“อัศจรรย์สายประคำ” รอดปลอดภัยกลางระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมา

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ เม.ย. 30, 2021 6:07 pm

+ อัศจรรย์สายประคำ – รอดปลอดภัยกลางระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมา !!!

ลิตเติลบอย (อังกฤษ: Little Boy) เป็นชื่อรหัสของระเบิดปรมาณู ที่ถูกนำไปทิ้งเหนือเมืองฮิโรชิม่า
ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 โดยเครื่องบิน B-29 Superfortress
(เครื่องบินลำนี้มีชื่อ Enola Gay) ผู้ทำหน้าที่นักบินคือ นายพันโทพอล ทิบเบตส์ (Paul Tibbets)
แห่งกองกำลังอากาศในกองทัพบกสหรัฐอเมริกา (ภายหลังได้ยกฐานะขึ้นเป็นกองทัพอากาศ)
นับเป็นระเบิดปรมาณูลูกแรก ที่ใช้ในการสงคราม ส่วนระเบิดปรมาณูลูกที่สอง ซึ่งมีชื่อว่า แฟตแมน นั้น
ถูกนำไปทิ้งเหนือเมืองนางะซากิของญี่ปุ่นในอีก 3 วันต่อมา

... การทิ้งระเบิดถล่มเมืองฮิโรชิม่า

เอกสารของทางการระบุว่าอานุภาพของระเบิดปรมาณูลูกนี้เทียบเท่ากับการระเบิดของ
ระเบิดทีเอ็นที (TNT) ปริมาณราว 15 กิโลตัน นั่นคือ 6.3 × 1013 จูล = 63 TJ (เทอราจูล)
อย่างไรก็ตาม ความเสียหายและจำนวนของเหยื่อระเบิดลูกนี้มีสูงกว่ามาก เพราะเมืองฮิโรชิมา
นั้นอยู่บนที่ราบ ขณะที่จุดศูนย์กลางของเมืองนางะซากิอยู่ในหุบเขาขนาดเล็ก

มีผู้คนประมาณ 70,000 คน เสียชีวิตอันเป็นผลจากการระเบิดโดยตรง และที่ได้รับบาดเจ็บ
อีกเป็นจำนวนใกล้เคียงกัน ขณะที่ผู้คนอีกจำนวนมากเสียชีวิตในภายหลังจากการะเบิด
อันเนื่องมาจากกัมมันตรังสี และมะเร็ง สำหรับมารดาที่กำลังตั้งครรภ์นั้นก็ต้องสูญเสียทารก
ในครรภ์ไป หรือมิฉะนั้นก็ให้กำเนิดทารกที่พิการ เสื้อผ้าไหม้หมดจนเหลือแต่เนื้อตัวเปล่าเปลือย

ความสำเร็จของการทิ้งระเบิดครั้งนี้ได้ถูกรายงานข่าวกระจายออกไปอย่างกว้างขวาง
ในสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางความอยากรู้ นักวิจารณ์จำนวนมากคาดว่าน่าจะเป็นจุดสิ้นสุด
ของสงครามก่อนที่มันจะ ยืดเยื้อและมีการบุกเกาะญี่ปุ่นอย่างนองเลือด

พระเจ้าทรงฤทธิ์ ทรงปกป้องผู้ที่ถวายตัวแด่พระองค์อย่างน่าอัศจรรย์ เป็นต้น
โดยทางสายประคำ – แม้ในท่ามกลางการระเบิดนิวเคลียร์อันทรงพลัง ด้วยความพยายาม
ในการค้นหาข้อมูลเพื่อความถูกต้อง แม่นยำ และสามารถพิสูจน์ได้จริง – ทั้งจากแหล่งข้อมูล
โดยตรง และข้อมูลแวดล้อมมากมายเท่าที่สามารถกล่าวอ้างอิงได้

บ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ห่างแปดช่วงตึก ( ประมาณ 1 กิโลเมตร ) จากจุดศูนย์กลางของระเบิดปรมาณู
ที่ถูกทิ้งลงเหนือเมืองฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น บ้านหลังนี้เป็นบ้านพักพระสงฆ์ สร้างติดกับโบสถ์
หลังหนึ่งซึ่งได้ถูกทำลายเสียหายอย่างสิ้นเชิง แต่บ้านดังกล่าวรอดปลอดภัย รวมทั้งมิชชันนารี
เยซูอิตชาวเยอรมันทั้งสี่องค์ ที่สวดสายประคำอย่างซื่อสัตย์ทุกวันในบ้านหลังนั้น คนเหล่านี้เป็น
มิสชันนารีทำงานกับคนญี่ปุ่น พวกเขาไม่ใช่ฝ่ายทหาร แต่ที่อยู่ในญี่ปุ่นได้ เพราะว่าประเทศเยอรมัน
(ฝ่ายอักษะ) และประเทศญี่ปุ่น เป็นพันธมิตรกันระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2

พระสงฆ์เหล่านี้ได้รับอนุญาตให้อาศัยและดูแลเรื่องศาสนาภายในประเทศญี่ปุ่นได้ระหว่างสงคราม
พวกเขาไม่เพียงแต่รอดชีวิต ซึ่งมีเพียงการบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ แต่ทุกคนยังดำเนินชีวิตต่อมา
จากวันอันน่าขนพองสยองเกล้านั้น โดยไม่ได้รับความเจ็บป่วยหรือผลกระทบใดๆ จากรังสีของ
ระเบิดปรมาณู ไม่สูญเสียการได้ยิน ไม่เกิดความบกพร่องหรือความป่วยไข้ที่ส่งผลยาวนาน
เป็นธรรมดา พวกเขาถูกสัมภาษณ์นับครั้งไม่ถ้วน ( คุณพ่อชิฟเฟอร์ ผู้รอดชีวิตคนหนึ่ง ว่ากันว่าถูก
สัมภาษณ์มากกว่า 200 ครั้ง ) โดยนักวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลสุขอนามัย
ถึงประสบการณ์ที่น่ากลัวนั้น บรรดาพระสงฆ์กล่าวว่า...

"เราเชื่อว่า เรารอดชีวิตมาได้เพราะเราดำเนินชีวิตตามสาส์นแห่งฟาติมา เราสวดสายประคำทุกวัน
ในบ้านหลังนั้น" แน่นอนว่า นักวิทยาศาสตร์และชาวโลกพูดอะไรไม่ออกและไม่เชื่อในคำอธิบายนั้น –
พวกเขามั่นใจว่าจะต้องมีคำอธิบาย "ที่จริงจัง" มากกว่านั้น แต่ในอีก 55 ปีต่อมา
บรรดานักวิทยาศาสตร์ยังคงรู้สึกฉงนสนเท่ห์ เมื่อภาพปรากฏที่น่าเชื่อถือได้ เพื่ออธิบายการรอดชีวิต
แบบไม่มีใครเหมือน ของบรรดามิสชันนารีจากอำนาจน่าสะพรึงกลัวเยี่ยงนรกของระเบิดลูกนั้น

“ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ระเบิดปรมาณูถูกทิ้งลงในญี่ปุ่นสองเมือง คือ ฮิโรชิม่าและนางาซากิ
สิ่งผิดปกติเกิดขึ้นที่ฮิโรชิมา ชุมชนเล็กๆของพระสงฆ์เยซูอิตอาศัยอยู่ในบ้านพักพระสงฆ์ ซึ่งอยู่ห่าง
จากศูนย์กลางระเบิด (ground zero) เพียงแปดช่วงตึก เมืองฮิโรชิม่าถูกทำลาย แต่สมาชิกทั้งหมดของ
ชุมชนเยซูอิตเล็กๆ กลับรอดพ้นอย่างปาฏิหารย์และไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด ขณะที่ ทุกคนที่อยู่
ภายในรัศมีราวหนึ่ง 1 กิโลเมตรครึ่ง จากศูนย์กลางของระเบิดเสียชีวิตทั้งหมด
บ้านพักที่พระสงฆ์เยซูอิตอาศัย ยังคงยืนหยัดอยู่ที่เดิม ไม่เพียงไม่ถูกทำลาย แม้แต่กระจกก็ไม่มี
ร่องรอยใดใดจากไฟและคลื่นความร้อนของระเบิดปรมาณู ขณะที่โบสถ์ใกล้ๆนั้น ถูกทำลายราบทั้งหมด.
ประชาชนที่โชคดีที่อยู่รัศมีเขตศูนย์กลางจะตายอย่างมีความสุขในทันทีโดยไม่รู้สึกตัว ร่างกายจะ
แปรสภาพเป็นเถ้าถ่านในชั่วพริบตาเดียว ผู้คนที่อยู่ห่างออกไป จะได้รับผลกระทบจากกระแสความร้อน
ทำให้บาดเจ็บทรมานอย่างมาก ผิวไหม้ เกรียม

คุณพ่อฮิวเบิร์ก ชิฟเฟอร์ เป็นคนหนึ่งในบรรดาพระสงฆ์เหล่านั้น เขาอายุ 30 ปีเมื่อระเบิดปรมาณู
ระเบิดที่ฮิโรชิมา และยังคงมีชีวิตอีก 33 ปีต่อมาด้วยสุขภาพดี คุณพ่อเล่าทบทวนประสบการณ์
ที่ฮิโรชิม่าระหว่างการประชุมเคารพศีลมหาสนิท ซึ่งจัดขึ้นที่ฟิลาเดลเฟีย (สหรัฐอเมริกา) ในปี 1976
ณ เวลานั้น สมาชิกชุมชนเยซูอิตทั้งหมดยังคงมีชีวิตอยู่ทุกคน

คุณพ่อชิฟเฟอร์ได้รับการตรวจร่างกายและถูกซักถามจากบรรดานักวิทยาศาสตร์มากกว่า 200 คน
ซึ่งก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าคุณพ่อและเพื่อนๆของท่านรอดชีวิตท่ามกลางผู้เสียชีวิตจำนวนนับแสนได้อย่างไร
คุณพ่อได้อธิบายเรื่องนี้ว่า มาจากการปกป้องของแม่พระ ท่านประกาศว่า "พ่ออยู่ตรงกลางการระเบิด
ของระเบิดปรมาณู และพ่อยังคงมีชีวิตอยู่ตรงนี้และสบายดี พ่อมิได้ถูกทำร้ายด้วยการทำลายล้างของมัน."
ยิ่งกว่านั้น คุณพ่อชิฟเฟอร์ยังยืนยันด้วยว่าเป็นเวลาหลายปีแล้ว ที่ผู้ชำนาญการและฝ่ายสอบสวนจำนวน
หลายร้อย ยังคงศึกษาและสอบสวนด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ในข้อที่ว่าทำไมบ้านพักพระสงฆ์จึงไม่ได้
รับผลกระทบเลย คุณพ่ออธิบายว่าในบ้านหลังนั้นมีเพียงสิ่งเดียวที่แตกต่างออกไป คือ ในบ้านหลังนั้น
มีการสวดสายประคำพร้อมกันทุกวันเป็นเวลานานแล้ว

"จงตระหนักเถิดว่า ด้วยสายประคำ..ลูกมีอำนาจอยู่ในมือ เพราะมือของลูกอยู่ในพระหัตถ์ทรงฤทธิ์ของ
พระเป็นเจ้า. หากลูกจำสายประคำของแม่ไม่ได้ , แล้วลูกจะจดจำพระบุตรของแม่ได้หรือ?
เหตุใดลูกจึงยังคงเก็บสายประคำซ่อนไว้?
สายประคำนี้ คือหัวใจรักของแม่ ที่แม่มอบให้ลูก..ไข่มุกแห่งสวรรค์ที่ลูกปฏิเสธ.

วิบัติจงเกิดแก่ผู้ที่นำสายประคำนี้ออกจากมือของผู้บริสุทธิ์คนหนึ่ง พวกเขาจะต้องได้รับผลแห่ง
โทษทัณฑ์เหล่านั้น

เหตุใดจึงยังสงสัยในความรักของแม่กันอยู่อีก คนที่ซื่อสัตย์สวดสายประคำของแม่ ไฟจะแตะ
ต้องเขาไม่ได้ รวมถึงทรัพย์สินของพวกเขาด้วย ลูกรัก เวลากำลังจะมาถึงแล้ว ฉับพลันพวกเขา
จะอันตรธานไป" - แม่พระแห่งสายประคำ 6 ตุลาคม 1970

CR. : a little sheep
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ เม.ย. 30, 2021 6:10 pm

"จงตระหนักเถิดว่า ด้วยสายประคำ..ลูกมีอำนาจอยู่ในมือ เพราะมือของลูกอยู่ในพระหัตถ์ทรงฤทธิ์
ของพระเป็นเจ้า. หากลูกจำสายประคำของแม่ไม่ได้ , แล้วลูกจะจดจำพระบุตรของแม่ได้หรือ?
เหตุใดลูกจึงยังคงเก็บสายประคำซ่อนไว้?
สายประคำนี้ คือหัวใจรักของแม่ ที่แม่มอบให้ลูก..ไข่มุกแห่งสวรรค์ที่ลูกปฏิเสธ.

วิบัติจงเกิดแก่ผู้ที่นำสายประคำนี้ออกจากมือของผู้บริสุทธิ์คนหนึ่ง พวกเขาจะต้องได้รับผลแห่ง
โทษทัณฑ์เหล่านั้น

เหตุใดจึงยังสงสัยในความรักของแม่กันอยู่อีก คนที่ซื่อสัตย์สวดสายประคำของแม่
ไฟจะแตะต้องเขาไม่ได้
รวมถึงทรัพย์สินของพวกเขาด้วย ลูกรัก เวลากำลังจะมาถึงแล้ว ฉับพลันพวกเขาจะอันตรธานไป" -
แม่พระแห่งสายประคำ 6 ตุลาคม 1970
ตอบกลับโพส