ประวัติพระหฤทัยของพระเยซูและพระแม่มารีอา
โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 12, 2021 6:42 pm
+ ประวัติพระหฤทัยของพระเยซูและวันสมโภชพระหฤทัยของพระเยซูคริสตเจ้า
เชื่อว่าคงไม่มีชาวโรมันคาทอลิกคนไหนที่ไม่รู้จักกับคำว่า"พระหฤทัยของพระเยซูคริสตเจ้า"
(Most Sacred Heart of Jesus)อย่างแน่นอน ซึ่งพระหฤทัยของพระเยซูคริสตเจ้าเป็นการอุทิศตนด้วยความศรัทธาของศาสนจักรโรมันคาทอลิกอย่างหนึ่ง โดยอุทิศมุ่งเน้นว่าพระหฤทัยนั้นเป็นสัญลักษณ์ความรักของพระองค์ที่ทรงมีต่อมนุษย์
วันสมโภชพระหฤทัยพระเยซูคริสตเจ้าจะมีขึ้นในวันที่ 19 หลังวันเพนเตคอสต์(วันสมโภชพระจิตเจ้า) ซึ่งตรงกับวันศุกร์นั่นเอง
เรื่องพระหฤทัยนั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระวรสารในบทต่างๆและเริ่มมีเหล่าปิตาจารย์ยุคแรกๆหลายท่านกล่าวเรื่องความหมายของพระหฤทัยไว้อย่างชัดเจนดังเช่น นักบุญจัสตินมรณสักขี(St.Justin the Martyr ค.ศ.100-165)ได้กล่าวไว้ในเอกสารชื่อ"Dialogue with Trypho" ซึ่งเป็นเอกสารที่เกี่ยวกับการสนทนาระหว่างนักบุญจัสตินกับชาวยิวเพื่อแสดงให้เห็นว่าคริสตศาสนานั้นเป็นพระบัญญัติใหม่สำหรับมนุษย์ทุกคนและยืนยันจากพระวรสารว่าพระเยซูเป็นพระเมสสิอาห์ในช่วงคริสตศตวรรษที่ 1-2
ท่านกล่าวว่า"เราชาวคริสเตียนเป็นอิสราเอลที่แท้จริงซึ่งกำเนิดมาจากพระคริสต์ เพราะเราสลักพระหฤทัยของท่านออกมาเฉกเช่นก้อนหิน"
เช่นเดียวกันกับนักบุญอิเรเนอุสแห่งลียง(St.Irenaeus of Lyons ค.ศ.130-202) ซึ่งได้กล่าวไว้ว่า"ศาสนจักรเป็นธารน้ำพุแห่งน้ำของชีวิตที่ไหลมาสู่เราจากพระหฤทัยของพระเยซูคริสตเจ้า" และมีปิตาจารย์ยุคแรกคนอื่นๆอีกหลายท่านที่กล่าวซึ่งรวมไปถึงนักบุญทางคาทอลิกหลายองค์ในยุคกลาง เช่นนักบุญเบอร์นาร์ดแห่งแกลร์โว(St.Bernard of Clairvaux ค.ศ.1090-1153) นักบุญแอนเซล์มแห่งแคนเทอร์เบอรี่(St.Anselm of Canterbury ค.ศ.1033-1109)
ช่วงยุคกลางนี้เองที่การอุทิศตนต่อพระหฤทัยนั้นเริ่มมีมากขึ้น มีนักบุญอย่างน้อยสององค์ที่ไม่กล่าวถึงคงจะไม่ได้คือนักบุญเมชทิลเดแห่งแฮคเกบอร์น(Saint Mechtilde of Hackeborn ค.ศ.1241-1299)และนักบุญเกอร์ทรูเดผู้ยิ่งใหญ่(St.Gertrude the Great ค.ศ.1256-1302) ทั้งคู่เป็นนักพรตหญิงคณะเบเนดิกตินซึ่งเป็นผู้อุทิศตนด้วยความศรัทธาต่อพระหฤทัยในช่วงยุคแรกๆเลยทีเดียว โดยแสดงออกมาผ่านงานเขียนของพวกท่านทั้งสอง
จนในปีค.ศ.1353 พระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 6(Pope Innocent VI) ทรงได้ริเริ่มเพื่อเคารพพระธรรมอันล้ำลึกแห่งพระหฤทัยพระเยซูคริสตเจ้า ช่วงยุคของการปฏิรูปโปรเตสแตนต์ การอุทิศตนแด่พระหฤทัยพระเยซูคริสตเจ้าได้ปฏิบัติด้วยความหวังว่าจะเรียกคืนสันติภาพแก่โลกซึ่งแตกแยกจากการประหัตประหารกันด้วยเหตุข่มเหงทางการเมืองและศาสนา
การอุทิศตนต่อพระหฤทัยนั้นก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีกและเป็นเหตุการณ์สำคัญของการอุทิศตนต่อพระหฤทัยพระเยซูคือการประจักษ์ของพระเยซูคริสตเจ้าที่มีแก่นักบุญมาร์กาเร็ต แมรี่ มาลาก็อก
(St.Margaret Mary Alacoque ค.ศ.1647-1690)นักพรตหญิงชาวฝรั่งเศส มีเรื่องเล่าว่าพระเยซูตรัสกับท่านว่าพระองค์ได้เลือกท่านเป็นผู้เผยแพร่การอุทิศตนต่อพระหฤทัยของพระเยซูความว่า
"พระหฤทัยของเรานั้นลุกเป็นไฟด้วยความรัก...ที่ไม่สามารถเก็บไว้ได้ภายในตัวมันอีกต่อไป พระหฤทัยแห่งจิตกุศลอันร้อนแรง ต้องปล่อยมันให้เผยแพร่ออกไปในต่างแดนด้วยวิธีของลูก และแสดงให้เห็นด้วยตัวมันเองให้มนุษย์ได้เห็น ว่าพวกเขาจะเต็มไปด้วยสมบัติอันล้ำค่าที่เราได้เผยแก่ลูกและที่มีความศักดิ์สิทธิ์และพระหรรษทานอันเป็นประโยชน์ซึ่งจำเป็นนำพวกเขากลับมาจากก้นบึ้งแห่งความพินาศ"
พระองค์ยังได้ตรัสแก่เธอเรื่องของการกำหนดให้รับศีลมหาสนิททุกวันศุกร์ต้นเดือนและสวดทำวัตรศักดิ์สิทธิ์(จะรู้จักกันในนาม "the Nine Fridays and the Holy Hour" )และให้มีการตั้งวันสมโภชพระหฤทัยของพระเยซูคริสตเจ้า เป้นการทำให้การอุทิศตนต่อพระหฤทัยของพระเยซูนั้นยิ่งทวีมากขึ้น
แม้จะเริ่มมีการอุทิศตนต่อพระหฤทัยมาเรื่อยๆ แต่การฉลองพระหฤทัยนั้นมักเป็นรูปแบบอยู่ในที่ส่วนตัว วันสมโภชพระหฤทัยพระเยซูคริสตเจ้าจริงๆเริ่มเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ.1670 วันที่มีการเฉลิมฉลองวันสมโภชพระหฤทัยพระเยซูคริสตเจ้าเป็นครั้งแรกที่เมืองแรน(Rennes) ประเทศฝรั่งเศสโดยคุณพ่อจอห์น ยูเดส
(John Eudes)ซึ่งได้รับอนุญาตจากพระสังฆราชแล้ว เป็นการฉลองพระหฤทัยในรูปแบบที่เป็นสาธารณะครั้งแรก
ปีค.ศ.1765 พระสันตะปาปา Clement ที่ 13 จึงอนุญาตให้พระสังฆราชชาวโปแลนด์และ คณะพระหฤทัยแห่งโรมันทำการฉลองพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าในปี ค.ศ. 1856 ตามคำร้องขอของเหล่าพระสังฆราชฝรั่งเศส พระสันตะปาปาปิอุสที่ 9(Pope Pius IX) ได้ประกาศให้ทำการฉลองนี้ในพระศาสนจักรสากล ในปี ค.ศ. 1899 พระสันตะปาปาลีโอที่ 13(Pope Leo XIII) ได้ยกระดับการฉลองนี้ให้สูงขึ้น ในปี ค.ศ. 1927 พระสันตะปาปาปีโอที่ 11 ได้ปรับปรุงพิธีกรรมของวันฉลองนี้ และยกระดับการฉลองนี้ให้อยู่ในระดับเดียวกับการสมโภชพระคริสตสมภพ แต่ไม่ได้ทรงกำหนดให้วันสมโภชพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าเป็นวันฉลองบังคับ ในโอกาสครบรอบ 100 ปี (ค.ศ. 1956) ของการสมโภชพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าอย่างเป็นทางการในพระศาสนจักรสากล พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ได้ออกสมณสาสน์ Haurietis aquas ในโอกาสนี้ด้วย
ขอให้ชาวคริสตศาสนิกชนศาสนจักรโรมันคาทอลิกระลึกถึงความรักของพระเยซูคริสต์ที่มีต่อมนุษย์ทุกคนนะครับ
/AdminMichael
ข้อมูลอ้างอิง:http://www.catholiceducation.org/en/cul ... otion.html
http://catholicism.about.com/od/holyday ... _Heart.htm
http://www.shb.or.th/article/lokkhamson ... jesus.html
https://www.catholic.org/saints/saint.php?saint_id=443
http://www.newadvent.org/cathen/07163a.htm
ภาพ:ภาพพระหฤทัยของพระเยซูคริสตเจ้าที่มีชื่อเสียงที่สุด วาดโดยปอมปีโอ บาโตนี่
CR. : ประวัติศาสตร์คริสตศาสนา - ทั้งตะวันตกและตะวันออก
เชื่อว่าคงไม่มีชาวโรมันคาทอลิกคนไหนที่ไม่รู้จักกับคำว่า"พระหฤทัยของพระเยซูคริสตเจ้า"
(Most Sacred Heart of Jesus)อย่างแน่นอน ซึ่งพระหฤทัยของพระเยซูคริสตเจ้าเป็นการอุทิศตนด้วยความศรัทธาของศาสนจักรโรมันคาทอลิกอย่างหนึ่ง โดยอุทิศมุ่งเน้นว่าพระหฤทัยนั้นเป็นสัญลักษณ์ความรักของพระองค์ที่ทรงมีต่อมนุษย์
วันสมโภชพระหฤทัยพระเยซูคริสตเจ้าจะมีขึ้นในวันที่ 19 หลังวันเพนเตคอสต์(วันสมโภชพระจิตเจ้า) ซึ่งตรงกับวันศุกร์นั่นเอง
เรื่องพระหฤทัยนั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระวรสารในบทต่างๆและเริ่มมีเหล่าปิตาจารย์ยุคแรกๆหลายท่านกล่าวเรื่องความหมายของพระหฤทัยไว้อย่างชัดเจนดังเช่น นักบุญจัสตินมรณสักขี(St.Justin the Martyr ค.ศ.100-165)ได้กล่าวไว้ในเอกสารชื่อ"Dialogue with Trypho" ซึ่งเป็นเอกสารที่เกี่ยวกับการสนทนาระหว่างนักบุญจัสตินกับชาวยิวเพื่อแสดงให้เห็นว่าคริสตศาสนานั้นเป็นพระบัญญัติใหม่สำหรับมนุษย์ทุกคนและยืนยันจากพระวรสารว่าพระเยซูเป็นพระเมสสิอาห์ในช่วงคริสตศตวรรษที่ 1-2
ท่านกล่าวว่า"เราชาวคริสเตียนเป็นอิสราเอลที่แท้จริงซึ่งกำเนิดมาจากพระคริสต์ เพราะเราสลักพระหฤทัยของท่านออกมาเฉกเช่นก้อนหิน"
เช่นเดียวกันกับนักบุญอิเรเนอุสแห่งลียง(St.Irenaeus of Lyons ค.ศ.130-202) ซึ่งได้กล่าวไว้ว่า"ศาสนจักรเป็นธารน้ำพุแห่งน้ำของชีวิตที่ไหลมาสู่เราจากพระหฤทัยของพระเยซูคริสตเจ้า" และมีปิตาจารย์ยุคแรกคนอื่นๆอีกหลายท่านที่กล่าวซึ่งรวมไปถึงนักบุญทางคาทอลิกหลายองค์ในยุคกลาง เช่นนักบุญเบอร์นาร์ดแห่งแกลร์โว(St.Bernard of Clairvaux ค.ศ.1090-1153) นักบุญแอนเซล์มแห่งแคนเทอร์เบอรี่(St.Anselm of Canterbury ค.ศ.1033-1109)
ช่วงยุคกลางนี้เองที่การอุทิศตนต่อพระหฤทัยนั้นเริ่มมีมากขึ้น มีนักบุญอย่างน้อยสององค์ที่ไม่กล่าวถึงคงจะไม่ได้คือนักบุญเมชทิลเดแห่งแฮคเกบอร์น(Saint Mechtilde of Hackeborn ค.ศ.1241-1299)และนักบุญเกอร์ทรูเดผู้ยิ่งใหญ่(St.Gertrude the Great ค.ศ.1256-1302) ทั้งคู่เป็นนักพรตหญิงคณะเบเนดิกตินซึ่งเป็นผู้อุทิศตนด้วยความศรัทธาต่อพระหฤทัยในช่วงยุคแรกๆเลยทีเดียว โดยแสดงออกมาผ่านงานเขียนของพวกท่านทั้งสอง
จนในปีค.ศ.1353 พระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 6(Pope Innocent VI) ทรงได้ริเริ่มเพื่อเคารพพระธรรมอันล้ำลึกแห่งพระหฤทัยพระเยซูคริสตเจ้า ช่วงยุคของการปฏิรูปโปรเตสแตนต์ การอุทิศตนแด่พระหฤทัยพระเยซูคริสตเจ้าได้ปฏิบัติด้วยความหวังว่าจะเรียกคืนสันติภาพแก่โลกซึ่งแตกแยกจากการประหัตประหารกันด้วยเหตุข่มเหงทางการเมืองและศาสนา
การอุทิศตนต่อพระหฤทัยนั้นก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีกและเป็นเหตุการณ์สำคัญของการอุทิศตนต่อพระหฤทัยพระเยซูคือการประจักษ์ของพระเยซูคริสตเจ้าที่มีแก่นักบุญมาร์กาเร็ต แมรี่ มาลาก็อก
(St.Margaret Mary Alacoque ค.ศ.1647-1690)นักพรตหญิงชาวฝรั่งเศส มีเรื่องเล่าว่าพระเยซูตรัสกับท่านว่าพระองค์ได้เลือกท่านเป็นผู้เผยแพร่การอุทิศตนต่อพระหฤทัยของพระเยซูความว่า
"พระหฤทัยของเรานั้นลุกเป็นไฟด้วยความรัก...ที่ไม่สามารถเก็บไว้ได้ภายในตัวมันอีกต่อไป พระหฤทัยแห่งจิตกุศลอันร้อนแรง ต้องปล่อยมันให้เผยแพร่ออกไปในต่างแดนด้วยวิธีของลูก และแสดงให้เห็นด้วยตัวมันเองให้มนุษย์ได้เห็น ว่าพวกเขาจะเต็มไปด้วยสมบัติอันล้ำค่าที่เราได้เผยแก่ลูกและที่มีความศักดิ์สิทธิ์และพระหรรษทานอันเป็นประโยชน์ซึ่งจำเป็นนำพวกเขากลับมาจากก้นบึ้งแห่งความพินาศ"
พระองค์ยังได้ตรัสแก่เธอเรื่องของการกำหนดให้รับศีลมหาสนิททุกวันศุกร์ต้นเดือนและสวดทำวัตรศักดิ์สิทธิ์(จะรู้จักกันในนาม "the Nine Fridays and the Holy Hour" )และให้มีการตั้งวันสมโภชพระหฤทัยของพระเยซูคริสตเจ้า เป้นการทำให้การอุทิศตนต่อพระหฤทัยของพระเยซูนั้นยิ่งทวีมากขึ้น
แม้จะเริ่มมีการอุทิศตนต่อพระหฤทัยมาเรื่อยๆ แต่การฉลองพระหฤทัยนั้นมักเป็นรูปแบบอยู่ในที่ส่วนตัว วันสมโภชพระหฤทัยพระเยซูคริสตเจ้าจริงๆเริ่มเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ.1670 วันที่มีการเฉลิมฉลองวันสมโภชพระหฤทัยพระเยซูคริสตเจ้าเป็นครั้งแรกที่เมืองแรน(Rennes) ประเทศฝรั่งเศสโดยคุณพ่อจอห์น ยูเดส
(John Eudes)ซึ่งได้รับอนุญาตจากพระสังฆราชแล้ว เป็นการฉลองพระหฤทัยในรูปแบบที่เป็นสาธารณะครั้งแรก
ปีค.ศ.1765 พระสันตะปาปา Clement ที่ 13 จึงอนุญาตให้พระสังฆราชชาวโปแลนด์และ คณะพระหฤทัยแห่งโรมันทำการฉลองพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าในปี ค.ศ. 1856 ตามคำร้องขอของเหล่าพระสังฆราชฝรั่งเศส พระสันตะปาปาปิอุสที่ 9(Pope Pius IX) ได้ประกาศให้ทำการฉลองนี้ในพระศาสนจักรสากล ในปี ค.ศ. 1899 พระสันตะปาปาลีโอที่ 13(Pope Leo XIII) ได้ยกระดับการฉลองนี้ให้สูงขึ้น ในปี ค.ศ. 1927 พระสันตะปาปาปีโอที่ 11 ได้ปรับปรุงพิธีกรรมของวันฉลองนี้ และยกระดับการฉลองนี้ให้อยู่ในระดับเดียวกับการสมโภชพระคริสตสมภพ แต่ไม่ได้ทรงกำหนดให้วันสมโภชพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าเป็นวันฉลองบังคับ ในโอกาสครบรอบ 100 ปี (ค.ศ. 1956) ของการสมโภชพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าอย่างเป็นทางการในพระศาสนจักรสากล พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ได้ออกสมณสาสน์ Haurietis aquas ในโอกาสนี้ด้วย
ขอให้ชาวคริสตศาสนิกชนศาสนจักรโรมันคาทอลิกระลึกถึงความรักของพระเยซูคริสต์ที่มีต่อมนุษย์ทุกคนนะครับ
/AdminMichael
ข้อมูลอ้างอิง:http://www.catholiceducation.org/en/cul ... otion.html
http://catholicism.about.com/od/holyday ... _Heart.htm
http://www.shb.or.th/article/lokkhamson ... jesus.html
https://www.catholic.org/saints/saint.php?saint_id=443
http://www.newadvent.org/cathen/07163a.htm
ภาพ:ภาพพระหฤทัยของพระเยซูคริสตเจ้าที่มีชื่อเสียงที่สุด วาดโดยปอมปีโอ บาโตนี่
CR. : ประวัติศาสตร์คริสตศาสนา - ทั้งตะวันตกและตะวันออก