“หัวใจผู้กล้าของเบนนี่” ( 4ตอนจบ)

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร เม.ย. 20, 2021 2:45 pm

.....หัวใจผู้กล้าของเบนนี่ (ตอนที่ 1)
โดย Lawrence Elliott; จากหนังสือสรรสาระฉบับเดือนมิถุนายน.2544/2001;
รวบรวมโดย กอบกิจ ครุวรรณ

......ลินดา ซวีเกิล ทุ่มเทความรักให้ลูกชายทั้งสองอย่างสุดหัวใจ เอริกลูกชายคนโตอายุ 21 ปี โตพอจะดูแลตัวเองได้แล้ว ขณะที่เบนนี่ลูกคนเล็กยังชอบวิ่งโผเข้ากอดแม่แน่นด้วยรอยยิ้ม แม้เบนนี่วัย 16 ปีจะมีผลการเรียนแค่ระดับปานกลาง แต่ผู้เป็นแม่ซึ่งทำงานเลี้ยงลูกตามลำพังก็รู้สึกภูมิใจอย่างยิ่ง
เบนนี่เล่นเบสบอลเก่ง และใฝ่ฝันจะเป็นนักเบสบอลอาชีพ เขามีใจรักด้านซ่อมแซมเครื่องยนต์กลไก
ลินดาเห็นถึงพรสวรรค์ของลูก ในเช้าวันหนึ่งเมื่อเธอบ่นเรื่องตู้เย็นเสียและไม่มีเงินซื้อใหม่ พอเธอคล้อยหลังออกจากบ้านไปทำงาน เบนนี่ซึ่งทำทีว่ากำลังจะไปโรงเรียนก็ย้อนกลับมาที่บ้านและใช้เวลาทั้งวันรื้อตู้เย็นทีละส่วนเพื่อซ่อมแซมแล้วประกอบเข้าที่ เมื่อลินดากลับถึงบ้าน ตู้เย็นก็อยู่ในสภาพใช้ได้เหมือนเดิม
“ลูกซ่อมให้แม่เหรอ” เธออ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ เบนนี่ยิ้มอาย ๆ ทันใดนั้นเธอก็นึกขึ้นได้แล้วพูดว่า “ลูกหนีโรงเรียนล่ะสิ” เขาพยักหน้า
“แม่โกรธผมมั้ยครับ” เขาถาม คราวนี้ลินดาเป็นฝ่ายเข้าไปกอดลูก เบนนี่เป็นเด็กหนุ่มที่มีฝีมือและน้ำใจงาม เธอเชื่อว่าสักวันจะค้นพบตัวเองและได้ทำในสิ่งที่ชอบ
แต่แล้วทุกสิ่งก็กลับตาลปัตร ในคืนวันศุกร์ที่ 17 กันยายน 1993 เมื่อเบนนี่ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงที่จุดนัดพบ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านนั่นเอง
ก่อนเวลา 21.30 น.เล็กน้อย มีรถยนต์คันหนึ่งแล่นผ่านบริเวณนั้นและเกิดการด่าทอเสียดสีกันขึ้น หลังจากนั้น 20 นาทีรถคันดังกล่าวกลับมาอีกครั้งหนึ่ง คนที่นั่งข้างคนขับยกปืนขึ้นกระหน่ำยิง 4 นัดจากหน้าต่างรถ เบนนี่ถูกยิงเข้าที่หลังกกหูขวาล้มฟุบลงกับพื้นทันที
เอริกพี่ชายรีบวิ่งไปที่ถนนหลังได้ยินเสียงปืน เขาเห็นกลุ่มเพื่อน ๆ ของเบนนี่แตกฮือ หนึ่งในนั้นตะโกนว่า “พวกมันยิงเบนนี่”
เขาเข่าอ่อนเมื่อเห็นกองเลือดบริเวณศีรษะของน้องชายซึ่งลมหายใจแผ่วเต็มที “ใครก็ได้ ช่วยเรียกตำรวจให้ที” เขาพูดขณะวิ่งไปบอกแม่ แล้วรีบกลับมาหาเบนนี่
โปรดติดตามตอนที่ (2)ในวันพรุ่งนี้
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ เม.ย. 21, 2021 2:41 pm

.....หัวใจผู้กล้าของเบนนี่ (ตอนที่ (2)
โดย Lawrence Elliott;
จากหนังสือสรรสาระฉบับเดือนมิถุนายน.2544/2001;
รวบรวมโดย กอบกิจ ครุวรรณ
........เอริกจับมือน้องชายไว้และได้แต่พูดว่า “น้องต้องไม่เป็นอะไร” แต่ลินดามองปราดเดียวก็รู้ว่าลูกอาการสาหัส
เบนนี่อยู่ในห้องเวชบำบัดวิกฤตโดยมีท่อช่วยหายใจและเครื่องมือระโยงระยางอยู่ทั่วตัว เด็กหนุ่มดูคล้ายกำลังนอนหลับ หมอให้ลินดาดูฟิล์มสแกนสมองและอธิบายว่า กระสุนปืนฉีกเนื้อสมองเหมือนแก้วที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ สมองเขาตายไปแล้ว ถ้าไม่มีเครื่องช่วยชีวิตเหล่านี้ หัวใจและปอดก็ล้มเหลว หมอถามว่าจะให้ทำอย่างไรต่อไป ลินดาตอบว่า ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น เธอแค่อยากได้ลูกชายคืน
หลายชั่วโมงผ่านไปจากกลางคืนจนรุ่งสาง ลินดาพยายามทำใจยอมรับความสูญเสีย เบนนี่จะไม่มีโอกาสเติบโตเป็นผู้ใหญ่อีกแล้ว เธอไม่เคยเจ็บปวดแสนสาหัสเช่นนี้มาก่อน พร้อมกับคิดว่า คนที่เป็นแม่จะยืนหยัดสู้ต่อไปได้อย่างไรเมื่อต้องสูญเสียมากขนาดนี้
มีคนขอร้องให้เธอไปพบเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาของศูนย์รับบริจาคอวัยวะ ทางศูนย์พยายามปลอบใจและอธิบายว่า เบนนี่สามารถให้ชีวิตและการมองเห็นแก่ผู้อื่นได้โดยการบริจาคอวัยวะ ส่วนที่ยังสมบูรณ์อยู่ ลินดาปฏิเสธเพราะไม่เข้าใจว่าจะมีประโยชน์อะไร ที่จะเฉือนร่างกายของเบนนี่เป็นชิ้น ๆ
แต่ที่สุดเธอก็ตอบตกลงโดยไม่ทราบสาเหตุว่าทำไป เพื่อให้จิตวิญญาณของลูกดำรงอยู่ต่อไป หรือเพื่อให้โอกาสเด็กชายรุ่นราวคราวเดียวกับเบนนี่ได้มีโอกาสใช้ชีวิตอันมีค่า แต่เธอก็อนุญาตให้หมอผ่าตัดเอากระจกตา ตับอ่อน ตับ ไต ปอด เนื้อเยื่อกระดูก และหัวใจออกจากร่างของเบนนี่ เธอรู้เพียงว่าอวัยวะเหล่านี้จะเดินทางไปอยู่กับผู้คนที่ไม่รู้จัก
เวลา 16.45 น. เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพยืนยันการตายของเบนนี่ ลินดากลับบ้านด้วยความคิดว่าหัวใจต้องเชื่อมโยงถึงจิตวิญญาณได้ ในค่ำคืนอันยาวนานนั้น เธอเฝ้าแต่สงสัยว่า ใครหนอจะได้ครองจิตวิญญาณของเบนนี่
เช้าวันต่อมาในเมืองที่ห่างออกไป 145 กิโลเมตร ไลล์ ชายวัย 60 ปีตื่นขึ้นพร้อมความรู้สึกขอบคุณที่ยังมีชีวิตอีกวัน เขาต้องทนทุกข์กับอาการโรคหัวใจขาดเลือดอย่างรุนแรง 3 ครั้ง และผ่าตัดหัวใจมาแล้ว 2 ครั้ง ไลล์ใช้ชีวิตอยู่กับความรู้สึกเจ็บหน้าอกเกือบตลอดเวลา จึงไม่สามารถช่วยงานในไร่ของครอบครัวได้ ความหวังเพียงอย่างเดียวคือการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ
ชื่อของไลล์อยู่ในบัญชีรายชื่อรอผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจของศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด บางคนในบัญชีนั้นโชคดี ทางศูนย์ฯเคยเรียกตัวเขามาแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องพบความผิดหวัง
โปรดติดตามตอนที่ (3)ในวันพรุ่งนี้
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2021 10:40 am

.....หัวใจผู้กล้าของเบนนี่ (ตอนที่ 3)
โดย Lawrence Elliott;
จากหนังสือสรรสาระฉบับเดือนมิถุนายน.2544/2001;
รวบรวมโดย กอบกิจ ครุวรรณ
............ครั้งแรกขณะเตรียมตัวเข้ารับการผ่าตัด หมอกลับบอกว่า หัวใจที่จะนำปลูกถ่ายบอบช้ำเกินกว่าจะใช้งานได้ อีกครั้งคือเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่ไลล์กับภรรยาขับรถไปเที่ยวทะเล วิทยุติดตามตัวของเขาเกิดขัดข้อง เมื่อกลับมาฟังข้อความจากเครื่องตอบรับที่บ้านก็พบข้อความว่า “เราได้หัวใจมาใหม่แล้ว รีบติดต่อกลับโรงพยาบาล ด่วน” แต่ก็สายเกินไปแล้ว
วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายนนั้นเอง ขณะที่เขากับภรรยาเดินทางไปโบสถ์ เสียงวิทยุติดตามตัวก็ดังขึ้นพร้อมกับข้อความว่ามีหัวใจสำหรับเขา ทันทีที่ไปถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่นำไลล์เข้าห้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วนเพื่อผ่าตัดเอาหัวใจเดิมที่โตและทำงานหนักเกินไปออก แล้วเย็บหัวใจที่แข็งแรงขนาดเท่ากำปั้นติดกับเส้นเลือดแดงใหญ่แทน หัวใจดวงใหม่เริ่มเต้นเป็นจังหวะทันที
เมื่อฟื้นจากการผ่าตัด ไลล์รู้สึกเหมือนเป็นคนใหม่ เสียงหัวใจผ่านหูฟังของแพทย์เดินอย่างหนักแน่นและสม่ำเสมอต่างจากหัวใจเดิมอย่างสิ้นเชิง เมื่อกลับถึงบ้าน ไลล์ก็เดินได้กระฉับกระเฉงจนภรรยาเดินตามแทบไม่ทัน เขาสามารถเก็บกวาดใบไม้และกลับไปหางานอดิเรกคือการตั้งแคมป์และทำเฟอร์นิเจอร์ได้
ไลล์รู้ตั้งแต่ต้นว่าหัวใจดวงที่ช่วยชีวิตเขาเป็นของใคร เขาเห็นจากแฟ้มประวัติขณะถือไปพบหมอว่าหัวใจเป็นของผู้บริจาควัย 16 ปีซึ่งเสียชีวิตเพราะถูกยิง และเมื่อตรวจสอบข่าวในหนังสือพิมพ์ก็ทำให้ทราบเรื่องราวทั้งหมดของเบนนี่ เนื่องจากประวัติข้อมูลของผู้บริจาคอวัยวะควรจะเก็บเป็นความลับ ไลล์จึงไม่ติดต่อกับลินดาโดยตรง แต่ส่งข้อความผ่านเครือข่ายผู้บริจาคอวัยวะแสดงความขอบคุณอย่างซาบซึ้งต่อเธอโดยไม่ลงชื่อ
หลังการจากไปของเบนนี่ ชีวิตของลินดาเหมือนอยู่ไปวัน ๆ เธอทำทุกอย่างตามหน้าที่ปกติ คือไปทำงาน ทำความสะอาดบ้านและเตรียมอาหาร แต่ด้วยความรู้สึกล่องลอย ลินดายังเฝ้ารอเสียงเปิดประตูและเสียงตะโกนของเบนนี่ว่า “แม่ครับ ผมกลับบ้านแล้ว”
เมื่อได้รับจดหมายขอบคุณไม่ลงชื่อจากชายผู้ได้หัวใจของเบนนี่ เธอถึงกับตัวสั่นที่ทราบว่าเขาเป็นชายวัย 60 ปี ทำไมหมอถึงหยิบยื่นหัวใจของเบนนี่ให้กับคนที่ใกล้ตายอย่างนี้ ความหวังที่ต้องการมอบหัวใจของลูกแก่เด็กหนุ่มหรือเด็กสาวเพื่อจะได้ใช้ชีวิตต่อไปอีกนาน ทดแทนช่วงเวลาที่เบนนี่สูญเสียไปกลับพังทะลายลงโดยสิ้นเชิง

โปรดติดตามที่ (4)ในวันพรุ่งนี้
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ เม.ย. 23, 2021 11:22 am

หัวใจผู้กล้าของเบนนี่ (ตอนที่ 4)
โดย Lawrence Elliott;
จากหนังสือสรรสาระฉบับเดือนมิถุนายน.2544/2001;
รวบรวมโดย กอบกิจ ครุวรรณ
........ แม้ตำรวจจะจับตัวกลุ่มวัยรุ่นชายที่ฆ่าเบนนี่ได้ และศาลตัดสินว่าพวกเขามีความผิด แต่ก็ไม่ทำให้จิตใจลินดาสงบสุขลงได้ เด็กเหล่านั้นถูกดำเนินคดีในฐานะเยาวชนและคงได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระเมื่อพวกเขาอายุ 25 ปี ขณะที่ลูกต้องนอนอยู่ในหลุมฝังศพตลอดกาล
ระหว่างนั้น ไลล์กับภรรยาย้ายไปอยู่ในชุมชนของคนวัยเกษียณ บ่ายวันที่ 19 เมษายน 2000 ทั้งสองเข้าร่วมประชุมผู้พักอาศัยแต่ก็ต้องขอตัวออกจากงานมาก่อนเนื่องจากไลล์มีนัดตรวจร่างกายประจำปีเวลา 14.45 น.
ขณะเดินมาถึงทางออก ริชาร์ด กลาสเซล ชายไว้เคราร่างยักษ์ก็เดินมาขวางทั้งคู่ เขาเป็นคนท้องถิ่นที่มีนิสัยประหลาดดูน่ากลัว “กลับไปนั่งที่” เขาคำรามใส่และผลักไลล์อย่างรุนแรง
ไลล์แทบช็อกเมื่อเห็นปืนพกที่ชายร่างยักษ์ถืออยู่ในมือ ไลล์ยืนบังภรรยาไว้ขณะมองตามริชาร์ดซึ่งเดินห่างออกไป
“เขามีปืน” ไลล์ตะโกน
“ฉันจะฆ่าพวกแกให้หมดเลย” ริชาร์ดตะโกนพร้อมกับเริ่มยิง
ไลล์ดึงภรรยาให้หลบขณะที่เขาเห็นเพื่อนร่วงจากเก้าอี้และได้ยินเสียงร้องของผู้บาดเจ็บ ผู้คนต่างคว่ำหน้าอยู่กับพื้นตะเกียกตะกายหาที่กำบัง
ทันใดนั้น เสียงปืนก็หยุดลง ริชาร์ดวางปืนพกพร้อมกับยกปืนไรเฟิลขึ้นมา “เขาตั้งใจจะฆ่าพวกเราทั้งหมดจริง ๆ ด้วย” ไลล์คิด แต่แล้วเหมือนได้ยินเสียงหนึ่งดังก้องขึ้นในใจบอกเขาว่า “คุณหยุดเขาได้ คุณสามารถเข้าถึงตัวเขาก่อนที่เขาจะหันกระบอกปืนมาทางคุณ เอาสิ จัดการเลย”
ไลล์พุ่งตัวใส่ราวกับเป็นนักฟุตบอลวัยรุ่นที่เข้าปะทะเพื่อล้มคนหนัก 135 กิโลกรัมอย่างริชาร์ดลงไปกองกับพื้น แต่อีกฝ่ายสู้อย่างมีโทสะ ทั้งยังข่วนตะกุยไลล์ระหว่างการยื้อแย่งปืน
ริชาร์ดเหนี่ยวไก ช่วงที่เสียงปืนดังสนั่น เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายคนหนึ่งก็ร้องโหยหวน ไลล์ปัดปืนหล่นลงพื้นและปลดไก ชายร่างยักษ์พยายามบิดตัวหนี แต่ไลล์สามารถกดเขาไว้กับพื้นจนมีคนมาช่วยดึงปืนออกและช่วยกันจับคนร้ายมัดมือมัดเท้าไว้
เมื่อตำรวจไปถึงก็พบว่า ริชาร์ดมีกระสุนปืนมากพอจะฆ่าทุกคนในชุมชนได้ มีผู้เสียชีวิต 2 คนและอีก 3 คนได้รับบาดเจ็บ ไลล์คือผู้ช่วยชีวิตพวกที่เหลืออยู่ในเหตุการณ์ แม้มือของเขาจะถูกข่วนเลือดอาบ แต่จังหวะหัวใจของเบนนี่ยังคงเต้นตามปกติ
ลูกสาวของไลล์ตื้นตันในคำขอบคุณที่หลั่งไหลมาจากผู้คนที่พ่อช่วยชีวิต เธอตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วที่แม่ของเบนนี่น่าจะรู้จักคนที่มีชีวิตอยูได้ด้วยหัวใจของลูกชายเธอ ลูกสาวไลล์จึงเปิดเผยเรื่องนี้ให้นักข่าวชื่อคิมิ โยชิโนะ ทราบ
ตอนแรกลินดาไม่อยากรับรู้ แต่สุดท้ายทุกอย่างก็กระจ่าง เรื่องของชายชราที่เดินไปไหนมาไหนได้ด้วยหัวใจของเบนนี่และช่วยชีวิตคน 41 คนไม่ให้ถูกฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหด แล้วลินดาก็รู้สึกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไป ราวกับว่าเธอทิ้งภาระหนักอึ้งที่แบกไว้นานไปเสียที เธออ่านเรื่องราวในหน้าหนังสือพิมพ์ซ้ำหลายหนด้วยน้ำตาคลอเบ้า แต่เป็นน้ำตาแห่งความปีติและความภาคภมิใจ หัวใจของเบนนี่รักษาชีวิตผู้คนไว้มากมาย ทั้งยังช่วยไม่ให้ครอบครัวคนเหล่านั้นต้องพบกับความเศร้าโศกแบบที่เธอต้องเผชิญมาตลอด 7 ปี
การตายของเบนนี่หลอกหลอนเธอมาตลอด แต่มาบัดนี้กลับดูมีความหมายมากขึ้น ลินดาไม่อาจหยุดคิดถึงลูกผู้เป็นที่รัก ทว่า ตอนนี้เธอสามารถทนความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้ เธอเชื่อว่าเสียงที่ปลุกความกล้าของไลล์ในวันนั้น คือ “เสียงของลูกชาย” ตอนนี้ลินดารู้แล้วว่า จิตวิญญาณของเบนนี่เป็นเช่นไร
******************
จบบริบูรณ์
ตอบกลับโพส