไม่ถือตัว
น่ารักเป็นกันเอง (ใครที่เป็นคนไข้หมอก็จะเข้าใจว่าสไตล์หมอว่าเป็นยังไง )

หมอมาเยี่ยม 3 วันติด สังเกตว่าไม่มีญาติมาเยี่ยมเลย มีแต่คนดูแล คอยพลิกตัวไม่ให้เกิด
แผลกดทับ คอยเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้ลุง คอยพยุงลุงให้นั่ง คอยเกาให้เวลาคันเพราะแกเกาเองไม่ได้ ฯลฯ

ผมก็เลยถามลุงตรงๆ

“ คุณลุงครับ คุณลุงมีลูกหลานมั้ย ทำไมไม่มีใครมาเยี่ยมเลย ? ” ผมขมวดคิ้วถาม

“ ลุงมีลูกอยู่ 3 คน ทุกคนทำธุรกิจกันหมดเลยไม่มีเวลามาเยี่ยม ” ลุงพูดหน้านิ่งๆ

ผมหันไปมองผู้ดูแลผู้เปรียบเสมือนญาติของลุงตอนนี้ ยิ้มให้เค้า เค้ายิ้มแห้งๆกลับมา

“ คุณลุงครับ สมมตินะ สมมติ ว่าถ้าขอพรปีใหม่ได้นะ
ปีใหม่คุณลุงอยากได้อะไร ?

“ ลุงจะขอย้อนเวลากลับไป ไม่บ้าทำงาน ไม่ต้องรวยเป็นร้อยๆล้าน ไม่เอาเปรียบพี่น้อง ไม่เก็บรวบ
เอาสมบัติที่ร่วมทำกันมา เก็บเอาไว้ตนเดียวเพื่อเก็บไว้ให้ลูกๆของลุง ลุงจะไม่คิดโลภ ลุงจะเอา
เฉพาะส่วนของตน ทำอะไรแบบตรงไปตรงมา แล้วเอาเวลาไปดูแลสุขภาพ ไปอยู่กับลูกหลาน ไปทำ
สิ่งที่อยากทำ ใช้ชีวิตให้มีความสุข มีน้ำใจมีวาจาเป็นเมตตาเป็นมิตร เห็นอกเขาอกเรา
มีเมตตากับทุกๆคน“

ผมเงียบ ไปหลายวินาที นึกทบทวนหลายๆอย่าง

คืนนั้นผมเอาคำพูดคุณลุงไปคิด คิด แล้วก็คิดอีก ว่าจริงๆแล้วชีวิตผมต้องการอะไรกันแน่ ก่อนหน้านี้
ผมก็อยากมีเงินสักร้อยล้านก่อนอายุ 40 และทำได้แน่นอน
ถ้าผมใช้ศักยภาพสมองไปทำธุรกิจจริงจังโดยไม่ได้เป็นหมอรักษาคน
แต่ถ้ามีร้อยล้านแล้วไงต่อ ถ้าสุดท้ายแล้วเป็นอัมพาตเป็นมะเร็งคุ้มมั้ยหว่า ?

คำพูดของคุณลุงลอยขึ้นมาทุกครั้งที่ผมไปเยี่ยมแก ราวๆ 2 สัปดาห์ แกก็ออกจากโรงพยาบาล

ผมเล่าเรื่องลุงท่านนี้ให้คนไข้กับญาติฟังและคนอื่นๆฟัง ไม่ต่ำกว่า 500 รอบ

โดยเฉพาะคนที่บ้างาน บ้าเงิน คนที่ใช้ชีวิตสุดโต่ง โดยไม่รักสุขภาพ คนที่จ้องแต่จะเอาเปรียบ
คนอื่น คนที่ไม่เห็นใจคนขาดเมตตาธรรมในใจ ทุกวันนี้ผมรักษาเศรษฐี มหาเศรษฐี หรือ
อภิมหาเศรษฐี เป็นเรื่องปกติ แต่สัจจะธรรมข้อนี้ ก็เหมือนเดิม

ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา เวลามีคนถามผมว่า

“ ปีใหม่อยากได้อะไร ?” หรือ
“ เป้าหมายในชีวิตผมคืออะไร ? “

ผมก็ตอบไปอย่างมั่นใจว่า ...

“ ครอบครัว เวลา ความจริงใจ และความสุข ”

จะมีใครรักเราเท่าญาติและครอบครัว จะมีใครเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวตอนเราเป็นอัมพาต ตอนเราไม่มี
ประโยชน์ ตอนเราไม่มีค่าอะไร บางทีอาจไม่ใช่สายเลือดเดียวกันแต่เพราะเงิน และไม่จริงใจ
จะรักและหวังดีต่อกันจนเหมือนเป็นครอบครัวจริงๆก็คงยาก

จะมีทรัพย์สินใดหายากที่สุดเท่ากับเวลา ที่หมดไปทุกวัน แก่ตัวกันไปทุกวัน มีเงินร้อยร้อยล้าน
ก็ซื้อเวลากลับมาไม่ได้

จะมีสิ่งใดสำคัญที่สุดเท่ากับความสุข ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ร่างกายแข็งแรงปราศจากโรคภัย
จะรวยแค่ไหนก็ย้อนเวลามะเร็ง ย้อนอัมพาตไม่ได้

หมอไม่มีอะไรให้ นอกจากความจริงใจในการรักษาเหมือนญาติ ความรู้และฝีมือที่พยายามพัฒนา
ให้เก่งขึ้นทุกๆวัน ความสนุกสนานร่าเริงที่ทำให้คนไข้และญาติๆยิ้มหัวเราะได้

แต่ก่อนผมอยากมีเงินหลายร้อยล้านจะได้เอาไปซื้อทุกสิ่ง ที่อยากจะมีอยากจะได้

แต่ตอนนี้ผมแค่อยากมีความสุขที่แท้จริง เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ในทุกๆวัน

แล้วเพื่อนๆหล่ะ อยากได้อะไรครับ ?

🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓

มีสิ่งดีๆให้รีบทำกันนะครับ เพราะ เวลาสำหรับทำดีให้กับคนรอบข้าง และคนใกล้ตัวมันมีค่า
และเหลือเวลาอีกไม่มาก ในยามที่ต้องเจ็บป่วย

สำคัญอย่าลืม

ออกกำลังกาย เพื่อให้ได้สุขภาพ ที่ดี
สุขภาพที่ดีก็ทำให้เรา มีเวลา ต่อสู้กับโรค ภัย
ร่างกายแข็งแรงดี ก็จะทำให้เรา ทำมาหากินได้และไม่เป็นภาระ กับใคร

ที่สำคัญ ได้เพื่อน ได้พี่ได้น้องได้ญาติ ได้ความจริงใจ ได้เสียงหัวเราะ ชีวิตมีความสุข

เชื่อเถอะครับ เลือกเอา

มี เงิน-ไม่มีเวลา-ไม่มีสุขภาพ-มีญาติ
กับ
มี สุขภาพ-เวลา-ญาติ-เงิน

แบบไหน จะมีความสุข ในบั้นปลายชีวิต

💙💚💛💜💜💖

รักใครก็ส่งให้กันนะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ พ.ย. 13, 2023 10:45 pm

💥นศ.ชายหนุ่มวัย 19 ปีเป็นลมหมดสติกะทันหัน พอผลการวินิฉัยของคุณหมอออกมา
ย ทุกคนตกใจ จนเข่าแทบทรุด

เว็บไซต์ต่างประเทศ ได้รายงานว่า ในช่วงเช้าของวันหนึ่ง มีนักศึกษาหนุ่มหลายคนพาเ
พื่อนชายอายุ 19 ปี ที่เป็นลมหมดสติกะทันหัน มาที่โรงพยาบาล พวกเขาตะโกนเรียกหมอว่า
“คุณหมอครับ ช่วยเขาที เขาเป็นลมหมดสติกะทันหันครับ”

หลังจากถามอาการของคนไข้จากเพื่อนๆที่พามาส่งก็พบว่า คนไข้มีอาการขาซ้ายปวดและบวม
ในตอนตื่นนอน เพื่อนๆที่นอนในห้องเดียวกันต่างคิดว่า เป็นเพราะเขาเหนื่อยและนอนหลับไม่ดี
จึงมีอาการดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากทุกคนแต่งตัวเสร็จ และกำลังจะไปกินอาหารเช้าก็พบว่าเขา
ยังไม่ได้ลุกจากที่นอน และได้ยินเขาบอกว่า เขาปวดขาซ้ายมากๆ ให้ทุกคนช่วยส่งเขาไป
โรงพยาบาลหน่อย และในระหว่างทางไปโรงพยาบาล เขาก็เป็นลมหมดสติไปทันที หมอตรวจ
พบว่าเขาเป็นโรคหลอดเลือดดำอุดตันในปอด (pulmonary embolism) โรคหลอดเลือดดำอุดตัน
เกิดจากลิ่มเลือดแข็งตัว (emboli) ในหลอดเลือดดำ อาการนี้พบมากในบริเวณขา
(deep vein thrombosis) ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดหรือบวมของขาข้างนั้นๆ
ตั้งแต่น่องจนมาถึงต้นขาได้

เพื่อนๆ ของเขาฟังแล้วรู้สึกตกใจ จึงรีบถามหมอว่า
"เหตุใดเขาถึงได้เป็นโรคนี้?"

หมออธิบายว่า สาเหตุก็เพราะว่า เขานั่งนานเกินไป การนั่งนานๆ นั้นจะทำให้กล้ามเนื้อไม่ได้ขยับ
ติดต่อกันเป็นเวลานานและเลือดไม่สามารถไหลเวียนออกจากขาขึ้นมาสู่หัวใจได้ (stagnation of blood)
ทำให้หลอดเลือดดำในขาและเท้าเกิดการอุดตันได้ เช่นเดียวกับที่เกิดกับผู้โดยสารบนเครื่องบิน
(economy class syndrome)

นักศึกษาคนนี้ชื่อ "เซียว" เขามีนิสัยติดเล่นเกม นั่งเล่นแทบไม่ขยับไปไหน ทุกคืนต้องเล่นยันตีสองตีสาม
ถึงจะยอมไปนอน ส่วนสาเหตุที่เขาเป็นลมหมดสติ หมออธิบายว่า การที่เขานั่งเล่นเกมนานๆ ทำให้เป็น
โรคหลอดเลือดดำอุดตัน และมีอาการหายใจไม่ออก เพราะอุดตันที่ปอด สุดท้ายก็เป็นลมหมดสติไป

พอหมออธิบายเสร็จ เพื่อนคนหนึ่งที่พามาส่งก็ต้องตกกะใจว่า “ผมเองก็ติดเล่นเกมเช่นกัน หลังจากนี้
ไปคงไม่กล้านั่งเล่นนาน ๆ แบบนี้อีกแล้วล่ะครับ

ภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน เป็นภาวะที่เป็นอันตราย มันสามารถหลุดไปยังบริเวณหลอดเลือดดำที่ปอด
ทำให้เกิดภาวะ ลิ่มเลือดอุดตันในปอด ซึ่งมีอันตรายถึงชีวิตได้
อาการของลิ่มเลือดอุดตันในปอด คืออาการหายใจไม่สะดวกเฉียบพลัน แน่นหน้าอก และเจ็บหน้าอก
เป็นต้น อาจคิดว่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดก็ได้ การนั่งอยู่ในท่าเดิมนานๆ เช่นการเดินทางบนเครื่องบิน
หรือบนรถ สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำอุดตัน

หมออธิบายต่อว่า ผู้ป่วยที่เป็นโรคลิ่มเลือดอุดตันในปอด มี 90% เกิดจากภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน
และมีผู้ป่วย 80% เป็นโรคลิ่มเลือดอุดตันในปอด โดยจะเริ่มจากไม่มีอาการอะไรเลย โดยประมาณ 25%
ของโรคลิ่มเลือดอุดตันในปอด พบว่ามีการเสียชีวิตเฉียบพลันก่อนที่จะได้รับการวินิจฉัย

ลิ่มเลือดอุดตันในปอด เป็นภาวะแทรกซ้อนที่ต้องระวังให้มากที่สุด เกิดจากลิ่มเลือดกระจายไปอุดตันที่
หลอดเลือดส่วนปลายในปอดซึ่งส่วนมากไหลมาจากหลอดเลือดดำที่ขา ไปฟอกที่ปอด ภาวะนี้อันตราย
ถึงชีวิต ถ้าไม่ได้รับการรักษา

โชคดีที่เพื่อนๆ ส่งตัว เซียว มาโรงพยาบาลทันเวลา หลังจากได้รับการรักษาเขาก็เริ่มฟื้นตัว พอรู้อาการ
ของตัวเองเข้า เขาถึงกับต้องตะลึงจนพูดซ้ำๆว่า “แม่เจ้า เกือบไปแล้ว หลังจากนี้ไปผมคงไม่กล้านั่ง
นานๆ อีก และก็ไม่กล้าเล่นเกมดึกๆดื่นๆอีกแล้ว”

หมอแนะนำว่า ไม่ว่าจะทำงานหรือเรียน ควรหาเวลาพักผ่อน และออกกำลังกายด้วย ขยับร่างกาย
ตลอดเวลา ให้เลือดไหลเวียนตามปกติ จะได้มีสุขภาพที่แข็งแรง แต่สำหรับคนที่ต้องนั่งนานๆ ควรลุก
ขึ้นยืนและเดินทุก ๆ 2 ชั่วโมง ดื่มน้ำมากๆ จิบบน้ำเปล่าบ่อยๆ ป้องกันไม่ให้เลือดข้น ไหลหนืด ซึ่งเป็น
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดลิ่ม เลือดอุดตัน ไม่ควรนั่งนานเกินไป และอย่าลืมว่า ไม่ควรให้ร่างกายขาดน้ำ
เพราะจะทำให้เลือดอุดตันได้

นอกจากนี้แล้วการนั่งนานๆ อาจจะส่งผลทำให้เกิดโรคพวกนี้ได้ :

1. การนั่งนานเกินไปจะทำให้เจ็บสะโพก โดยมีอาการตึงและขยับไม่ค่อยได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อหด
และตึงขึ้นเรื่อยๆ อ่อนแรง ทำให้การเคลื่อนไหวสะโพกลำบากนี่เองที่เป็นสาเหตุสำคัญ ทำให้ผู้สูงอายุ
ล้มได้ง่าย

2. เมื่อร่างกายอยู่นิ่งเป็นเวลานานๆ เลือดและออกซิเจนจะไหลเวียนผ่านไปเลี้ยงสมองน้อยลง ส่งผล
ให้สมอง ทำงานช้าลง คนที่นั่งนานๆ จึงรู้สึกสมองตื้อ เฉื่อยชา เหนื่อยล้า นอนไม่หลับ ความจำเสื่อม

3. การนั่งนานเกินไปทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง ก่อให้เกิดอาการต่างๆ เช่นท้องผูก จุกแน่น
แสบร้อน หน้าอก ท้องอืดท้องเฟ้อ หรือนั่งๆกินๆ ไม่ออกกำลังกาย จะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ และ
กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง

4. การนั่งจะสร้างแรงกดที่กระดูกสันหลัง มากกว่าการยืน และสุขภาพแผ่นหลังจะยิ่งแย่ลง หากคุณนั่ง
หลังค่อมหน้าคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ

5. การนั่งนานๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งที่ลำไส้ใหญ่ (CA colon) มะเร็งเต้านม (CA Breast)
และเยื่อบุโพรงมดลูก แม้กระบวนการเกิดยังไม่ทราบแน่ชัด ซึ่งอาจเกิดจากตับอ่อนผลิตอินซูลินมากเกินไป
และไปกระตุ้นให้เซลล์เจริญเติบโตผิดปกติ แต่ข้อเท็จจริง ก็คือ การเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
จะกระตุ้นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) ในร่างกาย ให้คอยกำจัดอนุมูลอิสระ(free radicals)
ที่ทำให้เกิดเซลล์มะเร็ง

**********************************
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ พ.ย. 17, 2023 8:30 pm

... อ่านแล้วสบายใจ ...

▪︎จนก็ตาย
▪︎รวยก็ตาย
▪︎สวยก็ตาย
▪︎หล่อก็ตาย
▪︎ขี้เหร่ก็ตาย
▪︎ป่วยก็ตาย
▪︎สุขภาพดีก็ตาย
▪︎ไม่มีใครไม่ตาย

อย่าไปคิดเยอะกับชีวิต ว่าจะต้องได้อะไร ว่าจะเป็นแบบไหน
ว่าจะต้องเป็นเหมือนใคร

อะไรคว้ามาได้ "ก็ยินดี" อะไรสุดมือสอย "ก็ปล่อยไป"

เราเป็นเพียงแขกมาเยือนบนโลกนี้ สักวันเราก็ต้องไป

อยู่กับปัจจุบันให้ได้ ทำทุกวินาทีให้มีความหมาย เพียงเท่านี้ ก็พอแล้ว

อยู่เป็นกำลังใจให้กัน แล้วเราจะจากกันอย่างมีความสุข

...หิว ก็ กิน
...อิ่ม ก็ พอ
...ท้อ ก็ พัก
...หนัก ก็ วาง
...ง่วง ก็ นอน

อย่าจริงจังกับชีวิตนัก เดี๋ยวมันก็ผ่านไป
แบ่งปันความสุขกัน ให้อภัยกันมากๆ
แล้วเราจะจากไปอย่างสง่างาม

ยาอายุวัฒนะ​ 4​ อย่าง​ คือ​
ดื่มน้ำ นอนหลับ​ เดิน​ ร้องเพลง​
ที่สำคัญสุด​ ล้วนไม่มีค่าใช้จ่าย​

น้ำ​ เป็นสิ่งพื้นฐาน​ตลอดไปของชีวิต
การนอนหลับ​ จัดเป็นยาบำรุงที่ดีที่สุด​
การเดิน เป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุด​
การร้องเพลง​ ฟังเพลง​ เป็นการผ่อนคลาย​ที่รื่นรมย์​ที่สุด​

.. เหล่านี้ล้วนแต่เป็นยาอายุวัฒนะ​ที่ดีที่สุด
ความสุขอยู่ไม่ไกล.. อยู่ที่ใจ..เรานี่เอง

:s015:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ พ.ย. 20, 2023 8:36 pm

🛑 ควรสละเวลาอ่านสักนิด !

🔖🐀🐁 ... เรื่องหนู :-
* สำคัญ : โปรดอ่านเรื่องที่ทุกคนไม่เคยคิด *

🌻 เจ้าหน้าที่คลังสินค้า : ถูกส่งไปทำความสะอาดห้องเก็บของใน Maui, Hawaii
เมื่อเขากลับมา เขาก็บ่นว่าห้องเก็บของนั้นสกปรกจริงๆ และได้เห็นว่า 🐀 หนูแห้งตาย
: ถูกทิ้งไว้ในบางพื้นที่

🌻 สองสามวันต่อมา : อาการเขาเริ่มแย่ลง เป็นไข้หวัดลงกระเพาะอาหาร มีอาการปวดข้อ,
ปวดหัว และเริ่มอาเจียน

🌻 เขานอน และไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย ! ภายในสองวันเขาป่วยหนัก : น้ำตาลในเลือดของเขา
ลดลงเหลือ 66 ใบหน้า และดวงตาของเขามีสีเหลือง ห้องฉุกเฉินที่ Pali - Momi ได้วินิจฉัยว่า
เป็น " โรคไตวาย " และเสียชีวิตก่อนเที่ยงคืน

🌻 ไม่มีใครรู้เลย : ถึงความเกี่ยวเนื่องระหว่างงานของเขากับความตายของเขา ! ถ้าไม่ใช่หมอ
ที่ถามว่า ... เขาอยู่ในโกดังหรือไม่ ? และสัมผัสกับมูลสัตว์ของหนูตายบ้างไหม ?

👨‍🔬 หมอกล่าวว่า ... มีไวรัส ( เหมือนไวรัส Hanta ) ที่อาศัยอยู่ในหนูแห้งตาย และมูลของมัน
มูลเหล่านี้ ! เป็นเหมือนฝุ่น และผ่านการหายใจเข้าไปได้ ถ้าไม่สวมเครื่องป้องกัน หรือไม่ล้างหน้า
และมือให้สะอาด

🌻 ด้วยเหตุนี้ ! จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการล้างกระป๋องโซดา หรือ อาหารกระป๋อง และควรจะ
เช็ดกล่องบรรจุพาสต้า, ซีเรียล และอื่นๆ

🌻 เกือบทุกอย่างที่คุณซื้อในซุปเปอร์มาร์เก็ต : ถูกเก็บไว้ในคลังสินค้าในที่เดียวกัน
และร้านค้ามักมี 🐁 " หนู " อยู่

🌻 พวกเราส่วนใหญ่ : มักล้างผัก และผลไม้ แต่ไม่เคยนึกถึง " กล่อง และ กระป๋อง "

🌻 ความจริง คือ แม้แต่ห้างสรรพสินค้า ที่มีความทันสมัยที่สุด ก็มีหนู และคลังสินค้าของ
พวกเขา ไม่น่าไว้ใจมากที่สุด

🌻 เมื่อใดก็ตาม ที่คุณซื้อเครื่องดื่มน้ำอัดลมบรรจุกระป๋อง : โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่า ...
คุณล้างด้านบนด้วยน้ำ และ สบู่

🥛 การตรวจสอบกระป๋องน้ำอัดลม โดยศูนย์ควบคุมโรคในแอตแลนตา พบว่า บนฝาของ
กระป๋องโซดา เต็มไปด้วยคราบปัสสาวะแห้ง ซึ่งเป็นพิษที่เป็นอันตรายถึงตาย !

🥃 เครื่องดื่มบรรจุกระป๋อง และอาหารอื่นๆ จะถูกเก็บไว้ในคลังสินค้า และภาชนะบรรจุที่มัก
ถูกรบกวนด้วยหนู และจากนั้น มันก็จะถูกส่งไปยังร้านค้าปลีก โดยไม่ได้ทำความสะอาดอย่างถูกต้อง !

🌻 โปรดส่งต่อข้อความนี้ให้คนที่คุณใส่ใจ !
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ พ.ย. 20, 2023 10:47 pm

::017:: ::017:: ::017:: ::017:: ::017:: ::017::

เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นักธุรกิจชื่อดังคนหนึ่ง ของ เมืองไทย
ให้สัมภาษณ์ กับ นิตยสารฉบับหนึ่ง เขาเล่าว่า...ตลอดระยะเวลาที่ทำธุรกิจมา
ทั้งชีวิต เขามีเงินมาก พอที่จะตระเวนซื้อบ้าน ตั้งแต่ เชียงราย ถึงสุไหงโกลก
(เหนือสุด จรด ใต้สุด) มีบ้าน 'เกิน' 10 หลัง
"แต่ใน หนึ่งปีเขากลับได้นอน 'ไม่ครบ' ทุกหลัง คนที่ได้นอนครบเกือบ
ทุกหลัง คือ คนรับใช้ของเขา"

คนรับใช้ ได้นอนคฤหาสน์หรูที่เชียงราย เชียงใหม่ เลย ขอนแก่น ภูเก็ต
และ หัวหิน คนรับใช้ทุกคน อยู่อย่างมีความสุข ท่ามกลาง ธรรมชาติ
ต้นไม้ แม่น้ำ และ ความสงบ ภายในบริเวณบ้าน

แต่ เศรษฐีที่เป็นเจ้านาย กลับทำงานหนักงกๆอยู่ในกรุงเทพฯ ... แต่ละวัน
เจอรถติด'ไม่ต่ำกว่า' 3-4 ชั่วโมง และอาศัยอยู่ใน คอนโดฯ รังหนูขนาด '
ไม่ได้ครึ่งหนึ่ง' ของ บ้านพักตากอากาศที่เขาซื้เลย
นี่คือ ชีวิต ของคนกรุงที่เขาต้องเจออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

ขณะที่ชีวิตของเขากำลังไปได้ดี เขาก็เริ่มป่วยด้วยโรค สำหรับคนรวย
นั่นคือ 'โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่’ ในที่สุด เขาก็ต้องรับการบำบัดด้วยการฉาย
แสงคีโม แล้วผมก็ร่วง เขามองเห็นสภาพของตัวเอง นอนอยู่บนเตียง
รู้สึกตัวว่า ใกล้จะเป็น ‘ซอมบี้' เข้าไปทุกที ไม่นาน' ... ก็เกิดอาการ
บรรลุธรรมน้อยๆ ขึ้นมาบนเตียง ว่า ……

"แท้ที่จริงแล้ว ...”

- ชีวิตนั้น ต้องการที่นอนเพียงพอแค่ รองรับแผ่นหลัง ได้เท่านั้น

- เงิน ก็อยู่ในธนาคาร

- ชื่อเสียง ก็อยู่กับสายลม

ในช่วงแรกๆ ที่เขาป่วย ก็มีคน
ทยอยมาเยี่ยม แต่ครั้นเริ่มป่วยหนัก ก็ไม่มีใครมาเยี่ยมเลย ไม่มีคนอยากเห็น
สภาพ ของเขาแล้ว และเขาก็ไม่อยาก ให้ใครมาเยี่ยมเพื่อเห็นเขา ด้วย

เขาตัดสินใจว่า จะขอตายไปกับสภาพที่ไม่อยาก ให้ใครเห็น

วันหนึ่ง ... ตื่นขึ้นมาก็เกิดอาการ สังเวชตัวเองว่า

"ชีวิตเราที่จริงนั้น ไม่ต้องการอะไรมากเลย เราต้องการ 'สิ่งพื้นฐานที่สุด'
นั่นก็คือ

- ขอให้เส้นผม กลับมาสีดำเหมือนเดิม

- ขอให้เคี้ยวข้าว และ กลืนลงคอได้โดยไม่เจ็บ

- ขอแค่อยากเข้าห้องน้ำ ก็เดินเข้าได้โดยไม่ต้องมีคน คอยประคอง

- และ ขอให้นอนลงไปบนเตียงเต็มแผ่นหลัง โดยไม่ต้อง ร้องโอดโอย
เจ็บปวดแทบล้ม ประดาตาย

เขาเริ่มตระหนักได้ว่า "แท้จริงแล้วชีวิต ไม่ต้องการ อะไรมาก"
เขาตัดสินใจสละทุกอย่าง พอปล่อยลงปลงได้
ต่อมาก็หายป่วย'หนึ่งในล้านคน' จะเป็นอย่างนี้คนหนึ่ง

เมื่อออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว เขาก็ขายบ้านทุกหลังที่มี ตั้งแต่เหนือจรดใต้
เขาบอกว่า

"ป่วยใหญ่คราวนี้ ผมรู้เลยว่า 'สิ่งที่จำเป็นที่สุดของชีวิต' คืออะไร และหันหลังให้
ชีวิตความเป็นนักธุรกิจ อย่างสิ้นเชิง ตัดสินใจไป ใช้ชีวิตเรียบง่ายในต่างจังหวัด
ทำเกษตรอินทรีย์

- บอกลา ความหรูหรา เกียรติยศ

- บอกลา ชื่อเสียง ลาภยศ ทรัพย์สิน อำนาจ ที่คนประเคนให้ทั้งหมด

เมื่อความตายมาถึง สิ่งเหล่านี้ทั้งหลายกลับช่วยอะไรไม่ได้เลย

ทุกวันนี้ เขาอยู่กับ สิ่งที่มีความสุข เป็นชีวิตที่ แสนจะเรียบง่าย ไม่ต้องการ
อะไรมากมาย"
นี่คือตัวอย่างของคนที่ค้นพบ คุณค่าของชีวิตที่แท้จริง เมื่อค้นพบอย่างนี้

- เรื่องที่อยู่เขา 'ไม่สะสม' อีกต่อไป - สิ่งที่สะสมตอนนี้คือ สุขภาพ

เขา บอกว่าตอนที่ผมป่วย ผมลืมตาขึ้นมา เห็นแต่พยาบาล ญาติสักคนหนึ่ง
ก็ไม่เห็น ญาติมาเยี่ยม แล้วก็หายไป บอกว่า ติดงาน

เขาลุกขึ้นมาบนเตียงแล้วเขียนบันทึกในไดอารี่ ว่า "แม้ตอนที่ผมจะตาย
ญาติของผมก็ยังมีแก่ใจว่า ติดงาน สงสัยจะว่าง ตอนผมตายแล้ว…….

นี่คือสิ่งที่เขาสะเทือนใจที่สุด เขามารู้สัจธรรมบนเตียงนอน ในขณะที่เข้ารับ
การรักษา ในโรงพยาบาลนี่เอง และได้รู้ว่า " ชีวิตนี้ ต้องใช้ให้ง่ายที่สุด
ไม่อย่างนั้น จะไม่เหลือวันเวลา แห่งความสุขสำหรับตัวเองเลย "
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และ ดับไป

มรณานุสติ !!!

Cr.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร พ.ย. 21, 2023 7:21 pm

::015:: ::015:: ::015::

🤩อ.เฉลิมชัย พูดได้เหมือนบทความนี้เลยครับ
“คุกชีวิต ”
อายุมากแล้ว ยังติดคุกชีวิต น่าเวทนานัก

ขอมอบให้ผู้สูงวัย (รวมทั้งตัวเอง) ซึ่งอาจ “ติด”บางอย่างใน ๑๐ นี่แหละ
เป็น สว. ติดคุก​ ไม่สุขศานต
หนึ่ง “ติดบ้าน”
ไม่ยอมทัวร์​กลัวบ้านหาย
สอง “ติดหลาน”
เลี้ยงแย่จนแก่ตาย
สาม “ติดนาย”
น่าอนาถทาสหมาแมว
สี่คือ “ติด​ไม้กระถาง”
วางรอบบ้าน
ห้า “ติดงาน”
จนวันนี้​ไม่มีแผ่ว
หก “ติดหมอ”
นัดทุกวัน​อยู่นั่นแหล่ว
เจ็ด “ติดแกร่ว”
กับคนป่วย​ช่วยดูแล
แปด “ติดบ่วง”
ลูกห่วงใย​ไม่ให้เที่ยว
เก้า “ติดเหนียว”
กลัวเงินหมด​จะอดแย่
สิบ “ติดเตียง”
ตอนสุดท้าย​เสียดายแล
(ส่วนคนแก่ “ติดวัด” ไม่ขัดใจ
ทิ้งคุกเถิด​เปิดประตู​ สู่โลกกว้าง
พบเพื่อนบ้าง​
ย้อนวัน​อันสดใส
ทั้งกินเล่น​เต้นร้อง​
ท่องเที่ยวไป
เช้าวันใหม่ไลน์หากันให้บันเทิง

🤔เปิดใจให้กว้าง แล้วพิจารณา
ว่า คุณอยู่ในข้อไหน 😁😁
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ธ.ค. 02, 2023 7:15 pm

...ผม นพ.สมศักดิ์ เหล่าวัฒนา จุฬาฯ 26 MD 39 ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ

....จากงานผ่าตัดกระดูกสันหลังเป็นเวลา 20 กว่าปี พบว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนไข้มีปัญหาปวดหลัง
เรื้อรัง จนลุกลามเป็นโรคกระดูกสันหลังหลาย ๆ ชนิด
.....จนสุดท้ายเมื่อมีอาการมากขึ้น และจำเป็นต้องเลือกการผ่าตัด ซึ่งเป็นทางเลือกสุดท้ายในการรักษา
...สาเหตุนั้น ก็คือ
...กล้ามเนื้อหลังชั้นใน อ่อนแอ แอบซ่อนอยู่มาเป็นระยะเวลานานครับ
...อ่อนแอมานานจนแรงกระเทือนในชีวิตประจำวันส่งผลต่อกระดูกสันหลังทีละเล็กละน้อย...พออายุมากขึ้น
หน่อย กระดูกสันหลังก็เสื่อมโทรมก่อนวัย
...บางคนต้องถูกผ่าตัด ตั้งแต่อายุน้อย ๆ หรือบางคนแม้อายุมาก ๆ ก็หลีกเลี่ยงการผ่าตัดหลังไปไม่ได้
เนื่องจากเส้นประสาทหลังเริ่มเสียหายมากขึ้น

...วันนี้ ผมจะมาบอกเคล็ดลับ ข้อหนึ่งในหลายข้อที่ช่วยในการรักษาคนไข้ที่มีอาการปวดหลังหลาย ๆ แบบมานาน
...นั่นคือ วิธีการที่จะทำให้กล้ามเนื้อที่อ่อนแอ กลับขึ้นมาแข็งแรงดังเดิม หรือ ดีขึ้นกว่าเดิม

...เราเรียกว่าวิธีการบริหารแบบนี้ ว่า "Active Core Back Muscle Training Exercise"
...โดยการบริหาร จะต้องประกอบด้วย สามข้อ ที่สำคัญ ประสิทธิภาพที่รวดเร็วขึ้น คือ

1.ต้องทำ ทุกวัน ตรงเวลาทุกวัน

2.ต้องทำจำนวนเซ็ต จำนวนครั้งเท่าเดิม

3.ต้องเพิ่มน้ำหนัก ทีละเล็กละน้อย ทุก ๆ สัปดาห์

.....เคล็ดลับการบริหารกล้ามเนื้อหลังชั้นในวิธีนี้ ใช้เวลาสั้น ๆ เพียง 150 วินาทีต่อวัน
...แต่อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยทำให้ท่านทั้งหลายหายปวดหลัง รอดพ้นจากการผ่าตัดหลังไปได้
หรือไม่ต้องถูกผ่าตัดหลังซ้ำเป็นครั้งที่สอง ครั้งที่สาม ก็ได้ ใครจะไปรู้...
...ลองดูคลิปนี้ กันนะครับ
https://youtu.be/4qgW5yhklU4
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ธ.ค. 02, 2023 7:18 pm

ผ้าพันคอนั้นเป็นยาชนิดหนึ่งจริงๆ ซึ่งคน 99% ไม่รู้!

แพทย์แผนจีน อู๋ หมิงจู

ถ้าเป็นเช่นนั้นผ้าพันคอมีไว้เพื่ออะไร? คน 99% จะตอบอย่างแน่นอนว่าให้ความอบอุ่น
แต่หลายคนไม่รู้ว่าผ้าพันคอก็เป็นยาชนิดหนึ่งเช่นกัน

●เอฟเฟกต์ 1: ป้องกันโรคหวัดและบอกลาหัวหอมและกระเทียมไปได้เลย

คุณยังกินหัวหอมและกระเทียมเพื่อป้องกันโรคหวัดอยู่หรือไม่? จริงๆแล้วผ้าพันคอสามารถ
ช่วยแก้ปัญหาได้ ตามการแพทย์แผนจีน คอเป็นจุดที่เสี่ยงต่อลมและความหนาวเย็นมากที่สุด
ในฤดูหนาว ถ้าป้องกันคอได้ดี จะได้ผลดีกว่าการกินต้นหอมและกระเทียม!

ยังมีหลายคนที่สงสัยว่าทำไมถึงเป็นหวัดในฤดูร้อนและไม่ดีขึ้นเป็นเวลานาน?

คำตอบ: จริงๆ แล้วปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากการปรับอากาศ อุณหภูมิภายในอาคารต่ำและอุณหภูมิ
ภายนอกสูง อุณหภูมิสูงและต่ำหนึ่งครั้งจะทำให้ความต้านทานลดลง ผ้าพันคอสามารถช่วยป้องกัน
โรคจากเครื่องปรับอากาศได้

●ผลกระทบ 2: คอถูกเปิดออกน้อยลง และกระดูกสันหลังส่วนคอไม่ถูกรบกวน

การแพทย์แผนจีนเชื่อว่าลม ความเย็น ความร้อน ความชื้น ความแห้ง และไฟเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิด
โรค 6 ประการ โดยปัจจัยแห่งความชั่วร้ายจากลมหนาวจัดอยู่ใน 2 อันดับแรก คอคือ "ป้อมปราการ"
ของร่างกายมนุษย์ เต็มไปด้วยเส้นเลือด และมีจุดฝังเข็มที่สำคัญมากมาย เช่น จุดต้าจู่ย จุดเฟิงฉีบน
กระดูกสันหลังส่วนคอ และจุดเจี้ยนจิงที่ทอดยาวไปถึงไหล่ ดังนั้นฤดูหนาวจึงเป็นฤดูที่โรคกระดูกสันหลัง
ส่วนคอเกิดขึ้นบ่อยที่สุด ดังนั้นผ้าพันคอจึงสามารถปกป้องคุณจากลมและความหนาวเย็น และช่วย
ให้คุณห่างไกลจากโรคต่างๆ

●ผล 3: สามารถสวมผ้าพันคอได้ดี และจะไม่เกิดปัญหากับหลังของคุณ

ในฤดูหนาว หากคุณไม่สวมเสื้อผ้าที่มีคอสูง ลมหนาวเพียงเล็กน้อยก็จะเข้ามาที่คอของคุณ และร่างกาย
ของคุณจะสั่นสะท้าน ดังนั้นคอจึงกลัวการแช่แข็งมากที่สุด โดยเฉพาะคนสมัยใหม่ใช้คอมพิวเตอร์เป็น
เวลานานซึ่งอาจทำให้กล้ามเนื้อคอตึงได้ง่าย หากลมหนาวมากระทบหลังจะเย็นและกล้ามเนื้อจะมีอาการ
กระตุกและปวดได้ง่าย อาการปวดนี้จะแผ่ออกไปถึง บริเวณไหล่ด้านบนและบริเวณกระดูกสะบัก หากคุณ
เป็นหวัดซ้ำๆ เป็นเวลานาน คุณอาจป่วยเป็นหวัดหรือโรคไขข้อได้

●ประสิทธิผล 4: อุ่นขึ้นในฤดูหนาวและตื่นตัวตลอดทั้งวัน

ผ้าพันคอสามารถส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตและบรรเทาความเมื่อยล้า ไม่ว่าจะในฤดูหนาวหรือ
ในอาคารที่มีอากาศเย็นสบายในฤดูร้อน ผ้าพันคอก็เหมาะกับคุณที่สุด

:s004: :s004:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ธ.ค. 29, 2023 10:16 pm

ผู้สูงอาย ที่จู่ๆ ปัสสาวะไม่ออก

ควรทำอย่างไรดี

นี่คือประสบการณ์ที่ได้จากแพทย์เฉพาะทางที่ น่าทึ่งที่ได้ยินมา

เช้าวันหนึ่งเขามีปัญหาในการลุกขึ้น เขาอยากปัส สาวะ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ไม่สามารถปัสสาวะได้
พยายามซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็ไม่มีผล พยายามอย่างต่อเนื่องก็ไม่ได้ผลใดๆ

บางคนเจอปัญหาแบบนี้ืิหากพวกเขาลองสองหรือสามครั้ง อาจจะประสบผลสำเร็จ

แต่สำหรับเขาในตอนนี้ช่องท้องส่วนล่างหนักขึ้น จนไม่สามารถนั่งหรือยืนได้
และ ความกดดันก็เพิ่มขึ้น

โทรหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสา วะและอธิบายอาการ ก็ปรากฏว่าผู้เชี่ยวชาญด้าน
ระบบทางเดินปัสสา วะอยู่ในเขตชานเมือง คงจะกลับไปที่คลินิกได้ภาย ในหนึ่งชั่วโมงครึ่ง

โชคดีได้รับ โทรศัพท์จากหมอที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กเป็นหมอทางallopathic อีกคนหนึ่ง
เมื่ออธิบายสถานการณ์ให้เพื่อนฟัง เพื่อนของเขาตอบว่า:

"กระเพาะปัสสาวะเต็ม
คุณไม่สามารถปัสสาวะได้ ไม่ต้องกังวล ทำตามคำแนะนำนี้ แล้วคุณจะเอาชนะมันได้"

เขายังสั่ง: "ลุกขึ้น, กระโดดแรงๆ.
ยกมือขึ้นเมื่อกระโดด ทำท่าเหมือนกับเก็บมะม่วงจากต้น ทำเช่นนี้ 15 ถึง 20 ครั้ง"

อะไรนะ ให้ฉันกระโดดเหรอ แม้จะไม่ค่อยเชื่อนัก
แต่ ก็ต้องพยายามทำ ภายใน 5 ถึง 6 ครั้ง ก็โล่งใจ เมื่อปัสสาวะเริ่มไหล

เขารู้สึกขอบคุณเพื่อนร่วมรุ่นที่ช่วยแก้ปัญหานี้ด้วยวิธีง่ายๆได้เป็นอย่างดี

ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยา บาล จะต้องใส่สายสวน ฉีดยา ใช้ยาปฏิชีวนะ ฯลฯ
และมีความเครียดทางร่างกายและจิตใจ กับต้องจ่ายเป็นนับเป็นพันๆอย่างแน่นอน

*******

*โปรดแบ่งปันกันในกลุ่มผู้สูงอายุ มันอาจเป็นประ สบการณ์ที่ช่วยเหลือให้บางคนแก้ปัญหาฉุกเฉิน
ได้ด้วยวิธีการที่เรียบง่ายนี้ หรือใว้ใช้แบ่งปันกับผู้อื่นต่อไป

Cr: Surakhuang Asavanich
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ก.พ. 05, 2024 9:30 pm

ท่าน ดร.นราวดี​ แสงรัตนกุล
อายุ 85 ปี แล้วครับท่านส่งมาให้อ่าน
⏰ถ้าไม่อ่าน..คุณจะเสียใจ💥

▪️อย่าไปวิตกกับสิ่งที่ผ่านมา ความพ่ายแพ้ หรือความผิดหวัง ความสุข หรือความทุกข์
เพราะหากชีวิตมนุษย์จะเรียบง่าย คงไม่เริ่มต้นด้วยการร้องไห้เมื่อแรกเกิด
▪️คนเรา " เกิดมา " พร้อมกับเสียงร้องไห้ของตัวเอง แต่
▪️ " ตายไป " พร้อมกับเสียงร้องไห้ของผู้อื่น ช่วงเวลาระหว่างนั้น เรียกว่า " ชีวิตคน "
▪️แมวชอบกินปลา แต่แมวลงน้ำไม่ได้
▪️ปลาชอบกินไส้เดือน แต่ขึ้นฝั่งมากินไส้เดือนไม่ได้
▪️ ชีวิตคนเรา " มีได้ - มีเสีย "
มีทั้ง "ได้เลือก" และต้อง "ล้มเลิก"
▪️ในชีวิตคนเราไม่มีทางที่ทุกอย่างจะเป็นไปดั่งใจนึกได้หมด
▪️จงอย่าไปคิดเล็กคิดน้อยกับใครเพราะมันไม่คุ้ม
▪️จงอย่าจริงจังกับ ตัวเองเกินไปเพราะจะทำร้ายตัวเอง
▪️จงอย่าไปจมอยู่แต่อดีต เพราะมันไม่ได้อะไรขึ้นมา..
▪️จงอย่าจริงจังกับปัจจุบันมากไปเพราะชีวิตยังคงต้องเดินต่อไป..
▪️ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นของๆ เรานอกจากสุขภาพกายที่แข็งแรง
(⭐อันมาจากสุขภาพใจที่เข้มแข็ง เปี่ยมกำลังใจ)
▪️อย่าได้อวดเรื่องเงินเรื่องทอง
ตายไปก็กลายเป็นเพียงเศษกระดาษ
▪️อย่าได้อวดเรื่องหน้าที่การงาน
ลาออกไปแล้วจะมีคนมาแทนที่คุณและอาจทำได้ดีกว่าคุณ
▪️อย่าอวดเรื่องบ้านเรื่องรถ
ตายไปแล้วก็เป็นของทายาท..คุณหมดเวลา
▪️คุณอวดเรื่อง" สุขภาพแข็งแรง "จะดีกว่า
คนอื่นตายไปแล้วคุณยังนอนเล่นริมทะเลนั่งจิบชามองดูลูกหลาน..
อย่างมีความสุขและเข้าใจในชีวิต.
⭐ "10 ปี 7 ครั้ง"
ค่อยๆ ตั้งใจอ่าน
เปิดใจรับแล้วจะพบแต่ความสุขที่ได้เกิดมาบน โลกใบนี้.....
▪️"ชีวิตคนเราจะมีสิบปีสักกี่ครั้งกัน"
ชอบประโยคนี้มากมันจริงอย่างยิ่ง
▪️ถ้าคนเราอายุเฉลี่ย 70 ปี
เราก็มี 10 ปีแค่ 7 ครั้ง
▪️1. สิบปีแรก...หมดไปกับความไร้เดียงสา
▪️2. สิบปีต่อมา...หมดไปกับการศึกษาเล่าเรียน
▪️3. สิบปีต่อมา...หมดไปกับการทำงานและการใช้ชีวิต
▪️4. สิบปีต่อมา...หมดไปกับการสร้างฐานะ สร้างครอบครัว
▪️5. สิบปีต่อมา...หมดไปกับการลงหลักปักฐาน รักษาสิ่งที่หามา
▪️6.สิบปีต่อมา...หมดไปกับการดูแลรักษาสุขภาพกายใจให้แข็งแรง
▪️7.สิบปีสุดท้าย...หมดไปกับการปล่อยวางทุกสิ่งรอคอยการกลับบ้าน
▪️แต่ละสิบปีผ่านไป...
ไวเหมือนโกหกอีกไม่นานปีนี้ก็จะผ่านไป
▪️มีอะไรที่เราทำไปแล้วมากมายและก็ยังมีอะไรอีกมากมายที่เรายังไม่ได้ทำ
▪️ เวลา คือ หน่วยเงินในกำมือของเราที่เอาไปแลกสิ่งอื่น
- เราเอาเวลาไปแลกงาน
- เราเอางานไปแลกเงิน
- แต่เราก็ไม่เคยเอาเงินไปแลกเวลาคืนกลับมาได้สักที
▪️ถ้า 'ธนาคารเวลา' มีจริง
เราก็ไม่เคยมีสมุดบัญชีสักเล่มที่จะให้เราดูได้..ว่าตอนนี้เหลือเวลาอยู่เท่าไหร่?

◾เรารู้ว่าเราใช้ "สิบปี" ของเราไปกี่ครั้งแล้ว
◾แต่เราไม่อาจรู้ว่า...
เราจะใช้ "สิบปี" ที่เหลือของเราได้ครบมั้ย
▪️แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับเราใช้เวลาสิบปีของเราไปคุ้มค่าหรือเปล่า
▪️เมื่อเราหันหลังกลับมาขอให้พูดได้เต็มปากว่าเราใช้มันไปอย่างไม่น่าเสียดาย

⭐ ชี วิ ต ค น เ ร า จ ะ มี "สิ บ ปี" สั ก กี่ ค รั้ ง กั น?
⭐ ใช้สิบปี เจ็ดครั้งของเรา ใ ห้ คุ้ ม ค่า

สวัสดีกับสิบปีปัจจุบันของท่าน
เขียนดีมาก อ่านให้จบ คุณอาจจะหัน มารักตัวเอง...

⭐สรุป: ชีวิตที่เรียบง่าย ให้สนุกกับการใช้ชีวิต 30% ที่เป็นของคุณ
⭐- ไม่เจ็บปวดแต่ก็ต้อง บำรุง
⭐- ไม่กระหายแต่ก็ต้อง ดื่มน้ำ
⭐- ว้าวุ่นแค่ไหนก็ต้อง ปล่อยวาง
⭐- มีเหตุมีผลแต่ก็ต้อง ยอมคน
⭐- มีอำนาจแต่ก็ต้องรู้จัก ถ่อมตน
⭐- ไม่เหนื่อยแต่ก็ต้อง พักผ่อน
⭐- ไม่รวยแต่ก็ต้อง รู้จักพอเพียง
⭐- ธุระยุ่งแค่ไหนก็ต้องรู้จัก พักผ่อน
⭐- หมั่นเตือนตน : ชีวิตนี้สั้นนัก

🔺️# อยากกิน...กิน
🔺️# อยากเที่ยว....เที่ยว
🔺️# เรื่องกลุ้มอย่าเก็บไว้
🔺️# ไม่เครียด ปล่อยวาง
🔺️# สุขสบายทุกเพลา

◾ เวลาที่ยังจับมือไหว
ให้เชิญเพื่อนมาสังสรรค์
หรือออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ บ้าง

◾ เวลาที่ยังกอดไหว
ให้โอบกอดให้ชื่นใจ

◾ ทำหน้าที่พ่อ แม่ ลูก สามี ภรรยา
พี่ น้อง และเพื่อนที่ดีต่อไป

▪️ ครอบครัวสุขสรรค์ มาก่อนเสมอ !!!
▪️ เวลาที่อยู่ด้วยกัน
อย่าได้โกรธกันง่ายๆ
▪️ที่สำคัญ ต้องเป็น "ผู้ให้" ก่อนเสมอ
▪️เต็มใจ - สุขใจ ที่เป็นผู้ "ให้"
▪️รู้จัก "ขอโทษ" และ "สำนึกผิด"
ทุกครั้งที่ทำ "ผิด"
▪️ ท้ายสุด "ปล่อยวาง" และ "พอเพียง"
⭐ คิดดี ทำดี พูดดี...มีสุข

# ถ้าคุณส่งให้เพื่อนๆแสดงว่าคุณเป็นคนรักและหวังดีกับเพื่อนคุณ #ถ้าไม่ส่งแสดงว่า
คุณรักแต่ตัวเองไม่คิดจะเผื่อแผ่ความสุขให้คน รอบข้างและเตือนสติเพื่อนของคุณ

เพื่อนในไลน์ส่งมา
ตอบกลับโพส