“ตายอย่างไรให้สงบ “ (ช่วงCovid19ระบาด)

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ พ.ค. 01, 2021 10:06 pm

.....ตายอย่างไรให้สงบ.......

พี่บุคลากรทางการแพทย์ท่านนึงโพสต์ไว้ Covid19

สุดท้ายทีมก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะทางออกเดียวคือใส่ท่อช่วยหายใจ ถ้าคนไข้บอกไว้ก่อนแล้วว่าไม่
ต้องการใส่ท่อหรือปั๊มหัวใจ เราก็ได้แต่ให้ยามอร์ฟีนเพื่อให้คนไข้ไม่ทรมาน

Process of dying นี่แหละคือความน่ากลัว ไม่มียาฆ่าไวรัส ไม่มียารักษา รักษาตามอาการ
ยาที่ใช้อยู่ตอนนี้ก็เหมือนเสี่ยงดวง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับดวง!!

คือทั้งทีมได้แต่ยืนมองคนไข้นอนทุรนทุรายกระเสือกกระสนต่อสู้เพื่อลมหายใจแต่ละเฮือก

แต่ละเฮือกนั่นเป็นสิ่งที่แสนทารุณ ญาติพี่น้อง ลูก หลาน ผัว เมีย ก็ไม่ได้ร่ำลา เป็นการตายที่
โดดเดี่ยวและทรมาน

บางทีก็อดคิดไม่ได้ว่าคนไข้เหล่านี้จะกลัวและโดดเดี่ยว ขนาดไหนในช่วงเวลาสุดท้ายและ
ลมหายใจสุดท้ายของชีวิต คนรักษาก็ได้แต่ยืนมองแล้วก็ได้แต่คิดว่าวันนี้เราจะดวงดีเหมือน
เมื่อวานไหม แล้วพรุ่งนี้ล่ะ

เรายืนมองคนไข้ที่รู้หละว่าอาจจะอยู่ได้ไม่ถึงเวลาที่เราจะออกกะคือ 12 ชั่วโมง แต่ทำอะไรไม่ได้
นอกจากให้ยากดประสาทเพื่อคนไข้จะได้ทรมานน้อยลงและหวังว่าจะจากไปอย่างสงบ

เหมือนเราไร้ค่าและไม่มีประโยชน์อะไรเลย ที่ร่ำเรียน ฝึกฝนมาไม่ได้ช่วยใครได้เลย

คุณลองคิดดูว่าถ้าพ่อ แม่ พี่น้องหรือคนที่คุณรัก ต้องตกอยู่ในสภาพเดียวกับคนใข้ของเราล่ะ
ไปส่งกันที่โรงพยาบาล ลูบหน้าลูบหลังลากัน แล้วนั่นคือสัมผัสสุดท้าย กอดสุดท้าย การลาครั้งสุดท้าย
คุณยังไม่ได้สั่งเสีย ไม่ได้ขอโทษ ไม่ได้บอกรักกัน ไม่ได้บอกว่าคุณโชคดีที่ได้รู้จักและได้ใช้ชีวิตร่วมกัน
เป็นพ่อ แม่ ลูกกัน เป็นคนรักกัน เป็นเพื่อนกัน นี่แหละคือความทรมาน และปวดร้าวใจ

... ตอนนี้ถึงเข้าใจว่าทำไมเราต้องให้อภัยกัน กอดกัน และบอกรักกันทุกวัน

คุณโชคดีที่ได้นอนอยู่บ้าน มีinternet มีหนังดู มีขนมกิน ได้อยู่กับครอบครัว ถ้าคุณอยากจะบ่น
ก็ขอให้คิดถึงพวกเราที่โรงพยาบาล เราก็กลัว เราก็เหนื่อย เราก็ล้าและเราก็มีคนที่รักเรา
รอเรากลับบ้านเหมือนคุณ

เราก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้กล้าหาญอะไร ออกจะกลัวจนขี้ขึ้นสมองด้วยซ้ำ ถ้าเลือกได้เราก็
ขอนอนดูหนังอยู่ที่บ้านเหมือนพวกคุณ เราก็ไม่อยากมาทำงานที่นอกจากจะต้อง พก PPE แล้วยัง
ต้องมีพระเครื่องพวงใหญ่ที่พ่อแก้วแม่แก้วให้มาคุ้มครองปกป้องลูกที่ตอนนี้ก็ปาเข้าไป 40กว่า

อยู่บ้านเถอะคุณ ถ้าคิดว่าตัวเองติดเชื้อก็อย่าโกหก กักตัวเองเถอะ อย่าเห็นแก่ตัว คุณอาจจะไม่เป็นอะไร
คุณอาจจะไม่มีใครรักหรือห่วงคุณ

คุณอาจจะเห็นแก่ตัวไม่รักและไม่ห่วงใคร แต่คนที่คุณเอาโรคไปติดเขานั้น เขาก็มีครอบครัว
มีคนที่รักเขา เขาอาจจะเป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นลูก เป็นเพื่อน

ใครจะรู้เขาอาจจะเป็น คนเดียวที่หาเลี้ยงทั้งครอบครัว เขาอาจจะเป็นความหวังเดียวของพ่อแม่
ที่แสนชรา หรือเป็นพ่อ หรือ แม่ เลี้ยงเดี่ยวของลูกพิการที่รออยู่ที่บ้าน เขาอาจจะมีกันแค่สองคนพี่น้อง

อยากจะขอร้องให้ทุกคนร่วมมือกัน ถ้าไม่คิดว่าทำเพื่อตัวเอง ก็ทำเพื่อคนอื่น หรือเพื่อชาติก็แล้วกัน

#Patcharin kic
:s015: :s015:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ พ.ค. 07, 2021 1:09 pm

คนวัย 65-85 ปี พึงตระหนักไว้
ปัฟลอฟ นักสรีรวิทยาชาวรัสเซียผู้มีชื่อเสียงกล่าวว่า “ความสุขคือเคล็ดลับประการเดียวของสุขภาพ”
ความสุขและสุขภาพมีความเกี่ยวข้องกันโดยธรรมชาติ เราจะทำให้ตนเองมีความสุขมากขึ้นได้อย่างไร
หลังจากที่เราย่างเข้าสู่วัยชรา
1. ถ้าคุณอายุ 65-85 ปี คุณควรเข้าใจว่า คุณไม่ได้เป็นซูเปอร์แมนอีกต่อไปแล้ว อย่าเหน็ดเหนื่อยตลอดวัน
คุณควรใช้ชีวิตอย่างสงบ ตัวอย่างเช่น ควรกินข้าวทีละคำ และทำสิ่งต่างๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป
อยู่อย่างสงบยังไม่พอ คุณควรแสดงตัวเองในเวลาที่เหมาะสมและทำให้วันธรรมดาเปล่งประกายเจิดจ้า
2. ถ้าคุณอายุ 65-85 ปี คุณควรเข้าใจว่า คุณภาพชีวิตขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจของคุณอย่างแท้จริง ทุกวัน
ปลิงทะเล หอยเป๋าฮื้อ ปลาตัวใหญ่ เนื้อชิ้นใหญ่ อาหารโอชะจากภูเขาและทะเล ภัตตาคารชั้นสูงระดับ
ห้าดาว ไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตที่มีคุณภาพสูง การมีความพึงพอใจเท่านั้นคือชีวิตที่มีคุณภาพ
3. ถ้าคุณอายุ 65-85 ปี คุณควรเข้าใจว่า ความบาดหมางในครอบครัวเป็นความปวดร้าวที่ทุกข์ทรมาน
การผ่อนปรน การให้อภัย และการอดกลั้นจะช่วยให้จิตใจของเรากว้างขึ้น สงบขึ้น และเป็นมิตรขึ้น
4. ถ้าคุณอายุ 65-85 ปี คุณควรเข้าใจว่า การเลือกเพื่อนเป็นเรื่องสำคัญ การเป็นเพื่อนกับคนที่มองโลก
ในแง่ดีและมีความคิดแบบเดียวกัน จะช่วยให้คุณเป็นคนมองโลกในแง่ดีและร่าเริงเช่นกัน
5. ถ้าคุณอายุ 65-85 ปี คุณควรเข้าใจว่า การเรียนรู้ยังเป็นเรื่องจำเป็น ดำรงชีวิตและเรียนรู้ ใส่ใจกับ
ความรู้ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับงานอดิเรก สิ่งเพลิดเพลินใหม่ๆ ลองทำสิ่งที่ตนสนใจอย่างกล้าหาญ
อย่ากลัวการเรียนรู้และการรื่นเริง
6. ถ้าคุณอายุ 65-85 ปี คุณควรเข้าใจว่า ควรพึ่งตนเองมากกว่าพึ่งผู้อื่น ปัญหาบางอย่างจำเป็นต้อง
แก้ไขด้วยตนเอง จงเชื่อมั่นในตนเอง เผชิญหน้ากับเรื่องท้าทายอย่างซึ่งๆ หน้า มองอุปสรรคว่าเป็น
โอกาส และเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์
7. ถ้าคุณอายุ 65-85 ปี คุณควรเข้าใจว่า สถานภาพและเกียรติยศเป็นเพียงถ้วย การอบรมบ่มเพาะ
และบุคลิกของคุณเป็นสิ่งที่อยู่ในถ้วย แก้วใสอาจไม่ใช่แก้วเหล้าองุ่น มันอาจเป็นแก้วน้ำโคลน
ในถ้วยเครื่องเคลือบดินเผาใบหนาอาจไม่ใช่น้ำเดือด แต่มันอาจเป็นน้ำชาชั้นเลิศ
8. ถ้าคุณอายุ 65-85 ปี คุณควรเข้าใจว่า ผู้สำนึกในบุญคุณเป็นผู้มีความสุขมากกว่า เมื่อได้รับความกรุณา
ไม่ว่าจะมากหรือน้อย คุณควรรู้จักแสดงความขอบคุณ คุณควรแสดงความขอบคุณต่อครอบครัว งาน
และเพื่อน คุณอาจบอกพวกเขาเป็นการส่วนตัวว่าคุณมีความสุขเพราะมีพวกเขาในชีวิตคุณ
9. ถ้าคุณอายุ 65-85 ปี คุณควรเข้าใจว่า ควรยิ้มง่าย ยิ้มบ่อยๆ โดยไม่ต้องกังวล อย่าเคร่งเครียดเกินไป
เกี่ยวกับตนเองหรือชีวิตของคุณ พยายามค้นหาเรื่องสนุกเล็กๆ น้อยๆ รอบตัวคุณ มีอารมณ์ขันในเวลาที่
เหมาะสม และทำให้ชีวิตเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
10. ถ้าคุณอายุ 65-85 ปี คุณควรเข้าใจว่า ความสุขสูงสุดอยู่ที่การมีคนเอาใจใส่ต่อคุณ ถ้าไม่มีใคร
เอาใจใส่ต่อคุณ คุณต้องเอาใจใส่ต่อตนเอง จงมั่นใจว่าคุณได้พักผ่อน ออกกำลังกาย และกินอาหาร
ที่ดีต่อสุขภาพ บริหารสมองในลักษณะที่สนุกและน่าตื่นเต้น และกระตุ้นความคิดให้ฉับไว
อย่ากังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญของชาติที่คุณไม่ควรหรือไม่สามารถจัดการได้ เมื่อคุณกลายเป็น
คนแก่ที่เกรี้ยวกราด คุณคิดว่าคุณมีความรับผิดชอบ มันทำให้คุณเต็มไปด้วยเรื่องกังวลใจ
และเรื่องพร่ำบ่น ซึ่งทำให้อารมณ์เสีย
อย่าลืมส่งต่อให้ญาติและเพื่อนที่มีอายุระหว่าง 65-85 ปี

:s015: :s015:
ตอบกลับโพส