เรื่องจริงของ นักโทษประหาร โคลด์ นิวแมน

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ มิ.ย. 05, 2021 11:41 am

เรื่องจริงของ
นักโทษประหาร โคลด์
นิวแมน (1944)
โดย จอห์น เวนนัน ลงใน " คาทอลิก แฟมิลี่ นิวส์ " มีนาคม 2001

เวลาแห่งพระหรรษทาน; มิสซิปปีในปี ค.ศ.1944

"เรื่องจริง" ของโคลด์ นิวแมน เกิดขึ้นที่ มิสซิปปี ในปี ค.ศ 1944 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ถูกเล่าโดยคุณพ่อ โอ ลิลรี่ พระสงฆ์ประจำสังฆมณฑล ท่านเป็นผู้ที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์นี้
โดยตลอด และได้เล่าเรื่องโดยบันทึกเทปมอบเป็นอนุสรณ์แก่พวกเราที่เป็นชนรุ่นหลังได้รู้..

โคลด์ นิวแมน :
โคลด์ นิวแมนเป็นชายชาวนิโกรทำงานในไร่ของเจ้าของที่ดินรายหนึ่ง เมื่ออายุได้ 17 ปี
เขาได้แต่งงานกับสตรีซึ่งมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน สองปึต่อมา ในวันหนึ่ง เขาได้ออกไป
ทำงานในไร่ มีเพื่อนคนงานวิ่งมาแจ้งแก่เขาว่า ภรรยาของเขากำลังร้องขอความช่วยเหลือ
ออกมาจากบ้าน โคลด์ รีบวิ่งไปที่บ้านทันทีและก็ได้เห็นชายคนหนึ่งกำลังปลุกปล้ำภรรยาของเขา
โคลด์เหลือบไปเห็นขวานวางอยู่จึงจับด้ามขวานขึ้นแล้วจามเข้าไปที่ศีรษะชายคนนั้นจนหมอบราบ
ลงกับพื้น เขาพบว่าผู้ตายก็คือลูกจ้างซึ่งทำงานให้กับเจ้าของที่ดินรายเดียวกันและรู้จักมักคุ้นกันดี
โคลด์ถูกจับและถูกพิพากษาตัดสินว่าเป็นฆาตกรมีโทษต้องถูกประหารชีวิตด้วยการนั่งเก้าอี้ไฟฟ้า...
ระหว่างที่ต้องโทษในคุกเพื่อรอเวลาที่จะถูกประหารอยู่นั้น เขาถูกขังรวมกับนักโทษอื่นๆ
อีก 4 คน คืนวันหนึ่ง นักโทษทั้งห้าคนนั่งล้อมวงพูดคุยกัน เมื่อเลิกจากการพูดคุยโคลด์สังเกตว่า
นักโทษคนหนึ่งห้อยเหรียญอย่างหนึ่งไว้ที่คอ เขาถามชายหนุ่มคนนั้นว่านั่นคืออะไร? เด็กหนุ่มคนนี้
เป็นคาทอลิกบอกกับเขาว่าเป็นเหรียญอย่างหนึ่ง โคลด์ถามต่อว่า " มันเป็นเหรียญอะไรล่าะ? "
หนุ่มคาทอลิกนั้นอธิบายไม่ได้ว่าเป็นเหรียญอะไรและมีไว้เพื่อจุดประสงค์อะไร เด็กหนุ่มรู้สึกโมโห
กระชากสร้อยและเหรียญออกจากคอขว้างทิ้งลงบนพื้นแทบเท้าของโคลด์ ทั้งยังพูดสบถสาปแช่ง
และบอกกับโคลด์ให้เก็บเอาสิ่งนัันไปเสีย...
โคลด์จึงเก็บเหรียญขึ้นมาสวมที่คอของเขา เมื่อได้รับอนุญาตจากนักโทษผู้นั้น สำหรับเขาแล้ว
มันเป็นเพียงสิ่งของธรรมดาชิ้นหนึ่ง แต่เขาอยากจะสวมมันไว้..

ในคืนนั้น ขณะที่นอนหลับอยู่ในเตียงซึ่งสร้างเป็นชั้น เขาตกใจตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกว่ามีใครมา
สัมผัสที่ข้อมือของเขา ต่อมาโคลด์ได้เล่าเรื่องให้แก่พระสงฆ์-มีสตรีคนหนึ่งสวยงามยิ่งกว่าสตรีใดๆ
ที่พระเป็นเจ้าสร้างมา ยืนอยู่เบื้องหน้าเขาตกใจมากสตรีนั้นทำให้เขาสงบใจลง และพูดกับเขาว่า
" ถ้าเธอต้องการให้เราเป็นแม่ของเธอ และเธอต้องการเป็นลูกของเรา
จงไปหาพระสงฆ์พระศาสนจักรคาทอลิก " แล้วสตรีก็หายไป
โคลด์ตกใจกลัวร้องเสียงดัง " ผี ผี" พร้อมกระโจนไปหาเพื่อนนักโทษคนอื่นๆ เขาร้องเอะอะอีกว่า
ต้องการพบพระสงฆ์คาทอลิก
คุณพ่อโอ ลิล รี่ พระสงฆ์ผู้เล่าเรื่องนี้ ถูกเรียกให้ไปห้องคุมขังในตอนเช้า ท่านมาถึงและพบกับโคลด์
โคลด์ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนวันก่อน แล้วโคลด์กับนักโทษอีกสี่คนก็ขอเรียนคำสอนจากท่าน

คุณพ่อโอลิลลี่สัญญากับพวกเขาว่าจะสอนคำสอนให้ตามที่พวกเขารัองขอท่านกลับไปที่โบสถ์
และเล่าเรื่องให้คุณพ่ออธิการฟัง ในวันต่อมาท่านมาสอนคำสอนตามสัญญา
เมื่ออยู่กันตามลำพัง โคลด์พูดกับคุณพ่อ "พระนางบอกกับผมว่าถ้าคุณพ่อสงสัยหรือไม่แน่ใจละก็
ให้ผมเตือนคุณพ่อให้ระลึกถึงเวลาที่คุณพ่ออยู่ที่ฮอลแลนด์ในปี ค.ศ 1940 คุณพ่อได้ทำสินบนต่อ
พระนางไว้ พระนางรอให้คุณพ่อทำตามที่สาบาน" คุณพ่อกล่าวว่า "โคลด์สามารถบอกกับ
คุณพ่อได้อย่างถูกต้องว่าสินบนนั้นคืออะไร"...? เหตุนี้เองคุณพ่อเชื่อแน่ว่าเรื่องที่โคลด์เล่าเปันความจริง...

พวกเขา กลับมาเริ่มเรียนคำสอนว่าด้วยเรื่องการสารภาพบาป โคลด์บอกกับเพื่อนนักโทษว่า
"พวกคุณไม่ต้องกลัวเวลาไปสารภาพบาป พวกคุณกำลังสารภาพกับพระเป็นเจ้าจริงๆ" โคลด์พูดต่อว่า
" รู้ไหม สตรีผู้นั้นบอกว่า การสารภาพบาปนั้นเหมือนกับการพูดโทรศัพท์ เราพูดกับพระเจ้า
ผ่านทางพระสงฆ์ และพระเป็นเจ้าตรัสตอบมาผ่านทางพระสงฆ์เช่นเดียวกัน..
อีกสัปดาห์ต่อมา คุณพ่อ โอลิลรี่เตรียมสอนเรื่องศีลศักดิ์ ในชั้นเรียนซิสเตอร์ก็อยู่ในห้องเรียนด้วย
โคลด์เล่าให้ฟังว่าสตรีผู้นั้นสอนเขาเกี่ยวกับศีลมหาสนิท เขาถามว่า-เขาจะบอก เล่าเกี่ยวกับสิ่งที่
สตรีนั้นพูดได้มั้ย คุณพ่ออนุญาตทันที " สตรีผู้นั้นบอกกับผมว่าในศีลมหาสนิท เราเห็นแต่เพียง
แผ่นปังพระนางบอกว่าสิ่งนั้นแหละคือพระบุตรของพระนางอย่างแท้จริง และพระองค์จะทรงอยู่
กับผมชั่วระยะหนึ่งเช่นเดียวกับที่พระองค์ประทับอยู่ในพระครรภ์พระนางก่อนที่จะทรงมา
บังเกิดที่เบธเลเฮม และผมควรจะใช้เวลากับพระองค์เช่นเดียวกับที่พระองค์อยู่กับพระนาง
โดยรักพระองค์ นมัสการพระองค์ ขอบพระคุณพระองค์ สรรเสริญพระองค์และขอให้พระองค์
ทรงอวยพระพร เราไม่ควรสนใจสิ่งอื่นๆ แต่ควรใช้เวลาสัันๆนั้นกับพระองค์ "
เวลานั้นคุณพ่อรู้ว่าโคลด์ไม่สามารถอ่านหรือเขียนได้ วิธีเดียวก็คือต้องมีรูปภาพประกอบ
โคลด์ไม่เคยไปโรงเรียนและเขาเองไม่มีความรู้เรื่องศาสนาเลยแม้แต่น้อย เขาไม่รู้ว่า
พระเยซูเป็นใคร และไม่รู้อะไรเลย เว้นแต่รู้ว่ามีพระเป็นเจ้า...
โคลด์ ได้เริ่มเรียนคำสอน และเพื่อนๆก็พยายามช่วยเขา หลังจากนั้นสองสามวัน
มีซิสเตอร์อีกสองคนมาจากโรงเรียนของสังฆมณฑลของคุณพ่อโอลิลรี่ได้รับมอบหมาย
ให้มาที่คุกนี้ ซิสเตอร์ต้องการพบกับโคลด์และนักโทษหญิงในคุกนั้นด้วย...
หลายสัปดาห์ผ่านไป ถึงเวลาที่คุณพ่อจะสอนเรื่องศีลอภัยบาป ซิสเตอร์ทั้งสองก็นั่งอยู่
ในชั้นเรียนด้วย คุณพ่อพูดกับนักโทษว่า " วันนี้พ่อจะสอนพวกเธอเกี่ยวกับศีลอภัยบาปนะ "
โคลด์พูดขึ้นว่า " โอ! ผมรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ " สตรีท่านนั้นได้บอกกับผม"
เมื่อเราไปสารภาพบาปเรากำลังคุกเข่าอยู่มิใช่ต่อหน้าพระสงฆ์ แต่กำลังคุกเข่าต่อหน้ากางเขน
ของพระบุตรพระนาง และเมื่อเรามีความทุกข์เสียใจต่อบาปที่เราทำไปอย่างจริงใจ
และสารภาพบาปนั้น พระโลหิตที่พระองค์ทรงหลั่งจะตกมาเหนือเรา และชำระล้างทำให้เรา
พ้นจากบาปทั้งหมด "
คุณพ่อและซิสเตอร์ทั้งสองนั่งด้วยความงุนงง อ้าปากค้าง โคลด์คิดว่าพวกเขากำลังโกรธจึง
พูดว่า " โอ! อย่าโกรธผมเลยครับ กรุณาอย่าโกรธ ผมไม่ตั้งใจทำให้พวกท่านโกรธเลย " คุณพ่อพูดว่า
" เราไม่ได้โกรธเธอหรอก เราเพียงแค่ประหลาดใจ เธอได้เห็นพระนางอีกแล้วหรือ.."!
โคลด์ได้เรึยนจนครบหลักสูตร ได้รับศีลล้างบาปเข้าสู่พระศาสนจักรคาทอลิก และถึงเวลาที่เขา
จะถูกประหารชีวิตด้วยเช่นกัน เวลาประการชีวิตคือ 12.05 น.เที่ยงคืน!
นายอำเภอ ถามเขาว่า " โคลด์ คุณมีสิทธิที่จะขอร้องเป็นครั้งสุดท้าย คุณต้องการอะไร ..?
โคลด์ตอบ " พวกคุณคงจะรู้สึกสงสารหรือตื่นเต้นกับเรื่องนี้ แต่คุณไม่เข้าใจ ผมไม่ได้กำลังไป
สู่ความตาย ผมกำลังไปอยู่กับพระนาง ดังนั้น ผมขออนุญาตให้จัดงานเลี้ยงจะได้ไหม?.."
"หมายความว่าอย่างไร" งานเลี้ยงฉลองครับ คุณจะกรุณาให้คุณพ่อนำเค็กและไอศกรีมและ
ให้นักโทษอื่นๆในชั้นที่สองมารวมในห้องใหญ่เพื่อที่เราจะมีงานเลี้ยงฉลองได้ไหมครับ?.
.คุณพ่ออาจถูกทำร้ายก็ได้นะผู้คุมเตือนให้ระวัง...ไม่หรอกพวกเขาจะไม่ทำอย่างนั้น.

ในงานเลี้ยงโคลด์ขอให้จัดชั่วโมงศักดิ์สิทธิ์ เดินรูปสิบสี่ภาคและตามด้วยการเฝ้าศีล
โดยไม่มีศีลมหาสนิท เมื่องานเลี้ยงเสร็จสิ้นลง นักโทษถูกส่งกลับเข้าห้องขังของตน
คุณพ่อกลับไปยังโบสถ์เพื่อนำศีลมหาสนิทมาให้แก่โคลด์ คุณพ่อมาถึง โคลด์คุกเข่าลง
คุณพ่อก็คุกเข่าและสวดภาวนาด้วยกัน ขณะที่นาฬิกากำลังเดินไปสู่เวลาประหารชีวิต..

สิบห้านาที ก่อนถึงเวลาประหาร นายอำเภอวิ่งมาห้องขังตะโกนว่า เลื่อนเวลาประหารชีวิต
ไปอีกสองสัปดาห์....
โคลด์ไม่รู้มาก่อนว่านายอำเภอ และทนายความประจำท้องถิ่นได้พยายามที่ระงับการประหาร
เพื่อช่วยชีวิตของโคลด์
เมื่อโคลด์รู้เรื่อง เขาก็ร้องไห้ คุณพ่อและนายอำเภอคิดว่าเขาคงดีใจที่ไม่ต้องถูกประหารชีวิต
แต่โคลด์พูดว่า พวกคุณไม่รู้ ถ้าพวกคุณได้เห็นพระพักตร์และพระเนตรของพระนาง
พวกคุณจะไม่ต้องการมีชีวิตต่อไปแม้แต่วันเดียว"
คุณพ่อมีความคิดขึ้นมาแวบหนึ่ง มีนักโทษคนหนึ่งซึ่งเกลียดโคลด์มากนักโทษคนนี้
มีชีวิตที่เหลวแหลก และรอประหารชีวิตด้วยเช่นกัน

คุณพ่อพูดกับโกลด์ว่า บางทีพระมารดาต้องการให้เธอทำให้นักโทษคนนี้กลับใจ
" ทำไมเธอไม่ทำพลีกรรมสำหรับนักโทษคนนี้เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องแยกห่างจากพระเป็นเจ้า
ตลอดนิรันดรเล่า " โคลด์ เห็นด้วย
วันต่อมาโคลด์บอกกับคุณพ่อว่า "เมื่อก่อนนักโทษคนนี้เกลียดผมมาก ตอนนี้ไม่รู้ว่าเขา
จะยังคงเกลียดผมอยู่หรือเปล่า" "นั่นเป็นสัญญาณที่ดี" คุณพ่อตอบ

สองสัปดาห์ต่อมาโคลด์ถูกประหารชีวิต คำพูดสุดท้ายที่เขาพูดกับคุณพ่อ " คุณพ่อครับ
ผมจะระลึกถึงคุณพ่อเมื่อคุณพ่อต้องการสิ่งใดบอกกับผมแล้วผมจะขอต่อพระนางให้ "

สองเดือนต่อมานักโทษที่เกลียดโคลด์ ถูกประหารชีวิต ก่อนที่เขาจะถูกประหาร
นายแพทย์ได้อ้อนวอนชายคนนี้ให้คุกเข่าและสวดบทข้าแต่พระบิดาก่อนที่จะถูกนำ
ตัวไปประหารฯ นักโทษถ่มน้ำลายใส่หน้านายแพทย์...
เมื่อเขาถูกมัดกับเก้าอี้ไฟฟ้า นายอำเภอพูดกับเขาว่า " นายมีอะไรจะพูดก็ให้พูดตอนนี้"
นักโทษเริ่มพูดสบถสาบานกล่าวคำหยาบ.
ทันที ทันใดนั้นเขาก็หยุด สายตาจ้องไปที่มุมหนึ่งของห้องใบหน้าเปลี่ยนไปด้วยความกลัวสุดขีด
เขาหวีดร้องพูดกับนายอำเภอ " โปรดนำพระสงฆ์มาพบผมที"
คุณพ่อรีบไปพบนักโทษ และขอร้องให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปข้างนอก
คุณพ่อฟังนักโทษสารภาพบาป เขาเคยเป็นคาทอลิก เขาได้หันหลังให้ศาสนา
เมื่อเขาอายุ 18 ปี เพราะชีวิตทีเหลวแหลกของเขา...
เมื่อทุกคนกลับมาที่ห้อง นายอำเภอถามคุณพ่อ "อะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนใจ?.."
"ผมไม่รู้ ผมไม่ได้ถามเขา" คุณพ่อตอบ..
นายอำเภอพูด " ผมคงนอนไม่หลับถ้าไม่รู้เรื่องนี้" นายอำเภอถามเขา
" เจ้าลูกชาย อะไรทำให้เธอเปลี่ยนใจ?"..
เขาตอบ " จำชายผิวดำที่ชื่อโคลด์ ได้ไหม คนที่ผมเกลียดที่สุด เขายืนอยู่ที่นั่น (เขาชี้ไปที่มุมห้อง)
และเบื้องหลังเขามีแม่พระประทับอยู่วางมือบนไหล่ของเขา และโคลด์พูดกับผมว่า
" ฉันได้มอบความตายของฉันรวมกับพระคริสต์บนกางเขนเพื่อความรอดของคุณ
และพระนางประทานพระหรรษทานนี้แก่คุณคือให้คุณได้เห็นสถานที่ในนรก
ซึ่งคุณจะต้องไปอยู่ถ้าคุณไม่กลับใจ"
ผมได้เห็นที่ของผมในนรกและนั่นเป็นเวลาที่ผมหวีดร้องออกมา..

" นี่แหละพลังอำนาจของพระมารดา"

เราได้เห็นสาระที่คล้ายกันระหว่างกรณีของโคลด์ นิวแมน และ สาสน์แห่งฟาติมา
ในปี 1917 ซึ่งได้ยํ้าเตือนชาวเราในเรื่อง:
ศีลอภัยบาป
ศีลมหาสนิท
การพลีกรรมเพื่อ
ช่วยคนบาปกลับใจ
ภาพของนรกพระมารดาแห่งฟาติมา ตรัสว่า " วิญญาณจำนวนมากมายต้องลงนรก
เพราะไม่มีใครสวดภาวนาและทำพลีกรรมเพื่อพวกเขา "

:s005: :s005:
ตอบกลับโพส